ทดลอง contax T3 เทียบกับกล้องดิจิทัล

กล้อง contax T3 เป็นกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ตัวหนึ่งของวงการถ่ายภาพ น่าจะเป็นตัวที่มีราคาแพงที่สุดในตลาดมือสองที่ซื้อง่ายขายคล่อง จุดเด่นที่ความเล็ก กระทัดรัด และโฟกัสเร็ว วัดแสงแม่น เป็นสิ่งที่ทำให้กล้องตัวนี้คือเครื่องมือชั้นดีในการถ่ายภาพของช่างภาพที่ชอบฟิล์ม

แล้วมันดีจริงไหม มันเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือเปล่า มันเหมาะที่จะไขว่คว้าหามาครอบครองไหม ตอบเลยว่าไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะราคามันแพงมาก และมีความเสี่ยงว่า ถ้ากล้องพัง จะซ่อมกันยังไง ประวัติการซ่อมกล้องตัวนี้ยังมีน้อย นั่นคือมันยังไม่หมดอายุกันเหมือนกล้องอายุมากตัวอื่น ถ้าเทียบกับ Leica Minilux เจ้า Minilux จะเสียเยอะกว่า แต่ช่างเมืองไทยก็ซ่อมกันเก่งมาก ซ่อมจนชำนาญ เรียกได้ว่า ถ้าจะทำมาหากินกับกล้องฟิล์มในยุค 4g กำลังจะเข้า 5g ช่างต้องซ่อม Minilux ให้ได้ เพราะมันเสียทุกตัว ซ่อมได้ก็แปลว่าจะมีงานมาจากทั่วโลกแน่นอน

กลับมาที่ contax T3 ต่อ ผมใช้กล้องตัวนี้ราวกับเป็นกล้องปัญญาอ่อน เพราะตอนที่ถือกล้องคอมแพ็ค เราจะไม่สามารถปราณีตกับการจัดองค์ประกอบในแบบกล้อง SLR เพราะช่องมองภาพมันไม่ได้เป็นช่องที่มองผ่านเลนส์ แถมระบบวัดแสงอัตโนมัติที่กล้องมีนั้นก็ไม่ใช่ระบบการวัดแสงเฉพาะจุดที่ตอบสนองความคิดของคนถ่ายอย่างความแม่นยำถูกต้องเทียบเท่า SLR รุ่นโปร แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังอยากใช้เพราะมันราคาแพง เพราะมันเท่ห์ เพราะมันเป็นที่ต้องการของตลาดมือสอง และการมีกล้องแพงและหายากใช้งานกับมือมันก็สร้างความรู้สึกดีได้ไม่น้อย

ถือถ่ายไปสักพักก็รู้สึกอยากเปรียบเทียบ ก็เลยเป็นที่มาของการเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายในมุมเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน ลองไล่ดูไปทีละภาพแล้วก็ตัดสินใจเองว่าเราชอบสิ่งที่มันเป็นผลผลิตของกล้อง contax T3 ไหม และความเห็นที่ผมบรรยายก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว เป็นอคติ เป็นอัตตา เป็นอารมณ์ เป็นเรื่องความชอบที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน

000006
แพทคาเฟ่ – contax t3 + fuji c200
IMG_5689
แพทคาเฟ่ – eos m + efm 22f2
IMG_5690
แพทคาเฟ่ – eos m + efm 22f2

ภาพแรก ร้านอาหาร แพทคาเฟ่ ตั้งอยู่บนถนนดินสอตัดกับถนนพระสุเมร ใกล้ถนนราชดำเนิน ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่มีอาหารให้สั่งเยอะมาก ผมแวะร้านนี้ในเช้าวันอาทิตย์ ดูข้อมูลการถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลก็เป็นช่วงเวลา 7.59 น. วันอาทิตย์ แสงแดดนอกร้านยังไม่แรงมาก โทนแสงแดดยังเป็นสีเหลืองเพราะยังเช้าอยู่ กล้องฟิล์มถ่ายด้วยโหมด P กล้องดิจิทัลถ่ายด้วยโหมด Av ตั้งค่า f2

กล้องดิจิทัลให้ภาพที่ทันใจ มีข้อมูลวันที่ต่างๆครบถ้วน ถ้าไม่มีภาพดิจิทัลที่ถ่ายเก็บไว้ ผมจะไม่รู้เลยว่าผมแวะไปร้านนี้วันไหน ถ่ายตอนกี่โมง เพราะกว่าที่จะส่งฟิล์มไปล้างผมก็ต้องรออีกนานกว่า 2 เดือนกว่าที่จะถ่ายภาพจนหมดม้วนฟิล์ม โทนสีที่สแกนฟิล์มออกมาติดไปทางแดงมากจนเกินพอดี ถ้าสแกนให้ปราณีตกว่านี้ หรือ สแกนด้วยตัวเองก็น่าจะได้สีสันที่ตรงใจมากกว่านี้ แต่ผมไม่มีสแกนเนอร์แล้ว มันเสียไปหลายปีแล้ว และยังไม่อยากซื้อใหม่

000029
IMG_5700

ลองดูภาพอีกมุม หลังจากสั่งอาหารไปแล้วก็นั่งรอ ลูกเบื่อก็เลยขอวาดรูปเล่น พอวาดไปสักพักจนเพลินๆ ผมก็หยิบกล้อง contax T3 ขึ้นมาถ่ายภาพ โดยเจตนาถ่ายให้เหมือนกับเป็นนักท่องเที่ยว คือเปิดกล้อง เล็ง แล้วถ่ายเลย กล้องก็ยิงแฟลชให้ทันที เพราะค่ามาตรฐานของกล้อง T3 จะเป็นแฟลชระบบ auto เมื่อเจอสถานการณ์แสงน้อย หรือ ย้อนแสง กล้องเปิดแฟลชให้เสมอ หากเราไม่ต้องการแฟลช เราจะต้องกดปุ่มปิดแฟลชทุกครั้งที่เปิดกล้อง นี่เป็นจุดน่ารำคาญของกล้อง T3 ซึ่งแม้แต่ Minilux ก็น่ารำคาญยิ่งกว่าเรื่องปิดแฟลช

