ลองกาแฟดริป สตาร์บัค starbuck origami

IMG_20240421_105537

เช้าวันอาทิตย์มีภารกิจไปส่งลูกเรียนพิเศษที่ห้างมาบุญครอง ห้างแห่งนี้เป็นห้างอายุเยอะแล้ว สมัยก่อนก็คนเยอะมาก หลังๆมีห้างเกิดใหม่อื่นๆมาแบ่งลูกค้าไป มาบุญครองก็ค่อยๆกลายเป็นแหล่งเรียนพิเศษ มีติวเตอร์มาเช่าพื้นที่ชั้น6 จำนวนมาก น่าจะเรียกว่าเป็น Education Hub ของกรุงเทพได้เลย

20240428105107_IMG_2021

ที่ชั้นสองมีห้าง Donki มาเปิดทำการ เป็นซุปเปอร์มาเก็ตของญี่ปุ่นที่มีสินค้าญี่ปุ่นหลากหลายมาก กาแฟสตาร์บัคแบบดริปก็มีขาย 1 กล่องมีกาแฟดริป 5 ชิ้น ผมสนใจตรงคำว่า origami นี่แหละ แต่ก็แปลกใจตรงข้างกล่องที่มีตัวหนังสือภาษาไทยด้วย

20240421134933_IMG_1977

ต้องดริปด้วยน้ำร้อน ปริมาณ 140 ml จริงๆก็แค่กะประมาณเอาก็ได้ รสชาติก็เป็นกาแฟดำ รสขมปกติ ไม่ได้มีความเปรี้ยวหรือผสมกลิ่นผลไม้ ลักษณะโครงสร้างกระดาษแบบ Origami ทำให้ซองดริปใช้งานง่าย สามารถแกะด้านบนของซองแล้วจัดวางบนแก้วได้ทันที สิ่งที่ดูดีก็คือ ตัวถุงกาแฟจะลอยอยู่เหนือแก้ว แตกต่างจากถุงดริปยี่ห้ออื่นที่พบบ่อยๆ ยี่ห้ออื่นที่ว่าก็คือ ถุงดริปจะมีการจมหรือหย่อนอยู่ในแก้ว ถ้าเราใช้แก้วไม่ลึก การดริปถุงกาแฟก็จะจมน้ำในแก้ว มันดูแล้วเหมือนออกแบบยังไม่จบ ทำให้ถุงดริปยี่ห้อทั่วไปจะต้องเลือกใช้กับแก้วทรงสูงเท่านั้น

20240421134625_IMG_1971

ส่วนถุงดริปแบบ Origami ก็จะยกตัวถุงลอยอยู่เหนือแก้ว ทำให้เราไม่ต้องใช้แก้วทรงสูงก็ได้ แต่ผมก็มีแก้วประจำตัวเป็นแก้วทรงสูงไว้กินกาแฟ แก้วยี่ห้อ pantone เป็นแก้วที่สวยและจุกาแฟได้เยอะ ก็เลยเอามาเป็นนายแบบในการดริปกาแฟจากสตาร์บัคตัวนี้

IMG_20240421_195544

ซ้ายคือถุงดริปหรือซองดริปกาแฟทั่วไปที่นิยมทำขาย ส่วนทางขวาก็เป็นถุงดริปกาแฟของสตาร์บัคโอริกามิ

อยากลองชิมก็ลองแวะซื้อดู หรือ ซื้อออนไลน์ในลิงค์นี้ก็ได้ คลิกได้เลย

ชะตา ธรรมชาติ chata thammachart

Chata Thammachart ร้านกาแฟกลางทุ่งนา

ท่ามกลางธรรมชาติ มีร้านกาแฟผุดขึ้นกลางทุ่งนา ล้อมรอบด้วยนาและต้นไม้ แต่งร้านสวยงาม อาคารทรงกรวยเหมือนหมวกแหลมๆค่ำอยู่กลางทุ่ง ดูสวยจากระยะไกล เข้าไปนั่งก็ร่มลื่นและลมเย็นสบาย

