เปลี่ยนน้ำมันเครื่องฮอนด้าฟรีด honda freed 217054km

2018-12-14_04-02-50

หลักกิโลเมตรบนหน้าจอแสดงไว้ที่ 217054 ผมเอารถฮอนด้าฟรีดไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง  ใช้น้ำมันเครื่อง ปตท รุ่น super synthetic 0w-30 ที่ซื้อแล้วแถมลำโพง jbl clip2 ซึ่งเป็นลำโพงบลูทูธหน้าตาดีและคุณภาพใช้ได้  ผมเคยใช้น้ำมันเครื่องรุ่นแถมลำโพง jbl go มาแล้ว 2 ครั้ง ได้ลำโพงมาใช้ 2 ตัว  มารอบนี้ก็ซื้อตุนไว้ ได้ลำโพงมาเล่นเพิ่มอีกตัว

2018-12-14_02-33-54

ใช้บริการอู่รถยนต์แถวบ้าน ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม 350 บาท  ในนี้จะเป็นค่าแรง 200 บาท  เป็นค่าไส้กรองน้ำมันเครื่อง 150 บาท  เปลี่ยนแล้วก็สบายใจ  เพราะปกติขับรถเพลินๆไม่เคยสนใจเรื่องระยะทาง บางทีรู้ตัวอีกทีเลยระยะทางที่ต้องเปลี่ยนไปหลายพันกิโลเมตรเลย

IMG_4233

 

เปลี่ยนโช้ค honda freed 217000 กิโลเมตร

2018-12-14_02-01-28

ฮอนด้า ฟรีด ใช้งานมายาวนาน ระยะทางที่หน้าจอระบุ 217000 กิโลเมตร เพิ่งจะเปลี่ยนโช้ค จริงๆมันก็คงเสื่อมมานานแล้ว แต่ก็ทนใช้มาได้เรื่อยๆ อาจจะเพราะชิน อาจจะเพราะมัวแต่ขับไปโน่นนี่นั่นไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพรถสักเท่าไหร่ จนวันหนึ่งภรรยาบ่นว่าทำไมรถมันเด้งขนาดนี้ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อ้อ มันน่าจะโช้คพังแล้ว

รถคันเก่าผมใช้ประมาณ 5 ปีก็เปลี่ยนโช้คทีนึง ส่วนคันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 9 มันควรจะพังมาสักหลายปีแล้วแต่ไม่ได้รู้ตัว เท่าที่สืบจากอินเทอเน็ต คนใช้ฟรีดนิยมจะอัพเกรดโช้คเป็นยี่ห้อ kayaba new sr ซึ่งราคาตลาดอยู่ที่ประมาณเกือบ 2หมื่นบาท แต่ผมเสียดายเงินไม่อยากจ่ายเยอะ และเป็นคนขับรถไม่เร็วด้วยเลยไม่คิดจะจ่ายระดับนั้น ไปถามราคาที่ศูนย์ ศูนย์ก็แจ้งราคามารวมค่าแรงกันแล้วเกือบสองหมื่นเหมือนกัน หน้ามืดแน่ๆเลย ก็เลยถอยก่อน เดี๋ยวหาของย่อมเยาใช้ดีกว่า

แล้วมีเพื่อนแนะนำร้านยางร้านช่วงล่างใกล้ๆที่ทำงานผม ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า รอบที่แล้วที่เปลี่ยนยางก็เปลี่ยนร้านนี้แหละ ราคาถูกดี และคุณภาพของก็ไม่ได้แย่ ก็เลยโทรคุยและแจ้งว่าอยากเปลี่ยนโช้ค รถฮอนด้าฟรีด อยากได้ของถูก เจ้าของร้านใจดีก็เลยแนะนำตัวนี้ให้ Valeo ค่าของรวมค่าแรงประมาณ 7พัน ก็เลยสั่งไปทางโทรศัพท์ว่า ตกลง เดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยน

2018-12-14_02-44-50

อีกครึ่งชั่วโมงผมก็อยู่ที่ร้าน ส่งรถเสร็จก็ซื้อกาแฟสดแก้วนึงแล้วนั่งแท็กซี่กลับบ้าน ค่าใช้บริการ grabcar เรียกรถจากร้านกลับมาโรงพิมพ์ ค่ารถ 80 ได้ส่วนลดโปรโมชั่น 50 บาท จ่ายเอง 30 บาท และอีก 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ใช้ grabcar อีกรอบ จ่ายเอง 30 บาท ถูกกว่าแท็กซี่ทั่วไปอีกนะสำหรับการนั่งใกล้ๆ และได้รถใหม่ ได้คนขับสุภาพ

