เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วที่ผมเริ่มหัดถ่ายรูป จะมีหลายสถานที่หลายประเพณีที่กลุ่มเพื่อนที่รักการถ่ายรูปจะนัดแนะกันไป ตั้งแต่วัดพระแก้ว อยุธยา จังหวัดใกล้เคียงต่างๆ รวมถึงประเพณีสำคัญ ประเพณีที่เป็นหน้าตาของประเทศไทยและหาที่อื่นในโลกไม่มี
ตะลอนทัวร์ถ่ายรูป ภูเขา น้ำตก ทะเล เขื่อน ป่า วัด มีหลายสิ่งที่ผมพลาดไม่ได้ไปถ่ายหลายอย่าง หนังใหญ่วัดขนอนเป็นอย่างหนึ่งที่ผมยังไม่เคยไปถ่ายภาพเลย จนวันนี้มีโอกาสพาลูกไปเที่ยว ผมเลือกไปราชบุรี และพาลูกไปวัดขนอน ไปดูหนังใหญ่วัดขนอน ซึ่งภาพถ่ายของสถานที่แห่งนี้จะเป็นภาพแนวศิลปวัฒนธรรม ถ้ามีจัดประกวดถ่ายภาพแนวท่องเที่ยวจะมีภาพจากวัดขนอนแน่นอนในทุกเวที
หนังใหญ่หมายถึงการเอาหนังสัตว์มาตัด เจาะ ฉลุให้เป็นรูปร่างสองมิติ แล้วติดแท่งไม้เอาไว้ยกแสดง หนังสือท่องเที่ยวราชบุรีจะมีการแสดงหนังใหญ่วัดขนอนเป็นสิ่งที่ต้องแวะดู ในความทรงจำของผมการแสดงหนังใหญ่ในวัดนี้ จะเป็นการแสดงหน้าฉากขาว และมีกองไฟส่องสว่างจากด้านหลัง เพื่อทำให้ฉากสว่างช่วยขับให้แผ่นหนังใหญ่ดูสวยงามชัดเจน
ในหนังสือที่เคยอ่านอธิบายไว้ว่า แสงสว่างในอดีตใช้ฟืนจัดไฟจริงๆ โดยฟืนที่ใช้จะเป็นกะลามะพร้าวซึ่งจะเป็นวัตถุดิบที่นำมาเผาแล้วให้แสงที่สวยนวลตามากกว่าฟืนทั่วไป ผมเกิดไม่ทันและไม่ได้สืบว่าแสงไฟแบบนั้นเป็นอย่างไร นวลตากว่าจริงใหม่ และให้แสงสีอะไรก็ไม่อาจทราบได้
แต่วันที่ผมพาลูกมาเที่ยวในตอลกลางวัน การแสดงช่วงสิบโมงเช้าก็แสดงหน้าฉากขาวเช่นกัน แต่แสงสว่างหลังฉากขาวเป็นสป็อตไลท์สองดวงใหญ่ๆ วางตรงๆอยู่หลังฉาก วางอยู่ใกล้ฉาก ทำให้เราเห็นจุดสว่างอยู่บนฉากด้านคนดู ผมคิดว่ามันไม่สวยเลย ถ้าเป็นไปได้อยากให้หาวิธีวางแสงสว่างหลังฉากที่จะทำให้ฉากทั้งผืนสว่างขึ้นมาเท่ากันตลอดทั้งพื้นที่ ไม่อยากให้เห็นเป็นจุดสว่างเพียง 2 จุดตามการวางสป็อตไลท์ใกล้ๆฉาก
ส่วนตัวแผ่นหนังจำนวนมากที่วางโชว์อยู่ในอาการพิพิธภัณฑ์ก็จัดวางและจัดแสงไฟส่องด้านหลังได้ดี มีระบบปรับอากาศให้เย็น คนเดินดูก็สามารถดูได้สบายอารมณ์ไม่ร้อนหงุดหงิด รายละเอียดในแผ่นหนังมีการเจาะรู ตัด ฉลุ อย่างละเอียด เห็นถึงความตั้งใจของคนทำจริงๆ
โลกเราเปลี่ยนไปมาก และผมก็ไม่ได้ชอบรามเกียรติ์ ถ้าปรับแผ่นหนังให้เป็นตัวละครหรือนิยายเรื่องอื่นๆ เป็นรูปร่างอื่นๆที่มีเรื่องเล่าสนุกสนานทันสมัย ผมคิดว่าผมอาจจะอยากนั่งดูจนจบเรื่อง แต่การเล่นแค่รามเกียรติ์ผมไม่รู้สึกสนใจเลย ถ้าเปลี่ยนเรื่องและการแสดงให้หลากหลาย เปลี่ยนให้เหมือนโปรแกรมฉายหนัง จะสารคดี หรือนิทาน นิยายก็ไม่เกี่ยง น่าจะทำให้มันกลายเป็นเวทีเล่าเรื่องที่น่าสนใจมาก



























