รีวิว soundcard Epos gsx300

เมื่อประมาณเกือบสองปีก่อนผมได้มีโอกาสได้รีวิวหูฟังตัวนึง เป็นหูฟังสำหรับเล่นเกมส์ เป็นหูฟังครอบหูและมีไมค์โครโฟนสำหรับสื่อสาร ในตอนนั้นได้ลองเล่นแล้วก็ได้ค้นพบความสามารถบางอย่างของระบบที่ใช้ในหูฟัง นั่นคือระบบเสียง 7.1 ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศชนิดหนึ่งที่มีใช้ในวงการหูฟัง และดูเหมือนจะได้รับความสนใจในวงการเกมส์อย่างมาก

IMG_20220208_203654

หูฟังตัวนั้นคือ Sennheiser Gsp350 ซึ่งเป็นหูฟังแบบครอบหู เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต usb โดยตัวมันเองมี usb soundcard ในตัว และไม่สามารถใช้ฟูฟังตัวนี้กับพอร์ต 3.5มม. ได้ เพราะตัวมันไม่มีแจ็คชนิดนี้ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกับหูฟังตัวนี้คือระบบเสียงรอบทิศที่มีตราสัญลักษณ์ของดอลบี้ปรากฏอยู่บนสาย มีคำว่า Dolby Audio อยู่ด้วย และวงจรเสียงรอบทิศที่จำลองในหูฟังตัวนี้ก็น่าจะจัดการโดยเทคโนโลยีของบริษัท Dolby และผลการใช้งานก็ยอดเยี่ยม หูฟังสามารถให้เสียงใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงหนังมาก เสียงพูดอยู่ตรงกลางด้านหน้าเหมือนมีลำโพงเซ็นเตอร์ เสียงซ้ายและขวาถูกดันไปอยู่ด้านหน้าคล้ายลำโพงคู่หลักของระบบเสียงโฮมเธียเตอร์จริงๆ มันเป็นประสบการณ์การฟังเสียงรอบทิศในหูฟังที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะมันสมจริงทั้งตำแหน่งและอรรถรสการดูหนัง

ในช่วงเวลานั้นผมสนใจที่จะหาคำตอบต่อว่า ถ้าผมไม่ใช้หูฟังตัวนี้ แล้วผมอยากจะใช้ระบบเสียงรอบทิศกับหูฟังตัวอื่นที่ชอบได้หรือไม่ หลังจากที่ได้ลอง gsp350 จบไปแล้ว หลายเดือนต่อมาผมก็ได้ทดลองซื้อหูฟังราคาไม่แพงที่มีคำว่า 7.1 อยู่บนกล่อง และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb มาลองใช้ ก็พบว่า มันไม่เหมือนกับ gsp350 เลย ไม่มีความใกล้เคียงเลย เหมือนไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แสดงว่า 7.1 มีแบบไม่ได้เรื่องด้วย

IMG_0581

ในใจก็ยังคงหาวิธีการต่อไป จนได้มาพบกับ Gsx300 ซึ่งเป็นซาวการ์ดตัวหนึ่งที่เป็นรุ่นเล็กของอนุกรม gsx โดยแปะยี่ห้อ EPOS ทำให้เข้าใจได้ว่า EPOS คือบริษัทในเครือเดียวกับ Sennheiser ที่เน้นทำตลาดวงการเกมส์ เพราะปกติ Sennheiser จะมีชื่อเสียงในวงการออดิโอวิดีโอ ระบบไมค์ ระบบหูฟัง ระดับมืออาชีพ Gsx300 เป็นน้องเล็ก มีรุ่นกลางเป็น Gsx1000 และ มีรุ่นใหญ่เป็น Gsx1200

ในเว็บ EPOS ให้ข้อมูลไว้ว่า GSX1200 และ Gsx1000 จะมีกำลังขับที่มากกว่า และเป็นอุปกรณ์ที่มีอินเทอเฟสบนตัวเครื่องที่มากกว่า สามารถสั่งการเปลี่ยนโหมดได้โดยตรง และสามารถชื่อต่อกับหูฟังและไมโครโฟนได้หลากหลายกว่า แต่สิ่งที่เหมือนกันกับ Gsx300 ก็คือ ทุกตัวมีระบบเสียง 7.1 คุณภาพเดียวกัน นั่นทำให้ผมสนใจ Gsx300 และเป็นที่มาของรีวิวนี้

gsx300back

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

General
USB standard USB 2.0
Total harmonic distortion < 0.01%
Cable length 1200 mm
Connector plugs
3.5 mm headset socket
3.5 mm microphone socket
Micro USB
Compatibility PC
Warranty 2 years, international
Supported sample rates Main Audio 24 bit 96 kHz 7.1 @ 16 bit 48 kHz with EPOS Gaming Suite
Audio outputs Headphones
Recommended headphone impedance 25 – 75 Ω
Packaging Dimension of product packaging (L x W x H) 168 x 144 x 57 mm
Package weight (incl. complete product and packaging) 309 g
Dimension of master carton (L x W x H) 350 x 310 x 310 mm
Units in distributor master carton 20
Languages English, German, French, Spanish, Russian, Chinese Content of delivery
What’s in the box USB cable, Quick Start Guide, Safety Guide

Gsx300 เป็น external soundcard ที่เชื่อมต่อเข้าคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb บนตัวมันมีช่อง micro usb 1 ช่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ชนิด TRS และช่องเสียบไมค์ 3.5 มม. อีก 1 ช่อง มีปุ่มหมุนวอลลุ่มอยู่ด้านหน้า มีปุ่มโหมดอีก 1 ปุ่มเอาไว้เปลี่ยนโหมดการทำงาน ทั้งหมดมีเท่านี้ วงจรภายในทำงานยังไง ใช้ชิปเสียงอะไรก็ไม่ได้บอกไว้ แม้แต่กำลังขับก็หาไม่เจอว่ามีกี่วัตต์ รู้แค่มันถอดรหัสเสียงได้ระดับ 24bit 96K ในแบบสเตอริโอ และทำงานได้ที่ 16bit 48k ในแบบเสียงรอบทิศ

13337_0

Gsx300 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น และซอร์ฟแวร์ที่ประมวลผลละเอียดที่ต้องลงเพิ่มก็จะทำงานบนวินโดน 10 และ 11 เท่านั้น ไม่มีซอร์ฟแวร์สำหรับ osx และวินโดส์เก่าๆเลย หมายความว่าถ้าจะใช้ระบบเสียง 7.1 จาก Gsx300 ต้องใช้บนระบบปฏิบัติการวินโดส์ 10 หรือ 11 เท่านั้น ส่วนถ้าจะต่อคอมฯแล้วไม่ลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทาง คือจะใช้แค่ไดรเวอร์กลางๆ เราก็สามารถใช้มันเป็น soundcard usb ได้ และสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้เลย มันทำงานได้บนวินโดส์ 7 ทำงานได้กับโทรศัพท์มือถือ android และคาดว่าจะใช้กับ osx ได้ หากใช้แค่ไดรเวอร์พื้นฐาน

ทดลองฟัง

ผมต่อ Gsx300 เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows11 และทดลองฟังเพลง ทดลองดูหนัง ทดลองระบบเสียง 7.1 รวมถึงไปลองต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows7 ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องทำงานหลักตัวหนึ่งที่ใช้ดูข้อมูลในเว็บ ดูภาพ และฟังเพลง ซึ่งการต่อกับ windows7 จะไม่สามารถลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทางได้ และผมก็ตั้งใจจะใช้ฟังเพลงเป็นหลักอยู่แล้ว

