เรียนรู้การถ่ายภาพดาว เที่ยวอ่างเก็บน้ำ นอนในรถ

การถ่ายภาพดวงดาวเป็นการถ่ายภาพที่มีความยากและต้องทำความเข้าใจมากกว่าการถ่ายภาพแนวอื่น เพราะว่าการถ่ายดาวจะต้องถ่ายตอนมืด เราต้องรอช่วงเวลากลางคืน เลือกสถานที่ที่แสงรบกวนน้อย อุปกรณ์ต่างๆก็ต้องอยู่ในเกรดโปร ทั้งกล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้อง ทุกชิ้นต้องดีมากๆ

IMG_20250531_103403470

หากถ่ายโดยใช้ความรู้แบบครูพักลักจำก็จะได้ภาพดาวแบบกระดาษทราย คือเป็นภาพฟ้าดำๆกับดาวเป็นจุดๆ แล้วเราก็จะไม่รู้ว่ามันสวยยังไง ถ่ายกันไปทำไม แต่พอเราเห็นภาพถ่ายดาวจากมือโปรที่ถ่ายเก่งเราก็จะรู้ว่ามันไม่ได้ใช้แค่อุปกรณ์และเวลาเท่านั้น มันยังต้องใช้ความรู้ทางดาราศาสตร์ด้วย แถมยังต้องใช้ซอร์ฟแวร์มาทำงานร่วมด้วยอีกต่างหาก นั่นจึงเป็นที่มาของการลงทะเบียนเรียนรู้กับกิจกรรมของหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฉะเชิงเทรา

1748595443550

การอบรมมีบรรยายโดยผู้รู้ที่ทำงานทางสายวิทยาศาสตร์ และเป็นช่างภาพที่มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพดวงดาวและท้องฟ้า เมื่อลงทะเบียนแล้วก็ไปเรียนกันเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของท้องฟ้าและดวงดาว ทำความเข้าใจกับอุปกรณ์ถ่ายภาพและการตั้งค่าต่างๆ

IMG_20250531_110439167
_DSC1876

เราอบรมกันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายที่หอดูดาวฉะเชิงเทรา เมื่อจบภาคทฤษฎีก็จะเดินทางไปถ่ายภาพในสถานที่จริงที่อ่างเก็บน้ำรัชชโลทร จังหวัดชลบุรี ทีมงานจากหอดูดาวก็จะไปตั้งกล้องให้คำแนะนำในการถ่ายภาพด้วย เราวางแผนว่าจะถ่ายภาพกันตอนกลางคืนและเช้ามืด ดังนั้น เราต้องนอนที่อ่างเก็บน้ำ ทุกคนต้องเตรียมตัวนอนเต๊นท์ด้วย เป็นกิจกรรมแค้มปิ้งที่มีการถ่ายภาพดาวเป็นไฮไลท์

1748866839553
IMG_20250531_172552594

เตรียมเต๊นท์เตรียมเก้าอี้ เตรียมตัวไปนอนแบบกางเต๊นท์ แต่ผมก็ขี้เกียจกางเพราะมาคนเดียวนอนในรถน่าจะสะดวกและเร็วกว่า ก็เลยเตรียมการเรื่องการนอนในรถ โชคดีที่รถผมสามารถปรับเบาะให้ลาดเอียงพอนอนได้ยาวๆทั้งคืน จัดการหาตาข่ายกันยุงมาหุ้มกระจกรถเพื่อเปิดกระจกนอนในรถ

IMG_20250531_172410845

IMG_20250531_172401709

1748866839828

ทุกอย่างเตรียมพร้อม ทีมงานหอดูดาวตั้งกล้องดูดาวราคาแพงให้เราได้ใช้งานรวมถึงเตรียมอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าให้กับทุกคน สุดท้ายตอนค่ำ ฝนเริ่มตก ฟ้าเต็มไปด้วยเมฆไม่สามารถดูดาวหรือถ่ายภาพได้เลย และเป็นอย่างนี้ทั้งคืน เราก็เลยได้นอนเล่นรอฝนหยุดตกโดยพักเรื่องการถ่ายภาพดาวไป

1748866839465

IMG_20250601_053321821

การนอนในรถเป็นเรื่องใหม่ หลังจากปรับเบาะให้ต่อกันแล้วสามารถนอนยืดขาได้ แต่ความไม่เรียบก็ทำให้เรานอนไม่สบายนัก และอากาศไม่ได้เย็นในระดับหนาว ข้างนอกอากาศพอดีไม่ร้อน แต่ในรถอากาศร้อนกว่า ลมพัดเข้ารถได้นิดหน่อยเพราะมีตาข่ายกันยุงดักไว้ นอกจากป้องกันยุงแล้วยังป้องกันลมไม่ให้เข้าเยอะด้วย แทนที่จะนอนหนาวก็หลายเป็นนอนแบบปกติ และมีจังหวะรู้สึกร้อนด้วยในตอนที่ลมไม่พัด

IMG_20250601_054359248

รุ่งเช้าฝนยังตกปรอยๆแต่ไม่มีลมแล้ว อากาศในรถร้อนเพราะไม่มีพัดลมเนื่องจากไม่ได้เตรียมไว้ ยุงเกาะที่ตาข่ายให้เราดูอย่างชื่นใจว่าตาข่ายกันยุงทำงานได้จริง เสียงนกร้องค่อนข้างเยอะ ตอนแสงเริ่มเยอะขึ้นก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้

การนอนในรถยนต์ไม่สบายเลย ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะจัดที่นอนให้ราบเรียบจริงๆ การกางเต๊นท์ยังเป็นทางเลือกที่นอนสบายกว่านอนบนเบาะรถยนต์ อาจจะต้องรอทดสอบการนอนกับรถที่ออกแบบปรับปรุงให้นอนหลับได้จริงถึงจะบอกได้ว่านอนบนรถกับนอนเต๊นท์แบบไหนสบายกว่า ซึ่งเดาว่าเต๊นท์อาจจะนอนสบายกว่า แต่นอนบนรถไม่เสียเวลากางเต๊นท์และเก็บเต๊นท์ เราจะมีเวลาเหลือเยอะขึ้นไปทำอย่างอื่นอีกอย่างน้อยสองชั่วโมง แต่สองชั่วโมงในพื้นที่แค้มปิ้งเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีงานต้องทำ ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วน คนส่วนมากก็สามารถใช้เวลาเพื่อกางเต๊นท์ได้เพราะการกางเต๊นท์มันเป็นการเล่นชนิดหนึ่งของคนชอบเที่ยว

Screenshot_20250601-054807

ตาข่ายกันยุงทำงานได้จริง ป้องกันยุงได้ ใครสนใจก็คลิกไปสั่งซื้อได้ ราคาไม่แพงเลย

อุดหนุนพิพิธภัณฑ์

จากการไปเดินเล่นในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์งานหนึ่ง และมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มาออกบู๊ท ก็เลยอุดหนุนด้วยการสมัครเป็นสมาชิกหนังสือเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะได้ หนังสือ 12 เล่ม และได้สิทธิ์เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีตลอดปี ผมสมัครแบบครอบครัวจะมีคนติดตามเที่ยวพิพิธภัณฑ์รวมเจ้าของบัตรเข้าได้ 5 คน วันนี้หนังสือมาส่งแล้ว มาพร้อมบัตรสมาชิก