ส่วนภาพจากกล้องดิจิทัล eos m ติดเลนส์ 22f2 โหมดถ่ายภาพตั้งเป็น P กล้องเลือกรูรับแสงที่ f4 ให้ ก็ให้ภาพได้สวยงาม นุ่มนวล เก็บบรรยากาศได้ดี ดูผ่านๆแล้วดีกว่า T3 เสียอีก แน่นอนว่าเป็นเพราะกล้องดิจิทัลออกมาทีหลัง เลนส์ติดกล้องก็เป็นเลนส์ฟิกส์คุณภาพสูง ระหว่างสองภาพนี้ ผมยังรู้สึกว่ากล้องดิจิทัลให้ภาพที่ดีกว่า ชอบภาพจากกล้องดิจิทัลมากกว่า

มุมรับภาพของ T3 เป็นเลนส์ 35มม ส่วนมุมรับภาพของ eos m + 22f2 ก็เทียบเท่ากับ 35 มม. ซึ่งมันเป็นช่วงเลนส์ที่เทียบเท่ากันได้ ยิ่งหากถ่ายด้วยโหมด P ด้วยกันทั้งคู่แล้วจะใช้ตัวไหนก็ได้ จะ T3 หรือ eos m1+22f2 ก็พอกัน ในระยะยาว T3 จะรอวันพัง ส่วน eos m ยังไม่รู้ว่าจะพังเร็วหรือช้า แต่ราคามือสองของ eos m รุ่นแรกหาได้ในงบไม่เกิน 3000 บาท แต่ที่แน่ๆ สามารถอัพเกรดบอดี้ให้ใหม่ขึ้น ความคมชัดของดิจิทัลจะสูงขึ้นไปอีกตามคุณภาพของบอดี้ใหม่ๆ ภาพนี้ดีขึ้น คมชัดมากขึ้น ถ้าเปลี่ยนกล้องเป็น eos m5 ที่ความละเอียดสูงขึ้นและให้ไฟล์ภาพที่ดีกว่าแน่นอน

อีกมุมหนึ่งที่จะใช้เป็นมุมทดสอบได้บ่อยก็คือ การถ่ายภาพลูกกำลังหลับอยู่ที่เบาะแถวสองในรถของผมเอง จังหวะที่ลูกหลับอยู่ แล้วได้จอดรถอยู่นิ่งๆ มีกล้องอยู่ในมือก็จัดการถ่ายภาพเก็บไว้ และวันนี้ก็มีทั้ง contax T3 กับ eos m + 22f2 ก็ลองถ่ายทั้งสองตัว ได้ภาพมาดูตามนี้

000046
contax T3 + fuji c200

IMG_5790
eos m + 22f2

มุมที่รับภาพใกล้เคียงกันมาก ตัวคนในภาพก็มีขนาดสูสีกัน มีเพียงบุคลิกสีเท่านั้นที่แตกต่างกัน จะบอกว่าฟิล์มให้ภาพดีเท่าดิจิทัลก็ได้ หรือดิจิทัลเลียนแบบฟิล์มก็พอไหว มันเกิดจากการพยายามถือกล้องให้นิ่ง และปราณีตกับการโฟกัสให้ตรงจุดที่ต้องการ ส่วนการวัดแสงก็ปล่อยให้ระบบของกล้องทำงานไปตามที่ถูกออกแบบมา สองภาพนี้สำหรับผมถือว่าสมบูรณ์ในแง่การบันทึกภาพ จะให้ใช้ตัวไหนก็ได้รู้สึกเข้ามือทั้งสองตัว ข้อดีของ contax T3 คือ เล็กและเบา ข้อดีของดิจิทัลคือประหยัดเงิน หากคุณจะเลือกใช้ เหตุผลใดสำคัญกว่าก็เลือกไปตามเหตุผลของตัวเอง ใครเน้นประหยัดไปดิจิทัล ใครเน้นเล็กและพกพาแทบไม่เป็นภาระก็ไป contax T3 ได้เลย

ในยุคปัจจุบัน ปี พศ 2562 นี้ การยกกล้องฟิล์มขึ้นมาถ่ายใครสักคน คุณจะได้ความสนอกสนใจอย่างเหลือเชื่อ คุยกับเด็ก เด็กก็จะสงสัยกล้องอะไรถ่ายแล้วไม่มีภาพ แต่ก็จะตั้งท่าเป็นนายแบบให้ แล้วถามว่าจะได้ดูภาพตอนไหน เพราะเป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย เด็กยุคนี้โดยเฉพาะเด็กอนุบาลถึงประถมมัธยมจะรู้จักแต่การถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์และกล้องดิจิทัล คุยกับวัยรุ่น วัยที่เพิ่งจบออกมาทำงานเขาก็จะทักว่า เท่ห์ดีนะ คุยกับคนวัยกลางคนหรือคนที่เคยจับฟิล์มเคยใช้กล้องฟิล์มมาบ้างคนกลุ่มนี้ก็จะรู้สึกโอ้โห ยังใช้อยู่เหรอ มันดีกว่าเหรอ เจ๋งดีนะ แต่เปลืองนะ ส่วนคนวัยดึกรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็จะสงสัยว่าจะไปล้างฟิล์มที่ไหน เมื่อไหร่จะได้ดูภาพ สรุปว่า แต่ละคนจะมีปฏิกิริยากับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มไม่เหมือนกันเลย

ลองกลับไปย้อนอ่านรีวิวกล้อง eos m กับ contax T3

เปลี่ยนหลอดไฟหน้า honda freed

หลายวันก่อนได้เห็นว่าไฟหน้าดับไปหนึ่งข้าง ไฟสูงยังติดอยู่ แต่ไฟหน้าต่ำไม่ติดแล้ว ก็เลยหาข้อมูลว่าฮอนด้าฟรีดใช้หลอดไฟรุ่นอะไร ก็ได้คำตอบว่ารุ่น H4 หาในเน็ตหลายที่ก็เจอแต่ราคาขายหลอดไฟ H4 แบบ LED ดูใน lazada ไม่เจอหลอดแบบธรรมดาเลย ในคลับฟรีดก็มีการแนะนำหลายครั้งว่าให้ใช้ LED ของฟิลิปส์ ราคาประมาณ 9xx บาท

IMG_20190506_153259
หลอดเก่าที่ขาดยี่ห้อ philips รุ่น H4 12342 LL 12v60/55w

ผมไม่ชอบ LED ที่ใช้ในรถยนต์ เพราะมีประสบการณ์แย่ๆมาว่าเคยลองเปลี่ยนไฟท้ายเป็น LED แล้ว อายุการใช้งานต่ำมาก ใช้ได้ไม่กี่วันก็พัง จนต้องไปหาหลอดไฟโบราณหรือหลอดไส้ปกติมาใช้ รอบนี้ก็เลยคิดแล้วว่าจะไม่ใช้ LED เลยหาข้อมูลว่ามีใครขายบ้างโดยไปหาใน marketplace ของเฟสบุ๊ค

