เปลี่ยนกรองแอร์สวิฟท์ swift2012 aug2025

สวิฟท์ปี 2012 ใช้งานมานานแล้ว และก็นึกได้ว่าพ้นกลางปีไปก็ควรจะเปลี่ยนไส้กรองอากาศสำหรับแอร์ในรถ หรือเรียกสั้นๆว่ากรองแอร์ ไส้กรองชิ้นนี้ราคาประมาณ 100 บาท ซื้อจาก online เวลาสั่งซื้อก็ซื้อทีละ 2 อันเพื่อให้ประหยัดค่าส่ง

mi air purifier 2s เปิดไม่ติด

IMG_20250721_201843880

อยู่ๆเครื่องกรองอากาศก็เปิดไม่ติด อาการคือไฟไม่เข้า เครื่องไม่รับคำสั่งใดๆเลย หน้าจอก็ดับสนิท สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่ภาคจ่ายไฟ ก็เลยลองเปิดเครื่องดู โดยพลิกด้านล่างขึ้นมาเราจะเห็นชื่อรุ่นและรายละเอียดของเครื่องนี้ จะมีจุกยางที่ทำหน้าที่เป็นขาปิดรูน็อตอยู่ ต้องแกะจุกยางออกด้วยการงัดด้วยวัสดุบางและแข็งแรงสักหน่อย

IMG_20250713_132302281
IMG_20250721_191827882

Mi Air purifier 2S เป็นเครื่องกรองอากาศทรงยอดนิยม ใช้งานมาหลายปี ตอนนี้เปิดไม่ติดก็คาดว่าเป็นที่ภาคจ่ายไฟ เปิดท้ายเครื่องออกมาก็ลุ้นว่าจะมีฟิวส์ให้เปลี่ยนไหม ปรากฏว่าไม่มี เจอแต่บอร์ดวงจรไฟฟ้า ลองแกะบอร์ดออกมาแล้วดูคร่าวๆ ลักษณะบอร์ดมีไฟเข้า 100-240Vac และมีไฟออกจากบอร์ด 24Vdc 1.7A ก็น่าจะเป็นบอร์ดสำหรับจ่ายไฟให้ตัวเครื่องกรองอากาศ เมื่อลองเอามิเตอร์วัดไฟขาออกปรากฏว่าไม่มีแรงดันใดๆเลย เดาว่าบอร์ดจ่ายไฟน่าจะเสีย

IMG_20250713_132830573
IMG_20250713_132841719
IMG_20250713_130552866
IMG_20250713_132356242
IMG_20250713_130602384

ไปหาในเว็บค้นคำว่า acm4-aa-pw0(f) ซึ่งเขียนอยู่บนบอร์ด ก็จะเห็นขึ้นมาหลายบอร์ดหลายราคา ลองเข้าไปอ่านรายละเอียด ก็เลือกลองสั่งสักอัน ใช้เวลารอสินค้ามาส่งประมาณ 8 วัน เมื่อได้มาแล้วก็จัดการเปลี่ยนแทนของเดิมเลย ผลคือ ทำงานได้ เครื่องกรองอากาศกลับมาทำงานปกติแล้ว

Screenshot 2568-07-21 at 21.55.04

บอร์ดที่ได้มามีขนาดและรูใส่น็อตเท่าเดิม สามารถใส่แทนของเดิมได้ไม่ต้องดัดแปลง สเป็คทางไฟฟ้าที่มากับบอร์ดใหม่จะเป็น ไฟเข้า 100-240Vac ไฟออก 24Vdc 2.0A ซึ่งให้กำลังไฟได้มากกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนคอนเน็คเตอร์เชื่อมต่อก็สามารถใช้กับเครื่องเดิมได้ทันที เปลี่ยนเสร็จแล้วก็ลุ้นกันว่าจะใช้งานได้ยาวนานแค่ไหน

