เรามาเตรียมตัวเพื่อย้อนเวลากันดีกว่า

IMG_0909.JPG

 

การย้อนเวลากลับไปดูอดีตเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น  เราสามารถที่จะรับรู้ความตื่นเต้นได้จากการดูหนัง ดูการ์ตูน  ในทีวี  การ์ตูนเรื่องโดเรม่อนมีตัวโดเรม่อนเป็นตัวละครที่ทำให้เรารู้ว่าการเดินทางข้ามเวลาคืออะไร การเดินทางย้อนอดีตและการเดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตเป็นไปได้ในทางจินตนาการ  และเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็พยายามหาวิธีข้ามเวลา   มีสมมุติฐานมากมายเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา ถ้าเราติดตามบทความเกี่ยวกับฟิสิกส์และจักรวาลเราจะเจอเรื่องเวลาเต็มไปหมด

 

แม้ว่าวันนี้เราจะไม่รู้ว่าเราจะต้องทำอย่างไรกับการข้ามเวลา  แต่เราสามารถสัมผัสความรู้สึกของการข้ามเวลาได้  มันน่าตื่นเต้น มันน่าสนใจ และถ้ารู้ว่าจะรู้สึกดีขนาดนี้จะเตรียมการข้ามเวลาเอาไว้เพื่อจะได้รู้สึกดีแบบนี้บ่อยๆ

leona-prewedding-dpp1-IMG_5879

ผมเดินทางข้ามเวลาหรือย้อนเวลาได้น่ะเหรอ  ยังไม่ได้หรอกครับ แต่ได้รับความรู้สึกนั้นแล้วจากการนั่งมองรูปถ่ายเก่าๆที่ไม่เคยเห็น  การถ่ายภาพเป็นการหยุดเวลาในภาพไว้  เหตุการณ์นั้นถูกทำให้คงที่ สิ่งที่อยู่ในภาพนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง  แต่คนเรา และผู้คนทั่วโลกต่างก็ถ่ายภาพกันมาตลอดชีวิต  แล้วจะมาบอกว่าย้อนเวลากันทำไม  นั่นสิ อย่าเพิ่งสับสน  มันเป็นอย่างนี้

 

หากเราถ่ายภาพ และ ดูภาพเหล่านั้น เราก็จะมีความทรงจำเหล่านั้น และมันก็จะไม่เหมือนการย้อนเวลา มันเป็นความทรงจำที่เข้าสู่ตัวเราในเวลานั้น   แต่หากเราได้ดูภาพที่เราไม่เคยเห็น เป็นภาพที่เราอยากเห็น แต่เพิ่งจะเคยเห็น แบบนี้มันคือได้อรรถรสของการย้อนเวลา  ผมกำลังรู้สึกดีกับการดูภาพถ่ายลูกตัวเองในช่วงชีวิตหนึ่งๆขณะที่เขายังเป็นเด็กน้อย สามารถหกล้มได้ตลอดเวลา  ซึ่งในเวลาปัจจุบันลูกผมกำลังจะอายุ 6 ขวบ แต่การได้ดูภาพตอนเขาอายุ ขวบกว่าๆ มันฟิน  มันปลาบปลื้ม เราไม่เคยเห็น และเราเพิ่งได้เห็น

IMG_20170605_091540_384

 

ลูกเราโตครั้งเดียว โตแล้วโตเลย เด็กตัวเล็กๆหน้าตาไร้เดียงสา เราไม่สามารถเห็นได้อีกแล้วในชีวิตปัจจุบัน เหมือนกับที่เราส่องกระจกก็พบตัวเราเองในปัจจุบัน เราไม่สามารถมองเห็นตัวเราตอน 1 ขวบได้อีก ถ้าเราไม่ถ่ายรูปไว้  แต่การได้เห็นภาพในอดีตที่มันเป็นภาพที่เราลืมไปแล้ว  เราอาจไม่เคยรู้เลยว่ามีภาพนี้อยู่ มันสร้างความตื่นเต้นไปกับภาพอย่างยิ่ง  สิ่งนี้แหละที่ทำให้รู้สึกดี  และถ้ารู้ว่ามันจะรู้สึกดีขนาดนี้ จะถ่ายภาพแบบนี้เก็บไว้ในทุกๆช่วงเวลา

IMG_20170408_100420

 

ถ่ายภาพแบบไม่เห็นภาพ แล้วเราจะทำได้อย่างไร  ก็ถ่ายด้วยฟิล์มไง  หาเราถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล หรือถ่ายด้วยโทรศัพท์เราก็เห็นภาพไปแล้ว  ภาพเหล่านี้ก็จะหมดความน่าสนใจลงไป  แรงดึงดูดมันไม่มี  แต่กับภาพจากฟิล์ม  ภาพที่เราเพิ่งล้างฟิล์มออกมาแล้วดูเหตุการณ์ในภาพ ก็เหมือนเราได้ย้อนเวลาจริงๆ  อารมณ์ตอนเห็นภาพมันเป็นความรู้สึกยากจะบรรยาย เรื่องความรู้สึกต้องสัมผัสเองถึงจะเข้าใจ

 

ฟิล์มม้วนนี้ ผมถ่ายไว้เมื่อไหร่ผมก็ลืมไปแล้ว  แต่ดูจากเหตุการณ์ในภาพก็น่าจะช่วงที่ลูกผมอายุ ประมาณ 2 ขวบ ซึ่งมันก็เท่ากับว่าผ่านมาประมาณเกือบ 4 ปี   4ปีของเด็กไม่เหมือน 4 ปีของผู้ใหญ่  ภาพตัวผมเมื่อ 4 ปีที่แล้วดูไม่แตกต่างจากตอนนี้มาก  แต่ของเด็ก 2 ขวบ กับ เด็ก 6 ขวบ มันต่างกันลิบลับ  และความลิบลับนี่เองที่ทำให้คนดูภาพรู้สึกดี

IMG_20180422_082707

 

 

Vsco

 

ยังคงมีภาพที่น่าดูอีกหลายภาพ ผมอัดภาพออกมาเป็นกระดาษหลายใบ  การล้างฟิล์ม การอัดภาพขาวดำเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ให้ความสุขทั้งคนถ่ายภาพ คนล้างฟิล์ม คนอัดภาพ และคนดูภาพ ใครทำเองทุกขึ้นตอนก็ฟิน 4 เท่า

 

IMG_20180513_024044

อย่างภาพลูกผมถ่ายคู่กับรถของเล่นคันนี้  อายุลูกในภาพก็น่าจะประมาณขวบเศษ เด็กวัยนี้ยังพูดไม่ชัดเลย  เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเป็นคนถ่ายภาพไว้เอง แต่เป็นการถ่ายด้วยฟิล์ม และไม่ได้ล้างทันที เพิ่งมาล้างเมื่อ 4 ปีผ่านไป  ก็เลยได้เห็นภาพอดีตที่ลืมไปแล้ว  การย้อนเวลามันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง

 

การเตรียมตัวเพื่อย้อนเวลาในแบบของผมก็คือ การถ่ายภาพด้วยฟิล์มเก็บไว้ ยังไม่ต้องล้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องดู รอเวลาให้ผ่านไปนานๆหน่อย  ถ้าเป็นไปได้ ตอนนี้อยากจะถ่ายภาพด้วยฟิล์มเก็บไว้ปีละ 2 ม้วน เพื่อให้ในอนาคตผมสามารถได้ย้อนเวลากลับมาดูได้ทุกช่วงปี  กล้องฟิล์ม ม้วนฟิล์มยังคงมีอยู่ในโลกเรา  ถ้าจะใช้ก็มีให้ใช้  กล้องฟิล์มเป็นกล้องที่บันทึกภาพด้วยความละเอียดมหาศาล ไม่มีระบบดิจิทัลใดๆมาทดแทนได้  การใช้งานแม้จะยุ่งยากและสิ้นเปลือง แต่สิ่งที่มันให้กับเรา ในอนาคตเงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้  นั่นคือ เวลาในอดีต  อย่าเพิ่งแย้งว่า ดิจิทัลถ่ายแบบไม่ดูก็ทดแทนได้เหมือนกัน  หลายคนอาจคิดเช่นนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าดิจิทัลทดแทนไม่ได้  มันไม่เหมือนฟิล์ม  ก็เพราะหน่วยความจำมันพังได้ แต่ฟิล์มไม่พังครับ  ในความเป็นจริงฟิล์มมันอาจมีวันพังก็ได้แต่ฟิล์มที่ผมเคยสัมผัสมาตลอดชีวิต ผ่านมาเกินครึ่งชีวิตแล้ว ไม่มีม้วนไหนที่พังเลย

 

 

ถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม leica minilux

 

กล้องฟิล์มเป็นสิ่งที่แทบจะไม่มีคนใช้ทำงานแล้ว คงเหลือแต่การใช้เพื่อความบันเทิง เพื่อความสุข เพื่อความมันส์ของช่างภาพยุคเก่าและช่างภาพรุ่นใหม่ที่อยากลองของเก่า ผมก็นับว่าเป็นช่างภาพยุคเก่า ยุคที่หัดถ่ายรูปในช่วงที่ฟิล์มได้รับความนิยมสูงสุด ยุคที่การถ่ายรูปรับปริญญาและงานแต่งงานคุยกันว่าถ่ายกันกี่ม้วน ยุคที่มีร้านล้างอัดฟิล์ม 24 ชั่วโมง ยุคที่ฟิล์มตลาดราคาสามม้วนสองร้อยบาท

พอพ้นจากช่วงเวลายุคทองของฟิล์มไปแล้ว ทุกคนก็หันหน้าเข้าสู่ดิจิทัล การทำงาน การรับจ้างถ่ายภาพเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด จากงานรับปริญญาที่ถ่ายกัน 4-5 ม้วน ได้ภาพเป็นเล่ม รวมกันไม่ถึงสองร้อยภาพ กลายเป็นงานรับปริญญามีภาพให้ดูพันภาพจากกล้องดิจิทัล งานแต่งงานมีภาพให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวดูกันสามพันภาพ ซึ่งไม่มีทางดูกันได้ครบถ้วน ฟิล์มที่เคยตุนเอาไว้เพื่อรับงานก็ยังคงนอนนิ่งอยู่ในบ้านไม่ถูกจับต้องอีกเลย ผ่านไปเกือบสิบปี ฟิล์มเหล่านั้นก็หมดอายุ และระหว่างที่เพลินกับการใช้กล้องดิจิทัล ผมก็ลืมฟิล์มไปแล้ว และคิดไปว่า ไม่มีฟิล์มสีดีๆขายอีกแล้ว เพราะมีแต่ข่าวการเลิกผลิต ปิดโรงงาน รวมไปถึงข่าวการล้มละลายของโกดัก

แต่ในความเป็นจริง ฟิล์มยังมีลมหายใจอยู่ แต่อยู่ในกลุ่มเล็กๆ ร้านถ่ายรูปย่านลาดพร้าวก็ปรับตัว หลายร้านปิดตัวลง บางร้านที่เคยเปิด 24ชม. ก็เปลี่ยนมาเป็นเปิดปิดเป็นเวลา ผมถ่ายรูปด้วยฟิล์มขาวดำอยู่บ้าง ซื้อน้ำยาไว้ล้างเอง ซ์้อฟิล์มขาวดำตุนไว้ถ่ายเล่น โดยที่ในใจก็คิดว่าไม่มีฟิล์มสีขายแล้ว เพราะถึงมีก็คงคุณภาพต่ำ อาจเป็นของเก่าเก็บ หรือเป็นงานผลิตใหม่แต่ไม่ได้มีคุณภาพเหมือนเดิม

ผมเพิ่งรู้จากเพื่อนว่าฟิล์มเน็กกาทีฟสีรุั่นใหม่ๆยังคงออกสู่ตลาด และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อเทียบจากช่วงซบเซาสุดขีด ผู้คนหันมาซื้อกล้องฟิล์มมือสอง ทำให้ต้องหาฟิล์มมาถ่ายเล่นด้วย ฟิล์มสีเกรดตลาดราคาร้อยกว่าบาท ค่าล้างฟิล์มราคาขึ้นไปเกินสองเท่าตัว และมีการส่งฟิล์มไปด้วยไปรษณีย์เพื่อให้ล้างและสแกนภาพแล้วส่งเป็นแผ่นซีดีกลับมา ซึ่งผมก็ลองใช้บริการดูแล้วก็ปลาบปลื้ม เลยเป็นที่มาของการเขียนโพสท์นี้

ฟิล์มฟูจิ c200 เป็นฟิล์มเน็กกาทีฟ น่าจะเป็นฟิล์มเกรดกลางๆ และกล้องที่ใช้ถ่ายก็เป็น leica minilux ตัวที่นอนพังอยู่หลายปี เพิ่งจะหาอะไหล่มาซ่อมได้ เมื่อซ่อมเสร็จก็เริ่มเดินเท้าอีกครั้งเพื่อตระเวณถ่าย แต่คำว่าตระเวณในวันเวลาของผม ก็คือการถ่ายรูปลูกเล่นจนหมดม้วน พกกล้องติดตัว พกไว้ในเป้สะพายตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสถ่ายก็ถ่ายรูปลูก เผลอแป๊ปเดียวหมดม้วน  ถ่ายเล่นราวกับปืนกล  ในสมัยที่ฟิล์มถูกๆผมยังไม่ถ่ายเร็วเท่านี้  ดูเหมือนการถ่ายภาพด้วยฟิล์มของผมในช่วงเวลานี้เหมือนคนลงแดง รีบถ่าย รีบล้าง อยากดูภาพแล้ว  อารมณ์เหมือนวัยรุ่นใจร้อนเลย

01012minilux-000048

การถ่ายภาพเด็กที่ง่ายที่สุดคือถ่ายตอนเขาหลับนั่นเอง  ลิงน้อยของผมที่มีความไวมากกว่าระบบออโต้โฟกัสของกล้องทุกตัว  กล้องคอมแพ็คระดับโปร วัดแสงแม่นมาก และโฟกัสก็แม่นมากเช่นกัน  ถ้าให้หมุนโฟกัสเองด้วยกล้องแมน่วล เลนส์แมน่วล ผมคิดว่าภาพจะไม่ชัดเท่านี้

 

01012minilux-000050

 

01013minilux-000048

 

01013minilux-000049

ตึกรามบ้านช่อง ข้าวของเครื่องใช้ และมุมภาพบางมุมในบ้านก็ถ่ายเล่นๆ เหมือนถ่ายเพื่อให้หมดม้วนเร็วขึ้นเลย  ความใจร้อนของผมมาจากอยากเห็นภาพสีจากกล้อง leica minilux ที่เพิ่งซ่อมเสร็จตัวนี้

 

01013minilux-000065

 

01013minilux-000068

วัยเด็กที่กำลังเรียนอนุบาลก็เป็นภาพที่ควรถ่ายเก็บไว้  เพราะการเปลี่ยนแปลงของเด็กวัยนี้จะรวดเร็วมาก หากพลาดหรือลืมถ่ายไว้ในช่วงวัยเด็กเล็กนี้จะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปถ่ายได้ใหม่อีกแล้ว  เด็กโตแล้วโตเลย ย้อนกลับไม่ได้ กลับไปถ่ายซ่อมก็ไม่ได้

 

01014minilux-000004

 

01013minilux-000058

 

01013minilux-000061

 

01013minilux-000066

 

01014minilux-000001

 

01014minilux-000030

 

01014minilux-000042

 

01014minilux-000047

 

ภาพที่เราอยากดูมักจะเป็นภาพของสิ่งของหรือคนอันเป็นที่รักของเรา จะของใช้ ของเล่น หรือแม้แต่สมาชิกในครอบครัวต่างก็ควรจะมีภาพเดี่ยวของตัวเองเก็บไว้  ภาพที่น่าดูไม่จำเป็นต้องมีเทคนิกอะไรที่ล้ำหลุดโลก หรือองค์ประกอบภาพต้องเป๊ะ ขอแค่ภาพชัด ไม่มืดไม่สว่างเกินไปก็นับว่าเป็นภาพที่ดีแล้ว  ภาพบันทึกชีวิตไม่ใช่ภาพประกวด

 


 

การถ่ายภาพสินค้าด้วยโทรศัพท์มือถือ

การทำการค้าในปัจจุบันเราจะอยู่กับการขายผ่านอินเทอเน็ตแทบจะ 100% ทั้งการขายโดยตรง หรือ การส่งข้อมูลภาพสินค้าผ่านช่องทาง online รวมไปถึงการส่งภาพด้วย social network ทุกแพลตฟอร์ม การถ่ายภาพให้ดูสวยงามจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ เพราะภาพที่สวย จะทำให้คนอื่นสนใจสินค้าของเราเพิ่มขึ้น

การถ่ายภาพให้ดูสวยงามเป็นผลมาจากการเรียนรู้วิธีการถ่ายภาพอย่างถูกต้อง และผ่านการฝึกฝนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ภาพมีคุณภาพที่ตรงกับความต้องการ สิ่งที่ภาพที่สวยงามจะต้องมีคือ ความคมชัด และ แสดงความสวยงามของสินค้าให้ได้

เกือบ 100% ภาพที่สวย มักจะเป็นภาพที่ คมชัด และ ไม่มืดหรือสว่างเกินไป คำว่าคมชัดแปลว่า ส่วนคำคัญของภาพ ไม่เบลอ ไม่สั่น ส่วนคำว่าไม่มืดหรือสว่างเกินไปหมายถึง ส่วนดำที่เกี่ยวข้องกับภาพก็ยังคงเห็นรายละเอียดไม่ดำมืดจนเหมือนปิดไฟ คำว่าไม่สว่างจนเกินไปก็จะหมายถึง ส่วนขาวที่เป็นรายละเอียดของวัตถุ หรือสิ่งสำคัญในภาพ ไม่ขาวโพลน หรือสว่างจนรายละเอียดหาย เราจะพูดติดปากได้ง่ายๆว่า ภาพที่ดีคือ ภาพชัดและวัดแสงพอดี

การถ่ายภาพสินค้า หรือภาพเพื่อการโฆษณา ที่นิยมทำมี 2 แบบ คือ แบบที่ถ่ายสินค้าวางบนพื้นขาว และ แบบถ่ายสินค้าวางบนพื้นลวดลายมีองค์ประกอบข้างเคียง ซึ่งในบทความนี้จะสอนวิธีการถ่ายภาพทั้งสองแบบ เพื่อให้เข้าใจวิธีการ และสามารถนำไปใช้กับสินค้าอื่นๆได้

สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวมีดังนี้

1 ฉากสีขาวขนาดใหญ่กว่าสินค้า
2 แหล่งกำเนิดแสง จะเป็นหลอดไฟ โคมไฟ หรือ แสงจากหน้าต่างก็ได้
3 ขาตั้งกล้อง อุปกรณ์ยืดโทรศัพท์มือถือไว้กับขาตั้ง
4 กล่องถ่ายสินค้า ฉากถ่ายภาพ