วิธีการหาก็พิมพ์ว่า หลอดไฟ h4 แล้วก็ดูว่ามีใครขายแบบราคาถูกๆบ้าง ก็จะพบว่ามีราคาตั้งแต่ 100 บาท ไปถึง หลายร้อยบาท ราคาแพงก็เป็น LED ทั้งหมด ส่วนของถูกก็เป็นหลอดโบราณแน่นอน ผมเลือกภาพหลอดฟิลิปส์ และพิมพ์ภาพที่พบของฟิลิปส์ออกมา ให้ลูกน้องขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อ ปรากฏว่ายี่ห้อนี้ไม่มี มีแต่ osram ราคาหลอดละ 90 บาท เลยให้ซื้อมา 2 หลอด

ดูวิธีเปลี่ยนในเน็ต ไม่มีตัวอย่างตรงกับฟรีด เจอใน youtube ที่เป็นการเปลี่ยนหลอดไฟ honda city 2015 ก็เดาว่าคงเหมือนกัน เลยจำวิธีแล้วจัดการเปลี่ยนเอง

IMG_20190506_153220

ไฟหน้าของฮอนด้าฟรีดข้างซ้ายและขวามีความยากในการเปลี่ยนไม่เหมือนกัน เพราะไฟขวาจะเปลี่ยนง่าย ไฟซ้ายจะเปลี่ยนยาก ผมนับซ้ายและขวาจากมุมมองคนขับนะ ไฟซ้ายมีอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งบังไว้ แปลว่า มือที่ล้วงเข้าไปหยิบ ไปแกะ ไปจับสิ่งต่างๆต้องใช้ความรู้สึกทั้งหมดเลย เพราะมองเห็นเพียงน้อยนิด หลอดเก่าที่ขาดคือหลอดยี่ห้อ philips รุ่น H4 12342 LL 12v60/55w

IMG_20190506_153213

หลอดใหม่ที่ซื้อมาคือ Osram p43t64193472 12v 60/55w ตัวเลขจะเยอะไปไหน หลังจากล้วงๆแกะๆอยู่พักใหญ่ เหงื่อตกไปหลายหยด โชคดี ผมทำได้ จบการเปลี่ยนไฟหน้าด้วยดวงที่ดี ไม่มีชิ้นส่วนไหนที่แตกหักเสียหาย ไม่มีของทำเกิน สรุปว่า เปลี่ยนไฟหน้าฮอนด้าฟรีด ทำได้ด้วยตัวเอง และหลอดไฟยี่ห้อ osram H4 ราคาหลอดละ 90 บาท ซื้อจากร้านข้างถนน

ปล ควรเตรียมไฟฉายไว้ด้วย เพราะพื้นที่ในห้องเครื่องมืด มองยาก ไฟฉายที่ฉายลงไปยังจุดที่ต้องทำงานเป็นสิ่งจำเป็น

เปลี่ยนกรองแอร์ฟรีด honda freed 27jan2019

กรองแอร์หน้าตาแบบในภาพ ผมเอาไปลองทำระบบกรองฝุ่นเล่นๆ ก่อนที่จะเอามาใส่ในรถเพื่อเปลี่ยนไส้กรองอากาศของระบบแอร์ในฟรีด

IMG_4958

กรองแอร์ หรือกรองอากาศของระบบแอร์ในรถเป็นสิ่งที่ควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน เนื่องจากฝุ่นจะสะสมมากจนเกิดเป็นสีดำ  หากเราเอาของเก่าใช้งาน 6 เดือน มาวางเทียบกับของใหม่แกะกล่อง เราจะเห็นความแตกต่างอย่างน่าตกใจ

P_20141108_140051

ภาพเก่าที่เคยถ่ายเปรียบเทียบไว้

 

freed โดนชนท้าย ประสบการณ์เคลมประกัน

IMG_4913

ขับรถมายี่สิบปีผมเพิ่งประสบเหตุโดนรถชนท้ายครั้งแรกเมื่อวานนี้  ซึ่งที่ผ่านมารถคันเก่าและคันปัจจุบันผมทำประกันชั้น 1 มาตลอดและไม่เคยเคลมเลยสักครั้ง  ไม่เคยทำสีรถ ไม่เคยชนใคร  แต่เมื่อวานก็เจอเรื่องโชคร้ายที่ต้องเป็นคนโดนชน

 

IMG_4919

บนถนนรถติดๆ ค่อยๆวิ่ง  ผมขับรถกลับบ้าน และรถค่อยคลานไปตามทาง อยู่ๆก็มีแรงกระแทกที่ด้านท้าย ผมก็รู้ได้ทันทีว่าโดนชนท้ายแล้ว ผมเหลือบมองดูนาฬิกา ตอนนี้ประมาณหนึ่งทุ่ม  ผมจะต้องไปยืนรอประกันสักกี่นาทีกันนะ  แล้ววันนี้ผมจะถึงบ้านกี่โมง

 

IMG_4915

ลงจากรถพร้อมโทรศัพท์มือถือ  เดินไปถ่ายรูปทะเบียนหน้ารถ และป้ายต่อภาษีของรถที่มาชนผม  แล้วก็โทรหาเพื่อนที่ขายประกันรถให้ผม เขาก็แนะนำขั้นตอนต่างๆ  ก็เลยโทรเข้า callcenter  แจ้งเหตุ แล้วรอเจ้าหน้าที่  รถอีกฝ่ายก็เรียกประกันของตัวเอง   ผมโทรบอกที่บ้านว่าจะกลับช้า ภรรยาผมถามว่าเคลมประกันเป็นไหม  เพราะเขารู้ว่าผมไม่เคยเคลมประกันเลย  ภรรยาให้กำลังใจ แล้วก็วางสายไป

 

IMG_4916

คนขับที่ชนรถผมเขาก็ลงมาขอโทษ ผมก็ไม่ว่าอะไร พยักหน้าแล้วเดินแยกไปคุยกับประกันในสาย  รอประมาณ 30 นาทีเจ้าหน้าที่ก็มาถึง กรอกเอกสาร แล้วก็ให้ใบเคลม แล้วก็แยกย้าย ผมก็งงๆ  แล้วก็ขับรถกลับบ้าน พร้อมรอยถลอกจากป้ายทะเบียนฝังเพชรของรถคันหลัง