รถเก่า 9 ปี กับโช้คใหม่ทั้ง 4 ต้น ความรู้สึกคือ นิ่มดี นุ่มนวล รถวิ่งผ่านลูกระนาดก็ไม่สะเทือนมาก เนินหลังเต่าในซอยก็ไม่สะท้านเหมือนเดิมแล้ว ขึ้น ลง ยุบแล้วหยุด ใช้ได้เลย มีความรู้สึกว่ารถลอยอยู่เหนือพื้น ไม่ได้กลิ้งลากไปกับพื้นถนนแบบเดิม ความนุ่มราบเรียบคล้ายกับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องที่มีระบบกันสั่น มันสมู๊ทไม่กระโตกกระตากแบบกล้องเก่าๆ ผมยังไม่รู้ว่า Valeo รุ่นที่ร้านเลือกให้เป็นโช้คตรงรุ่นสำหรับฟรีดไหม เพราะพยายามหาข้อมูลก็ไม่พบเลยว่ามันเคยขายให้ฟรีดคันไหน แต่ก็คิดว่ามันคงพอใช้ได้แหละ เลยลองเสี่ยงเปลี่ยนดู เพราะนิสัยการขับรถของผมถือว่าเป็นคนขับรถช้า ขับรถไปหัวหินจากย่านฝั่งธนผมใช้เวลา 2.5-3 ชั่วโมง รถติดบ้าง รถวิ่งช้าบ้าง ไม่แซงบ้าเลือด เหมือนสมัยอายุ 25 ที่ตอนนั้นใช้เวลาในเส้นทางเดิมแค่ 90 นาทีก็ถึง

ไปรับรถที่ทำเสร็จ จ่ายเงินด้วยมือถือส่อง qr code ของร้าน สังคมไร้เงินสดพร้อมแล้วสำหรับคนไทย ธนาคารเดินเท้าเข้าไปวาง qr code ให้ร้านค้า ร้านขายยาสามแห่งที่ผมเคยซื้อมี qr code สำหรับจ่ายเงินทั้งหมด

เปลี่ยนแบตเตอรี่ swift 77000 กิโลเมตร

รถของคุณภรรยาใช้งานมานาน และผ่านการเปลี่ยนแบตครั้งสุดท้ายไปเมื่อประมาณ 30เดือนที่แล้ว หรือ 2 ปีครึ่งนั่นเอง  และอาการในช่วงสองสามวันนี้ก็คือ รถไม่ค่อยมีแรงสตาร์ท เลยสลับรถกันใช้  ผมเอา swift มาทำงาน ภรรยาเอา freed ที่ยังปกติไปใช้  รถ swift มาถึงโรงพิมพ์ จอดในที่จอดเรียบร้อย อีกชั่วโมงต่อมาก็สตาร์ทไม่ติดแล้ว  ทีแรกตั้งใจว่าจะขับไปเปลี่ยนแบตตอนเที่ยง คราวนี้สตาร์ทไม่ติด ก็สบายละ  ใช้วิธีโทรเรียกเลยดีกว่า

P_20150524_153321

แบตเสื่อคราวที่แล้ว วันที่เอาไปเปลี่ยนคือ  24may2015

 

Screenshot_20180110-124313

ร้านแรกที่ผมหาเจอและตั้งใจจะอุดหนุน  แต่เบอร์โทรอ่านไม่ออกเลย

 

เข้าเว็บ หาร้านแบต ใช้คีย์เวิร์ดว่า เปลี่ยนแบต รถยนต์ จอมทอง  เพื่อหาว่ามีร้านไหนบริการเปลี่ยนแบตในย่านจอมทองบ้าง  พอเจอร้านแรก  ก็หาเบอร์โทรทันที ปรากฏว่า เบอร์โทรอ่านไม่ออก  เป็นความผิดพลาดของร้านนี้อย่างมากที่ไม่ทำเว็บให้อ่านออก  จำใจไปหาร้านที่ 2 แทน   อีก 30 นาที รถมอเตอร์ไซด์ก็วิ่งมาเปลี่ยนให้ครับ

 

IMG_20180110_134610

IMG_20180110_134636

IMG_20180110_134851

ร้านที่คุยทางโทรศัพท์แนะนำว่า swift 1.2 ใช้แบตรุ่นนี้ได้ ราคาไม่แพง ยี่ห้อพานาโซนิค เป็นแบตกึ่งแห้ง แปลว่าไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แต่ก็มีรูสำหรับเปิดเติมน้ำกลั่นนะ ลูกละ 1600 บาท รวมค่าบริการแล้ว  ผมตกลงเลือกตามที่แนะนำ  และร้านแบตที่วิ่งมาถึงผมก็คือร้านที่มาจากย่านศิริราช  การค้าขาย online มันก็อเมซิ่งตรงที่ เราไม่รู้ว่าพ่อค้าอยู่ที่ไหน

