สังเกตความเปลี่ยนแปลง 7 วัน

IMG_20190822_064608

ขอบฟ้ามีการบ้านโครงงานวิทยาศาสตร์ให้สังเกตุความเปลี่ยนแปลงของใบไม้หรือดอกไม้ 7 วัน ก็เลยจัดการเด็ดดอกไม้ และใบไม้มาอย่างละ 1 ชิ้น เพื่อคอยถ่ายภาพบันทึกไว้ทุกวัน โดยพ่อกับแม่ช่วยกันคิดแล้ว เลือกวิธีถ่ายภาพน่าจะง่ายสำหรับขอบฟ้ามากกว่า เพราะการจดบันทึกด้วยการวาดเป็นสิ่งที่น่าจะต้องใช้สมาธิและเวลามากเป็นพิเศษ ขอบฟ้ายังไม่สามารถใช้เวลานานๆกับการวาดภาพได้

การถ่ายภาพพ่อเลือกวิธีให้ใช้กล้อง DSLR ในการถ่ายภาพ ให้ถือเองถ่ายเอง โดยพ่อช่วยปรับกล้องให้เบื้องต้นเพื่อเตรียมกล้องให้พร้อมสำหรับการบันทึกภาพในสถานการณ์นั้นๆ

IMG_20190822_064402

IMG_0004
วันที่1
IMG_0011
วันที่2
IMG_0016
วันที่3
IMG_0025
วันที่4
IMG_0027
วันที่5
IMG_0033
วันที่6

ผมก็ขอให้ขอบฟ้ายืนถ่ายคู่กับงานครั้งนี้ด้วย เพื่อให้ภาพมีเนื้อหาครบถ้วนสำหรับการเล่าเรื่องในครั้งนี้ ภาพขอบฟ้า พยายามยิ้มก็เลยออกมาดูปากโย้ๆนิดหน่อย ยังไม่รู้จะสอนให้ยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติได้ยังไง

IMG_0031

หมายเหตุ

การให้ขอบฟ้าถ่ายภาพครั้งนี้พบกับปัญหาเรื่องช่องมองภาพของกล้องถูกปรับตั้งให้พอดีกับตาของผม และมันทำให้ขอบฟ้ามองเห็นภาพในช่องมองไม่ชัด แม้ว่าสิ่งที่อยู่หน้ากล้องจะอยู่ในโฟกัสแล้ว การปรับสายตาของกล้องเป็นลูกเล่นที่กล้องออกแบบมาให้คนสายตาไม่ปกติได้ใช้งานกล้องได้อย่างสะดวกได้คุณภาพ นั่นก็คือ สายตาผมไม่ปกติแล้วนั่นเอง อาการสายตายาวมาเยือนกับคนวัยสี่สิบกว่าๆ ผลก็คือ กล้องของพ่อ กับ กล้องของลูก อาจจะต้องเป็นคนละตัวกันจริงๆ นี่อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กล้องถ่ายภาพเป็นของที่ไม่ควรยืมกัน ไม่ใช่เรื่องของแพงหรือ หวงของ แต่มันเป็นของที่ต้องมองด้วยสายตาคนใช้งาน มันก็เลยต้องปรับตั้งละเอียดสำหรับเจ้าของเท่านั้น และสายตาของคนอายุต่างกันมากๆก็ต้องการช่องมองภาพที่ตั้งไม่เหมือนกันเลย แก่แล้วจริงๆ

การถ่ายดอกไม้

IMG_0149

ภาพดอกไม้เป็นภาพธรรมชาติที่ดูสวยงามสดใส สามารถถ่ายได้ไม่ยาก ไม่ลำบาก อยู่บ้านก็ถ่ายดอกไม้ในสวนได้ เข้าป่าก็มีดอกไม้หลายอย่างให้เลือกถ่าย การถ่ายภาพดอกไม้ให้สวยงามควรจะใช้เทคนิคการถ่ายที่ปราณีต ดังนี้

1 ดอกไม้ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่พัง ไม่เหี่ยว ไม่ช้ำ

2 จัดองค์ประกอบให้ดอกมีความเด่น มีขนาดในภาพค่อนข้างใหญ่ มองเห็นชัดเจนว่าเราตั้งใจถ่ายดอกไหนเป็นพระเอกของภาพ

3 สภาพแสงที่สว่างเพียงพอจะทำให้สีสันของดอกสดใส ถ้ามีแดดส่องต้องระวัง อย่าให้แดดตกลงบนดอกแค่เพียงบางส่วน ถ้าแดดโดนดอกไม้ ต้องโดนทั้งดอก ถ้าดอกไม่โดนแดดเลยก็ต้องไม่โดนทั้งดอก

4 ถ่ายภาพต้องโฟกัสชัดที่กลางดอก หรือเกสรของดอก ความชัดลึกของภาพต้องมากเพียงพอที่จะชัดครบทั้งดอก ถ้าระยะชัดน้อย ให้เลือกชัดที่เกสรดอกไม้ หากชัดที่ขอบดอกแล้วกลางดอกไม่ชัดมักเป็นภาพที่ไม่สวย รูรับแสงที่เลนส์ควรใช้รู้รับแสงแคบไว้ก่อนเพื่อคุณภาพของภาพที่คมชัดเพียงพอ

5 ควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อให้ภาพคมชัดไม่สั่นไหว

6 ดอกไม้ต้องไม่โดนลมพัด เพราะการขยับเพียงนิดเดียวก็ทำให้ภาพไม่ชัด บางครั้งเราอาจต้องใช้มือช่วยจับก้านดอกไว้ หรือให้เพื่อนช่วยจับก้านดอก หรือแม้แต่ยืนบังลมก็อาจต้องทำ เวลาถ่ายคนเดียวผมเคยอยากได้เชือกมาผูกดอกไม้เอาไว้ไม่ให้ขยับด้วย แต่ยังไม่เคยทำจริง

7 ถ้ามีละอองน้ำหรือหยดน้ำในภาพด้วยจะช่วยเพิ่มความสวยงามได้ บางคนพกป๊อกกี้ไปฉีดละอองน้ำเองเลยก็มี

8 เลนส์ถ่ายภาพมักจะเป็นเลนส์มาโครซึ่งสามารถเข้าใกล้ดอกไม้ได้ตามที่ต้องการ ช่วยให้เราปรับขนาดภาพที่จะปรากฏในรูปได้ตามใจสั่ง เลนส์ซูมระยะกลางๆก็อาจจะใช้ถ่ายได้บ้างกรณีที่เราถ่ายดอกไม้ขนาดใหญ่ หากชอบงานถ่ายดอกไม้และวัตถุเล็กๆจริงๆ ควรซื้อเลนส์มาโครไว้ใช้โดยตรง เลนส์ซูมที่ใช้งานร่วมกับท่อหรือ tube เพื่อให้โฟกัสระยะใกล้ได้ก็พอใช้ได้ แต่ไม่สะดวก และมักได้ขนาดภาพที่ไม่ได้ดังใจ

เที่ยวสิงคโปร์ เขามีทุกอย่างที่อยากมี

สิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆเส้นศูนย์สูตร ขนาดใหญ่ประมาณภูเก็ตของเรา  สิ่งที่ได้ยินมาตลอดชีวิตของคนไม่เคยไปสิงคโปร์ก็คือ ที่นี่ข้าวมันไก่ดังมาก  สิงคโปร์ทันสมัย สิงคโปร์เป็นเมืองท่า เป็นศูนย์กลางการค้าของเอเชีัยตะวันออกเฉียงใต้  การลงทุนในระดับบริษัทข้ามชาติจะมีสาขาใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์  แม้แต่ ระบบ cloud ของอเมซอนก็อยู่บนเกาะเล็กๆแทนที่จะอยู่ในแผ่นดินกว้างใหญ่อย่างไทยหรือมาเลเซีย

IMG_1938.JPG

ทริปไปสิงคโปร์พ่อแม่ลูกเป็นทริปนอกประเทศทริปที่สองของการเดินทางแบบมีเด็กเล็ก หลังจากที่เราได้ไปฝึกฝนการพาลูกเที่ยวที่ญี่ปุ่นมาแล้ว การไปสิงคโปร์ก็กลายเป็นเรื่องที่เชื่อว่าไม่ยากลำบากอีกต่อไป  จองตั๋วกันล่วงหน้าประมาณสามเดือน แล้วพอใกล้ๆวันเดินทางเหลือเวลาอีก 1 วัน ปรากฏว่าผมเช็คอินยืนยันตั๋วเครื่องบินไม่ได้  เหตุผลเพราะพาสปอร์ตกำลังจะหมดอายุในอีกสองเดือน  ผู้รู้ทุกท่านให้ข้อมูลว่าการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องมีอายุพาสปอร์ตเหลือเกิน 6 เดิอน  เดือดร้อนต้องรีบไปทำพาสปอร์ตและต้องทำเร่งด่วนภายใน 1 วัน ซึ่งจะต้องไปทำที่กงสุลซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเท่านั้น  ราคาความด่วนต้องจ่าย 3000 บาท จากเดิม 1000 บาทเท่านั้น  นับว่าเป็นความวุ่นวายที่ไม่คาดฝันจริงๆ

IMG_1945.JPG

ตีสี่เราเดินทางไปดอนเมือง ใช้เวลาต่อแถวเช็คอินสายการบินประมาณสองชั่วโมง และรอขึ้นเครื่องในอีก 1 ชม.ต่อไป  เราถึงสิงคโปรประมาณ 9.30 น.เวลาท้องถิ่นสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเวลาที่เร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง  รถจากโรงแรมมารอรับพวกเรา  ซึ่งคิดว่าจะมีนักเดินทางหลายคนแต่ปรากฏว่ามีแค่เราสามคนเท่านั้นที่นั่งรถบัสคันโตเข้าโรงแรม grand mercue roxy

IMG_1941.JPG

ลูกหลับเร็วมากระหว่างเดินทางไปโรงแรม เราก็เลยรีบเช็คอินที่โรงแรมแล้วพาลูกนอนเตียงให้สบายๆ  กลางวันเดินออกมาฝั่งตรงข้ามโรงแรมเพื่อซื้ออาหารกิน  อาหารในตลาดที่หน้าตาคล้ายๆตลาดสามย่านในความทรงจำ  ราคาอาหารจานเดียวมีตั้งแต่ 2 เหรียญจนถึง 10 เหรียญสิงคโปร์  เทียบเป็นเงินไทยก็คูณ 26 เข้าไป  โดยมื้อแรกของผมในสิงคโปร์ก็คือข้าวมันไก่ราคา 4.8 เหรียญสิงคโปร์ รสชาดก็คล้ายๆของไทย ถือว่าอาหารไม่แพงเท่าไหร่ แต่ที่แพงบาดใจเลยก็คือน้ำดื่ม  น้ำเปล่าขวด 600ซีซี ที่บ้านเราขาย 10 บาท ที่สิงคโปร์ขาย 3 เหรียญ  กินแทบไม่ลงเลย

IMG_1952.JPG

IMG_1956.JPG

IMG_1959.JPG

บ่ายแก่ๆใกล้ๆเย็นเราสามคนเริ่มเที่ยวสวนดอกไม้ ชื่อ garden by the bay ซึ่งมีความอลังการและน่าตื่นตาตื่นใจมาก ต้นไม้หายาก ดอกไม้หายากดูได้จากที่นี่  อาคารกระจกทรงโค้งๆสวยงามติดแอร์ ปลูกต้นไม้แปลกๆไว้เต็มไปหมด  นอกจากความแปลกแล้วยังได้ดูการจัดสวนที่น่ามองยิ่งกว่าสวยใดๆที่เคยเห็นในประเทศไทย  การจัดสวนแนวตั้งที่เมืองไทยเริ่มฮิตอาจมีที่มาจากสวนของสิงคโปร์แห่งนี้

IMG_1971.JPG

ต้นไม้ยักษ์ที่สร้างขึ้นเป็นเสาสูงๆและมีส่วนบานอยู่ข้างบนเป็นสิ่งที่เรียกความสนใจให้ถ่ายรูป  สวนแห่งนี้เป็นจุดแวะอันดับต้นๆของสิงคโปร์  การถ่ายรูปดอกไม้ต้นไม้ในสวนแห่งนี้ถ่ายได้เรื่อยๆหลายร้อยรูป  ความสดชื่นของต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดีและอยู่ในบรรยากาศที่ควบคุมไว้ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบอาคารกระจกรวมไปถึงระบบปรับอากาศที่เย็นแสนสบายมันช่างเป็นโชคดีของต้นไม้หายากเหล่านี้จริงๆ  ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่ต้องแวะสวนแห่งนี้  แต่นักเรียนนักศีกษาต่างก็ต้องแวะมาหาข้อมูลจากสวนแห่งนี้เช่นกัน  การลงทุนพัฒนาระบบการปลูกต้นไม้แบบไม่กลัวจนมันช่างให้ผลที่คุ้มค่าเหลือเกิน

IMG_1982.JPG

IMG_1999.JPG

IMG_2001.JPG

IMG_2006.JPG

ดอกไม้รูปทรงแปลกตา สีสันประหลาดแบบที่ไม่คิดว่าจะมีจริง ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นของที่ไม่เคยพบเจอในประเทศไทย ความหลากหลายของต้นไม้ดอกไม้ในโลกนี้มีมหาศาล สวนดอกไม้แห่งนี้อาจเป็นห้องสมุดดอกไม้ของโลก มนุษย์ที่สนใจดอกไม้มาเดินที่นี่ที่เดียวอาจจะได้เห็นของดอกไม้ใบไม้เกือบทั่วโลก นอกจากดอกไม้แล้ว ยังมีส่วนที่ทำเป็นน้ำตก แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรูปทรงธรรมชาติแบบที่คนไทยอย่างเราๆเคยเห็น แต่มันก็เป็นน้ำตกที่กลมกลืนกับอาคารแก้ว และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์แห่งนี้มันเกิดขึ้นจริง มันสมจริงจนตะไคร่น้ำยังขึ้นมาเป็นพยาน

IMG_2043.JPG

IMG_2058.JPG

IMG_2066.JPG

IMG_2070.JPG

IMG_2123.JPG

IMG_2130.JPG

IMG_2159.JPG

IMG_2170.JPG

เราใช้เวลาในสวนดอกไม้แห่งนี้ประมาณสามชั่วโมงแบบเร่งเดิน เพราะหากเราปล่อยอารมณ์ไปตามความสวยงามของดอกไม้ต้นไม้เหล่านี้ เวลาทั้งวันก็อาจไม่พอ ความคิดสร้างสรรของสวนดอกไม้แบบนี้คงยากจะเกิดขึ้นในเมืองไทย เพราะคนไทยไม่ได้มีนิสัยรักสิ่งแวดล้อมและต้นไม้อย่างแท้จริง สิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็กๆที่ไม่ได้มีทรัพยากรอะไรมากมาย เทียบกับเมืองไทยแล้ว ไทยมีธรรมชาติที่เพียบพร้อม แต่คนไทยกลับเลือกทำลายเบียดเบียนจนทุกวันนี้เราได้ยินแต่ข่าวน้ำแล้ง คนแย่งน้ำ เกษตรกรล่มจม เพาะปลูกไม่ได้ผล ขณะที่สิงคโปร์เล็กกระจิ๋วหลิว แต่มีต้นไม้ใหญ่ในทุกถนนปกคลุมทางเดินฟุตบาทให้เดินได้อย่างร่มรื่น มีสวนดอกไม้ที่เป็นงานทดลองชั้นยอด และอีกไม่นาน เราคงจะเห็นฟาร์มแนวตั้ง ที่ติดตามสวนแนวตั้งมาติดๆ ทรัพยากรจำกัดไม่ได้ทำให้ประเทศนี้ตกต่ำ แต่ทรัพยากรคนที่ดีเลิศต่างหากที่เสกทุกอย่างที่ต้องการได้ ถือเป็นโชคดีของสิงคโปร์อย่างมากที่ไม่มีคนหัวใจไทยในระบบราชการของเขา