DSC04164

ในอดีตตอนลูกเล็ก ตอนที่เริ่มพาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ได้ ผมซื้อบัตรผ่านเป็นแพ็คเพื่อเข้าพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ชุดบัตรผ่านชื่อว่า museum pass จ่ายเงินสองร้อยกว่าบาท ได้บัตรเข้า 20 แห่ง มันเป็นราคาที่ถูกแสนถูก ผมพาลูกไปไม่ครบทุกที่หรอก แต่จากบัตรผ่านรอบนั้นทำให้ผมได้ไปรู้จักพิพิธภัณฑ์อื่นๆอีกหลายแห่งนอกจากที่ย่านคลองห้ารังสิต ย่านรังสิตผมพาไปเที่ยวจนครบทุกแห่ง มีไปซ้ำด้วย พิพิธภัณฑ์อื่นๆที่อยู่ฝั่งธนใกล้บ้านผมก็พาไป เท่าที่จำได้ก็มีแถวพุทธมณฑลสายสอง พุทธมณฑลสายสี่ ย่านบางลำพู มิวเซี่ยมสยาม ท้องฟ้าจำลองผมจำไม่ได้ว่าอยู่ในกลุ่มบัตรรวมไหม แต่ก็พาไปหลายครั้ง อวพช ที่ไปเปิดทำการในห้างจามจุรีสแควร์ก็ไปบ่อยแต่น่าจะย้ายออกแล้วไปอยู่ในห้างแถวถนนรัชดา ที่เที่ยวแนวพ่อแม่ลูกก็มีพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่เป็นที่เที่ยวคุณภาพ เด็กได้อยู่ในสถานที่ที่ส่งเสริมพัฒนาการ ส่งเสริมการเรียนรู้

DSC04163

พอบัตรชุดนั้นหมดอายุ ผมก็อยากซื้อเพิ่ม แต่ทางผู้ขายก็แจ้งว่า บัตรผ่านแบบนั้นไม่ได้ทำขายแล้ว ดูเหมือนโครงการบัตรผ่านแบบหลายๆแห่งจะไม่ประสบความสำเร็จ น่าเสียดาย แต่ลูกผมก็ยังคงได้เที่ยวพิพิธภัณฑ์อยู๋ พอโตระดับนึงก็ได้ร่วมกิจกรรมกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ลูกได้ไปสำรวจทุ่งนา ดูสัตว์ในพื้นที่ มีกิจกรรมดูนก ได้เล่นเวิร์คช็อปอีกหลายอย่างจากหลายๆแห่ง

ถ้าเราใส่เงินกับแหล่งการเรียนรู้ ใส่เงินกับจุดที่จะพัฒนาคน มันเกิดประโยชน์กับเด็กและสังคม มันจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับนักเรียนที่จะเติบโตขึ้นมา จ่ายเงินค่าสมาชิกได้หนังสือ 12 เล่มต่อปี และได้เข้าพิพิธภัณฑ์ฟรีห้าคน จะหาของดีกว่านี้ได้ที่ไหน

อวพช คือ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตัวย่อ NSM

พาลูกเที่ยวพิพิธภัณฑ์ของเก่าต้องถึงวัยที่เหมาะสม

ขึ้นชื่อว่าพิพิธภัณฑ์จะเป็นสถานที่รวมข้อมูลความรู้เฉพาะทางเอาไว้ เมื่อก่อนตอนลูกเล็กระดับ 3-4 ขวบ พาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ก็รู้สึกสนุก เพราะเหมือนได้เดินสวนสัตว์ เดินเข้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ก็เหมือนเดินดูของเล่น พอพาเข้าพิพิธภัณฑ์ของเก่าลูกก็เหมือนจะไม่เข้าใจ มีแต่พ่อแม่ที่อยากจะเดินดูนานๆ เพราะเด็กในวัยเล็กเกินไปจะยังไม่รู้ว่าสิ่งของโบราณคืออะไร

IMG_0271
IMG_0058
IMG_0050

แต่พอลูกอายุเกิน 10 ขวบ เขาเริ่มมีความทรงจำและความรู้ เริ่มรู้จักถาม เริ่มใช้สิ่งของต่างๆในยุคสมัยปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือแบบหน้าจอสัมผัสคือสิ่งที่เขาเห็นมาตั้งแต่เกิด พอมาเจอโทรศัพท์บ้านยุคสามสิบปีที่แล้วก็ถึงกับใช้ไม่เป็น ได้แต่ถามว่ามันใช้ยังไง ตอนนี้นี่เองที่พ่อแม่ได้อธิบายหลักการ วิธีใช้ ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่า คนสมัยก่อนพยายามอย่างมากที่จะสื่อสารให้ได้ โทรศัพท์บ้านที่ดูแล้วไม่รู้จะกดไปหาใคร ไม่มีหน้าจอแสดงผลทำไมถึงคุยกับคนอื่นได้ คุยข้ามประเทศได้

ไปเจอเครื่องพิมพ์ดีด เด็กก็รู้ทันทีว่านี่คือญาติของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ พ่อแม่ก็รออธิบาย ว่ามันคือพ่อของคีย์บอร์ดแบบที่เราใช้ทุกวันนี้ มีการเรียงตัวหนังสือเหมือนกัน ตัวหนังสือแถวบนมีเรียงเป็นตัว qwerty เหมือนกัน เด็กยืนมองแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามีตัวหนังสือบนกระดาษได้ยังไง เลยต้องอธิบายกลไกการทำงาน มีสปริง มีก้านเหล็กที่จะคอยเด้งไปพิมพ์บนกระดาษ เสียดายตรงที่เครื่องพิมพ์ดีดอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ เด็กเลยยังไม่รู้ว่ากระดาษถูกพิมพ์ได้อย่างไร คงต้องหาคลิปใน youtube ให้ดู

DSC00827
พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง จ.ระยอง
DSC00819
เครื่องพิมพ์ letterpress แบบมือโยก ปัจจุบันยังมีบางโรงพิมพ์ใช้งานอยู่
แท่นเติมน้ำมัน
DSC00830
ร้านถ่ายภาพติดบัตร กล้องตัวใหญ่ ฟิล์มใหญ่ งานถ่ายภาพด้วยฟิล์มที่นักเรียนปัจจุบันไม่เคยใช้งานแล้ว
DSC00849
เกมส์วินนิ่งเมื่อก่อนมาเป็นโต๊ะเลย
DSC00898
ครกและสาก ปัจจุบันยังคงเดิม ยังใช้งานอยู่ในร้านอาหารทุกแห่ง ร้านส้มตำยังใช้อยู่ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
DSC00927
ร้านขายของชำ ต้นแบบเซเว่น
DSC00956
เครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคแรก ใช้ไขลาน เสียงอู้อี้แค่พอรู้เรื่อง
เครื่องพิมพ์ดีด พ่อแม่ของคีย์บอร์ด
DSC01002
โทรศัพท์บ้านระบบมือหมุน
DSC01027
โทรศัพท์สาธารณะระบบเสียบบัตร
DSC01014
กระติกเก็บน้ำร้อน ต้นแบบของแก้วเยติ กระติกเก็บอุณหภูมิ

