เปลี่ยนไดชาร์จ suzuki swift 2012

รถยนต์ซูซูกิ รุ่น สวิฟท์ปี 2012 เป็นรถอีโค่คาที่เปิดตัวมานานตั้งแต่ปี 2012 และในตอนนี้ก็ยังคงใช้งานได้ดีจนถึงปัจจุบัน ชิ้นส่วนต่างๆที่หมดสภาพก็ทะยอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และครั้งนี้ รถเกิดปัญหาบางอย่างจนถึงกับขับไม่ได้

อาการที่พบคือ ไฟแบตเตอรี่แสดงในหน้าจอตอนขับ ผ่านไปสักพักก็มีไฟพวงมาลัยแสดงขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ทำให้พวงมาลัยมีน้ำหนักมาก หมุนเลี้ยวยาก เหมือนระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไม่ทำงาน พวงมาลัยหนักจนขับไม่ได้ อาการเครื่องยนต์เริ่มสั่นนิดๆ สุดท้ายต้องตัดสินใจจอดแล้วรอดถูสถานการณ์ ทดลองดับเครื่องและสตาร์ทรถอีกครั้ง รถทำงานได้ปกติ ไฟแบตยังไม่โชว์ สัญลักษณ์พวงมาลัยยังดับอยู่ แต่ในไม่กี่วินาที ไฟแบตก็โชว์อีกครั้ง และไฟพวงมาลัยก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง ดูจากสัญลักษณ์เหล่านี้ก็หมายถึงแบตเตอรี่มีปัญหา พวงมาลัยมีปัญหา

หาข้อมูลจากในอินเทอเน็ต สันนิษฐานว่าเป็นอาการรถไม่ชาร์จไฟ หรือไดชาร์จเสีย ทำให้เครื่องยนต์ไม่ปั่นไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ และจะทำให้แบเตอรี่หมดพลังในที่สุด ขณะเดียวกัน พอไม่มีระบบปั่นไฟ การทำงานระบบอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆก็จะทะยอยผิดพลาดและหยุดทำงาน พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ช่วยหมุนเพื่อให้เบาแรงก็จะทำงานผิดพลาด สุดท้ายระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ก็ไม่ทำงาน เป็นผลให้มีไฟรูปพวงมาลัยโชว์ขึ้นมานั่นเอง

วิเคราะห์แล้วก็เชื่อว่าต้องเปลี่ยนไดชาร์จ แต่รถขับไม่ได้แล้ว สตาร์ทไม่ติดแล้วเพราะแบตเตอรี่ไฟหมด เนื่องจากไม่มีการชาร์ต มีทางเลือกเพียงต้องเรียกรถลากเข้าศูนย์ กับอีกวิธีคือเรียกช่างมาเปลี่ยนไดชาร์จ ซึ่งวิธีหลังนี้ต้องชัวร์จริงๆว่าเราวิเคราะห์ถูกจะได้ไม่เสียเวลาของช่าง

หาช่างในเฟสบุ๊ค เจอร้านหนึ่งที่แถวลาดพร้าววังหิน รับเปลี่ยนไดชาร์จ ไดสตาร์ทนอกสถานที่ ก็เลย inbox ไปถามรายละเอียด เล่าอาการให้ฟัง เจ้าของร้านก็ตอบด้วยคำอธิบายต่างๆซึ่งตรงกับที่สันนิษฐานเลยทำการนัดหมายมาเปลี่ยน บอกรายละเอียดยี่ห้อ รุ่น ปี อีก 2 ชม. ก็มีคนมาเปลี่ยนให้ มาพร้อมไดชาร์จตัวใหม่

ช่างใช้เวลาเปลี่ยนประมาณ 40 นาที ทดลองสตาร์ทรถด้วยเพาเวอร์แบงค์ jumpstart เพราะแบตรถหมดไปแล้ว เมื่อสตาร์ทติดก็วัดค่าการปั่นไฟกลับมาชาร์จแบตมีค่าแรงดันมากกว่า 13.4 V แสดงว่าตัวไดชาร์จใหม่ทำงานแล้ว ช่างแนะนำว่าให้สตาร์ททิ้งไว้แบบนี้สัก 60 นาที เพราะแบตเดิมหมด ให้รอนานหน่อย และบิลค่าเสียหายครั้งนี้ 4500 บาท รับประกันของ 1 ปี

เปลี่ยนกรองแอร์สวิฟท์ swift2012 aug2025

สวิฟท์ปี 2012 ใช้งานมานานแล้ว และก็นึกได้ว่าพ้นกลางปีไปก็ควรจะเปลี่ยนไส้กรองอากาศสำหรับแอร์ในรถ หรือเรียกสั้นๆว่ากรองแอร์ ไส้กรองชิ้นนี้ราคาประมาณ 100 บาท ซื้อจาก online เวลาสั่งซื้อก็ซื้อทีละ 2 อันเพื่อให้ประหยัดค่าส่ง

