ความสนุกของการถ่ายภาพ

การถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดำเป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกได้ดีสุดๆในบรรดาความบันเทิงจากการถ่ายภาพ ช่างภาพจำนวนมากมีความสุขจากการได้กดชัตเตอร์ บางคนมีความสุขจากการได้จับกล้อง ผมเองก็มีความสุขจากการได้บันทึกภาพที่เป็นจังหวะหายาก แม้ว่าดิจิทัลจะทำหน้าที่ได้ดี แต่การมีฟิล์มบันทึกก็เป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมากกว่า เพราะอะไรที่มันซับซ้อน ใช้ความสามารถ ใช้เวลา มันจะอยู่ในความรู้สึกไปได้นานกว่า

IMG_20191208_213222

ถ้าลองย้อนนึกดู เราจะเคยเห็นภาพถ่ายแต่งงานของพ่อแม่ เราจะเคยเห็นภาพสมัยเราเป็นเด็ก ในยุคนั้นจะเป็นการถ่ายภาพด้วยฟิล์มและอัดภาพออกมาเป็นกระดาษ ทุกวันนี้ภาพเหล่านั้นยังอยู่ มันยังคงอยู่ในลิ้นชักสักตัวในบ้าน และมันอาจจะวางไว้ใกล้ๆกับฟิล์มที่ใส่ไว้ในซองกระดาษ มันคงวางอยู่ข้างๆกัน

เราเดินผ่านมุมนั้นแล้วเราก็หยิบอัลบั้มภาพมาดูได้ นั่นคือความดีงามของการมีภาพบนกระดาษ ขณะที่กล้องดิจิทัลที่ให้ภาพแสนสมบูรณ์ แสงสวย สีสวย ปรับแต่งได้ตามใจ แต่เราแทบจะไม่อัดภาพเป็นกระดาษเลย ถ้าเราไม่มีคอมพิวเตอร์ ถ้าคอมพิวเตอร์เสีย หรือฮาร์ดดิสก์พัง เราก็ไม่สามารถดูภาพดิจิทัลเหล่านั้นได้อีกเลย

ผมมีภาพนี้เป็นฟิล์ม แม้จะไม่ได้อัดลงบนกระดาษ แต่ผมก็มีฟิล์ม คอมพิวเตอร์เสีย ฮาร์ดดิสก์เสีย อินเทอเน็ตล่ม ผมก็ยังมีฟิล์ม ผมใช้คอมพิวเตอร์ดูภาพก็จริง แต่ก็มีต้นฉบับเป็นฟิล์มเก็บไว้ วันที่ผมขยันและหัวใจพร้อม ผมก็แค่เข้าห้องอัดภาพขาวดำ อัดภาพแช่น้ำยาแล้วก็ได้กระดาษที่มีภาพออกมา หรือแม้แต่การสแกนภาพแล้วพิมพ์ออกมาบนเครื่องพิมพ์สักตัวก็ทำได้

IMG_20191211_162546

บางทีความสนุกของการถ่ายภาพก็คือขั้นตอนการผลิตภาพ ยิ่งมีขั้นตอนเยอะ เราก็ยิ่งได้อยู่ในเวลาแห่งความสุขนานเท่านั้น

ปฏิทินขอบฟ้า 2566

ปฏิทินขอบฟ้าคือปฏิทินที่ทำมาตลอดทุกปี บันทึกตัวตึงประจำบ้าน จากปีแรกที่ทำเล่นๆ ปีถัดมาเป็นของต้องทำ ปีนี้เป็นของที่อาม่ารอคอย เพราะอาม่าเก็บทุกเล่มตั้งแต่เล่มแรก ปีนี้ขอบฟ้าอายุ 10 ขวบแล้ว แต่ละเดือนที่เรียงลำดับเอาไว้ จะใช้รูปของเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้รู้ว่าปีที่แล้วเราทำอะไร ไปไหนกันมาบ้าง ปีที่มีโคิวดก็จะมีภาพในบ้านเยอะหน่อย

ภาพถ่าย panorama ที่ชอบ

DSCF8074

การถ่ายภาพที่ให้ภาพกว้างมากเป็นพิเศษเราจะเรียกกว่า panorama ซึ่งสัดสวนภาพจะมีความยาวต่อความสูงของภาพที่เยอะมาก อย่างในโรงหนังที่ให้ภาพกว้างที่สุดก็จะประมาณ 2.39:1 หรือภาพ panorama ระดับเบาๆที่มีให้เลือกถ่ายเป็นวิดีโอในกล้องถ่ายภาพทั่วไปก็จะเป็นภาพสัดส่วน 16:9

