ปิ้งแซนวิชกับ coleman sandwich cooker

coleman_sandwish_3

อุปกรณ์แค้มปิ้งชนิดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ที่ปิ้งแซนวิช เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการทำอาหารกินง่ายๆในขณะที่เที่ยวแบบนอนเต๊นท์ เจ้าสิ่งนี้ผมเห็นในเน็ต และรู้สึกว่ามันเรียบง่ายและน่าใช้ เลยสั่งซื้อมาเก็บไว้ รอจังหวะได้ไปเที่ยวนอนเต๊นท์แล้วจะไปทำแซนวิชกิน

20200524170609_IMG_0357

โควิด19 ทำให้การท่องเที่ยวดับวูบ อุทยานแห่งชาติประกาศปิดไม่มีกำหนด ดังนั้นทริปนอนเต๊นท์ทำอาหารกินก็ต้องงดด้วยเช่นกัน แต่เราก็มีอุปกรณ์แล้วก็ทำกินเล่นเองในบ้านก็ได้ แต่จะให้เท่ห์และมีเหตุผลที่ดีหน่อยก็ต้องหาข้ออ้าง เพราะในบ้านมีที่อบแซนวิชไฟฟ้าอยู่ เลยหาเรื่องเก็บใบไม้แห้งมาทำเชื้อเพลิง โดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดและลงมือทำด้วยเป็นลูกชายผมเอง

20200524170555_IMG_0355

coleman sandwich cooker ออกแบบมาเป็นกระทะอบแซนวิชสองชิ้นประกบกัน ด้ามจับถอดออกจากกระทะได้ ตอนใช้งานจะหมุนเกลียวเข้าไป มีตัวล็อคที่ด้านมือจับไม่ให้กระทะสองใบแยกออกจากกัน ตอนใช้งานก็แค่ประกอบขึ้นมา แล้ววางแซนวิชเข้าไปด้านใน ปิดกระทะ แล้วปิ้ง…

20200524170627_IMG_0358

แซนวิชปกติเราก็ต้องเตรียมขนมปังและไส้ที่ใส่ก็ต้องจัดหามา แต่ด้วยความง่าย เซเว่นมีแซนวิชพร้อมอบให้เราใช้ ผมซื้อ แซนวิชชีส เอาไว้ทำกิน ปกติก็จะทำด้วยเครื่องอบไฟฟ้า เป็นแบบเสียบปลั๊กไฟ แป๊ปเดียวก็เสร็จ แต่พอจะทำกับ coleman เราก็ต้องมีขั้นตอนยากๆหน่อย คือ กวาดใบไม้แห้งมารวมกัน จุดไฟใช้ใบไม้แทนถ่าน แล้วก็ปิ้งบนเตาไฟ

20200524171351_IMG_0359

ควันขโมงลอยออกไปไกล ถ้าช่วงนี้มีปัญหา PM2.5 คงโดนข้างบ้านนินทาแน่นอน แต่ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาการระบาดของโควิด19 เรื่องฝุ่น 2.5 เป็นเรื่องเล็ก ดังนั้นเราก็จุดไฟกันห้านาทีก็คงไม่มีใครว่า ควันไฟเยอะเมื่อตอนที่เริ่มเผา พอเปลวไฟเริ่มเยอะขึ้นควันก็จาง ไฟจากใบไม้แห้งร้อนเพียงพอจะทำให้แซนวิชสุก เกรียม วางกระทะแซนวิชด้านละ 2-3 นาที กะประมาณด้วยความรู้สึก ใช้จมูกดมกลิ่นชีสที่ร้อน ถ้ากลิ่นเริ่มโชยหอม ก็กลับกระทะสักรอบ

20200524171442_IMG_0361

ผ่านไปประมาณ 5 นาที ไฟก็มอด ใบไม้แห้งที่เตรียมไว้ก็หมด แซนวิชคงเสร็จพอดี เปิดออกมาสีเหลืองเกรียมน่ากิน ให้ลูกลองกินดูก็ได้คำตอบว่า อร่อย เป็นอันเสร็จการทดสอบ coleman และ สภาพของกระทะก็ดำๆ ต้องล้างเขม่าออก และดูเหมือนจะดำล้างไม่ค่อยออกด้วย