IMG_2183.JPG

IMG_2175.JPG

ขณะที่เมืองไทยขอร้องกันทั้งประเทศว่าอย่าเล่นสงกรานต์แบบสิ้นเปลือง เพราะชาวนาชาวสวนกำลังจะขาดน้ำตายแล้ว แต่สิงคโปร์ที่ล้อมรอบด้วยทะเล ไม่มีแหล่งน้ำจืดใหญ่เท่าเมืองไทย ยังสามารถปล่อยน้ำให้เด็กเล่นอย่างสนุกสนาน ขอบฟ้าเป็นเด็กตลก อยากเล่นน้ำแต่ไม่อยากเปียก พ่อแม่เลยต้องใช้เสื้อกันฝนใส่ให้ ขอบฟ้าก็เลยได้เล่นน้ำแบบไม่เปียกในความคิดและความเชื่อแบบเด็กๆ แต่สภาพจริงเปียกถึงข้างในอยู่ดีแหละลูกเอ๋ย

IMG_2192.JPG

เราจบวันนี้ด้วยอาหารเย็นแบบร้านอาหารจานเดียว ผมสั่งของที่หน้าตาเหมือนต้มยำกุ้งที่ชื่อรักสะ laksa แต่พอกินแล้วก็อยากจะตั้งชื่อให้ใหม่ว่า ขนมจีนน้ำยา รสชาดต้มยำเป็นสิ่งที่คนต่างชาติทำยังไงก็ไม่เหมือนคนไทยทำ เปรี้ยว เค็ม เผ็ดแบบไทยนี่เป็นสิ่งที่สิงคโปร์ยังทำไม่ได้ แต่อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้อยากทำก็ได้ แค่หน้าตามันเหมือนกันและคนไทยอย่างผมก็คิดว่ามันจะเป็นต้มยำกุ้งแน่ๆ

IMG_2195.JPG

จบวันที่หนึ่งแบบเหน็ดเหนื่อย วันที่สองจะเป็นวันสวนสัตว์ โปรดติดตาม

เที่ยวสิงคโปร์ ตอนที่ 2 ไปสวนสัตว์

 

ดอกไม้ริมทาง

ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤกษ์ หลังจากที่แวะซื้อกาแฟเย็นแก้วหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ตอนเดินมาขึ้นรถบังเอิญเห็นว่ามีพุ่มไม้ดูสดใส สดชื่น เลยหยิบกล้องตัวเก่งที่หนีบไว้ข้างเอวแทบตลอดเวลาขึ้นมาถ่าย กล้องโกดักรุ่น C140 คอมแพ็คที่ใช้งานจนคุ้นมือ ปรับโหมดออโต้ทุกอย่าง แล้วก็ถ่ายดอกไม้ ใบไม้ เก็บไว้ทำสต๊อค เผื่อได้ใช้ทำงานพิมพ์ เผื่อได้ใช้ทำโปสการ์ด เผื่อมีประโยชน์

นิทานดอกไม้

ตอนเที่ยงวันผมกินข้าวกับสาวคนหนึ่งแล้วก็ต่อด้วยกาแฟเย็นพร้อมโดนัทเสร็จแล้วก็แยกย้าย  ผมเดินกลับมาใหม่ที่ร้านกาแฟอีกครั้งเพื่อซื้อกาแฟเย็นอีกแก้วหนึ่งด้วยบัตรส่วนลด  เพราะตอนที่ซื้อกินด้วยกันสองคน  ผมลืมบัตรสมาชิกไว้ในรถ  ทำให้ผมต้องจ่ายราคาเต็ม  ผมลังเลอยู่ที่รถพักหนึ่งแล้วก็เดินมาซื้อกาแฟอีกรอบ  ผมควรจะได้สิ่งที่ผมควรจะได้  คงเป็นอาการโรคจิตเล็กๆ  แต่ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่  เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ผมดื่มประจำอยู่แล้ว  วันนี้จะซื้อแก้วที่สองก็ไม่เห็นแปลก  แต่อาจจะแปลกตรงที่พนักงานในร้านกาแฟยิ้มทักผมอีกครั้งหนึ่ง  และคราวนี้ผมได้ส่วนลดตามที่ผมควรจะได้แล้ว

 

หันหลังเดินออกมา  ผมผ่านร้านดอกไม้  เลยแวะยืนดู  ปกติผมจะยืนดูเครื่องเสียง เครื่องดนตรี กล้องถ่ายรูป  แต่คราวนี้ผมดูดอกไม้  มีดอกไม้หลายประเภท  บางดอกสวยมากจนเหมือนของปลอม  บางดอกเป็นของปลอมที่ดูแล้วยังไงก็ไม่สวย  ผมดูดอกกุหลาบกลุ่มหนึ่งเป็นดอกเล็กๆอยู่ในห่อใสๆ  กลุ่มนึงมีประมาณหกหรือเจ็ดดอก  ขายราคาไม่แพง  ถ้าผมหิ้วดอกไม้กำนี้ไปฝากสาวสักคน เขาคงจะคิดว่าผมสั่งซื้อตามสี่แยกแน่ๆ  เลยมองผ่านไป  เลยไปถึงดอกไม้ในตู้ปรับอากาศ  ดูหน้าตาแล้วราคาคงแพงกว่ากันมาก  ผมนึกถึงหนังเรื่องน๊อตติ้งฮิล  พระเอกถือดอกไม้ไปฝากนางเอกโดยไม่ต้องเป็นโอกาสอะไรพิเศษ  เขาแค่รู้สึกประทับใจในใครสักคนเขาก็ถือดอกไม้ไปฝากได้แล้ว  ผมรู้สึกว่าเป็นเป็นความรู้สึกที่ดี ใส  ผมก็เลยรู้สึกว่าผมอยากซื้อดอกไม้ให้สาวสักคน  คนที่ผมรู้สึกดีด้วย  ผมสั่งซื้อไป แต่ผมไม่สามารถจะอธิบายได้ว่าดอกไม้ในเรื่องน๊อตติ้งฮิลหน้าตาเป็นอย่างไร  ผมจำไม่ได้แม่นและผมไม่รู้จักชื่อดอกไม้  เลยได้ดอกไม้ที่ไม่ค่อยตรงใจนัก  แต่ก็ตรงความตั้งใจคือ  มีดอกไม้ไปฝากคนพิเศษ

 

ออกจากห้างด้วยความเคยชินผมเลี้ยวรถกลับบ้าน  ตัดสินใจกลับไปนั่งทำงานเสียก่อน  รอเลิกงานแล้วค่อยแวะไปให้ดีกว่า  นั่งทำงานไปเพลินๆจนลืมดอกไม้ว่ายังอยู่ในรถ  พอรู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว  ผมคิดอยู่สักพักก็เลยตัดสินใจออกไปส่งดอกไม้ดีกว่า  ผมไม่อยากให้ดอกไม้เหี่ยวแห้งไปก่อนที่จะถึงมือคนรับ  ระหว่างทางก็คิดไปเรื่อยเปื่อยว่าจะเดินเอาเข้าไปให้ยังไงดี  ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าทำเซอร์ไพร้ซ์ดีกว่า  เดี๋ยวเอาไปวางไว้หน้ารถ  ไปถึงที่จอดรถก็เลยเดินหา  ปรากฏว่าหารถไม่เจอ  เลยเดินดูด้านนอกถึงจะรู้ว่ารถอยู่ที่ไหน  ผมแวะไปเอาดอกไม้ที่รถตัวเองแล้วก็เตรียมตัวจะเอาไปวาง  เลือกรูปถ่ายของเจ้าของมาติดไว้กับดอกไม้ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นๆที่เห็นดอกไม้จะไม่หยิบไปเฉยๆ  ทำให้รู้ว่าดอกไม้นี้มีเจ้าของ  คิดๆๆๆๆๆ   สุดท้ายก็ไม่เอาดีกว่า  วางไว้บนรถ  ถ้ามีคนซนหยิบไปเฉยๆก็แย่น่ะสิ  เลยตัดสินใจเอาเข้าไปให้ด้วยตัวเอง  พอเดินเข้าไปที่ตัวตึกก็กลับรู้สึกตื่นเต้นไม่อยากเอาไปให้ซึ่งๆหน้า  ยืนคิดอยู่พักนึง  เลยเอาไปฝากไว้ที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์  ฝากพนักงานว่าให้เอาไปส่งใคร  แล้วผมก็เดินออกมา  

 

ภาระกิจดอกไม้เรียบร้อย  เจ้าของได้รับ  และรู้ว่าใครส่งมาให้  มีคำถามกลับมาว่าโอกาสอะไร  ผมก็ไม่รู้ว่าจะอ้างโอกาสอะไร  บอกไปเพียงแค่  ผมอยากให้  ในใจผมรู้สึกว่าการให้ดอกไม้กับใครสักคนมันเป็นการบอกว่าผมให้ความสำคัญกับคุณนะ  คุณมีความหมายต่อผม  และ ผมจะไม่รอโอกาส  ผมจะไม่รอให้เกิดความผิดแล้วค่อยเอาดอกไม้มาง้อ  ผมอยากจะให้มันแทนความรู้สึกของปัจจุบัน  ผมทำสิ่งที่อยากทำ  ถ้าผมรอโอกาส  รอเทศกาลผมอาจจะไม่ได้ใช้ก็ได้  ความรักของผมอาจไม่ยืนยาวไปถึงวันแห่งความทรงจำวันนั้น  ผมอาจจะเผลอทำผิดพลาดแล้วไม่มีโอกาสง้อ  ผมอาจจะไม่ได้รับโอกาสให้แก้ตัว  ผมเลยไม่เคยคิดว่าผมจะได้ใช้ดอกไม้ในวันที่ยังมาไม่ถึง  มีคนช่างคิดเคยบอกไว้ว่า  ความรักมันไม่ได้สำคัญว่าคุณจะได้ครอบครองหรือไม่  แต่สำคัญตรงที่ว่าในช่วงเวลาที่มีกันอยู่คุณได้ทำอะไรดีๆต่อกันหรือเปล่า  

 

 

ความรักของผมเป็นแบบนี้  อย่าคิดว่าผมจะเป็นแบบนี้แค่สามเดือนหกเดือน  อย่าคิดว่าการที่ผมไม่เคยหงุดหงิดใส่หรือตะคอกเสียงดังมันจะไม่ใช่ตัวจริงของผม  อย่าคิดว่าการที่ผมยอมทำอะไรให้ใครสักคนเป็นเพราะผมไม่ใช่ตัวของตัวเอง  อย่าคิดว่าอีกด้านหนึ่งของผมจะเป็นด้านที่เห็นแก่ตัว  ผมไม่ใช่ใครวิเศษมาจากไหน แต่ผมแค่ไม่ใช่คนแบบที่คุณเคยเจอมาก่อนเท่านั้นเอง