ช่วงปี 2020 โรงเรียนปิดเพราะโควิด เด็กนักเรียนต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ นั่งเฝ้าหน้าจอกันทั้งวัน ผ่านไปเดือนกว่าโรงเรียนเริ่มปรับตัว มีพักเบรค มีให้ปิดจอกันเป็นชั่วโมงเพื่อให้เด็กได้พัก ได้ไปทำงานแล้วค่อยมาพบกันที่หน้าจอ บ้านผมก็อาศัยเวลาพักกลางวันยาวๆบางวัน พาลูกไปนั่งรถเล่นไกลๆหน่อย ไปนั่งกินร้านอาหารที่กลับมาเปิดบริการได้หลังจากโควิดเริ่มซาลงเล็กน้อย 

dpp-2020 chata -IMG_0005
dpp-2020 chata -IMG_0020

ร้านนี้อยู่ทางไปนครปฐม ไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถไปไม่นานเพราะบนถนนรถไม่ค่อยติด ผู้คนส่วนมากยังคงกักตัว ไม่เดินทางเหมือนแต่ก่อน เรายังคงใส่แมสออกจากบ้านเป็นปกติ ลูกผมก็ใส่ไปเที่ยวร้านอาหาร ใส่ไปวิ่งเล่นในทุ่งนา ความรู้เกี่ยวกับโควิดในปี คศ 2020 ทุกอย่างยังใหม่ เรายังไม่มีวัคซีน การป้องกัน และการเว้นระยะห่างเป็นสิ่งที่ทำได้เพียงเท่านี้ 

dpp-2020 chata -IMG_0034
dpp-2020 chata -IMG_0064

ร้านกาแฟร่มลื่น ต้นไม้เยอะ ทุ่งนาเขียว อาหารอร่อย ราคาก็สูงเหมือนร้านในกรุงเทพ มีคนแวะมาที่นี่เยอะมาก ขับรถมากันจากกรุงเทพทั้งนั้น ทางร้านถึงกับต้องทำลานจอดรถอย่างดี และมีมาตรการการตรวจวัดอุณหภูมิ และขอร้องให้ลูกค้าใส่แมสตลอดเวลาที่ไม่ได้กินอาหาร

dpp-2020 chata -IMG_0035
dpp-2020 chata -IMG_0036
dpp-2020 chata -IMG_0045
dpp-2020 chata -IMG_0052
dpp-2020 chata -IMG_0110

กาแฟอร่อย น้ำหวานน้ำผลไม้ก็อร่อย สองชั่วโมงในร้านอาหารสวยๆและมีวิวโล่งๆให้ดูช่วยให้พวกเราหายเครียดได้บ้าง เพราะต้องอยู่กับหน้าจอตลอดวันตั้งแต่เช้า พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่ก็ปรับตัวไม่ยาก แต่เด็กยังไม่คุ้นเคย ก็จะรู้สึกเครียดเพราะธรรมชาติของเด็กจะต้องได้วิ่งเล่น แต่มาติดกับการเรียนออนไลน์เพราะโควิด เราก็ได้แต่เยียวยากันเองโดยการหาที่เที่ยวที่คนไม่มาก ไม่แออัด จะได้ลดการติดเชื้อลงได้

dpp-2020 chata -IMG_0069

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่4 เตรียมของ

เรามาเริ่มต้นกันดีกว่า เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเริ่มลดน้ำหนักก็คือ เวลากินข้าวมื้อถัดไป เราสามารถเริ่มต้นการลดน้ำหนักได้ทันที ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย แต่เรามีสิ่งของบางอย่างที่ควรเตรียมเอาไว้เพื่อให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ผล เราควรจะมีสิ่งต่อไปนี้

2017-03-06_06-00-11

1 เครื่องชั่งน้ำหนัก จะเป็นเครื่องชั่งระบบเข็มหรือระบบดิจิทัลก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ระบบดิจิทัล โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องชั่งราคาแพง เราจะใช้เครื่องชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักประจำวันเท่านั้น ซึ่งเครื่องชั่งที่มีขายทั่วไปก็ทำงานได้อย่างดี ส่วนเครื่องชั่งราคาแพง เครื่องชั่งไฮเทค เครื่องชั่งที่เชื่อมต่อกับ application ในมือถือก็แล้วแต่ศรัทธา แต่สำหรับผม ผมไม่ใช้ครับ มันเกินความจำเป็น และราคามันก็ไม่ถูก ส่วนเครื่องชั่งระดับหลายพันที่วัดค่ามวลกระดูกได้ แสดงผลค่า BMI ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครับ เพราะเราจะลดน้ำหนักเท่านั้น ตัวเลขอื่นๆเป็นตัวเลขรบกวนจิตใจ แต่ถ้ามีเครื่องชั่งไฮเอนด์อยู่แล้วก็ใช้ได้ครับ ไม่ผิด

Watch Smart watch Calories นับก้าว

2 อุปกรณ์นับก้าว จะเป็นตัวนับในรูปแบบของสายรัดข้อมือ หรือ นาฬิกาไฮเทคอย่าง smartwatch ก็ได้ เลือกได้ตามกำลังเงิน ผมใช้ ipod nano รุ่นที่มีระบบนับก้าวแล้วซื้อสายข้อมือมาติดตัวมันเพื่อให้มันกลายเป็นนาฬิกา และตั้งให้นับก้าวตั้งแต่ตื่นนอนไปจนหมดวัน เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์สายรัดข้อมือราคาหลักร้อยให้ใช้ ก็น่าซื้อใช้เช่นกัน เราขอให้เป็นตัวที่สามารถนับก้าวและแสดงค่าแคลอรี่ที่เราเผาผลาญจากการเดินไปได้ก็พอ แล้วพวกโปรแกรมนับก้าวในโทรศัพท์มือถือล่ะ ใช้แทนได้ไหม ก็ขอบอกว่าไม่ได้ครับ เพราะมือถือไม่ได้ติดตัวเราไปตลอดเวลา ในระหว่างวันเราอาจวางมันไว้เฉยๆบนโต๊ะ ผู้ชายอาจจะมีมือถือติดตัวไปเกือบทั้งวัน แต่ผู้หญิงไม่มีใครหนีบมือถือไว้กับตัวตลอดเวลา

IMG_0879

3 กล้องถ่ายรูป เราใช้โทรศัพท์มือถือแทนได้ เดี๋ยวนี้มือถือถ่ายรูปได้หมดแล้ว เราจะใช้ถ่ายภาพตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน ใครไม่ถนัดถ่ายรูป จะใช้จดในสมุดก็ได้ ไม่ว่ากัน หากใครเลือกใช้การจด กล้องถ่ายรูปก็ไม่จำเป็น

IMG_0275

4 ขวดน้ำ ใส่น้ำเปล่า หรือกระติกน้ำ สิ่งนี้จำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ จะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่กินแล้วเอามาเติมใช้ซ้ำก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย ขอขวดขนาดประมาณ 600cc อย่าเล็กกว่านี้ อย่าใหญ่ระดับขวดลิตร เพราะเราจะพกขวดน้ำ ขวดนี้ควรอยู่ใกล้มือและมีน้ำเต็มตลอดเวลา

IMG_0284

5 กล่องข้าว กล่องพลาสติก เอาไว้ใส่ของที่กินเหลืออีกครึ่งหนึ่ง เพื่อเก็บไว้กินมือต่อไป ข้อนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีจะเจ๋งและช่วยเราประหยัดเงินได้

IMG_b0218packaging

6 แก้วใส่กาแฟร้อน สำหรับคนชอบกาแฟ กาแฟร้อนจะอยู่กับเราในโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว และบนรถ ข้อนี้ไม่บังคับ มีก็ดีกว่าไม่มี แต่คนชอบกาแฟยังไงก็น่าจะมี ไม่ใช่เรื่องยาก

IMG_0186

7 หนังสติ๊ก เอาไว้รัดถุง รัดขนมถุงที่ฉีกแล้ว ได้ใช้แน่นอน รับรอง

ในขั้นตอนต่างๆที่เราจะลดน้ำหนัก เราจะพบเจอกับหลายเหตุการณ์ อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทมากบ้างน้อยบ้าง แต่ได้ใช้ทุกชิ้น