แต่ภาพนี้ เป็นภาพแม่ลูกกำลังหลับอยู่ ผมใช้กล้อง Fuji x100 มาถ่ายภาพนี้ ตั้งกล้องให้ถ่ายภาพด้วยระบบ sweep panorama คือเป็นการกดชัตเตอร์กล้องเพื่อรับภาพ แล้วหันกกล้องไปเรื่อยๆจากซ้ายไปขวาจนกว่าจะพอใจ ซึ่งจะเป็นมุมกวาดรับภาพประมาณ 120-180 องศากันเลยทีเดียว ก็เลยหยิบเทคนิคนี้มาใช้ถ่ายภาพตอนแม่กับลูกตอนหลับ จากเตียงแม่สู่เตียงลูก ท่านอนก็สุดแสนจะสอดคล้องกัน เป็นจังหวะที่หายากมาก การถ่ายภาพนี้ออกมาถือว่าให้ลักษณะภาพที่ตรงกับใจ แม้ว่าคุณภาพความคมชัดจะไม่มาก ภาพไม่คบกริบ แต่มันก็เป็นภาพที่ถ่ายจากสถานการณ์จริง ไม่ได้จัดถ่าย ไม่เซ็ทอัพใดๆให้ภาพดูสวย ใช้ความพยายามที่จะกดชัตเตอร์แล้วถือกล้องให้นิ่งและลากต่อเนื่องเท่านั้น

ภาพที่ขายได้

Screen Shot 2565-02-11 at 08.57.18

ภาพนี้เป็นภาพลูกของผมตอนที่ไปเที่ยวเมือง nikko ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นผมพกกล้องไปตัวเดียวคือ eos m รุ่น1 ติดเลนส์ตัวเดียวตลอดทริปคือเลนส์ 22f2 การเดินทางที่ญี่ปุ่นกับลูกเล็กวัย 3 ขวบ เป็นการเดินทางที่ต้องเตรียมรถเข็น เตรียมอุปกรณ์ของเด็กพอสมควร พ่อกับแม่ต้องช่วยกันยก ช่วยกันอุ้มในหลายสถานการณ์เพราะการเดินทางหลักๆของทริปคือรถไฟ

เลนส์ 22f2 ผมใช้ค่ารูรับแสงที่ f2 ตลอดทริปเลย เพราะต้องการความชัดตื้นที่ละลายหลังให้เบลอดูสวยงาม และต้องการให้มันรองรับสถานการณ์แสงได้ดีหลากหลายสถานที่ และส่วนมากเราก็จะถ่ายภาพในอาคาร ในที่ร่ม การใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมาก

กล้อง eos m เป็นกล้องที่มีหน้าจอด้านหลังระบบสัมผัส สามารถใช้มือแตะเพื่อให้กล้องทำการโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ได้ด้วย มันทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานบางโอกาส เช่นโอกาสเด็กกำลังสนใจกับภาพในจอ มีแสงตอนเช้าเข้ามาทางหน้าต่าง แสงหน้าต่างมักจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกับภาพถ่ายเสมอ ผมเห็นองค์ประกอบนี้ก็รีบหยิบกล้องมากดเปิดกล้องแล้วแตะโฟกัสเพื่อถ่ายเลย แล้วเราก็เก็บวินาทีสวยๆได้ตามที่ตาเห็น ทั้งทริปผมแทบจะไม่ได้ปิดฝาหน้าเลนส์เลย เพราะอยากให้กล้องพร้อมใช้ตลอดเวลา แม้ว่าเลนส์อาจจะเสี่ยงต่อการเสียหายหรือเป็นรอยขีดข่วนบ้าง แต่ผมก็ใช้วิธีติด Hood เหล็กไว้ที่เลนส์ ทำหน้าที่เป็นที่บังแสง และเป็นกันชนให้กับเลนสได้ระดับนึง ภาพลูกผมฝากขายในเว็บ Eyeem.com ครับ

IMG_0338

งานวิจัยเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ใส่ปุ๋ยคอกเทียบกับปุ๋ยเคมี

ปกติงานประจำเทอมที่นักเรียนต้องทำจะเป็นงานวิจัย 1 เรื่อง ตั้งแต่การตั้งคำถาม รวบรวมข้อมูล ออกแบบการทดลอง บันทึกผล สรุปผลการทดลอง จากนั้นก็ต้องมารายงานหน้าชั้นเรียน ในยุคที่โควิดกำลังระบาด การเรียนต้องทำที่บ้าน งานวิจัยก็ต้องพรีเซ็นในแบบออนไลน์แทน การบันทึกคลิปวิดีโอที่พรีเซ้นก็เลยต้องหัดทำ