 

IMG_4917

ตอนเช้าสว่างแล้วผมก็ค่อยมาถ่ายภาพรอยแผลซ้ำอีกรอบ  เดี๋ยวคงต้องไปตระเวณหาอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัยว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลาสักแค่ไหน แผลเล็กๆ รถยังวิ่งได้ แต่ก็ต้องส่งทำเพราะมันต้องทำ

 

IMG_0136

“ขอโทษนะคะ  ก้มหน้าไปนิดนึงแล้วเงยขึ้นมาก็ชนเลย”  นี่คือคำพูดที่คนชนบอกกับผม  ผมก็เงียบๆ ยิ้มแล้วแยก ผมไม่อยากคุยเยอะ  ผมก็เดาว่าเขาก็คงกำลังมองโทรศัพท์มือถือตอนขับรถนี่แหละ  โชคร้ายมากที่ผมต้องอยู่บนถนนกับคนใช้มือถือตลอดเวลา  เหตุการณ์นี้ผมก็เตือนตัวเองว่า อย่าละสายตามาดูโทรศัพท์ตอนรถวิ่งเด็ดขาด จะได้ไม่สร้างปัญหาให้คนอื่น

 

ผมเริ่มคิดถึงกฏหมายลงโทษคนใช้มือถือระหว่างขับรถ   จริงๆผมไม่ได้อยากได้กฏหมาย แต่อยากได้ลูกเล่นโทรศัพท์ที่จะไม่ทำงานถ้ามันเคลื่อนที่  ผมว่าทำได้นะถ้าจะทำ

 

ธุรกิจอู่ซ่อมรถก็กำลังจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น 1 คน  ผมรู้สึกว่าธุรกิจอู่ซ่อมน่าจะเป็นอีก 1 ธุรกิจที่ยังคงอยู่ได้ดี ยังไม่โดน disruption จากการเติบโตของอินเทอเน็ต  ผมดูจากการซื้อการใช้งานของผมเอง  อย่างเช่น ผมซื้อ gadget ซื้อสินค้าไอทีจากเว็บขายของแล้ว แทนที่จะไปซื้อที่ห้างแบบหลายปีก่อน  ธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ผมทำอยู่ก็มีคนพิมพ์ใบปลิวน้อยลงจากแต่ก่อนที่คนเริ่มธุรกิจจะคิดเรื่องใบปลิวก่อน แต่ปัจจุบันเขาคิดถึงช่องทางโฆษณาในอินเทอเน็ตก่อน  ธุรกิจขายแผ่นหนัง แผ่นเพลง โดนอินเทอเน็ตตีตายมานานแล้วและหลายคนหันไปจ่ายเงินให้กับบริการ stream จากค่ายหนัง เหมาจ่ายเป็นรายเดือน   คนฟังเพลงไม่ต้องไปซื้อแผ่นแท้แพงๆ อินเทอเน็ตทำให้แผ่นผีระบาด  เพลง mp3 เกลื่อนเมือง  และในที่สุด อินเทอเน็ตก็ฆ่าแผ่นผีเองด้วย มีบริการเหมาจ่ายรายเดือนแค่ร้อยกว่าบาทฟังได้ทุกเพลง  ถูกยิ่งกว่าซื้อแผ่นเพลงห่วยๆ 1 แผ่นในอดีตเสียอีก

 

ธุรกิจอู่ซ่อม  ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ ผมเชื่อว่ายังคงอยู่ได้  เพราะอินเทอเน็ตไม่สามารถเสนอบริการที่ดีกว่า ประหยัดกว่าเพื่อจะทำให้รถที่เสียกลับมาใช้งานได้  ยังคงต้องมีการซ่อมบำรุงโดยช่าง  การทำสีรถ  การซ่อมส่วนที่แตกหักเสียหาย ซ่อมเครื่องยนต์  ซ่อมช่วงล่าง เปลี่ยนยาง สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่อีกนาน  แม้ว่าต่อไปรถจะไม่ต้องเติมน้ำมัน แต่ชิ้นส่วนที่เสื่อมและเสียหายจากการชนก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

 

ผมลองติดต่อบริษัทแม่เพื่อถามรายชื่ออู่ที่ใกล้บ้านผม บริษัทบอกให้ผมไปดูในเว็บ  ซึ่งในเว็บบริษัทไม่มีข้อมูลนี้ หรือผมหาไม่เจอก็ไม่รู้ได้  ผมไปเจอรายชื่ออู่จากรีวิวในพันทิป ในเว็บอื่นๆที่พูดถึงการเคลมประกัน  ผมได้อ่านฟีดแบ็คเรื่องอู่ห่วยๆด้วย  ผมว่าบริษัทแม่ไม่ฉลาดเลยที่จะปล่อยให้ลูกค้าไปหาข้อมูลเอง  เพราะเขาจะไปเจอข้อมูลที่ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทแม่แน่นอน

2018-12-28_08-33-22

ผมซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านเพจนี้ https://www.facebook.com/polarbearbkk/
นอกจากการติดต่อที่ง่าย โทรไปก็รับสายตลอดแล้ว  ยังได้รับการปรึกษาแนะนำเรื่องขั้นตอนการเคลม และแนะนำอู่ใกล้บ้านให้ผมได้อีกด้วย  ราคาที่ผมจ่ายก็ไม่ได้แพงไปกว่าเดิมที่ผมเคยซื้อกับบริษัทใหญ่ๆ  คนขายประกันบอกว่า เขาทำราคาต่ำที่สุดไม่ได้หรอก แต่เขาเพิ่มบริการอื่นๆที่มีประโยชน์ให้  อย่างเช่นการอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทำแทนลูกค้าได้เมื่อเกิดเหตุ   อย่างเช่นการหาอู่ หาร้านซ่อม  ซึ่งการซ่อมรถเราต้องการอู่มากมายหลายความถนัด ช่วงล่างทำที่ไหน  เบรกต้องร้านไหน เครื่องยนต์ต้องอู่ไหน ซ่อมสี กระจก แอร์ ความร้อน พวกนี้แต่ละอู่เก่งไม่เท่ากัน  ลูกค้าอย่างผมก็อาศัยนำแนะนำจากคนขายประกันนี่แหละครับ