สั่งซื้อบอร์ดภาคจ่ายไฟ mi 2s ที่นี่ https://s.shopee.co.th/1VoO8paW1p

IMG_20250721_191959304

เปลี่ยนกรองแอร์สวิฟท์ swift2012

วันนี้สลับรถกับคุณภรรยาใช้งาน แล้วรู้สึกว่าอากาศแปลกๆ ง่วงนอนเร็วกว่าปกติ เลยลองดูกรองแอร์ในรถซะหน่อย ก็เห็นว่ามีฝุ่นจับจนดำและมีเศษใบไม้เศษกระดาษตกอยู่บนกรองแอร์เยอะ หยิบของใหม่ที่เตรียมไว้มาแกะแล้วถ่ายรูปเทียบกับ มันต่างกันเยอะเลย ก็จัดการเปลี่ยนซะ ย้อนดูประวัติของเก่า กรองแอร์ในรถที่เปลี่ยนออกมาถูกเปลี่ยนเมื่อกลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเอง ผ่านมาแค่ห้าเดือนก็ดำขนาดนี้แล้ว น่ากลัวมากฝุ่นในประเทศไทย

20250126172300_IMG_1588

ผมชอบเลือกใช้กรองแอร์สีขาว เพราะมันจะเห็นความดำของฝุ่นได้ดี เวลาถอดออกมาเปลี่ยนก็จะทำให้รู้สึกสบายใจที่ได้เปลี่ยนเป็นตัวใหม่สีขาวซะที กรองแอร์ทำหน้าที่กรองอากาศในรถยนต์ให้สิ่งสกปรกที่ลอยอยู่ในอากาศถูกกรองเก็บไว้ ไม่ลอยปะปนไปกับอากาศในรถยนต์ ความละเอียดของกรองแอร์จะอยู่ในระดับประมาณ pm1 หรือเล็กกว่า นั่นก็หมายความว่ากรองแอร์สามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้ด้วย ทำให้เราสามารถหายใจในรถยนต์ได้อย่างสบายใจแม้ว่าอากาศนอกรถจะมีฝุ่นในระดับอันตรายต่อสุขภาพ

20250126172346_IMG_1591

กรองแอร์ราคาประมาณ 100-200 บาท ถ้าจะเปลี่ยนทุก 3-6 เดือนตามสภาพฝุ่นในประเทศไทยก็สามารถเปลี่ยนได้บ่อยๆเพราะราคาไม่แพง เราไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องกรองอากาศมาติดในรถยนต์ให้เสียเงินซ้ำซ้อน เพราะระบบกรองของแอร์รถยนต์ทำงานได้ดีอยู่แล้ว

เปลี่ยนกรองแอร์ฟรีด honda freed 27jan2019

กรองแอร์หน้าตาแบบในภาพ ผมเอาไปลองทำระบบกรองฝุ่นเล่นๆ ก่อนที่จะเอามาใส่ในรถเพื่อเปลี่ยนไส้กรองอากาศของระบบแอร์ในฟรีด

IMG_4958

กรองแอร์ หรือกรองอากาศของระบบแอร์ในรถเป็นสิ่งที่ควรเปลี่ยนทุก 6 เดือน เนื่องจากฝุ่นจะสะสมมากจนเกิดเป็นสีดำ  หากเราเอาของเก่าใช้งาน 6 เดือน มาวางเทียบกับของใหม่แกะกล่อง เราจะเห็นความแตกต่างอย่างน่าตกใจ

P_20141108_140051

ภาพเก่าที่เคยถ่ายเปรียบเทียบไว้

 

ปรับปรุงเครื่องกรองฝุ่น ใส่ฟิลเตอร์คุณภาพสูง

เพื่อนที่ทำงานติดตั้งระบบท่อแอร์และท่อประปาได้คุยกับผมเรื่องฟิลเตอร์กรองฝุ่น  เขาแนะนำให้ผมรู้จักฟิลเตอร์ชนิดหนึ่งที่ใช้ติดกับระบบแอร์  และในบ้านเขาก็ใช้ฟิลเตอร์นี้ในการรับมือกับฝุ่น pm2.5 ที่กำลังปกคลุมประเทศไทยอยู่ในช่วงนี้  และเพื่อนก็ใจดีแบ่งให้ผมมาลองใช้งานดู

pic59734_js mat

 