DSC01026

การพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในตอนที่เด็กสามารถรับข้อมูลได้ สามารถตั้งคำถามได้ ก็จะเกิดการเรียนรู้ รับรู้อดีต รู้หลักการทำงาน เป็นการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ใครมีลูกอยู่ในวัยประถมปลาย ลองพาเด็กเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่แสดงของเก่าดู ช่วงเวลาแบบนี้จะเป็นจังหวะที่ดี พ่อแม่ได้โชว์ภูมิปัญญาสมัยเก่าที่ส่งต่อมาถึงสมัยใหม่ เด็กก็อยากรู้อยากเห็น พ่อแม่ก็ได้หายคิดถึง ได้เล่าให้ลูกฟัง

กิจกรรมดูนกกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

กิจกรรมดูนกจัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ รังสิต คลอง5 เป็นทริปกลุ่มเล็กๆ พาเด็กไปดูนกในพื้นที่่ธรรมชาติ เด็กได้เรียนรู้เรื่องนก ได้ดูนกผ่านกล่องส่องทางไกล พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดกิจกรรมแนวสำรวจธรรมชาติสำหรับเด็กบ่อยมาก หากสนใจก็ติดตามข่าวสารจากเว็บหรือเฟสบุ๊คของพิพิธภัณฑ์ได้โดยตรงเลย

133926534_3388424944601765_1503466655451760725_o

ทริปสำรวจปู กับ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา

กิจกรรมสำรวจธรรมชาติ เป็นงานของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา รังสิต คลอง5 ซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกับพิพิธภัณฑ์อีก 3 แห่ง การเดินทางมาร่วมกิจกรรมก็ค้นหาในแผนที่ googlemap ค้นหาชื่อพิพิธภัณฑ์ได้เลย

กิจกรรมสำรวจธรรมชาติจัดขึ้นเป็นประจำ จัดเป็นหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีหัวข้อแตกต่างกัน และมีกลุ่มละ 7 คน การเข้าร่วมจะต้องรอประกาศจากทางเฟสบุ๊คของพิพิธภัณฑ์เรื่องวันเวลาที่ให้ส่งอีเมลเข้าไปสมัคร คนสมัครเร็วจะได้เข้าร่วม คนสมัครช้าเป็นตัวสำรอง ผู้ได้รับเลือก(สมัครเร็ว) จะมีค่าใช้จ่ายในกิจกรรม เมื่อได้ยืนยันและมีการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับหมายกำหนดการ และรายการสิ่งของที่ต้องเตรียม

120400202_3119146654862930_8761229277735021215_o
120442022_3119146241529638_7590226334834775925_o
120087017_3122276911216571_3426646103861716323_o

ทริปปีใหม่ ชุมพร ระนอง พม่าเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ

ทริปปลายปีต่อเนื่องถึงข้ามปี จากพศ 2562 ไปสู่ 2563 เป็นทริปที่เลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อลงใต้ไปไกลสุดถึงระนอง จุดหมายปลายทางคือเกาะในทะเลพม่า ซึ่งเราจะต้องไปขึ้นเรือที่ระนอง แต่ด้วยระยะทางที่ไกลมาก เลยวางแผนการเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไปและเลือกพักไปหลายๆจุด แวะเที่ยวไปตามเส้นทางที่ไม่เคยรู้จัก

จากกรุงเทพ เราลากเส้นไปที่ชุมพรเลย เพื่อให้อยู่ห่างจากระนองไม่มากในวันถัดไป ชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 500กิโลเมตร การเดินทางก็ออกแต่เช้า แล้วแวะพักแวะกินตามทาง ไปถึงชุมพรในรอบบ่ายๆ เข้าพักที่โรงแรมโนโวเทลที่อยู่ริมทะเลย โนโวเทลแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง สถานที่สวย ดูแลต้นไม้ได้ดีมาก สิ่งที่ทำให้เริ่มน่าสนใจก็คือที่นี่นกเยอะมาก และในช่วงเวลาที่เที่ยวนี้ขอบฟ้าก็กำลังสนใจเรื่องนก เรื่องอินทรีย์ และเหยี่ยวชนิดต่างๆ นกในชุมพรเยอะอย่างน่าแปลกใจ

IMG_0020

ร้านอาหารที่เป็นร้านแนะนำจากอินเทอเน็ตบอกว่า ให้กินฝั่งตรงข้ามโรงแรม ซึ่งมี 2ร้านให้เลือก เราเลิอกกินร้านแรกที่ดูคนน้อยหน่อย และอาหารก็พอใช้ได้ วิวทะเลก็สวยดี รูปแบบร้านเป็นแนวเรียบง่าย โบราณ ไม่ได้มีการตกแต่งสถานที่ใดๆให้ดูสวยงามเลย

20191231183823_IMG_0055

ปีนี้ขอบฟ้าโตขึ้นมาก พูดจารู้เรื่อง และเป็นเด็กที่เริ่มสนุกกับทุกสิ่งในการท่องเที่ยว รู้จักอดทน รู้จักรอ และสามารถยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น รวมถึงสามารถช่วยพ่อแม่ถ่ายรูปได้แล้ว พ่อกับแม่มีรูปคู่กันเพราะลูกช่วยถ่ายให้ทำให้ทริปนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่สนุกและมีภาพของทุกคน เช้าวันรุ่งขึ้นเราแวะไปจุดชมวิวบนภูเขาใกล้ๆโรงแรม เป็นวิวที่สามารถดูทะเลและแม่น้ำได้พร้อมๆกัน

IMG_0071
IMG_0061

บนจุดชมวิวนี้จะได้พบกับนกนางแอ่นจำนวนมาก บินผ่านไปผ่านมาให้ดูอยู่บ่อยๆ นกบินจนขอบฟ้าต้องมองและสนใจเรื่องนกขึ้นมาทันที และทริปนี้ก็เป็นทริปที่ทำให้เราได้รู้ว่า ชุมพรมีนกอินทรีย์ด้วย ซึ่งพวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอินทรีย์หรือเหยี่ยว แต่ความสงสัยเหล่านี้จะได้รับการคลีคลายในช่วงสองสัปดาห์ถัดไป

IMG_0096

ร้านกาแฟแสนสวยบนจุดชมวิวก็มีมุมสวยไม่แพ้กัน แต่พวกเราไปกันเช้ามาก ร้านยังไม่เปิด เลยไม่ได้อุดหนุนกาแฟเลย แต่ก็เก็บภาพวิวสวยๆของร้านกาแฟแห่งนี้กลับมาด้วย แต่ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว ถ้าให้นั่งกินกาแฟที่นี่จริงๆ พวกเราก็อาจจะเลือกนั่งในห้องแอร์แทนที่จะเป็นมุมโต๊ะเก้าอี้ภายนอกที่สวยน่ามอง

IMG_0105

กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์เด่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะชุมพรและระนองต่างก็มีกาแฟเป็นจุดขาย การไม่ได้แวะกินกาแฟสักร้านเลยก็ดูจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย และเราก็ไม่ได้แวะจริงๆเพราะด้วยเวลาเช้าแบบนี้ และด้วยโปรแกรมที่อยากจะไปในหลายๆที่ ทำให้เวลาที่จะแวะกินกาแฟไม่ค่อยมีนั่นเอง มุมกาแฟจากจุดชมวิวแบบนี้คงจะยอดเยี่ยมมากถ้าอากาศเย็นและมีขนมอร่อยคู่กับกาแฟ ก็ได้แต่จินตนาการกันไป

2020_0101_103603_004

ที่โรงแรมโนโวเทลชะอำ เราได้ทดลองเล่นกล้องถ่ายภาพใต้น้ำที่หยิบยืมจากเพื่อนมาใช้ มันเป็นกล้อง action camera ราคาไม่แพงยี่ห้อง SJCAM รุ่น SJ4000 ที่เป็นกล้องหน้าตาเหมือนกล้อง gopro และมันมีเคสกันน้ำให้ด้วย ทริปนี้เราได้ลองลงไปถ่ายรูปใต้น้ำ และได้ภาพน่าตื่นเต้นกลับมา ภาพใต้น้ำเป็นสิ่งที่เข้าถึงยากมากในอดีต ส่วนมากกล้องที่ใช้จะต้องมีเคสกันน้ำถึงจะลงไปถ่ายใต้น้ำได้ และตั้งแต่อดีต เคสกันน้ำจะมีราคาแพงจะไม่อยากซื้อ แต่ในยุคปัจจุบัน ปีพศ2562 เราก็มีกล้องดิจิทัลราคาถูกมากให้ใช้ และเคสกันน้ำที่เคยราคาแพงมาก เมื่อมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับกล้องราคาถูก มันก็กลายเป็นของถูก และเราก็มีโอกาสได้ลองเล่น

IMG_0134

มาถึงชุมพรก็ต้องแวะไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่หาดทรายรี ซึ่งหาดนี้อยู่ห่างจากโนโวเทลแค่ไม่กี่นาที เราได้ไปดูเรือรบโบราณที่จอดไว้ให้นักท่องเที่ยวดู มีผู้คนจำนวนมากแวะมาไหว้ศาลกรมหลวงแห่งนี้ มีประเพณีการจุดประทัดเสียงดัง และที่นี่เราได้พบนกเหยี่ยวหรืออินทรีย์ก็ไม่แน่ใจเพราะเราดูนกไม่เป็น แยกแยะไม่ออกระหว่างนกอินทรีย์และเหยี่ยว รู้แต่ว่ามันบินอยู่บนยอดเขาของศาลกรมหลวงฯ กางปีกเล่นลม ลอยไปลอยมาดูเท่ห์มากๆ

IMG_0142

นกเหยี่ยวและอินทรีย์ในทริปนี้คือจุดเริ่มต้นความสนใจของนกล่าเหยี่อที่ขอบฟ้าชอบ ปกติขอบฟ้าจะชอบสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะที่สุดยอดสักด้านหนึ่ง อย่างในวัยเด็กขอบฟ้าก็ชอบปลาวาฬสีน้ำเงิน อาจเพราะเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบไดโนเสาร์ก็ชอบตัวที่คอยาวที่สุดและตัวใหญ่ที่สุดในโลก ตอนชอบรถก็ชอบรถเฟอรารี่รุ่นพิเศษที่วิ่งเร็วมากและแพงมาก และในทริปนี้ขอบฟ้าเริ่มให้ความสนใจนกล่าเหยื่อ ก็คืออินทรีย์และเหยี่ยว

วันนี้เราเก็บของออกจากชุมพรเดินทางต่อไปจังหวัดระนองเพื่อจะไปเที่ยวเกาะในพม่า เราจะพักที่โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งเป็นโรงแรมหน้าตาน่ารัก ออกแบบสวย และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ

IMG_0147

โรงแรมนี้มีชุดของว่างรับแขกเข้าพักเป็นไข่ลวก ถือเป็นเรื่องแปลกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเคยเจอ บางทีเพราะที่นี่ชื่อฟาร์มเฮ้าส์ก็เลยหาผลิตภัณฑ์จากฟาร์มมารับรองแขกก ไข่ลวกก็เลยได้เป็นอาหารว่างมื้อแรกในระนองครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางมาเที่ยวระนองอย่างเป็นทางการของพวกเรา

IMG_9986
IMG_9988

โรงแรมที่พักชื่อฟาร์มเฮ้าส์ ร้านกาแฟหน้าโรงแรมชื่อ ก.ไก่ ขายกาแฟและของที่ระลึกหลายอย่าง ของฝากที่ต้องซื้อก็มีครบทุกอย่าง แต่หน้าตาไม่โอท๊อปเลยนะ หน้าตาแพ็คเกจและการออกแบบฉลากก็มาแนวคนเมืองออกแบบสวย และราคาทำให้นึกถึงกรุงเทพ

IMG_9994
IMG_20200101_202140
IMG_9993

ผมชอบกินกาแฟ และชอบเรื่องเล่าที่อยู่ในตัวสินค้า แต่ไม่ชอบราคาเลย แต่ก็เข้าใจว่าเขาเลือกวางตัว ออกแบบภาพลักษณ์ตัวสินค้าเอาไว้ให้เป็นของฝากราคาแพง ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ กาแฟที่คั่วด้วยมือพร้อมเรื่องเล่าผ่านลมปากเป็นของฝากที่เราคิดว่าควรซื้อกลับไป ซื้อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงระนองแล้ว ส่วนรสชาดเดี๋ยวต้องไปลุ้นกันอีกที

IMG_9996

เช้าวันใหม่เราเตรียมพร้อมเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแต่เช้าเลย เรากินมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วรอรถตู้มารับไปยังท่าเรือ ท่าเรือที่จะพาเราไปเที่ยวเกาะในพม่า และการเข้าไปเที่ยวพม่าก็ต้องใช้หนังสือเดินทาง และต้องมีการตรวจคนเข้าเมืองเหมือนนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ แต่คราวนี้เราไปพม่า

IMG_0006
IMG_20200102_091814

เรือจากระนองพาเราเข้าเขตพม่าแล้วไปลอยน้ำเล่นที่เกาะกลางทะเล ทะเลพม่าได้รับการบอกเล่าถึงความสวยงามและความสมบูรณ์สุดๆ ขอบฟ้าชอบดำน้ำดูปลาและปะการัง และทริประนองก็ออกแบบมาเพื่อพาขอบฟ้าไปดูปลาใต้น้ำในเขตพม่านั่นเอง จำนวนคนบนเรือไม่ได้นับ ครึ่งหนึ่งเป็นต่างชาติ และครึ่งหนึ่งเป็นคนไทย ทริปนี้เป็นทริปที่มีคนไทยเยอะขึ้น ซึ่งต่างจากทริปที่เราไปดำน้ำที่กระบี่ ทริปกระบี่เป็นทริปที่มีคนไทยแค่ 5% เท่านั้น

2020_0102_123344_003

กล้องใต้น้ำได้ทำงานจริงแล้ว ภาพนิ่งและภาพวิดีโอต่างๆทะยอยถูกถ่ายออกมาเรื่อยๆ ความทรงจำใต้น้ำเป็นภาพน่ามองเพราะเป็นภาพที่เราไม่เคยเห็น เราได้แวะเกาะต่างๆสองเกาะรอบเช้า แต่ละที่มีปะการังและสัตว์น้ำค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่มากเท่าที่กระบี่ แต่ก็ถือว่ามีพื้นที่ให้ดำน้ำดูค่อนข้างมาก มีหลายเกาะให้แวะ และเราได้พักกลางวันกินข้าวบนเกาะแห่งหนึ่ง มีอาหารไทยให้กิน แล้วให้เล่นน้ำที่หาดทราย

IMG_0070

เกาะแห่งนี้มีจุดชมวิวที่ยอดเขา สามารถมองลงมาเห็นวิวทะเลจากมุมสูง ภาพที่มองลงมาสวยมากและถ่ายรูปออกมาก็ดูดีเหลือเชื่อ

2020-01-02_10-31-35-01

ภาพจากมุมสูงที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปจนเหนื่อย ปกติมุมภาพแบบนี้ใช้โดรนบินขึ้นไปถ่ายได้เลย แต่เมื่อไม่มีโดรนก็ต้องใช้เท้าออกแรงเดินขึ้นไปแทน อากาศที่เกาะค่อนข้างร้อน แสงแดดแสบตา ภาพที่ถ่ายออกมาดูเหมือนไม่มีแดดแต่จริงๆเป็นการใช้เทคนิคการถ่ายภาพและอุปกรณ์ช่วยเหลือ

IMG_0079
2020-01-02_10-34-35-01

ทริปนี้เป็นทริปทะเลที่ตัดสินใจใช้กล้อง eos m เป็นกล้องหลักในวิวทะเล เพราะผมมีฟิลเตอร์โพลาไรซ์ที่ใช้กับเลนส์ kit efm18-55is ของกล้อง eos m ซึ่งการใช้ฟิลเตอร์ตัวนี้เราสามารถหมุนฟิลเตอร์ให้มีมุมโพลาไรซ์ที่เราต้องการ ผมเองเลือกหมุนฟิลเตอร์ ให้ตัดแสงสะท้อนที่ผิวน้ำออกให้หมด ผลก็คือภาพน้ำดูมีความเข้มจนรู้สึกอยากเล่นน้ำเลย กล้องกับเลนส์ที่ใช้เมื่อดูราคาขายมือสองจะพบว่ามันเป็นของถูกมาก เชื่อว่าในพศ.2563 นี้เราคงหาซื้อได้ในราคาประมาณ 5-6พันบาทเท่านั้น ชุดคู่ขวัญนี้ให้คุณภาพพอใช้ได้ ถ้าสถานที่อำนวย สภาพแสงเพียงพอ เราก็ได้ภาพสวยๆจากกล้องราคาประหยัดได้ไม่ยาก ลองกลับไปอ่านรีวิวกล้องกล้อง eos m ได้ที่นี่

2020_0102_151809_001

เราไปพักอาบน้ำล้างตัวและกินมื้อเย็นที่โรงแรมในพม่า สิ่งที่สังเกตุได้ชัดเจนก็คือมีนกอินทรีย์เยอะมาก บินร่อนไปร่อนมาให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ ที่โรงแรมในพม่าก็บินวนโชว์ตัวอยู่แทบตลอดเวลา มีนกเงือกเกาะอยู่บนต้นไม้ที่โรงแรม รู้สึกได้เลยว่าพม่าอุดมสมบูรณ์มาก ทรัพยากรธรรมชาติมีเหลือเฟือ อดคิดไม่ได้ว่า ในช่วงเวลาสักสามสิบปีที่แล้วสมัยที่การท่องเที่ยวยังไม่บูม สมัยที่คนยังไม่ค่อยรู้ข้อมูล สัตว์ป่าจะเยอะขนาดไหน สัตว์ใต้น้ำ ปะการังจะอลังการขนาดไหน ขอจบทริปในพม่าด้วยคลิปวิดีโอชิ้นนี้ และเราเดินทางข้ามแดนกลับประเทศไทย กลับเข้าระนองในตอนสองทุ่ม จบวันแบบหมดแรง

เช้าวันถัดมาเราเริ่มเที่ยวในระนอง ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ไม่รู้ว่าระนองมีอะไรบ้าง แต่พอเริ่มหาข้อมูลท่องเที่ยวก็พบหลายๆจุดที่น่าสนใจ เราไปเดินเล่นที่ภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นวิวเนินเขาไม่สูงนักและในช่วงเวลาหน้าฝนหญ้าจะเขียวมากจนทำให้กลายเป็นจุดแวะถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว แต่ช่วงที่เราไปก็เป็นช่วงน้ำน้อย หญ้าแห้งไปแล้ว

IMG_0180
ฉูดฉาด
IMG_0262
IMG_0268

บนท้องฟ้าเหนือภูเขาหญ้าที่เราเดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆก็มีนกล่าเหยื่อ ผมขอเรียกว่าอินทรีย์ละกันเพราะดูไม่ออก แยกไม่เป็นว่าเหยี่ยวกับอินทรีย์แตกต่างกันอย่างไร ตอนนี้ลูกเริ่มสนใจนกเหล่านี้ และหลายๆครั้งก็แยกแยะนกกับอินทรีย์ด้วยลักษณะของปีก ซึ่งพอจะช่วยแยกได้บ้างแม้จะไม่ถูกต้องทั้งหมด

ออกจากภูเขาหญ้า ขับรถไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึงบริเวณบ่อน้ำร้อนพรรั้ง เป็นจุดแวะสำหรับนักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน ที่นี่มีน้ำร้อนหลายบ่อ อุณหภูมิแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ร้อนๆอุ่นๆ แช่ขาให้รู้สึกสบายได้ บางบ่อก็น้ำไม่ร้อนมาก มีปลาว่ายน้ำเล่นด้วย

IMG_0284

เราแวะกินอาหารร้านดังที่มีรีวิวให้อ่าน ก่อนจะเข้าที่พักของวันนี้ ที่ร้านอาหารตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำร้อนอีกแห่ง ซึ่งบ่อนี้ร้อนจนเห็นเป็นไอน้ำเลย

IMG_0306
IMG_0302
IMG_0312

มีคนพาหมามาเดินเล่นแถวบ่อน้ำร้อน สิ่งที่สะดุดตาก็คือหมามีตาสองสีที่ไม่เหมือนกัน เห็นแล้วก็ต้องขออนุญาตเจ้าของถ่ายภาพเก็บไว้สักหน่อย เจ้าของหมาอธิบายให้ฟังว่าตาสองสีเป็นลักษณะผิดปกติของหมาซึ่งมีอยู่ไม่มาก และราคาค่าตัวก็คงแพงมาก (คิดเอง)

หลังจากได้เข้าพักในวันนี้ที่ บ้านนายหมง เป็นรีสอร์ตที่สร้างห้องพักท่ามกลางต้นไม้ เราก็เดินเล่น ถ่ายภาพเล่นในรีสอร์ต ทริปนี้ขอบฟ้าก็ช่วยถ่ายภาพพ่อกับแม่ได้หลายภาพเลย

IMG_0339
IMG_0399
IMG_0428
IMG_20200104_101243

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกโดยพนักงานรีสอร์ตช่วยถ่ายภาพครอบครัวให้ แล้วเราก็ขับรถกลับ ออกจากระนองขับมาถึงประจวบฯ แวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่หว้ากอ ที่หว้ากอมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในแง่ของวิทยาศาสตร์ เป็นตำบลที่ รัชกาลที่ 4 เสด็จทอดพระเนตรการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง โดยท่านคำนวณและประกาศล่วงหน้าว่าจะสามารถดูได้วันไหนเวลาใด และก็มีการเชิญชาวต่างชาติมาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวโลกรับรู้ว่าประเทศไทยมีนักวิทยาศาสตร์เช่นกัน เป็นการแสดงความมีอารยธรรมให้โลกรู้ เพื่อให้ต่างชาติเกรงใจประเทศไทย ให้เกียรติประเทศไทย และเป็นการวางรากฐานคำว่าวิทยาศาสตร์ให้กับประเทศไปพร้อมกัน และรัชกาลที่4 ก็เป็นบิดาแห่งวงการวิทยาศาสตร์ไทย