 

เปลี่ยนโช้ค honda freed 217000 กิโลเมตร

2018-12-14_02-01-28

ฮอนด้า ฟรีด ใช้งานมายาวนาน ระยะทางที่หน้าจอระบุ 217000 กิโลเมตร เพิ่งจะเปลี่ยนโช้ค จริงๆมันก็คงเสื่อมมานานแล้ว แต่ก็ทนใช้มาได้เรื่อยๆ อาจจะเพราะชิน อาจจะเพราะมัวแต่ขับไปโน่นนี่นั่นไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพรถสักเท่าไหร่ จนวันหนึ่งภรรยาบ่นว่าทำไมรถมันเด้งขนาดนี้ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อ้อ มันน่าจะโช้คพังแล้ว

รถคันเก่าผมใช้ประมาณ 5 ปีก็เปลี่ยนโช้คทีนึง ส่วนคันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 9 มันควรจะพังมาสักหลายปีแล้วแต่ไม่ได้รู้ตัว เท่าที่สืบจากอินเทอเน็ต คนใช้ฟรีดนิยมจะอัพเกรดโช้คเป็นยี่ห้อ kayaba new sr ซึ่งราคาตลาดอยู่ที่ประมาณเกือบ 2หมื่นบาท แต่ผมเสียดายเงินไม่อยากจ่ายเยอะ และเป็นคนขับรถไม่เร็วด้วยเลยไม่คิดจะจ่ายระดับนั้น ไปถามราคาที่ศูนย์ ศูนย์ก็แจ้งราคามารวมค่าแรงกันแล้วเกือบสองหมื่นเหมือนกัน หน้ามืดแน่ๆเลย ก็เลยถอยก่อน เดี๋ยวหาของย่อมเยาใช้ดีกว่า

แล้วมีเพื่อนแนะนำร้านยางร้านช่วงล่างใกล้ๆที่ทำงานผม ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า รอบที่แล้วที่เปลี่ยนยางก็เปลี่ยนร้านนี้แหละ ราคาถูกดี และคุณภาพของก็ไม่ได้แย่ ก็เลยโทรคุยและแจ้งว่าอยากเปลี่ยนโช้ค รถฮอนด้าฟรีด อยากได้ของถูก เจ้าของร้านใจดีก็เลยแนะนำตัวนี้ให้ Valeo ค่าของรวมค่าแรงประมาณ 7พัน ก็เลยสั่งไปทางโทรศัพท์ว่า ตกลง เดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยน

2018-12-14_02-44-50

อีกครึ่งชั่วโมงผมก็อยู่ที่ร้าน ส่งรถเสร็จก็ซื้อกาแฟสดแก้วนึงแล้วนั่งแท็กซี่กลับบ้าน ค่าใช้บริการ grabcar เรียกรถจากร้านกลับมาโรงพิมพ์ ค่ารถ 80 ได้ส่วนลดโปรโมชั่น 50 บาท จ่ายเอง 30 บาท และอีก 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ใช้ grabcar อีกรอบ จ่ายเอง 30 บาท ถูกกว่าแท็กซี่ทั่วไปอีกนะสำหรับการนั่งใกล้ๆ และได้รถใหม่ ได้คนขับสุภาพ

รถเก่า 9 ปี กับโช้คใหม่ทั้ง 4 ต้น ความรู้สึกคือ นิ่มดี นุ่มนวล รถวิ่งผ่านลูกระนาดก็ไม่สะเทือนมาก เนินหลังเต่าในซอยก็ไม่สะท้านเหมือนเดิมแล้ว ขึ้น ลง ยุบแล้วหยุด ใช้ได้เลย มีความรู้สึกว่ารถลอยอยู่เหนือพื้น ไม่ได้กลิ้งลากไปกับพื้นถนนแบบเดิม ความนุ่มราบเรียบคล้ายกับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องที่มีระบบกันสั่น มันสมู๊ทไม่กระโตกกระตากแบบกล้องเก่าๆ ผมยังไม่รู้ว่า Valeo รุ่นที่ร้านเลือกให้เป็นโช้คตรงรุ่นสำหรับฟรีดไหม เพราะพยายามหาข้อมูลก็ไม่พบเลยว่ามันเคยขายให้ฟรีดคันไหน แต่ก็คิดว่ามันคงพอใช้ได้แหละ เลยลองเสี่ยงเปลี่ยนดู เพราะนิสัยการขับรถของผมถือว่าเป็นคนขับรถช้า ขับรถไปหัวหินจากย่านฝั่งธนผมใช้เวลา 2.5-3 ชั่วโมง รถติดบ้าง รถวิ่งช้าบ้าง ไม่แซงบ้าเลือด เหมือนสมัยอายุ 25 ที่ตอนนั้นใช้เวลาในเส้นทางเดิมแค่ 90 นาทีก็ถึง

ไปรับรถที่ทำเสร็จ จ่ายเงินด้วยมือถือส่อง qr code ของร้าน สังคมไร้เงินสดพร้อมแล้วสำหรับคนไทย ธนาคารเดินเท้าเข้าไปวาง qr code ให้ร้านค้า ร้านขายยาสามแห่งที่ผมเคยซื้อมี qr code สำหรับจ่ายเงินทั้งหมด

จัดแสงในรถเพื่อถ่ายภาพสินค้า

ผมมักจะต้องการถ่ายภาพสิ่งของหรือสินค้า หรือ ชิ้นงานบางอย่างอยู่บ่อยๆ  ถ้ามีเวลาก็จะใช้กล้องและชุดไฟและเต๊นท์ถ่ายภาพสินค้าเพื่อหวังผลให้ภาพสวยงามดังใจ  ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดของผมก็อยู่กระจัดกระจาย กล้องอยู่ในรถ  ไฟแฟลชใหญ่อยู่ที่บ้าน  กล่องหรือเต๊นท์ถ่ายภาพอยู่ที่บ้าน  หากผมอยู่ที่โรงพิมพ์หรือที่ทำงาน ผมก็จะไม่ได้ใช้ชุดไฟที่ใช้ประจำ

 

ผมมีไฟชุดเล็กที่ใช้แฟลช nikon sb26 เป็นแฟลชเพื่อใช้ถ่ายสินค้า  พร้อมด้วยอุปกรณ์ trigger หรือตัวส่งสัญญาณยิงแฟลชไร้สาย  ซึ่งแฟลชและทริกเกอร์ผมก็พกติดอยู่ในกระเป๋ากล้อง ส่วนกล้องก็ติดเลนส์มาโครไว้แล้ว กล้องผมใช้ eos 6d เลนส์มาโครใช้ macro 100f2.8