ฟิลเตอร์ชนิดนี้เรียกว่าอะไรผมก็ไม่ได้รู้จักชื่อที่ถูกต้อง  รู้แต่ว่ามันเป็นชนิด g4 ที่มีคุณสมบัติกรองฝุ่นขนาด 1ไมครอนได้ประมาณ 90% นั่นก็หมายความว่า ฝุ่น pm2.5 ก็สามารถกรองได้อย่างไม่มีปัญหา  ก็เลยทำการทดลองกับกล่อง DIY ที่ทำขึ้นมา

2019-02-10_06-46-13

กล่องนี้ ในตอนที่แล้วผมสร้างจากกล่องใส่นม uht และใช้หน้ากากอนามัย 2 แผ่นแทนฟิลเตอร์กรองฝุ่น  ติดพัดลมด้านหนึ่งของกล่อง  และติดฟิลเตอร์ด้านตรงข้ามกับพัดลม  ผลการวัดค่าด้วยเครื่องวัดฝุ่น Xiaomi air detector ก็ทำงานได้ดีระดับนึงคือลดฝุ่นลงได้ประมาณ 50%  แต่ยังไม่ดีเท่ากับเครื่องฟอกอากาสที่ทำขายกันในห้าง  แต่ก็ถือว่าหลักการทำงานใช้งานได้เช่นกัน

 

เมื่อได้ฟิลเตอร์ G4 มาทดสอบ  ก็จัดการรื้อหน้ากากอนามัยออก แล้วเอาฟิลเตอร์ตัดเท่ากับกล่อง มาปิดแทนหน้ากากอนามัย  ใช้เทปพันสายไฟติดฟิลเตอร์เข้ากับตัวกล่อง  แล้วก็ทดลองใช้งาน วัดค่าฝุ่นที่ออกมาจากกล่องนี้  ผลก็คือ มันทำงานได้ดีมาก  ลดฝุ่นในห้องจาก 10ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เหลือ 1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น นั่นหมายความว่าฟิลเตอร์ตัวนี้ทำงานได้ตรงสเป็คเลย

 

 

 

IMG_20190209_215444

 

 

IMG_20190209_215409

 

 

 

 

IMG_20190209_215255

 

เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอยากจะออกแบบเครื่องกรองอากาศขึ้นมาใช้เองเลย  ถ้าใส่กล่องไม้ในรูปทรงที่ดูดี ใช้พัดลมที่ตัวใหญ่ แรงลมเยอะ และเสียงเบาลง  รวมถึงจะได้ออกแบบกล่องที่ใหญ่พอสำหรับติดฟิลเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้เครื่องกรองฝุ่นสามารถลดฝุ่นในห้องได้เร็วกว่ากล่องขนาดเล็ก  มันจะเป็นเครื่องกรองฝุ่นที่น่าใช้มาก  เพราะมันสวยตามใจเรา  เพราะมันเป็นของที่เราทำเอง และเพราะมันทำงานได้ดีด้วย

 

 

สรุป

เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองฝุ่น ใช้เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน คนทั่วไปสามารถสร้างขึ้นเองได้  อาศัยเพียงพัดลมและฟิลเตอร์กรองฝุ่นเท่านั้น  พัดลมเราหาได้จากอะไหล่อิเล็คทรอนิกส์ที่เหลืออยู่ในบ้าน  หาได้จากคอมพิวเตอร์เก่า หรือแม้แต่ร้านขายอะไหล่ไฟฟ้าก็น่าจะมีขายอยู่ในราคาไม่ถึง100 บาท  แหล่งจ่ายไฟเราได้จากหม้อแปลงเก่าๆ จะใช้ 12v ก็ได้  จะใช้ 5v ก็ได้ ขึ้นอยู่กับพัดลมที่เราเลือกใช้  หม้อแปลงเก่ามันก็น่าจะมาจากของเหลือในบ้านอีกเช่นกัน  บ้านที่ใช้อินเทอเน็ตความเร็วสูงก็จะมีเร้าเตอร์ที่ใช้งานมายาวนาน เปลี่ยนความเร็วอินเทอเน็ตก็ต้องเปลี่ยนเร้าเตอร์  ของเก่าก็เลิกใช้ หม้อแปลงเก่าจากเร้าเตอร์เก่าๆก็เก็บวางไว้เฉยๆ หรือบางคนอาจใช้หม้อแปลงจากexternal harddisk ที่คนเล่นเน็ตมักจะซื้อติดบ้านไว้อยู่แล้วตั้งแต่อดีตนานแสนนาน  ฮาร์ดดิสก์ที่ซื้อเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ป่านนี้ก็ไม่พอใช้ต้องซื้อใหม่แน่นอน  เหลือหม้อแปลงแน่ๆ  ส่วนฟิลเตอร์ก็จะเป็นตัวสำคัญที่สุด  เราลดฝุ่นได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับฟิลเตอร์  หน้ากากอนามัยชิ้นละ 5 บาท 2ชั้นก็10บาท ซื้อได้ไม่ต้องคิดเลย  ใส่ 2 ชั้นก็ทำงานได้   หรือจะใช้ฟิลเตอร์เฉพาะทางแบบผมก็ได้  หรือจะใช้ฟิลเตอร์กรองแอร์ที่อยู่ในรถยนต์ก็ได้  ฟิลเตอร์กรองแอร์ก็ทำงานดักฝุ่นที่ระดับ 0.3ไมครอนได้เช่นกัน  กรองแอร์ในเว็บขายของก็มีราคาชิ้นละร้อยกว่าบาทเท่านั้น

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562  บันทึกไว้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนงบน้อย และคนไม่อยากซื้อเครื่องกรองอากาศเยอะเกินไป   และในวันนี้ค่าฝุ่นในอากาศก็ลดระดับลงมาอยู่ในระดับปกติแล้ว  มันลดลงมาสัก  7 วันแล้ว  แต่พยากรณ์ค่าฝุ่นจากเว็บก็บอกว่า อาจจะมีฝุ่นปกคลุมอีกระลอกในวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2562  เตรียมของไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ

.

.

.

.

.

.

.

 

แถมให้อีกภาพครับ

ด้านซ้ายคือยังไม่เสียบไฟ พัดลมยังไม่หมุน เครื่องยังไม่ทำงาน

ด้านขวาคือเสียบปลั๊ก เปิดเครื่องทำงานไปประมาณ 2 นาที

PHOTO_COLLAGE1549821521206

เริ่มใช้เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi

IMG_0126

 

Xiaomi air purifier 2s ตัวนี้ผมเพิ่งได้มาหมาดๆในวันนี้เลย  สืบเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงฝุ่นปกคลุมประเทศไทย  และกรุงเทพก็อาการหนักมาก  ฝุ่นชนิด pm2.5 มันปกคลุมซะจนถนนหนทางมองไปเจอแต่ฝุ่นสีขุ่นๆ  เลยอยากได้เครื่องฟอกอากาศสักเครื่องมาใช้งาน

IMG_0128

ติดต่อซื้อกับเพื่อนแล้วก็ได้มาในวันนี้  จัดการรื้อออกจากกล่องแล้วก็เสียบปลั๊กๆ เริ่มต้นใช้งานเครื่องฟอกตัวนี้ก็เลยบันทึกภาพเก็บไว้  เมื่อเริ่มเปิดเครื่องโดยการกดปุ่มเพาเวอร์เพียงครั้งเดียวตัวเลขที่แสดงบนจอภาพก็ขึ้นมาระดับ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร   ระบบการทำงานของ Xiaomi 2s ตัวนี้ถูกตั้งให้ทำงานอัตโนมัติ พัดลมดูดอากาศด้านในจะหมุนเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปริมาณฝุ่น  กดปุ่มเปิดเครื่องครั้งแรก เครื่องจะทำงานในโหมด Auto ทันที  ถ้าฝุ่นเยอะพัดลมจะหมุนเร็ว ได้ยินเสียงชัดเจน แต่ยังไม่รำคาญมาก  และถ้าเข้าสู่ระดับฝุ่นน้อย ไฟแสดงสถานจะจะเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว  พัดลมก็จะหมุนช้าลง

 

ระดับเสียงของพัดลมตอนทำงานปกติแทบไม่ได้ยินเสียงเลยหากเราใช้งานในห้องแอร์  เพราะแอร์ในห้องจะทำงานเสียงดังกว่า Xiaomi ชัดเจน  ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากเครื่องกรองอากาศเลย  ส่วนในโหมดเบา ตอนที่ฝุ่นน้อยๆ จะต้องนั่งฟังใกล้ๆถึงจะได้ยินเสียงกว่าเครื่องทำงานอยู่  หากเราอยู่ห่างจากเครื่อง 1 เมตร เราแทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของมันเลย  และหากเรากดให้เครื่องทำงานในแบบ night mode เสียงที่ว่าเบาแล้ว ก็จะเบาลงไปอีกเท่าตัว  ต้องเงี่ยหูฟังใกล้ๆ หรือเอามือไปจ่อด้านบนเพื่อสัมผัสดูว่าลมออกไหม ซึ่งลมก็ยังคงออกอยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นในเรื่องของเสียง ถือว่า Xiaomi ทำงานได้เบามาก  เบาที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องกรองอากาศอื่นๆที่ผมเคยใช้งานมา

 

จุดเด่นของ  Xiaomi air purifier 2s ก็คือ มีปุ่มเปิดเครื่องแค่ปุ่มเดียวด้านบน  กด1 ครั้งเพื่อเปิด  กด 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมด  หากอยากปิดเครื่องให้กดค้างสัก 3 วินาที เครื่องก็จะปิดตัวเองลง  การมีปุ่มเดียวมันเข้าใจง่าย  เครื่องอื่นๆที่เคยใช้งานมีปุ่มจำนวนมาก  การมีปุ่มมากทำให้เกิดอาการมึนงงว่ามันคืออะไรบ้าง  มันอาจจะเอาไว้ใช้ปรับให้ละเอียดตรงกับความต้องการ  แต่ความต้องการจริงๆในการใช้งานเครื่องกรองอากาศคือ กรองอากาศให้ฝุ่นน้อยที่สุด และอย่าส่งเสียงดัง นั่นก็ใช้แค่ปุ่มเดียวก็พอ ถือว่า Xiaomi เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

 

ลูกเล่นอื่นๆของ Xiaomi 2s ตัวนี้ ก็มีเรื่องหน้าจอแสดงสถานะฝุ่น  pm2.5 และสามารถเชื่อมต่อกับ wifi ในบ้านเพื่อสั่งงานและมอนเตอร์ค่าฝุ่นจาก app  ในโทรศัพท์มือถือได้  แม้ว่าเราจะไม่ใช้อินเทอเน็ต ไม่ได้อยากเชื่อมเข้า wifi เครื่องก็ยังทำงานได้  ยังคงเปิดปิดได้  และยังคงเปลี่ยนโหมดการทำงานด้วยปุ่มกดได้  การมี app เอาไว้สั่งการก็เป็นเพียงทางเลือกอำนวยความสะดวกเท่านั้น

 

ไส้กรองของ Xiaomi เป็นรุ่นที่กรองฝุ่นในระดับ hepa หรืออนุภาคขนาดเล็กได้  ฝุ่น pm2.5 ที่สร้างปัญหาให้กับทั่วโลกก็จะโดนดักเก็บด้วยฟิลเตอร์ตัวนี้ได้  การใช้เครื่องกรองอากาศรุ่นนี้จึงช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพได้ดีมาก  หากฝุ่นภายนอกบ้านอยู่ในระดับ ร้อยกว่า  ฝุ่นในห้องนอนก่อนเปิดเครื่องจะอยู่ที่ค่าประมาณ 60-90 หน่วย  และเมื่อเปิดเครื่องทำงาน ภายในเวลาประมาณ 20 นาที ค่าฝุ่นในห้องก็จะลดลงไปเหลือระดับประมาณ 20-30 หน่วย และหากผ่านไปหลายชั่วโมง ค่าฝุ่นก็จะลดลงไปเหลือที่ระดับ 10-20 หน่วย ซึ่งหากเป็นวันที่ฝุ่นด้านนอกน้อย  ค่าฝุ่นในห้องนอนตอนเช้าจะอยู่ระดับไม่ถึง 10 เท่านั้น

 

สรุป

Xiaomi air purifier 2s ทำงานกำจัดฝุ่น pm2.5 ได้จริงในห้องที่ขนาดไม่เกิดสเป็คที่ระบุไว้  แม้จะเอาไปใช้กับห้องที่ใหญ่ขึ้น ปริมาณฝุ่นในห้องก็ลดลงได้เช่นกัน  ก็คือว่าทำงานได้ผลดีมาก  ราคาไม่แพง และเสียงรบกวนของพัดลมเราแทบไม่ได้ยินเลย  นับว่าเป็นของที่ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง

 

 

กรองอากาศในห้องแบบประหยัด

ช่วงเดือนมกราคม 2562 กรุงเทพมีปัญหาฝุ่นปกคลุมหนาแน่นจะน่ากังวล  ซึ่งฝุ่นชนิดนี้คือ pm2.5 ที่เป็นฝุ่นขนาดเล็กกว่าเม็ดเลือดแดง  นั่นหมายความว่ามันสามารถถูกสูดดมและไหลเข้าไปสู่ร่างกายและสามารถเล็ดลอดเข้าสู่อวัยวะในตัวเราได้ง่ายๆเลย  การป้องกันฝุ่นที่ได้รับการแนะนำให้ทำก็คือการใส่หน้ากากกรองฝุ่นเมื่ออยู่นอกบ้าน และหน้ากากจะต้องเป็นรุ่นพิเศษที่สามารถกรองฝุ่นชนิดนี้ได้ด้วย  ซึ่งราคาจะแพงกว่าหน้ากากกันฝุ่นรุ่นธรรมดา  นั่นคือหน้ากากต้องระบุว่าสามารถป้องกันฝุ่น pm2.5 ได้นั่นเอง

 

IMG_4957

ระบบทดสอบ พัดลมวางบนไส้กรอง เป่าลมลงไป ช่องด้านล่างเป็นทางออกของลม

 

ฝุ่นนอกบ้านหนาแน่นมาก และมันก็ค่อยๆซึมเข้าสู่บ้านคน เข้าห้องทุกห้อง  หากเราใช้มิเตอร์วัดปริมาณฝุ่น pm2.5 นอกบ้านวัดได้เท่าไหร่ ในบ้านก็ไม่ได้ปิดสนิทจะมีค่าที่น้อยกว่ากันเพียงเล็กน้อย  เพราะฝุ่นพวกนี้มันกระจายตัวง่าย  ห้องที่เปิดปิดบ่อยหรือไม่ได้ปิดหน้าต่างก็จะมีฝุ่นจากนอกบ้านเข้าสู่ห้องได้  คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็จะไวกับฝุ่นพวกนี้  หากเราสามารถหาเครื่องกรองอากาศมาใช้ได้ก็ควรจัดทำอย่างยิ่ง  ซึ่งการใช้เครื่องกรองอากาศจะมีผลช่วยลดฝุ่นทุกชนิดในห้องลงได้  และค่าฝุ่นในห้องจะเหลือเพียงเล็กน้อยแทบจะเป็น 0 เลย  แต่มันก็ทำได้ในห้องที่เล็กจำกัด เพราะเครื่องกรองอากาศมีความสามารถระบุไว้ว่ามันทำงานได้ในห้องขนาดไม่เกินเท่าไหร่  และ 1 ห้อง ต้องใช้ 1 เครื่อง  ถ้ามีห้องนอนหลายห้อง ก็ต้องซื้อหลายเครื่อง

 

 

 

IMG_4958

พัดลมวางไว้บนเครื่องกรอง เป่าลมเข้าไส้กรอง

 

แต่หากใครไม่สามารถซื้อเครื่องฟอกอากาศได้สำหรับทุกห้องในบ้าน  แต่ละห้องก็ไม่อยากให้มีฝุ่นก็ขอแนะนำให้ลองดัดแปลงสร้างเครื่องกรองอากาศกันเอง  จะได้ประหยัด และมีใช้ในหลายๆห้องในบ้าน  ซึ่งแนวทางนี้จะมีประสิทธิภาพสู้เครื่องกรองอากาศที่ออกแบบมาขายไม่ได้  แต่มันก็ลดฝุ่นในห้องลงได้  แค่ลดได้ก็น่าทำแล้วครับ จริงไหม

 

หลักการของเครื่องกรองอากาศก็จะมีเพียงแค่ พัดลม และ ไส้กรองอากาศ  พัดลมจะดูดลมหรือเป่าลมเพื่อทำให้ลมที่มีฝุ่นไหลผ่านไส้กรอง  และลมจะผ่านไส้กรอง แต่ฝุ่นไม่ผ่าน  ลมที่ออกจากเครื่องก็จะเป็นลมสะอาด  ก็คืออากาศสะอาดนั่นเอง  เราเพียงเลือกไส้กรองที่มีความสามารถในการกรองอนุภาคเล็กๆ และกรอง pm2.5 ให้ได้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

 

แนวออกแบบสร้างเอง  ผมใช้พัดลมระบายความร้อนซีพียูถอดมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าๆที่เลิกใช้แล้ว  พัดลมจากคอมพิวเตอร์จะใช้ไฟเลี้ยง 12 v  แต่เราสามารถเลือกใช้ไฟที่น้อยกว่ามาจ่ายให้พัดลมได้ เราอาจใช้เพียง 6 -9 โวลท์ เพื่อให้พัดลมหมุนช้าลง  จะทำให้เสียงรบกวนน้อยลงไปมากซึ่งเหมาะกับการวางไว้ในห้อง  แหล่งจ่ายไฟก็ใช้ไฟจากอแด๊ปเตอร์เก่าๆที่เหลือจากอุปกรณ์อื่นๆ จะ 6v หรือ 9v หรือ 12v ก็ได้

ไส้กรองอากาศผมเลือกใช้ไส้กรองสำหรับแอร์รถยนต์  บางคนเรียกว่ากรองแอร์  แผ่นกรองแอร์นี้ตามสเป็คจะสามารถกรองฝุ่นที่เล็กลงไปได้ถึง 0.3ไมครอน  ซึ่งฝุ่น pm2.5 ก็เป็นฝุ่นที่เล็กกว่า 2.5ไมครอน  ดังนั้นกรองแอร์รถยนต์สามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้พอสมควร  ไอ้ที่เล็กมากๆก็คงต้องปล่อยไป  ก็เลยเลือกกรองแอร์มาใช้ทำเครื่องกรองอากาศ

IMG_20190118_214151

ก่อนใช้เครื่องกรองอากาศที่ทดลองสร้าง

 

วางพัดลมไว้บนกรองแอร์  แล้วใต้กรองแอร์ก็หนุนด้วยสิ่งของเพื่อให้ลมสามารถผ่านไส้กรองออกมาได้  ปล่อยให้ทำงานอยู่ในห้องสักครึ่งชั่วโมง  ค่าฝุ่นละอองที่วัดด้วยเครื่องวัด air detector  ของ xiaomi ก็ให้ผลการวัดลดลง  จาก 46 ไปเป็น 36 ซึ่งลดลงได้บ้าง  แต่ไม่เท่ากับเครื่องกรองอากาศแท้ๆ  นั่นก็อาจเป็นเพราะเราทดลองทำเป็นแค่ระบบทดสอบหลักการ  หากเราต่อกล่อง ห่อหุ้มตัวกรองให้มิดชิด จัดวางให้ลมจากพัดลมผ่านกรองแอร์ได้ 100%    เชื่อว่าจะลดฝุ่นในห้องได้มากกว่านี้  อ้อ ระบบทดสอบนี้ อยู่ในห้องทำงานพื้นที่เล็กประมาณ 8 ตารางเมตรครับ  ถ้าห้องใหญ่กว่านี้ก็ต้องใช้พัดลมใหญ่กว่านี้ ไส้กรองใหญ่กว่านี้ครับ และถ้าเปลี่ยนไส้กรองเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับกรองอากาศในห้องโดยเฉพาะก็น่าจะลดฝุ่นได้เร็วกว่านี้

 

หมายเหตุ

  • หน่วยวัดของ Xiaomi air detector มีหน่วยเป็น ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
  • อากาศในห้องนอนที่ใช้เครื่องกรองอย่างจริงจัง จะแสดงค่าบน Xiao mi ประมาณ 5-12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
  • ในรถยนต์ที่เพิ่งสตาร์ทก่อนออกจากบ้าน จะวัดค่าฝุ่นในรถได้ 6-10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศเมตร

 

 

 

Pm2.5