ซูซูกิสวิฟท์แอร์ไม่เย็น jul2025

ซูซูกิสวิฟท์ หลักกิโล 172203 อาการแอร์ไม่เย็นเนื่องจากพัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำหรือพัดลมหน้าเครื่องมีอาการเสีย หมุนบ้างไม่หมุนบ้าง รถวิ่งแอร์เย็น รถติดแอร์ไม่เย็น

อาการนี้สังเกตุจาก ตอนสตาร์ทรถสามารถใช้งานระบบแอร์ได้ปกติ แอร์ทำความเย็นได้ แต่พอไปเจอรถติดแล้วแอร์ทำความเย็นถึงจุดที่ตัดการทำงาน ระบบแอร์ก็จะหยุดครู่หนึ่ง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นแอร์ควรจะกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าแอร์หยุดทำงานแล้วไม่ทำต่อ อาการลมแอร์ไม่เย็นแต่คอมเพรสเซอร์แอร์ยังทำงานอยู่ รอนานๆก็ยังไม่มีลมเย็นออก เป็นเพียงลมไม่เย็น และบางช่วงเวลากลายเป็นลมร้อนไปเสียอย่างนั้น ตอนรถวิ่งแผงระบายความร้อนจะได้ลมจากหน้ารถและจากพัดลมระบายความร้อน แม้พัดลมจะไม่หมุนแต่ถ้ารถวิ่งก็จะมีลมจากหน้ารถมาไหลผ่านทำให้ระบายความร้อนได้ แต่เมื่อเจอรถติด ลมหน้ารถไม่ผ่านตัวรถ ความร้อนสะสมจะทำให้แอร์ไม่เย็นและเครื่องยนต์เสียหายได้

ตอนลมแอร์มีอาการไม่เย็น ก็เปิดกระโปรงหน้ารถดูบริเวณหน้าเครื่องยนต์ดูพัดลมระบายความร้อน พบว่าพัดลมระบายความร้อนไม่หมุน เป็นไปตามที่สันนิษฐานไว้ ลองเอาไม้แหย่ที่ใบพัดดูก็ทำให้พัดลมกลับมาหมุนได้ นั่นหมายถึงพัดลมมีปัญหาไม่สามารถเริ่มต้นการหมุนด้วยตัวเองแล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่ตัวนี้

ค่าพัดลมระบายความร้อนของซูซูกิสวิฟท์มีราคาในเว็บตั้งแต่ 1200 – 3000 บาท คาดว่าที่ศูนย์น่าจะราคาพันปลายๆซึ่งสมาชิกในเฟสบุ๊คเคยโพสท์บอกไว้ ครั้งนี้ผมซ่อมที่อู่ข้างนอกไม่ได้เข้าศูนย์ เพราะไม่ว่างไปและแถวที่ทำงานไม่มีศูนย์บริการซูซูกิเลย ราคาอู่ขายผมค่อนข้างแพง แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาก็ต้องทำกำไรเพื่อให้อยู่รอดเลี้ยงคนงานได้ และถ้าจะหาของถูกจากในเว็บ ผมก็ต้องรอสั่งซื้ออีกหลายวันถึงจะได้ของ แต่รถต้องใช้ทุกวัน ควรจะซ่อมให้เสร็จในวันเดียว ก็เลยยอมอุดหนุนของจากอู่

IMG_20250724_143505292

swift 2012 แอร์ไม่เย็น

รถสวิฟท์ปี 2012 ที่ใช้มานานแล้ว ในปี 2025 นี้มีอาการแอร์ไม่เย็น หรือ ความเย็นไม่ฉ่ำ และตอนที่รถติด รถไม่วิ่งและมีอากาศร้อน แอร์ก็จะเย็นไม่พอ ก็เลยจะเอารถเข้าศูนย์ แต่เช็คกับศูนย์ซูซูกิใกล้บ้านก็คิวเต็ม เลยไปหาอู่รถข้างนอกช่วยดูให้

ช่างที่อู่ตรวจสอบแล้ว น้ำยาแอร์พร่องไปต้องเติมน้ำยาแอร์ ส่วนจุดรั่วก็หาไม่เจอ ช่างสันนิษฐานว่าอาจจะมีสองสาเหตุคือ มีรอยรั่วขนาดเล็กที่ทำให้น้ำยาพร่องไป แต่ถ้าเคยเติมน้ำยาแอร์แล้วอยู่ได้นานเกือบปี ก็แนะนำให้เติมไปเรื่อยๆดีกว่า ส่วนสาเหตุที่สองคือ คอมเพรสเซอร์อาจจะกำลังไม่พอ เป็นอาการเสื่อมของรถที่อายุหลายปี ถ้าคอมเพรสเซอร์อาการหนักก็ต้องเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายก็จะสูงอาจจะเป็นหมื่น ให้ลองเติมน้ำยาใช้ไปก่อน ถ้าอยู่ได้ปีนึงก็รอเติมใหม่ แต่ถ้าสองเดือนแล้วอาการไม่เย็นกลับมาใหม่ ก็คงต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์

