หลักกิโล 281092 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ฮอนด้าฟรีด เพิ่งรู้ว่าราคาไม่แพง
914.85บาท รวมค่าของและค่าแรงแล้ว
หลักกิโล 281092 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ฮอนด้าฟรีด เพิ่งรู้ว่าราคาไม่แพง
914.85บาท รวมค่าของและค่าแรงแล้ว
ใช้รถยนต์มานานหลายปีแล้ว และระยะหลังก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่อู่นอก เลิกเข้าศูนย์ไปหลายปี สิ่งที่มักจะลืมเปลี่ยนก็คือกรองแอร์ที่ไม่มีใครบอกก็อาจจะลืม เพราะตราบใดที่แอร์เย็น เราก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนอะไร ซึ่งในความเป็นจริง แอร์ในรถจะมีไส้กรองอากาศที่กรองสิ่งสกปรกในอากาศตลอดเวลาที่เปิดแอร์ และไส้กรองตัวนี้จะดำเร็วมาก
ผมเปลี่ยนกรองแอร์มาหลายครั้งแล้ว และมีความตั้งใจจะเปลี่ยนทุกหกเดือน แต่บางครั้งก็ลืม รอบนี้ก็เช่นกัน จากความตั้งใจจะเปลี่ยนตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ก็เพิ่งจะมานึกได้ในเดือนมีนาคมนี้ เกินไปสองเดือน ตอนถอดไส้กรองออกมาก็วางเทียบกับของใหม่ถ่ายรูปไว้ เพื่อดูเปรียบเทียบว่าระหว่างของใช้งานมาแล้วเกือบปี กับของใหม่ สีต่างกันมาก
สีดำที่เกาะอยู่กับไส้กรองก็คือฝุ่นนั่นเอง ไส้กรองแอร์ของรถยนต์มีคุณสมบัติสามารถกรองฝุ่นระดับ PM2.5 ได้ ดังนั้น ในรถยนต์ ระบบแอร์ที่ไม่เสีย จะสามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้อยู่แล้ว ทำให้เราไม่มีความจำเป็นต้องติดเครื่องกรองอากาศอื่นๆเพิ่มเติม ใครกำลังคิดจะซื้อเครื่องกรองฝุ่นติดรถ ลองอ่านสเป็คของไส้กรองแอร์ดูสักหน่อย หลายยี่ห้อจะบอกไว้ว่าสามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้ เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องกรองให้ซ้ำซ้อน เพราะระบบในรถคือระบบกรองอากาศชั้นดีอยู่แล้ว
พอเปลี่ยนเสร็จก็เข้าเว็บช็อปปิ้ง หากรองแอร์สำหรับฮอนด้าฟรีด หรือแจ๊ส หรือ ซิตี้ ก็ได้ ใช้ตัวเดียวกัน สั่งซื้อเก็บไว้ สำหรับรอบหน้า เพิ่งเห็นราคาในเว็บว่าปัจจุบันหรือชิ้นละ 80-100 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อสักปี 2014 ผมซื้อชิ้นละ 140 บาท ราคาแข่งกันแรงมากสำหรับการขายของออนไลน์ ประโยชน์เลยตกเป็นของลูกค้า คิดๆดูแล้ว เริ่มอยากขายของออนไลน์บ้างเหมือนกันนะเนี่ย พอซื้อของเสร็จ ก็ตั้งปฏิทิน อีก 6 เดือนให้เตือนเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่ด้วย
338 hits
ปกติการเสียภาษีรถยนต์ หรือผมมักจะเรียกการต่อทะเบียนรถประจำปีผมจะทำทุกช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยระยะหลังผมจะต้องไปตรวจสภาพรถยนต์ก่อน แล้วค่อยนำเอกสารตรวจสภาพ พร้อมใบ พรบ และสมุดทะเบียนรถ ไปยื่นเสียภาษี ผมเลือกไปยื่นเสียภาษีที่จุดบริการในห้างบิ๊กซี บางบอน เพราะคนน้อย คิวไม่ยาว และทำแบบนี้มาทุกปีซึ่งสะดวกมากๆ