20200524172449_IMG_0367

ชีวิตดีๆกับความสะดวกของเครื่องทำแซนวิชไฟฟ้าตัวละห้าร้อยบาท ก็สู้ coleman ที่ต้องปิ้งต้องจุดไฟไม่ได้ coleman ราคาในเว็บ 950 บาท ค่าส่งต่างหาก ผมลองใช้งานเพราะอยากได้ของไปใช้เที่ยวตอนนอนเต๊นท์ ถ้าการท่องเที่ยวนอนโรงแรมยังไม่สามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสได้ การนอนเต๊นท์ก็น่าจะเป็นช่องทางที่มีอยู่เพียงอย่างเดียวให้พวกเรายังคงได้เที่ยวกันอยู่ ไทยเที่ยวไทยก็จะเป็นกิจกรรมที่พาประเทศเราผ่านวิกฤตินี้ไปได้ แม้จะสะบักสะบอม เศรษฐกิจยับเยินไปแล้ว แต่เราก็น่าจะยังมีแรงเที่ยวในประเทศกันอยู่ ขอให้รายได้ไปถึงประชาชนทั่วประเทศ อ้าว….. จบแบบไม่เกี่ยวกับแซนวิชเลย

coleman sandwich cooker https://shope.ee/1fo6rkUB8g

20200524173255_IMG_0373

เที่ยวแก่งกระจาน กางเต๊นท์นอนที่แค้มป์บ้านกร่าง

ผมกับภรรยาพาลูกเที่ยวรอบนี้ เราพาลูกไปนอนเต๊นท์กันที่แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

IMG_20191216_102608

แก่งกระจานผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเด็กที่เคยได้มาเที่ยวก็แวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจานหลังจากที่เที่ยวทะเลชะอำเสร็จแล้ว ส่วนสมัยเรียนหนังสือชั้นมัธยมโรงเรียนก็มีพาไปค่ายนอนพักริมทะเลชะอำแล้วขากลับแวะมาเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตอนทำงานเองแล้วนัดกับเพื่อนมาหัดถ่ายรูปทะเลหัวหิน ขากลับก็แวะเที่ยวเขื่อนแก่งกระจาน ตลอดชีวิตที่มีเวลาเหลือเฟือตอนนั้นรู้จักแค่เพียงว่า แก่งกระจานคือเขื่อน รู้แค่นั้นเอง

เพื่อนในกลุ่มถ่ายรูปอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักเดินทาง ชอบเที่ยวป่าก็เคยเล่าให้ฟังว่า ที่แก่งกระจานไม่ได้มีแค่เขื่อน มีผีเสื้อให้ดูเป็นล้านตัวแบบที่ไม่มีที่ไหนในประเทศ มีพะเนินทุ่งที่ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปเท่านั้น มีทะเลหมอกด้วย ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้เลย หลังจากที่ได้ข้อมูลใหม่ก็เลยตั้งใจว่าถ้าลูกโตพอจะพาลูกไปบ้าง และจะไปกางเต๊นท์นอนด้วย เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆทั้งพ่อแม่ลูกเลย

20191214125507_IMG_0007
แวะกินมื้อกลางวันที่ร้านอาหารวิโรจน์ ้ ร้านหน้าเขื่อน มีวิวเขื่อนให้ดู

เราเริ่มต้นตอนเช้าที่ย่านบางขุนนนท์ ใช้เส้นทางบรมราชชนนีไปทางพุทธมณฑลสาย4 แล้วไปออกมหาชัย ไปต่อที่ถนนพระราม2 และไปเรื่อยๆตามทาง ไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม ขับไปถึงจังหวัดเพชรบุรี เลี้ยวขวาเพื่อเลี้ยวเข้า อำเภอท่ายาง แล้วขับตามป้ายแก่งกระจาน สุดท้ายเรามาถึงเขื่อนแก่งกระจาน บริเวณที่ทำการอุทยาน หาข้าวมื้อกลางวันกินแถวนี้ แล้วก็ขับรถต่อไปยัง แค้มป์บ้านกร่างซึ่งเป็นจุดที่เราจะกางเต๊นท์ รอบนี้ผมยังไม่ไปพะเนินทุ่ง เพราะไม่มีรถโฟวิล ผมขับรถฮอนด้าฟรีด ไม่เหมาะจะลุยไปตามทางป่าหรือทาง offroad

