ขอบฟ้าเริ่มสนใจดวงดาว

ขอบฟ้าเริ่มสนใจดวงดาว น่าจะเป็นเพราะพ่อเริ่มอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์เก่งๆให้ฟังแทนนิทานก่อนนอน มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ขอบฟ้าชอบ และมักจะถามพ่อว่า พ่อชอบคนไหนมากที่สุด ให้เรียงลำดับจากมากไปน้อย พร้อมให้บอกเหตุผลด้วยว่าชอบเพราะอะไร ซึ่งพ่อก็เล่าและชอบกาลิเลโอที่สุด ขอบฟ้าเลยชอบกาลิเลโอด้วย

IMG_20180101_215323_619

 

ขอบฟ้าชอบกาลิเลโอมากเป็นพิเศษ แต่งตัวแฟนซีไปโรงเรียนก็ขอเป็นกาลิเลโอ พ่อก็เลยหากล้องดูดาวมาให้เล่น และซื้อกล้องส่องทางไกลให้เป็นของขวัญคริสมาสต์ แล้วก็เริ่มดูดาว เริ่มส่องดูดวงจันทร์ด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงนี้ขอบฟ้าก็ชอบดูดาวมาเรื่อยๆ และเริ่มสนใจอวกาศ ดวงดาว แกแล็คซี่

IMG_20180108_202259

 

youtube เป็นแหล่งความรู้และความบันเทิงของขอบฟ้า นอกจากหนังต่อสู้ ไดโนเสาร์ ปลาวาฬ ก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวเพิ่มเติมเข้ามา สารคดีอวกาศและดวงดาวเป็นสิ่งทีทำให้ขอบฟ้าเพลิดเพลินได้ ขอบฟ้าชอบดาวเสาร์เป็นพิเศษ และมีการวาดรูปดาวเสาร์และดาวพฤหัสบ่อยมาก

https://flic.kr/p/22jbnqF

 

IMG_0050

การเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในช่วงเวลานี้เป็นการเที่ยวที่สนุกมาก เพราะขอบฟ้ารู้เรื่องมากขึ้น ถามหาเหตุผลของสิ่งที่ไปดู และไปได้แผนที่ดวงดาวกลับมาด้วย ทำให้การดูดาวจริงจังมากยิ่งขึ้น ดวงดาวทุกดวงในสุริยะจักรวาลขอบฟ้าจำได้ทั้งหมด ดาวฤกษ์ที่สำคัญและมีตัวตนบนแผนที่ก็จะจำได้หลายดวง การดูดาวที่ท้องฟ้าจำลองก็กลายเป็นเรื่องสนุกเพราะเริ่มฟังเข้าใจ ขอบฟ้าจำตำแหน่งดวงดาวได้ มองแผนที่ดวงดาวและหาดาวที่ต้องการจนเจอ

IMG_0045

 

สิ่งที่พ่อกลัวก็คือ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปขึ้นยานอวกาศ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปดูที่ปล่อยจรวด แล้วขอบฟ้าก็ขอจริงๆด้วย

ตกน้ำตอนไปภาคสนาม

24294089_1919920724927843_5675824787670542833_n

ขอบฟ้า ไปเที่ยวภาคสนามกับที่โรงเรียนในวันจันทร์ที่ 4 ธค 2560 ที่ three little pigs farm โดยวันอาทิตย์ก่อนหน้าวันเดินทาง ขอบฟ้าบอกกับแม่ว่า ไม่อยากไป  ดูแล้วไม่สนุก  และบอกว่าที่นี่น้ำเยอะ ขอบฟ้ากลัวตกน้ำ

 
เช้าวันจันทร์ขอบฟ้ายังงอแง ร้องไห้ไม่อยากไป  พ่อกับแม่ก็ช่วยกันกล่อม ช่วยกันพูดเพื่อให้ขอบฟ้าร่วมเดินทางไปกับเพื่อนๆ  เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ขอบฟ้าปฏิเสธกิจกรรมที่ทำกับเพื่อนและโรงเรียน  กว่าจะได้ออกจากบ้านก็ยากกว่าวันปกติ  จนแม่ต้องโทรหาครูว่าให้ช่วยดูเป็นพิเศษหน่อย  พ่อไปส่งขอบฟ้าที่หน้าโรงเรียนเช่นเดิม  ขอบฟ้าไม่ยอมเข้า ครูตูนที่คุยกับแม่มาแล้วก็เลยมาพาเข้าไป ขอบฟ้าเลยยอมเข้าห้องเรียนไปเตรียมตัวเดินทาง
 