IMG_20250524_103546211

เปลี่ยนกรองแอร์สวิฟท์ swift2012

วันนี้สลับรถกับคุณภรรยาใช้งาน แล้วรู้สึกว่าอากาศแปลกๆ ง่วงนอนเร็วกว่าปกติ เลยลองดูกรองแอร์ในรถซะหน่อย ก็เห็นว่ามีฝุ่นจับจนดำและมีเศษใบไม้เศษกระดาษตกอยู่บนกรองแอร์เยอะ หยิบของใหม่ที่เตรียมไว้มาแกะแล้วถ่ายรูปเทียบกับ มันต่างกันเยอะเลย ก็จัดการเปลี่ยนซะ ย้อนดูประวัติของเก่า กรองแอร์ในรถที่เปลี่ยนออกมาถูกเปลี่ยนเมื่อกลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเอง ผ่านมาแค่ห้าเดือนก็ดำขนาดนี้แล้ว น่ากลัวมากฝุ่นในประเทศไทย

20250126172300_IMG_1588

ผมชอบเลือกใช้กรองแอร์สีขาว เพราะมันจะเห็นความดำของฝุ่นได้ดี เวลาถอดออกมาเปลี่ยนก็จะทำให้รู้สึกสบายใจที่ได้เปลี่ยนเป็นตัวใหม่สีขาวซะที กรองแอร์ทำหน้าที่กรองอากาศในรถยนต์ให้สิ่งสกปรกที่ลอยอยู่ในอากาศถูกกรองเก็บไว้ ไม่ลอยปะปนไปกับอากาศในรถยนต์ ความละเอียดของกรองแอร์จะอยู่ในระดับประมาณ pm1 หรือเล็กกว่า นั่นก็หมายความว่ากรองแอร์สามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้ด้วย ทำให้เราสามารถหายใจในรถยนต์ได้อย่างสบายใจแม้ว่าอากาศนอกรถจะมีฝุ่นในระดับอันตรายต่อสุขภาพ

20250126172346_IMG_1591

กรองแอร์ราคาประมาณ 100-200 บาท ถ้าจะเปลี่ยนทุก 3-6 เดือนตามสภาพฝุ่นในประเทศไทยก็สามารถเปลี่ยนได้บ่อยๆเพราะราคาไม่แพง เราไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องกรองอากาศมาติดในรถยนต์ให้เสียเงินซ้ำซ้อน เพราะระบบกรองของแอร์รถยนต์ทำงานได้ดีอยู่แล้ว

เปลี่ยนแบตเตอรี่ suzuki swift หลักกิโล 156956

เปลี่ยนแบตเตอรี่ suzuki swift หลักกิโล 156956

ซูซูกิสวิฟท์หรือ swift2012 เป็นรถที่ใช้งานมาเกิน 10 ปีแล้ว หลักกิโลขึ้นไปถึง 156956 กม. มีอาการสตาร์ทนานกว่าปกติมาเกือบเดือน แม้ว่าจะขับรถทุกวัน แต่บางวันที่กดปุ่มสตาร์ทก็เหมือนแบตอ่อน ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าแบตเริ่มเสื่อมแล้ว แต่ก็ยังสตาร์ทได้ทุกวันเลยรอเวลาว่างในวันหยุดยาวค่อยเปลี่ยนแบตเตอรี่

ตรวจสอบกับโพสท์เก่าๆที่เคยเปลี่ยนแบตเตอรี่คันนี้ ครั้งที่แล้วเปลี่ยนแบตตอนเดือน 6ปี2021 ซึ่งบนแบตเตอรี่ก็มีสติ๊กเกอร์ลงวันที่เอาไว้ นับเวลาดูก็เท่ากับใช้งานมาประมาณ 2ปี กับ 10 เดือน ถือว่านานเกินค่าเฉลี่ย2ปีไปเยอะแล้ว ก็เลยโทรเรียกร้านแบตเตอรี่มาเปลี่ยนให้ที่บ้านเลย

IMG_1940

โทรเรียกร้านเดิม เบอร์เดิม ช่างใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เพิ่งรู้ว่าแบตเตอรี่ในปัจจุบันไม่ต้องประจุไฟที่ร้านแล้ว เพราะแบตมีไฟมาจากโรงงานเลย ทำให้สามารถยกมาเปลี่ยนได้ทันที แตกต่างไปจากสมัยก่อนที่จะต้องเติมน้ำกลั่นแล้วอัดไฟที่ร้านก่อนใช้

IMG_1952

ของเดิมเป็นแบตเตอรี่ยี่ห้อ Panasonic แต่ทางร้านแจ้งว่ายี่ห้อเดิมเลิกผลิตแล้ว ตอนนี้เป็นยี่ห้อ FB รุ่น S-46B24 กำลังไฟ 45Ah พอช่างยกมาเปลี่ยน ถอดของเก่ามาวางเทียบของใหม่ พบว่า เหมือนกันเป๊ะ เหมือนทุกมุม ตัวถังต่างๆเหมือนออกจากแม่พิมพ์เดียวกัน โรงงานเดียวกัน ช่างเล่าให้ฟังว่า แบตเตอรี่มันออกจากโรงงานเดียวกัน แปะป้ายหลายยี่ห้อแต่ข้างในเหมือนกัน

IMG_1944

ติดตั้งเข้าไปแทนของเก่า ตรวจเช็คไฟจากไดชาร์ทในรถว่าทำงานปกติ บนแบตตัวใหม่มีสติ๊กเกอร์ร้านติดพร้อมวันที่เปลี่ยน และช่างได้วัดค่า CCA ให้ดูด้วย เลยให้ลองวัดค่าของแบตเก่า และแบตใหม่ให้ดู ช่างบอกว่า CCA เยอะ ยิ่งดี ถ้า CCA ต่ำเกินไปจะสตาร์ทไม่ติด ซึ่งก็จะหมายถึงแบตเสื่อมด้วย

IMG_1948
IMG_1955

ค่า CCA ของแบตใหม่ แสดงผลไว้ 650 CCA Healthy 100% ตัวมิเตอร์วัดขึ้นคำว่า Good-Recharge

IMG_1954

ส่วนแบตเก่าวัดออกมาได้ 65 CCA Healthy 2% ขึ้นหน้าจอ Replace

ดูผลการวัดแล้วรู้สึกอยากได้มิเตอร์มาใช้งานบ้างเลย

เปลี่ยนมูเล่ย์คอมแอร์ สวิฟท์2012

วันก่อน คุณภรรยาเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงแกรกๆๆๆๆๆ ที่หน้ารถตอนที่ลงจากรถแล้วมาเปิดประตูเข้าบ้าน ก็เลยไปยืนฟัง สังเกตว่าได้ยินเสียกแกรกๆที่ว่านั้นเป็นจังหวะ คือมีแล้วหาย ไม่ได้มีตลอด

IMG_3418

รถซูซูกิ สวิฟท์ปี 2012 ใช้มา10ปีนิดๆแล้ว อาการเสื่อมของชิ้นส่วนน่าจะทะยอยมาทีละอย่าง และครั้งนี้ก็มาจากส่วนที่เป็นคอมเพรสเซอร์แอร์ เปิดฝากกระโปรงหาที่มาของเสียงก็พบว่าเป็นเสียงมาจากคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ว่าแอร์ยังเย็นอยู่นั่นก็พอจะเดาได้ว่า คอมเพลสเซอร์ยังไม่เสีย แต่ตัวสั่งการคอมเพรสเซอร์หรือคลัทคอมแอร์คงมีปัญหา

แอร์รถยนต์จะทำงานตามการตั้งค่าอุณหภูมิ หากอากาศในรถร้อน แอร์จะทำงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารเย็นลงถึงจุดที่ตั้งค่าไว้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะหยุดทำงาน ตัวสั่งการให้หยุดทำงานคือคลัทคอมแอร์ หรือบางคนเรียกหน้าคลัท เมื่ออุณหภูมิในรถสูงขึ้นอีกเล็กน้อย คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง และจะทำงานสลับหยุดไปเรื่อยๆตลอดการเดินทาง อาการเสียงที่พบจะได้ยินตอนที่คอมเพรสเซอร์หมุนแล้วเข้าสู่การหยุด เสียงแกรกๆๆๆๆ มาทุกครั้งที่คอมเพรสเซอร์เข้าสู่การหยุดหมุนตามในคลิป

ส่งคลิปให้เพื่อนในกลุ่มเฟสบุ๊คดู เพื่อนช่วยกันวิเคราะห์ว่าคลัทคอมแอร์มีปัญหา บางคนเรียกว่ามูเล่ย์คอมแอร์มีปัญหา ก็เลยมั่นใจแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนชิ้นนี้ และสืบราคาในศูนย์และนอกศูนย์ก็พบว่ามีหลายราคามาก คลัทคอมแอร์สวิฟท์ 2012 ราคาใน lazada และ shopee ประมาณ 800-900 บาท ส่วนในศูนย์ไม่แจ้งราคา แต่บอกแค่ว่า คลัทกับคอมแอร์มาพร้อมกันไมไ่ด้แยกขาย ดังนั้นถ้าเปลียนในศูนย์จะโดนเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ด้วย ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าศูนย์ ประกอบกับตามอ่านในเฟสบุ๊คพบว่าเพื่อนที่ใช้สวิฟท์แล้วเข้าศูนย์ซ่อมระบบแอร์ ส่วนมากจะจ่ายประมาณ 10000-17000 บาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนอะไรบ้าง

แวะไปอู่เจ้าประจำแถวบ้าน ขับรถไปให้อู่ดู ทีมช่างในอู่แจ้งว่า หน้าคลัทคงมีปัญหา ต้องเปลี่ยนชิ้นนี้ และการเปลี่ยนจะต้องถอดคอมแอร์ออกมาด้วย ทำให้ต้องถ่ายน้ำยาแอร์เก่าออก และต้องเติมน้ำยาแอร์กลับเข้าไปใหม่รวมถึงต้องเติมน้ำมันคอมแอร์ด้วย จะมีค่าใช้จ่ายส่วนน้ำยาแอร์และน้ำมันเพิ่มเติม รวมทั้งหมดแล้วจะมีค่าใช้จ่าย 3500 บาท สุดท้ายผมตัดสินใจทำที่นี่ และทางอู่ใช้เวลา 3 ชม.

2023-06-25_01-36-56

รับรถกลับมาบ้านแล้วก็ส่องไฟดู ก็พบว่าส่วนที่เปลี่ยนอะไหล่ไปแล้วทำงานได้ปกติ สภาพใหม่เอี่ยม ไม่มีเสียงแกรกๆๆๆอีก ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าตกลงที่เปลี่ยน ผมเปลี่ยนคลัทคอมแอร์ หรือ เปลี่ยนมูเล่คอมแอร์ แล้วสองชิ้นนี้มันเหมือนกันไหม เริ่มสับสน

มือเปิดเก๊ะเก็บของหัก สวิฟท์ 2012

ซูซูกิสวิฟท์รุ่นปี 2012 เป็นรถอีโคคาร์ที่ใช้งานมายาวนานนับสิบปี วันนี้เกิดอาการลิ้นชักเปิดไม่ได้ เอามือง้างแต่ลิ้นชักไม่เปิด เหมือนตัวล๊อคมันยังคงล๊อคอยู่ ก็เลยสืบจากอินเทอเน็ตได้ความว่า ตัวล๊อคมีชิ้นส่วนหัก ทำให้ไม่ทำงาน ต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนตัวล๊อคใหม่

1684389651189

การจะเปลี่ยนตัวใหม่ต้องเปิดลิ้นชักออกมาเพื่อถอดตัวล๊อคออก แต่มันล๊อคอยู่แล้วจะเปิดลิ้นชักยังไง เลยต้องไปดูใน youtube ว่ามีคนพบอาการนี้ไหม ผลก็คือ มีคลิปสอนเปิดลิ้นชักที่ตัวล๊อคเสียอยู่หลายคลิป ทุกคลิปมีสาเหตุเดียวกันคือตัวล๊อคหัก การเปิดลิ้นชักเลยต้องใช้วิธี เอาเหล็กตัว L แหย่เข้าไปด้านข้างมือเปิด ซึ่งมันจะมีช่องให้แหย่ได้ แล้วก็ยื่นเหล็กเข้าไปกดตัวล๊อคด้านใน จึงจะเปิดลิ้นชักได้ อ่านแต่ข้อความตรงนี้ก็จะไม่เข้าใจ ต้องตามไปดูในคลิปถึงจะพอรู้วิธีทำ

1684375399811_0



หลังจากเปิดลิ้นชักได้ ถอดตัวล๊อคออกมาแล้ว ก็หาซื้ออะไหล่ชิ้นนี้ ตัวอะไหล่รหัส 73430-58m00-5pk ชื่อในระบบของซูซูกิคือ มือเปิดเก๊ะเก็บของ ในเว็บอย่าง Lazada และ Shopee มีหลายร้านที่ขาย แต่ราคาก็แพง 500+ ทั้งนั้นเลย ส่วนของศูนย์ราคา 425 บาทยังไม่รวม vat ถ้ารวม vat แล้ว ก็ยังราคา 454.75 บาท ซึ่งยังคงถูกกว่าของที่ร้านอื่นๆแทบทุกร้าน นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่ศูนย์ขายถูกที่สุด ผมก็เลยสั่งที่ศูนย์แต่ต้องรอของ 2 วัน เมื่อของมาก็ไปรับที่ศูนย์

การเปลี่ยนตัวล๊อคใช้ไขควงสี่แฉกตัวเดียว แกะง่าย ใส่ง่าย ทำเองที่บ้านได้เลย
ใครไม่สะดวกซื้อที่ศูนย์ สั่งในเว็บได้ที่นี่ https://shope.ee/A9mgZ07lgo

1684399556055

เปลี่ยนถ่านรีโมท ซูซูกิ สวิฟท์ 2012 ใช้ถ่าน cr2032

รถยนต์ซูซูกิสวิฟท์เป็นรถอีโคคาร์ เครื่องยนต์ 1.2L รุ่นปี 2012 เป็นรุ่นที่มีกุญแจรีโมทให้มา 2 อัน ใช้งานประมาณ 8 ปี ถ่านรีโมทก้อนแรกก็หมดลง และในปี 2022 ถ่านในกุญแจอันที่2ก็หมดลง มันทำให้กดเปิดล็อครถไม่ได้ในระยะปกติ

การเปลี่ยนถ่านก็ให้ซื้อถ่านกระดุมขนาด cr2032 ซึ่งเป็นถ่านแบนๆกลมๆ มีขายในห้าง ในร้านสะดวกซื้อ ผมแนะนำให้ซื้อยี่ห้อดีๆไปเลย เพราะว่าถ่านจะอยู่ในรีโมทยาวนานหลายปี หากใช้ถ่านราคาถูก ยี่ห้อประหลาด เราอาจจะต้องเจอเหตุการณ์ถ่านเยิ้ม น้ำยาเคมีรั่วไหลเมื่อเวลาผ่านไปสักปีหรือสองปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรวัดดวง เพราะรีโมทรถยนต์เป็นของแพง ไม่ควรเอาไปเสี่ยงกับถ่านคุณภาพต่ำ

ถ่านยี่ห้อพานาโซนิคของแท้ เป็นถ่านที่คุณภาพดี ไม่มีน้ำยาไหลให้เห็นเลย ผมพบกับถ่าน AA ที่ซื้อใช้กับรีโมทคอนโทรลแอร์ ถ่านรีโมทที่ใช้พานาโซนิค แม้ถ่านจะหมดหรือเวลาผ่านไปสักสามปี ถ่านก็ยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ถ่าน AA ที่ซื้อจากร้าน 20บาท ใส่ในรีโมทปีกว่าๆก็มีผงเคมี มีน้ำยาเคมีไหลให้เห็นแล้ว รีโมทบางอันก็สนิมขึ้นเพราะโดนเคมีของถ่านละลายออกมากัดกร่อนโลหะตัวนำในช่องใส่ถ่าน ดังนั้น ขอให้ใช้ถ่านยี่ห้อดี ของแท้ ที่ไว้ใจได้เท่านั้น

วิธีการแกะถ่านเพื่อเปลี่ยนถ่านลองหาดูใน youtube ได้ ใช้ไขควงหัวแบนอันเดียวก็แกะได้แล้ว

ผมดูจากลิงค์นี้


สรุป กุญแจรีโมทของ รถยนต์ ซูซูกิ สวิฟท์ 2012 ใช้ถ่าน cr2032

เปลี่ยนหลอดไฟถอย สวิฟท์2012 t20 ไส้เดี่ยว

ScreenClip

รถยนต์ suzuki swift 2012 เป็นรถ eco car ที่ออกมาขายตั้งแต่ปี 2012 ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก รถในบ้านเป็นรถของคุณภรรยา และไฟถอยดับไป 1 ข้าง ก็เลยหาข้อมูลแล้วซื้อเปลี่ยน ค้นในเน็ตเจอชื่อรุ่นว่าเป็น T20 ก็เลยไปซื้อจากร้าน diy แห่งหนึ่ง แล้วก็เอากลับมาเปลี่ยน ปรากฏว่า ใช้ไม่ได้

20220409162335_IMG_0238
หลอดซ้ายคือหลอดที่ดับ หลอดขวาคือ T20 ที่ซื้่อมาแต่ขั้วไม่เหมือนกัน

หลอด T20 ที่เป็นหลอดสำหรับใส่ไฟถอยหลัง ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ในรถหลายรุ่น T20 จะหลายสเป็ค สเป็คที่เป็นไฟท้ายในรถสวิฟท์จะเป็นขั้วเขี้ยว และจะมีแยกย่อยอีกเป็น สเป็คแรกคือ T20 ไส้เดี่ยว และสเป็คที่สองคือ T20 ไส้คู่ การใช้งานจะแตกต่างกัน ขั้วหลอดไฟก็จะแตกต่างกัน ในเว็บส่วนมากจะบอกแค่ว่า swift 2012 ใช้ไฟถอยชนิด T20 ขั้วเขี้ยว ไม่ได้บอกว่าไส้เดี่ยวหรือไส้คู่ ก็เลยได้ซื้อผิดกันเป็นประสบการณ์ เพราะไม่ได้ถอดหลอดเก่าไปเทียบ คิดว่าแค่ซื้อให้ตรงชื่อก็น่าจะได้แล้ว

20220414120746_IMG_0412
หลอดซ้ายคือหลอดที่ดับ หลอดขวาคือ T20 ไส้เดี่ยว ขั้วเดี่ยว ซื้อรอบสองให้ตรงรุ่น

รอบแรกได้มาเป็นไส้คู่ ก็ใช้ไม่ได้ เลยต้องไปซื้อใหม่ คราวนี้ร้าน DIY ร้านเดิม หรือร้านตลาดนัดทั่วไป ร้านอะไหล่อิเล็คทรอนิกส์ก็ไม่มีหลอดรุ่นไส้เดี่ยว สุดท้ายต้องไปร้านอะไหล่รถยนต์ ถอดหลอดเก่าที่ดับไปให้ดูแล้วก็ซื้อกลับมา แต่การถอดหลอดเดิมก็ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเหมือนกัน เพราะโคมไฟท้ายรถจะต้องถอดด้วยประแจบล๊อค เบอร์ 10 หรือ 10mm ซึ่งปกติบ้านคนทั่วไปไม่มี เลยต้องซื้อเครื่องมือเพิ่มอีก 1 ชิ้นเอาไว้ถอดน็อตที่ล๊อคโคมออก

IMG_20180813_174713

ถ้ารู้ว่าหลอดไฟมีสองสเป็ค ก็จะหาข้อมูลให้นานขึ้น ก็เลยมาพิมพ์โน้ตไว้ให้อ่านสำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนไฟท้ายรถซูซูกิสวิฟท์ด้วยตัวเอง แม้ว่าเอาเข้าศูนย์จะแก้ปัญหาได้ แต่บางทีเราก็ไม่สะดวกจะแวะ และไม่ได้อยู่ใกล้ศูนย์

ซื้อหลอดไฟถอยสวิฟท์2012 ชนิด T20 ขั้วเดี่ยวได้ที่นี่ https://shope.ee/3AcwDccXlA

ซูซูกิสวิฟท์ 2012 ซ่อมพัดลมแอร์

ซูซูกิสวิฟท์คือรถของคุณภรรยา เป็นรถที่ใช้งานมาประมาณเกือบสิบปีแล้ว นับว่าเป็นรถที่มีคุณภาพที่ดีและน่าใช้งาน เป็นรถที่สมรรถนะดีและประหยัดน้ำมันมาก ตอนนี้อายุรถเยอะเริ่มมีชิ้นส่วนเสียหายต้องเปลี่ยนแล้ว อยู่ๆก็เปิดแอร์ไม่ติด ตอนเช้าเปิดติด ตอนบ่ายบางทีก็ไม่ติด อาการติดบ้างไม่ติดบ้างเกิดขึ้นแบบนี้มาหลายวัน จนกระทั่งระยะหลังๆมักจะเปิดไม่ติดแล้ว

ตรวจสอบเบื้องต้น ลองสตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ดู พัดลมหม้อน้ำทำงาน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เพราะว่าตอนเปิดแอร์ก็รู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์หน่วงลงตามปกติของการเปิดแอร์ รอบเครื่องตกลงเล็กน้อยซึ่งเป็นสัญญาณปกติของการเปิดแอร์ แต่ที่ผิดปกติคือไม่มีลมออกมา ก็เลยสันนิษฐานว่าพัดลมแอร์ภายในรถน่าจะมีปัญหา

เข้าไปหาข้อมูลต่อใน youtube ก็ได้ความรู้มาว่า ตัวควบคุมการหมุนของแอร์ในรถจะถูกสั่งการผ่านวงจรไฟฟ้าในแอร์ และสัญญาณไฟฟ้าจะวิ่งมาผ่านตัวรีซีสแตนท์ก่อนแล้วค่อยต่อไปยังพัดลม ไฟควบคุมพัดลมจะถูกสั่งให้หมุนแรงหรือหมุนเบา ไฟจะวิ่งผ่านตัวต้านทานรีซีสแตนท์ตัวนี้ก่อน ดังนั้น ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็เป็นไปได้ว่า พัดลมพัง หรือ รีซีสแตนท์พัง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งสองตัวเลยเพราะมันก็เก่าไปตามอายุรถ ราคาพัดลมแอร์ในศูนย์ 1388 บาท ราคารีซีสแตนท์ในศูนย์ก็ 1220 บาท ราคานี้ได้มาจากการเอารถเข้าศูนย์ให้ช่วยตรวจเช็คว่าแอร์ไม่ติดเพราะอะไร ซึ่งศูนย์ก็ทำงานได้ดี ตรวจเช็คระบบแอร์ และแจ้งอาการ ทำใบเสนอราคามาให้ด้วย เลยได้รู้ราคาของแต่ละชิ้น

IMG_20220301_180747

เพียงแต่ศูนย์สั่งเปลี่ยนหลายชิ้นเหลือเกิน รวมอะไหล่ รวมค่าแรง จะจบที่ราคาประมาณ 9พันกว่าบาท ซึ่งผมรู้สึกว่าราคาแรงเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าศูนย์ต้องเปลี่ยนตัวที่เกี่ยวข้องกับอาการแอร์ไม่เย็นหลายตัว และค่าแรงการทำงานก็เป็นหลักสองพันบาท ดังนั้น ผมก็เลยไม่ทำในศูนย์ จ่ายค่าแรงตรวจเช็ค 250 บาทเอารถออกแล้วหาอะไหล่เปลี่ยนเองดีกว่า เพราะว่า ระหว่างที่ช่างเช็ค ผมก็อ่านในเว็บ ดู youtube ไปหลายคลิปเลย เลยพอจะรู้คร่าวๆแล้วว่าพอเปลี่ยนเองได้ ต้องขอบคุณศูนย์และขอโทษที่ไม่ได้อุดหนุนศูนย์ด้วย

อาการหนึ่งที่ทำให้แน่ใจว่าพัดลมมีปัญหาแค่อย่างเดียวโดยที่ตัวควบคุมความเร็วอย่างรีซีสแตนท์ไม่น่าจะเสียเพราะว่า พัดลมติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ถ้าติดก็จะทำงานได้ปกติและสามารถปรับแรงลมได้ด้วย ดังนั้น พัดลมน่าจะเสียแค่ตัวเดียว และรวมกับในคลิป youtube ก็มีแนะนำว่า ถ้าพัดลมมีฝุ่นจับทำให้มอเตอร์หมุนไม่สะดวก ถ้าเจออาการไม่หมุนให้ลองเอามือตบไปใกล้ๆพัดลมดู ซึ่งพัดลมจะอยู่ตรงกับช่องใส่ของหน้ารถด้านข้างคนขับ ให้ลองเคาะหรือตบที่ช่องใส่ของแรงๆดู แรงสั่นสะเทือนจะไปช่วยให้ใบพัดหมุนได้ ซึ่งลองทำแล้วก็เป็นจริงตามนั้น เลยมั่นใจว่าพัดลมหมุนไม่คล่องจริงๆ และน่าจะเสียแค่ตัวนี้ตัวเดียว

IMG_20220301_183218

เริ่มหาอะไหล่ พัดลมแอร์ หรือ โบรเวอร์ หน้าตาเป็นพัดลมทรงกระบอก ดูในเว็บช็อปปิ้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 750-1200 บาท แน่นอนว่าผมก็เลือก 750 แล้วเลือกร้านที่ได้คะแนนรีวิวสูงๆ ส่วนรีซีสแตนท์ผมไม่ได้สั่งซื้อ เพราะว่าคาดว่ายังไม่พัง จะเปลี่ยนพัดลมก่อน ซึ่งจริงๆแล้วพัดลมก็ยังไม่พังจริงๆ แค่หมุนไม่สะดวกเพราะมีฝุ่นไปจับทำให้แกนหมุนมีความฝืด ถ้าอยากประหยัดจริงๆก็สามารถถอดพัดลมออกมาทำความสะอาดได้ แต่ผมเลือกจะถอดเปลี่ยนเลย เพราะไหนๆก็รื้อออกมาแล้ว และราคาพัดลมก็ไม่ได้แพงมาก แล้วยังทำเองไม่เสียค่าแรงอีก ก็เปลี่ยนเลยดีกว่า

GX012078_1646134031628

พัดลมแอร์อยู่ด้านในใกล้ๆกับที่ใส่กรองแอร์ พัดลมจะติดกับช่องลมด้วยน็อต 3 ตัว ต้องใช้ไขควง 4 แฉกในการไข และควรเป็นไขควงที่สั้นที่สุดเท่าที่หาได้ เพราะตำแหน่งการหมุนน็อตออกนั้น อยู่ในส่วนที่แคบ อยู่ใกล้กับพื้นรถ ดังนั้นไขควงยาวๆจะแหย่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งในที่สุดผมก็ไปหาซื้อไขควงก้านสั้นมาใช้จนได้ เลยถอดออกมาได้อย่างง่ายดาย หลายคันใน youtube ที่ถอดพัดลมออกมาแล้วจะพบกับเศษฝุ่น เศษกระดาษ เศษใบไม้อยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จะทำให้หมุนลำบาก

พัดลมตัวใหม่ถูกแทนที่เข้าไป แล้วทดลองเปิดแอร์ดู แอร์ทำงานได้ปกติตั้งแต่การสั่งเปิดครั้งแรก นั่นแสดงว่าพัดลมตัวเก่ามีปัญหาจริงๆที่อยู่ดีๆก็ไม่หมุน ผลการเปลี่ยนพัดลมแอร์ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จ ประหยัดเงินไปได้เกือบหมื่นบาท

IMG_20220305_124142

ภาพนี้คือพัดลมตัวเก่าที่เรื้อใบพัดออกมาดู ภายในมีแต่ฝุ่นจับ ซึ่งจริงๆแล้วใบพัดควรจะเป็นสีขาว ฝุ่นดำพวกนี้คือผงถ่านที่หลุดออกมาจากมอเตอร์ แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ยาวนาน นานๆไปชิ้นส่วนแปรงถ่านในมอเตอร์ก็จะสึกและหลุดกระจายออกมาจนในที่สุดมอเตอร์ก็จะไม่หมุน ดังนั้น รถอายุเยอะระดับเกือบสิบปี ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้เสียกระทันหัน

ผมหาลิงค์เดิมที่สั่งซื้อไม่เจอแล้ว
หาให้ใหม่ที่นี่ https://shope.ee/504aQ4mdOL