แต่ว่าพอมีการระบาดของโควิด ทำให้ระบบการทำงานของจุดบริการต่อทะเบียนถูกยกเลิกไปบางช่วงเวลา ในปีที่แล้ว ปี คศ 2020 ซึ่งเป็นปีที่โควิดระบาดเต็มรูปแบบ หลายหน่วยงานยกเลิกการทำงาน เพราะต้องป้องกันการติดเชื้อ ผมเลยต้องไปยื่นเสียภาษีที่กรมการขนส่งแถวตลิ่งชัน ก็ได้ประสบการณ์การขับรถแบบไดร์ฟทรูเข้าไปเสียภาษี คิวก็ยาวพอทน ใช้เวลาตั้งแต่ขับรถเข้าไปต่อคิว จนจบได้จ่ายเงิน ประมาณ 1 ชม. เพราะรถเยอะมาก
ส่วนปีนี้ ค.ศ 2021 โควิดยังระบาดไม่เลิก และมีทีท่าว่าประเทศไทยจะยับเยินยิ่งกว่าปีที่แล้ว การต่อภาษีที่จุดบริการในห้างก็ยกเลิกไป ก่อนจะไปห้าง ผมได้เช็คในเว็บแล้วข้อมูลก็บอกว่ามีบริการในห้าง ที่เดิม เวลาทำการเหมือนเดิม แต่พอไปก็ไม่มี ก็ไม่ได้แปลกใจเพราะว่าหลายหน่วยงานก็ยกเลิกดื้อๆได้อยู่แล้ว ปัญหาโควิดมันใหญ่เกินกว่าจะมาดื้อเปิดจุดบริการแล้วปล่อยให้เจ้าหน้าที่ติดเชื้อ
ปีนี้ ผมตรวจสภาพรถจ่ายไป 200 บาท ได้เอกสารมาใบนึง แต่ในห้างไม่เปิดให้บริการ ก็เลยลองเข้าไปเสียภาษีรถยนต์แบบ online ดู ก็ได้ความรู้ไปอีก 1 อย่าง เว็บกรมการขนส่งทางบกเปิดให้เสียภาษีรถยนต์ได้ เราต้องสมัครสมาชิก แล้วก็จะได้รหัสทางอีเมล แล้วหลังจากนั้นก็ login เข้าระบบ ไปกรอกข้อมูลของรถยนต์ที่จะเสียภาษี สิ่งสำคัญที่ต้องกรอกก็คือทะเบียนรถ หมายเลขกรมธรรม์ของพรบ คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ส่วนข้อมูลการตรวจสภาพรถไม่ได้ใช้ แต่คาดว่าระบบน่าจะไปดึงเอาจากฐานข้อมูลได้เอง เพราะเป็นฐานข้อมูลที่กรมการขนส่งฯสามารถเข้าถึงได้อยู่แล้ว และยังต้องกรอกชื่อที่อยู่สำหรับส่งเอกสารการต่อทะเลียนกลับมาด้วย เมื่อกรอกทุกอย่างเสร็จก็จะมีระบบโอนเงิน ผมเลือกจ่ายโดยการใช้บัตรเครดิตแบบ virtual ซึ่งเป็นบริการของธนาคารกสิกร ส่วนใครมีบัตรเครดิตตัวจริงก็ใช้บัตรจริงจ่ายได้
เมื่อจ่ายเงินแล้ว ก็รออยู่ที่บ้านประมาณ 3 วันทำการ ก็มีเอกสารส่งมาให้ทางไปรษณีย์ ภายในคือ ป้ายสี่เหลี่ยมแสดงวันหมดอายุ 2565 และใบเสร็จรับเงิน สรุปคือ การจ่ายภาษีรถยนต์ online ทำได้จริงๆและสะดวกดี ส่วนเล่มสมุดทะเบียนจะไม่ได้ถูกพิมพ์ในเล่มว่าเราจ่ายภาษี ตรงนี้ผมยังไม่รู้ว่ามันจะต้องทำยังไงต่อไป แต่คิดว่าหากโควิดสงบ หรือ หมดไปจากประเทศแล้ว ผมก็จะเอาเล่มสมุดทะเบียนรถไปให้หน่วยงานของขนส่งช่วยพิมพ์อัพเดทให้ให้ว่าเราจ่ายภาษีไปแล้ว ยอดเงินภาษีรถยนต์ฮอนด้าฟรีดปีนี้ผมจ่าย 822.75 บาท รถผมเป็นฟรีด2010 ครับ
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องฮอนด้าฟรีด หลักกิโล 265994
หลักกิโลเมตร 265994 เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ร้านเดิม แต่ครั้งนี้ไม่ได้เตรียมน้ำมันเครื่องไปด้วย ก็ให้ร้านเลือกใช้น้ำมันเครื่องของร้านเองเลย ย้อนดูบิลที่ออกจากร้านแห่งนี้ พบว่า ตอนที่นำน้ำมันเครื่องมาเองก็จะมีค่าแรงในบิลด้วย แต่ถ้าใช้น้ำมันเครื่องของที่ร้าน ร้านก็จะไม่คิดค่าแรง ซึ่งเราก็ยังมีสิทธิ์เลือกว่าจะใช้น้ำมันเกรดไหน ครั้งนี้ผมจำไมไ่ด้ว่าเลือกน้ำมันเครื่องแบบไหน มันราคาแค่ 750 บาท ซึ่งเมื่อครั้งที่แล้ว ผมคงเลือกน้ำมันเกรดสูงกว่าปกติ บิลครั้งที่แล้วมีค่าน้ำมันเครื่องสูงถึง 1500 บาทเลย
คลิปรวม
ดูเหยี่ยว จังหวัดตราด
เปลี่ยนแบตวันที่ 26กันยายน2563 หลักกิโล 253379กม.
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถฮอนด้าฟรีดรอบนี้มีความตื่นเต้นกว่าครั้งอื่นๆที่ผ่านมา เพราะว่าแบตไปออกอาการหมดที่นอกบ้าน ไปหมดที่ไกลจากบ้านมากๆ บ้านผมอยู่ฝั่งธน แต่วันนี้พาลูกมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่รังสิต คลองห้า
ระหว่างที่จอดรถรอลูกทำกิจกรรมทั้งวัน ผมก็เลือกจอดรถในที่มีร่มไม้ และนั่งฟังเพลง เล่นเน็ตในรถไปเรื่อยเปื่อย เปิดประตูให้อากาศถ่ายเท และเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง มุมแดดก็ค่อยๆเปลี่ยนส่องโดนตัวรถ เลยจะย้ายที่จอด อาการรถก็คือปิดประตูไม่ได้ คาดว่าแบตต่ำจนประตูไม่ทำงาน และสตาร์ทรถไม่ติด แต่อาการไม่ติดรอบนี้ไม่ได้เป็นแบบ แชะ แชะ แชะ แล้วเงียบราวกับไม่มีแบต แต่เป็นแบตที่สตาร์ทไม่ได้ แล้วมีเสียง แต๊กๆๆๆๆๆๆๆ ยาว ซึ่งเสียงแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินจากรถเลยตั้งแต่ใช้งานมา
ด้วยความไม่แน่ใจกับอาการเสียงแบบนี้ กลัวว่าจะเป็นอาการไดสตาร์ทเสีย หรือ เครื่องยนต์มีปัญหา ระบบไฟมีปัญหา ก็เลยไปโพสถามในเฟสบุ๊ค กลุ่ม freedloverthailand หลายความเห็นก็ตอบว่าแบตหมด แบตเสื่อม ซึ่งทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองโทรไปที่ศูนย์ฮอนด้านที่อยู่ใกล้ๆรังสิตคลองห้า ทางศูนย์ก็บอกว่า ต้องลากรถเข้าศูนย์ และจะมีคิวตรวจได้วันจันทร์ ซึ่งวันนี้คือวันเสาร์ กว่าจะได้ตรวจแล้วก็รอคิวซ่อมต่อไป ผมก็มึนๆ จะให้ส่งรถที่ศูนย์ย่านรังสิต แล้วกลับบ้าน แล้วกลับมารอผลตรวจ มารอซ่อม เสียเวลาน่าดู
โทรเข้าเบอร์ call center ของฮอนด้าที่ให้บริการช่วยเหลือ 24ชม. โทรแล้วไม่ติด หมดศรัทธาไปพักใหญ่เลย หลังจากที่เพื่อนในเฟสให้ความเห็นว่าแบตเสื่อม แบบนี้ง่ายเลย เพราะโทรหาร้านแบตที่วิ่งส่งวิ่งเปลี่ยนนอกสถานที่ก็จบแล้ว จัดการหาเบอร์โทร แล้ว google ก็หาเบอร์โทรร้านแบตให้ผม โทรไปแจ้งรุ่นรถ และสถานที่ ทางร้านก็บอกขอเวลา 1 ชม. จะส่งคนไปเปลี่ยนให้ ราคาแบต 1500 บาท
ช่างขี่มอเตอร์ไซด์มาตามนัดในอีก 1 ชม. ผมถามว่าร้านอยู่ที่ไหนช่างบอกอยู่ดอนเมือง ตรงไหนของดอนเมืองผมก็ไม่รู้จักหรอก แต่ถ้ามาจากสนามบินดอนเมืองก็ไกลน่าดู ช่างจัดการเปลี่ยนแบต ตรวจวัดค่าด้วยมิเตอร์ ตรวจหาไฟรั่ว แล้วสรุปให้ว่า ไฟไม่รั่ว ระบบไฟปกติ ผมเปิดดูข้อมูลการเปลี่ยนแบตครั้งที่แล้ว พบว่า เปลี่ยนไปเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 14 เดือน ก็คือปีนิดๆเอง แต่แบตก็เสื่อมแล้ว แล้วแบตรุ่นที่ถูกเปลี่ยนออกก็มีตาแมวให้ดูสภาพแบต ผมดูตั้งแต่ก่อนจะเรียกช่างแล้วก็เป็นสีเขียวซึ่งหมายถึงสภาพปกติ ช่างให้ความรู้ว่า ตาแมวหรือสถานะพวกนี้มันเชื่อไม่ได้ ผมก็ได้แต่สงสัยว่าแล้วเขาจะให้ดูสถานะพวกนี้ทำไม แล้วช่างก็ให้ความรู้ต่ออีกนิดว่า แบตไม่ได้นับเวลาเสื่อม มันเสื่อมตามระยะทางที่ใช้งาน
ค่าแบตครั้งนี้ 1500 บาท ยี่ห้อ พานาโซนิครุ่นอะไรผมก็ไม่ได้อ่านรายละเอียด แต่เปลี่ยนแล้วรถก็ทำงานได้ปกติ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว และก็จัดการโอนเงินให้ร้านแล้วทิปให้ช่างนิดหน่อย
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เรียนรู้หลายอย่างคือ
1 แบตหมดได้ตลอดเวลาถ้าเกิน 1 ปี
2 แบตเสื่อมตามระยะทางที่รถวิ่ง (เพิ่งรู้นะเนี่ย)
3 ศูนย์บริการฮอนด้าที่ติดต่อได้ ไม่สามารถช่วยเหลือรถมีปัญหาบนถนนได้เลย แม้แต่ตรวจซ่อมยังต้องรออีกสองวัน และต้องหารถลากเข้าไปส่งศูนย์ ผมคาดหวังว่าศูนย์จะมีบริการรถลากหรือติดต่อบริษัทรถลากให้แล้วค่อยไปคิดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าจ่ายเองก็ได้ แต่ไม่มีแนวทางที่จะอำนวยความสะดวกใดๆเลย
4 ศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินของฮอนด้า 24 ชม. โทรไม่ติด เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเปลี่ยนเบอร์แล้ว