ตอนกลางวันครูแจ้งว่าขอบฟ้าตกน้ำ แต่ไม่เป็นอะไร และอาบน้ำล้างตัวเรียบร้อยแล้ว พ่อแม่ตกใจมาก  และไปหาที่ฟาร์มทันที  พอได้ดูสถานที่จริง และได้พูดคุยกับขอบฟ้า ขอบฟ้าบอกว่าตกใจ  แต่ก็พยายามไม่ร้องไห้  ขอบฟ้าขออยู่เล่นกับเพื่อนจนจบทริป และให้แม่ไปรับขอบฟ้าที่โรงเรียน
 
 
 
ตอนนั่งรถแม่กลับบ้าน ขอบฟ้าคุยกับแม่ในรถ  แอมเบอร์ รอยบอกแล้วว่าที่นี่น้ำเยอะ รอยอาจตกน้ำได้  ทีหลังให้เชื่อที่รอยบอกนะ  แม่มาเล่าให้พ่อฟังอีกรอบว่าขอบฟ้าบอกว่าอะไร  พ่อกับแม่พูดไม่ออก  เป็นสิ่งที่พ่อกับแม่เพิ่งจะได้เรียนรู้
 

 
อีกสองวันหลังจากหยุดวันพ่อแล้ว ก่อนไปโรงเรียน แม่กับขอบฟ้าคุยกันว่า  วันนี้โรงเรียนจะพาขอบฟ้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ขอบฟ้าไม่ต้องตกใจนะ  ขอบฟ้าบอก ไม่ตกใจ  และพ่อกับแม่ได้ถามอีกครั้งว่า ขอบฟ้าจำได้ไหมว่าขอบฟ้าตกน้ำได้ยังไง  ขอบฟ้าบอกว่า ขอบฟ้าลื่น  พื้นเปียก  ขอบฟ้ารีบเดิน เลยลื่นตกน้ำ ครูมาช่วยไม่ทัน  ขอบฟ้าบอกว่า ครูทำดีที่สุดแล้ว

หัดวาดรูป 100 ครั้ง

2017-09-11_12-56-21

 

ผมสอนลูกว่า จะทำอะไร ถ้าทำบ่อยๆ หัดทำซ้ำๆ จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ  ในหลายๆกิจกรรมที่ขอบฟ้าชอบทำ ผมพยายามสอนเรื่องความพยายาม  ผลลัพธ์แม้ไม่ดี แต่มันทำให้เราก้าวเข้าใกล้จุดที่ดี  ในวันที่ขอบฟ้าชอบรถซุปเปอร์คาร์และเริ่มอยากวาดรูปซุปเปอร์คาร์ให้สวย ผมก็สอนว่า ถ้าขอบฟ้าวาดครบ 100 ครั้ง จะวาดได้สวยมาก  ขอบฟ้าถามว่า แล้วถ้า 99 ครั้งล่ะ จะเป็นยังไง ผมตอบว่า ก็เกือบสวย   ขอบฟ้าถามใหม่ว่า แล้วถ้า 50 ครั้งล่ะ  ผมก็ตอบว่า ก็ไปครึ่งทางแล้ว ยังไงก็ต้องสวยกว่าการวาดรอบแรกแน่นอน

ขอบฟ้าอยากวาดรูปสวย และวันนี้ ขอบฟ้าพยายามวาดไปห้าครั้ง  ผมก็เลยให้ขอบฟ้าเขียนเลขกำกับไว้ที่ภาพด้วยว่า เป็นการวาดครั้งที่เท่าไหร่  ผมแอบลุ้นในใจว่า ขอให้ขอบฟ้าพยายามให้ครบ 100 ครั้งให้ได้  จะได้เป็นบทพิสูจน์ว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

 

IMG_5598

 

IMG_5599

 

IMG_5600

 

IMG_5601

 

IMG_5602

 

IMG_5606

 

IMG_5607

 

IMG_5608

 

IMG_5609

 

 

IMG_5610

 

ครบ10ครั้งแล้ว

 

IMG_5611

 

IMG_20170915_202133

 

IMG_20170915_202051

 

 

ความชอบในเรื่องรถซุปเปอร์คาร์มีผลทำให้แม้แต่การวาดรูปในชั่วโมงเรียนขอบฟ้าก็ยังวาดโชว์รูมรถยนต์  และผลงานที่ทำเองที่โรงเรียนก็มีรายละเอียดที่ครบถ้วน  แม้ว่าสัดส่วนภาพจะเพี้ยนไปบ้าง แต่รายละเอียดที่ควรจะมีเพื่อชี้บ่งว่าภาพนี้คือรถรุ่นอะไร ขอบฟ้าก็จดจำและพยายามวาดออกมาให้ได้มากที่สุด

 

IMG_20170915_203103

 

IMG_5739

ถ่ายรูปลูกที่เก่าเวลาเปลี่ยน

การถ่ายภาพสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะรูปลูกที่เราถ่ายภาพกันแทบจะทุกโอกาส หากมีโอกาสได้ถ่ายในสถานที่แห่งเดิม  เราก็น่าจะเล่นสนุกกันด้วยการถ่ายภาพย้อนร้อย ตามคอนเส็บ “ที่เก่าเวลาเปลี่ยน” เพื่อให้เห็นพัฒนาการการเติบโต  ซึ่งภาพแนวนี้จะน่าดูอย่างมาก เพราะได้เห็นความน่ารักของเด็กและเห็นการเติบโตจริงๆ  และวัยเด็กเป็นวัยที่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายรวดเร็วมาก เวลาเพียง1 ปี จะมีความแตกต่างของร่างกายชัดเจน  ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่ยังคงดูเหมือนเดิมแม้จะเวลาผ่านไปหลายปี

 

PHOTO_COLLAGE1504571611089

ภาพแรกนี้ถ่ายที่อารีย์การ์เด้น  เป็นพื้นที่กลางเมืองแห่งหนึ่งที่นานๆจะแวะไปสักที  การแวะไปก็พกกล้องถ่ายรูปไปเดินเล่นด้วย ภาพทางซ้ายมือถ่ายเมื่อตอนขอบฟ้าอายุ 1 ขวบ ถ่ายด้วยกล้อง canon eos 6d เลนส์ 24-105f4 ช่วงซูมประมาณ 50mm ถ่ายด้วย f4   ภาพขวามือก็ถ่ายด้วยกล้องและเลนส์ตัวเดิม อาศัยว่าพอจำได้ว่าใช้อุปกรณ์ตัวไหนก็หยิบตัวเดิมออกมาถ่าย ปรับรูรับแสงเป็นค่าเดิม แล้วถ่ายภาพในมุมเดิม แต่ให้ยืนขยับไปทางขวาอีกเล็กน้อย เพื่อให้เอาภาพใหม่ไปต่อกับภาพเก่าเหมือนเป็นภาพเดียวกัน  ภาพขวาถ่ายตอนขอบฟ้าอายุ 5ปี 1 เดือน

 

 

pic20150407002758

 

ภาพหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ขอบฟ้าทางซ้ายถ่ายไว้เมื่อประมาณอายุ 1ปี 5 เดือน  ส่วนภาพทางขวาประมาณ 2 ปี 9 เดือน   ภาพขาวดำจำได้ว่าเป็นการลองถ่ายด้วยฟิล์มขาวดำ ใช้กล้อง nikon fm2n ใช้เลนส์ 50มม ปรับรูรับแสงกว้างสุดที่ f1.8  ในภาพจะใส่เสื้อกันหนาวด้วยทำให้จำได้ว่าเป็นช่วงอากาศเย็นเป็นช่วงเดือนธันวาคม ส่วนภาพขวา ถ่ายตอนเดือนเมษายน2558 ที่รู้วันเวลาก็เพราะภาพดิจิทัลมีข้อมูลการถ่ายเก็บไว้  ผมใช้กล้อง canon eos 6d เลนส์ 24-105f4 เลือกปรับซูมไปที่ประมาณ 50มม.เพื่อให้เท่าภาพซ้าย  แล้วเลือกระยะยืนให้วัตถุในภาพมีขนาดใกล้เคียงกัน แล้วบอกให้ขอบฟ้าไปยืนอีกด้านของหัวจ่ายน้ำ  เมื่อได้ภาพมาแล้วก็มาต่อกันโดยปรับให้หัวจ่ายน้ำมีขนาดใกล้เคียงกันและวางต่อกันเหมือนเป็นภาพเดียวกัน  ก็เลยได้ภาพเปรียบเทียบน่าจดจำแบบนี้

 

1393125_10152871646439214_370674310464713509_n

ภาพเมื่อเดือน 11 ปี 2013  เทียบกับ เดือน 11 ปี 2014

 

10389181_10152869773699214_7024483808344103047_n

ภาพเมื่อเดือน 11 ปี 2013  เทียบกับ เดือน 11 ปี 2014

 

สิ่งที่ช่วยให้การถ่ายภาพ ที่เก่าเวลาเปลี่ยน ทำได้สะดวกคือการเก็บภาพไว้อย่างเป็นระเบียบ มีการจัดการภาพที่แม่นยำ สามารถเรียกหาภาพตามช่วงเวลาที่ต้องการออกมาได้ การจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบแบบนี้เป็นสิ่งที่ช่างภาพควรทำ  จะทำเองด้วยฮาร์ดดิสก์ในบ้านและตั้งชื่อโฟลเดอร์ให้หาง่าย หรือ ใช้ซอร์ฟแวร์การจัดการภาพช่วยเหลือก็แล้วแต่ความถนัด  ส่วนผมเลือกใช้วิธีเก็บภาพในระบบ cloud ของเว็บ flickr.com ซึ่งเป็นเว็บการเก็บภาพที่ดีที่สุดในโลก  ผมสามารถหาภาพในช่วงเวลาที่ต้องการได้รวดเร็วมาก  ลูกเล่นและความสะดวกเหล่านี้ควรหัดใช้ให้เป็นครับ  โดยเฉพาะคนที่มีภาพจำนวนมาก

 

 

 

test share picture from google photo

 

 

ช่วงวัยขวบกว่าๆเป็นช่วงที่ขอบฟ้าน่ารักสุดขีด หน้าตายังอ้วนๆอยู่ รอยยิ้มมีให้เห็นตลอดเวลา และรู้เรื่อง เรียกแล้วหัน และเดินต้วมเตี้ยมพร้อมจะล้มได้ตลอดเวลา  เป็นช่วงเวลาที่มีรอยยิ้มหวานเรียกคะแนนกรรมการเหลือเกิน

 

การกินข้าวก็ยังคงต้องป้อนและกินอาหารเหลวๆ  แววซนมีเริ่มมีให้เห็น  แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ว่านอนสอนง่าย แต่ก็ไม่สามารถละสายตาไปได้  เพราะวัยนี้เป็นวัยที่หยิบจับทุกสิ่งอย่างเข้าปากได้ง่ายๆนั่นเอง

 

 

เที่ยวสิงคโปร์ ตอนที่ 2 ไปสวนสัตว์

เราตื่นเช้าวันใหม่ หลังจากกินมื้อเช้าที่โรงแรมแล้วก็เดินทางมาที่สวนสัตว์ ซึ่งอยู่ไกลจากที่พักเหลือเกิน  การเดินทางที่เคยตั้งใจว่าจะนั่งรถเมล์ก็เปลี่ยนเป็นแท็กซี่แทน เพราะการพาลูกไปขึ้นรถเมล์ดูจะเป็นการลำบากเกินไป  เนื่องจากจำนวนคนที่รอที่ป้ายรถเมล์ และสภาพบนรถเมล์ไม่น่าเข้าไปเบียดสักเท่าไหร่ ยิ่งมีรถเข็นเด็กด้วยแล้วยิ่งดูลำบาก เราก็เลยเดินทางด้วยแท็กซี่ และก็โดนค่าแท็กซี่ไปพันกว่าบาท

IMG_2199.JPG

สวนสัตว์ที่สิงคโปร์ได้รับการจัดอันดับว่าดูแลสัตว์ได้ดีระดับต้นๆของโลก  การจัดการภายในสวนสัตว์มีระเบียบเรียบร้อย ดูปลอดภัยและน่าเที่ยว  การจัดเส้นทางต่างๆก็มีส่วนที่เดินสบาย แม้ว่าอากาศจะร้อนไปหน่อย แต่ความร่มรื่น ต้นไม้เยอะก็ช่วยให้เราทนไหว  เสือขาวอยู่ในพื้นที่ของมัน จุดยืนดูของคนจะถูกจัดสรรเอาไว้ค่อนข้างปลอดภัย มีคูน้ำขนาดกว้างกันเอาไว้ระหว่างพื้นที่เสือกับพื้นที่คน  ให้ความมั่นใจว่าเสือคงไม่กระโดดข้ามมาหรือว่ายน้ำข้ามมา

IMG_2209.JPG

สัตว์บางตัวเราก็เพิ่งเคยเห็นจากที่นี่  แม้ว่าเมืองไทยจะมีเขาดิน มีซาฟารีเวิลด์  มีสวนสัตว์เขาเขียว แต่สัตว์ของสวนสัตว์สิงคโปร์ก็มีความแตกต่างไปจากในเมืองไทยพอสมควร  วูฟเวอรีนที่เป็นตัวละครในหนัง x-men มันเป็นสัตว์หน้าตาแบบนี้เองผมก็เพิ่งจะเคยเห็น  ถ่ายรูปมาได้เพียงป้ายบอก เพราะตัวจริงในสวนสัตว์ดูขี้อายไม่ค่อยอยากโชว์ตัว

IMG_2216.JPG

เราเดินเที่ยว แวะดูตามจุดแสดงสารพัดชนิดสัตว์  แวะกินข้าว บ้างก็นั่งรถบัสอำนวยความสะดวกอย่างสนุกสนาน  การกินข้าวในสวนสัตว์ก็ไม่ได้ยากเย็นมาก  ถ้าเรามากินก่อนเวลาเที่ยง เราก็พอจะมีพื้นที่นั่งสบายๆ  แต่ถึงจังหวะเที่ยงที่ทุกคนกินข้าว เราก็ไม่ได้เบียดเสียดหรือต้องต่อสู้กับผู้คนล้นหลาม  เพราะการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ไม่ได้มีอาการแย่งกันเที่ยว แย่งกันกิน แย่งกันใช้  อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา และอาจจะเพราะสวนสัตว์สิงคโปร์ไม่ได้โด่งดังเป็นเป็นจุดต้องแวะให้ได้

IMG_2227.JPG

ขอบฟ้าลูกชายแสนซน มาเที่ยวสวนสัตว์แต่ก็ตาไวเห็นเครื่องเล่นที่ดูเหมือนสวนสนุก ก็ขอเล่น และก็ติดอกติดใจซะเหลือเกิน  เป็นการเดินเที่ยวสวนสัตว์ที่คุ้มค่าที่สุดของขอบฟ้า  เพราะไปสวนสัตว์อื่นๆที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอเครื่องเล่นแนวนี้เลย

IMG_2238.JPG

พอได้เวลาบ่ายแก่ๆ ขอบฟ้าเริ่มเหนื่อยและหลับไปในที่สุด การเดินทางกลับที่พักก็เลยต้องใช้แท็กซี่เช่นเคย  แท็กซี่ที่นี่เป็นรถใหม่ๆสวยๆ มีรถหลากหลายให้เราเลือก บางคันก็อัตราปกติ บางคันก็มีอัตราค่าบริการที่สูงขึ้นด้วยเงื่อนไขบางอย่าง  รถหน้าตาแพงก็จะมีค่าโดยสารที่สูงกว่ารถหน้าตาถูก  ผมก็ไม่รู้ว่าเขามีวิธีคิดยังไง  เรายืนรอคิวอยู่เห็นรถหน้าตาถูกผ่านไปหลายคัน จนถึงคิวของเรา เราโดนรถแพงเข้าจนได้

IMG_2245.JPG

เราก็ได้นั่งอัลพาธก็คราวนี้เอง  สิ่งที่เหมือนกันในแท็กซี่สิงคโปร์ก็คือ คนขับไม่มียูนิฟอร์ม  แต่งตัวเหมือนเรานั่นเอง  และมีอุปกรณ์สื่อสารเต็มไปหมด  มีโทรศัพท์กันคนละสามเครื่องเป็นอย่างน้อย  คือ 1 เครื่องติดตัวเอาไว้คุย อีกสองเครื่องติดไว้ที่กระจกรถเอาไว้เปิด app เรียกแท็กซี่  มีโทรศัพท์มือถือโบราณด้วยที่ผมไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไร มีเครื่องอ่านบัตรเครดิต  มีกล้องหน้า กล้องหลัง ทุกอุปกรณ์ใช้ที่ชาร์จเสียบไว้  ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าช่องเสียบไฟในรถเขาจะมีกี่ช่อง

IMG_2248.JPG

ตอนเย็นเราก็กลับมาที่พักของเราด้วยความเหนื่อยอ่อน แวะมาเดินตลาดฝั่งตรงข้ามที่พัก หาของกิน และร้านข้าวที่ชื่อ นคร หรือ nakhon ดูป้ายดูชื่อก็รู้ว่าเป็นร้านอาหารไทย มีคนต่อคิวรอกินจำนวนมาก  เราเป็นคนไทยก็ขอผ่านไม่แวะดีกว่า  เพราะเราอยากมาสัมผัสสิงคโปร์ อยากกินอาหารสิงคโปร์ทุกมื้อมากกว่า  แต่ภาพที่เห็นก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า อาหารไทยเป็นสิ่งที่ถูกปากคนทั่วโลกจริงๆ

ขอปิดตอนด้วยภาพแรกของวันนะครับ

IMG_2201.JPG

ย้อนดูตอนที่ 1 เที่ยวสิงคโปร์ เขามีทุกอย่างที่อยากมี

คิดถึงกล้องบางตัว

เวลาเดินผ่านตู้โชว์กล้องในห้าง ก็แอบชำเลือง แอบมอง ว่ามีอะไรลดราคา มีอะไรน่าใช้ มีอะไรน่าซื้อบ้าง  ปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยมองของใหม่ถ้าของเก่ายังไม่ได้มีปัญหาอะไร

เมื่อวานเห็นกล้องในตู้ที่ขาย  บางตัวก็ดูดีน่าสนใจ แต่ก็ติดตรงที่ว่า ผมมีกล้องหลายตัวแล้ว  และตัวที่น่าสนใจในตู้นั้นก็ไม่ได้มาทดแทน หรือ ทำอะไรได้ดีกว่าตัวที่มีอยู่ ก็เลยได้แต่มองแล้วผ่านไป  แต่ในใจกลับนึกถึงกล้องอยู่ตัวนึงที่เคยมีใช้และปัจจุบันก็ตกพัง  กลายเป็นของเสียอยู่ นั่นคือกล้อง nikon v1

นิสัยของช่างภาพที่ถ่ายรูปมานานจะติดอยู่กับการมองภาพผ่านช่องมองภาพ ซึ่งกล้องรุ่นใหม่ๆหลายๆตัวก็ตัดช่องนี้ออกไปแล้ว  กล้อง nikon v1 ก็เป็นรุ่นที่มีช่องมองภาพมาให้และใช้งานได้สนุกสมกับเป็นกล้องที่ออกแบบมาเพื่อนักถ่ายภาพรุ่นใหญ่  การจับถือและการเล็งผ่านช่องมองภาพให้อารมณ์และความใส่ใจต่อแบบมากกว่าการมองจอหลัง  ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ภาพจากกล้องสไตล์นี้จะได้องค์ประกอบภาพที่เป็นไปดังใจ  แม้ว่า nikon1 v1 จะมีเซ็นเซอร์รับภาพที่เล็ก มีผลทำให้ภาพหลังเบลอสู้พวกเซ็นเซอร์ใหญ่ไม่ได้  แต่ก็ไม่ได้แย่ระดับกล้องมือถือ หรือ ดิจิทัลถูกๆ  แถมเรายังสามารถใช้เลนส์เก่าๆของ nikon มาร่วมกับ v1 ทำให้ได้ภาพสวยได้ไม่ยาก

DSC_2901.JPG

nikon1 v1 + lens 50f1.8 ais mf

IMG_20180709_212554_402

ภาพเด็กคนนี้คือลูกชายที่ผมเล็งถ่ายในช่วงเวลาที่เขาอายุประมาณ 2 ขวบ  ความซนเป็นอุปสรรคกับการโฟกัสภาพอย่างมาก  แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความพยายาม  ความยากเหล่านี้จะเป็นตัวคัดแยกระหว่าง ช่างภาพความตั้งใจสูง กับ ช่างภาพขี้เกียจฝึกฝนออกจากกัน

 

auto whitebalance ของกล้องแต่ละตัวเก่งไม่เท่ากัน

กล้องดิจิทัลให้ความสะดวกในการบันทึกภาพอย่างมาก ใครๆต่างก็มีใช้กันคนละตัวสองตัว อย่างน้อยโทรศัพท์ของทุกคนก็ถ่ายภาพได้  และในกล้องดิจิทัลเหล่านี้จะมีความสามารถในการวัดแสงทั้งสิน  และ มีการจัดการสี มีการปรับค่า whitebalance แบบอัตโนมัติเพื่อให้สีสันของภาพสมจริง

เมื่อก่อน สมัยที่เรายังใช้ฟิล์มถ่ายภาพ การถ่ายภาพกลางวัน และการถ่ายภาพกลางคืนที่เน้นไฟถนนจะใช้ฟิล์มคนละชนิดกันเพื่อให้ภาพมีความเที่ยงตรงของสี  ภาพกลางวันเราจะใช้ฟิล์ม daylight  ภาพไฟถนนตอนกลางคืนจะใช้ฟิล์ม tungstain   หากเราเอาฟิล์มกลางวันไปถ่ายภาพกลางคืน ภาพที่ได้ของหลอดไฟทังสเตนทั้งหลายก็จะดูสีส้มเข้ม  ภาพพื้น ถนน ผู้คนภายใต้แสงไฟทังสเตนจะมีสีสันที่ไม่ถูกต้อง

กล้องดิจทัลแก้ปัญหานี้ด้วยการมีเมนูปรับตั้งค่า whitebalance หลายค่า เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ แต่ละสภาพแสง  ซึ่งน้อยคนนักจะปรับค่า whitebalance เปลี่ยนไปตามสภาพแสงจริงทุกๆค่าแสง  ผู้ผลิตเลยมีเมนู auto whitebalance เอาไว้ด้วย เพื่อให้กล้องเลือกค่านี้ให้อย่างอัตโนมัติ  และสีสันในภาพก็จะถูกต้องตามจริง

แต่ความสามารถของการทำ auto whitebalance ของกล้องดิจิทัลแต่ละตัวแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็มีความสามารถไม่เท่ากัน  ทำให้ภาพจากกล้องบางตัวสีเพี้ยนมากเกินยอมรับได้  ภาพต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างยืนยันว่า autowhitebalance ของกล้องแต่ละตัวเก่งไม่เท่ากันจริงๆ

IMG_4893

ภาพแรกนี้เป็นกล้อง canon eos m พร้อมเลนส์ 22f2 ปรับค่า white balance เป็น auto ซึ่งให้ภาพอมเหลืองมากเกินพอดี

 

IMG_20170228_202621

ภาพที่สองเป็นภาพที่ถ่ายด้วยมือถือ huawei P9 ความเที่ยงตรงของสีจะมีมากกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นความเก่งกาจของค่ายมือถือที่พัฒนากล้องให้มีความสามารถมากขึ้น และแม่นยำขึ้น

 

หากใครยังคงต้องใช้ auto whitebalance บนกล้องที่ให้สีภาพยังไม่ถูกต้อง เราสามารถใช้วิธี ตั้งค่าเป็น custom whitebalance ซึ่งวิธีการทำจะมีอยู่ในคู้มือกล้อง  ซึ่งจะทำให้ได้ภาพดังภาพที่สาม

IMG_4892

ภาพที่สาม ปรับกล้องให้ใช้วิธีตั้งค่า custom whitebalance

ขอบฟ้าเขียนหนังสือ ประโยคแรก

วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นวันที่ผมได้เห็นขอบฟ้าเขียนหนังสือเป็นประโยค  คือ “ขอบฟ้ารักแม่”  เป็นคำที่ขอบฟ้าขอให้แม่สอนให้เขียน  ทีแรกแม่ก็สอนคำว่า ขอบฟ้า ซึ่งขอบฟ้ารู้จักตัวหนังสือในชื่อตัวเองมาหลายเดือนแล้ว แต่การหัดเขียนเพิ่งจะเริ่มทำกันในเดือนธันวาคมก่อนจะขึ้นปีใหม่  และคำว่า รัก แม่ ก็ตามมา เป็นการสอนให้เขียนตามคำขอร้อง  แล้วทั้งหมดก็มาเขียนรวมกันเป็นประโยคในวันนี้  แม้ลายมือเด็กจะไม่สวย  แม้จะดูไม่เป็นระเบียบ  แต่การพยายามจนทำได้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง  เวลาที่เด็กเกิดความอยากรู้อะไรสักอย่าง การเรียนรู้ในสิ่งนั้นจะรวดเร็วมาก และมีความพยายามที่ต่อเนื่อง จริงจังอย่างอัตโนมัติ  ผลลัพธ์เลยเกิดเร็ว

IMG_20170101_204254

พอเขียนประโยคแรกได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ ขอบฟ้าอยากรู้จักตัวอักษรไทยทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง  และก็หัดเขียนมันทุกตัวอักษรเลย  พ่อกับแม่เลยเดือดร้อนต้องไปหา เพลงท่อง กไก่ ถึง ฮ นกฮูก มาท่องเอง และให้ลูกท่องด้วย  ความสนุกมันอยู่ที่  ลูกก็ฟังเพลง ซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็เขียนเองบ้าง อ่านเองบ้าง  สุดท้ัาย ให้แม่เขียนตามเพลง เพื่อดูว่าแม่เขียนทันไหม  ผ่านไปไม่กี่วัน นับจากวันที่เขียนประโยคแรก ของฟ้าก็ท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูกได้จนจบ

 

บันทึกให้ขอบฟ้า 31ตุลาคม2559

2016-10-30_09-57-10

ขอบฟ้าในช่วงเดือนนี้เป็นเดือนที่ขอบฟ้าได้ทำอะไรใหม่ๆหลายอย่าง  การถ่ายรูปด้วยกล้องตัวใหญ่ของพ่อก็ได้หัดถ่ายและได้ภาพที่พอใช้ได้  เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ขอบฟ้าเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้องได้อย่างครบถ้วน  แม้ว่าตัวเล็กและกำลังน้อยเกินไปสำหรับกล้องหนักๆของผู้ใหญ่ แต่ท่าทางการจับถือและการจัดให้สิ่งที่ต้องการถ่ายอยู่ในภาพอย่างครบถ้วนนั่นทำได้ไม่บกพร่อง  และขอบฟ้าก็ได้ถ่ายภาพให้คุณยาย กับ อาม่า ของขอบฟ้าแบบที่สามารถเอาไปใส่อัลบั้มภาพของครอบครัวได้

IMG_0877

IMG_0001

ขอบฟ้ายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การฝังกลบขยะ และการใช้น้ำจุลินทรีย์ดับกลิ่นด้วย  ขยะไขมันที่อยู่ในถังดักไขมันถูกนำมาตักทิ้งและจัดการฝังกลมในสนามหญ้า ขอบฟ้าเป็นคนตักดินมาปิดหลุมด้วยตัวเอง  กลิ่นเหม็นที่เล็ดลอดออกมาก็จัดการราดด้วยน้ำดับกลิ่นที่เตรียมไว้  พอขอบฟ้ารู้ว่าน้ำจุลินทรีย์ช่วยดับกลิ่นได้ ก็เดินหากลิ่นตามจุดทิ้งขยะแล้วราดน้ำลงไปดับกลิ่นทุกจุด

2016-10-30_04-12-48

พาลูกไปปีนหน้าผา

หลายเดือนก่อนขอบฟ้าได้มีโอกาสดูรายการทีวีชื่อ อเมริกันนินจา  เป็นการเล่นเกมส์โชว์ของฝรั่งที่ต้องให้คนวิ่งผ่านด่านต่างๆ ทั้งปีน เกาะ เรียกได้ว่าเป็นแนวแอดเวนเจอร์สุดขีด  คนที่เล่นผ่านได้ทั้งหมดจะต้องแข็งแรงมาก ขอบฟ้าสนุกกับการดูและมีอาการลุ้นไปกับคนเล่น  เล่นผ่านก็ดีใจตบมือ  ตั้งแต่เร่ิมดูรายการ ขอบฟ้าก็เร่ิมปีนเก้าอี้  กระโดดลงจากบันไดสองขั้น เก้าอี้ทุกตัวจะผ่านการกระโดดลงพื้นทั้งหมด

ด้วยความซนของเด็ก บวกกับพ่อแม่อยากเห็นรอยยิ้มสร้างฝันลูกให้เป็นจริงสักเรื่องนึง  เลยตัดสินใจพาไปปีนหน้าผาจำลองซะเลย  ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าขอบฟ้าชอบมากแค่ไหน และแม้จะกลัวในตอนที่ถูกดึงขึ้นไปสูงๆ แต่พอลงมาก็วิ่งขึ้นไปใหม่  คนอื่นที่แข็งแรงและตัวโตก็จะปีนกันเอง  ขอบฟ้าไม่ได้มีแรงขนาดนั้นก็อาศัยให้คนคุมช่วยดึงเชือกขึ้นไป  นับว่าเป็น 1 ชั่วโมงที่สนุกมากของขอบฟ้า

IMG_3535.JPG

IMG_3544.JPG

IMG_3542.JPG