กล้อง eos m รุ่นแรก กับ เลนส์ efm18-55is ยังคงเป็นทางเลือกที่ผมจะใช้กับทริปทะเล จริงๆในกระเป๋ากล้องผมมี eos 6d กับเลนส์ 24-105F4L มาด้วย แต่หยิบ eos m มาใช้เป็นหลัก ด้วยความรู้สึกว่า eos m ไม่แพง ราคามือสองไม่กี่พันบาท เลนส์ efm 18-55is ก็ขายมือสองกันสองพันบาท การเอากล้องมาถ่ายทะเล มีขี้นลงเรือ มีละอองน้ำ มีลม มีทราย ผมยังรู้สึกว่าใช้กล้องราคาไม่แพงดีกว่า จะได้ไม่ต้องเอากล้องโปรไปเสี่ยงกับทรายและน้ำ แถมฟิลเตอร์โพลาไรซ์หรือ cpl ที่เคยมีก็เป็นฟิลเตอร์ขนาดเล็ก 52มม. ซึ่งใช้กับเลนส์ efm 18-55is ได้พอดี เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพราะว่า เดิมที ตอนที่ใช้กล้องฟิล์มบ่อยๆ สมัยหัดถ่ายด้วยฟิล์มสไลด์ เลนส์ที่ใช้กับกล้องฟิล์มก็จะมีหน้าเลนส์ 52มม ก็เลยมีฟิลเตอร์ CPL ขนาด 52มม.เอาไว้ใช้ถ่ายภาพแบบเน้นๆ ส่วนกล้องดิจิทัลรุ่นล่างอย่าง eos 350d ที่ผมซื้อใช้ถ่ายงานสารพัดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็มีเลนส์ติดกล้องเป็น efs 18-55is แต่ว่าหน้าเลนส์ใหญ่ 58มม. ผมก็มีซื้อ cpl 58mm ไว้ด้วยเช่นกัน ตอนที่คิดว่าจะเอา eos m ไปทะเล ก็ไปเอา cpl 58 มาติดกระเป๋าไว้เลย เพราะคิดว่าหน้าเลนส์จะใหญ่เท่ากัน วันก่อนเดินทางลองเอามาทดสอบ ปรากฏว่ามันไม่เท่า เพราะ efm18-55is ตัวนี้มันใช้หน้าเลนส์ 52มม โชคดีมากที่ได้ลองก่อน ไม่งั้นก็จะกลายเป็นแบกของไปเที่ยวแล้วใช้ไม่ได้
ภาพหลังกล้องออกมาแล้วปลาบปลื้มกับโทนสีที่สด จัดจ้าน และดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา eos m ผมใช้มาสักห้าปี เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ cpl กับการถ่ายภาพวิวทะเล เห็นภาพแล้วก็หายเหนื่อย ดูภาพวิวรอบนี้ เทียบกับ eos 6d + 24-105f4L แล้ว ผมคิดว่า ผมชอบ eos m มากกว่า แถมยังน้ำหนักเบา ตัวเล็ก พกง่าย ข้อเสียเรื่องแบตหมดเร็วเราก็ปรับตัวได้แล้ว มีแบตไป 2 ก้อน ถ่ายภาพแล้วไม่ต้องดูภาพบ่อยๆ ถ่ายเสร็จก็กดปิดกล้อง ปุ่มเปิดปิดกล้องของ eos m น่าจะทำงานหนักใกล้เคียงกับปุ่มชัตเตอร์เลย
ภาพจากกล้องไม่ต้อง process ใดๆก็สวยแล้วถ้าเราเพียงแต่คิดและเลือกเวลาถ่าย เลือกแสงสวยๆ มันก็สวยได้เอง ผมพอใจภาพที่ระเบียงโรงแรมนี้มาก เพราะเป็นภาพถ่ายจากงานแต่งงานที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น เนื่องจากงานแต่งงานแต่ละงานก็มักจะจัดกันเพื่อกินมื้อค่ำ เวลาที่จะได้เดินถ่ายรูปสวยๆไม่ค่อยมี แต่หากเราอยากได้ภาพสวยจริงๆก็ต้องไปก่อนงานแล้วเดินเล่นถ่ายภาพกันก่อน
เจ้าภาพเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในงานนี้ทั้งงาน จ่ายเงินไปเป็นแสน มันน่าเสียดายหากภาพส่วนใหญ่ในงานเป็นภาพในช่วงเวลาฟ้ามืด ถ่ายภาพด้วยแฟลช ถ่ายภาพด้วยแสงไฟในโรงแรม ต่อให้มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพอย่างลึกซึ้งก็ยังให้ภาพกลางคืนในโรงแรมสวยแบบตอนฟ้าสว่างแล้วถ่ายด้วยโหมด auto ในกล้องไม่ได้
ภาพนี้ลูกผมถ่ายให้ ตั้งกล้องเป็น Full auto กล้องจะเลือกค่า iso เลือกโฟกัส เลือกทุกอย่างให้ คนถ่ายเพียงแค่ยกกล้องเล็งภาพแล้วกดถ่าย เด็ก 6 ขวบ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพยังให้ภาพสวยกว่าภาพถ่ายด้วยช่างภาพโปรตอนฟ้ามืด แสงสวยหรือแสงที่สมบูรณ์คือคำตอบของภาพสวย
กล้องดิจิทัลก็ฉลาดที่จะให้ระบบ Auto whitebalance มาด้วย กล้องจะปรับสีทุกภาพด้วยระบบ Auto ทำให้สีสันโดยส่วนใหญ่ที่บันทึกไว้จะใกล้เคียงกับที่ตามองเห็น ซึ่งอาจจะมีบางสถานการณ์ที่ปรับ Auto whitebalance แล้วสียังไม่ตรงอยู่ ส่วนน้อยนี้ถ้าเรายังคงต้องการให้สีเที่ยงตรง เราต้องออกจากระบบ Auto เข้าสู่ระบบ Custom whitebalance เพื่อให้สีเที่ยงตรงจริงๆ
ภาพที่1 ถ่ายภาพด้วยระบบ Auto whitebalance
ภาพที่ 1 เป็นการถ่ายภาพด้วยระบบ Auto whitebalance ภาพของบนโต๊ะอาหารจะเป็นฝาชีสีขาวที่ดูอมเหลือง ส่วนด้านขวาบนโต๊ะอาหารเป็นกระดาษทิชชู่สีขาวที่โดนแสงไฟส่องทำให้ดูเป็นโทนสีอมเหลืองเช่นกัน สถานการณ์แบบนี้ปรับกล้องด้วยค่า white balance อย่างไรก็ได้สีที่ยังไม่ตรง ฝาชียังคงไม่ใช่สีขาว ทิชชู่ก็ไม่ใช่สีขาว ถ้าเราไม่พอใจเหตุการณ์นี้ เราต้องใช้วิธี custom whitebalance
กล้องดิจิทัลจะมีการปรับค่า white balance หรือสมดุลย์สีขาวโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีคำเรียกว่า Auto white balance และกล้องทุกตัวจะตั้งค่านี้ไว้เป็นค่าเริ่มต้นของการถ่ายภาพ หากเราใช้กล้องโดยไม่ปรับแต่งอะไร กล้องจะปรับ Auto white balance ให้กับทุกภาพ ซึ่งก็มักจะได้ภาพที่ดีโดยส่วนใหญ่ กล้องดิจิทัลตัวใหญ่ไปถึงเล็ก รวมถึงกล้องในโทรศัพท์มือถือก็ตั้งค่าแบบนี้ และได้ภาพที่ดีโดยรวม
แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่การปรับแบบ Auto white balance ให้ผลได้ไม่พอใจ มักจะเกิดในการถ่ายภาพตามร้านอาหาร โรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไฟสีเหลือง หากเป็นกล้องฟิล์ม ถ่ายภาพกลางแจ้งได้สวยพอเอามาถ่ายภาพในอาคารหรือในห้อง ก็จะให้ภาพอมเหลืองไม่น่าดู กล้องฟิล์มปรับค่า white balance ไม่ได้ ทำได้เพียงการใส่ฟิลเตอร์แก้สีไว้ที่หน้าเลนส์ ซึ่งก็แก้ปัญหาได้บ้างไม่ได้บ้าง
กล้องดิจิทัลสามารถเลือกปรับค่า white balance ให้เหมาะสมกับภาพได้ ถ้าเราไม่ใช้ Auto เราจะมีค่าให้เลือกอีกหลายค่า ไม่ว่าจะเป็น Daylight Tungsten Cloudy Warm Cool สารพัดชื่อแล้วแต่จะเรียก แต่ทั้งหมดก็คือการเลือกค่า white balance ให้แตกต่างไปเพื่อผลของภาพที่เราพอใจ
แต่สุดท้ายเราก็ยังอาจจะเจอปัญหาอยู่ดีกับสภาพแสงในบางห้องที่ให้แสงไม่ถูกใจ และเลือกค่า white balance ทุกค่าแล้วก็ยังไม่เหมือนจริง ไม่เหมือนตาเห็น เช่นภาพในห้องนอนหรือร้านอาหารที่ใช้ไฟสีเหลือง แล้วภาพเสื้อผ้า ภาพอาหารสีสันไม่เป็นไปตามจริง การแก้ไขที่มากกว่าการเลือก white balance แบบเดิมก็คือการใช้ custom white balance
ภาพ 6065 เป็นภาพแม่ลูก ผมถ่ายเป็นภาพแรกด้วยค่า Auto White Balance ซึ่งให้ภาพสีสันไม่ถูกใจ สีอมเหลืองอมแดงจนไม่สวย เสื้อขาวก็ไม่ขาว ผิวก็ส้มจนน่าเกลียด