ถ่ายรูปพระเครื่องตอนที่ 2

หลังจากที่ถ่ายรูปเหรียญพระแบบโลหะมันวาวไปแล้วในตอนทีึ่ 1 ผมก็พบว่าภาพเหรียญโลหะมันคมชัดดี แต่สีสันไม่ไม่เหมือนการมองด้วยตาเปล่า โลหะจะมีความมัน และความมันก็สะท้อนกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆจนเห็นเป็นสีดำ ผมเข้าใจว่ามนสะท้อนกับเพดานด้านบน ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่โดนแสงแฟลช ทำให้มันได้ภาพสะท้อนมืดๆอยู่บนผิวโลหะ เลยมองเห็นเหมือนเป็นสีเข้มๆดำๆ

อย่างภาพตัวอย่าง ตรงกลางเหรียญควรจะเป็นโทนสีเหลือง กลับกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ เป็นปัญหาเงาสะท้อนชนิดหนึ่ง ใครที่ไม่เคยเห็นขั้นตอนการถ่ายภาพวัตถุมันวาวจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ต้องให้คนที่เคยถ่ายภาพมาอธิบายถึงจะรู้ที่มาที่ไป ตอนผมหัดถ่ายภาพกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านก็อธิบายหลักการถ่ายภาพวัตถุมันวาวเอาไว้ นั่นคือจะต้องถ่ายในมุ้ง หรือในเต๊นท์

ผมวิเคราะห์ว่า การมีเต๊นท์หรือมุ่งมาคลุมวัตถุมันวาวเอาไว้ จะทำให้ภาพของผนังเต๊นท์ไปปรากฏอยู่บนผิววัตถุ การมีพื้นที่สีขาวเยอะๆไปสะท้อนให้เกิดภาพบนผิดของวัตถุมันวาวจะทำให้สีที่ปรากฏขึ้นเป็นการผสมระหว่างผิววัตถุกับผนังเต๊นท์ ดังนั้นถ้าเราทำให้วัตถุอยู่ในพื้นที่ห้อมล้อมด้วยสีขาวทั้งหมด ภาพสะท้อนก็จะเป็นสีขาว ก็คือเป็นการทำให้สีของวัตถุสว่างขึ้นนั่นเอง อย่า อย่าเพิ่ง งง

ผมไม่มีเต๊นท์ ก็เลยอาศัยว่าถ่ายในขวดน้ำผ่าครึ่ง เหมือนตอนที่แล้ว แต่เพิ่มเติมการปิดด้านบนด้วยกระดาษขาวมาคลุมไว้ ผมติดกระดาษขาวเข้าไปกับเลนส์ แล้วก้มลงไปถ่ายภาพในขวด กระดาษแผ่นจะทำหน้าที่เหมือนฝากระป๋อง คลุมกระป๋องเอาไว้ทั้งหมด ทำให้วัตถุเหมือนอยู่ในเต๊นท์

ซึ่งก็จะให้ผลลัพธ์เป็นแบบภาพนี้

แบ็คกราวน์ไม่เหมือนเดิมเพราะวางกระดาษแข็งลงไปบนพื้นด้วย

ถ่ายรูปพระเครื่อง

การถ่ายรูปพระเครื่องถือเป็นงานถ่ายภาพมาโครประเภทหนึ่ง หลักการถ่ายภาพแนวมาโครก็มีรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน คือใช้เลนส์มาโคร ใช้ขาตั้ง ใช้ระบบแฟลชเพื่อความสะดวก จะถ่ายตอนกลางวันหรือกลางคืน แสงของสภาพแวดล้อมก็จะไม่มีผลต่อภาพ

โจทย์การถ่ายภาพพระเครื่องโดยเฉพาะเหรียญโลหะมันวาวเป็นโจทย์ที่เพื่อนคนหนึ่งให้ไว้ เพราะว่าที่ผ่านมามีปัญหาว่าเขาไม่สามารถถ่ายให้ภาพชัดและสีสวยได้ ผมฟังแล้วก็นั่งนึกถึงวิธีการจัดแสง พอรับปากได้ตัวอย่างเหรียญโลหะมา ก็เอามาลองจัดไฟตามแบบที่เคยนึกเอาไว้

การถ่ายของมันวาวควรจะถ่ายในสภาพที่มีวัสดุสีขาวห่อหุ้มเอาไว้ ผมเลยนึกถึงขวดพลาสติกขนาดใหญ่ เนื้อขาวขุ่น เอามาตัดด้านบนออกแล้วก็ยิงแสงแฟลชเข้าไปด้านข้างขวด วัตถุที่อยู่ในขวดก็จะได้แสงสว่างที่นุ่มนวล กล้องถ่ายภาพจะถ่ายจากด้านบน เพื่อบันทึกภาพในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นภาพที่จะให้รายละเอียดของพระเครื่องหรือเหรียญโลหะที่ครบถ้วน นึกแล้วก็จัดสภาพตามนี้

ตัวเลนส์ใช้ ef100 macro f2.8 แฟลชใช้ nikon sb25 และ sb26 ส่งสัญญาณแฟลชด้วยทริกเกอร์ไร้สาย ค่าแสงที่ลองถ่ายอยู่ที่ f16 ความเร็วชัตเตอร์ 1/125 วินาที ตอนถ่ายภาพก็ค่อนข้างยาก เพราะว่ากล้องต้องวางในแนวดิ่ง เลนส์ชี้ลง แบบนี้ต้องใช้ขาตั้งราคาแพงเท่านั้น เพราะขาตั้งราคาถูกไม่สามารถจัดระนาบกล้องให้ถ่ายแนวดิ่งได้ ภาพออกมาตามนี้

ลองเอากระดาษมารองด้านหลังของวัตถุดู เพื่อเพิ่มฉากหลังให้มีลวดลายอื่่นๆแทนที่จะเป็นเนื้อพลาสติก

ผมดูภาพแล้วก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แม้ว่าความคมชัดของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ชัดเพียงพอ แต่สีสันยังไม่สวย ยังไม่สามารถบอกว่าภาพนี้เป็นภาพที่สวยได้ เลยลองจัดแสงแบบอื่นดูบ้าง ก็เลยหาอุปกรณ์ใกล้ตัวชิ้นอื่นๆที่น่าจะพอใช้ได้มาลองดู ก็เลยลองกับ ring flash ดู

การใช้ Ring flash จะต้องให้เลนส์ถ่ายภาพอยู่ในพื้นที่ของวงแหวน ผมก็เลยจัด ring flash ไปต่อกับแฟลช nikon sb-25 แล้วใช้ตัวทริกเกอร์เป็นตัวส่งสัญญาณ วางวงแหวนไว้ในแนวราบ เวลาถ่ายจะต้องเอาเลนส์ไปสอดไว้กลางวงแหวน

ภาพที่ได้เป็นแบบนี้

ภาพจาก ring flash มันดูดีขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฉากหลังเป็นสีเขียว หรือลักษณะแสงมันช่วยให้ดูดีกว่าแบบวางในขวดพลาสติก แต่ก็จำหลักการเอาไว้เพื่อใช้ถ่ายภาพชิ้นอื่นๆต่อไป