5 ผมลืมไปว่าผมเป็นสมาชิกแก๊สโซฮอลคลับของบางจาก เป็นมายาวนานมากและในอดีตก็เคยใช้บริการรถลากฟรีด้วย เพราะเป็นสิทธิพิเศษที่สมาชิกจะได้รับนอกจากส่วนลดการเติมน้ำมัน บริการนี้ดีมาก แก้ปัญหารถเสียฉุกเฉินได้จริง
ผมย้อนไปดูหลักกิโลจากการเปลี่ยนแบตครั้งที่แล้ว คำนวณแล้วรถวิ่งไปสามหมื่นกิโล จริงๆคงไม่ถึงกับต้องแบตเสื่อมหรอก แต่ไฟแบตอาจจะอ่อนลงมากแล้วทำให้ไฟไม่พอจะสตาร์ทรถ ในหลายปีที่ผ่านมาผมมีเพาเวอร์แบงค์ที่ใช้จั๊มสตาร์ทติดรถตลอดเวลา แต่ด้วยอายุที่ยาวนานเกือบห้าปี แบตในเพาเวอร์แบงค์มีอาการบวม เลยไม่อยากพก ไม่อยากใช้งานแล้ว ซึ่งถ้ามีแบตจั๊มสตาร์ทผมเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาไฟอ่อนครั้งนี้ได้ และอาจยังไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตในทันที อาจยืดเวลาการเปลี่ยนออกไปได้อีกหลายเดือน เพราะรถคันนี้ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนแบตตอนที่ครบ 2 ปี
สองวันก่อนผมรู้สึกว่าไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง และสังเกตว่าไฟด้านขวาอาจจะดับ ก็เลยลองตรวจดู เปิดไฟแล้วเดินลงไปดู พบว่าไฟหน้าขวาดับจริงๆด้วย ผมเรียกไฟฝั่งคนขับว่าด้านขวา ซึ่งทีแรกก็ตั้งใจว่าจะขับไปเปลี่ยนที่ศูนย์ แต่อีกใจก็ลองหาราคาหลอดไฟดูก่อนดีกว่า แล้วก็ค้นหา เริ่มค้นหาคำว่า เปลี่ยน ไฟหน้า ฮอนด้า ฟรีด พิมพ์สี่คำนี้ใน google แล้วก็เจอข้อมูล ซึ่งมันก็เป็นข้อมูลที่ผมเคยโพสท์เอาไว้นั่นเอง ดูจากวันเวลาของโพสแล้ว ก็พบว่าไฟหน้าของผมดับครั้งที่แล้วช่วงเดือนพฤษภาคมปี2562 และวันนี้ กันยายน2563 หลอดไฟที่เปลี่ยนเข้าไปมีอายุการใช้งานประมาณ 16 เดือน
ย้อนกลับไปอ่านโพสท์เก่าได้ที่นี่
ของ Philips คือยี่ห้อเก่าที่ติดมาจากโรงงานฮอนด้า และหลอดที่เคยเปลี่ยนที่ศูนย์ก็เป็น Philips ส่วนเมื่อปีที่แล้วที่ผมเปลี่ยนเองแล้วโพสท์ข้อมูลเอาไว้คือหลอดซื้อเองยี่ห้อ OSRAM
หลอดไฟที่สั่งให้ลูกน้องวิ่งไปซื้อวันนี้ ผมหยิบกล่องเก่าให้ไปเป็นตัวอย่าง แล้วก็ได้กลับมาเป็นยี่ห้อเดิม แต่กล่องมาแบบแปลกๆ สีสันบนกล่องดูเปลี่ยนไป ตัวหนังสือสีดำกลายเป็นสีเทา กล่องคงโดนพิมพ์ออกมาจากคนละแม่พิมพ์ หรือ อาจจะคนละโรงงานเลยก็ได้
กล่องทางซ้ายคือกล่องที่ซื้อเมื่อปี 2562 ส่วนกล่องทางขวาตัวหนังสือสีเทาซื้อวันนี้ ปี 2563 รายละเอียดพวกนี้หากเป็นคนที่ทำงานสิ่งพิมพ์จะรู้ว่า ออกจากแม่พิมพ์คนละชิ้นกัน ซึ่งเราก็ไม่อาจจะเดาได้ว่าหลอดไฟที่ซื้อมาครั้งนี้เป็นของจริง หรือ ของปลอม แต่เสียบใช้งานแล้วก็ทำงานได้เหมือนกัน
แถมให้ เมื่อดูกล่องหลอดไฟที่มาจากศูนยบริการ จะอยู่ในกล่องอีกแบบหนึ่ง เป็นกล่องขาวแล้วติดสติ๊กเกอร์ฮอนด้าไปเลย
รอบนี้ขับเพลิน ทำงานจนลืม และไม่มีเวลาแวะไปเปลี่ยนในวันธรรมดาเลย กว่าจะได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ฟรีดในรอบนี้ก็ปาเข้าไปสิ้นปี ช่วงที่ปิดปีใหม่แล้ว แต่โทรถามร้านเจ้าประจำว่ายังทำงานอยู่ไหม ร้านบอกว่ายังทำงานอยู่ ก็เลยไปเปลี่ยนเลย
น้ำมันเครื่องรอบนี้ใช้ของร้าน สเป็คเป็นยังไงก็ไม่ได้ถาม ร้านจัดการให้หมดเลย ได้ออกมาตามบิลด้านล่างนี้ และผลการใช้งานก็เครื่องทำงานลื่นๆ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็เปลี่ยนยางไปแล้ว รอบนี้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็ได้ความรู้สึกว่ารถวิ่งลื่นขึ้นนิดหน่อย แต่ความแตกต่างของเครื่องยนต์ยังไม่ชัดมากเท่าตอนเปลี่ยนยาง และยังไม่ชัดมากเท่าตอนเปลี่ยนน้ำมัน เนื่องจากปกติจะเติมน้ำมัน e85 เป็นหลัก และในวันที่ลองเติม e5 หรือ 95 รุ่นที่แพงเกือบจะที่สุดก็ให้ความรู้สึกลื่นเนียนมากขึ้นอย่างชัดเจน
ผมกับภรรยาพาลูกเที่ยวรอบนี้ เราพาลูกไปนอนเต๊นท์กันที่แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
แก่งกระจานผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเด็กที่เคยได้มาเที่ยวก็แวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจานหลังจากที่เที่ยวทะเลชะอำเสร็จแล้ว ส่วนสมัยเรียนหนังสือชั้นมัธยมโรงเรียนก็มีพาไปค่ายนอนพักริมทะเลชะอำแล้วขากลับแวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตอนทำงานเองแล้วนัดกับเพื่อนมาหัดถ่ายรูปทะเลหัวหิน ขากลับก็แวะเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตลอดชีวิตที่มีเวลาเหลือเฟือตอนนั้นรู้จักแค่เพียงว่า แก่งกระจานคือเขื่อน รู้แค่นั้นเอง
เพื่อนในกลุ่มถ่ายรูปอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักเดินทาง ชอบเที่ยวป่าก็เคยเล่าให้ฟังว่า ที่แก่งกระจานไม่ได้มีแค่เขื่อน มีผีเสื้อให้ดูเป็นล้านตัวแบบที่ไม่มีที่ไหนในประเทศ มีพะเนินทุ่งที่ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปเท่านั้น มีทะเลหมอกด้วย ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้เลย หลังจากที่ได้ข้อมูลใหม่ก็เลยตั้งใจว่าถ้าลูกโตพอจะพาลูกไปบ้าง และจะไปกางเต๊นท์นอนด้วย เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆทั้งพ่อแม่ลูกเลย
เราเริ่มต้นตอนเช้าที่ย่านบางขุนนนท์ ใช้เส้นทางบรมราชชนนีไปทางพุทธมณฑลสาย4 แล้วไปออกมหาชัย ไปต่อที่ถนนพระราม2 และไปเรื่อยๆตามทาง ไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม ขับไปถึงจังหวัดเพชรบุรี เลี้ยวขวาเพื่อเลี้ยวเข้า อำเภอท่ายาง แล้วขับตามป้ายแก่งกระจาน สุดท้ายเรามาถึงเขื่อนแก่งกระจาน บริเวณที่ทำการอุทยาน หาข้าวมื้อกลางวันกินแถวนี้ แล้วก็ขับรถต่อไปยัง แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นจุดที่เราจะกางเต๊นท์ รอบนี้ผมยังไม่ไปพะเนินทุ่ง เพราะไม่มีรถโฟวิล ผมขับรถฮอนด้าฟรีด ไม่เหมาะจะลุยไปตามทางป่าหรือทาง offroad
เราถึงแค้มป์บ้านกร่างประมาณบ่ายสองโมง ที่ทางเข้าเราจ่ายค่าธรรมเนียมค่าบริการต่างๆ แล้วเจ้าหน้าที่จะให้กรอกแบบฟอร์มใบหนึ่งสำหรับคนที่จะมากางเต๊นท์ แบบฟอร์มนี้ระบุชื่อและจำนวนคน จากนั้นเมื่อเราเข้าไปถึงที่ทำการหน้าแค้มป์เราก็ไปยื่นแบบฟอร์มให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่คงเก็บแบบฟอร์มเอาไว้เพื่อคอยเช็คจำนวนคนว่ามาสามแล้วกลับสาม ออกไปครบคนไหม น่าจะเป็นจุดประสงค์เรื่องความปลอดภัย เพราะอุทยานแห่งชาติก็คือป่านั่นเอง ระหว่างทางที่ขับไปก็ผ่านถนนสวยๆ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ เราแวะถ่ายรูปกันอยู่สองจุด มีป้ายบอกตลอดทางให้ระวังสัตว์และระวังเรื่องทางชัน การขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์รถยนต์ให้เป็น ต้องรู้จักใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้นทางชัน รถเก๋งสามารถผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจการเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย
ขั้นตอนการกางเต๊นท์เองก็เป็นเรื่องมึนงงสำหรับคนไม่เคยทำ ผมเคยกางเต๊นท์เองเมื่อปีก่อน เป็นเต๊นท์ที่ยืมมาจากเพื่อน รอบนี้ก็ยืมเพื่อนเหมือนเดิม เพราะในอดีตไม่เคยเที่ยวแบบกางเต๊นท์ ส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวแบบนอนสบายมากกว่า พ่อแม่ลูกกางเต๊นท์กันช้ามาก จนกลุ่มที่กางเต๊นท์อยู่ข้างๆมาช่วย ทำให้เสร็จเร็วขึ้น และเต๊นท์ของเราก็กางสำเร็จ จัดของวางของพร้อมที่จะทำอาหารเย็นแล้ว
ในแค้มป์บ้านกร่างเป็นจุดกางเต๊นท์ที่มีลานจอดรถไม่ห่างจากลานกางเต๊นท์ และมีลำธารอยู่ข้างที่กางเต๊นท์เลย ทางไปลำธารจะมีโป่งดินที่มีผีเสื้อมาเกาะเยอะมาก ในเวลาฤดูร้อนจะมีผีเสื้อมหาศาล สวนหน้าหนาวอากาศเย็นผีเสื้อแทบไม่มีเลย ที่เห็นด้วยตาน่าจะไม่ถึง 100 ตัว และผีเสื้อตัวใหญ่ๆสีสวยๆก็ไม่มีให้เห็นเลย
แม่กับลูกเดินเล่นน้ำในลำธาร อากาศเย็นมากสำหรับช่วงเวลาที่เราเลือกมาเที่ยวที่แค้มป์แห่งนี้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมากรุงเทพก็อากาศเย็นมาก เย็นจนเหมือนไปเดินเที่ยวญี่ปุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยของกรุงเทพ 7 วันที่ผ่านมา กลางวัน 25องศา ตอนเช้ามืด 17องศา ส่วนที่แค้มป์บ้านกร่าง ก็เย็นกว่ากรุงเทพ ตอนกลางคืนน่าจะประมาณ 15 องศา
เรารีบอาบน้ำกันก่อนจะค่ำ เพื่อไม่ให้อากาศเย็นเกินไป เพราะแค่นี้ก็เย็นมากแล้ว ลูกผมใจแข็งมากสามารถอาบน้ำได้ตลอดรอดฝั่ง ตอนผมอาบเองเพิ่งจะรู้ว่าน้ำเย็นแค่ไหน ตอนยังไม่โดนน้ำเราก็หนาวกันอยู่แล้ว ยิ่งโดนน้ำยิ่งหนาว ทีแรกนึกว่าจะเหมือนกรุงเทพเหมือนตอนอยู่บ้านที่ว่าเวลาอาบน้ำเย็น ถ้าเราโดนน้ำต่อเนื่องสักพักร่างกายเราจะทนความเย็นได้และจะอาบน้ำได้ไม่รู้สึกหนาว แต่ที่แค้มป์นี้ตรงกันข้าม น้ำเย็นมาก โดนเมื่อไหร่ก็หนาวเมื่อนั้น พอหยุดอาบก็จะหนาวน้อยลง ไม่มีคำว่าร่างกายชิน สรุปว่าอาบให้จบเร็วแล้วรีบเช็ดตัวรีบใส่เสื้อผ้าจะได้ไม่หนาวมาก
อาหารเย็นวันนี้เราเตรียมเตาแก๊สปิ๊กนิกเอาไว้ มีของสดและมาม่าติดมาทำกินกัน สอนลูกต้มน้ำ ต้มมาม่า ใส่ลูกชิ้น ใส่ปูอัด ใส่สิ่งที่อยากกิน มีลูกชิ้นปิ้งด้วย ทุกอย่างอร่อยและสนุก อาจจะเป็นเพราะหิวด้วย อาจจะเป็นเพราะทำเองด้วย พวกเรานั่งกินนั่งคุยนั่งเล่นกันถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก มันเป็นเวลาคุณภาพจริงๆ
เด็กที่ซนมากอย่างขอบฟ้า ชอบเล่น ชอบออกกำลัง หยิบจับสิ่งของรวดเร็วและไม่ระวัง แต่ก็มีเวลานั่งนิ่งๆดูวิวต้นไม้ อากาศเย็นสบาย ใส่เสื้อผ้าอบอุ่น กินไปจนหมดชาม เป็นชั่วโมงที่พ่อกับแม่ดีใจมากที่ประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่ลูกชอบ จากการสอบถาม ขอบฟ้าชอบลำธาร ชอบป่า ชอบอากาศเย็น จบจากมื้อเย็นเราเก็บล้างและเข้าเต๊นท์เล่นเกมส์เศรษฐีกันอีกเป็นชั่วโมง จนค่ำๆอากาศเย็นลงเรื่อยๆ เราเตรียมถุงนอนมาคนละใบ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้นอนขดในถุงนอนได้ตลอดคืน
ภาพเต๊นท์ตอนใกล้ๆค่ำ สภาพจริงๆคือแสงกำลังจะหมด มองด้วยตาทุกอย่างกำลังจะสีดำ มีเพียงแสงจากเต๊นท์และตะเกียงจากเต๊นท์อื่นๆ ผมตั้งกล้องบนก้อนหิน ปรับจุดโฟกัสไว้ที่เต๊นท์ ตั้งให้กล้องวัดแสงอันเดอร์ 1 สต๊อปเพื่อให้โทนภาพสีเข้ม แต่ยังไม่มืดดำจนไม่เห็นรายละเอียด ถ่ายภาพกลางคืนต้องพยายามทำให้รายละเอียดฉากหลังยังมีอยู่ หากดำเกินไปภาพจะดูขาดบรรยากาศ ตอนกลางดึกผมปลุกลูกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ กลางดึกนี้หนาวสุดๆ ถ้าให้เดาน่าะสัก 15องศา
เช้าวันใหม่กับอากาศเย็น 18องศา เราออกไปเดินเล่นที่ลำธารอีกครั้ง ลำธารใกล้ๆตอนเช้าไม่มีคนเลย ขอบฟ้าอยากไปดูน้ำ เราก็ไปนั่งเล่นถ่ายรูปเล่นกัน มีนกตัวใหญ่ๆเกาะอยู่ให้มอง แสงแดดเริ่มส่อง ต้นไม้ใบไม้เริ่มแสดงสีสันของตัวเองบรรยากาศตอนเช้าดีสุดๆ
ตอนเช้าในลานกางเต๊นท์มีแต่กาแฟและควันจากเตาไฟจางๆ ควันลอยขึ้นไปโดนแสงแดดที่ส่องทะลุใบไม้ลงมาเกิดเป็นภาพแสงยามเช้าที่ดูเหือนภาพวาดในนิทาน ช่างภาพที่มีกล้องอยู่ในมือก็เก็บภาพมาตามสัญชาตญาณ แสงแบบนี้นี่เองที่ต้องมีอยู่ในภาพยามเช้า
แสงเช้าที่ส่องผ่านใบไม้ มองไปทางไหนก็มีมุมน่าสนใจให้ถ่ายภาพ การถ่ายภาพธรรมชาติเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะเราคาดเดาไม่ได้ว่าเราจะเห็นอะไรสวยบ้าง คนที่ถ่ายภาพชีวิตลูกมายาวนานหลายปี ไม่ค่อยมีเวลามองธรรมชาติอย่างผมก็รู้สึกดีกับสิ่งที่เห็นในอุทยาน ฟ้าใส แดดสวย ต้นไม้มีชีวิตชีวา ป่าเราสมบูรณ์และน่าหวงแหนมาก
หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วเราก็ทะยอยเก็บเต๊นท์ ขอบฟ้าช่วยเก็บเต๊นท์อย่างตั้งใจ ความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วม ตั้งแต่การยกของ จัดเต๊นท์ ทำอาหาร จนถึงเก็บทุกอย่างเป็นนิสัยการเดินทางท่องเที่ยวที่ดี มีนกกระยางแวะมารอกินอาหารเหลือๆจากเต๊นท์ต่างๆ ขอบฟ้าวิ่งไล่จับอยู่นานเลย
ขอบฟ้าขอกล้องไปถ่ายเล่น ขอบฟ้าอยากได้ภาพนกมาก แต่ก็ไม่สามารถถ่ายได้อย่างถูกใจ ผมอธิบายให้ลูกฟังว่าการถ่ายภาพนกเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยถ่าย และแม้ว่าจะเคยหัดถ่ายแล้วก็ต้องใจเย็นด้วย ยิ่งเราใจร้อนวิ่งตามนกเราจะไม่ได้ภาพเลย ขอบฟ้ายังไม่เข้าใจ ผมเลยเล่าให้ฟังว่าผมเคยถ่ายมาแล้ว เดี๋ยวจะพาไปถ่ายภาพนกที่บางปู ที่นั่นมีนกเยอะและมีให้ขอบฟ้าหัดถ่ายอย่างเหลือเฟือ
เราออกเดินทางจากแค้มป์บ้านกร่างประมาณ 11 โมง และขับรถกลับไปที่เขื่อนเพื่อไปเที่ยวที่สันเขื่อน บนเขื่อนแก่งกระจานจะมีสันเขื่อนให้ขับรถขึ้นไปได้ และเราสามารถชมวิวและถ่ายรูปได้ตามใจ เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และใช้ผลิตไฟฟ้าด้วย เราถ่ายรูปกันสักพักก็ลงมากินมื้อเที่ยง แล้วเดินทางกลับกรุงเทพ
บันทึกการเดินทางด้วยรถยนต์ด้วย ผมเติมน้ำมันที่ปั๊มแถวบ้าน แล้วตั้งระยะทางเป็น 0 เมื่อมาถึงจุดจอดรถที่แค้มป์บ้านกร่าง หลักกิโลในหน้าจอแสดงผลไว้ที่ 228.3 กิโลเมตร และเมื่อขับรถกลับมากรุงเทพจอดรถในบ้าน หลักกิโลเมตรแสดงตัวเลข 452.9 กิโลเมตร ระยะทางขาไป กับขากลับ เกือบจะเท่ากันเลย รถฮอนด้าฟรีด เติมน้ำมัน e20 อัตราสิ้นเปลืองหน้าจอแจ้งไว้ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร
ผมขับรถมาถึง 237677 กิโลเมตรแล้ว และก็ได้พบว่า ยางรถยนต์ที่ใช้อยู่มีอาการขอบลอก หรือ รอยต่อมีการปริแยก รู้สึกว่าอันตรายก็เลยไปเปลี่ยนยางที่ร้านเดิม ร้านแถวบ้าน
อาการแก้มยางปริแบบนี้ ร้านยางบอกว่า เกิดจากลมยางอ่อนเกินไป และอายุยางก็สามปีกว่าแล้วก็เลยตัดสินใจเปลี่ยน โดยทางร้านแนะนำยางราคาถูกให้รุ่นหนึ่ง คือ hankook ดังภาพ
Size 195/65 R15
ผมชอบร้านนี้เพราะว่า เมื่อการเปลี่ยนยางครั้งที่แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ใช้งานยางสามปี เวลาที่ยางอ่อนลงหลังจากที่ลืมตรวจลืมเช็คลมยาง เมื่อไปเติม ก็พบว่าลมยางอ่อนลงไปเท่าๆกันทุกล้อ บางครั้งที่เติมลมยาง อ่านค่าลมยางที่เครื่องได้ 28 ก็จะเป็น 28 ทุกล้อ เทียบกับเมื่อก่อน ช่วงที่ยังไม่ได้มาใช้บริการร้านนี้ ผมก็เติมลมยางแค่ทีละล้อมาตลอด เพราะว่า ลมยางแต่ละล้อไม่เคยเท่ากันเลยเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน ผมสงสัยเรื่องจุกเติมลมยางที่บางร้านอาจจะใช้ของคุณภาพต่ำ หรือ ไม่ได้เปลี่ยนให้ผมเมื่อเปลี่ยนยาง ทำให้ลมรั่วออกจากล้อไม่เท่ากัน(เดา)
ยางใหม่ บุคลิกนุ่ม ขับสบาย ใช้งานร่วมกับโช้คอัพที่อายุยังไม่มาก ก็ถือว่าได้ความนุ่มนวลน่าพอใจ ผมเลือกใช้ของราคาถูกเพราะว่า ผมมีนิสัยการขับรถไม่เร็ว เลยไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะในความเร็วสูง จ่ายเท่าไหร่ก็ตามใจเรา เอาที่สบายใจ เพราะถ้าคิดเรื่องต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่เพื่อให้ปลอดภัยเพียงพอ เอาเงินไปซื้อข้าวดีกว่า และอีกอย่าง ถ้าจ่ายแพงแล้วจะไม่มีอุบัติเหตุ มันไม่จริง เพราะเราเห็นซุปเปอร์คาร์พังเป็นข่าวอยู่ทุกปี
หลักกิโล 227507 รถยนต์ฮอนด้าฟรีดปีที่ 10 ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกครั้ง จากการบันทึกการเปลี่ยนแบตครั้งที่แล้ว ผมเปลี่ยนเมื่อเดือน พฤษภาคม 2560 ตอนนี้ผ่านมาถึงเดือน กรกฏาคม 2562 ก็พบว่าเป็นเวลา 25 เดือนพอดี ถือว่าใช้แบตได้เกินกว่ามาตรฐานขั้นต่ำไปแล้ว