20191214144707_IMG_0042
IMG_20191214_221659

เราถึงแค้มป์บ้านกร่างประมาณบ่ายสองโมง ที่ทางเข้าเราจ่ายค่าธรรมเนียมค่าบริการต่างๆ แล้วเจ้าหน้าที่จะให้กรอกแบบฟอร์มใบหนึ่งสำหรับคนที่จะมากางเต๊นท์ แบบฟอร์มนี้ระบุชื่อและจำนวนคน จากนั้นเมื่อเราเข้าไปถึงที่ทำการหน้าแค้มป์เราก็ไปยื่นแบบฟอร์มให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่คงเก็บแบบฟอร์มเอาไว้เพื่อคอยเช็คจำนวนคนว่ามาสามแล้วกลับสาม ออกไปครบคนไหม น่าจะเป็นจุดประสงค์เรื่องความปลอดภัย เพราะอุทยานแห่งชาติก็คือป่านั่นเอง ระหว่างทางที่ขับไปก็ผ่านถนนสวยๆ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ เราแวะถ่ายรูปกันอยู่สองจุด มีป้ายบอกตลอดทางให้ระวังสัตว์และระวังเรื่องทางชัน การขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์รถยนต์ให้เป็น ต้องรู้จักใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้นทางชัน รถเก๋งสามารถผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจการเปลี่ยนเกียร์เล็กน้อย

20191214160435_IMG_0068
เต๊นท์พ่อแม่ลูกที่ได้รับความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวข้างๆกัน

ขั้นตอนการกางเต๊นท์เองก็เป็นเรื่องมึนงงสำหรับคนไม่เคยทำ ผมเคยกางเต๊นท์เองเมื่อปีก่อน เป็นเต๊นท์ที่ยืมมาจากเพื่อน รอบนี้ก็ยืมเพื่อนเหมือนเดิม เพราะในอดีตไม่เคยเที่ยวแบบกางเต๊นท์ ส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวแบบนอนสบายมากกว่า พ่อแม่ลูกกางเต๊นท์กันช้ามาก จนกลุ่มที่กางเต๊นท์อยู่ข้างๆมาช่วย ทำให้เสร็จเร็วขึ้น และเต๊นท์ของเราก็กางสำเร็จ จัดของวางของพร้อมที่จะทำอาหารเย็นแล้ว

20191214163953_IMG_0142
ลานกางเต๊นท์ติดกับจุดจอดรถ ขนของสะดวกมาก

ในแค้มป์บ้านกร่างเป็นจุดกางเต๊นท์ที่มีลานจอดรถไม่ห่างจากลานกางเต๊นท์ และมีลำธารอยู่ข้างที่กางเต๊นท์เลย ทางไปลำธารจะมีโป่งดินที่มีผีเสื้อมาเกาะเยอะมาก ในเวลาฤดูร้อนจะมีผีเสื้อมหาศาล สวนหน้าหนาวอากาศเย็นผีเสื้อแทบไม่มีเลย ที่เห็นด้วยตาน่าจะไม่ถึง 100 ตัว และผีเสื้อตัวใหญ่ๆสีสวยๆก็ไม่มีให้เห็นเลย

20191214161251_IMG_0085
ลำธารเย็นๆ กับแสงแดดตอนสี่โมง เป็นช่วงเวลาแสงสวยที่สุดของวันนี้เลย

แม่กับลูกเดินเล่นน้ำในลำธาร อากาศเย็นมากสำหรับช่วงเวลาที่เราเลือกมาเที่ยวที่แค้มป์แห่งนี้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมากรุงเทพก็อากาศเย็นมาก เย็นจนเหมือนไปเดินเที่ยวญี่ปุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยของกรุงเทพ 7 วันที่ผ่านมา กลางวัน 25องศา ตอนเช้ามืด 17องศา ส่วนที่แค้มป์บ้านกร่าง ก็เย็นกว่ากรุงเทพ ตอนกลางคืนน่าจะประมาณ 15 องศา

20191214161856_IMG_0124
แดดสี่โมงเย็นกับลำธาร และแนวต้นไม้ด้านหลังที่รับแสงพอดี

เรารีบอาบน้ำกันก่อนจะค่ำ เพื่อไม่ให้อากาศเย็นเกินไป เพราะแค่นี้ก็เย็นมากแล้ว ลูกผมใจแข็งมากสามารถอาบน้ำได้ตลอดรอดฝั่ง ตอนผมอาบเองเพิ่งจะรู้ว่าน้ำเย็นแค่ไหน ตอนยังไม่โดนน้ำเราก็หนาวกันอยู่แล้ว ยิ่งโดนน้ำยิ่งหนาว ทีแรกนึกว่าจะเหมือนกรุงเทพเหมือนตอนอยู่บ้านที่ว่าเวลาอาบน้ำเย็น ถ้าเราโดนน้ำต่อเนื่องสักพักร่างกายเราจะทนความเย็นได้และจะอาบน้ำได้ไม่รู้สึกหนาว แต่ที่แค้มป์นี้ตรงกันข้าม น้ำเย็นมาก โดนเมื่อไหร่ก็หนาวเมื่อนั้น พอหยุดอาบก็จะหนาวน้อยลง ไม่มีคำว่าร่างกายชิน สรุปว่าอาบให้จบเร็วแล้วรีบเช็ดตัวรีบใส่เสื้อผ้าจะได้ไม่หนาวมาก

20191214175620_IMG_0165

อาหารเย็นวันนี้เราเตรียมเตาแก๊สปิ๊กนิกเอาไว้ มีของสดและมาม่าติดมาทำกินกัน สอนลูกต้มน้ำ ต้มมาม่า ใส่ลูกชิ้น ใส่ปูอัด ใส่สิ่งที่อยากกิน มีลูกชิ้นปิ้งด้วย ทุกอย่างอร่อยและสนุก อาจจะเป็นเพราะหิวด้วย อาจจะเป็นเพราะทำเองด้วย พวกเรานั่งกินนั่งคุยนั่งเล่นกันถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก มันเป็นเวลาคุณภาพจริงๆ

20191214180605_IMG_0175
20191214180613_IMG_0176
กินอย่างสบายอารมณ์ เด็กที่ซนเป็นลิงสามารถนั่งนิ่งๆได้ เดาว่ากำลังสบายใจสุดๆ

เด็กที่ซนมากอย่างขอบฟ้า ชอบเล่น ชอบออกกำลัง หยิบจับสิ่งของรวดเร็วและไม่ระวัง แต่ก็มีเวลานั่งนิ่งๆดูวิวต้นไม้ อากาศเย็นสบาย ใส่เสื้อผ้าอบอุ่น กินไปจนหมดชาม เป็นชั่วโมงที่พ่อกับแม่ดีใจมากที่ประสบการณ์นี้เป็นประสบการณ์ที่ลูกชอบ จากการสอบถาม ขอบฟ้าชอบลำธาร ชอบป่า ชอบอากาศเย็น จบจากมื้อเย็นเราเก็บล้างและเข้าเต๊นท์เล่นเกมส์เศรษฐีกันอีกเป็นชั่วโมง จนค่ำๆอากาศเย็นลงเรื่อยๆ เราเตรียมถุงนอนมาคนละใบ ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้นอนขดในถุงนอนได้ตลอดคืน

20191214191956_IMG_0181
IMG_20191215_024807
อากาศเย็นมาก ดูอุณหภูมิจากมือถือที่แสดงค่าของพื้นที่นี้ประมาณ 18องศาตอนเข้านอน ส่วนกลางดีกไม่ได้ดูแล้วแต่หนาวมากยิ่งกว่าตอนเข้านอนเยอะ
20191214184846_IMG_0180
เต๊นท์ที่พร้อมจะนอน ไฟในเต๊นท์เป็นตะเกียง LEDที่แขวนไว้ในเต๊นท์

ภาพเต๊นท์ตอนใกล้ๆค่ำ สภาพจริงๆคือแสงกำลังจะหมด มองด้วยตาทุกอย่างกำลังจะสีดำ มีเพียงแสงจากเต๊นท์และตะเกียงจากเต๊นท์อื่นๆ ผมตั้งกล้องบนก้อนหิน ปรับจุดโฟกัสไว้ที่เต๊นท์ ตั้งให้กล้องวัดแสงอันเดอร์ 1 สต๊อปเพื่อให้โทนภาพสีเข้ม แต่ยังไม่มืดดำจนไม่เห็นรายละเอียด ถ่ายภาพกลางคืนต้องพยายามทำให้รายละเอียดฉากหลังยังมีอยู่ หากดำเกินไปภาพจะดูขาดบรรยากาศ ตอนกลางดึกผมปลุกลูกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ กลางดึกนี้หนาวสุดๆ ถ้าให้เดาน่าะสัก 15องศา

20191215073936_IMG_0185

เช้าวันใหม่กับอากาศเย็น 18องศา เราออกไปเดินเล่นที่ลำธารอีกครั้ง ลำธารใกล้ๆตอนเช้าไม่มีคนเลย ขอบฟ้าอยากไปดูน้ำ เราก็ไปนั่งเล่นถ่ายรูปเล่นกัน มีนกตัวใหญ่ๆเกาะอยู่ให้มอง แสงแดดเริ่มส่อง ต้นไม้ใบไม้เริ่มแสดงสีสันของตัวเองบรรยากาศตอนเช้าดีสุดๆ

IMG_20191215_210919
IMG_20191215_184837
20191215081214_IMG_0230
20191215080252_IMG_0218

ตอนเช้าในลานกางเต๊นท์มีแต่กาแฟและควันจากเตาไฟจางๆ ควันลอยขึ้นไปโดนแสงแดดที่ส่องทะลุใบไม้ลงมาเกิดเป็นภาพแสงยามเช้าที่ดูเหือนภาพวาดในนิทาน ช่างภาพที่มีกล้องอยู่ในมือก็เก็บภาพมาตามสัญชาตญาณ แสงแบบนี้นี่เองที่ต้องมีอยู่ในภาพยามเช้า

20191215082223_IMG_0248

แสงเช้าที่ส่องผ่านใบไม้ มองไปทางไหนก็มีมุมน่าสนใจให้ถ่ายภาพ การถ่ายภาพธรรมชาติเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะเราคาดเดาไม่ได้ว่าเราจะเห็นอะไรสวยบ้าง คนที่ถ่ายภาพชีวิตลูกมายาวนานหลายปี ไม่ค่อยมีเวลามองธรรมชาติอย่างผมก็รู้สึกดีกับสิ่งที่เห็นในอุทยาน ฟ้าใส แดดสวย ต้นไม้มีชีวิตชีวา ป่าเราสมบูรณ์และน่าหวงแหนมาก

IMG_20191215_185505

หลังจากกินมื้อเช้ากันเรียบร้อยแล้วเราก็ทะยอยเก็บเต๊นท์ ขอบฟ้าช่วยเก็บเต๊นท์อย่างตั้งใจ ความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วม ตั้งแต่การยกของ จัดเต๊นท์ ทำอาหาร จนถึงเก็บทุกอย่างเป็นนิสัยการเดินทางท่องเที่ยวที่ดี มีนกกระยางแวะมารอกินอาหารเหลือๆจากเต๊นท์ต่างๆ ขอบฟ้าวิ่งไล่จับอยู่นานเลย

20191215102828_IMG_0276

ขอบฟ้าขอกล้องไปถ่ายเล่น ขอบฟ้าอยากได้ภาพนกมาก แต่ก็ไม่สามารถถ่ายได้อย่างถูกใจ ผมอธิบายให้ลูกฟังว่าการถ่ายภาพนกเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยถ่าย และแม้ว่าจะเคยหัดถ่ายแล้วก็ต้องใจเย็นด้วย ยิ่งเราใจร้อนวิ่งตามนกเราจะไม่ได้ภาพเลย ขอบฟ้ายังไม่เข้าใจ ผมเลยเล่าให้ฟังว่าผมเคยถ่ายมาแล้ว เดี๋ยวจะพาไปถ่ายภาพนกที่บางปู ที่นั่นมีนกเยอะและมีให้ขอบฟ้าหัดถ่ายอย่างเหลือเฟือ

IMG_20191215_103645
IMG_20191215_194313

เราออกเดินทางจากแค้มป์บ้านกร่างประมาณ 11 โมง และขับรถกลับไปที่เขื่อนเพื่อไปเที่ยวที่สันเขื่อน บนเขื่อนแก่งกระจานจะมีสันเขื่อนให้ขับรถขึ้นไปได้ และเราสามารถชมวิวและถ่ายรูปได้ตามใจ เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และใช้ผลิตไฟฟ้าด้วย เราถ่ายรูปกันสักพักก็ลงมากินมื้อเที่ยง แล้วเดินทางกลับกรุงเทพ

IMG_20191215_115153
IMG_20191215_203449
IMG_20191215_203435

บันทึกการเดินทางด้วยรถยนต์ด้วย ผมเติมน้ำมันที่ปั๊มแถวบ้าน แล้วตั้งระยะทางเป็น 0 เมื่อมาถึงจุดจอดรถที่แค้มป์บ้านกร่าง หลักกิโลในหน้าจอแสดงผลไว้ที่ 228.3 กิโลเมตร และเมื่อขับรถกลับมากรุงเทพจอดรถในบ้าน หลักกิโลเมตรแสดงตัวเลข 452.9 กิโลเมตร ระยะทางขาไป กับขากลับ เกือบจะเท่ากันเลย รถฮอนด้าฟรีด เติมน้ำมัน e20 อัตราสิ้นเปลืองหน้าจอแจ้งไว้ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร