ไปเจอน้ำยาล้างฟิล์มชุดนี้ที่งานโฟโต้แฟร์2019 เลยซื้อมาลองใช้สักหน่อย การล้างฟิล์มขาวดำเป็นงานทำมือที่ทำยากขึ้นทุกวัน น้ำยาล้างฟิล์มไม่หลากหลายเหมือนในอดีต แต่ก็พอมีให้ใช้ เดี๋ยวถ้าล้างเสร็จจะเอาภาพมาโพสท์ประกอบไว้ด้วย
Tag Archives: ขาวดำ
รีวิวเป็นเสียง leica minilux
กล้อง leica minilux ผมใช้มานานหลายปีแล้ว ลองเอามาเล่าเป็นเสียงบ้าง แง่มุมที่พูดถึงจะเป็นเนื้อหาที่เพิ่มเติมไปจากรีวิวปกติที่เคยเขียนไว้ เช่น ภาพขาวดำจาก minilux การสแกนภาพจากฟิล์มสีของร้านล้างฟิล์ม ความทนทาน อาการเสียประจำรุ่น เชิญฟังได้ครับ หลังจากฟังแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อด้านล่างนี้
ภาพที่ชอบที่สุดจากกล้อง leica minilux คือภาพวันแรกเกิดของลูกผมเอง ก่อนจะได้ถ่ายภาพนี้ผมก็เตรียมตัวมาล่วงหน้าหลายเดือน การเตรียมตัวก็คือ เอาฟิล์มขาวดำมาทดลองถ่ายและล้างฟิล์มออกมาดู ยังมีขั้นตอนการโหลดฟิล์มเข้าแท๊งค์ล้างฟิล์มด้วย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เสี่ยงต่อความเสียหายที่สุด เพราะหากโหลดฟิล์มติดขัด ฟิล์มไม่เรียงตัวในตะแกรงอย่างเป็นระเบียบ ฟิล์มก็จะทำปฏิกิริยากับสารเคมีไม่ทั่วถึง ภาพก็จะเสียนั่นเอง การซ้อมยังรวมถึงการทดลองผสมน้ำยา ทดลองล้างที่อุณหภูมิตามสเป็ค เพื่อดูผลของฟิล์มว่าผ่านการล้างแล้วเป็นอย่างไร และอีกส่วนที่ต้องทำก็คือเตรียมกล้องให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเพราะกล้องเก่าแล้ว เช็คสภาพก่อนจะถ่ายจริงก็เป็นเรื่องที่ควรทำ ฟิล์มขาวดำผมเลือกใช้ยี่ห้อตลาดราคาไม่แพง ด้วยเหตุผลว่า มันยังมีขายในช่วงเวลานั้นและเคยใช้ฟิล์มตัวนี้กับน้ำยาล้างฟิล์มตัวที่คุ้นเคย และภาพที่ออกมาก็สร้างความรู้สึกตื่นเต้นได้ดี และในตอนที่ถ่ายภาพในเหตุการณ์จริง ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ซ้อมไว้
หลังจากไปยืนเป็นพยานตอนลูกเกิด ไปรอถ่ายภาพพ่อแม่ลูกในห้องคลอดเสร็จแล้ว ก็ออกมาที่ห้องพัก คุณหมอจะพาลูกมาให้เริ่มดูดนมแม่ และเปิดโอกาสให้พ่อแม่ได้เห็นหน้าลูกชัดๆ และสามารถถ่ายรูปได้ตามใจด้วย ผมเข็นเตียงเด็กไปอยู่ใกล้ๆหน้าต่างเพื่อให้แสงสว่างมากเพียงพอที่จะถ่ายภาพได้ ยกกล้อง minilux ตั้งค่าที่ตัวกล้องเป็นการถ่ายแบบเลือกรูรับแสงเอง ผมตั้งรูรับแสงของกล้องไว้ที่ 2.4 แล้วก็โฟกัสสิ่งที่ต้องการแล้วถ่ายภาพเลย หลังจากถ่ายไป ประมาณ 2 สัปดาห์ ผมว่างพอจะล้างฟิล์ม ก็ทำการล้างในแบบที่เคยซ้อมไว้ ได้ฟิล์มที่มีภาพบันทึกสมบูรณ์แบบ คุณภาพการล้างเป็นไปตามมาตรฐาน เราสามารถใช้ฟิล์มนี้ไปสแกนด้วยเครื่องสแกนฟิล์มก็ทำได้สวยงาม ทดลองสแกนด้วยการถ่ายภาพผ่านกล้องดิจิทัลก็ทำได้ และ การอัดภาพลงกระดาษขาวดำโดยตรงก็ได้ดังภาพที่เห็น