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่3 เลือกวิธี

การลดน้ำหนักมีหลายวิธี  แต่วิธีหนึ่งที่จะไม่ทำเด็ดขาดเลยคือการลดด้วยการกินยา  ด้วยคำขู่มากมายว่ากินยาแล้วลดได้แต่มันจะโยโย่  มันจะผอมแป๊ปเดียวแล้วน้ำหนักก็จะขึ้น แม้ผมจะไม่เคยทดลองกินยา  แต่ก็กลัว  กลัวว่าจะมีผลข้างเคียงอื่นๆที่เราคงไม่ปลื้ม  และอีกอย่าง ก็ไม่รู้จะกินยาอะไร  หายาจากที่ไหน ในชีวิตไม่เคยเข้าคลีนิคเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและคลีนิคเกี่ยวกับความงามใดๆเลย

benjakittiP1100770

วิธีออกกำลัง วิธีนี้เป็นวิธีที่เป็นความหวังของคนส่วนใหญ่  อยากผอมให้ออกกำลังกาย  อยากตัวใหญ่ให้ออกกำลังกาย  การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษทำให้ตัวเล็กก็ได้  ทำให้ตัวใหญ่ก็ได้  ผมเคยพยายามเหมือนกัน  เมื่อสักสิบปีก่อน ผมอยากจะแข็งแรง อยากมีอายุยืน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับน้ำหนักตัว  ก็เลยทดลองวิ่ง ผลการวิ่งก็คือ ผมวิ่งไปร้อยเมตรผมก็หอบเหนื่อยจนรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน  วิ่งบนเครื่องออกกำลังกายก็วิ่งได้ไม่ถึงนาที หัวใจก็เต้นราวกับว่าจะหลุดออกมาจากร่าง  เพราะคนไม่เคยออกกำลังกายเลย  แม้ผมจะถือกล้องรับจ้างถ่ายภาพได้เป็นวันๆ  แต่ก็ไม่ได้เหนื่อยแบบการวิ่ง  ผมทนวิ่งน้อยๆอยู่หลายครั้ง  ก็ลองไปวิ่งในสวนสาธารณะเล็กๆ  วิ่งไปรอบเดียวก็รู้สึกเหนื่อยมาก อยากจะนั่งพัก  ร้องเท้าที่อุตส่าห์ไปหาซื้อมาก็ทำงานได้ไม่กี่นาที  พอวิ่งขึ้นรอบสองผมก็เดินแล้ว  จบทริปสวนสาธารณะผมวิ่งไป 2 รอบ คนอื่นๆวิ่งไปสิบรอบ  ในใจก็คิดว่า  เดี๋ยวอีกหลายๆครั้งร่างกายก็จะชิน  แล้วผมก็จบการวิ่งด้วยการไปหาอะไรกินต่อตอนค่ำๆ  รู้สึกตัวอีกทีก็กินไป 4 มื้อ  ยิ่งวิ่งก็ยิ่งกินดึก ประกอบกับผมไม่ว่างอย่างสม่ำเสมอ  ก็คือไม่ได้มีความพยายามจัดเวลาให้กับการวิ่งนั่นเอง  ก่อนจะวิ่งผมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดวิ่ง  รองเท้าถุงเท้าต้องพร้อม  ไปวิ่งให้จบ แล้วก็อาบน้ำ แล้วค่อยกลับเข้าสู่โหมดปกติของวัน  วันที่วิ่งนี้ผมใช้เสื้อผ้า 2 ชุด  มันก็ดูผิดปกติสำหรับชีวิตแบบผม  กลายเป็นความรู้สึกว่าต้องเตรียมตัวเยอะเหลือเกิน ซึ่งมันก็เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น  ถ้าผมเจ็บป่วยแล้ววิ่งคือคำตอบผมคงจะยอมทำไม่อ้างอะไร  แต่ผมไม่ได้ไร้ทางเลือก เชื่อว่าการลดน้ำหนักไม่ได้มีคำตอบเดียว  การวิ่งจึงยังไม่ใช่

ผมใช้วิธีกินน้อยลงดีกว่า  คิดได้เท่านี้ก็เริ่มทำเลย  โดยมีเหตุผลว่า การลดน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมจะต้องเผาผลาญพลังงานไปให้ได้ 7000 กิโลแคลอรี่  แต่ถ้าไม่วิ่ง ผมก็ต้องกินอาหารน้อย หรือกินอาหารให้พลังงานติดลบ  ข้อมูลของนักโภชนาการบอกว่า อัตราเฉลี่ยของผู้ชายน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัมใน 24 ชั่วโมงจะใช้พลังงาน 2500 กิโลแคลอรี่ ตั้งแต่นอน ตื่นมาทำกิจกรรมต่างๆรวมถึงการทำงาน และต่อเนื่องจนถึงเวลากลับเข้านอน  แปลว่าต่อให้เรานั่งเฉยๆหายใจทิ้ง นั่งๆนอนๆก็จะใช้พลังานใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ คือ 2500กิโลแคลอรี่    การกินอิ่มพอดีก็มักจะคิดเป็นพลังงานที่กินเข้าไปประมาณ 2500 กิโลแคลอรี่เช่นกัน  ถ้าเราจัดระดับการกินให้พอดีกับระดับการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย  ตัวเราก็จะน้ำหนักคงที่อยู่ได้ไปเป็นปี  ซึ่งทุกคนก็น่าจะเคยมีช่วงเวลาที่น้ำหนักคงที่  คือน้ำหนักไม่ขึ้นไม่ลงแบบนั้นอยู่เป็นปี   เทคนิคน้ำหนักคงที่ก็คือกินแค่พออิ่ม อิ่มแล้วหยุดกิน

2017-03-06_06-00-11

แต่ถ้าจะลดน้ำหนัก ก็ต้องกินให้พลังงานที่เข้าปากมันน้อยลงกว่าปกตินั่นเอง  ถ้ากินน้อยลงไปวันละ 1000 กิโลแคลอรี่   เท่ากับว่า 7 วัน ร่างกายเราจะเผาพลังงานเกินการกิน  ทำให้แคลอรี่ติดลบไป 7000กิโลแคลอรี่  คิดเป็นการลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม  ดูเหมือนไม่เยอะ  แต่ถ้าทำครบเดือนก็จะลดไป 4 กิโลกรัม  ถ้าทำไปให้ครบ 4 เดือน เราก็จะลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 16 กิโลกรัม  ซึ่งไม่น้อยเลย  ถามอีกแบบหนึ่งก็ได้ว่า  ถ้าเลือกน้ำหนักได้ เราอยากน้ำหนักเท่าไหร่  คำตอบของผมคือ 75 กิโลกรัม เพราะผมสูง 175cm ตามสูตรง่ายๆของน้ำหนักที่เหมาะสม คือ ความสูง – 100cm = น้ำหนักตัวของผู้ชาย นั่นคือผมต้องลด 16 กิโลกรัมนั่นเอง

วิธีกินน้อยลงนี่คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าผมทำได้  เพราะมันไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย  หายใจทิ้งก็เผาผลาญพลังไปเรื่อยๆอยู่แล้ว เราแค่กินน้อยลง  แต่จะกินน้อยยังไงให้มันติดลบสัก 1000 กิโลแคลอรี่ คำตอบก็คือ กินครึ่งจานครับ  เราเคยกินอะไรเต็มจาน ก็เปลี่ยนเป็นกินครึ่งจาน  เคยตักข้าว 2 ทัพพี ก็ตักแค่ 1 ทัพพี  เคยซื้อข้าวกล่องกินก็กินครึ่งกล่องแล้วส่วนที่เหลืออีกครึ่งให้กินมื้อต่อไป  หากซื้อกินมื้อเช้า ก็แบ่งกินเช้าครึ่งนึงกลางวันครึ่งนึง  หากซื้อกินมื้อกลางวันก็แบ่งกินกลางวันครึ่งนึงเย็นครึ่งนึง  สิ่งที่กินทุกอย่างให้ลดลงครึ่งเสมอ

IMG_0440

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและต้องงดทันที 100% ก็คือ ของหวาน น้ำหวาน  พวกกาแฟเย็นนี่ตัวดีเลย คนเรามักจะอ้วนจากน้ำอัดลม และอ้วนจากกาแฟเย็น  ถ้าเราลดได้ก็จะทำให้แผนการกินน้อยของเราได้ผลทันที  ผมเปลี่ยนจากกาแฟเย็นมาเป็นกาแฟดำ  หากชงเองก็ใส่แต่กาแฟ ไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาล  หากไปสั่งกินที่ร้านก็สั่งกาแฟดำ  ซึ่งแก้วแรกที่เริ่มกินกาแฟดำก็ต้องบอกว่า เปรี้ยวมาก ฝาดมาก  แต่ก็ทนกินไปให้ชิน  ส่วนขนมหวาน ขนมถุงกรอบๆ  ของกินมันๆที่แสนอร่อยทั้งหลาย ผมงดเลย ไม่แตะไม่กินเลย

DSCF3862

เพียงเท่านี้เราก็จะใช้ชีวิตแบบ เผาผลาญพลังงานได้อย่างสม่ำเสนอ และจะน้ำหนักตัวลดลงได้ตามเป้าคือ 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

ร้านขนมปังและกาแฟ Khagee

ผมเห็นภาพร้านกาแฟที่ชื่อ Khagee ครั้งแรกทางทวิตเตอร์  เป็นภาพที่ใครสักคนแชร์มา  ภาพร้านที่มีกำแพงขาว มีแสงสว่างส่องจากนอกร้าน ตู้ขนมเค้ก โต๊ะไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งร้านที่มีแต่พองาม ชวนให้ร้านดูดี  ดูน่าแวะได้ไม่ยากเลย

เข้าไปหาข้อมูลในเน็ตก็พบข้อมูลเพิ่มเติมอยู่บ้าง  มีรีวิวในเว็บพันทิป  มีคนอื่นๆเคยถ่ายรูปเอาไว้บ้าง  บางภาพก็ถ่ายธรรมดาดูเป็นร้านทั่วไป  ซึ่งภาพส่วนใหญ่ไม่ได้สวยเท่ากับที่เห็นในทวิตเตอร์  แต่ตอนนี้ผมจะย้อนกลับไปดูภาพในทวิตเตอร์ภาพนั้นก็หาไม่เจอแล้ว

พอมีโอกาสไปเชียงใหม่ก็เลยตั้งใจแวะไปดู  ก็เพิ่งได้เห็นกับตามว่าเป็นร้านเล็กๆ  ตั้งอยู่ริมถนน ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเชียงใหม่  ร้านเล็กมาก มีโต๊ะนั่งในร้านประมาณ 4-5 โต๊ะเท่านั้น ตู้ขนมก็ตู้เล็กๆ  แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาก็คือ หน้าตาขนมดูดีน่ากิน  และพอได้ลองกินแล้วก็ต้องทึ่งว่า ขนมอร่อย…

อีกเรื่องก็คือ ในร้านมีพนักงานให้เห็น 6 คน ไม่รวมกับด้านหลังร้านที่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คาดว่าจะมี 7-8 คนในร้าน  ร้านกาแฟมี 5 โต๊ะ แต่มีพนักงาน 6 คนอยู่ในร้านคอยบริการลูกค้า มันไม่ธรรมดาเลย  เพราะร้านทั่วไปที่เคยเห็น โต๊ะจะเยอะกว่าพนักงานมาก  บางร้านมี 6 โต๊ะกับพนักงาน 2 คนเท่านั้น  แต่ Khagee ไม่ใช่

กินเสร็จในร้าน ซื้อกลับโรงแรมด้วย 2 ชิ้น  ได้ถุงมา 2 ถุง  ร้านใช้ตัวหนังสือเรียบง่ายทำป้ายร้าน  และพิมพ์ชื่อร้านบนถุง รูปแบบการพิมพ์เดาว่าเป็นระบบตรายางหรือเป็น letterpress ถุงขนมอาจเป็นถุงสำเร็จ การพิมพ์ชื่อร้านบนถุงเป็นระบบทำมือ  สังเกตุจากรอยเปื้อนที่ไม่เหมือนกันของสองถุง  รอยเส้นตัวหนังสือไม่คมกริบ มีอาการบิดเบี้ยวเล็กๆ น้ำหนักกดกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ  เป็นเสน่ห์ของงานทำมือ  ร้านนี้ควรได้ลองแวะชิมเพราะเป็นตัวอย่างความเรียบง่าย น้อยนิด แต่สร้างผลมหาศาล

เสียงเพลงในร้านมาจากลำโพงสองตัวที่วางไว้ด้านหลังตู้ขนม ดูผ่านๆเป็นลำโพง bose 301  แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น series  ไหน  น้ำเสียงเด่นๆของมันคือ มีเสียงเบสที่มากและชัด ทำให้น้ำหนักเสียงเพลงสมบูรณ์  เสียงในร้านไม่ดังจนรบกวนการพูดคุย แต่ยังคงมีคุณภาพเสียงที่ดีสามารถนั่งฟังปล่อยอารมณ์ไปตามเพลงได้ในขณะที่โต๊ะอื่นยังคงพูดคุยกันได้

ลูกค้าในร้านส่วนใหญ่สะพายกล้องมากันคนละตัว คิดว่าช่างภาพหลายคนคงเคยแวะมาที่นี่ และร้านนี้ก็คงดังขึ้นเพราะช่างภาพนั่นเอง

chiangmai-set1- (53)
chiangmai-set1- (26)
chiangmai-set1- (42)
chiangmai-set1- (43)
chiangmai-set1- (29)
chiangmai-set1- (54)
chiangmai-set1- (36)
chiangmai-set1- (44)
chiangmai-set1- (37)

ปล  ร้าน  Khagee มีอยู่ใน google maps

ถุงหิ้วถ้วยกาแฟ

โลกแห่งความคิดไม่เคยหยุดนิ่ง วันนี้เป็นอีกวันที่ผมได้เห็นความคิดดีๆ มันคือ ถุงหิ้วถ้วยกาแฟ

ผมเป็นลูกค้าร้านกาแฟที่ปากซอยมานานหลายเดือนแล้ว ทุกครั้งก็จะถือแก้วกาแฟติดมือออกจากร้านเนื่องจากซื้อทีละแก้ว ส่วนใครที่ซื้อมากกว่า 1 แก้วก็จะเห็นว่ามีถุงหิ้วมาให้ด้วย เป็นถุงพลาสติกใส่ของธรรมดา แล้วก็ใส่แก้วกาแฟไว้ในนั้น 2 ใบ

วันนี้ผมเห็นถุงหิ้วแบบ 1 ถ้วย เห็นแล้วชอบทันที ผมรู้สึกว่ามันเป็นการออกแบบที่ลงตัวและฉลาดและมีแนวคิดเรื่องอนุรักษ์ผสมอยู่ พลาสติกห้ิวถ้วยมีหูหิ้ว 1 อัน เหมือนกับเอาถุงปกติสองหูมาแบ่งใช้ได้สองครั้ง มันช่วยให้คนซื้อกาแฟแบบ 1 แก้วแล้วอยากได้ถุงหิ้วสามารถประหยัดพลาสติกลงไปได้ครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย ร้านค้าก็น่าจะประหยัดต้นทุนค่าถึงพลาสติกลงไปได้สัก 50% หรือมากกว่า แบบนี้ วิน-วิน ได้กันทุกฝ่ายเลย ชอบ ชอบ

กาแฟและดนตรี ที่ร้านวาวี

ร้านกาแฟวาวี เป็นร้านที่ถูกพูดถึงในอินเทอเน็ตมาค่อนข้างนาน ผมได้ยินว่าเป็นร้านกาแฟที่มีการแสดงดนตรี เลยเกิดความสนใจที่จะมาดูให้เห็นกับตา ตำแหน่งของร้านอยู่ที่ซอยอารีย์1 วันนี้ว่างก็เลยแวะไป

เดินทางตอนบ่าย ขึ้นทางด่วนแล้วไปแวะที่ลาวิลล่าก่อน แวะทำไมก็จำเหตุผลไม่ได้ ไปดูเครื่องเสียงในร้าน iStudio นิดนึง แวะซื้อขนมและแผ่นซีดีเพลงแล้วก็ออกมา ออกจากลาวิลล่าร์ก็เลี้ยวเข้าซอยอารีย์ ซึ่งในรอบแรกผมหาร้านไม่เจอ เพราะไม่รู้ว่าอยู่ซอยไหน เลยตัดสินใจแวะปั๊มน้ำมันแล้วหาข้อมูลในอินเทอเน็ตว่าที่อยู่ร้านมันอยู่ตรงไหนของซอยอารีย์

ออกจากปั๊มน้ำมันก็เลี้ยวเข้าซอยอารีย์อีกครั้ง ครั้งนี้รู้แล้วว่าอยู่ ซอย 1 และรู้เพิ่มมาว่าวงดนตรีจะมาเล่นตอน 17.30 – 20.00 น. โดยประมาณ ที่จอดรถในซอยอารีย์ 1 ค่อนข้างน้อย อาศัยจอดแนบฟุตบาธ ซึ่งมีพื้นที่ให้จอดไม่กี่สิบคัน ถ้าจังหวะคนเยอะรับรองไม่มีที่จอดแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แต่มันจะเป็นไปได้สำหรับคนบ้านไกลอย่างผมได้ยังไง แต่วันนี้ก็โชคดีที่ได้ที่จอดรถ เพราะผมไปถึงประมาณสี่โมงเย็น มันเป็นช่วงเวลาที่คนยังไม่เยอะมาก ผมได้โต๊ะนั่งที่บริเวณด้านนอกของร้าน กาแฟเย็นแก้วละ 65 บาท ผมซื้อแล้วนั่งแช่เลย รอเวลาจนเย็นวงดนตรีถึงจะมาเริ่มตั้งเครื่อง

ในร้านเป็นบรรยากาศร้านกาแฟมาตรฐาน แต่คนที่แวะมาที่ร้านทุกคนล้้วนแต่มีคอมพิวเตอร์พกมาด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ บางโต๊ะก็เป็นกลุ่มมาคุยงาน โต๊ะข้างๆไกลๆผมเห็นกระดานเขียนแบบกำลังถูกใช้งานอยู่ มันเป็นที่รวมของคน IT ไปเสียแล้ว นอกจากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแล้ว มือถือเกือบทั้งร้านจะเป็น iPhone หรือไม่ก็ Black Berry และที่สำคัญ ที่นี่ผมเห็น iPad ตัวจริงหลายเครื่องมาก ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลยแม้ว่าจะเดินห้างฟอร์จูนบ่อยแค่ไหนก็ตาม

โต๊ะด้านนอกก็มีทั้งแบบม้านั่ง และเป็นแบบโต๊ะพร้อมเก้าอี้ ผมได้ที่นั่งเป็นโต๊ะพร้อมเก้าอี้ สามารถนั่งคุยหรือนั่งทำงาน หรือประชุมกันก็ได้ แต่วันนี้มาคนเดียว

กาแฟรสชาดปกติ ผมไม่ได้รู้สึกว่าอร่อย แต่บรรยากาศของร้านมันก็น่านั่งดี น่าจะถูกใจผู้คนแถวนี้ เพราะซอยอารีย์มีคอนโดเยอะ น่าจะมีคนในพื้นที่ใช้บริการเยอะ แต่ที่เยอะจริงๆน่าจะเป็นผู้คนจากทั่วกรุงเทพที่ชอบฟังเพลงเสียมากกว่า เพราะวันนี้ผมก็แวะมาที่ร้านเพื่อฟังเพลง

วงดนตรีเริ่มเล่นประมาณ 18.00 น. เล่นเพลงป็อปทั่วไป มีเพลงเบเกอรี่ค่อนข้างเยอะ แนวเพลงที่เล่นก็เป็นเปียโนไฟฟ้าพร้อมกับนักร้องและเครืองเคาะเล็กๆน้อยๆ เป็นลักษณะที่เรียบง่ายดี การแสดงของนักดนตรีก็อยู่ในระดับที่เป็นกันเอง เล่นเอาความรู้สึกสนุกมากกว่าจะเล่นเพื่อโชว์ฝีมือ ผมคิดว่าการแสดงแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีกว่าการพยายามโชว์ เพราะมันรู้สึกสบายและไม่ต้องพยายามฟัง

ไม่ได้ถ่ายรูปวงดนตรีไว้เพราะว่านั่งอยู่ค่อนข้างไกลจากจุดแสดง และไม่อยากลุกไปถ่ายภาพ มาคนเดียวกลัวว่าลุกแล้วจะมีคนมานั่งแทน ก็เลยนั่งฟังไปเรื่อยๆ กาแฟหมดแล้วไปตั้งนานแล้ว แต่ผมก็ยังนั่งแช่ไม่เลิก นั่งจนเบื่อก็ลุก มาคนเดียวนั่งได้ไม่นานเพราะไม่รู้จะคุยกับใคร

ร้านกาแฟสวยดี A day in summer

ร้านกาแฟบนถนนอรุณอัมรินทร์  แต่งร้านสวย  ดูดี  มีเน็ทให้เล่นฟรี  แวะไปตามคำบอกเล่าของเพื่อน  วันหลังจะกลับไปนั่งนานๆหน่อย