IMG_20180110_134925

แบตใหม่ เปลี่ยนวันที่ 10jan2018 หลักกิโลในรถ 77000 km

 

สอบถามพูดคุยกันเล็กน้อย ติดสติ๊กเกอร์ไว้บนแบต  ตอนเปลี่ยนลูกใหม่เข้าไปเจ้าของก็ตรวจสภาพสายให้และบอกว่า ขี้เกลือจับขั้วสายให้เอาน้ำร้อนมาล้าง  แต่การล้างห้ามล้างเลยไปถึงวงจรที่ติดอยู่กับสาย  เพราะในวงจรจะมีตัวเซ็นเซอร์ ถ้าเซ็นเซอร์เสียหรือเปียก จะมีผลทำให้ระบบชาร์จไฟเข้าแบตไม่ทำงาน

 

ล้างขี้เกลือ ใส่แบตใหม่เข้าไป  ช่างก็วัดค่าแรงดันของแบตหลังสตาร์ทเครื่องให้ดู  ช่างบอกว่า ไฟชาร์ตจะต้องอยู่ที่ระดับ 13.8 โวลท์ ซึ่งเป็นค่าปกติ  และเมื่อทดลองวัดก็ได้ตามที่บอก  สรุปว่า แบตใหม่ทำงานปกติ รถชาร์จไฟเข้าแบตได้ปกติ

 

ปิดกระโปรงรถ จ่ายเงินด้วยการโอนเงินให้ เพราะผมลืมเบิกเงินสดไว้จ่าย  โอนเงินด้วย พร้อมเพย์  ขอเบอร์โทรศัพท์ของคนขาย แล้วก็กดโอนจากโทรศัพท์ เรียบร้อย สังคมไร้เงินสด พวกเราอยู่ในสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัวแล้ว  เรามีทางเลือกใช้เงิน เงินสด เงินโอน เลือกใช้ตามอัธยาศัยเลย

 

บันทึกไว้ให้ว่าร้านนี้บริการดี อธิบายรู้เรื่องครับ

อรรณพแบตเตอรี่

0835690505  024127090

 

 

ต่อทะเบียนรถขึ้นปีที่8

การต่อทะเบียนรถยนต์เมื่ออายุเข้าสู่ปีที่ 8 เป็นการต่ออายุที่ต้องมีการตรวจสภาพรถเสียก่อน  การตรวจสภาพรถจะต้องไปทำที่ศูนย์ตรวจสภาพซึ่งอยู่ตามอู่รถต่างๆ  ส่วนมากจะมีป้ายขึ้นไว้ว่า “ตรอ”  หรือ ตรวจสภาพรถเอกชน  ซึ่งการตรวจก็จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที  ค่าใช้จ่าย 200 บาท  เมื่อตรวจเสร็จจะได้กระดาษมา 1 ใบ  สิ่งที่จะต้องเตรียมไปใช้ในการตรวจสภาพก็คือ สำเนาทะเบียนรถที่ถ่ายจากเล่มคู่มือจดทะเบียน  หากไม่ได้พกสำเนา หรือ ลืมถ่ายเอกสารไว้ ก็ใช้วิธีถ่ายรูปก็ได้  เนื่องจากพนักงานตรวจสภาพจะต้องกรอกข้อมูลรถให้ตรงกับเล่มทะเบียนนั่นเอง  ตรงนี้เดาไม่ได้ ต้องลอกตามคู่มือ

เมื่อได้ใบตรวจสภาพมาแล้ว ก็ให้ใช้งานร่วมกับใบคู่มือจดทะเบียน และใบ พรบ ที่ไปซื้อจากร้านค้า หรือ ซื้อจากบริษัทประกันภัยก็ได้  การไปต่อทะเบียนที่สะดวกสำหรับผมคือ ไปที่ บิ๊กซี สาขาที่มีบริการต่อทะเบียนรถ ซึ่งจะทำได้ในวันเสาร์และอาทิตย์  ผมจำเวลาแน่นอนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไปช่วงบ่ายของวัน  ซึ่งวันนี้ผมไปทะเบียนที่บิ๊กซีสาขาบางบอน