ภาพขาวดำบนกระดาษขาวดำแท้ๆ เป็นภาพที่สวยงามมาก ระบบการแสดงภาพบนจอทุกชนิดไม่สามารถให้คุณภาพได้เหมือนกระดาษ ไม่ว่าเราจะพยายามสแกนฟิล์มให้ได้ไฟล์ที่มีคุณภาพอย่างไร ภาพที่ได้ก็ไม่เหมือนภาพบนกระดาษอัดภาพแท้ๆที่ผ่านการฉายแสงด้วยวิธีดั้งเดิม ผมเอาไฟล์ดิจิทัลที่สแกนฟิล์มไปทดลองพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ต่างๆก็ไม่ได้คุณภาพแบบที่กระดาษขาวดำให้ได้ ผมลองทั้งเครื่องดิจิทัลปริ๊นท์ระดับโปรดักชั่นของโรงพิมพ์ราคาเครื่องเป็นล้าน หรือ เครื่องพิมพ์ภาพถ่ายของ canon ที่เป็นระบบการพิมพ์แบบ dye-sublimation ซึ่งเป็นการผลิตภาพที่ให้คุณภาพสีจากไฟล์ดิจิทัลที่สูงที่สุดของเทคโนโลยีทางการพิมพ์แล้ว ความรู้สึกตรงนี้ต้องเห็นด้วยตาตัวเองถึงจะเข้าใจ มันเหมือนการมองโลกผ่านกระจก มันมีอารมณ์ร่วมมากกว่ามองผ่านจอทีวี แล้วชีวิตเราดีขึ้นไหมจากการถ่ายภาพ ล้างฟิล์ม อัดภาพเอง ก็ไม่ได้ดีขึ้นหรอก เราแค่หาความสุขจากการถ่ายภาพให้ครบวงจรเท่านั้นเอง
ภาพจากฟิล์มที่ขายได้

ภาพถ่ายตอนแรกเกิดที่ผมถ่ายลูกด้วยกล้องฟิล์ม ใช้กล้อง Leica minilux ฟิล์มขาวดำยี่ห้อ lucky ที่เคยมีเก็บไว้หลายปีแล้ว หลังจากที่ถ่ายหมดม้วน กลับมาอยู่บ้านแล้ว ก็ล้างฟิล์มม้วนนี้ แล้วก็ลองสแกนด้วยกล้องดิจิทัลจนได้เป็นไฟล์ไว้ดู ผ่านไปหลายปี เลยเอาไปลองขายดู ปรากฏว่าวันนี้มียอดโหลด ขายได้ด้วย แม้จะได้เงินเพียงเล็กน้อย แต่มันเป็นการบอกว่าภาพของเราเป็นที่ต้องการของบางคน และภาพนี้จะอยู่ในระบบคอมฯตลอดไปจนกว่าโลกเราจะเลิกใช้อินเทอเน็ต
ภาพนี้มีที่มาจากการสแกนด้วยเลนส์มาโคร ดูรายละเอียดวิธีทำได้จากโพสท์นี้
การสแกนฟิล์มด้วยเลนส์มาโครและกล่องไฟ
ปรับภาพให้สวยถูกใจ
แม้ว่าการถ่ายภาพเราจะพยายามฝึกฝนให้ถ่ายดีที่สุดตั้งแต่การกดชัตเตอร์ ภาพหลังกล้องต้องสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่สติปัญญาและสถานการณ์จะเอื้ออำนวย และเมื่อมาดูภาพในภายหลังเราก็ยังอาจจะปรับแต่งเพื่อให้มันดูดี หรือดูแปลกตาไปจากเดิมได้ การปรับภาพเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ซึ่งบางภาพผมก็เห็นว่าทำให้เป็นสีขาวดำก็ดูสวยขึ้น ได้อารมณ์ต่างๆในภาพมากขึ้น อย่างเช่นภาพเด็กเล่นเปียโนภาพนี้
ภาพนี้ผมใช้ app ในโทรศัพท์มือถือช่วยปรับให้ โดยการเอาภาพต้นฉบับมาเข้า app ชื่อ snapseed
1 ทำการปรับภาพเป็นขาวดำ เลือกโหมดขาวดำเป็น high contrast
2 ใช้คำสั่ง curve หรือ เส้นโค้ง เพื่อยกระดับส่วนความสว่างระดับกลางให้ดูสว่างขึ้น แต่ส่วนมืดและส่วนสว่างไม่ต้องเปลี่ยนแปลง
3 ใส่ขอบมืดให้กับภาพ หรือใส่ vignett เลือกค่าขอบมืดที่ไม่มากเกินไป ภาพก็ออกมาตามที่เห็น
4 ใส่ขอบขาวด้วย app ชื่อ collage เป็นการวางภาพในพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส
ก็ได้ภาพตามที่เห็นนี้ การปรับแต่งเป็นเรื่องความชอบแต่ละคน ผมเป็นคนชอบมองภาพขาวดำ ก็อยากจะปรับให้ดูถูกใจตัวเอง คนอื่นที่ดูอาจไม่ชอบก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องสนใจ
กล้อง canon eos 6d กับเลนส์ canon macro100mm

ยังคงมีภาพอื่นๆอีกที่ถ่ายแล้วอยากลองเปลี่ยนโทนภาพดูบ้าง
การทำ contact sheet ด้วยกล้องดิจิทัล
เมื่อเราถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดำ การจะทำภาพ contact sheet โดยไม่ต้องใช้ห้องมืด ก็มีแต่การทำด้วยกล้องดิจิทัล อาศัยถ่ายภาพฟิล์มผ่านกล่องไฟ แล้วใช้ app ในโทรศัพท์มือถือปรับภาพของฟิล์มนั้นให้เป็นภาพขาวดำ ขั้นตอนการปรับสีด้วย app ก็ให้ดูตามวิดีโอในโพสท์นี้ครับ
กล่องไฟอาศัยดัดแปลง เอาถังขยะสีขาวขุ่นมาคว่ำหน้าลง แล้วเอาไฟส่องที่ด้านหลัง ด้านหน้าที่มองเห็นก็ติดฟิล์มขาวดำทั้งซองพลาสติกเอาไว้
ใช้กล้องดิจิทัลวางบนขาตั้งแล้วถ่ายภาพ ซึ่งเราอาจจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายก็ได้ เมื่อได้ภาพฟิล์มบนกล่องไฟแล้ว ก็จัดการปรับโทนสีด้วย app ที่ชื่อ snapseed
สุดท้ายเราก็จะได้ภาพ contact sheet ที่ใช้ดูเป็นไกด์ในการอัดขยายภาพในห้องมืดต่อไป หรือบางคนก็เก็บ contact sheet เอาไว้ดูเลย
ilford camera กล้องขาวดำพร้อมใช้
กล้องพร้อมใช้ที่พบมักจะเป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มสี เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ลืมกล้องไว้ที่บ้าน ซื้อในห้างแล้วใช้เลย ในยุคดิจิทัลกลืนกินทุกอย่าง และมือถือถ่ายภาพสวยมีกันเกลื่อนไปหมด กล้องพร้อมใช้ก็ตายลงไปพร้อมกับฟิล์มถ่ายภาพ ยังคงเหลือเล็ดรอดอยู่เล็กน้อยในมุมเล็กๆของตลาดซื้อขาย และในอินเทอเน็ต
กล้องพร้อมใช้ที่ผมเห็นวางขายในร้านขายของชำที่ญี่ปุ่น ผมเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี คศ 2015 และไม่เคยเห็นที่ไหนอีกเลย ส่วนกล้องที่อยู่ในบทความนี้ คือกล้องพร้อมใช้ที่ใช้ฟิล์มขาวดำแท้ๆ ผลิตโดยบริษัท ilford ชื่อว่ากล้อง ilford camera
แพ็คเกจอธิบายไว้ว่า เป็นกล้องที่ใช้ฟิล์มขาวดำรุ่น HP5 ความไว 400 กล้องมีระยะชัด 1 เมตรเป็นต้นไป มีแฟลชในตัว ถ้าใช้แฟลชไม่ควรห่างแบบเกิน 3 เมตร มีฟิล์มทั้งหมด 27 ภาพ
ขนาดกล้องไม่เล็กไม่ใหญ่ ผู้ใหญ่ใช้ได้ เด็กก็ใช้ได้ ผมลองให้ลูกถือเล่นก็อยู่ในมือได้มั่นคงดี กล้องพลาสติก เมื่อถ่ายหมดม้วนก็ต้องแงะฟิล์มออกมาล้าง การแงะก็จะทำให้กล้องเสียใช้ซ้ำไม่ได้ ฟิล์มที่ได้ก็นำไปล้างด้วยขั้นตอนขาวดำแท้ๆ ซึ่งในตลาดเมืองไทย ไม่มีร้านรับล้างฟิล์มขาวดำแล้ว จะมีแค่รับกลุ่มนักเล่นที่รับจ้างล้างฟิล์มที่หาได้ตามอินเทอเน็ต แต่ผมล้างเองได้ก็ง่ายหน่อย
ขั้นตอนการล้างก็ใช้น้ำยา id-11 ที่เพื่อนแบ่งไว้ให้ใช้ คุณภาพของฟิล์มที่ออกมาก็อยู่ในระดับพอเห็นภาพ แต่ดูแล้วไม่ได้เนื้อฟิล์มที่สวยใสแบบฟิล์มกลักอายุน้อยๆสดใหม่ คงเป็นเพราะอายุฟิล์มในกล้องตัวนี้มันเก่า อาจหมดอายุไปหลายปีแล้ว ฟิล์มขาวดำที่หมดอายุยังคงเก็บภาพไว้รอล้างได้หลายปี ถ่ายแล้วเก็บไว้ล้างตอนลูกโต เราก็จะได้ภาพในอดีตกลับมา สร้างความตื่นเต้นได้อยู่
คุณภาพของภาพก็อยู่ในระดับของกล้องของเล่นหรือ toy camera แนวฮิสเตอร์ แนวโลโม่ แนวเด็กแนว แนวบ้องแบ๊วไร้การเรียนรู้ ไม่ว่าจะแนวไหนก็คือถ่ายได้ ใช้งานได้ ได้ภาพ และมีเรื่องไปโม้ไปเล่าต่อในแก๊งค์ ในแง่ของคุณภาพก็สู้กล้องคอมแพ็คทั่วไปหรือกล้อง SLR เปลี่ยนเลนส์อื่นๆไม่ได้ ในแง่ของการพกพาก็ไม่ได้เล็กจนใส่กระเป๋ากางเกงได้ นอกจากความอยากลองแล้ว ผมยังหาเหตุผลที่ดีในการใช้งานมันไม่ได้เลย
ถ้าผมต้องไปในที่ธุรกันดาร พื้นที่ห่างไกล ไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือไปดวงจันทร์ ผมอาจจะอยากพกกล้องตัวนี้ไปด้วย แต่ถ้าในพื้นที่ที่เราใช้ชีวิตประจำวันได้ มีมือถือ มีอินเทอเน็ตให้ใช้ ผมจะใช้กล้องตัวนี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ยังนึกไม่ออก การลองเล่นก็ได้คำตอบแล้วว่า กล้องใช้งานได้ ผมซื้อ ilford camera ตัวนี้จาก amazon ซื้อไว้ 5 ตัว ก็ไม่เข้าใจว่าจะซื้อเยอะๆไว้ทำไม อาจจะกลัวว่าถ้าวันนึงเกิดอยากเล่นซ้ำอีกครั้งแล้วจะไม่มีให้เล่นก็เป็นได้
การสแกนภาพจากฟิล์มขาวดำด้วยเครื่องอัดภาพ
ภาพขาวดำจากฟิล์มมีความคลาสิคในบางอย่าง ทำให้ยังคงมีนักเล่นนักถ่ายภาพบางส่วนยังคงอยู่กับฟิล์มขาวดำ น้ำยาเคมี แท้งค์ล้างฟิล์ม และเครื่องอัดภาพ กว่าจะได้ภาพบนกระดาษอัดภาพก็ใช้ขั้นตอนมหาศาล ทั้งยังต้องใช้ความปราณีตผิดมนุษย์อีกต่างหากถึงจะมีภาพขาวดำดีๆบนกระดาษให้เราได้ดูกัน
แต่ด้วยความใจร้อนและขี้เกียจปนๆกัน ผมก็เลยลองลัดขั้นตอนบางอย่าง คือ ยังคงถ่ายภาพและล้างฟิล์มด้วยวิธีปกติ แต่ในขั้นตอนการทำภาพออกมาดู ผมใช้วิธีขยายภาพฟิล์มด้วยเครื่องอัดภาพขาวดำ ให้ฉายลงพื้นสีขาวหรือกระดาษขาวไปเลย แทนที่จะเป็นกระดาษอัดภาพ เพราะผมไม่อยากเตรียมน้ำยาเคมีทั้งถาดเพื่ออัดภาพแค่ภาพเดียว เลยขยายภาพจากฟิล์มด้วยเครื่องอัดให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เครื่องจะทำได้ พอเห็นภาพฉายแสงแล้ว ก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพที่ปรากฏนั้นเลย
ผมใช้โทรศัพท์ huawei p9 ตั้งค่าให้ถ่ายภาพในโหมดขาวดำ แล้วก็ถ่ายภาพในห้องมืด ก็จะได้ภาพในมือถือเป็นภาพกลับสีกัน เพราะฟิล์มเป็นฟิล์มเน็กกาทีฟนั่นเอง เมื่อได้ภาพมาแล้วก็เอามาคร็อปภาพให้ได้ขอบเขตที่ต้องการ ตัดส่วนนอกโดยรอบออก
เราก็จะได้กลับสีที่ใหญ่ขึ้น กรอบภาพและตัวภาพก็อยู่ในระยะที่เหมาะสม ขั้นตอนการคร็อปภาพนี้ใช้มือถือสั่งทำได้โดยตรง พอได้ภาพที่คร็อปมาแล้ว ก็มาทำการเปลี่ยนสีด้วย app ที่ชื่อ negative image หาโหลดได้ใน play store ของ android เป็นของฟรี มีโฆษณานิดหน่อย แต่ก็ทนใช้งานได้
เมื่อกลับสีแล้วเราก็จะได้ภาพโทนสีปกติ ผมคนเป็นสีดำ ผมปรับสีของขาวดำด้วย app ที่ชื่อ vsco ซึ่งมีความสามารถในการเปลี่ยนสีได้หลายรูปแบบ ซึ่งผมใช้เปลี่ยนสีขาวดำ มีการปรับ ความสว่าง คอนทราสต์ และรายละเอียดในเงามืดให้สว่างขึ้นนิดหน่อย ก็ได้ภาพตามที่เห็นภาพสุดท้ายนี้
การใช้มือถือถ่ายภาพจากเครื่องอัดขยายเป็นเทคนิคของคนขี้เกียจ ผมแค่อยากจะเห็นภาพในมือถือ แค่อยากจะมีภาพไว้ส่งให้คนอื่นดู ยังไม่ได้อยากจะอัดเป็นกระดาษจริงๆ ก็เลยใช้วิธีนี้
การสแกนภาพจากฟิล์มขาวดำอย่างง่าย
คนที่ยังคงถ่ายภาพขาวดำด้วยฟิล์ม นิยมล้างฟิล์ม และชอบงานห้องมืด บางทีการได้ถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดำสักม้วนเราก็อยากจะดูบางภาพเร็วๆ อยากจะแชร์ภาพให้เพื่อนดู ก็จะมีวิธีการง่ายๆเร็วๆในการเอาภาพลงจอ ดังนี้
เมื่อล้างฟิล์มจบแล้ว เราจะได้ฟิล์มขาวดำดังภาพ ให้เราใช้มือถือถ่ายภาพฟิล์มโดยให้ด้านหลังของฟิล์มเป็นส่วนสีขาวเรียบๆ ซึ่งผมเลือกใช้ท้องฟ้า บางคนอาจจะใช้ผนังบ้านก็ได้ เราจะได้ภาพฟิล์มขาวดำมาอยู่ในโทรศัพท์
ให้จัดการคร็อปภาพให้เรียบร้อย และหมุนภาพให้ได้ฉากแบบที่เราชอบ ซึ่งผมชอบภาพที่วางไม่ตรงเป๊ะ มันดูดิบและเป็นธรรมชาติของงานแฮนด์เมดดี
จากนั้นให้เรากลับสีด้วยคำสั่ง invert ซึ่งหากทำในคอมพิวเตอร์ ก็ต้องอาศัย photoshop ทำ แต่หากทำในมือถือ ก็ต้องหา app มากลับสี ผมใช้ app ชื่อ negative image ใน android มาทำให้ เราก็จะได้ภาพจากฟิล์มขาวดำเน็กกาทีฟกลับมาเป็นภาพขาวดำแบบปกติ แต่ภาพจะยังไม่ดำ เพราะกล้องที่ใช้ถ่ายภาพมักจะถ่ายเป็นภาพสี ไม่ได้ถ่ายเป็นขาวดำตั้งแต่ต้น
เมื่อได้ภาพคร็อปที่สีปกติเกือบตรงแล้ว ก็ให้ทำการปรับสีของภาพให้เป็นขาวดำ และปรับส่วนเข้มให้ดูดำสมจริง ขั้นตอนนี้ในคอมพิวเตอร์ก็คือใช้ photoshop แต่ถ้าในมือถือ ผมใช้ app ชื่อ snapseed ปรับสีให้ ซึ่งเราก็จะได้ภาพขาวดำที่ถูกใจในที่สุด
ภาพที่ได้จากการลองเล่นครั้งนี้ เอาภาพแต่ละขั้นตอนมาเรียงด้วยโปรแกรมต่อภาพที่ชื่อ picture collage ก็จะได้ภาพเล็ก3 ภาพต่อกัน ดูสวยไปอีกแบบ
ภาพขาวดำดิจิทัล
กล้องดิจิทัลออกมาโกยตลาดอยู่เกือบยี่สิบปี ในสิบปีล่าสุดนี้ทำให้กล้องฟิล์มสูญพันธ์ุไปในที่สุด ด้วยเหตุผลว่า กล้องดิจิทัลไม่เปลือง ไม่มีค่าใช้จ่ายในการถ่ายรูปอีกเลย ไม่ต้องซื้อฟิล์ม ไม่ต้องล้าง ไม่ต้องรอ คนทั้งโลกก็ยินดีต้อนรับและใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์
ในการถ่ายรูป จะมีงานภาพขาวดำที่เป็นยาขมของระบบดิจิทัล เพราะสีขาวดำของดิจิทัลมักจะไม่ให้โทนสีที่เข้มสวยสะใจเหมือนกับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มแล้วอัดลงกระดาษ ซอร์ฟแวร์ที่ช่วยแปลงภาพสีให้เป็นขาวดำก็ทำงานได้ไม่โดนใจ ต้องใช้ความสามารถของคนแปลงสีอยู่เยอะ แม้แต่การแปลงสีเป็นขาวดำในกล้องก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นยาขมของช่างภาพขาวดำที่ใช้กล้องดิจิทัลถ่ายยังไงก็ขาวดำไม่สวยถูกใจเหมือนฟิล์ม
ซอร์ฟแวร์ช่วยแปลงภาพสีให้เป็นขาวดำบางตัว มีฟิลเตอร์ขาย เป็นโหมดการแปลงขาวดำที่ดูดี ค่าฟิลเตอร์แพงกว่าซอร์ฟแวร์ เพราะซอร์ฟแวร์บางตัวฟรี บางตัวเสียตังนิดหน่อย บางตัวเสียตังแพง แต่ฟิลเตอร์สีขาวดำเท่ห์ๆนั้นมีราคาค่าตัวด้วย คนที่อยากได้ขาวดำระดับโปร ดูเหมือนมืออาชีพก็มักจะต้องซื้อฟิลเตอร์ยอดนิยมเหล่านั้น
ผมก็ใช้กล้องดิจิทัลมาหลายปี และก็ไม่ได้ซื้อซอร์ฟแวร์แปลงขาวดำสักที เพราะอาศัยตัวแปลงอื่นๆที่เราพยายามมากหน่อย ใช้เวลามากหน่อยก็ได้ภาพที่เราพอใจ แต่มันก็ลำบากและใช้เวลาพอสมควร และด้วยความบังเอิญที่ได้เปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ Huawei รุ่น P9 ที่มีโหมดการถ่ายขาวดำที่ดูดี มีการแปลงสีที่ใช้ได้ อาจเป็นเพราะว่าเป็นมือถือที่ใช้ระบบกล้องจากไลก้า ใช้ซอร์ฟแวร์ของไลก้า ซึ่งไลก้ามีชื่อเสียงกับวงการถ่ายภาพมานานเกือบร้อยปี และโทนสี โทนขาวดำที่ไลก้านำเสนอก็เป็นแนวทางสีที่มือโปรชอบกัน มือถือ P9 ก็เลยเป็นมือถือที่ถ่ายขาวดำได้สวย และมีการแปลงสีที่สวยนั่นเอง ไม่ใช่แค่รุ่นP9เท่านั้น แต่รุ่นอื่นที่พ่วงสัญลักษณ์ไลก้าลงไปบนตัวมันก็ต่างใช้ซอร์ฟแวร์ที่ให้สีสันแบบไลก้าจริงๆ การถ่ายภาพขาวดำด้วยมือถือ huawei หรือ การปรับสีให้เป็นขาวดำด้วย app ติดเครื่องมากับมือถือเหล่านี้ก็เลยให้ภาพที่ถูกใจคนชอบขาวดำ
หลายภาพที่ถ่ายแล้วถูกใจในองค์ประกอบผมจะทดลองแปลงเป็นขาวดำด้วยมือถือ huawei P9 เช่นกัน แม้แต่ภาพที่ถ่ายจาก DSLR ก็ยังต้องเอามาลอง เพราะถูกใจสีขาวดำของ Huawei นั่นเอง
ขอบฟ้าโตขึ้นเยอะเลย
ภาพของขอบฟ้าที่บันทึกเอาไว้ได้ในช่วงเวลาต่างกัน ภาพทางซ้ายคือช่วงเวลาประมาณปลายปี 2013 ซึ่งเป็นการถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดำและได้สแกนเก็บไว้เป็นไฟล์ ส่วนทางซ้ายก็ถ่ายในช่วงเวลาเดือนเมษายน 2558 เป็นระยะเวลาที่ห่างกันประมาณ 17 เดือน
ภาพต้นฉบับของทั้งคู่คือภาพต่อไปนี้

ภาพขาวดำจากกล้อง nikon fm2n เลนส์ 50f1.8 ฟิล์ม lucky200 ล้างด้วย d76 สแกนด้วยเครื่องสแกนฟิล์ม jumbl ราคา 99ดอลล่าร์จาก amazon
ภาพแม่และเด็กที่ผมชอบ
ภาพแม่และเด็กในรูปแบบที่ผมชอบจะเป็นลักษณะแบบภาพนี้เลย เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความตั้งใจที่จะเอาใจใส่ต่อชีวิตน้อยๆหนึ่งชีวิต การเป็นแม่ที่ดีต้องใช้ความพยายามและความอดทนมหาศาล ในช่วงแรกของเด็กยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เด็กจะอยู่รอดก็เพราะแม่คนเดียวเท่านั้น พ่อที่ยืนถ่ายรูปอยู่ด้านข้างเป็นแค่คนที่คอยช่วยหยิบจับสิ่งของบางอย่าง เป็นเพียงคนบันทึกภาพ เป็นพยานว่าแม่รักลูกแค่ไหน
สแกนภาพขาวดำ
ภาพขาวดำที่ถ่ายด้วยฟิล์มถ้าเราไม่อัดภาพลงบนกระดาษ เราก็ต้องสแกนเป็นไฟล์ดิจิทัลเพื่อดูในจอภาพ การสแกนก็ทำได้ด้วยสแกนเนอร์รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาให้สแกนฟิล์มได้ หลายปีก่อนในยุคฟิล์มรุ่งเรือง สแกนเนอร์คุณภาพพอใช้ได้ที่พอจะสแกนฟิล์มได้ก็จะมีราคาหลักหมื่นบาท
ในยุคนี้ที่กล้องดิจิทัลราคาถูกลงอย่างมาก เราก็มีวิธีใช้กล้องดิจิทัลแทนสแกนเนอร์ โดยการ เอาฟิล์มไปวางบนกล่องไฟ แล้วก็ถ่ายภาพจากฟิล์มเลย แล้วก็เอาไฟล์ดิจิทัลที่ได้ไปประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เอาไปกลับสีเป็นจากเน็กกาทีฟเป็นโพสิทีฟ
คราวนี้เราก็มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นโดยใช้กล้องดิจิทัลที่มีโหมดปรับภาพแบบเน็กกาทีฟในตัว ผลก็คือเราจะได้ภาพขาวดำโทนสีปกติทันทีที่ถ่ายภาพเสร็จเลย สะดวกอย่างยิ่ง แถมกล่องไฟที่ใช้ก็ยังสามารถอาศัยอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆพกติดตัวเคลื่อนย้ายง่ายได้อีกด้วย เราจะมาดูวิธีการกัน
อุปกรณ์ที่ใช้
ฟิล์มขาวดำกับกล่องไฟสำหรับดูสไลด์ กล่องไฟรุ่นนี้เป็นกล่องไฟใส่ถ่านไฟฉาย 2 ก้อน ขนาดหน้าจอแสงสว่างจะใหญ่ประมาณ 6x6cm เป็นกล่องไฟพกพาสำหรับการดูฟิล์มสไลด์ขนาด 120 หรือ 6x6cm นั่นเอง เราเอามาใช้ให้แสงสว่างกับแผ่นฟิล์ม
ถ้าเราถ่ายภาพด้วยโหมดสีปกติของกล้องดิจิทัล เราก็จะได้ภาพออกมาเป็นสีโทนน้ำตาล ที่ไม่เป็นสีโทนเทาเพราะหลอดไฟไม่ได้ให้สีขาวจริงๆ แต่ให้สีเป็นสีชา ภาพที่เราได้ก็จะเป็นสีที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า
จากนั้นเราก็ปรับโหมดการถ่ายภาพของกล้องดิจิทัลให้เป็นสีแบบ เน็กกาทีฟ ซึ่งกล้องบางตัวจะทำได้ บางตัวทำไม่ได้ ตัวที่ทำได้เราก็จะได้ภาพกลับสีทันที ซึ่งจะได้สีเป็นสีปกติของงานขาวดำ
แล้วเราก็เอาภาพที่ได้ไปปรับแต่งคอนทราส หมุนภาพ คร๊อปภาพได้ตามใจ อย่างในภาพสุดท้ายนี้คือเอาไปผ่านโปรแกรม snapseed ซึ่งเป็นโปรแกรมแต่งภาพที่อยู่ในสมาร์ดโฟน สามารถหาโหลดมาลงได้ไม่มีค่าใช้จ่าย
ส่วนภาพบนสุดที่มีขอบภาพหน้าตาประหลาดนั้นเป็นการเอาภาพที่ปรับเสร็จแล้วไปผ่านโปรแกรมของ polaroid ซึ่งหาโหลดได้ฟรีเช่นกัน ขอบภาพที่เห็นเป็นเส้นกากบาทนั่นคือขอบภาพเลียนแบบภาพ polaroid จากกล้อง SX-70 ในอดีต












