กับการฟังเพลง Gsx300 ให้เสียงที่กระฉับกระเฉง เสียงคมชัด เบสใหญ่ กลางชัด แหลมเพราะ ทุกอย่างดีกว่าการฟังผ่านช่องแบบออนบอร์ด เสียงเพลงสวิงขึ้นลง ดังและเบาในช่วงที่กว้างยิ่งกว่าเดิม คอนทราสต์ของเสียงมีน้ำหนักที่จะแจ้งอย่างมาก เสียงฟาดกลอง เสียงดีด เสียงเคาะ ทุกเสียงเหล่านี้มีความฉับไว มีความเร็วที่สมกับธรรมชาติของเครื่องดนตรี ซึ่งหาไมไ่ด้กับเสียงชนิด on board ที่ติดกับกับเครื่อง การอัพเกรดระบบเสียงในคอมพิวเตอร์ด้วย Gsx300 เป็นช่องทางที่ให้เสียงดีในทันที ความแตกต่างรับรู้ได้ชัดเจนมาก

epos-soft-3

Gsx300 สามารถขับหูฟังได้หลากหลาย หูฟังเกือบทุกตัวที่ผมมีก็ได้ทะยอยนำมาลองไปทีละตัว Hifiman re400a , Audio Technica Ath-250m, Koss Ksc35, Akg K701 หูฟังเหล่านี้ทำงานได้ดีกับ Gsx300 เหมือนกับว่า Gsx300 เป็น Dac-amp ที่มาอัพเกรดระบบเสียงให้กับคอมพิวเตอร์เลย ซึ่งจริงๆมันก็คือ Dac-amp นั่นเอง เสียงย่านความถี่ต่ำบนหูฟังตัวใหญ่ๆอย่าง Akg K701 ทำให้ประทับใจมาก การส่งเสียงกลองกระเดื่องอย่างทรงพลังยังคงมีให้อยู่อย่างชัดเจน ไม่จม ไม่หลบ ไม่ผ่อนกับเสียงเลย คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับการต่อผ่าน Headphone amp ที่ใช้อยู่อย่างมาก แต่จะเปิดดังมากเหมือนแอมป์หูฟังก็จะไม่ได้ เพราะแอมป์หูฟังที่ผมใช้อยู่เป็นแอมป์ทำเอง ใช้ไฟเลี้ยงสูงกว่า usb นั่นทำให้แอมป์หูฟังแบบ Diy ให้เสียงสวิงขึ้นลงได้มันส์กว่า

20220205181547_IMG_0607

สัญญาณรบกวนในวงจรของ Gsx300 อยู่ในระดับต่ำ สามารถใช้กับหูฟังความไวสูงได้โดยไม่ได้ยินเสียงซ่า หูฟังเล็กๆทั้งหลายก็จะสามารถใช้งานร่วมกันได้ไม่ต้องทนฟังเสียงซ่า บางเพลงที่มีเสียงเครื่องดนตรีความถี่ต่ำ Gsx300 ก็ผลักดันหูฟังตัวใหญ่อย่าง Akg K701 ให้ส่งเสียงย่านต่ำได้ไม่คลุมเครือ เราติดตามโน้ตต่ำๆ หรือเครื่องดนตรีย่านต่ำได้อย่างสนุกสนานน่าฟัง นับว่ามันสามารถใช้งานเป็นอุปกรณ์ฟังเพลงตัวหลักของระบบเครื่องเสียงได้เลย สเป็คแบบนี้ หากเป็นสักสิบปีก่อน เราอาจจะต้องจ่ายเงินกัน 5000-10000 บาท สำหรับ Dac-amp ที่ขับหูฟังใหญ่ๆได้ แต่ในวันนี้มันอยู่ในอุปกรณ์ตัวเล็กๆน่ารักแต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลย

ลองฟังเสียง 7.1

การฟังเสียงรอบทิศผมฟังจากการดูหนังผ่าน netflix และ ดูจากไฟล์ Mkv ที่เคยโหลดเก็บไว้โดยเปิดผ่านโปรแกรมเล่นไฟล์ VLC พบกว่า เสียงรอบทิศแบบ 7.1 ให้คุณภาพเสียงที่ดี ไม่มีอาการเฟสเสียงแปลกๆหลอนหูในแบบที่เคยได้ยินกับโปรแกรมเสียง 3d แบบเกือบยี่สิบปีก่อน ในเว็บและในคู่มือ ไม่ได้บอกว่าการถอดรหัสเสียงของ Gsx300 ใช้ซอร์ฟแวร์หรือตัวถอดรหัสเสียงรอบทิศของใคร เพราะไม่ได้มีคำว่า Dolby Digital หรือ Dts ในซอร์ฟแวร์และในกล่อง ในคู่มือในเว็บ ไม่มีบอกเลย เข้าใจว่าการถอดรหัสเสียงรอบทิศ 7.1 ของ Gsx300 จะเป็นถอดรหัสตามใจ EPOS เอง ก็คือออกแบบระบบการจำลองเสียงเองไม่ได้อ้างอิงมาตรฐาน dolby

กับการดูหนัง เสียงพูด เสียงที่ควรจะอยู่กับลำโพงเซ็นเตอร์ในโรงหนัง ก็ให้เสียงที่อยู่ตรงกลางหัว ดันออกไปด้านหน้าเล็กน้อย ไม่ได้ผลักออกไปอยู่ไกลแบบที่เคยได้ยินใน Gsp350 ซึ่งถ้าให้สิ่งที่เคยได้ยินนั้นเทียบเป็น 100% เสียงรอบทิศของ Gsx300 จะดันเสียงออกไปได้ระดับประมาณ 70-80% เท่านั้น ตรงนี้น่าเสียดายมากที่ไม่สามารถทำได้เท่าระบบของ Dolby Audio ความแตกต่างของ 7.1 ใน Gsx300 จะต่างกันที่ความรู้สึกของตำแหน่งลำโพงหน้า คือหน้าซ้าย หน้าขวา และลำโพงเซ็นเตอร์เป็นหลัก ส่วนเสียงแวดล้อม หรือ แอมเบี้ยนส์ ที่โอบล้อมคนฟังนั้นมีครบถ้วน ถือว่าทำได้ดีเลย เสียงแวดล้อมมันทำให้บางครั้งเราต้องหันหลังกลับไปมองว่ามันเป็นเสียงคนเดินในห้องหรือเป็นเสียงในหูฟัง

ท่ามกลางเสียงโอบล้อม แล้วมีเสียงพูด เสียงหลักที่เหมือนจะออกมาจากลำโพงหน้า มันผสมเสียงกันอย่างลงตัว เสียงพูดลอยเด่นท่ามกลางเสียงโอบล้อม มันปล่อยเสียงออกมาอย่างกลมกลืน ถือว่าการจำลองเสียงรอบทิศแบบ 7.1 จาก Gsx300 ทำได้ดีสมราคาคุย และดีเกินราคาไปมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่หยิบยื่นให้ ดูเหมือนพลังการประมวลผลเสียงรอบทิศที่อยู่ใน Gsx300 จะมีความสามารถสูงลิบ คงเป็นเพราะฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่มันทำงานได้รวดเร็วและไร้รอยต่อ ประสบการณ์การฟังเสียงสามมิติในอดีตที่เคยลองใช้ วันนี้มันเปลี่ยนไปหมดเลย

ผมไม่ได้เป็นคนเล่มเกมส์ แต่อาศัยลองเปิด youtube ในคลิปที่เป็นเกมส์แนว fps และ openworld ซึ่งจะเป็นคลิปทดสอบเสียงรอบทิศในเกมส์ เข้าใจว่าเสียงในเกมส์จะไม่ได้รองรับระบบเสียง 5.1 แบบหนังทั่วไป คือเสียงรอบทิศที่ไม่ใช่ dolby digital ไม่ใช่ dts มันน่าจะเป็นเสียงรอบทิศแบบตัวใครตัวมัน อย่างมากก็คล้ายๆ dolby surround หรือ binaural recording ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดในเกมส์มากนัก แต่ฟังเสียงคลิปทดสอบแล้ว การแยกแยะทิศทางทำได้พอใช้ เสียงโอบล้อมและความกระหึ่มของเสียงนั้นจัดเต็มและฟังสนุกมาก พอฟังคลิปเกมส์แล้วรู้สึกได้เลยว่าเสียงในเกมส์มันโอบล้อมยิ่งกว่าเสียงจากหนังฮอลีวู้ดเสียอีก เหมือนกับว่ามันเสกเสียงดีๆแน่นๆให้เราฟังกันเลย เสียงฝีเท้าชัดขึ้นเมื่อเทียบกับเสียงออนบอร์ด ความแม่นยำในการเดาทิศทางนั้นทำได้ง่ายขึ้น เสียงปืนยิงแล้วมีเบส มีน้ำหนักของการระเบิดที่คมชัด ถ้าเปิดดังมากๆอาจจะตกใจได้