IMG_0473

ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็แวะกินอาหารที่ร้านครัวชมวาฬ ร้านนี้ผมตั้งใจแวะ เพราะว่าในอดีตช่วงที่เว็บบอร์ดพันทิปห้องบลูแพลเน็ตยุคเริ่มต้น มีคนมาสุมหัวคุยเรื่องท่องเที่ยวและถ่ายภาพ มีสมาชิกเว็บบอร์ดยุคบุกเบิกได้รู้จักกับพี่ชายคนหนึ่ง และเขาก็เปิดร้านอาหารแห่งนี้ ในสมัยนั้นผมก็เคยมีโอกาสได้มากิน ได้มากางเต๊นท์นอนที่สถานที่แห่งนี้ แล้วต่อมา พี่ชายท่านนี้ก็เสียชีวิตจากการถูกยิง เพราะสาเหตุการประท้วงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ เมื่อมีโอกาสก็เลยแวะมาเยี่ยม มาทานอาหาร อย่างน้อยก็ช่วยอุดหนุนคนคุ้นเคยและช่วยต่ออายุธุรกิจครอบครัวของพี่คนนี้

4jan2020-img_ (65)

และเราก็เข้าที่พักย่านหัวหินชื่อ สปริงฟิลด์ ตอนค่ำอย่างหมดแรง จนเช้าวันใหม่เราก็หาของกินที่ตลาดหัวหิน แวะกินร้านดังในตลาด

IMG_0102
IMG_0109

นอนเล่นแช่น้ำอย่างสบายใจ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพ ปิดท้ายด้วยระยะทางทั้งหมดที่ขับรถสำหรับทริปปีใหม่นี้ ฮอนด้าฟรีดคันเก่า คันเดิมที่พาเที่ยวมาตลอดหลายปี ทริปนี้จบลงที่ระยะทาง 1325.4 กิโลเมตร

IMG_20200105_165450

ภาพสุดท้ายนี้ภรรยาถ่ายให้ เป็นการส่องกล้องเพื่อถ่ายภาพนกด้วยเลนส์ซูมตัวโต น้ำหนักมาก พ่อเลยต้องเป็นขาตั้งกล้องให้ลูก

2020-02-28_11-59-35

new normal ของงานแสดง และพิพิธภัณฑ์

ด้วยความอยากรู้ว่าจะต้องจัดการวางระบบการให้บริการผู้คนอย่างไร ก็เลยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เพื่อดูวิธีการจัดการ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์ของประเทศ การจัดนิทรรศการที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ระวังการติดเชื้ออย่างเต็มที่น่าจะได้รับการออกแบบมาอย่างเหมาะสมและน่าเชื่อถือที่สุด

เริ่มจากการลงทะเบียนทางเว็บไซต์ว่าเราจะมาเที่ยว ทางเจ้าของสถานที่น่าจะจำกัดจำนวนคนที่จะลงทะเบียนเข้าชมเอาไว้ว่าไม่เกินจำนวนที่รัฐบาลกำหนด คนที่ลงทะเบียนจากทางบ้าน เมื่อมาถึงสถานที่แล้วก็จะยังเข้าไม่ได้ทันที ต้องผ่านจุดคัดกรอง ตรวจอุณหภูมิ หากต่ำกว่า 37 ก็จะอนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้ จากนั้นก็ต้องไปนั่งรอในพื้นที่ที่จัดไว้ เก้าอี้นั่งรอก็จะวางห่างกันประมาณ 1.5 เมตร เมื่อตรวจสอบคนที่นั่งรอกับรายชื่อที่แจ้งไว้เรียบร้อยแล้วก็จะอนุญาตให้เข้าได้ โดยจะติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่เสื้อเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่าผ่านการลงทะเบียนและได้รับอนุญาตให้เข้าแล้ว และเราต้องสแกนแอพไทยชนะด้วยเพื่อ check in

IMG_20200607_094305

ระหว่างทางที่เดินผ่านก็จะเห็นสติ๊กเกอร์ที่พื้นอยู่ตลอดทาง เก้าอี้นั่งพักระหว่างทางก็มีสติ๊กเกอร์เตือนเอาไว้ว่าให้พยายามรักษาระยะห่างของแต่ละคนไว้ อย่าเผลอเข้าใกล้กัน

IMG_20200607_101144

ที่จุดแสดงข้อมูลภายในพิพิธภัณฑ์ ทุกจุดที่อาจจะต้องใช้มือสัมผัสกับสิ่งของหรือหน้าจอ ก็จะมีเจลแอลกอฮอล์วางไว้ข้างๆเลย เมื่อกดเล่นหน้าจอแสดงผลเรียบร้อยแล้วก็ให้กดเจลแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือเลย เจลจะถูกวางไว้ทั่วบริเวณ

IMG_20200607_095529
IMG_20200607_113606

เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน เราออกจากพิพิธภัณฑ์ก็สแกน qrcode ไทยชนะของพิพิธภัณฑ์เพื่อ check out แล้วไปที่โซนขายอาหารจะล้อมรั้วเอาไว้ มีจุดเช็คอิน มี qrcode ของไทยชนะที่เราต้องสแกนเพื่อ check in ก่อนแล้วค่อยเดินเข้า จะมีเจ้าหน้าที่แจกบัตรติดเสื้อ บนบัตรจะมีตัวเลขบอก เขาใจว่าจำนวนบัตรจะเท่ากับจำนวนคนที่สามารถเข้าโรงอาหารได้ตามข้อกำหนด โรงอาหารแคบก็อาจจะมีจำนวนคนได้รับอนุญาตน้อย ซึ่งเลขที่ติดอยู่บนบัตรจะเรียงลำดับจาก 1 ไปถึงจำนวนที่กำหนด หากบัตรถูกแจกหมด ก็คงจะยังไม่ให้คนใหม่เข้า คนเก่าที่ใช้บริการพื้นที่เสร็จแล้วก็ควรจะรีบออกมา แล้วรีบคืนบัตรให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปให้คนอื่นได้เวียนใช้

IMG_20200607_113353

โต๊ะนั่งทานอาหารจะเป็นแบบโต๊ะยาว คนนั่งจะนั่งหัวโต๊ะ ไม่หันหน้าเข้าหากัน บน
โต๊ะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้เพื่อบกว่าต้องนั่งมุมนี้ โต๊ะ 1 ตัวนั่ง 2 คน การรับบัตรคิวแล้วเข้ามานั่งกินนั่นแปลว่าเราได้ที่นั่งแน่นอน แบบนี้ประเสริฐ

IMG_20200607_114431

IMG_20200607_112539

บนโต๊ะจะมีสติ๊กเกอร์เตือนให้เว้นระยะห่าง และเมื่อเรากินอาหารเสร็จ นำภาชนะไปทิ้งที่ถังขยะกันเอง แล้วตอนเดินออกให้คืนบัตรเลขคิว และสแกน qrcode ไทยชนะของศูนย์อาหารเพื่อ check out

IMG_20200607_114652

หากเราแวะร้านขายของที่ระลึก ก็ต้องสแกน qrcode ของร้านขายของเพื่อ check in ซึ่งตรงนี้เพิ่งจะได้เห็นว่า มีระบุจำนวนคนเอาไว้ด้วย ตัวเลข 28 น่าจะหมายถึงจำนวนคนที่มากที่สุดที่ยอมให้อยู่ในร้านขายของที่ระลึกพร้อมกัน ซึ่งก็ถือว่าไม่มาก ไม่น้อย และเมื่อซื้อสินค้าแล้ว เมื่อออกจากร้านก็ต้องสแกน qrcode อีกครั้งเพื่อ check out

IMG_20200607_114727

IMG_20200607_140431

โต๊ะจัดกิจกรรม จัดตำแหน่งการนั่งทำไว้ที่หัวมุมโต๊ะ โต๊ะละ 2 คน ระยะห่างของสองคนนี้น่าจะประมาณ เกือบ 2 เมตร

IMG_20200607_142512

ที่ห้องน้ำก็มีคำเตือนให้เว้นระยะห่าง และติดสติ๊กเกอร์ไว้ตั้งแต่ในห้องน้ำ แล้วค่อยๆต่อแถวออกมานอกห้อง โดยสติ๊กเกอร์จะติดห่างกันประมาณ1.5-2 เมตร หากคนใช้ห้องน้ำเยอะ ก็คงจะต้องยืนรอที่สติ๊กเกอร์

ตกอยู่ในภวังค์ กับ งานวิจัยของในหลวง

ที่พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เพิ่งเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2562 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ให้ความรู้ที่หลากหลายและทันสมัย เหมาะกับการพาลูกไปเดินเล่นสักหลายๆชั่วโมง และส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะมีงานแสดงผลงานของในหลวงรัชกาลที่ 9

ผมพาลูกไปเดินดูในพิพิธภัณฑ์หลายครั้ง และมีโอกาสได้หยุดเก็บรายละเอียดนานๆ เพราะพาลูกไปเข้าเวิร์คช็อปทำสิ่งประดิษฐ์ 1 ชั่วโมง เลยได้มีโอกาสอ่านข้อมูลของในหลวงอย่างละเอียด และไปพบกับ โครงการวิจัยตัวหนึ่งชื่อ โครงการแกล้งดิน ซึ่งเป็นชื่อที่แปลกประหลาด แต่ก็ดูลึกล้ำกับแนวคิดมาก

IMG_20200607_134108

การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ได้ทำด้วยเวลาเกือบทั้งชีวิตของท่าน พระมหากรุณาธิคุณสูงลิบจนไม่น่าจะมีใครทุ่มเทเพื่อคนอื่นได้เท่านี้อีกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่เวลาที่มอบให้กับประชาชน แต่คุณภาพของงานก็อยู่ในระดับสูง งานวิจัยหลายงานแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้อย่างฉลาดล้ำ จะมีกษัตริย์ที่ไหนที่เป็นนักคิด นักประดิษฐ์ และนักวิทยาศาสตร์ ที่เพียบพร้อมขนาดนี้

IMG_20200607_134055

ผมอ่านแนวคิดของโครงการแกล้งดินแล้วก็ตกอยู่ในอาการทึ่ง และรู้สึกภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ในฐานะประชาชน งานนี้แก้ปัญหาได้อย่างฉลาดและทรงคุณค่า ในฐานะของคนที่เคยเรียนวิศวะ และ วิทยาศาสตร์ ผมถามตัวเองว่า งานวิจัยแบบนี้เราจะคิดได้ไหม จะริเริ่มได้ไหม จะคิดนอกกรอบแบบนี้ได้ไหม วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อลูกผมต้องทำงานวิจัยทางวิชาการ ผมจะพาเขามาอ่านบทความนี้ ที่พิพิธภัณฑ์นี้อีกครั้ง หวังว่างานแสดงผลงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 จะไม่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปเสียก่อน เพราะตอนนี้ลูกผมอายุยังไม่ถึงแปดขวบเลย

IMG_20200607_133944
IMG_20200607_133835_1
IMG_20200607_133915
IMG_20200607_133924
IMG_20200607_133841
IMG_20200607_133852
IMG_20200607_133857
IMG_20200607_133934

พาลูกดูดาว ที่ฉะเชิงเทรา

IMG_4844

หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรม ครอบครัวดาราศาสตร์ ในช่วง 15-16 ธันวาคม 2561 โดยการลงทะเบียนจอง มีโควต้า 120 คน กำหนดการเริ่มจองจะประกาศล่วงหน้า บ้านที่ส่งอีเมลจองทันเวลาจะได้รับสิทธิ์ได้เข้าร่วมกิจกรรม และจะต้องเตรียมเต๊นท์ไปเอง เพราะกิจกรรมจะนอนค้างที่หอดูดาว 1 คืน ปีนี้จัดเป็นปีที่ 2

ค่ายครอบครัวดาราศาสตร์2561
IMG_20181215_095818_1

หอดูดาวที่จัดงานอยู่ฉะเชิงเทรา ผมออกจากบ้าน 7.00 น. ขับรถแวะเติมน้ำมัน ขับไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้เส้นทาง เปิด googlemaps ขับตามไปเรื่อยจนถึง มีเส้นทางแยกที่ทำให้สับสนนิดหน่อยแต่ก็ไปจนถึงทันเวลานัดหมาย กิจกรรมเริ่ม 9.00 น. วันเสาร์

IMG_20181215_090932
IMG_4907

กิจกรรมก็จะเน้นความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่อง สิ่งที่ขอบฟ้าชอบมากที่สุดในแคมป์ครั้งนี้คือการได้ทำจรวดขวดน้ำ ได้ออกแบบ ได้คิด โจทย์ของจรวดขวดน้ำจะเพิ่มการบรรทุกไข่นกกระทาสองฟองไปกับจรวดด้วย ซึ่งจรวดที่วิ่งออกไปตกลงพื้นจะต้องไข่ไม่แตก เป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก ขอบฟ้าเลือกที่จะให้สร้างจรวจแบบที่มีชิ้นส่วนร่อนลงจอดแบบมีร่มชูชีพ ทำให้การลงจอดของไข่ช้าลง ส่วนพ่อก็สร้างตามที่ลูกคิด

IMG_4783
IMG_4799
IMG_4800

อีกกิจกรรมที่ได้ความรู้ชั้นดีคือการสร้างดาวหาง ซึ่งมีส่วนประกอบทางกายภาพที่เหมือนดาวหางจริงๆ ในทางวิทยาศาสตร์ ดาวหางคือก้อนน้ำแข็งโสโครก การสร้างก้อนแบบนี้จะต้องใช้ สารอินทรีย์จากดิน กาแฟ น้ำ แอมโมเนีย น้ำแข็งแห้ง และสุดท้ายดาวหางก็อยู่ในมือพวกเรา ได้เห็น ได้จับ การเรียนรู้แบบนี้น่าจะได้รับการจดจำไปอีกนาน

IMG_4776

ได้ใช้กล้องดูดาวระดับกึ่งอาชีพ เป็นกล้องดูดาวขนาดใหญ่ โอบไม่รอบ ได้จับ ได้ปรับ ได้ทดลองใช้ตัวจริง กล้องดูดาวชนิดดร็อบโซเนียนรุ่นนี้ได้รับการแจกจ่ายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ นอกจากนี้การได้เห็นกล้องดูดาวยักษ์บนหอดูดาวซึ่งตัวกล้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางของกระจกรับภาพ 0.7 เมตร เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ซึ่งตัวที่ใหญ่กว่านี้จะอยู่ที่เชียงใหม่โดยมีขนาด 2.4เมตร แต่แค่ 0.7 เมตรที่ฉะเชิงเทราก็สร้างความตื่นเต้นสำหรับคนดูได้มากอยู่แล้ว

IMG_4838
IMG_20181216_054455

การกางเต๊นท์ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเด็ก เพราะได้เรียนรู้ว่าเราสามารถนอนพักที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องพักโรงแรม ทริปนี้ยังขาดประสบการณ์การทำอาหารกินอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำ เพราะทีมจัดกิจกรรมดูแลเรื่องของกินครบถ้วนทุกมื้อ อาหารว่างก็ครบ กาแฟมีตลอดเวลา นับว่าเป็นค่ายที่มีความพร้อมในการจัดงานดีมาก ขอชื่นชมทีมงานของหอดูดาวทุกคน

IMG_4752

สถานที่แห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ มีท้องฟ้าจำลอง มีการฉายวิดีโอและสไลด์เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้อีกแหล่งหนึ่งใกล้กรุงเทพ เหมาะกับการพาเด็กมาเที่ยวอย่างมาก

IMG_4822
IMG_4847
IMG_4876
IMG_4889
IMG_20181216_130817

สุดท้าย ไข่ในจรวดของขอบฟ้า ไม่แตก

ขอบฟ้า เพลินๆ 23oct2018 พิพิธภัณฑ์เด็ก ไดโนเสาร์

ปิดเทอมมหาสนุกของขอบฟ้า  นอกจากการเรียนฟุตบอล เปียโน ศิลปะแล้ว  ก็ยังมีโอกาสได้ไปวิ่งเล่นที่พิพิธภัณฑ์เด็ก จตุจักร ซึ่งมีของเล่นมากมาย หนึ่งในนั้นที่ทำให้ขอบฟ้าอยากไปซ้ำเป็นพิเศษก็คือ มีไดโนเสาร์โชว์อยู่มุมเล็กๆ เพราะตอนนี้ขอบฟ้ากลับมาชอบไดโนเสาร์อีกแล้ว
ขอบฟ้าดูการ์ตูนเรื่องไดโนมาสเตอร์  เป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ของไดโนเสาร์  ขอบฟ้าจะจำท่าทางและเสียงของไดโนเสาร์ แล้วไปเทียบกับการเคลื่อนที่และเสียงของไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์เด็ก  ขอบฟ้าไปโยกหัวกับหุ่นไดโนเสาร์ เลียนแบบการโยกหัวของหุ่นแล้วจำกลับมาเล่น  ไปยืนฟังเสียงของไดโนเสาร์สองตัวที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์แล้วออกเสียงเลียนแบบให้คล้ายกัน  แล้วก็จำกลับมาออกเสียงร่วมกับออกท่าทาง
ตอนนี้ขอบฟ้าจำข้อมูลไดโนเสาร์ได้หลายตัวมาก สามารถพูดบรรยายลักษณะทางกายภาพของไดโนเสาร์ได้เกือบสิบชนิด และบางทีก็ฝันถึงไดโนเสาร์ด้วย

 

Compare

ขอบฟ้าเริ่มสนใจดวงดาว

ขอบฟ้าเริ่มสนใจดวงดาว น่าจะเป็นเพราะพ่อเริ่มอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์เก่งๆให้ฟังแทนนิทานก่อนนอน มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ขอบฟ้าชอบ และมักจะถามพ่อว่า พ่อชอบคนไหนมากที่สุด ให้เรียงลำดับจากมากไปน้อย พร้อมให้บอกเหตุผลด้วยว่าชอบเพราะอะไร ซึ่งพ่อก็เล่าและชอบกาลิเลโอที่สุด ขอบฟ้าเลยชอบกาลิเลโอด้วย

IMG_20180101_215323_619

 

ขอบฟ้าชอบกาลิเลโอมากเป็นพิเศษ แต่งตัวแฟนซีไปโรงเรียนก็ขอเป็นกาลิเลโอ พ่อก็เลยหากล้องดูดาวมาให้เล่น และซื้อกล้องส่องทางไกลให้เป็นของขวัญคริสมาสต์ แล้วก็เริ่มดูดาว เริ่มส่องดูดวงจันทร์ด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงนี้ขอบฟ้าก็ชอบดูดาวมาเรื่อยๆ และเริ่มสนใจอวกาศ ดวงดาว แกแล็คซี่

IMG_20180108_202259

 

youtube เป็นแหล่งความรู้และความบันเทิงของขอบฟ้า นอกจากหนังต่อสู้ ไดโนเสาร์ ปลาวาฬ ก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวเพิ่มเติมเข้ามา สารคดีอวกาศและดวงดาวเป็นสิ่งทีทำให้ขอบฟ้าเพลิดเพลินได้ ขอบฟ้าชอบดาวเสาร์เป็นพิเศษ และมีการวาดรูปดาวเสาร์และดาวพฤหัสบ่อยมาก

https://flic.kr/p/22jbnqF

 

IMG_0050

การเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในช่วงเวลานี้เป็นการเที่ยวที่สนุกมาก เพราะขอบฟ้ารู้เรื่องมากขึ้น ถามหาเหตุผลของสิ่งที่ไปดู และไปได้แผนที่ดวงดาวกลับมาด้วย ทำให้การดูดาวจริงจังมากยิ่งขึ้น ดวงดาวทุกดวงในสุริยะจักรวาลขอบฟ้าจำได้ทั้งหมด ดาวฤกษ์ที่สำคัญและมีตัวตนบนแผนที่ก็จะจำได้หลายดวง การดูดาวที่ท้องฟ้าจำลองก็กลายเป็นเรื่องสนุกเพราะเริ่มฟังเข้าใจ ขอบฟ้าจำตำแหน่งดวงดาวได้ มองแผนที่ดวงดาวและหาดาวที่ต้องการจนเจอ

IMG_0045

 

สิ่งที่พ่อกลัวก็คือ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปขึ้นยานอวกาศ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปดูที่ปล่อยจรวด แล้วขอบฟ้าก็ขอจริงๆด้วย

japan14-19jul2011Full -DSCF2504



japan14-19jul2011Full -DSCF2504, originally uploaded by pockethifi.

บทคัดย่อของญี่ปุ่นเรื่องอนุภาคนิวทริโน่ที่ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์

นี่คือ ภาพบทคัดย่อของคนญี่ปุ่นที่เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคนิวทริโน่ งานชิ้นนี้ได้รับรางวัลโนเบล ภาพนี้ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่โอซาก้า เมื่อหลายปีก่อน เป็นหลักฐานว่า ironman ก็มีหัวใจ…. ไม่ใช่ เป็นหลักฐานว่าญี่ปุ่นเจริญมาก และวงการศึกษาของไทยคงห่างจากญี่ปุ่นสักร้อยปี++ โนเบลชิ้นแรกของไทยจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะศตวรรษนี้ หรือ ศตวรรษหน้า

และอีกแรงจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจเก็บไว้ก็คือ บทคัดย่อนี้ ไม่ได้เขียนด้วยฟ้อนต์ อังสนา ขนาด16 ไม่ได้เว้นหน้า 1 นิ้ว เว้นหลัง 1 นิ้ว ไม่ได้พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ลายมืออ่านยาก มีรอยขีดแก้ไข แต่ก็ไม่ได้ลดคุณค่าของกระดาษที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเรา