ทริปปลายปีต่อเนื่องถึงข้ามปี จากพศ 2562 ไปสู่ 2563 เป็นทริปที่เลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อลงใต้ไปไกลสุดถึงระนอง จุดหมายปลายทางคือเกาะในทะเลพม่า ซึ่งเราจะต้องไปขึ้นเรือที่ระนอง แต่ด้วยระยะทางที่ไกลมาก เลยวางแผนการเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไปและเลือกพักไปหลายๆจุด แวะเที่ยวไปตามเส้นทางที่ไม่เคยรู้จัก
จากกรุงเทพ เราลากเส้นไปที่ชุมพรเลย เพื่อให้อยู่ห่างจากระนองไม่มากในวันถัดไป ชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 500กิโลเมตร การเดินทางก็ออกแต่เช้า แล้วแวะพักแวะกินตามทาง ไปถึงชุมพรในรอบบ่ายๆ เข้าพักที่โรงแรมโนโวเทลที่อยู่ริมทะเลย โนโวเทลแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง สถานที่สวย ดูแลต้นไม้ได้ดีมาก สิ่งที่ทำให้เริ่มน่าสนใจก็คือที่นี่นกเยอะมาก และในช่วงเวลาที่เที่ยวนี้ขอบฟ้าก็กำลังสนใจเรื่องนก เรื่องอินทรีย์ และเหยี่ยวชนิดต่างๆ นกในชุมพรเยอะอย่างน่าแปลกใจ
ร้านอาหารที่เป็นร้านแนะนำจากอินเทอเน็ตบอกว่า ให้กินฝั่งตรงข้ามโรงแรม ซึ่งมี 2ร้านให้เลือก เราเลิอกกินร้านแรกที่ดูคนน้อยหน่อย และอาหารก็พอใช้ได้ วิวทะเลก็สวยดี รูปแบบร้านเป็นแนวเรียบง่าย โบราณ ไม่ได้มีการตกแต่งสถานที่ใดๆให้ดูสวยงามเลย
ปีนี้ขอบฟ้าโตขึ้นมาก พูดจารู้เรื่อง และเป็นเด็กที่เริ่มสนุกกับทุกสิ่งในการท่องเที่ยว รู้จักอดทน รู้จักรอ และสามารถยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น รวมถึงสามารถช่วยพ่อแม่ถ่ายรูปได้แล้ว พ่อกับแม่มีรูปคู่กันเพราะลูกช่วยถ่ายให้ทำให้ทริปนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่สนุกและมีภาพของทุกคน เช้าวันรุ่งขึ้นเราแวะไปจุดชมวิวบนภูเขาใกล้ๆโรงแรม เป็นวิวที่สามารถดูทะเลและแม่น้ำได้พร้อมๆกัน
บนจุดชมวิวนี้จะได้พบกับนกนางแอ่นจำนวนมาก บินผ่านไปผ่านมาให้ดูอยู่บ่อยๆ นกบินจนขอบฟ้าต้องมองและสนใจเรื่องนกขึ้นมาทันที และทริปนี้ก็เป็นทริปที่ทำให้เราได้รู้ว่า ชุมพรมีนกอินทรีย์ด้วย ซึ่งพวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอินทรีย์หรือเหยี่ยว แต่ความสงสัยเหล่านี้จะได้รับการคลีคลายในช่วงสองสัปดาห์ถัดไป
ร้านกาแฟแสนสวยบนจุดชมวิวก็มีมุมสวยไม่แพ้กัน แต่พวกเราไปกันเช้ามาก ร้านยังไม่เปิด เลยไม่ได้อุดหนุนกาแฟเลย แต่ก็เก็บภาพวิวสวยๆของร้านกาแฟแห่งนี้กลับมาด้วย แต่ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ถ้าให้นั่งกินกาแฟที่นี่จริงๆ พวกเราก็อาจจะเลือกนั่งในห้องแอร์แทนที่จะเป็นมุมโต๊ะเก้าอี้ภายนอกที่สวยน่ามอง
กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์เด่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะชุมพรและระนองต่างก็มีกาแฟเป็นจุดขาย การไม่ได้แวะกินกาแฟสักร้านเลยก็ดูจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย และเราก็ไม่ได้แวะจริงๆเพราะด้วยเวลาเช้าแบบนี้ และด้วยโปรแกรมที่อยากจะไปในหลายๆที่ ทำให้เวลาที่จะแวะกินกาแฟไม่ค่อยมีนั่นเอง มุมกาแฟจากจุดชมวิวแบบนี้คงจะยอดเยี่ยมมากถ้าอากาศเย็นและมีขนมอร่อยคู่กับกาแฟ ก็ได้แต่จินตนาการกันไป
ที่โรงแรมโนโวเทลชะอำ เราได้ทดลองเล่นกล้องถ่ายภาพใต้น้ำที่หยิบยืมจากเพื่อนมาใช้ มันเป็นกล้อง action camera ราคาไม่แพงยี่ห้อง SJCAM รุ่น SJ4000 ที่เป็นกล้องหน้าตาเหมือนกล้อง gopro และมันมีเคสกันน้ำให้ด้วย ทริปนี้เราได้ลองลงไปถ่ายรูปใต้น้ำ และได้ภาพน่าตื่นเต้นกลับมา ภาพใต้น้ำเป็นสิ่งที่เข้าถึงยากมากในอดีต ส่วนมากกล้องที่ใช้จะต้องมีเคสกันน้ำถึงจะลงไปถ่ายใต้น้ำได้ และตั้งแต่อดีต เคสกันน้ำจะมีราคาแพงจะไม่อยากซื้อ แต่ในยุคปัจจุบัน ปีพศ2562 เราก็มีกล้องดิจิทัลราคาถูกมากให้ใช้ และเคสกันน้ำที่เคยราคาแพงมาก เมื่อมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับกล้องราคาถูก มันก็กลายเป็นของถูก และเราก็มีโอกาสได้ลองเล่น
มาถึงชุมพรก็ต้องแวะไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่หาดทรายรี ซึ่งหาดนี้อยู่ห่างจากโนโวเทลแค่ไม่กี่นาที เราได้ไปดูเรือรบโบราณที่จอดไว้ให้นักท่องเที่ยวดู มีผู้คนจำนวนมากแวะมาไหว้ศาลกรมหลวงแห่งนี้ มีประเพณีการจุดประทัดเสียงดัง และที่นี่เราได้พบนกเหยี่ยวหรืออินทรีย์ก็ไม่แน่ใจเพราะเราดูนกไม่เป็น แยกแยะไม่ออกระหว่างนกอินทรีย์และเหยี่ยว รู้แต่ว่ามันบินอยู่บนยอดเขาของศาลกรมหลวงฯ กางปีกเล่นลม ลอยไปลอยมาดูเท่ห์มากๆ
นกเหยี่ยวและอินทรีย์ในทริปนี้คือจุดเริ่มต้นความสนใจของนกล่าเหยี่อที่ขอบฟ้าชอบ ปกติขอบฟ้าจะชอบสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะที่สุดยอดสักด้านหนึ่ง อย่างในวัยเด็กขอบฟ้าก็ชอบปลาวาฬสีน้ำเงิน อาจเพราะเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบไดโนเสาร์ก็ชอบตัวที่คอยาวที่สุดและตัวใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบรถก็ชอบรถเฟอรารี่รุ่นพิเศษที่วิ่งเร็วมากและแพงมาก และในทริปนี้ขอบฟ้าเริ่มให้ความสนใจนกล่าเหยื่อ ก็คืออินทรีย์และเหยี่ยว
วันนี้เราเก็บของออกจากชุมพรเดินทางต่อไปจังหวัดระนองเพื่อจะไปเที่ยวเกาะในพม่า เราจะพักที่โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งเป็นโรงแรมหน้าตาน่ารัก ออกแบบสวย และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ
โรงแรมนี้มีชุดของว่างรับแขกเข้าพักเป็นไข่ลวก ถือเป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเคยเจอ บางทีเพราะที่นี่ชื่อฟาร์มเฮ้าส์ก็เลยหาผลิตภัณฑ์จากฟาร์มมารับรองแขกก ไข่ลวกก็เลยได้เป็นอาหารว่างมื้อแรกในระนองครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางมาเที่ยวระนองอย่างเป็นทางการของพวกเรา
โรงแรมที่พักชื่อฟาร์มเฮ้าส์ ร้านกาแฟหน้าโรงแรมชื่อ ก.ไก่ ขายกาแฟและของที่ระลึกหลายอย่าง ของฝากที่ต้องซื้อก็มีครบทุกอย่าง แต่หน้าตาไม่โอท๊อปเลยนะ หน้าตาแพ็คเกจและการออกแบบฉลากก็มาแนวคนเมืองออกแบบสวย และราคาทำให้นึกถึงกรุงเทพ
ผมชอบกินกาแฟ และชอบเรื่องเล่าที่อยู่ในตัวสินค้า แต่ไม่ชอบราคาเลย แต่ก็เข้าใจว่าเขาเลือกวางตัว ออกแบบภาพลักษณ์ตัวสินค้าเอาไว้ให้เป็นของฝากราคาแพง ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ กาแฟที่คั่วด้วยมือพร้อมเรื่องเล่าผ่านลมปากเป็นของฝากที่เราคิดว่าควรซื้อกลับไป ซื้อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงระนองแล้ว ส่วนรสชาดเดี๋ยวต้องไปลุ้นกันอีกที
เช้าวันใหม่เราเตรียมพร้อมเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแต่เช้าเลย เรากินมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วรอรถตู้มารับไปยังท่าเรือ ท่าเรือที่จะพาเราไปเที่ยวเกาะในพม่า และการเข้าไปเที่ยวพม่าก็ต้องใช้หนังสือเดินทาง และต้องมีการตรวจคนเข้าเมืองเหมือนนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ แต่คราวนี้เราไปพม่า
เรือจากระนองพาเราเข้าเขตพม่าแล้วไปลอยน้ำเล่นที่เกาะกลางทะเล ทะเลพม่าได้รับการบอกเล่าถึงความสวยงามและความสมบูรณ์สุดๆ ขอบฟ้าชอบดำน้ำดูปลาและปะการัง และทริประนองก็ออกแบบมาเพื่อพาขอบฟ้าไปดูปลาใต้น้ำในเขตพม่านั่นเอง จำนวนคนบนเรือไม่ได้นับ ครึ่งหนึ่งเป็นต่างชาติ และครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย ทริปนี้เป็นทริปที่มีคนไทยเยอะขึ้น ซึ่งต่างจากทริปที่เราไปดำน้ำที่กระบี่ ทริปกระบี่เป็นทริปที่มีคนไทยแค่ 5% เท่านั้น
กล้องใต้น้ำได้ทำงานจริงแล้ว ภาพนิ่งและภาพวิดีโอต่างๆทะยอยถูกถ่ายออกมาเรื่อยๆ ความทรงจำใต้น้ำเป็นภาพน่ามองเพราะเป็นภาพที่เราไม่เคยเห็น เราได้แวะเกาะต่างๆสองเกาะรอบเช้า แต่ละที่มีปะการังและสัตว์น้ำค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่มากเท่าที่กระบี่ แต่ก็ถือว่ามีพื้นที่ให้ดำน้ำดูค่อนข้างมาก มีหลายเกาะให้แวะ และเราได้พักกลางวันกินข้าวบนเกาะแห่งหนึ่ง มีอาหารไทยให้กิน แล้วให้เล่นน้ำที่หาดทราย
เกาะแห่งนี้มีจุดชมวิวที่ยอดเขา สามารถมองลงมาเห็นวิวทะเลจากมุมสูง ภาพที่มองลงมาสวยมากและถ่ายรูปออกมาก็ดูดีเหลือเชื่อ
ภาพจากมุมสูงที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปจนเหนื่อย ปกติมุมภาพแบบนี้ใช้โดรนบินขึ้นไปถ่ายได้เลย แต่เมื่อไม่มีโดรนก็ต้องใช้เท้าออกแรงเดินขึ้นไปแทน อากาศที่เกาะค่อนข้างร้อน แสงแดดแสบตา ภาพที่ถ่ายออกมาดูเหมือนไม่มีแดดแต่จริงๆเป็นการใช้เทคนิคการถ่ายภาพและอุปกรณ์ช่วยเหลือ
ทริปนี้เป็นทริปทะเลที่ตัดสินใจใช้กล้อง eos m เป็นกล้องหลักในวิวทะเล เพราะผมมีฟิลเตอร์โพลาไรซ์ที่ใช้กับเลนส์ kit efm18-55is ของกล้อง eos m ซึ่งการใช้ฟิลเตอร์ตัวนี้เราสามารถหมุนฟิลเตอร์ให้มีมุมโพลาไรซ์ที่เราต้องการ ผมเองเลือกหมุนฟิลเตอร์ ให้ตัดแสงสะท้อนที่ผิวน้ำออกให้หมด ผลก็คือภาพน้ำดูมีความเข้มจนรู้สึกอยากเล่นน้ำเลย กล้องกับเลนส์ที่ใช้เมื่อดูราคาขายมือสองจะพบว่ามันเป็นของถูกมาก เชื่อว่าในพศ.2563 นี้เราคงหาซื้อได้ในราคาประมาณ 5-6พันบาทเท่านั้น ชุดคู่ขวัญนี้ให้คุณภาพพอใช้ได้ ถ้าสถานที่อำนวย สภาพแสงเพียงพอ เราก็ได้ภาพสวยๆจากกล้องราคาประหยัดได้ไม่ยาก ลองกลับไปอ่านรีวิวกล้องกล้อง eos m ได้ที่นี่
เราไปพักอาบน้ำล้างตัวและกินมื้อเย็นที่โรงแรมในพม่า สิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจนก็คือมีนกอินทรีย์เยอะมาก บินร่อนไปร่อนมาให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ ที่โรงแรมในพม่าก็บินวนโชว์ตัวอยู่แทบตลอดเวลา มีนกเงือกเกาะอยู่บนต้นไม้ที่โรงแรม รู้สึกได้เลยว่าพม่าอุดมสมบูรณ์มาก ทรัพยากรธรรมชาติมีเหลือเฟือ อดคิดไม่ได้ว่า ในช่วงเวลาสักสามสิบปีที่แล้วสมัยที่การท่องเที่ยวยังไม่บูม สมัยที่คนยังไม่ค่อยรู้ข้อมูล สัตว์ป่าจะเยอะขนาดไหน สัตว์ใต้น้ำ ปะการังจะอลังการขนาดไหน ขอจบทริปในพม่าด้วยคลิปวิดีโอชิ้นนี้ และเราเดินทางข้ามแดนกลับประเทศไทย กลับเข้าระนองในตอนสองทุ่ม จบวันแบบหมดแรง
เช้าวันถัดมาเราเริ่มเที่ยวในระนอง ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ไม่รู้ว่าระนองมีอะไรบ้าง แต่พอเริ่มหาข้อมูลท่องเที่ยวก็พบหลายๆจุดที่น่าสนใจ เราไปเดินเล่นที่ภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นวิวเนินเขาไม่สูงนักและในช่วงเวลาหน้าฝนหญ้าจะเขียวมากจนทำให้กลายเป็นจุดแวะถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว แต่ช่วงที่เราไปก็เป็นช่วงน้ำน้อย หญ้าแห้งไปแล้ว
บนท้องฟ้าเหนือภูเขาหญ้าที่เราเดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆก็มีนกล่าเหยื่อ ผมขอเรียกว่าอินทรีย์ละกันเพราะดูไม่ออก แยกไม่เป็นว่าเหยี่ยวกับอินทรีย์แตกต่างกันอย่างไร ตอนนี้ลูกเริ่มสนใจนกเหล่านี้ และหลายๆครั้งก็แยกแยะนกกับอินทรีย์ด้วยลักษณะของปีก ซึ่งพอจะช่วยแยกได้บ้างแม้จะไม่ถูกต้องทั้งหมด
ออกจากภูเขาหญ้า ขับรถไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึงบริเวณบ่อน้ำร้อนพรรั้ง เป็นจุดแวะสำหรับนักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน ที่นี่มีน้ำร้อนหลายบ่อ อุณหภูมิแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ร้อนๆอุ่นๆ แช่ขาให้รู้สึกสบายได้ บางบ่อก็น้ำไม่ร้อนมาก มีปลาว่ายน้ำเล่นด้วย
เราแวะกินอาหารร้านดังที่มีรีวิวให้อ่าน ก่อนจะเข้าที่พักของวันนี้ ที่ร้านอาหารตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำร้อนอีกแห่ง ซึ่งบ่อนี้ร้อนจนเห็นเป็นไอน้ำเลย
มีคนพาหมามาเดินเล่นแถวบ่อน้ำร้อน สิ่งที่สะดุดตาก็คือหมามีตาสองสีที่ไม่เหมือนกัน เห็นแล้วก็ต้องขออนุญาตเจ้าของถ่ายภาพเก็บไว้สักหน่อย เจ้าของหมาอธิบายให้ฟังว่าตาสองสีเป็นลักษณะผิดปกติของหมาซึ่งมีอยู่ไม่มาก และราคาค่าตัวก็คงแพงมาก (คิดเอง)
หลังจากได้เข้าพักในวันนี้ที่ บ้านนายหมง เป็นรีสอร์ตที่สร้างห้องพักท่ามกลางต้นไม้ เราก็เดินเล่น ถ่ายภาพเล่นในรีสอร์ต ทริปนี้ขอบฟ้าก็ช่วยถ่ายภาพพ่อกับแม่ได้หลายภาพเลย
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกโดยพนักงานรีสอร์ตช่วยถ่ายภาพครอบครัวให้ แล้วเราก็ขับรถกลับ ออกจากระนองขับมาถึงประจวบฯ แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่หว้ากอ ที่หว้ากอมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในแง่ของวิทยาศาสตร์ เป็นตำบลที่ รัชกาลที่ 4 เสด็จทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง โดยท่านคำนวณและประกาศล่วงหน้าว่าจะสามารถดูได้วันไหนเวลาใด และก็มีการเชิญชาวต่างชาติมาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวโลกรับรู้ว่าประเทศไทยมีนักวิทยาศาสตร์เช่นกัน เป็นการแสดงความมีอารยธรรมให้โลกรู้ เพื่อให้ต่างชาติเกรงใจประเทศไทย ให้เกียรติประเทศไทย และเป็นการวางรากฐานคำว่าวิทยาศาสตร์ให้กับประเทศไปพร้อมกัน และรัชกาลที่4 ก็เป็นบิดาแห่งวงการวิทยาศาสตร์ไทย
ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็แวะกินอาหารที่ร้านครัวชมวาฬ ร้านนี้ผมตั้งใจแวะ เพราะว่าในอดีตช่วงที่เว็บบอร์ดพันทิปห้องบลูแพลเน็ตยุคเริ่มต้น มีคนมาสุมหัวคุยเรื่องท่องเที่ยวและถ่ายภาพ มีสมาชิกเว็บบอร์ดยุคบุกเบิกได้รู้จักกับพี่ชายคนหนึ่ง และเขาก็เปิดร้านอาหารแห่งนี้ ในสมัยนั้นผมก็เคยมีโอกาสได้มากิน ได้มากางเต๊นท์นอนที่สถานที่แห่งนี้ แล้วต่อมา พี่ชายท่านนี้ก็เสียชีวิตจากการถูกยิง เพราะสาเหตุการประท้วงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ เมื่อมีโอกาสก็เลยแวะมาเยี่ยม มาทานอาหาร อย่างน้อยก็ช่วยอุดหนุนคนคุ้นเคยและช่วยต่ออายุธุรกิจครอบครัวของพี่คนนี้
และเราก็เข้าที่พักย่านหัวหินชื่อ สปริงฟิลด์ ตอนค่ำอย่างหมดแรง จนเช้าวันใหม่เราก็หาของกินที่ตลาดหัวหิน แวะกินร้านดังในตลาด
นอนเล่นแช่น้ำอย่างสบายใจ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ ปิดท้ายด้วยระยะทางทั้งหมดที่ขับรถสำหรับทริปปีใหม่นี้ ฮอนด้าฟรีดคันเก่า คันเดิมที่พาเที่ยวมาตลอดหลายปี ทริปนี้จบลงที่ระยะทาง 1325.4 กิโลเมตร
ภาพสุดท้ายนี้ภรรยาถ่ายให้ เป็นการส่องกล้องเพื่อถ่ายภาพนกด้วยเลนส์ซูมตัวโต น้ำหนักมาก พ่อเลยต้องเป็นขาตั้งกล้องให้ลูก









