ค่าแบตในรอบนี้ 1700 บาท เป็นแบตของ fb โดยรอบนี้ผมไม่ได้ไปเปลี่ยนที่ร้านประจำ เนื่องจากแบตหมดกลางอากาศเลย คือขับรถมาจอดแล้วจะสตาร์ทอีกทีก็ไม่ติดแล้ว ไฟในแบตหายไปจนถึงขนาดที่ประตูไฟฟ้าใช้ไม่ได้ และตอนบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปกติหากแบตมีอาการไฟอ่อน มันจะสตาร์ทแบบแผ่วๆ เหมือนแรงไม่พอ แต่รอบนี้ไม่มีอาการอะไรเลย เหมือนแบตไม่มีไฟ ไม่ใช่แค่ไฟอ่อน
ทุกทีผมจะใช้ powerbank ที่มี jumpstart ช่วยสตาร์ทรถได้หากเป็นกรณีไฟอ่อน แต่รอบนี้ใช้ไม่ได้ผล เพราะ powerbank เสื่อม เลยใช้วิธีโทรหาร้านแบตเตอรี่ให้มาเปลี่ยนให้แทน โดยผมหาข้อมูลในเน็ต หาคำว่า แบตเตอรี่ รถยนต์ ก็พบกับสิ่งที่ google หามาให้ ร้านแรกที่ขึ้นมาผมก็โทรไปหา และได้คำตอบว่า ไม่ส่งที่ถนนจอมทอง เพราะร้านอยู่ไกล
ลองกลับไปอ่านรายละเอียดจากเว็บของร้าน ร้านแบตที่ขึ้นมาบรรทัดแรกเขาอยู่ลาดพร้าว นั่นทำให้เขาบริการลูกค้าฝั่งธนไม่ได้ ผมก็เข้าใจ และตัดสินใจโทรหาร้านเปลี่ยนแบตที่ผมเคยใช้มาเปลี่ยนให้รถภรรยา ผมเคยบันทึกเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ในบล๊อกนี้ด้วย ก็เลยได้ใช้บริการกันอีกรอบ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้ google จะหาของให้เรา แม้เราจะเชื่อ google บรรทัดแรก แต่เราก็อาจไม่มีบุญได้ใช้บริการ ยังไงลูกค้าเก่าก็ยังมีโอกาสใช้ร้านเดิมอยู่ถ้าเคยใช้งานกันแล้ว
นี่คือแบตก้อนเดิมที่ใช้งานมา 25 เดือน ไฟหมดแบบทันทีทันใด ไม่มีอาการไฟอ่อนเลย แต่ว่าก่อนหน้านี้สักสองวัน ผมก็สตาร์ทรถด้วยความรู้สึกว่าเหมือนไฟไม่เต็ม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอาการไฟหายไปเฉยๆ คิดเพียงว่า ถ้าไฟอ่อน เดี๋ยวจะสตาร์ทด้วย powerbank แล้วขับเข้าร้านแบตไปเปลี่ยนก็ได้ แต่ดันไฟหมดกระทันหันเลยผิดแผน
ร้านแบตยกตัวนี้มาให้ สามารถเปลี่ยนใส่ honda freed ได้พอดีเป๊ะ สเป็คแบตและรุ่นแบตเป็นยังไงก็ไม่ได้ถาม เพราะไม่ได้อยากรู้สเป็คแล้วครับ ยังไงเราก็ใช้แบตได้ประมาณ 2 ปี ใส่แล้วสตาร์ทติดก็พอแล้ว แบตรุ่นนี้ร้านบอกว่าไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ผมก็โอเค ไม่ต้องเติมก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาซื้อน้ำกลั่น
ให้ดูชื่อร้านและเบอร์โทร เผื่อว่าจะโทรเรียก ถ้าผมจำไม่ผิดร้านนี้อยู่แถวศิริราช ดังนั้นย่านฝั่งธนผมคิดว่าร้านเขาจะสามารถวิ่งไปบริการได้
ช่างที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ขับมอเตอร์ไซด์มา มาพร้อมอุปกรณ์ครบมือ มีผ้ารองกันเปื้อน มีชุดไขควงที่ตรงรุ่น ขนาดน็อตเป๊ะมาก ช่างหยิบทีเดียวเอามาไขได้เลย คงเปลี่ยนแบตวันละหลายรุ่นแน่ๆ และ มีมิเตอร์วัดกระแสไฟมาด้วย วัดทั้งแรงดัน วัดทั้งกระแสไฟที่วิ่งออกจากแบต ตั้งแต่ผมโทรหาร้านนี้ รวมเวลานั่งรอ30 นาที รวมเวลาเปลี่ยน จนถึงเวลาที่ช่างเปลี่ยนแบตเสร็จพร้อมสตาร์ทรถเพื่อออกไปทำงาน ผมใช้เวลาทั้งสิ้น 60 นาทีโดยประมาณ
และนี่คือเอกสารที่ร้านให้ไว้กับผม ทางร้านให้กรอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เพื่อใช้เป็นเอกสารรับประกันด้วย คุณภาพการทำงานก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี จ่ายเงินไป 1700 บาท ขับรถไปทำงานต่อได้ เดี๋ยวจะเอา powerbank รุ่น jumpstart ออกจากรถแล้ว ติดไว้แก้ปัญหาในรถมาเกือบ 5 ปี มันยังจ่ายไฟ usb ได้ จ่ายไฟส่องสว่างเป็นไฟฉายได้ แต่ start รถไม่ได้แล้ว ราคา powerbank รุ่น jumpstart ในปี พศ 2562 น่าจะอยู่ที่ 1พันบาท ใครอยากซื้อใช้ก็มีเหตุผลที่ดีคือ เราใช้แก้ปัญหาได้ทันทีในเวลาไม่น่าเกิน 5 นาที สำหรับคนที่เร่งรีบก็เหมาะสมเลย ทำให้รถสตาร์ทได้ และไปทำงานต่อได้ พอว่างไม่มีนัดทำงานแล้วค่อยขับรถไปเปลี่ยนแบต ส่วนคนที่ไม่เร่งรีบ โทรสั่งแบตเตอรี่จากร้านที่มีบริการนอกสถานที่ไปเลยดีกว่า
อุปกรณ์ถอดสายแบตใช้ประแจเบอร์10 https://s.shopee.co.th/5VBH5NG3C6