นำเสนอผลงาน ป6 เทอม2 13mar2025
ย้อนกลับไปดู พรีเซ้นครั้งที่แล้ว ตอนเทอม1 วันที่ 3oct2024
นำเสนอผลงาน ป6 เทอม2 13mar2025
ย้อนกลับไปดู พรีเซ้นครั้งที่แล้ว ตอนเทอม1 วันที่ 3oct2024
ก่อนจะปิดภาคเรียนกลางภาค หรือ เรียนมาแล้ว 2 เทอมเล็กก็จะมีการนำเสนอผลงานวิจัยประจำเทอมที่ครูให้ทำตั้งแต่เปิดเทอมและมาสิ้นสุดในตอนก่อนจะปิดภาคเรียน การนำเสนองานหน้าชั้นจะจัดขึ้นก่อนหยุด เด็กนักเรียนจะได้ทำพรีเซ้นเทชั่น เพื่อบอกเล่างานวิจัย รวมถึงแสดงผลงานการเรียนรู้ในวิชาต่างๆ จัดสถานที่แบบงานนิทรรศการและไฮไลท์คือการนำเสนอหน้าชั้นเรียน และเหมือนทุกครั้ง จะมีพ่อแม่เข้าไปนั่งฟังด้วย
เทอมนี้เด็กๆเลือกวิธีนำเสนอได้สนุกมาก เป็นการบอกเล่าผลงานที่สนุก แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่าน แตกต่างไปจาก ป5 ป4 ไล่ลงไปถึง ป1 เลย ภาพของเด็กนักเรียนมายืนพูดกึ่งอ่านข้อมูลถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ เป็นละครสมมุติ ที่น่าสนใจคือการนำเสนอครั้งนี้มีความสนุก ไม่รู้ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่น่าจดจำ
เด็กมีพัฒนาการไปไกลจากเดิมมาก ความกล้าคิดกล้าแสดงออกมีเต็มที่ การพูดเล่าเรื่องเป็นไปอย่างธรรมชาติ และแทบจะไม่มีลักษณะของการอ่านสไลด์ยาวๆเลย ยังคงมีการอ่านบ้างตามความจำเป็นที่จะต้องพูดถึงข้อมูลสำคัญ แต่ส่วนใหญ่เป็นการพูดจากความจำและความเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีน่าชื่นชมมากที่มาถึงจุดนี้ได้
ขอบฟ้า ป5 เพลินพัฒนา 14mar2024
งานชื่นใจสำหรับนักเรียน ป2ห้อง3 ซึ่งขอบฟ้าเรียนห้องนี้ ครูจะให้เลือกทำงานวิจัยตั้งแต่ต้นเทอม ทำการเก็บข้อมูล ออกแบบการทดลอง บันทึกผล สรุปผล วิเคราะห์ วิจารณ์เพื่อต่อยอด เด็กจะเลือกสิ่งที่สนใจด้วยตัวเอง ทุกคนจะมีหัวข้องานวิจัยไม่เหมือนกัน
ขอบฟ้าชอบฟุตบอลก็เลยทำเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอล ส่วนเพื่อนในห้องก็มีหัวข้อที่หลากหลาย และทุกคนจะต้องนำเสนอผลงานในวันแสดงก่อนปิดภาคเรียน
เด็กทุกคนจะเวียนกันขึ้นพูด คนที่1 กำลังพูด คนถัดไปจะต้องมาต่อแถวรอ ส่วนคนอื่นที่ยังไม่ถึงคิวก็นั่งฟังไป จะนั่งเก้าอี้หรือนั่งพื้นก็ได้ และไม่ใช่แค่ฟังอย่างเดียว จะต้องวิจารณ์เพื่อนๆลงในสมุดด้วย ทุกคนเป็นกรรมการนั่นเอง
ตัวแทนพ่อแม่รวม 2 คนมาเป็นอาสาสมัครช่วยถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ และทางห้องเรียนก็มีการเปิดห้องประชุม online ผ่านโปรแกรม zoom เพื่อให้พ่อแม่ท่านอื่นที่ไม่ได้เข้าห้องสามารถรับชมได้ นั่นเป็นเพราะโรงเรียนมีนโยบายป้องกันการติดเชื้อโควิด ทำให้การแสดงผลงานครั้งนี้ไม่มีผู้ปกครองนั่นเอง เหลือเพียงตัวแทนที่จะช่วยบันทึกภาพและวิดีโอเท่านั้น
เพิ่มเติมวิธีบันทึกเสียงวิดีโอให้ชัด นักเรียนจะพูดหน้าห้องผ่านไมโครโฟน เสียงจะออกจากลำโพงซึ่งวางอยู่บนพื้น จะมีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่หน้านักเรียน และมีจุดวางกล้องวิดีโอที่ติดกับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะเปิดโปรแกรม Zoom เพื่อถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงให้ผู้ปกครองนอกห้องได้ดู เสียงที่วิ่งเข้าโปรแกรม Zoom จะได้จากไมโครโฟนตั้งโต๊ะ(ที่ตอนนี้เอาไปวางบนพื้น ในภาพจะเขียนกำกับว่า mic1) ไมค์ตัวนี้เป็นไมค์ชนิด usb จะชี้เข้าลำโพงเพื่อรับเสียงจากลำโพงโดยตรง และจะมีไมค์โครโฟนแบบลาวาเลียร์หรือไมค์หนีบปกเสื้อ(mic3) ตอนนี้หนีบกับอุปกรณ์ตขาตั้งไมค์ชขนาดเล็ก mic3ติดอยู่ใกล้ๆเพื่อรับเสียงหน้าลำโพงเช่นกัน mic3จะต่อเข้ากับกล้องวิดีโอ ซึ่งกล้องวิดีโอในงานนี้ใช้กล้อง mirrorless canon eos m เป็นตัวบันทึกคลิป
กล้องที่ทำหน้าที่ถ่ายคลิปจะใช้ตัวจ่ายไฟแบบเสียบปลั๊ก เพื่อการใช้งานยาวๆ จะได้ไม่มีปัญหาแบตหมด ไม่ต้องเปลี่ยนแบตระหว่างถ่ายคลิป ก่อนการบัทจริงจะมีการทดสอบการตั้งค่าความดังของไมค์ เพื่อให้เสียงที่บันทึกไว้มีคุณภาพสูงที่สุด มีเสียงดังที่สุดเท่าที่เสียงยังไม่แตก สิ่งที่ยากก็คือ เราไม่สามารถฟังเสียงระหว่างบันทึกได้ ได้แต่อาศัยดูกราฟที่วิ่งขึ้นวิ่งลงแทนระดับเสียงที่บันทึก หมายความว่าเราต้องใช้กล้องถ่ายคลิปที่สามารถแสดงระดับความดังของเสียงที่บันทึกได้
งานวันชื่นใจจะเป็นงานแสดงผลงานของนักเรียนในชั้น ขอบฟ้าเรียนที่เพลินพัฒนามาตั้งแต่รุ่นเตรียมอนุบาล และมีงานชื่นใจในช่วงปลายเทอมก่อนปิดปีการศึกษาทุกปี ในปีนี้เป็นปีที่เรียนอยู่อนุบาล3 เนื้อหาในงานของปีนี้แตกต่างไปจากปีที่แล้วมาก
เข้าใจว่าเด็กอนุบาล3จะมีทักษะการจดจำและการแสดงที่มากกว่าปีที่แล้วอย่างก้าวกระโดด นั่นทำให้งานชื่นใจปีนี้เป็นการแสดงละครในรูปแบบหนึ่งที่มีระยะเวลาการแสดงที่ยาวนานเกิน 1 ชั่วโมงไปพอสมควร แตกต่างจากปีที่แล้วที่เป็นการแสดงที่ไม่ต่อเนื่อง และเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน
เด็กมีการแบ่งบทบาทการแสดงหลายอย่าง เด็กทุกคนจะแสดงเป็นตัวละครสักตัวหนึ่งในแต่ละเรื่องย่อย บางคนรับหน้าที่พูดบรรยายด้วย บทพูดหลายๆประโยคได้รับการถ่ายทอดออกมาแสดงให้เห็นว่าเด็กมีความจำดีแทบทุกคน
การแสดงเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา เด็กทุกคนรู้หน้าที่และคอยเตือนเพื่อนเมื่อมีเหตุที่ไม่เป็นไปตามแผน พ่อแม่อย่างผมแอบคิดว่านี่เขาต้องซ้อมร่วมกันมากี่วันถึงบริหารจัดการได้ระดับนี้ ลำพังเด็ก 1 คนอยู่กับพ่อแม่ก็ซนและวุ่นวายจนหมดแรง แต่ครูสามารถกำกับเด็กได้ทั้งห้อง ทุกคนตั้งใจแสดงและทุกคนทำได้ดี ชื่อว่าครูก็คงเหนื่อยมากในการฝึกซ้อมกิจกรรมครั้งนี้
ผมรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกที่นี่ให้ลูก เป็นพัฒนาการที่น่าพอใจ พ่อแม่ก็เห็นแนวทางของโรงเรียนมาตลอด และได้เห็นสิ่งที่ค่อยๆใส่ให้ลูก ค่อยๆเรียนรู้ การเป็นเด็กที่รู้จักตั้งคำถาม และมีความพยายามที่จะหาวิธีการ มีความพยายามหาคำตอบ เป็นทักษะที่พ่อแม่อยากให้ลูกมีติดตัว จบชั้นอนุบาล จบการเรียนรู้เพื่อการเล่น ต่อไปชีวิตประถม1ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงชีวิตแห่งความจริง เป็นการเรียนรู้เพื่อใช้ชีวิตจริง พ่อแม่เชื่อว่าลูกพร้อมรับกับชีวิตที่ต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น