 

ด้วยความอยากจะรีบถ่ายของชิ้นหนึ่งแล้วไม่อยากรอกลับบ้าน  ก็เลยจัดวาง จัดแสงในรถเสียเลย

 

20181124171630_IMG_0221

 

รถฮอนด้าฟรีด เปิดท้ายรถออกมาจะเป็นช่องว่างขนาดใหญ่  เบาะหลังแถว3 หากพับที่พิงให้ราบไปกับเบาะนั่งก็จะได้ที่วางราวกับเป็นโต๊ะทำงาน  ผมเอากระเป๋ากล้องขนาดใหญ่ที่ผมซื้อเอาไว้ขนอุปกรณ์ถ่ายภาพวางบนเบาะ  เพื่อใช้วางสินค้าที่จะถ่าย  ส่วนแสงแฟลชผมก็ติดทริกเกอร์ไร้สาย  ตัวส่งสัญญาณติดอยู่บนกล้อง eos 6d ตัวรับสัญญาณเอาไปติดที่ sb26 แล้วก็หันหน้าแฟลชให้ยิงแสงขึ้นเพดานรถ ตั้งใจจะใช้แสงแฟลชสะท้อนกับเพดานรถสีเทา แล้วสะท้อนลงมายังของที่ต้องการถ่ายภาพ

20181124171622_IMG_0220

 

เลนส์มาโครตั้งค่า f เอาไว้ที่ประมณ f8 – f11 ความไวของกล้องตั้งไว้ที่ iso 800  ส่วนกำลังไฟของแฟลชผมตั้งไว้ที่ 1/4 ด้วยเหตุผลว่า ผมไม่อยากให้แฟลชยิงเต็มกำลัง  เพราะถ้าแฟลชยิงเต็มกำลังไฟจะหมดเกลี้ยง แล้วต้องรอเวลาหลายวินาทีกว่าที่แฟลชจะสะสมกำลังไฟขึ้นมาใหม่เพื่อยิงแสง  การยิงแสงแฟลชที่ 1/4 ของกำลังสูงสุด ทำให้เราสามารถยิงแฟลชต่อเนื่องได้ 4 ครั้งก่อนที่ไฟจะหมดแล้วต้องสะสมขึ้นมาใหม่  มันทำให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น  เพราะการถ่ายภาพสินค้าบางครั้งเราก็ถ่ายภาพติดต่อกันหลายครั้ง  ถ้าการถ่ายทุกครั้งต้องรอแฟลชสะสมไฟหลายวินาทีก็จะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก

 

การถ่ายวัตถุสีดำบนพื้นดำเป็นสิ่งที่เราจะคาดคะเนค่าแสงได้ยากมาก  เพราะภาพที่ถ่ายออกมาจะเป็นโทนสีดำออกเทา  ถ้ารับแสงมากก็เป็นเทาอ่อน  ถ้ารับแสงน้อยก็เป็นเทาเข้มเกือบดำ  ภาพของดำบนฉากดำก็จะออกมาเป็นแนวลึกลับ หรือ low key ก็แล้วแต่จะเรียก  ตอนเลือกค่าแสง ผมตัดสินใจใช้กระดาษขาวรองไว้ใต้สินค้า เพื่อให้ปรับรูรับแสงให้ได้ค่าแสงที่เหมาะสมจริงๆ  เพราะถ้าเราถ่ายภาพส่วนสีขาวให้ขาวเพียงพอแต่ยังไม่ล้นไปทางขาวโพลน  สิ่งของสีดำก็จะได้สีดำที่พอดี

 

20181124164519_IMG_0206

 

เมื่อได้ค่าแสงที่ต้องการแล้วก็เอากระดาษขาวรองพื้นออก ปล่อยให้สินค้าวางอยู่บนพื้นผิวกระเป๋าสีดำ แล้วก็เริ่มถ่ายภาพด้วยองค์ประกอบที่ต้องการ  ซึ่งโจทย์การถ่ายของผมในวันนี้คือไม่มีโจทย์  ขอให้เลือกค่าแสงแฟลชที่ให้แสงโดนวัตถุสีดำแล้ววัตถุยังดูเป็นสีดำอยู่  สุดท้ายก้ได้ผลงานออกมา

20181124171606_IMG_0219

สินค้าในโพสท์นี้ก็คือ หูฟังบลูทูธสำหรับการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ Xiao mi

หลอดไฟท้ายรถยนต์ LED ข้างถนนไม่ทนเลย

IMG_20180804_154132

ภาพหลอด LED ที่เสีย และถอดออกมาทิ้ง  ถ่ายวันที่ 4aug2018

นี่เป็นหลอดไฟท้ายทำหน้าที่ให้แสงสว่างตอนเปิดไฟรถยนต์เมื่อวิ่งกลางคืน และทำหน้าที่ไฟเบรกด้วยเมื่อเหยียบเบรค  หลอดดวงนี้ในรถฮอนด้าฟรีดของผมขาดบ่อย สักหกเดือนก็ขาดแล้ว  ช่างที่ศูนย์บริการบอกว่า โคมไฟท้ายรถผมมันมีน้ำเข้า ทำให้หลอดไฟเสียเร็ว  ต้องเปลี่ยนโคมไฟท้ายรถ

โคมไฟท้ายรถก็คือของฮอนด้านั่นแหละ  โคมรั่วเป็นทุกคัน  ช่างบอกมา  ผมได้แต่ด่าอยู่ในใจว่า ผมไม่ได้อยากได้โคมรั่ว ผมซื้อรถเอารถสภาพใหม่ ของดี  แต่ทำไมฮอนด้าทำโคมรั่วทุกคันให้กับลูกค้าล่ะ  เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแน่นอน

เปลี่ยนไฟท้ายฟรีด

ภาพไฟท้ายที่มีรอยแตกอยู่ด้านใน คาดว่าเป็นจุดที่ทำให้น้ำเข้าโคม ภาพนี้ถ่ายวันที่เปลี่ยนเป็นหลอด LED คือวันที่ 9jul2018

ก็เลยลองซื้อหลอดไฟจากร้านอื่นๆดู  คิดว่าหลอด  LED น่าจะทนกว่าหลอดระบบเดิม หลอด LED ขั้ว T20 ตัวนี้ได้มากจากร้านขายของแต่งรถในห้าง  ผมซื้อมาคู่ละ 490 บาท ซึ่งแพงกว่าของศูนย์มาก  และมันก็ทำงานได้ดี  แต่ดีแค่ไม่กี่วันแล้วมันก็พัง  เป็นบทเรียนที่จำแม่นเลยว่า ของข้างถนนไม่ทน สู้ของศูนย์ที่เป็นหลอดระบบเก่าก็ไม่ได้

หลอด LED ขั้ว T20 ซื้อข้างถนน ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ซื้อเปลี่ยนวันที่ 9jul2018 และถอดทิ้งวันที่ 4aug2018 ซึ่งมันเสียเปิดไม่ติดก่อนจะถอดไปหลายวันด้วยนะ  สรุปคืออายุการใช้งานประมาณ 25 วัน  ไม่ถึงเดือนพังแล้ว กำลังจะกลับไปใช้ของศูนย์สเป็คโบราณที่มันทนทานกว่ากันมากและราคาถูกกว่ามากด้วยนะครับ honda freed รถดีที่ไฟท้ายห่วย  แต่เราก็ทนใช้ได้เพราะรถมันยังคงน่าใช้

IMG_20180813_173013

หลอดใสๆในภาพบนนี้ด้านขวา 2 หลอด คือหลอด T20 ที่เป็นหลอดไส้ เป็นหลอดโบราณที่ใช้ในรถฮอนด้าฟรีด  หลอดชนิดนี้ยังมีผลิตขายอยู่  และผมก็กลับมาใช้หลอดแบบเดิม เลิกใช้ LED ในฟรีดไปแล้ว  ด้วยเหตุผลเรื่องความทนทาน

การแกะโคมไฟฮอนด้าฟรีด สามารถใช้ไขควงสี่แฉกหมุนน็อตแล้วดึงโคมออกมาเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟได้  แต่น็อตที่อยู่กับรถของผมหัวแฉกมันเยินมาก  เข้าใจว่าโดนหมุนแรงๆ โดนหมุนแน่นๆมาก่อน  สี่แฉกมันใช้งานไม่ได้แล้ว  ก็เลยต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นแท่งสามเหลี่ยมหรือตัว  Y มันจะมีวงแหวนล้อมน็อตเอาไว้ทำให้หมุนได้

IMG_20180813_174713

เจ้าเหล็กตัว Y นี้จะมีวงแหวน 3 ระดับ  ระดับที่ใช้กับโคมไฟฮอนด้าฟรีดคือเบอร์ 8  ผมซื้อที่ตลาดนัดอันละ 20 บาท  ส่วนหลอดไฟโบราณ ขา T20 ผมซื้อหลอดละ 60 บาท ร้านอะไหล่ริมถนนทั่วไป  ไม่ได้ซื้อในศูนย์  แต่ราคาในศูนย์ก็ไม่เลวร้ายนะครับ  ใครหาร้านข้างทางไม่ได้ก็แวะศูนย์ไปเถอะ

ซื้อ T20 ได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/AUa1YMgPy6

ส่วนเรื่องน้ำเข้าโคมก็มีหลายท่านในกลุ่มผู้ใช้ฟรีดพบปัญหานี้  เรียกได้ว่าฟรีดแท้ต้องน้ำเข้าโคมทุกคัน มีทางออกที่มีคนแนะนำไว้คือ เจาะรูด้านล่างโคมให้น้ำไหลออก  ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้  น้ำเข้าก็ต้องมีทางให้ออก จะได้ไม่ขังไม่ชื้นข้างใน  เดี๋ยวถ้าได้รื้อเปลี่ยนหลอดไฟอีกครั้งจะเจาะบ้างแล้ว

ซ่อมลูกปืนล้อ และเบรกหลังฟรีด freed

อาการลูกปืนล้อหลังดัง  เป็นอาการที่ช่างจากศูนย์ฮอนด้าแจ้งว่ามีเสียงดังผิดปกติ ต้องเปลี่ยน เนื่องจากถ้าใช้งานต่อไปจะมีเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนน่ารำคาญ และอาจเกิดความเสียหายตอนขับ  เสียงดังที่เกิดขึ้นจะดังจนฟังเพลง ฟังรายการวิทยุไม่ค่อยรู้เรื่องหากขับรถเร็ว  เพราะเสียงจากล้อจะดังแข่งกับลำโพงในรถ

ก็เลยให้ร้านช่วงล่างแถวบ้านเป็นคนตรวจสอบซ้ำและเปลี่ยนอะไหล่ให้  ทางร้านแจ้งว่า ลูกปืนดัง แต่ยังไม่แตก  ยังขับได้อีกสักพัก  แต่ก็ควรทำเพราะเสียงดังน่ารำคาญแล้ว  ค่าอะไหล่ลูกปืนรวมดุมล้อหลัง และ ค่าน้ำมันเบรกดรัมล้อหลัง รวมกับค่าแรง เท่ากับ 4900 บาท

2018-04-04_08-41-38

IMG_20180402_101137_1

หลอดไฟ honda freed

mh.jpg

 

1. ไฟหรี่หน้า T10 https://shope.ee/2foeYQaHhV

2.ไฟส่องป้ายทะเบียน T10

3.ไฟส่องแผนที่ แคปซูล ซ้าย-ขวา , ปี 2013 ขั้ว T10

4.ไฟตัดหมอก H11

5.ไฟหน้าต่ำ H4 https://s.shopee.co.th/4fcEbvV1ZU

6.ไฟหน้าสูง H4 https://s.shopee.co.th/4fcEbvV1ZU

7.ไฟถอย T20 เสียบ

8.ไฟหรี่เบรคหลัง T20 เสียบ https://s.shopee.co.th/AUa1YMgPy6

9.ไฟเลี้ยว หน้า-หลัง T20 เสียบ

10.ไฟห้องโดยสารกลาง แคปซูล แบบแผง

11.ไฟห้องโดยสารแถวหลัง  แคปซูล แบบแผง

เปลี่ยนกรองแอร์ honda freed 25nov2017

 

ฮอนด้าฟรีดในปีที่7 ก็ได้เปลี่ยนกรองแอร์อีกครั้ง  ครั้งนี้ของเก่าในรถถอดออกมาก็ดำปี๋ชนิดที่น่าสยดสยอง  อากาศในรถและท้องถนนมันมีฝุ่นเยอะขนาดนี้เลย  ของที่ถอดออกมาใช้งานมานานแค่ไหนผมก็ลืมไปแล้ว  แต่ก็ตั้งใจจะเปลี่ยนให้ได้ทุก 6 เดือน  รอบนี้ก็เลยสั่งกรองแอร์มาหลายชิ้น ตั้งใจจะใช้ไปอีกหลายครั้ง

IMG_0209

 

 

 

IMG_0210

ตัวไส้กรองทำจากกระดาษสีขาวจั๊วะ  แต่พอใช้งานไปเกินหกเดือนก็จะดำแบบนี้

 

P_20141108_140028

ให้ดูของใช้งาน 6 เดือน เทียบกับของใหม่แกะกล่อง

 

P_20141108_140051

กรองแอร์ที่ใช้  ซื้อเปลี่ยนเองอันละ 140 บาท  ถ้าไปเข้าศูนย์รายการนี้จะโดนเกือบพัน ไม่รู้ว่าศูนย์ใช้ยี่ห้ออะไรแต่ยี่ห้อที่ผมเลือกใช้ก็ทำงานได้ดี  ไม่ได้รู้สึกแตกต่างไปจากสมัยที่เคยใช้ของศูนย์

 

 

เช็คระยะ honda freed 200000 กิโลเมตร

ผมขับรถฮอนด้าฟรีดมา เกือบ 200000 กิโลเมตรแล้ว  การเช็คระยะครั้งนี้ก็เลยเช็คแบบ 2แสน  การเข้าศูนย์ครั้งที่แล้วทำที่ระยะ 160000 กิโลเมตร  ส่วนระยะ 170000 และ 180000 ผมทำแค่เพียงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเองที่นอกศูนย์  เพราะไปซื้อน้ำมันเครื่องแถมลำโพงมา

IMG_20180202_140719

ระยะ 200000 กิโลเมตร ฮอนด้าฟรีดยังคงใช้งานได้ดี  แต่ก็มีอาการของเสียอยู่ตามอายุ  หลังจากเข้าศูนย์เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ ล้างเกียร์ครั้งใหญ่  ช่างก็เช็คอาการรถที่ควรเปลี่ยนหลายอย่าง คือ  ดุมล้อหลังเริ่มแตก จะมีเสียงดังตอนวิ่ง   ผ้าเบรกหน้าแตก  ส่วนโช้คอัพที่ผมสงสัยว่าจะเสื่อแล้วช่างตรวจสอบแล้วแจ้งว่า โช้คกระด้าง  บอกแค่นี้ก็เท่ากับว่า ยังไม่เสีย  แค่กระด้าง….  แล้วกระด้างแปลว่าอะไรกัน

IMG_20180202_140731

ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนหลอดไฟ หัวเทียน …. อุปกรณ์ข้างเคียง โดนไป 6000 บาท  ล้างเกียร์อีก 3500 บาท  จบแค่ส่วนเช็คระยะ  ส่วนงานซ่อมอื่นๆที่ช่างตรวจให้ก็มีใบแจ้งราคามาให้ตามภาพ  ถ้าทำทั้งหมดคงต้องใช้เงินอีก 3หมื่นกว่าบาท

ฟรีด เกียร์ 200000

ต่อทะเบียนรถขึ้นปีที่8

การต่อทะเบียนรถยนต์เมื่ออายุเข้าสู่ปีที่ 8 เป็นการต่ออายุที่ต้องมีการตรวจสภาพรถเสียก่อน  การตรวจสภาพรถจะต้องไปทำที่ศูนย์ตรวจสภาพซึ่งอยู่ตามอู่รถต่างๆ  ส่วนมากจะมีป้ายขึ้นไว้ว่า “ตรอ”  หรือ ตรวจสภาพรถเอกชน  ซึ่งการตรวจก็จะใช้เวลาประมาณ 10 นาที  ค่าใช้จ่าย 200 บาท  เมื่อตรวจเสร็จจะได้กระดาษมา 1 ใบ  สิ่งที่จะต้องเตรียมไปใช้ในการตรวจสภาพก็คือ สำเนาทะเบียนรถที่ถ่ายจากเล่มคู่มือจดทะเบียน  หากไม่ได้พกสำเนา หรือ ลืมถ่ายเอกสารไว้ ก็ใช้วิธีถ่ายรูปก็ได้  เนื่องจากพนักงานตรวจสภาพจะต้องกรอกข้อมูลรถให้ตรงกับเล่มทะเบียนนั่นเอง  ตรงนี้เดาไม่ได้ ต้องลอกตามคู่มือ

เมื่อได้ใบตรวจสภาพมาแล้ว ก็ให้ใช้งานร่วมกับใบคู่มือจดทะเบียน และใบ พรบ ที่ไปซื้อจากร้านค้า หรือ ซื้อจากบริษัทประกันภัยก็ได้  การไปต่อทะเบียนที่สะดวกสำหรับผมคือ ไปที่ บิ๊กซี สาขาที่มีบริการต่อทะเบียนรถ ซึ่งจะทำได้ในวันเสาร์และอาทิตย์  ผมจำเวลาแน่นอนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไปช่วงบ่ายของวัน  ซึ่งวันนี้ผมไปทะเบียนที่บิ๊กซีสาขาบางบอน

2017-06-24_07-44-13

สรุปว่า ต้องมีเอกสาร 3 อย่างนี้เพื่อไปต่อทะเบียนคือ

1  คู่มือจดทะเบียนรถตัวจริง

2 ใบตรวจสภาพรถเมื่อรถอายุเกิน7 ปี รถผมต้องตรวจสภาพครั้งแรกในการต่ออายุเข้าสู่ปีที่8

3  ใบ พรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ใช้เวลาในการต่อทะเบียนไม่เกิน 3 นาที  และคิวก็ไม่ยาวด้วย  ผมไปยืนรอแค่คิวเดียวก็ได้ยื่นเอกสารเลย  นับเป็นความสะดวกที่ขนส่งได้จัดบริการไว้ให้ น่าชื่นชมมาก ค่าใช้จ่ายในการต่อทะเบียนปีนี้ของฮอนด้าฟรีดคือ 1150 บาท  ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากปีก่อนเสียด้วย

อ่านประกาศจากกรมการขนส่งทางบกเรื่องต่อทะเบียนในห้าง
https://www.dlt.go.th/th/public-news/view.php?_did=2312