1641557847993-01

ในวัย 9 ขวบ เด็ก ป3 นอกจากทักษะด้านการวิจัยแล้ว ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำพรีเซ้นด้วยเครื่องมือทันสมัย ได้หัดใช้โปรแกรมเพาเวอร์พ้อยต์ ได้หัดพูดหน้ากล้อง และได้ทดลองทำคลิปในรูปแบบต่างๆ พ่อแม่ช่วยเหลือในการจัดหาเครื่องมือต่างๆ ช่วยเป็นคนถ่ายวิดีโอ อีกไม่นานคิดว่าเด็กน่าจะสามารถทำเองได้ทุกอย่าง

20220107091237_IMG_0346
20220107083517_IMG_0339

ในสมัยที่พ่อแม่ยังเรียนอยู่ กว่าพ่อจะมีคอมพิวเตอร์ใช้ก็ยุคเรียนมหาวิทยาลัย กว่าจะทำพรีเซ็นเทชั่นไปยืนพูดหน้าห้องก็ต้องสมัยเรียนปี 3หรือปี4 ซึ่งเด็กมหาวิทยาลัยในยุคพ่อแม่นั้นก็ถือว่าทันสมัยมากแล้ว มาเจอว่ายุคโควิดนี้เด็กประถมต้นต้องใช้โปรแกรมประชุมผ่านหน้าจอ ต้องเรียนผ่านจอ และต้องพรีเซ้น ต้องใช้สื่ออีกหลากหลาย แม้แต่การให้การบ้านตามงานต่างๆก็ใช้โปรแกรมเฉพาะทาง ทำให้จัดระเบียบได้ง่าย และงานไม่ตกหล่น ไม่ส่งก็รู้ ทักษะเหล่านี้เด็กได้มีโอกาสใช้งานเร็วมาก เทคโนโลยีลำดับถัดไปที่เด็กจะต้องเข้าไปร่วมใช้ร่วมทำงานด้วยมันจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่เริ่มไม่คุ้นเคยแล้ว ความสามารถทางได้ไอทีของเด็กจะแซงพ่อแม่ในที่สุด สงสัยต้องไปหาเกมส์มาเล่นเพื่อให้ทันเด็กซะแล้ว.

IMG_0085
IMG_0068
IMG_0048

IMG_0323

20220106092213_IMG_0332

IMG_0743

9ขวบแล้วครับ

งานวันเกิดขอบฟ้าปีนี้จัดในวันอาทิตย์ก่อนถึงวันเกิดจริงเล็กน้อย เพื่อให้เป็นวันที่จัดงานสบายๆในบ่ายวันอาทิตย์ ปีนี้อายุครบ9ขวบ เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยประสบปัญหาโควิด ประเทศมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้่นวันละหมื่นคน มีคนตายเกิน 100 คนต่อวัน มันเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้าสำหรับประเทศไทย

1626998005082

เด็กอายุ 9 ขวบ แต่อยู่ในวิกฤตโควิดมาประมาณปีครึ่ง ขาดทุนเวลาชีวิตไปมหาศาล ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นอย่างที่ควรจะเป็น ออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัย ทีแรกก็ใส่ชั้นเดียว หลังๆก็รณรงค์ให้ใส่สองชั้น ถ้าโควิดยังคงระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ อาจจะต้องใส่ชุดเหมือนนักบินอวกาศก็เป็นไปได้

วันเกิดก็จัดงานกันอยู่ในบ้าน ซื้ออาหารมากิน จัดหาเกมส์มาให้เด็กๆได้เล่น เป็นความบันเทิงที่ไม่ต้องไปเสี่ยงชีวิตกับการติดเชื้อนอกบ้าน แต่ก็ยังกังวลนิดหน่อยว่า พ่อแม่ พี่ป้าน้าอา หรือผู้ใหญ่หลายๆคนก็อาจจะไปรับเชื้อมาก็ได้ ซึ่งก็หมายถึงมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อให้เด็กและคนแก่ในบ้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายที่ไม่มีทางหลบเลี่ยงเลย

เล่นเกมส์สนุก ทั้งการหาสมบัติ การใบ้คำ กินวิบาก เก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก เอาไว้ย้อนดูในภายหลัง

เที่ยวตราด ดูเหยี่ยว ชิมผลไม้ เล่นน้ำ จังหวัดตราด

คลิปรวม

ดูเหยี่ยว จังหวัดตราด

กิจกรรมดูนกกับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

กิจกรรมดูนกจัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ รังสิต คลอง5 เป็นทริปกลุ่มเล็กๆ พาเด็กไปดูนกในพื้นที่่ธรรมชาติ เด็กได้เรียนรู้เรื่องนก ได้ดูนกผ่านกล่องส่องทางไกล พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดกิจกรรมแนวสำรวจธรรมชาติสำหรับเด็กบ่อยมาก หากสนใจก็ติดตามข่าวสารจากเว็บหรือเฟสบุ๊คของพิพิธภัณฑ์ได้โดยตรงเลย

133926534_3388424944601765_1503466655451760725_o

เทคนิคการปรับสีภาพ Raw ด้วยกล้อง

การถ่ายภาพนอกจากองค์ประกอบที่ดีแล้ว เราก็ยังสามารถพิถีพิถันกับสีของภาพถ่ายได้ด้วย ซึ่งภาพถ่ายสีสวยที่เราได้พบเห็นในเว็บโชว์รูป หรือ แม้แต่ภาพในหนังสือต่างๆ ก็มักจะได้รับการปรับแต่งมาแล้ว เพื่อให้ภาพมีสีสันที่ถูกใจหรือตรงกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด

การปรับภาพขของกล้องดิจิทัลจะนิยมถ่ายภาพเป็นไฟล์ชนิด raw ซึ่งเป็นภาพดิจิทัลไฟล์แรกสุดที่เกิดขึ้นในกล้อง ไฟล์ชนิดนี้จะถูกส่งต่อไปยังโปรแกรมปรับแต่งเพื่อทำการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากๆในวงการถ่ายภาพก็คือ Lightroom ของบริษัท Adobe ซึ่งก็คือบริษัทที่เป็นเจ้าของ photoshop นั่นเอง

แต่ขณะเดียวกัน ความนิยมของนักถ่ายภาพสมัครเล่นและคนที่ไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวกับการถ่ายภาพโดยตรงก็จะนิยมใช้โปรแกรมในโทรศัพท์มือถือ อย่าง snapseed ซึ่งเป็นของบริษัท google และโปรแกรมปรับแต่งภาพสีของ VSCO ที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร

ยังคงมีโปรแกรมปรับแต่งสีสันจากไฟล์ raw อีกตัวหนึ่งที่แถมมากับกล้องทุกตัวที่ถ่ายภาพชนิดนี้ได้ก็คือโปรแกรมจากค่ายกล้อง อย่าง canon ก็จะมีโปรแกรมชื่อ DPP ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถแปลงไฟล์ raw ให้เป็น jpg ด้วยค่าสีสารพัด มีความหลากหลายให้เลือกใช้มากมาย และคุณภาพของ DPP ก็ดีจนช่างภาพให้การยอมรับ

แต่ในบทความนี้จะแนะนำการปรับ raw ไฟล์เป็น jpg ที่มีมาให้ในกล้อง ซึ่งทำให้เราไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่มเติมเลย และสะดวกมาก เนื่องจากเราสามารถทำการแปลงค่าได้จากหลังกล้อง และมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่มากพอใช้งานเลย

IMG_20201108_105017

เมนูที่จะเข้าไปปรับไฟล์ raw ของกล้อง canon ก็คือ ส่วนที่มีชื่อว่า RAW image processing

IMG_20201108_105153

ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วจะไปพบกับภาพที่เราถ่ายด้วยไฟล์ชนิด raw ที่แสดงขึ้นมา หากต้องเการเข้าไปรับแต่งเพื่อแปลงไฟล์ก็กดปุ่ม set เพื่อเข้าสู่เมนูกาปรับแต่งเลย

IMG_20201108_105206

ที่เมนูการปรับแต่ง จะมีหลายค่าให้เราปรับ ตั้งแต่ความสว่าง ไว้บาล้านท์ สไตล์สี การปรับค่าไดนามิคเร้นจ์ การลดน้อยส์ … ให้เราค่อยๆดูไปทีละเมนู แต่ละเมนูจะมีคำอธิบายที่เข้าใจง่ายด้วย

IMG_20201108_105229

จุดที่ผมชอบปรับจากเมนูนี้จะมี 2 ส่วน หรือส่วนที่เป็น WB หรือไว้ท์บาล้านท์ ซึ่งทำให้เราเปลี่ยนลักษณะสี ลักษณะสีขาวในภาพได้ โดยเลือกเป็นค่าที่ให้สีที่ชอบ และถ้ายังไม่ถูกใจ เราสามารถเลือกอุณหภูมิสีหรือ WB เป็นตัวเลขเคลวินได้ และสภาพแสงในภาพนี้ผมเลือกค่าเป็น เคลวินไว้ที่ 4100K

ส่วนอีกเมนูหนึ่งที่ชอบใช้ก็คือ เมนู Peripheral illumin. correct ซึ่งเป็นเมนูการปรับค่าแสงที่กลางภาพและขอบภาพให้เท่ากัน เนื่องจากธรรมชาติของเลนส์จะให้แสงตกตรงกลางภาพมากกว่าขอบภาพ หากไม่แก้ไข แสงจะสว่างที่กลางภาพ และจะมืดที่ขอบภาพ กล้องดิจิทัลทุกตัวจะแก้ไขโดยการปรับค่าแสงสว่างที่ขอบภาพให้สว่างเท่ากลางภาพ ก็คือมีการใช้งานหรือ enable การปรับแสงนี้เอาไว้ ผมก็เลยเข้าไปปิด ตั้งเป็น disable ปล่อยให้ภาพมีความมืดที่ขอบภาพไป เพราะหลายครั้งที่ปรับแต่งภาพด้วยซอร์ฟแวร์อื่นๆ ผมก็ชอบปรับให้ขอบภาพเข้มกว่ากลางภาพเล็กน้อย เพื่อให้ภาพดูสวยถูกใจ (แต่ไม่ถูกต้อง)

20201107203849_IMG_0051
ภาพต้นฉบับ jpg ที่ได้จากกล้องเมื่อถ่ายภาพด้วยโหมด Raw+jpg และมีการตั้งค่า WB เป็นแบบ Auto
IMG_20201107_213615
ภาพที่ใช้กล้องแปลงค่า raw โดยปรับตั้งค่า WB ไปเป็น 4100เคลวิน และปรับ illumin เป็น disable คือปล่อยให้ขอบภาพมืดกว่ากลางภาพ หลังจากได้ภาพที่ปรับแล้วก็ส่งออกมาเก็บไว้ในโทรศัพท์ และอัพโหลดไปเก็บไว้ใน cloud เรายังคงสามารถปรับภาพต่อในโทรศัพท์ หรือ ใช้ตัวปรับภาพของ cloud ได้อีกตามใจ
IMG_20201107_213615
ภาพที่ปรับแต่งสีเสร็จแล้ว ก็เซพไฟล์ออกมาเป็น jpg แล้วก็นำมาคร็อปภาพอีกนิด ปรับสีอีกเล็กน้อย ปรับมุมเอียงอีกหน่อยเพื่อให้ภาพตรง ซึ่งภาพที่ตรงจะให้ภาพที่ดูสบายตามากกว่า

ดูจากภาพตัวอย่างเราก็จะได้สไตล์สีที่ปรับออกมาแล้วถูกใจเรามากกว่าภาพแรก การปรับแต่งภาพถ่ายนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องของคนฝีมือไม่ดี ช่างภาพที่เก่งไม่ใช่ช่างภาพที่ไม่ปรับ แต่ความเก่งของช่างภาพที่แท้จริงก็คือ รู้วิธีที่จะได้ภาพที่ต้องการ หากภาพที่ต้องการจะต้องปรับ ก็ปรับเพื่อผลลัพธ์นั่นเอง และหากใครยังคงยืดถือว่าการถ่ายแบบไม่ปรับแต่งเลยคือวิธีการที่สุดยอด จะขอให้ลองทบทวนดูว่า ก่อนจะไปถึงคำว่าแต่งภาพ เราแต่งภาพทางอ้อมและมีผลต่อภาพอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นงานฟิล์มเราแต่งภาพตั้งแต่เราเลือกฟิล์มบางตัว ไม่ใช่ฟิล์มอะไรก็ได้ เราเลือกเลนส์บางตัว ไม่ใช่เลนส์อะไรก็ได้ เราเลือกร้านล้างอัดบางร้าน ไม่ใช่ว่าทุกร้านจะทำงานได้เหมือนกัน เราเลือกสแกนเนอร์บางตัว ไม่ใช่สแกนเนอร์อะไรก็ได้ จะเห็นว่า เราปรับแต่งตั้งแต่เราเลือกอุปกรณ์แล้ว ส่วนฝั่งดิจิทัลก็ไม่ได้แตกต่างกัน เราเลือกยี่ห้อกล้องเพราะบุคคลิกสีบางอย่าง เราเลือกของแพงมากกว่าของถูกเพราะรู้ว่าคุณภาพไม่เหมือนกัน เราเลือก เลือก เลือก นั่นคือเราปรับภาพตั้งแต่ก่อนจะเห็นภาพแล้ว

เที่ยวเกาะขามและพัทยา

เกาะขามเป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี อยู่ในอำเภอสัตหีบ การเดินทางจากกรุงเทพก็จะต้องเดินทางผ่านพัทยาแล้วเลยไปถึงสัตหีบ ทริปนี้พวกเราไปนอนพักที่พัทยาก่อนแล้ววันรุ่งขึ้นค่อยขับรถไปเกาะขาม สิ่งที่สนุกสำหรับทริปนี้ก็คือเราได้ลองของเล่นใหม่ด้วยนั่นก็คือกล้อง gopro9 ที่ตั้งใจซื้อเพื่อนำมาใช้ถ่ายคลิปในการท่องเที่ยว

GOPR0100

พัทยาวันแรกเราแวะเที่ยวก่อนเข้าโรงแรม เราไป FROST ซึ่งเป็นห้องน้ำแข็งอุณหภูมิติดลบ 15องศา น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หนาวเย็นที่สุดที่ประเทศไทยเคยมี และมันก็หนาวจริงๆ เราไม่สามารถอยู่ในที่เย็นแบบนี้ได้นานๆเลย หากใครไม่มีถุงมือ ถุงเท้าที่หุ้มอย่างแน่นหนา ปลายมือ ปลายเท้าจะชาในเวลาไม่นาน FROST มีชุดกันหนาวให้ยืมใส่ เป็นชุดผ้านวมอย่างหนา มีฮู้ดคลุมหัวด้วย นับเป็นประสบการณ์การสัมผัสความหนาวระดับติดลบที่น่าตื่นเต้นมาก

GOPR0141
GOPR0156

กล้อง Gopro9 สามารถทำงานในที่เย็นจัดระดับติดลบ 15 องศาได้ ไม่มีอาการรวนหรือเปิดไม่ติดเลย ส่วนโทรศัพท์มือถือที่พกเข้าไปก็ยังทำงานได้ปกติ ทีแรกนึกว่าอากาศเย็นจะทำให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มีปัญหา เพราะที่เคยได้ยินมาจะบอกต่อกันมาว่า ถ่านจะหมดเร็ว หรือ ถ่านจะไม่จ่ายไฟเมื่ออยู่ในที่เย็นจัด เราอยู่ในที่เย็นติดลบไม่นานมาก เพราะทนกันไม่ไหวเอง แบตเตอรี่ของกล้องก็คงทนหนาวได้เก่งกว่าคนเรา อุปกรณ์ก็เลยยังทำงานได้ปกติ

ออกจากห้องเย็นจัดก็เดินทางเข้าที่พักที่พัทยา เด็กๆเล่นน้ำตลอดบ่าย ช่วงนี้ก็ได้หัดเล่นกล้อง gopro9 อย่างจริงจัง ทดลองถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลื่อนไหวแบบพิเศษอย่าง timelapse และ timewarp ที่ gopro เขาเรียกชื่อเทคนิคนี้โดยเฉพาะรวมถึงการลงไปถ่ายใต้น้ำโดยตรงด้วย ผลก็คือ กล้องลงน้ำได้จริง ลงน้ำตรงๆไม่ต้องใช้เคสกันน้ำเลย มีจุดที่ต้องระวังก็เพียงต้องไม่ลืมล็อคหน้าจอสัมผัส เพราะน้ำจะทำให้หน้าจอเหมือนโดนกดแล้วโหมดการทำงานจะเปลี่ยนได้เอง ดังนั้น ถ้าจะลงน้ำ กล้องต้องถูกสั่งให้ล๊อคการสัมผัสหน้าจอด้วยเสมอ

วันรุ่งขึ้นเราออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อเดินทางไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะขาม เดินทางจากพัทยาใช้เวลาประมาณ 50 นาที ที่ท่าเรือไปเกาะขามสามารถไปเกาะแสมสารได้ด้วย เราจอดรถที่จุดซื้อตั๋วแล้วนั่งรถสองแถวไปที่ท่าเรือ เรือที่ใช้พาเราข้ามไปเกาะขามมีขนาดประมาณ 30 คน นั่งชิดๆกัน มีชูชีพสำหรับทุกคน ใช้เวลาข้ามไปเกาะขามประมาณ 20 นาที

เราเห็นปลาสวยงามตั้งแต่เดินอยู่ที่ท่าเรือก่อนจะลงเรือแล้ว ปลาทะเลสีสวยเหมือนปลาในตู้ บางคนโยนขนมปังลงไป ปลาก็รุมเข้ามากิน ผมไม่แน่ใจว่าเราควรงดให้อาหารปลาไหม หลายคนบอกว่าจะทำให้ปลาเสียนิสัย และจะทำให้นักท่องเที่ยวเคยชินกับการทำอะไรไม่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ตอนไปเขาวัง เห็นลิงอยู่ข้างทาง แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยที่จะให้อาหารลิง เพราะจะทำให้ลิงเคยชินกับการมาแย่งอาหารจากคน และมารบกวนคนอยู่ในพื้นที่ เพราะลิงมันวิ่งเข้าหาคนได้ แต่กับการให้อาหารปลา ผมยังไม่เห็นข้อเสียที่ชัดเจน ปลามันวิ่งมาแย่งอาหารคนไม่ได้ ปลาไม่ได้บินมากินของจากมือคน ทำไมเราต้องระวังเรื่องนี้กัน ตอนไปวัดไร่ขิง แม่น้ำหลังวัดก็มีตลิ่งที่รอให้คนไปให้อาหารปลา วัดอนุญาตให้ขายอาหารสำหรับโยนให้ปลา มีแค่ป้ายบอกว่า ห้ามจับปลา ไมไ่ด้ห้ามให้อาหาร

เรือมาถึงเกาะขาม เดินขึ้นเกาะระหว่างทางเราก็เห็นความสวยงามของน้ำทะเลแล้ว ที่นี่น้ำทะเลใสมากมองเห็นพื้นใต้ต้ำ สีน้ำทะเลสีสวยเหมือนภาพวาด เป็นสีสันที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ต้องใช้เทคนิคการถ่ายภาพเลย ยิ่งเอากล้องออกมาถ่ายยิ่งได้ภาพที่สวยงามแปลกตากลับไป สีสันบบนี้ไม่มีที่พัทยา ไม่มีที่หัวหิน นับว่าเป็นเกาะที่น้ำทะเลใสมากและสวยมาก

ชายหาดที่นี่ยาวประมาณ 300 เมตร นักท่องเที่ยวเลือกนั่งเล่นนอนเล่นได้ตามสบาย เด็กๆเตรียมพร้อมสำหรับเล่นน้ำ พ่อแม่เตรียมตัวลงน้ำไประวังเด็กๆ ผมก็ลองเล่นกล้อง gopro9 ถ่ายภาพบนบก ภาพวิว และภาพใต้น้ำ เราลองบันทึกภาพหลายๆแบบ กล้องลงน้ำทะเลได้ไม่มีปัญหา ภาพใต้น้ำชัดมาก และภาพวิดีโอที่ออกจากกล้อ้ง gopro9 ตัวนี้ไม่สั่นไหวให้ปวดหัวตอนดูเลย การมีระบบกันสั่นในกล้องทำให้ภาพวิดีโอมีคุณภาพสูงมาก และสีสันที่ gopro9 บันทึกให้เราก็มีสีสันที่ฉูดฉาดสวยงาม ผมรู้สึกว่าภาพจาก gopro9 มีความสวย อิ่ม สด และฉูดฉาดราวกับเราแต่งภาพด้วย app ซึ่งกล้อง DSLR อย่าง eos 6d ที่ผมใช้มาหลายปีให้ภาพฉูดฉาดแบบนี้ไม่ได้เลย อย่างน้อยต้องปรับแต่งบางอย่าง หรือปรับด้วย app อีกนิดหน่อยเพือ่ให้สีสดเท่า gopro9

GOPR0212
GOPR0236

เด็กๆเล่นน้ำสนุกสนาน ดำน้ำดูปลาที่มีอยู่ไม่มากเท่าที่คาดไว้ ปะการังใต้น้ำก็มีในระดับหย่อมๆเล็กๆ และไม่ได้มีสีสันที่สดสวยแบบที่เราเคยดูที่ฝั่งอันดามัน แต่สิ่งที่อยู่เหนือน้ำก็คือภาพทะเลแสนสวย ฟ้าสีฟ้า น้ำทะเลเขียวอมฟ้า แสงแดดส่องพาเงาของเรือไปโผล่ที่พื้นทรายใต้น้ำ คุณภาพน้ำที่นี่ใสมาก ใสเหลือเชื่อ แต่ทำไมปลาน้อยก็ไม่รู้สาเหตุ บนเกาะมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีห้องอาบน้ำ และมีกฏคือห้ามใช้สบู่ ยาสระผมที่นี่เด็ดขาด เจ้าหน้าที่บอกว่าเพื่อป้องกันสารเคมีไหลลงทะเลนั่นเอง

บนเกาะมีเรือซับบอร์ดไว้ให้เช่าเล่นด้วย ชั่วโมงละ 100 บาท มีเจ้าหน้าที่ช่วยสอน เด็กๆต่อคิวกันเล่นสนุกสนาน การยืนบนเรือแล้วพายเล่นเป็นกีฬาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีข้อมูล แต่ก็รู้สึกได้เลยว่ากำลังเป็นที่นิยม ทั้งที่เที่ยวที่เป็นแม่น้ำลำคลองแถวราชบุรี กาญจนบุรี ต่างก็มีเรือซับบอร์ดเอาไว้ให้เล่น ทะเลเกาะขามก็มี และเมื่อได้ลองเล่นก็ทำให้เราได้ภาพสวยๆกลับไปด้วยเช่นกัน โชคดีที่เด็กๆใช้เวลาหัดเล่นไม่นานก็เล่นได้ ยืนได้ไม่ล้ม เป็นทริปที่สนุกกว่าที่คาดหวังตรงเรือนี่แหละ

GOPR0272

มาเกาะขามตอนเที่ยวเรือ 9 โมงเช้า ขากลับ นั่งเรือรอบ 14.00 น. กลับมาฝั่ง ที่ท่าเรือมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาด้วย เป็นตึกหลายชั้น จะเข้าชมก็ต้องเดินขึ้นไปหลายสิบเมตร ใครเที่ยวเกาะจนหมดแรงคงไม่อยากแวะดูแล้ว แต่ลูกขอเข้าไปดูก็ต้องอดทนเดินกันหน่อย

IMG_4523

การจัดแสดงในห้องต่างๆทำได้ดีน่าสนใจ คนชลบุรีถ้าจะเที่ยวพิพิธภัณฑ์คุณภาพก็สามารถแวะมาดูที่นี่ได้ ไม่ต่างจากกรุงเทพเลย เนื้อหาค่อนข้างดีเลย พวกเรายืนอ่านยืนคุยกับลูกได้หลายอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่แสดง และหลายอย่างเป็นความรู้ใหม่สำหรับพวกเราด้วย

IMG_4532
IMG_4538

ออกจากพิพิธภัณฑ์ก็เดินทางกลับที่พักที่พัทยา กินข้าวเย็น เตรียมตัวเข้านอนอย่างหมดแรง เป็นทริป 1 วันที่อัดแน่นและใช้พลังงานเยอะมาก แต่ทั้งหมดก็รอวันใหม่ รอมีแรงอีกที เช้าวันใหม่ก็เล่นกันต่อริมทะเล มาทะเลพัทยาก็ต้องเปียกน้ำที่พัทยาบ้างถึงจะไม่เสียเที่ยว

ก่อนจะกลับก็ถ่ายภาพรวมกัน และจะมีภาพเด็ก 5 คนนั่งบนเตียงที่เราถ่ายมาตลอดหลายปี แล้ว ในแต่ละปีจะเอาภาพที่นั่งมุมคล้ายๆกันมาเปรียบเทียบกัน เราก็จะเห็นพัฒนาการของเด็กไปทีละนิด จะเรียกว่าเป็นภาพแห่งความทรงจำก็ได้

2020-10-28_03-23-10

กลางวันเราก็เช็คเอ๊าท์ เดินทางกลับกรุงเทพ แวะซื้อของกลางทางที่หนองมน ตอนนี้ห้อยจ๊อที่หนองมนขายลูกละ 20 บาทแล้ว จากความทรงจำในอดีตว่าเคยซื้อลูกละ 8 บาท ระยะทางที่รถวิ่งไปตั้งแต่ออกจากกรุงเทพย่านบางขุนนนท์ แล้วขับไปพัทยา ไปถึงสัตหีบ แล้วย้อนมาพัทยา กลับกรุงเทพที่เดิมใช้น้ำมัน 1 ถังยังเหลืออยู่ ดูหน้าจอ รถวิ่งไปประมาณ 450 กิโลเมตร

FRAME_COLLAGE1603873800393