การจัดแสงเพื่อถ่ายภาพฉากขาว

วิธีการถ่ายภาพสินค้าในอดีตที่ได้รับความนิยมมายาวนานหลายสิบปีก็คือการถ่ายภาพบนฉากสีเรียบ  ส่วนใหญ่จะใช้ฉากสีขาว ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำฉากมักจะเป็นแผ่นพลาสติก หรือกระดาษขาว  การจัดแสงจะเป็นการจัดด้วยไฟแฟลช ส่องแสงจากทางซ้ายบน และขวาบน  แฟลชมักจะติดอุปกรณ์ช่วยกระจายแสงให้นุ่มนวล ในภาพจะเป็นร่มสีขาว ยิงแสงแฟลชสะท้อนร่ม แสงที่ได้จะนุ่มนวล

_MG_6345

แสงที่นุ่มจะทำให้วัตถุดูสวยมากขึ้น  และก็มีการพัฒนาการจัดแสงให้ถ่ายภาพสะดวกยิ่งขึ้น ได้ผลงานที่ดูดีขึ้น โดยการย้ายสินค้าเข้าไปไว้ในกล่อง เพื่อให้แสงดูนุ่มนวลที่สุด  แสงแฟลชที่ใช้บางคนใช้โคมไฟแทน และบางคนใช้แสงธรรมชาติจากหน้าต่าง จากพื้นที่สว่างภายในบ้านแทนได้เลย

_MG_2948

_MG_2947

_MG_2926

_MG_2968

_MG_2966

การถ่ายวัตถุด้วยฉากขาวเหมาะกับการทำ catalog ที่มักจะเป็นภาพสินค้า วางคู่กับตัวหนังสือ การถ่ายฉากขาวไปนานๆบางคนก็เบื่อ เริ่มใช้สีอื่นบ้าง  เราก็สามารถทำได้โดยการวางกระดาษสีไปบนฉาก อยากได้สีอะไรก็ซื้อกระดาษสีสีนั้นมาใช้  และนอกจากกระดาษธรรมดาแล้ว กระดาษที่มีลาย กระดาษมีเท็กส์เจอร์อย่างกระดาษสาก็สามารถใช้ได้ดี

IMG_6481

IMG_6485

IMG_6505

ถ้าเราไม่มีกล่องที่จะตัดเป็นช่องติดกระดาษขาว เราก็สามารถใช้ถังพลาสติกสีขาวที่ขายในห้างแทนได้  และการส่องแสงไปยังกล่องก็สามารถส่องจากด้านบนได้เลย

จัดไฟถ่ายกล้วย lighting banana

Banana in lighting box

IMG_0430

IMG_0432

การถ่ายภาพแบบมีองค์ประกอบ

การถ่ายภาพวัตถุเพียงชิ้นเดียวอาจเหมาะกับการทำแค็ตตาล๊อคสินค้า แต่เมื่ออยากได้ภาพที่สื่อสารได้มากขึ้นก็จำเป็นจะต้องใส่วัตถุอื่นๆหลายๆชิ้นเข้าไปในภาพด้วย

16apr2008_MG_3410

16apr2008_MG_3409

20apr2008-foodset2-_MG_3590

20apr2008-foodset2-_MG_3601

20apr2008-foodset2-_MG_3604

20apr2008-foodset2-_MG_3616

20apr2008-foodset2-_MG_3660

การจัดแสงถ่ายภาพ ไม่จำเป็นจะต้องใช้แฟลช หรือ ใช้โคมไฟสป๊อตไลท์แต่เพียงอย่างเดียว  เรายังสามารถใช้แสงธรรมชาติได้อีกด้วย  ซึ่งแสงธรรมชาติจะให้ภาพที่ดูดีได้ง่ายกว่าด้วย  แต่มีข้อจำกัดคือ ถ้าแสงน้อย หรือ อยู่ในช่วงเวลาที่แสงเริ่มสีไม่สวย อย่างตอนเช้า ตอนเย็น เราจะได้ภาพที่สีไม่ถูกใจ และถ้าเลยเวลาไปถึงคำมืดก็คือถ่ายไม่ได้

_MG_5446

การถ่ายภาพแนวดิ่ง หรือ top view

IMG_20170506_120650

IMG_20170506_120414

IMG_20170506_135643_906

IMG_0131

2017-05-31_04-53-23-01

IMG_20170515_131103

IMG_20170515_131106

IMG_20170515_131114

IMG_0634

การปรับปรุงภาพด้วย app

ภาพถ่ายที่ดีจะต้องมีองค์ประกอบที่เหมาะสม  ภาพแรกที่ได้จากการถ่ายอาจจะมี่ส่วนที่ไม่ต้องการ หรืออาจจะมีส่วนเกิน เราก็ควรจะตัดสิ่งที่ไม่ต้องการนั้นทิ้งไป  การตกแต่งภาพเป็นเรื่องจำเป็นที่เราควรทำ  และในยุคนี้ โปรแกรมช่วยแต่งภาพมีมากมาย และบนมือถือก็มีโปรแกรมน่าสนใจอยู่หลายตัว ในที่นี้จะแนะนำให้ใช้ snapseed เพื่อตกแต่งภาพ  รวมไปถึง instagram ที่สามารถถ่ายภาพและโพสท์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คได้โดยตรงเลย

IMG_0005

IMG_20170424_165503_451

IMG_20170322_094703

IMG_20170322_205444_480

IMG_20161201_161339_1

IMG_20161201_164059

 

 

มาทดลองถ่ายภาพกันดีกว่า

ตัวอย่างการจัดแสงอย่างง่าย

IMG_b0218packaging

IMG_b0220packaging

DSCF1383

DSCF1386

DSCF1395

DSCF1398

 

ตัวอย่างการจัดองค์ประกอบด้วยการเปลี่ยนมุมถ่ายภาพ และการจัดวางอีกเล็กน้อย

IMG_20170604_152357

IMG_20170604_151543

IMG_20170604_151458

ถ่ายภาพสินค้าง่ายดายด้วยมือถือ

 

เนื่องจากมีรุ่นน้องที่รู้จักกันได้เริ่มขายของทางเน็ต และได้ปรึกษาผมเกี่ยวกับการถ่ายภาพสินค้า  ผมก็ได้แนะนำคร่าวๆให้เกี่ยวกับวิธีการ และการดัดแปลงของใกล้ตัวมาใช้แทนเต๊นท์ถ่ายภาพ  การดัดแปลงกล่องกระดาษให้เป็นเต๊นท์ถ่ายภาพ  ซึ่งก็ได้นำวิธีการไปใช้ได้ผลดี  แต่ก็ติดปัญหาที่เกิดตามมาคือ ถ่ายได้แต่ของเล็ก ของใหญ่หมดสิทธิ์  เพราะว่า กล่องกระดาษนั้นเล็กไป  จะหากล่องใหญ่ก็ลำบาก

 

เลยนึกถึงวิธีการที่ไม่ต้องใช้เต๊นท์ถ่ายภาพ หรือ ไม่ต้องใช้กล่อง  ก็เลยสาธิตถ่ายภาพให้ดูด้วย  และก็ได้ภาพเหล่านี้มาถ่ายทอดกัน

 

เริ่มจากสมมุตว่าคัทเตอร์เป็นสินค้าที่ต้องการขาย ให้หาไม้กระดาน หรือโต๊ะไม้ หรือ พาเลทวางของซึ่งไปขอจากโรงงาน โรงพิมพ์ หรือแวะซื้อตามร้านข้างถนนเวลาขับรถผ่าน  หรือแม้แต่ซื้อไม้กระดาษจากร้านโฮมโปร โฮมเวิร์ค ในมุมเครื่องมือช่างก็ได้

IMG_20170515_131055

วางไม้กระดาษไว้ในพื้นที่มีแสงสว่างเพียงพอ แต่ไม่โดนแดดโดยตรง  ซึ่งก็คือพื้นที่ในตัวบ้านนั่นเอง และวางให้ใกล้จุดที่มีแสงส่องมากที่สุด เช่น หน้าบ้าน หน้าห้อง ริมหน้าต่าง

 

IMG_20170515_131103

วางสินค้าไว้กลางแผ่นไม้  เลือกมุม จัดวางเอียง หรือ ขนาด หรือ ตั้งฉาก วางตามใจเลย

 

IMG_20170515_131106

 

แล้วก็เริ่มถ่ายภาพ  ค่อยๆถ่ายเข้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถูกใจ สิ่งสำคัญก็คือ จะต้องถ่ายให้แม้กระดานเต็มเฟรม  อย่าให้เห็นพื้น และระวังอย่าไปยืนเหยียบไม้กระดาษ เพราะว่าจะมีรอยเท้าเปื้อนติดอยู่บนไม้

 

IMG_20170515_131114

 

การถ่ายภาพที่ให้ความรู้สึกสบายตา คือ ภาพควรได้ฉาก เส้นแนวนอนควรวางตัวแนวนอน ไม่เอียง  อะไรควรตั้งฉากก็ต้องพยายามถือกล่องถ่ายให้ได้เส้นตั้งฉาก  การถือกล้องสำคัญมาก  และต้องพยายามถ่ายให้ชัด ระวังมือสั่น  การเลือกสถานที่มีแสงเยอะเพียงพอจะทำให้ภาพไม่สั่น  และถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรใช้ขาตั้งกล้องด้วย  ซึ่งมือถือก็สามารถติดบนขาตั้งกล้องได้ โดยการหาอแด๊ปเตอร์มายืดตัวมือถือเข้ากับขาตั้งกล้อง  ซึ่งเดี๋ยวนี้หาไม่ยากเลย  เมื่อได้ภาพที่ต้องการมาแล้วก็ใช้โพสท์ขายของได้ทันที  หรือจะไปแต่งภาพต่อด้วย app ก็ตามสะดวก

 

IMG_20170515_131333

ลองกับของอย่างอื่นดูบ้าง  กล้องถ่ายภาพที่อยากจะประกาศขายก็เอาไปวาง  จัดวางกล้องให้ขนาดเส้นบนไม้กระดาน  สายสะพายกล้องที่เป็นเส้นยาวก็ลองวางให้เกาะกลุ่มกันไว้

IMG_20170515_131341

ถ่ายรูปหน้าตรงได้แบบนี้  สังเกตุดูว่า กล้องจะวางขนานไปกับแนวเส้นลายไม้  และ การใช้มือถือ ก็ถ่ายกดลงไปตรงๆ

 

Screenshot_20170515-131542

แล้วก็เอาภาพที่ได้ไปผ่าน app ตามความชอบ ในตัวอย่างด้านบนนี้ กล้องโอลิมปัส ผมใช้ instagram มาแต่งภาพ  โดย app จะคร๊อปภาพเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส และผมเลือกปรับขอบภาพให้เข้มขึ้น

 

IMG_20170515_131554_872

ได้ภาพแบบนี้

 

 

หนังสือที่ชอบ

ผมมีลูกค้างานพิมพ์ท่านหนึ่งเป็นอดีตนักการทูตติดต่อเข้ามาเพื่อทำการ์ดเชิญ  ระหว่างช่วงเวลาที่ติดต่อ ตรวจข้อมูล และพิมพ์งาน นอกจากเรื่องงานแล้ว ก็ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องอื่นด้วย และได้ค้นพบว่า ลูกค้าท่านนี้มีบุคคลแวดล้อมที่เป็นนักเขียนและช่างภาพฝีมือดีหลายคน  หนึ่งในคนที่ท่านเอ่ยชื่อ ธีรภาพ โลหิตกุล และเมื่อผมได้ยิน ภาพนี้ก็ลอยมาในหัว

 


ผมอ่านหนังสือของนักเขียนท่านนี้มาตั้งแต่สมัยทำงานใหม่ๆ  ในช่วงอายุยี่สิบต้นผมหัดถ่ายภาพ เรียนรู้จากหนังสือ หนังสือถ่ายภาพมีกี่เล่มกี่ยี่ห้อผมซื้ออ่านทั้งหมด  หัดถ่ายภาพไปตามบทความที่หนังสือแนะนำไว้  เมื่ออ่านหนังสือทุกเล่มจนหมด ลองทุกเทคนิคที่หนังสือเล่า ผมทำได้ทั้งหมด แต่ภาพก็ยังไม่สวยงาม ด้วยความเบื่อหน่ายกับผลงานตัวเอง  รู้สึกว่าต้องหาอย่างอื่นมาอ่าน เลยไปอ่านหนังสือแนวอื่นนอกจากหนังสือถ่ายภาพ

 

เมื่อสอดส่องแผงหนังสือ หนังสือที่ขึ้นกำแพงในร้านที่โชว์ว่าขายดีในเวลานั้น มีหนังสือเล่มหนึ่งภาพปกสวยมาก  เป็นภาพหัวรถจักรสีดำ  ผมเลยหยิบมาเปิดอ่านดูคร่าวๆ แล้วก็มึนงงไปกับภาพและตัวหนังสือ  ผมได้ค้นพบว่า ลำพังเพียงภาพถ่ายยังไม่สมบูรณ์แบบที่สุดในการสื่อสาร  บทความประกอบ เนื้อหาที่มุ่งเน้นในบางอย่างต่างหากที่เป็นพระเอก  เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับภาพ  ใช้ภาพถ่ายอย่างถูกวัตถุประสงค์  ใช้ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือประกอบเจตนา  ทั้งในแง่ของสาระ และในแง่ของความเพลิดเพลิน  ผมเร่ิมสนุกกับการอ่านหนังสือสารคดี  และเริ่มอ่านนิตยสารและพ็อกเก็ตบุ๊คแนวนี้  และมันเป็นที่มาของการหัดถ่ายภาพเพื่อเล่าเรื่อง  และหัดเขียน

 

ภาพถ่ายที่ดีต้องมีเรื่องราว บอกเล่าในบางสิ่งบางอย่าง  ภาพขึ้นปกนิตยสารต่างๆมักมีสิ่งนี้เป็นองค์ประกอบหลัก  ภาพหัดถ่ายของเด็กมือใหม่คนหนึ่งแม้ว่าจะถูกต้องตามหลักทฤษฎีถ่ายภาพ แต่ถ้าสอบตกในแง่ของความหมาย มันก็ไม่น่าสนใจ

 

ตัดกลับมาที่การสนทนากับลูกค้า  ผมอยากจะหอบหนังสือไปฝากให้คุณธีรภาพเซ็นชื่ออย่างมาก  แต่ก็เลือกปล่อยวางไว้ดีกว่า เพราะว่า ถ้าชะตาพาลูกค้ามาเจอผม พาผมมาคุยเรื่องถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องกับนักขียนได้  วันข้างหน้า ผมเชื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้าผมจะได้พบกับคุณธีรภาพด้วยตัวเอง  สุดท้าย ผมฝากลูกค้าไปบอกว่า  ผมติดตามอ่านหนังสือของคุณธีรภาพมาหลายเล่ม ขอบคุณที่เขียนงานคุณภาพออกมาให้อ่านครับ

 

 

บันทึกให้ขอบฟ้า 31ตุลาคม2559

2016-10-30_09-57-10

ขอบฟ้าในช่วงเดือนนี้เป็นเดือนที่ขอบฟ้าได้ทำอะไรใหม่ๆหลายอย่าง  การถ่ายรูปด้วยกล้องตัวใหญ่ของพ่อก็ได้หัดถ่ายและได้ภาพที่พอใช้ได้  เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ขอบฟ้าเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้องได้อย่างครบถ้วน  แม้ว่าตัวเล็กและกำลังน้อยเกินไปสำหรับกล้องหนักๆของผู้ใหญ่ แต่ท่าทางการจับถือและการจัดให้สิ่งที่ต้องการถ่ายอยู่ในภาพอย่างครบถ้วนนั่นทำได้ไม่บกพร่อง  และขอบฟ้าก็ได้ถ่ายภาพให้คุณยาย กับ อาม่า ของขอบฟ้าแบบที่สามารถเอาไปใส่อัลบั้มภาพของครอบครัวได้

IMG_0877

IMG_0001

ขอบฟ้ายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การฝังกลบขยะ และการใช้น้ำจุลินทรีย์ดับกลิ่นด้วย  ขยะไขมันที่อยู่ในถังดักไขมันถูกนำมาตักทิ้งและจัดการฝังกลมในสนามหญ้า ขอบฟ้าเป็นคนตักดินมาปิดหลุมด้วยตัวเอง  กลิ่นเหม็นที่เล็ดลอดออกมาก็จัดการราดด้วยน้ำดับกลิ่นที่เตรียมไว้  พอขอบฟ้ารู้ว่าน้ำจุลินทรีย์ช่วยดับกลิ่นได้ ก็เดินหากลิ่นตามจุดทิ้งขยะแล้วราดน้ำลงไปดับกลิ่นทุกจุด

2016-10-30_04-12-48

แวะถ่ายภาพข้างทางเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำมานาน

 

IMG_3781.JPG

 

 

เท่าที่จำได้ เวลาขับรถผ่านจุดที่ดูน่าสนใจ น่าจะเป็นมุมถ่ายภาพที่ให้ภาพได้ดี ก็มีความอยากจะจอดรถแล้วลงไปถ่ายให้พอใจ  ตั้งแต่ช่วงเวลาที่หัดถ่ายรูป ก็มีโอกาสจอดรถถ่ายบ่อยครั้ง จะกรุงเทพ หรือ ต่างจังหวัดก็แวะถ่ายได้เรื่อยๆ  เป็นช่วงเวลาของการค้นหาภาพสวยๆ  เป็นช่วงเวลาที่ได้เสพสุขกับการมองแล้วหามุมที่อยากได้   พอพ้นวันเวลาที่ไม่มีภาระ  วันเวลาที่มีเวลาเหลือเฟือ ก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน แล้วก็ถ่ายภาพรับจ้าง แล้วก็ทำงานอื่นๆใดๆไปแทบจะตลอดเวลา  เวลาสุนทรีย์จากการถ่ายภาพก็ค่อยๆหายไป

 

การเดินทางท่องเที่ยวในระยะหลังก็จะมาแนวช่างภาพขี้เกียจ ช่างภาพเบื่อโลก  แล้วพอแต่งงาน มีครอบครัว  มีลูก การถ่ายภาพเกือบร้อยเปอร์เซ็นก็จะเป็นการถ่ายภาพในครอบครัว  ไปเที่ยวกันพ่อแม่ลูกก็ค่อยๆถ่ายกันไป  มีภาพลูกเป็นหมื่นภาพที่สะสมขึ้นมาเรื่อยๆ   ลูกผมเรียนอนุบาลหนึ่ง โรงเรียนเพลินพัฒนา ทุกวันก็จะขับรถไปส่งตอนเช้า  ซึ่งข้างทางที่ขับผ่านในซอยแถวโรงเรียนก็มีที่รกร้างต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด มีเสาสูงๆคงเป็นเสาของโทรศัพท์มือถือที่วางตระหง่านเด่นอยู่ท่ามกลางทุ่งรกๆ  มองผ่านไปตอนขับรถทีแรกก็ไม่ได้สนใจ  จนกระทั่งช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ต้นไม้รกร้างเหล่านั้นงอกงาม ตั้งตัวกันสลอน  รับกับแดดที่ออกในบางเวลา ทำให้ผมเห็นมุมที่น่ามอง  ก็จำไว้ว่ามุมนี้น่าแวะมาถ่าย  แต่ก็ได้แต่จำแล้วก็ขับผ่านไป ส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้วขับรถไปทำงานต่อ

 

มาหลายวันนี้ผ่านมุมนี้แล้วรู้สึกว่ามันสวยทุกวัน  ก็เลยเร่ิมวางแผน บวกกับวันนี้ ลูกผมลืมของไว้ที่บ้านต้องย้อนกลับไปเอาของที่บ้านอีกครั้ง  วันนี้เลยไปโรงเรียนสายกว่าปกติ  เพราะปกติคือไปเช้าแดดยังไม่ออก  แต่วันนี้ไปโรงเรียนสองรอบ รอบที่สองนี่เองที่แดดออกสดในและทำให้มุมนี้สวยขึ้นอีกมาก พอส่งลูกเสร็จก็เลยรอเวลา  เพราะแดด 8 โมงเช้ายังอ่อนเกินไป ระบบวัดแสงของกล้องคงจะวัดแสงแล้วเลือกค่า f ไม่แคบเท่าไหร่  ก็เลยเลือกที่จะกินข้าว กินกาแฟ รอเวลาอีก 1 ชั่วโมง พอเก้าโมงกว่า แดดจัดมากขึ้นก็ขับรถออกมายังจุดที่เล็งไว้ แล้วก็จอดรถข้างทาง

 

IMG_3781.JPG

 

วันเมฆสวยฟ้าใสอะไรก็ดูดีไปหมด มองวิวด้วยตาเปล่าแล้วก็หยิบกล้องออกไปถ่าย  canon eos m รุ่นแรก กับเลนส์ 22f2 ปรับตั้งค่า iso auto เลือกโหมดถ่ายภาพเป็น P  มุมนี้ถ่ายภาพตามแสง ฉากหน้าเป็นต้นไม้โดนแดดเต็มๆ วัตถุสำคัญของภาพเป็นเสาโดนแดดเต็มๆเช่นกัน ท้องฟ้าก็สีฟ้า เมฆก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มๆไม่กระจาย เจอมุมแบบนี้ตั้งค่าวัดแสงพอดีไปเลย  ไม่ต้องชดเชยแสงใดๆ   ถ่ายภาพไปสักสี่ภาพก็เปลี่ยนเลนส์  เดินกลับไปหยิบเลนส์ 18-55 มาติดกล้้องบ้าง  เพราะอยากได้ภาพเสาที่ใหญ่ขึ้น  เลนส์ช่วง 55มม. ก็เลยได้ทำหน้าที่

 

การถ่ายภาพในช่วงนี้ของผมเป็นการถ่ายภาพที่เน้นภาพสวยและชัดเป็นสำคัญ เพราะจะเอาภาพไปส่งสต๊อคด้วย  ภาพที่จะส่งขายสต๊อคจะต้องมีความชัดเป็นสำคัญ การเลือกโหมด P ก็เพราะจะให้กล้องเลือกค่า f กลางๆให้ และกล้องก็เลือกค่า f10 ให้กับภาพชุดนี้ แม้จริงๆผมจะชอบเลข f11 มากกว่า แต่ก็ไม่ได้ปรับ  ปล่อยให้กล้องเลือก f ให้อัตโนมัติ

 

IMG_3786.JPG

เมื่อได้ภาพจนพอใจก็เก็บกล้อง ขับรถไปทำงานต่อ  ภาพชุดนี้ถ่ายมา 13 ภาพ  ถึงที่ทำงานก็ก๊อปปี้ภาพส่งเว็บขายทันที  และในอีก 5 นาทีต่อมา ระบบของเว็บก็รับภาพ ภาพชุดนี้ผ่านการ approved ทั้งหมด  เป็นการส่งภาพสต๊อคครั้งแรกที่ส่งเยอะและผ่านทั้งหมด เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ   จอดรถเพื่อถ่ายภาพในมุมที่ค้นพบเป็นความสุขของช่างภาพ  และความสุขครั้งที่สองจากภาพชุดนี้ก็มาตอนที่ภาพผ่านการ approved  ก็หวังว่าจะมีความสุขครั้งที่สามตามมา นั่นคือ บางภาพในชุดนี้มีการโหลดไปใช้งาน มันคงจะดีไม่น้อยเลย

Screen shot 2016-09-16 at 11.11.57 PM

 

ดูรีวิวกล้อง eos m ได้ที่นี่

Rock climbing on shutterstock

พาลูกไปเล่นปีหน้าผาจำลอง เลยถ่ายภาพกลับมา และส่งขาย shutterstock ซะเลย

 

 

ถ่ายสินค้าด้วยแฟลชดวงเดียว

การถ่ายภาพสินค้าเพื่อขายหรือทำโบรชัวร์มักจะต้องมีการจัดไฟระดับหนึ่งเพื่อให้ภาพดูดีและมีคุณภาพพอให้นำไปตัดต่อหรือรีทัชต่อได้ การจัดไฟแบบง่ายๆใช้ของน้อยๆเป็นทางเลือกที่เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจ กล่องไฟแบบดัดแปลง แฟลช1ตัว และตัวส่งสัญญาณแฟลชแบบไร้สาย สามอย่างนี้ทำให้เราสามารถถ่ายภาพสินค้าได้อย่างมีคุณภาพแล้ว

กล่องไฟ อาศัยดัดแปลงกล่องใหญ่ๆที่พอหาได้ นำมาตัดฝาด้านขวา ด้านซ้าย และด้านบนให้เป็นช่องสี่เหลี่ยม แล้วเอากระดาษไขหรือกระดาษขาวบางๆมาติดเหมือนเป็นหน้าต่าง กระดาษขาวจะทำหน้าที่กรองแสงที่เข้าไปในกล่องให้เป็นแสงที่นุ่มนวล ในกล่องไฟให้ใช้กระดาษขาวยาวๆปูจากฝาด้านหลังสูงสุดความสูงของกล่อง แล้วปล่อยยาวลงมาด้านหน้าเพื่อให้พื้นและฉากหลังเป็นสีขาว

IMG_b0220packaging

ขาตั้งแฟลชถ้าหาไม่ได้ เอาขาตั้งไมค์ก็ไม่เสียหาย ผูกแฟลชกับขาตั้งในตำแหน่งที่สูงกว่ากล่องและยิงแสง 45 องศาไปยังกล่อง กะให้แสงจากแฟลชโดนกล่องทางด้านข้างและด้านบน แค่นี้เราก็ได้ระบบการถ่ายสินค้าที่ประหยัดแต่คุณภาพดีแล้ว

IMG_b0218packaging

ในการถ่ายภาพก็ให้ตั้งค่าสปีดของกล้องให้เร็วระดับที่ทำงานกับแฟลชได้ทัน ส่วนมากจะทำได้ที่ระดับ 1/125 วินาที รูรับแสงก็ให้ตั้งค่าประมาณ f11 isoให้เร่ิมที่ 400 ไว้ก่อน กล่องสมัยใหม่มักจะทำงานที่ iso400 ได้โดยไม่เห็นน้อยส์มากวนใจแล้ว ตั้งค่าความแรงของแสงแฟลชให้ได้ความสว่างที่พอกับรูรับแสง ถ้าตัวแฟลชแบ่งระดับไฟไม่ได้ ก็ให้ใช้วิธีตั้งแฟลชให้ห่างกล่องหรือให้ใกล้กล่องเพื่อควบคุมความสว่างของแสงในภาพ แต่การใช้แฟลชที่แบ่งแรงดันหรือระดับความแรงได้จะทำให้เราสะดวกมากที่สุด เพราะหากเราตั้งค่ายิงแสงแฟลช 100% ทุกภาพ แฟลชจะต้องใช้เวลาชาร์จไฟหลายวินาที อาจทำให้การทำงานของเราเสียเวลาและอารมณ์ทำงานสะดุดได้ แต่ถ้าเราตั้งความแรงของแฟลชได้ที่ 1/4 หรือ 25% จะทำให้เราสามารถถ่ายภาพซ้ำได้หลายภาพติดต่อกัน ถ่ายมุมนี้แล้วเปลี่ยนไปถ่ายอีกมุมได้ทันที เพราะกำลังไฟในแฟลชยังเพียงพอต่อการยิ่งแสงซ้ำๆหลายครั้ง

ขอบฟ้า ภูผา มิลิน เป่าเค้ก

kobfa-home-IMG_0055

วันเกิดลุง ขอบฟ้า ภูผา มิลิน ร่วมกันเป่าเค้กแทนเจ้าของวันเกิด

การถ่ายภาพเด็กให้ดูดีจะต้องมีเรื่องต้องคิดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบทที่จะต้องน่าสนใจ หรือเป็นจังหวะไฮไลท์ของเหตุการณ์ รวมถึงการเลือกใช้เลนส์และรูรับแสงให้เหมาะกับสถานที่ด้วย การที่เด็กเป่าเค้กวันเกิดเหตุการณ์ที่ควรจะจับภาพให้ได้ก็คือ ภาพเค้ก เด็ก รอยยิ้ม เทียน ปากกำลังเป่า สิ่งเหล่านี้ถ้ามีประกอบอยู่ในภาพให้มากที่สุดก็จะยิ่งทำให้ภาพมีความน่าสนใจ อย่างภาพตอนเป่าเทียนผมก็มีถ่ายเอาไว้ แต่จังหวะการเป่าและการยิ้มหรือสายตาของเด็กยังไม่ลงตัว องค์ประกอบของภาพหยิบผลไม้ขึ้นมาชูภาพนี้มีองค์ประกอบย่อยๆมากกว่าภาพอื่น คือมีรอยยิ้ม มีเค้ก มีสายตาที่มอง ทุกอย่างมาพร้อมกันในจังหวะพอดีจังหวะนี้ วินาทีนี้คือภาพที่สวยที่สุด

ส่วนเรื่องการเลือกใช้เลนส์ ผมเลือกใช้เลนส์ช่วง 85mm เพื่อให้ความเพี้ยนของภาพน้อยที่สุด เพราะช่วงเลนส์ 85มม. นี้ จะเป็นช่วงที่นิยมใช้ถ่ายภาพคน ส่วนรูรับแสงก็เลือกรูรับแสงกว้างสุดของเลนส์นั่นคือ 1.8 เพื่อให้ฉากหลังเบลอ ทำให้กลุ่มเด็กมีความโดดเด่นกว่าฉากหลัง

การวัดแสง ผมเลือกการวัดแสงพอดีเป็นหลัก แต่เป็นการวัดแสงพอดีที่บริเวณโต๊ะหรือขาโต๊ะ ซึ่งเป็นส่วนที่โดนแสงน้อยกว่าด้านหลัง ฉากหลังที่เป็นกระจกหน้าต่างจะดูสว่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากับส่วนสำคัญในภาพ และเลือกที่จะถือกล้องให้เอียงด้วย เพื่อให้อารมณ์ของภาพดูมีการเคลื่อนไหว

จบภาพหลังกล้องเป็นไฟล์ jpg แล้วก็นำมาปรับแต่งด้วย app มือถืออีกเล็กน้อย ผมเปลี่ยนโทนสีของภาพให้เพี้ยนอมเขียวอมฟ้านิดๆ ปรับให้ส่วนมืดดูสว่างขึ้น เพื่อให้ดูเป็นลักษณะของฟิล์มที่ถ่ายมาแบบอันเดอร์นิดๆ การปรับแต่งภาพเป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนไม่มีผิดถูก ดังนั้น อยากปรับอะไรก็ปรับไปตามใจได้เลย

ขอบฟ้าโตขึ้นเยอะเลย

pic20150407002758

ภาพของขอบฟ้าที่บันทึกเอาไว้ได้ในช่วงเวลาต่างกัน ภาพทางซ้ายคือช่วงเวลาประมาณปลายปี 2013 ซึ่งเป็นการถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดำและได้สแกนเก็บไว้เป็นไฟล์ ส่วนทางซ้ายก็ถ่ายในช่วงเวลาเดือนเมษายน 2558 เป็นระยะเวลาที่ห่างกันประมาณ 17 เดือน

ภาพต้นฉบับของทั้งคู่คือภาพต่อไปนี้
PICT0010
ภาพขาวดำจากกล้อง nikon fm2n เลนส์ 50f1.8 ฟิล์ม lucky200 ล้างด้วย d76 สแกนด้วยเครื่องสแกนฟิล์ม jumbl ราคา 99ดอลล่าร์จาก amazon

IMG_7711.JPG
ภาพขอบฟ้าเดือนเมษายน ถ่ายด้วยกล้อง canon eos6d เลนส์ 85f1.8

ภาพแม่และเด็กที่ผมชอบ

ภาพแม่และเด็กในรูปแบบที่ผมชอบจะเป็นลักษณะแบบภาพนี้เลย เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความตั้งใจที่จะเอาใจใส่ต่อชีวิตน้อยๆหนึ่งชีวิต การเป็นแม่ที่ดีต้องใช้ความพยายามและความอดทนมหาศาล ในช่วงแรกของเด็กยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เด็กจะอยู่รอดก็เพราะแม่คนเดียวเท่านั้น พ่อที่ยืนถ่ายรูปอยู่ด้านข้างเป็นแค่คนที่คอยช่วยหยิบจับสิ่งของบางอย่าง เป็นเพียงคนบันทึกภาพ เป็นพยานว่าแม่รักลูกแค่ไหน

contx t3 kf2 nov2012 --9