20220205181227_IMG_0592

สรุป

Gsx300 เป็น external soundcard ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีมาก สามารถส่งสัญญาณความละเอียดสูงระดับ 24bit 96kHz ออกมาได้ ใช้เป็น Dac-amp สำหรับหูฟังได้ดีมาก หากทำงานในแบบ 7.1 หรือระบบเสียงรอบทิศก็ให้ความกลมกลืนของเสียงรอบทิศและเสียงหลักของหนังได้ดี หากย้อนไปสักสิบปีที่แล้ว การจะหา Dac+Amp ที่ใช้งานกับหูฟัง เน้นคุณภาพระดับ 24bit 96K จะต้องใช้เงินหลายพันหรือเป็นหมื่นบาทเลยก็มี ซึ่ง Dac เหล่านั้นจะเน้นแค่การแปลงเสียงสำหรับฟังเพลงเท่านั้น ไม่ได้มีการรับสัญญาณไมค์ และ ไม่ได้มีเสียงรอบทิศให้ใช้ Gsx300 เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่หน้าตาน่ารักและใช้งานได้คุณภาพ เป็นของที่น่าใช้อีกชิ้นหนึ่งจริงๆ

หากต้องการซื้อ เชิญที่นี่ครับ
https://shope.ee/99wMP5U8Pw?share_channel_code=6

รีวิว หลอดไฟ motion sensor

หลอดไฟที่ติดสว่างเมื่อมีคนเดินผ่านนั้นมีมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลอดไฟปกติในความสว่างเท่ากัน จากเดิมที่เคยมีราคาแตกต่างกันหลายเท่า ในปัจจุบัน ปี คศ 2022 นี้เริ่มมีราคาลดลงจนเหลือเพียงความแตกต่าง 2เท่า นั่นทำให้มันเริ่มน่าใช้ขึ้น แต่เราก็หลงลืมว่ามันมีให้ใช้ จนกระทั่งเราได้เห็นการใช้งานในหนังเกาหลี

นางเอกเดินเข้าบ้านทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็มีหลอดไฟสว่างอัตโนมัติ เมื่อนางเอกวางของ เก็บรองเท้าเสร็จ เดินไปจุดอื่นในบ้าน สักพักหลอดไฟก็ดับ การดูละครเกาหลีทำให้เรานึกได้ว่ามีหลอดไฟแบบนี้ขายอยู่ และมันก็ราคาไม่แพงแล้ว สามารถซื้อมาเปลี่ยนแทนหลอดเก่าได้เลย ผมก็เลยไปซื้อมาใช้บ้าง

หลักการการตรวจจับความเคลื่อนไหวจะมีหลายเทคโนโลยี เมื่อก่อนเราจะมีการตรวจจับด้วยระบบ PIR ซึ่งเป็นการตรวจจับคลื่นความร้อน หรือแสงอินฟาเรดที่ปล่อยออกมาจากตัวคน การตรวจจับแบบนี้แม่นยำและประหยัดพลังงาน แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง มันต้องไม่มีอะไรกั้นระหว่างเซ็นเซอร์กับตัวปล่อยอินฟาเรด ถ้ามีสิ่งของร้อนๆใกล้เคียงกับมนุษย์เซ็นเซอร์ก็จะรับรู้เหมือนมีมนุษย์อยู่ การนำไปใช้งานต้องมีการพิจารณาให้เหมาะสม และใช้งานคู่กับระบบตรวจจับอื่นๆเพื่อช่วยให้การตรวจจับผิดพลาดน้อยลง

IMG_0186

ตัวตรวจจับด้วยเทคนิคไมโครเวพ เป็นการใช้หลักการสะท้อนของคลื่นความถี่สูงมาตรวจสอบการเคลื่อนไหวของวัตถุ หลักการคล้ายกับค้างคาว ยิงคลื่นความถี่ออกไป วัดการสะท้อนกลับ แล้วประมวลผลว่ามีวัตถุอยู่หรือไม่ ตัวประมวลผลของระบบนี้จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของระยะทางที่วัตถุสะท้อนคลื่นทำให้รู้ว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ ข้อดีของระบบไมโครเวพคือ มันเป็นคลื่นความถี่สูง มันสามารถทะลุสิ่งกีดขวางได้ เหมือนเตาไมโครเวพที่ยิงคลื่นทะลุแก้ว ทะลุกล่องใส่อาหาร แล้วไปกระทบกับอาหารได้ ซึ่งเราก็ไม่ต้องกังวลกับอันตราย เพราะคลื่นไมโครเวฟในหลอดไฟเป็นคลื่นพลังงานต่ำ ไม่ใช่ระบบพลังงานสูงแบบในเตาไฟฟ้า ระบบนี้ดูแล้วเหมาะสมกับการตรวจสอบคนเดินผ่านมากกว่านั่นเอง

Image2

หลอดไฟที่ซื้อมาใช้ผมซื้อมา 2 ยี่ห้อ คือยี่ห้อ eve กับ lamptan โดยทั้งคู่ใช้เทคนิคแบบไมโครเวพ เป็นหลอด LED ความสว่าง 9 วัตต์ ขั้วเกลียว e27 ราคาขายสู่สีกันมาก จุดที่นำไปใช้คือนำไปใส่ดาวน์ไลน์ที่ฝังไว้ในฝ้าเพดาน และตัวโคมดาวไลท์มีแผ่นแก้วปิดให้ดูเรียบไม่เห็นหลอดไฟด้วย ดังนั้น ระบบคลื่นไมโครเวฟจะเป็นพระเอกที่ทำงานทะลุโคมได้

ผลการใช้งานคือ ทั้งคู่ตรวจสอบคนเดินผ่านได้จริง แต่ระยะทำการไม่เท่ากัน eve จะตรวจสอบได้ไกลประมาณ 3-4เมตรที่พื้น ส่วน lampton จะทำงานได้ระยะทางประมาณ 2 เมตรบนพื้นเท่านั้น ระยะทางที่แตกต่างกันตรงนี้เชื่อว่าเป็นเพราะความไวของเซ็นเซอร์ถูกตั้งมาให้ไม่เท่ากัน ตัวที่ตรวจได้ไกลก็ดูเหมือนจะดีกว่า แต่มันก็ตรวจสิ่งที่อยู่นอกห้องด้วย นั่นคือห้องข้างๆตอนที่ยังไม่เปิดประตูเข้ามาหากมีการเคลื่อนไหว หลอดไฟ eve ก็จะตรวจจับและทำงานเปิดไฟให้ ขณะที่ Lampton จะทำงานระยะใกล้ๆเท่านั้น ต้องเดินไปแทบจะเห็นโคมไฟถึงจะมีไฟสว่างขึ้นมา ความไวที่แตกต่างกันตรงนี้เป็นจุดที่น่าสนใจ เราสามารถเลือกใช้หลอดที่ไวมากกับจุดที่โล่งและกว้าง และเราสามารถเลือกใช้หลอดที่ไวน้อยกว่าในจุดที่อยากตรวจสอบแบบแคบ ดังนั้นเราก็เลือกให้เหมาะสมกับสภาพห้องสภาพพื้นที่ของเรา

IMG_20220101_101735

IMG_20220101_105605

เทคโนโลยี smart home จะพัฒนาไปตลอดเวลา แต่ละปีความสามารถของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ราคาถูกลง ใครอยากใช้ความอัจริยะของอุปกรณ์ไฟฟ้า ก็เลือกหาได้เลยตามวัตถุประสงค์ของพื้นที่ในบ้าน ข้อดีที่เด่นชัดที่สุดของหลอดไฟติดเซ็นเซอร์คือ มันทำให้เราประหยัดค่าไฟ เราได้ปิดไฟเมื่อไม่ต้องใช้ ทำให้เราไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์ เป็นการช่วยลดมลพิษที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้า ลดการใช้พลังงานคือคำตอบของการดูแลโลกของพวกเรา

หากสนใจสั่งซื้อ

EVE ได้ที่นี่
Lamptan ได้ที่นี่

อัพเดท 16nov2025 พบว่าหลอดไฟ eve หลอดหนึ่งมีอาการเสีย ไม่ทำงาน ซึ่งเป็นมาประมาณ 1 สัปดาห์ จุดที่ใช้งานคือทางเดินหน้าห้องนอนของคุณยายซึ่งจะมีการเดินเข้าออกวันละหลายครั้ง หลอดไฟทำงานดีมาตลอดจนถึงวันที่ดับไปก็เลยทำการเปลี่ยน นับจากวันที่โพสท์จนถึงวันที่พบว่าหลอดเสียก็ประมาณอายุการใช้งานได้ 46 เดือน ซึ่งก็นับว่านานน่าพอใจ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าหลอดถูกออกแบบไว้ให้ทำงานได้นานแค่ไหน

รีวิว ไมโครโฟนและหูฟัง audio-technica ATGM1-USB

ชุดไมโครโฟนพร้อมหูฟัง ATGM1-USB PACK จะประกอบไปด้วยไมโครโฟน 1 ตัว ขนาดเล็กๆน่ารัก ใช้วางบนโต๊ะทำงาน กับหูฟังแบบออนเอียร์ 1 ตัว audio-technica ออกแบบอุปกรณ์ชุดนี้เพื่อให้ใช้งานในยุคของการ work from home ซึ่งเป็นยุคของการทำงานผ่านระบบออนไลน์ คุยออนไลน์ เรียนออนไลน์ เพราะโควิดระบาดจนคนส่วนมากต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน นักเรียนต้องเรียนจากที่บ้าน พนักงานต้องทำงานจากที่บ้าน ตรงตามคำที่แปะอยู่หน้ากล่องเลย

25de4f826592939d319558ebcfb01675

ไมโครโฟนตัวเล็กน่ารักตัวนี้จะเรียกว่ารุ่น ATGM1 ก็ได้ หรือจะเรียกเป็นรุ่น AT9933 ก็ได้ ในเว็บมันคือตัวเดียวกันแค่ตั้งคนละชื่อ มันเป็นไมโครโฟนชนิดคอนเด็นเซอร์ซึ่งมีจุดเด่นที่ความไวในการรับเสียง สามารถรับเสียงได้ดี และมุมการรับเสียงก็โฟกัสที่ด้านหน้าของไมค์ อยากให้รับเสียงจุดไหนก็ให้ไมค์ชี้ไปด้านนั้น พอร์ตการเชื่อมต่อไมโครโฟนตัวนี้เป็นแบบ usb ซึ่งสามารถเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรงได้เลย และไม่ต้องลงโปรแกรมพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ต้องลงไดรเวอร์ใดๆเลย ตัวไมโครโฟนขนาดเล็ก มีฐานวงกลมที่มีน้ำหนักพอสมควร ติดยางกันลื่นไว้ด้านล่างทำให้สามารถวางได้นิ่งสนิทบนโต๊ะทำงาน ก้านไมค์ยาวประมาณ 4 นิ้ว สามารถดัดเอนได้ตามใจ น้ำเสียงที่บันทึกได้ออกไปในแนวคมชัด มีเสียงกลางและแหลมที่ดีมาก เสียงทุ้มมีครบถ้วน การใช้ไมโครโฟนที่รับเสียงเฉพาะทิศทางทำให้เราได้เสียงพูดที่ดีมีคุณภาพ เสียงรบกวน เสียงแอร์ เสียงพัดลม จะน้อยลงไปอย่างมาก

audio technica at-250m at9933usb

ส่วนตัวหูฟังก็เป็นหูฟังออนเอียร์ขนาดกระทัดรัด ชื่อรุ่น AT-250M ขนาดไดรเวอร์ประมาณ 40 มม. ตัวโครงสร้างเป็นพลาสติก แจ็คเสียบเป็นชนิด 3.5 มม. แบบ TRS นั่นคือเป็นแจ็คเสียบที่มีขีดดำ 2 ขีด น้ำเสียงดีใช้ได้เลย ให้เสียงกลางที่ชัดและลอยเด่น เราสามารถฟังเสียงร้องแล้วหลงใหลไปกับน้ำเสียงทั้งชายและหญิงได้ เพราะหูฟังไม่บดบังความเด่นของเสียงคน ส่วนเบสก็ใหญ่มาก หากเปรียบเทียบกับลำโพงบ้าน เบสของหูฟังตัวนี้เป็นเบสที่ไม่บดบังเสียงกลาง ถ้าเราฟังเพลงร็อค เพลงบอสซ่าสนุกๆ เราจะได้ความรู้สึกว่าเบสมันเยอะและมันส์มาก หากเราฟังเพลงอคูสติก เบสที่เด่นและเยอะทำให้เพลงมีน้ำหนัก ส่วนเสียงย่านปลายแหลมก็มีให้พอดีๆ ไม่เสียดหู เปรียบเทียบกับของแพงกว่ากันสิบเท่า มันจะต่างกันตรงที่ เบสของหูฟังตัวนี้ลงไม่ลึก มีปริมาณเยอะแต่ไม่ลึก แต่ก็มีไม่กี่เพลงหรอกที่จะฟ้องว่าเบสไม่ลึก ที่รู้สึกว่าไม่ลึกเพราะเกิดจากความพยายามฟังเปรียบเทียบเท่านั้น ความแตกต่างจากของแพงอีกจุดคือเสียงแหลมที่ชัดไม่เท่า สำหรับการฟังปกติ หรือการทำงานหรือการเรียน มันดีมากแล้ว เทียบกับหูฟังเล่นเกมส์หลายตัวที่เคยใช้แล้ว ตัวนี้ดีกว่าเยอะเลย เทียบกับหูฟังพร้อมไมค์ที่แถมมากับโทรศัพท์ ชุดหูฟังและไมค์จาก audion-technica ชุดนี้ดีกว่ามาก

ในการฟังเพลง เราจะเพลิดเพลินกับน้ำเสียงตัวนีได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ ความฉับไวต่อเสียงจะไม่แจะแจ้งเท่าของราคาสูง น้ำหนักแรงประทะ เหมือนจะผ่อนให้ฟังเสียงนุ่มๆทดแทน หากเราฟังเสียงโซโล่กลอง หรือเสียงฟาดฉาบ สแนร์ ความไวมันยังด้อยกว่ารุ่นใหญ่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หูฟังตัวนี้น่าจะเป็นหูฟังออนเอียร์ที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่บริษัทจะผลิตมาขายแล้ว

IMG_20220114_103739

ให้ดูกล่องที่ใส่หูฟังและไมโครโฟนชุดนี้มา เราจะเห็นกล่องทางซ้าย ATGM1 เป็นชื่อรุ่น ซึ่งมันสวมทับกล่องทางขวาเอาไว้ แกะออกมาแล้วก็งงนิดหน่อย สรุปแล้วไมโครโฟนตัวนี้มีสองชื่อ คือ AT9933usb กับ ATGM1usb แต่ในคอมพิวเตอร์จะมองเห็นเป็นชื่อ AT9933usb

IMG_20220114_103720

การเพิ่มไมโครโฟนเข้ามาในระบบการทำงานจะช่วยให้การสื่อสารของเรามีคุณภาพมากขึ้น หากเราทำ content ใดๆที่ต้องสื่อสารทั้งภาพและเสียง คุณภาพเสียงของคลิปจะเป็นตัวตัดสินว่าผู้ชมจะอยากติดตามดูหรือไม่ หากเราสังเกตุตัวเราเองว่า พอเปิดคลิปใน youtube ดูแล้วหากพบว่าเสียงเบา เสียงแย่ ไม่มีคุณภาพ เราก็จะไม่อยากดู ดังนั้นเราก็ไม่ควรปล่อยให้คลิปหรือเนื้อหาของเรามีคุณภาพเสียงที่ไม่ชัดเจน

Microphone
Model: AT9933usb
Element: Back electret condenser
Polar Pattern: Cardioid
Frequency Response: 40 – 16,000 Hz
Weight: Approx. 60g (2.1oz) (without cable)
Cable: 2.0m (6,6’)
Dimensions: 65mm (2.56”) diameter x 120mm (4.72“)
Input Connector: USB bus-powered
Output Connector: USB (Type -A)

Headphone
Model no.: ath-250m
Type: closed dynamic circle type
Driver unit: 40mm
Output sensitivity: 102db/mw
Frequency response: 18~22,000hz
Maximum capacity: 500mw
Input impedance: 43
Output terminal: 3.5mm gold plated stereo mini-plug
Wire length: 2.0m

หากสนใจสั่งซื้อได้ที่

https://shope.ee/9pC3DCE6tf?share_channel_code=6

ทดลองไมค์ไร้สาย usb-c

ในยุคของการสื่อสารทันสมัยแบบดูหนังดูทีวีผ่านอินเทอเน็ตได้ง่ายๆนั้น การทำสื่อที่เป็นวิดีโอจะเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนเราอ่านบนหนังสือ เรามีการฟังบนรายการวิทยุ จนกลายเป็นการดูรายการทีวีหรือรายการวิดีโอใน youtube สื่อกระแสหลักได้กลายเป็นวิดีโอไปหมดแล้วในยุค คศ2021 คนที่อยากบันทึกคลิปวิดีโอเพื่อบันทึกเก็บไว้ดูเล่น หรือ ทำคลิปวิดีโอเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร เพื่อทำรายการชนิดต่างๆ กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายขึ้น นอกจากเป็นเพราะโทรศัพท์มือถือที่พัฒนามาไกลมากจนทุกอย่างทำได้จบจากโทรศัพท์เครื่องเดียวแล้ว อุปกรณ์เสริมอย่างไมโครโฟนก็พัฒนามาไกลไม่ต่างกัน

ไมโครโฟนจากเดิมที่ต้องเป็นไมค์ตัวใหญ่ มีสายยาวหลายเมตร ก็มีการพัฒนาให้เป็นรูปแบบไร้สาย จากเดิมที่ต้องต่อเข้ากับช่องต่อชนิด 3.5มม. ในกล้องวิดีโอหรือในช่องเสียบไมค์ของโทรศัพท์ ก็กลายมาเป็นช่องเสียบชนิด usb ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งานได้อย่างดี

ไมค์ไร้สายชนิดพอร์ต usb-c ตัวนี้สั่งจากเว็บ aliexpress เป็นไมค์ที่มีตัวส่ง 2 ตัว ตัวรับ 1 ตัว นั่นหมายความว่าสามารถใช้ไมค์สองตัวพร้อมกัน สามารถใช้ทำรายการพูดคุยกันสองคนได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้สายให้พะรุงพะรัง ตัวรับสัญญาณเป็นชนิด usb-c สามารถเสียบตรงเข้ากับโทรศัพท์มือถือที่ใช้พอร์ตชาร์จแบบ usb-c ได้เลย ซึ่งโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่มีขายในปัจจุบันก็ใช้พอรตแบบนี้กันเกือบทั้งหมดแล้ว โดยตัวรับเสียงจะดึงกำลังไฟจากมือถือออกมาใช้ ส่วนหากใครจะเอาไปใช้กับมือถือ iphone ก็ใช้เสียบผ่านอแด๊ปเตอร์แปลงได้ ที่เจ่งก็คือ ตัวรับมี่ช่องให้เสียบ usb-c อีกช่องด้วย ทำให้เราสามารถชาร์จไฟผ่านตัวรับเสียงแล้วส่งต่อไปยังพอร์ตของโทรศัพท์ทำให้เราสามารถใช้ไมค์ไร้สายได้ยาวนานมากโดยไม่ต้องกลัวโทรศัพท์แบตหมด

ตัวไมค์สองตัวที่มากับกล่องเป็นไมค์รับเสียงรอบตัว มีแบตเตอรี่ในตัว ใช้ได้กี่ชั่วโมงต้องไปหาอ่านในคู่มือ เวลาชาร์จไฟจะต้องใช้สายชาร์จ usb-c มาเสียบ ในชุดมีไมค์สองตัวแต่สายชาร์จมีให้แค่เส้นเดียว คุณภาพเสียงเท่าที่ฟังผ่านๆก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ฟังรู้เรื่อง ลองฟังจากในคลิปดูครับ

ไมค์ตัวนี้เหมาะกับคนทีต้องการบันทึกรายการวิดีโอที่ต้องคุยกันสองคน เหมาะกับการไลฟ์ทางเฟสบุ๊คหรือ youtube เพราะการเชื่อมต่อง่ายดาย ลดความยุ่งยากและข้อผิดพลาดต่างๆ เนื่องจากการใช้ไมโครโฟนภายนอกกับโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเยอะ ต้องเรียนรู้คำว่า Trs Trrs ซึ่งเป็นลักษณะของช่องเสียบแบบ 3.5มม. และในบางโปรแกรมที่ใช้ถ่ายวิดีโอก็ไม่รองรับการต่อไมค์ภายนอกที่เสียบผ่านช่องหูฟังด้วย และปัจจุบันโทรศัพท์หลายๆรุ่นก็ตัดช่อง 3.5มม. ออกไปแล้ว อุปกรณ์ไมค์ที่เคยใช้กับช่อง 3.5 จะเอามาใช้เลยทันทีก็ทำไม่ได้ ดังนั้น ถ้าเป็นไมค์ที่เสียบทางช่อง usb-c ก็จะแก้ปัญหาต่างๆได้เกือบทั้งหมด

นอกจากการใช้กับโทรศัพท์แล้ว เราก็ยังนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย คนที่จำเป็นต้องทำรายการ หรือแคสเกมส์ หรือประชุมออนไลน์บ่อยๆน่าจะช่วยลดความยุ่งยากได้ น้ำเสียงที่รับได้ชัดและมีความคล่องตัวจะทำให้เราสนุกกับการทำรายการมากขึ้น

รีวิว eyewear แว่นตาติดลำโพง

เมื่อสักหลายปีก่อนผมพบว่ามีแว่นตาติดลำโพงวางขายแล้ว นั่นคือยี่ห้อ Bose และมีเพื่อนได้ซื้อไว้ใช้ ผมได้มีโอกาสลองไม่กี่นาทีเพราะเกรงใจเพื่อน ซึ่งในวันนั้นรู้สึกว่าราคาสูงเกินไป และคุณภาพเสียงไม่ได้ดีแบบที่คาดหวัง เนื่องจาก Bose ทำลำโพงเสียงดีไว้เยอะมาก และหูฟัง Bose ก็เสียงดีเช่นกัน พอลำโพงถูกติดตั้งไว้ในแว่นตา ก็แอบคิดว่าเสียงจะดี แต่ลองแล้วก็ไม่อยากซื้อ

20211008111714_IMG_0003

ผ่านมาถึงปีนี้ แว่นตาติดลำโพงอยู่ในเว็บขายของ ราคาระดับ 800บาท ซึ่งถูกกว่า Bose ถึง 10 เท่า ผมลืมไปแล้วว่าเสียง Bose เป็นยังไง แต่พอเห็นว่าราคาไม่ถึงพันก็เลยตัดสินใจซื้อมาใช้ โดยคาดหวังว่าเสียงจะดีขึ้นกว่ารุ่นแรกๆเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเหมือนเสียงจากหูฟังแท้ๆ

20211008111752_IMG_0006

ลักษณะทั่วไป

แว่นตาสีดำ ติดกระจกพลาสติกเกรดต่ำ ตัวกรอบแว่นทำจากพลาสติก จุดที่ใช้ชาร์จไฟเป็นขั้วไฟฟ้าแบบมีแม่เหล็กดูด สายชาร์จจะถูกดูดติดกับแว่นเมื่อเสียบชาร์จไฟ สายชาร์จที่แถมมาด้านหนึ่งเป็นแม่เหล็ก ส่วนอีกด้านเป็น usb เพื่อเสียบกับอแด๊ปเตอร์ กำลังไฟสำหรับชาร์จระบุไว้ที่ 100ma เท่านั้น หลังจากได้ลองชาร์จก็พบว่า หากเราชาร์จแว่นด้วยเพาเวอร์แบงค์ เมื่อเริ่มชาร์จได้สักพักไม่กี่นาที เพาเวอร์แบงค์ก็จะตัดการทำงาน เพราะว่ากระแสไฟไหลน้อยเกินไป น้อยจนเพาเวอร์แบงค์ตัดสินใจหยุดจ่ายไฟ ดังนั้นหากเราจะชาร์จเราควรชาร์จผ่านอแด๊ปเตอร์จ่ายไฟจริงๆ

20211008111656_IMG_0002

น้ำเสียงของแว่นตาพร้อมลำโพงจะให้น้ำเสียงไม่ดีมาก อาการเสียงเหมือนเปิด speaker phone แล้วเอาโทรศัพท์มาวางไว้ใกล้ๆหู ฟังเสียงกลางรู้เรื่อง เสียงสูงมีให้ได้ยิน แต่เสียงต่ำแทบไม่มีเลย ซึ่งมันคงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของลำโพงเล็กๆบางๆที่ซ่อนอยู่ในขาแว่น

ไมโครโฟนรับเสียงก็อยู่บนขาแว่น จากการสอบถามคู่สนทนาก็ได้ความว่า เสียงพูดของเราปลายทางได้ยินปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงเบาหรือดังเกินไป เสียงที่ได้ยินเหมือนเกิดขึ้นอยู่กลางศรีษะ นั่นก็พอจะคาดเดาได้ว่า เสียงข้างซ้ายและขวาออกมาใกล้เคียงกันมาก ทำให้มิติเสียงอยู่ตรงกลางในหัวเราเป๊ะๆ หากเราใช้ฟังเสียงเพลงสเตอริโอทั่วไป เราก็จะได้ยินมิติเสียง รับรู้ตำแหน่งซ้าย กลาง ขวา ได้แม่นยำตามเจตนาของเพลง ระบบสเตอริโออิมเมจของหูฟังทำได้ดีมาก มันติดแค่เสียงเบสไม่มีเหมือนหูฟังทั่วไปเท่านั้น

การใช้งานหูฟังบนแว่นตาจะไม่มีอะไรไปอุดหูเลย ดังนั้น เสียงดังจากภายนอก เสียงบรรยากาศต่างๆจะยังคงวิ่งเข้าหูเรา เรายังได้ยินเสียงแวดล้อมเป็นปกติ ถ้าเราไปยืนอยู่ใกล้เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญ ก็จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากหูฟังเลย ดังนั้นการใช้งานหูฟังตัวนี้จะต้องเลือกสถานที่คุยด้วย การได้ยินเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้าไป และสามารถรบกวนการพูดคุยกับปลายทางด้วยนั้น ทำให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นจากการใส่หูฟัง ถ้ามีคนเรียกเราก็หันไปหาได้ มีรถวิ่งผ่านก็ได้ยิน เราใช้ชีวิตปกติได้แม้จะฟังเสียงข่าวอยู่ในหูฟัง

เมื่อใช้ประชุมออนไลน์ก็ทำงานได้ปกติ ประสิทธิภาพการสื่อสารทำได้เต็มร้อย ใช้ทำงานได้เลย ใครคิดจะนำกรอบไปใส่เลนส์สายตาสำหรับตัวเองจริงๆก็ทำได้ มันเป็นอุปกรณ์ของใช้ที่ใช้งานได้ตามหน้าที่หลักของมัน

แนะนำขาตั้งมือถือขนาดเล็ก หนีบที่ไหนก็ได้

ขาตั้งแบบตัวหนีบขนาดกระทัดรัด สามารถใช้เป็นไม้เซลฟี่ ใช้เป็นขาตั้งเล็ก และ ใช้หนีบกับโต๊ะ หรือ ชั้นวางต่างๆที่มีความหนาไม่มากได้ บางคนก็ใช้หนีบกับประตู หนีบกับหนังสือในชั้นวาง ทำให้เราสามารถจัดวางมือถือไว้ได้ตามต้องการ เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายคลิปวิดีโอ ทั้งถ่ายตัวเอง หรือถ่ายคนอื่น ใช้แทนขาตั้งกล้องที่มีขนาดใหญ่ๆได้เลย

ลองดูภาพการใช้งานในมุมเหล่านี้ครับ แต่กล้องที่ใช้จะเป็น gopro รุ่น 9 ครับ

20210329104739_IMG_0048

20210329104801_IMG_0049

20210329104849_IMG_0050

20210329105106_IMG_0054

20210329105034_IMG_0053

ประกอบรถบังคับวิทยุจากจีน

ของเล่นสร้างทักษะเด็กเป็นสินค้าที่ควรได้ลองเล่น และเมืองจีนก็มีสินค้าแนวนี้ขายในราคาไม่แพง จากที่ได้ลองเล่นกับลูก เด็กอายุ 9 ขวบก็พอจะทำความเข้าใจการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงเข้าใจเรื่องวงจรไฟฟ้าระดับพื้นฐานได้แล้ว ของเล่นชุดนี้หาซื้อจากเว็บราคาไม่ถึง 100 บาท ใช้เวลาประกอบประมาณ 2 ชม. พ่อกับลูกช่วยกันทำ บอร์ดแรกจะทำกันนานหน่อยเพราะต้องทำความเข้าใจหลายอย่าง คู่มือที่แถมมากับของเล่นก็ทำมาเล็กมาก คนสายตาไม่ดีคงจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง อาศัยการต่อมั่วเล็กน้อยก็พอจะจบงานได้

1627439059473
IMG_20210727_205430

น่าอิจฉาเด็กยุคนี้ที่มีของเล่นไฮเทคราคาประหยัดให้เลือกเล่นจำนวนมาก หากเป็นยุคสมัยที่ผมยังเด็ก รถบังคับวิทยุจะราคาประมาณหนึ่งพันบาท ของหลักร้อยแทบไม่มีให้เลือกเลย วงจรไฟฟ้ากว่าจะได้จับก็ต้องรอมัธยม เด็กยุคใหม่ แค่พออ่านหนังสือออกก็แทบจะลองเล่นโปรเจ็คไฮเทคได้เท่าที่ใจปรารถนาเลย แถมเครื่องมือก็พร้อม ร้านขายก็มีอยู่ในอินเทอเน็ต ซื้อของจากใครจากร้านไหนก็ได้ เป็นเด็กในยุคปัจจุบันนี่โชคดีกว่ายุคเก่าอย่างไม่ต้องเทียบเลย

สอนลูกเล่น microbit

สอนลูกเล่นบอร์ด microbit

ในวงการศึกษามีความพยายามที่จะพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับตลาดดิจิทัล ทั้งการค้าขาย การสื่อสาร การผลิตต่างๆในโรงงาน ทุกอาชีพต้องใช้คอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น และซอร์ฟแวร์ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ก็จะต้องพัฒนา โปรแกรมเมอร์จึงเป็นสิ่งที่มีความต้องการ และแนวโน้มของคนที่จะรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมกลับน้อยลงสวนทางกับตลาด

2842228-40 Raspberry pi

ผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาก็เลยหาทางพัฒนาสื่อการเรียนรู้ขึ้นมาเพื่อฝึกเด็กให้ได้เริ่มหัดเขียนโปรแกรมตั้งแต่อายุน้อยๆ โดยมีความพยายามพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ราคาประหยัด เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถซื้อได้ ก็เลยเกิดเป็นบอร์ดอิเล็คทรอนิกตัวหนึ่งชื่อว่า Raspberry Pi ในปี คศ 2012 และบอร์ดนี้มาพร้อมกับ OS เฉพาะกิจ เสียบสายจอภาพ ต่อคีย์บอร์ดเม้าส์ แล้วก็เสียบไฟจากที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือก็ทำงานได้เลย โดย Pi จะบู๊ทเข้าโปรแกรมของมัน และมีเครื่องมือในการเขียนโปรแกรม ทำให้เด็กๆสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้เขียนโปรแกรมได้ในราคาไม่เกิน 35 ปอนด์ แต่ก็ต้องมีจอภาพ คีย์บอร์ด เม้าส์ของเก่าอยู่แล้วนะ

นอกจาก OS และซอร์ฟแวร์ที่ช่วยให้เด็กได้หัดเขียนโปรแกรมแล้ว วงการซอร์ฟแวร์ก็ปรับตัวพัฒนาเครื่องมือสำหรับหัดเขียนออกมาให้เป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้น เรียนรู้ได้เร็วขึ้น เจตนาเพื่อให้เด็กเรียนรู้ได้รวดเร็ว และมันก็ได้ผล มีภาษาคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงให้เข้าใจง่าย เรียนรู้ง่าย และบอร์ด Pi ก็ได้รับความนิยมมาก เด็กได้เริ่มเรียนรู้จริงจัง ผู้ใหญ่หลายคนได้ลองเลือกใช้ Pi มาทำของเล่นหลายอย่างเพราะความง่ายและเร็วในการพัฒนา ทำให้มันถูกใช้ทำโปรเจ็คมากมายสารพัด แทบไม่ต่างไปจากคอมพิวเตอร์ PC ที่ใช้ CPU x86 เลย บางคนใช้ Pi ทำระบบ Home Automation มีเซ็นเซอร์และสามารถสั่งการเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าอัตโนมัติได้ตามต้องการ มีหุ่นยนต์ทำงานด้วยสมองของ Pi นี่คือของเล่นผู้ใหญ่ จากเครื่องมือของเด็กจริงๆ

ในที่สุดในปี คศ 2015 ก็เกิดการพัฒนาครั้งใหญ่อีกครั้ง จากความเรียบง่ายของ Pi แต่มีความยุ่งยากซับซ้อนในการทำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อ ก็เลยเกิดแนวคิดว่าให้นำอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ต้องใช้บ่อยมาวางรวมกันในบอร์ดเดียวเลย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกด เซ็นเซอร์หลายๆชนิดและจอแสดงผล ทำให้เกิดเป็นบอร์ดที่ชื่อว่า Microbit และในส่วนของซอร์ฟแวร์สำหรับเขียนโปรแกรมก็ได้รับการพัฒนาให้ง่ายขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด การเขียนโปรแกรมที่ง่ายเหมือนต่อจิ๊กซอร์ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ก้าวกระโดดครั้งนี้ไปได้ไกลมาก การเรียนรู้ทำได้ง่าย เด็กสามารถเรียนรู้พื้นฐานการคิดแบบโปรแกรมเมอร์ได้ในเวลาอันสั้น และสุดท้ายก็มีโปรเจ็คและของเล่นออกมาวางขายเต็มไปหมด

9481_0

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตัวไหน จะเป็น Pi หรือ Microbit ต่างก็ทำให้การเรียนรู้ การฝึกทักษะของโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่สามารถทำได้เร็วขึ้น แรงงานคุณภาพสำหรับวงการซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์มีความหวังมากขึ้นกับเด็กรุ่นใหม่ที่เข้าถึงการ coding หรือเรียนเขียนโปรแกรมได้เร็วขึ้น อยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านลองซื้อของพวกนี้มาให้ลูกๆเล่น ช่วยกันพัฒนาวิธีคิดของโปรแกรมเมอร์ มันมีประโยชน์ต่ออาชีพและชีวิตในยุคดิจิทัลของทุกคน

สั่งซื้อไมโครบิทได้ที่นี่ https://shope.ee/qNVvMLXF7

สั่งซื้อเครื่องมือเรียนรู้ อุปกรณ์ต่อเป็นหุ่นยนต์หลายชนิดที่นี่ https://shope.ee/10gwDlMCNY

รีวิวหูฟังพร้อมไมค์สำหรับ work from home และเรียนออนไลน์ logitech h111

ยุคโควิดครองเมือง ประเทศไทยมีการระบาดรอบที่4แล้ว ตอนนี้ ณ เวลานี้ รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์ การทำงาน การเรียนหนังสือ ให้ทำจากที่บ้านทั้งหมด ลูกของผมเองก็เรียนออนไลน์มาตั้งแต่เปิดเทอม และดูแล้วไม่มีวี่แววว่าจะได้เรียนที่โรงเรียนแบบปกติเมื่อใดเลย

H592cae5c47fc4f9eab232c5b304ba220v

การเรียนออนไลน์ หรือการทำงานจากที่บ้าน เราจะใช้ระบบ Video Conference เป็นหลัก โดยซอร์ฟแวร์ที่ใช้ประชุมทางไกลก็จะมี Zoom meeting ที่ใช้กันค่อนข้างเยอะ ปกติการประชุมทางไกลก็ใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ คุยตรงๆกับเครื่องได้เลย ใช้ลำโพงในเครื่อง ใช้ไมค์ติดเครื่อง ก็สื่อสารได้ แต่ถ้าเราอยู่ในที่เสียงรบกวนเยอะ ก็จะไม่สะดวก เพราะคุณภาพทั้งเสียงเข้าเสียงออกจะโดนรบกวนเยอะมาก ทำให้สื่อสารไม่รู้เรื่อง

การใช้สายหูฟังพร้อมไมค์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารทางไกลในที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะ เพราะจะทำให้เราได้ยินเสียงชัด และพูดลงไปปลายทางก็จะได้ยินเสียงเราชัดเช่นกัน นอกจากที่มีเสียงรบกวนเยอะแล้ว ในบ้านก็อาจจะมีปัญหาเสียงรบกวนได้ มันคือสถานการณ์ที่มีคนอยู่ในห้องหลายคน และทุกคนก็ต้องสื่อสารกับกลุ่มของตัวเอง ลูกเรียนออนไลน์ พ่อแม่ทำงานจากที่บ้าน นั่งอยู่ในห้องเดียวกัน เสียงพูดคุยก็จะตีกันเอง ทำให้สื่อสารไม่ได้ การใช้หูฟังจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับสถานการณ์แบบนี้

H30bb0e61ddd941b98b3f4a0116d70110Q

หรือแม้แต่ที่ทำงาน หรือใน co-working space การพูดคุยผ่านโทรศัพท์จะใช้เสียงลำโพงไม่ได้เลย เพราะเป็นการรบกวนคนอื่นในห้อง และเราเองก็คงไม่สะดวกใจที่จะให้คนอื่นได้ยินเสียงที่เราคุย ดังนั้นหูฟังพร้อมไมค์ก็จะเป็นตัวเลือกที่แก้ปัญหาได้ ทุกคนต้องใช้หูฟังของตัวเอง และหูฟังที่ต้องหามาใช้ก็ควรจะมีคุณภาพที่ดี สื่อสารได้ และมีราคาไม่แพงเกินไป

ลองนึกดูเล่นๆว่า ถ้าพ่อแม่จะต้องซื้อหูฟังให้ลูกสองคน พ่อกับแม่ใช้อีกสอง รวมแล้วต้องมีหูฟัง 4 เส้น เราจะซื้อ 4 เส้นที่ราคาประหยัดหรือราคาแพง ใครมีกำลังซื้อก็ไม่ต้องอ่านรีวิวนี้ แต่ใครอยากหาของถูกใช้ก็อ่านและดูคลิปให้จบนะครับ หูฟังที่แนะนำในรีวิวนี้คือ Logitech H111 เป็นหูฟังที่มีไมค์ยื่นออกมารับเสียง ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 300 บาท มันถือว่าไม่แพง เพราะถ้าต้องซื้อจำนวนมากๆมันจะมีประเด็นราคาที่ทำให้เราอยากหาของถูกใช้ ถ้าบ้านต้องซื้อ 4 เส้น เราก็จ่ายแค่ 1200 บาท ได้ใช้แล้ว ถ้าบริษัทต้องซื้อแจกพนักงาน 100 คน บริษัทอยากจ่าย 100×300 บาท หรือ 100×2000 บาท เท่านี้ก็น่าจะพอเห็นภาพว่าราคาคือประเด็นสำคัญ ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียน มีครู 100 คน ต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับหูฟัง?

H542211265e914d62bf7b2eaed7fd3750d

จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือ เล็ก เบา ไมค์ชัด และราคาไม่แพง หากเราไปใช้หูฟังขนาดใหญ่ นอกจากราคาที่แพง น้ำหนักที่เยอะแล้ว ยังทำให้เราใส่นานๆไม่ไหวด้วย เพราะหูฟังขนาดใหญ่จะกดทับค่อนข้างมาก ใส่แค่ 5 นาทีก็ไม่ลำบาก แต่ถ้าต้องใส่เป็นชั่วโมงก็จะเป็นปัญหาแล้วว่าหนักเกินไป แล้วยังมีเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นกับหูด้วย ดังนั้นหูฟังที่กดเบาๆ น้ำหนักเบา จะทำให้เราใส่ได้นานกว่า

จุดเด่นเรื่องไมค์ก็สำคัญ หูฟังแนว call center แบบนี้ มีก้านไมค์ยื่นออกมาเพื่อรับเสียงใกล้ปาก ทำให้การพูดคุยสามารถทำได้มีคุณภาพ เสียงพูดเข้าไมค์ได้เต็มๆ ทำให้เราไม่ต้องตะโกนพูด ใช้น้ำหนักเสียงปกติก็พูดคุยสื่อสารได้ชัดเจน ไม่เหนื่อยมาก ทำให้เราสามารถพูดคุยใช้งานได้เป็นระยะเวลาที่นานกว่านั่นเอง

จุดเด่นเรื่องคุณภาพเสียง หูฟังตัวนี้บังเอิญว่าให้เสียงที่ดี เพราะว่าเมื่อนำไปลองฟังเพลงแล้วพบกว่าให้น้ำเสียงที่น่าฟัง เสียงกลางชัด เสียงทุ้มพอมีให้ได้ยิน เสียงด้านแหลมก็มีเพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่หายากมากกับหูฟังราคาประหยัดที่จะให้เสียงที่ดีเหมาะกับการฟังเพลง แต่ h111 ตัวนี้ให้ได้ดีเลย มันเป็นหูฟังที่น่าใช้มากเมื่อเทียบกับคุณภาพเสียง คุณภาพการสื่อสารการประชุดและยิ่งเทียบราคายิ่งน่าใช้ ฟังรายละเอียดในคลิปนี้ได้เลยครับ

สนใจสั่งซื้อ logitech h111 คลิกลิงค์นี้ครับ https://shope.ee/9eyueQwLOf

ลองดูคลิปรีวิวอุปกรณ์ตัวนี้ครับ ผมใช้หูฟังพร้อมไมค์ Logitech H111 ตัวนี้ในการบันทึกเสียง อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายคลิปวิดีโอคือโทรศัพท์มือถือ redmi note7 ต่อสายหูฟังพร้อมไมค์เข้าที่ช่อง 3.5มม. บนโทรศัพท์โดยตรงเลย และใช้กล้องหน้าบันทึกคลิป ใช้ App ถ่ายคลิปชื่อ open camera ซึ่งมีข้อดีคือสามารถล็อคค่าแสงสว่างในภาพได้ ทำให้สภาพแสงไม่เปลี่ยนแปลงเวลาเราขยับตัวไปมา เพราะกล้องจะไม่วัดแสงตลอดเวลาเหมือน app ติดกล้อง


เรียนออนไลน์ ทำงานจากที่บ้าน

powerbank ชาร์จไร้สาย

16f3b1efacb7113762951ac231d3e329

เพาเวอร์แบงค์ความจุ 10000ma สั่งจากเว็บ ไม่มียี่ห้อ ทดลองใช้งานแล้วทำงานได้ปกติดี มีฟังค์ชั่นการชาร์จไร้สายด้วย มือถือที่สามารถชาร์จไร้สายได้แค่นำมาวางทับบนเพาเวอร์แบงค์ตัวนี้ก็สามารถชาร์จไฟเข้าได้แล้ว ความเร็วในการชาร์จอยู่ในระดับปกติ คือเร็วเท่ากับการชาร์จด้วยอแด๊ปเตอร์ระดับ 10 วัตต์ นอกจากระบบไร้สายแล้ว ตัวมันยังมีช่อง usb สำหรับจ่ายไฟแบบปกติด้วย กำลังไฟที่ปล่อยออกมาทางช่อง usb จะมีกำลังประมาณ 10 วัตต์



การชาร์จไฟเข้าเพาเวอร์แบงค์ใช้ได้ 3 ช่องทางคือ

1ใช้สาย usb-c ได้

2ใช้สาย micro-usb ได้

3ใช้วิธีชาร์จไร้สายเข้าเพาเวอร์แบงค์ได้ แค่นำไปวางบนตัวแท่นชาร์จไร้สาย

ราคาในเว็บประมาณ 300 บาท

เปลี่ยนแบตเตอรี่ซูซูกิสวิฟท์2012

รถซูซูกิสวิฟท์ suzuki swift รุ่นปี 2012 วันนี้มาเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ร้านเรมี่การยาง และบังเอิญว่ามีอาการสตาร์ทรถไม่ติด สงสัยว่าจะแบตเสื่อม เพราะดูจากประวัติการเปลี่ยนแบตครั้งสุดท้ายมันประมาณสองปีกว่าๆแล้ว ก็เลยตัดสินใจใช้วิธีการโทรเรียกร้านแบตเตอรี่ให้มาเปลี่ยนให้

IMG_20210630_153758

ค้นหาประวัติเก่าที่เคยเขียนบันทึกไว้ก็พบกับโพสท์เดิมที่เคยใช้บริการเรียกร้านแบตมาเปลี่ยน และจำได้ว่าร้านนั้นอยู่แถวศิริราช ซึ่งการจะมาเปลี่ยนแบตให้ที่ราชดำเนินก็ไม่ได้ถือว่าไกลมาก ก็เลยโทรสั่งแล้วนั่งรอไป และอีกประมาณ 45 นาทีร้านแบตก็มาถึง จัดการเปลี่ยนให้ เลยถ่ายรูปแบตเตอรี่ก้อนใหม่ไว้เป็นที่ระลึก

IMG_20210630_165917

ดูจากสติ๊กเกอร์ก็ระบุชื่อร้าน Autobatt มีไลน์ให้เซพชื่อเก็บไว้ เบอร์โทรตามในภาพ 0835690505 เผื่อว่าจะมีใครแบตเสื่อมบนท้องถนนในบริเวณใกล้ๆราชดำเนิน ศิริราช จรัญฯ ผมคิดว่ามอเตอร์ไซด์ของทางร้านน่าจะพร้อมขี่ไปส่งอยู่แล้ว ยุคนี้เป็นยุคของการบริการแบบถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว

ทดสอบไมค์สำหรับการประชุม online

การเรียน การทำงาน การสอนหนังสือ ในยุคโควิด เราต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ นั่นคือการทำ video conference และสิ่งสำคัญในการสือสารผ่านช่องทางนี้ก็คือ ไมค์โครโฟนและลำโพง ซึ่งบางคนก็ใช้หูฟังแทนลำโพง เราจะมาลองทดสอบการใช้งานไมค์ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงหูฟังที่มีไมค์โครโฟนในตัวด้วย