2017-06-24_07-44-13

สรุปว่า ต้องมีเอกสาร 3 อย่างนี้เพื่อไปต่อทะเบียนคือ

1  คู่มือจดทะเบียนรถตัวจริง

2 ใบตรวจสภาพรถเมื่อรถอายุเกิน7 ปี รถผมต้องตรวจสภาพครั้งแรกในการต่ออายุเข้าสู่ปีที่8

3  ใบ พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ใช้เวลาในการต่อทะเบียนไม่เกิน 3 นาที  และคิวก็ไม่ยาวด้วย  ผมไปยืนรอแค่คิวเดียวก็ได้ยื่นเอกสารเลย  นับเป็นความสะดวกที่ขนส่งได้จัดบริการไว้ให้ น่าชื่นชมมาก ค่าใช้จ่ายในการต่อทะเบียนปีนี้ของฮอนด้าฟรีดคือ 1150 บาท  ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีก่อนเสียด้วย

อ่านประกาศจากกรมการขนส่งทางบกเรื่องต่อทะเบียนในห้าง
https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=2312

Honda freed ครบปีที่ 5 ซ่อมดุมล้อหลัง

ฮอนด้าฟรีดผ่านการใช้งานมาครบ 5 ปีแล้ว ยังไม่มีอาการเสียที่หนักหนา มีเพียงดุมล้อหลังที่ลูกปืนแตก อาการนี้ช่างที่ร้านทำเบรกเคยแจ้งไว้แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ตอนนั้นยังไม่หนักมาก เป็นแค่มีรอยร้าว เริ่มแตก แต่มาในเดือนนี้ เสียงลูกปืนล้อดังมาก เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 60-70 กมต่อชั่วโมงจะมีเสียงเหมือนเราเร่งเครื่องดังมาก คล้ายๆกับมีมอเตอร์ไซด์บิดตามรถเรา

P_20150409_093622

เอาเข้าไปเช็คระยะ 130000 กม. ที่ศูนย์ฮอนด้า เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองแอร์ กรองเบนซิน ก็ให้ช่างที่ศูนย์ตรวจดุมล้อให้อีกที ช่างศูนย์ก็รายงานว่ามีอาการลูกปืนแตกแล้ว ข้างขวาแตก ข้างซ้ายยังไม่แตก แนะนำให้เปลี่ยน ศูนย์แจ้งราคามาเกือบหกพันบาทรวมค่าแรงแล้ว เราเองก็รู้สึกว่าอยากลองสืบราคาที่อื่นดูก่อน และอีกอย่าง ช่างให้ความรู้มาว่า ลูกปืนแตกยังขับได้ แค่จะมีเสียงดังกวนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

P_20150407_151235

ไปเช็คที่อู่ซ่อมฮอนด้าภายนอก ไปที่ร้านแห่งหนึ่งแถวพระรามสาม เป็นร้านที่เพื่อนเคยแนะนำ และผมก็เคยเอา freed ไปซ่อมแล้วหนึ่งครั้งซึ่งครั้งที่แล้วเป็นอาการหัวฉีดสกปรก ก็ทำการล้างทำความสะอาดให้ ค่าใช้จ่ายหลักร้อย แต่คราวนี้ดุมลูกปืน ช่างนอกเสนอราคามารวมค่าแรงแล้ว 3900 บาท ราคาถูกกว่าศูนย์สองพันบาท แต่ใช้อะไหล่เทียบให้แทน เพราะถ้าเอาอะไหล่แท้เบิกศูนย์ก็จะราคาเท่าศูนย์ ไม่ได้ถูกลง แต่จะได้ซ่อมเลยภายในวันเดียว ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ ก็เลยตกลงซ่อม ค่าใช้จ่ายออกมาดังนี้
ค่าของ 3400 บาท ค่าแรง 500 บาท รวม 3900 บาท

P_20150407_151225

บันทึกไว้เพื่อให้คนที่ใช้รถรุ่นได้มีข้อมูลทางเลือกสำหรับการซ่อมนอกศูนย์ครับ

เปลี่ยนล้อ honda freed สองปี หกหมื่นกิโลเมตร

ขับรถฮอนด้า freed มา 2 ปีแล้ว ระยะทางประมาณหกหมื่นกว่ากิโลเมตร ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางสักที ผมเองไม่ใช่คนเล่นรถรักรถสักเท่าไหร่ พอใจที่จะขับรถคันเดิม แบบเดิมไม่ต้องแต่งเพิ่ม ยางที่จะต้องเปลี่ยนเลยไม่ได้หาข้อมูลว่าควรจะเลือกอย่างไรดี ยี่ห้อไหนเด่นเรื่องความเงียบ ยี่ห้อไหนเด่นเรื่องเกาะถนน ยี่ห้อไหนเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน ดังนั้นผมไม่คิดจะขวนขวายหายางลักษณะพิเศษเหล่านั้นเลย

สิ่งที่นึกขึ้นมาได้ในหัวก็คือ ถ้าได้ยางเดิม ล้อเดิมก็น่าสนใจ เพราะตั้งแต่รถ freed มีการปรับราคาก็ทำให้ยอดขายเพ่ิมขึ้นอย่างมาก สังเกตุได้จากรถ freed ป้ายแดงวิ่งให้เห็นกันทุกวันในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เยอะขนาดที่ว่าบางวันเห็นป้ายแดงหลายคันเสียด้วย บางวันผมก็ขับรถตีคู่ไปกับรถใหม่เหล่านั้น ขับไปก็มองไป รถ freed มันมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจริงๆ ซึ่งรถป้ายแดงเหล่านั้นมีหลายคันที่เปลี่ยนล้อทันทีที่ออกจากโชว์รูม ผมเลยประกาศรับซื้อไว้ในคลับ thaifreed.com

ทีแรกว่าจะขอซื้อแค่ยางอย่างเดียว แต่ก็ไม่ค่อยมีใครขาย สุดท้ายเลยตัดสินใจซื้อทั้งล้อเลยดีกว่า รถที่ใจดีขายให้ผมเขาก็เข้ามาแจ้งในประกาศว่า รถเขาเพิ่งออกได้สองสัปดาห์ ล้อเก่าวิ่งไปประมาณ 300 กิโลเมตร ผมตกลงซื้อไม่ลังเลเลย ถึงวันที่ไปขนล้อเหล่านั้นกลับมาติดรถตัวเอง ดูจากตัวเลขที่ยางแล้วระบุวันที่ผลิตไว้ตอนเดือนมีนาคม ปี2012 ซึ่งเป็นข้อมูลที่สอดคล้องว่ารถคันนี้ขายถึงลูกค้าปลายเดือนพฤษภาคม 2012 ผมเลยมั่นใจว่าได้ของคุณภาพดีตามสภาพ คือสภาพเกือบ 100เปอร์เซ็นต์ ในราคาเก้าพันบาท ยางพร้อมล้อแม็กซ์ ราคานี้ผมถือว่าถูก เพราะว่า ถ้าให้ไปซื้อยางใหม่ไปเลย ผมอาจต้องจ่ายเส้นละสามพันบาทขึ้นไป การที่ได้ล้อพร้อมยางมาในราคาที่ต่ำกว่า แม้ต่ำกว่าแค่เพียงนิดเดียวผมก็ถือว่าคุ้มสำหรับผม เพราะเมื่อเปลี่ยนของใหม่ใส่เข้าไป ผมยังสามารถเอาของเก่าไปขายได้อีกที

ผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนสั่งสอนกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่ายางรถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณสองปีถ้านับตามเวลา หรือ 40000 กิโลเมตรถ้านับตามระยะทาง ผมก็จำตัวเลขเหล่านั้นมาตลอด และรถคันเก่าก็พยายามเปลี่ยนตามระยะทางที่่ว่า แต่กับ freed คันนี้ผมขับเพลินจริงๆ และช่วงจังหวะที่มันเลยสี่หมื่นกิโลเมตรผมก็ลืมที่จะเปลี่ยนยางให้มัน มันอาจจะเป็นเพราะปลายปีทีแล้วผมยุ่งมากกับภาระต่างๆทั้งงานและปัญหาน้ำท่วม และปัญหาสุขภาพของพ่อผมเอง ก็เลยไม่ได้เปลี่ยนตอนถึงเวลาที่ควรเปลี่ยน

พอได้ยางจากรถป้ายแดงมา ก็หาร้านริมทางแวะเปลี่ยนทันที ค่าแรงเปลี่ยนทั้งล้อทางร้านบอกราคาล้อละ 50 บาท สี่ล้อ 200 บาท ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง แต่ผมก็ขี้เกียจเปลี่ยนเอง รอช่างเปลี่ยนครบทั้งสี่ล้อแล้วเช็คน็อตอีกทีว่าใส่ครบทุกตัว เพราะเคยอ่านผ่านๆในเว็บพันทิพย์ว่าเคยมีรถเข้าศูนย์แล้วทางศูนย์ใส่น็อตไม่ครบ หรือไขไม่แน่น อ่านแล้วจำแบบหลอนๆ กลัวมากเรื่องช่างมักง่าย

เปลี่ยนของใหม่เข้าไป ถอดของเก่าเก็บ ทำการล้างล้อเก่าให้สะอาด สภาพล้อเก่ายังดูดีอยู่เลย ยางไม่ได้สึกจนโล้น การวิ่งไปสองปี ในระยะหกหมื่นกิโลเมตรผมเข้าใจว่าดอกยางจะสึกมากกว่านี้ แต่เท่าที่เห็นมันยังมีระยะความลึกอยู่มาก น่าจะใช้งานได้อีกนาน แต่เพื่อนก็เตือนไว้ว่าถ้าเปลี่ยนได้ก็ควรเปลี่ยน แม็กส์บางวงสภาพแทบจะร้อยเปอร์เซ็น มี 1วงที่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อย อีก 1 วงมีขีดยาวลึก ซึ่งผมจำไม่ได้เลยว่าเอาไปเบียดกับอะไรมา จากนี้คงจะทะยอยประกาศขายออกไป

การได้ล้อและยางสภาพป้ายแดงมาใช้มันก็คือล้อใหม่ ยางใหม่นั่นแหละ ความนุ่มของยางทำให้รถสะเทือนน้อยลง ความรู้สึกจากการได้เปลี่ยนยางมันทำให้เรารู้สึกเหมือนรถเราสภาพดีขึ้นคล้ายๆรถใหม่ อีกทั้งยังได้เปลี่ยนล้อเก่าที่มีตำหนิชวนรำคาญสายตาออกไปด้วย ผ่านเรื่องยางไปผมเริ่มนึกถึงโช้คอัพแล้ว กะว่าอีกสักปีหรือสองปีจะลองประกาศซื้อโช้คป้ายแดงอีกสักที เพราะสมาชิกที่เล่นใน thaifreed.com มีคนเปลี่ยนโช้คอยู่เนืองๆ ขอบคุณ thaifreed.com อย่างมากที่่เป็นสังคมออนไลน์ที่นอกจากได้ความรู้แล้วยังเปิดโอกาสสมาชิกได้แลกเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับรถอีกด้วย ที่นี่อบอุ่นครับ

เปลี่ยนแบตเตอรี่ honda freed

รถยนต์ Honda Freed ใช้งานมาประมาณ 50000 กิโลเมตร ผมเอาเข้าศูนย์ฮอนด้าแถวบ้านเพื่อเช็คระยะ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ช่างที่ศูนย์มีการตรวจสอบเช็คของเหลวต่างๆในรถให้ตามปกติ ตรวจสอบสภาพไฟแบตเตอรี่แล้วก็แจ้งว่าควรจะเปลี่ยนแล้ว พร้อมกันแนบผลการตรวจให้ดูด้วย

ผมถามราคา พนักงานที่ศูนย์แจ้งราคามาว่าประมาณ 2900 บาท ผมรู้สึกว่าแพงไปหน่อย ก็เลยไม่เปลี่ยนในศูนย์ ตั้งใจจะเปลี่ยนข้างนอก เพราะคุ้นๆว่าแบตรถ city civic และ accord จะถูกกว่านี้

ขับรถออกไปใช้งานปกติ การเปลี่ยนแบตเตอรี่รอบนี้ผมตั้งใจจะเปลี่ยนก่อนที่จะไฟหมดตามสภาพ ขับรถมาสิบปี เปลี่ยนแบตมาห้าครั้ง ทุกครั้งไฟหมดสตาร์ทไม่ติดเสมอ รอบนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะต้องรีบเปลี่ยนก่อนจะต้องพ่วงสตาร์ท

หลายวันต่อมาผมขับรถไปร้านบีควิกสาขาแถวบ้าน ไปดูราคาแบตเตอรี่ ในใบปลิวของร้านมีราคาเริ่มต้นที่ 2190 บาท เป็นราคาของแบตเตอรี่ขนาด 35 แอมป์ ผมแจ้งรุ่นรถ Honda freed กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เข้าไปในห้องสักครู่ก็ออกมาพร้อมใบราคา รถผมต้องใช้ 45 แอมป์ ราคาอยู่ที่ 2490 บาท ผมรู้สึกลังเลนิดหน่อย ก็เลยไม่เปลี่ยนที่นี่

ขับรถไปร้านริมถนนดีกว่า เพราะผมจำได้ว่ารถคันเก่าของผมเป็นรถเก๋งเครื่องยนต์ 1600CC เปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่เคยเกิน 2000 บาท ออกจากราชพฤกษ์เลี้ยวรถมาจอดที่ถนนวุฒากาศ ร้านแรกที่เจอเป็นร้านท่อเฮดเดอร์และแบตเตอรี่ เช้าวันอาทิตย์ใครเปิดร้านผมคิดว่าร้านนี้ตั้งใจทำงาน จอดรถให้เขาดู เถ้าแก่ในร้านดูแบตแล้วก็บอกว่าน่าจะประมาณ 35 แอมป์ ราคา 1500 บาท ผมทำท่าคิดนิดหน่อยแล้วก็บอก “เปลี่ยนเลยครับ”

จากนั้นเถ้าแก่ก็แกะแบตยี่ห้อ 3k จากกล่องใหม่ แล้วก็เอาไปเติมน้ำกลั่น แล้วก็มาเสียบไฟชาร์จเบื้องต้นก่อน เถ้าแก่บอกว่าให้นั่งรอชาร์จไฟประมาณ 20 นาที

ส่วนแบตลูกเก่าที่ยกออกมาก็ไม่ได้มีสเป็คอะไรบอกไว้ แต่ขนาดต่างๆมันเท่ากับแบตลูกที่ผมกำลังจะเปลี่ยนก็เลยคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนจะยกแบตลูกเก่าออก ทางร้านมีแบตสำหรับการพ่วงไฟชั่วคราวสำหรับการเสียบไฟค้างไว้ด้วย การเปลี่ยนแบตทั่วไปถ้ายกแบตออกทันที การตั้งค่าของระบบแอร์และระบบไฟต่างๆของรถยนต์จะทำการ reset ค่าทั้งหมด การร reset ค่าต่างๆไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะแอร์มันก็เปิดขึ้นมากดปรับให้เย็นลงได้ไม่ยาก แต่ที่มักจะมีปัญหาปวดหัวก็คือเครื่องเสียงที่ตั้งค่าซับซ้อน เท่ากับว่าเราต้องปรับแต่ง จูนเสียงใหม่เลย มันเป็นเรื่องน่าเบื่ออย่างหนึ่ง ร้านนี้มีแบตเตอรี่แบ็คอัพให้ระหว่างเปลี่ยน ผมคิดว่ามันเป็นความปราณีตอย่างหนึ่งของร้านนี้

ติดตั้งเสร็จลองสตาร์คเครื่อง ทุกอย่างปกติ แอร์และเครื่องเสียงอยู่ในค่าเซ็ทอัพค่าเดิม จ่ายเงินแล้วก็ขับออกมา

 

เปลี่ยนแบต honda freed 2558

รถ honda freed 1 ปีต่อมา ต้องบำรุงด้วยวาสลีน

เมื่อประมาณเดือนที่แล้วมีข่าวว่า Honda เรียกรถสามรุ่นกลับไปเปลี่ยนสปริง 1 ตัว ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆในเครื่องยนต์  รถยนต์รุ่นที่โดนแจ็คพ็อตก็คือ Jazz City และ Freed เพราะใช้เครื่องยนตัวเดียวกัน  แต่ว่า ไม่โดนทุกคัน มีเพียงบางล็อตเท่านั้น  ซึ่งผมอยู่ในล็อตที่โดนเรียกครับ

การประกาศประกาศออกทางอินเทอเน็ต  และผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในล็อตที่โดนเรียกไหม?  ทีแรกก็ลุ้นว่าจะไม่โดน  แต่พอเมื่อสองวันก่อนเอารถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะ 30000 กิโลเมตร พนักงานในศูนย์ก็ตรวจสอบเลขเครื่องยนต์แล้วแจ้งว่า ต้องเปลี่ยนสปริงวาล์วครับ

พนักงานอธิบายวิธีเปลี่ยนไว้ละเอียด  สรุปแล้วเป็นงานที่ใช้เวลา ต้องรื้อเครื่องเยอะ  ต้องรอเครื่องยนต์เย็นและใช้เวลา 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง  ดังนั้น  ต้องนัดคิวล่วงหน้า  วันที่ตรวจเช็คระยะ 30000 กิโลเมตรผมจึงทำได้แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เท่านั้น  การเปลี่ยนสปริงค์ต้องนัดในอีกห้าวันถัดไป

การเข้าเช็ครอบนี้เป็นตามกำหนดระยะทาง และได้ทำการบ่นเพื่อขอเคลมอาการเสียงพลาสติกกรอบในห้องโดยสาร  เพราะในช่วงประมาณสามเดือนที่ผ่านมาผมสังเกตว่า เสียงพลาสติกหรือยางขอบประตูที่กั้นระหว่างประตูกับตัวถังรถยนต์มีอาการส่งเสียงดังเวลามีการเคลื่อนไหวหรือสั่นสะเทือน  อาการคล้ายๆกับยางแข็งตัวแล้วทำให้เกิดการเบียดตัวไปมาทำให้มีเสียงดังผิดปกติ  บอกช่างให้รับทราบ  ช่างรับปากจะดูให้

ส่งรถตอนสายๆสิบโมงเช้านิดหน่อย บ่ายสามครึ่งพนักงานโทรมาแจ้งว่าทำเสร็จแล้วไปรับรถได้  ตอนไปรับก็ตรวจสอบความเรียบร้อย  ไขน็อตครบทุกตัวไหม  เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมา  ในเว็บบอร์ดพันทิพย์ดอตคอม ห้องรัชดา มีกระทู้บ่นและต่อว่ากรณีศูนย์บริการบกพร่อง ลืมไขน็อตให้ลูกค้าหลายยี่ห้อ หลายคันมาก  พอถึงคิวผมต้องเข้าศูนย์เลยวิตกจริตนิดหน่อย  ตอนรับรถเลยเดินดูล้อโดยรอบ  แต่ก็ไม่พบอาการผิดปกติ

เรื่องเสียงรบกวนของยางขอบประตูช่างได้ทำการแก้ไขโดยการทาน้ำมันหล่อลื่นลงไปที่ตัวยาง  เพื่อปรับสภาพผิวยางให้มีความอ่อนตัว  เสียงหายไปสนิทเลย  เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้รถยนต์ก็ต้องใช้วาสลีน  หน้าหนาวผิวแตกเลยส่งเสียงดัง

ตอนนี้รถอยู่ในสภาพเหมือนใหม่ เงียบสนิท เครื่องยนต์เดินเรียบ  อัตราการกินน้ำมันอยู่ในระดับที่ควบคุมได้  ก็คือ ขับเพลินๆได้ 11-12 กิโลเมตรต่อลิตร  ขับทางไกลได้ 15 กิโลเมตรต่อลิตร  ขับแบบงกๆพยายามประหยัดที่สุดจะทำได้ 18 กิโลเมตรต่อลิตร  แต่ว่าต้องขับช้าลงและอาจจะทำให้รถคันอื่นรำคาญได้

ประมาณสัปดาห์ที่แล้วอีกเช่นกัน อากาศในประเทศไทยเย็นลงอย่างกระทันหัน  เมื่อวาน 30 องศาเซลเซียสอยู่ดีๆ วันรุ่งขึ้นตื่นมากลายเป็น 18 องศา ยิ่งกว่าหน้าหนาวที่ผ่านมาทุกฤดู  กรุงเทพก็หนาวได้  Freed ได้ทำหน้าที่ให้ประทับใจอีกหนึ่งอย่างคือการเปิดฮีทเตอร์  เพราะแอร์ในรถ Freed สามารถตั้งเป็น Auto ได้  ผมเลยตั้งเป็น Auto 25 องศา  ผลก็คือ รถไม่ทำความเย็น  แต่เปลี่ยนเป็นทำความร้อนแทน  อากาศข้างนอกเย็นจนผมต้องหาเสื้อกันหนาวมาใส่  แต่อยู่ในรถมันเย็นกำลังสบายเพราะได้ระบบฮีทเตอร์มาช่วย  เป็นเรื่องดีๆอีกเรื่องหนึ่งในรถคันนี้

หนาวจนหมาที่บ้านยืนสั่น ต้องไปผ้ามาห่มให้ขนาดนี้

เบาะนั่งตอนขับรถตอนนี้ผมชินแล้ว  ปรับตัวได้ ไม่เมื่อยหลังอีกต่อไป  กลายเป็นรถที่รู้สึกถูกใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งกว่าเดือนแรกเสียอีก  แม้ว่าสมรรถนะจะสู้รถเก๋งไม่ได้  แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเอารถคันนี้ไปอัดแข่งกับใคร หรือเอาไปดริฟท์เหมือนในหนัง  เลยไม่ได้เดือดร้อนกับอัตราเร่งที่ต่ำกว่ารถเก๋ง  ความรู้สึกดีที่ขับรถคันนี้คือมันไม่อึดอัด  ห้องโดยสารกว้างขวางโดยที่ตัวรถยังไม่ใหญ่เกินไป  ถ้ารีบขับหรือต้องการทำเวลาอาจจะต้องใช้รถเก๋งเครื่องแรงๆ  แต่ถ้าไม่รีบ หรือต้องใช้เวลาทนรถติดนานๆ  ผมว่าคันนี้น่าใช้กว่า