present 5minute jomthongprinting

IMG_0243

ประวัติวุฒิชัย

ผมเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ระบบควบคุมและเครื่องมือวัด เข้าไปเรียนเพราะอยากทำเครื่องเสียงใช้เอง แต่เรียนไปเรียนมาดันได้ไปทำหุ่นยนต์ไปวิ่งเล่น

IMG_0252ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์

เรียนจบผมไปสมัครเป็นยาม เฝ้าตึก เฝ้ากล้องวงจรปิด เขาไม่รับ  ผมเลยไปสมัครเป็นโปรแกรมเมอร์ และได้ทำงานเขียนโปรแกรม  และได้เจ้านายดี อธิบายบอกผมว่า เขียนโปรแกรมคืออะไร และใช้งานอย่างไร  แล้วผมก็กลายเป็นโปรแกรมเมอร์ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา  และได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับดาต้าเบสจากพี่คนนึงที่มาช่วยสอน  และเขามาจากออราเคิลซึ่งเป็นที่สุดของดาต้าเบส

ผมลาออกจากบริษัทเพื่อมาหัดถ่ายรูป และผมใช้เงินไปหัดถ่ายรูปมากกว่าค่าใช้จ่ายตอนเรียนวิศวะฯ  และไปเรียนต่อป.โทที่จุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทางภาพ  ซึ่งสอนเกี่ยวกับการถ่ายภาพในเชิงวิทยาศาสตร์ และเรื่องงานพิมพ์  ผมเป็นลูกเถ้าแก่โรงพิมพ์ที่คลุกคลีและเห็นขั้นตอนต่างๆมาแล้ว การมาเรียนวิทยาศาสตร์การพิมพ์ทำให้ผมเข้าใจระบบการพิมพ์มากขึ้น  และผมทำวิทยานิพนธ์เรื่อง DATA COMPRESSION โดยการออกแบบอัลกอริทึ่มใหม่มาใช้เพื่อลดขนาดไฟล์

Print machine

โรงพิมพ์จอมทอง  เป็นโรงพิมพ์ที่ทำงานพิมพ์อ๊อพเซ็ทและระบบดิจิทัล  งานพิมพ์อ๊อพเซ็ทที่ทำได้จะเป็นงานประเภท ใบปลิว หนังสือ แค็ตตาล๊อก คัมพานีโพรไฟล์ ป้ายสินค้า ป้ายเสื้อ ฉลาก สติ๊กเกอร์  แบบฟอร์ม บิล ใบเสร็จรับเงิน โปสเตอร์  นามบัตร กระดาษรองจาน รองถาด

print machine 2013-IMG_8344Full
ภาพสิ่งพิมพ์ กระดาษ เครื่องพิมพ์อ็อพเซ็ท

งานพิมพ์ดิจิทัลเราได้ลงทุนในระบบดิจิทัลเพื่อรองรับงานเร่งด่วน  งานพิมพ์จำนวนน้อย  เมื่อก่อนหากเราจะพิมพ์ใบปลิวสักชุดหนึ่ง เราอาจจะต้องใช้เงินประมาณ 7000 บาท เพื่อจะทำใบปลิวสัก1000 ใบ  แต่ถ้าเราต้องการใช้แค่สองร้อยใบ  ก็เท่ากับเราต้องจ่ายเงินสำหรับพันใบ แล้วใช้สองร้อย  อีกแปดร้อยเก็บกองไว้ที่บ้าน แล้วอีกสามปีก็เอามาชั่งกิโลขาย  ระบบดิจิทัลสามารถทำให้กรณีใบปลิวจำนวนน้อยนี้สามารถผลิตได้ในระดับราคายอดรวมที่สมเหตุสมผล  แทนที่จะต้องจ่าย 7000 คุณก็สามารถจ่ายแค่ 2000 บาทแล้วได้ของไปใช้

100_1447

(ภาพเครื่องพิมพ์ดิจิทัล)

เราชำนาญเรื่องงานพิมพ์ที่ใช้ขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน  อย่างเช่นงานบัตรสัมมนา บัตรเข้าร่วมงานต่างๆ ที่จะต้องพิมพ์ระบบสี่สีอ๊อพเซ็ท  แล้วมีการพิมพ์ตัวเลขบนบัตรไม่ซ้ำกัน และต้องมีการปรุฉีกหรือไดคัทที่เป็นช่อง  งานเหล่านี้จะใช้เครื่องจักรหลายตัว  ผ่านหลายขั้นตอน  ซึ่งโรงพิมพ์จอมทองมีเครื่องจักรที่ครบทุกขั้นตอน  เราสามารถทำงานบัตรสัมมนาหนึ่งพันใบที่มีนัมเบอร์ มีบาร์โค้ดไม่ซ้ำ พร้อมปรุฉีกให้เสร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง  ทำให้เราเป็นโรงพิมพ์ที่เอเจนซี่ผู้จัดงานสัมมนาไว้ใจ

letterpress-printing-IMG_0009Full

เราเป็นโรงพิมพ์ที่พยายามทำงานยาก  และเรามีลูกค้าที่ให้งานยากอยู่อย่างต่อเนื่อง  ความยากในงานพิมพ์ที่เราเคยทำมีรายละเอียดที่ซับซ้อนอย่างเช่น  เราเคยทำงานบัตรเชิญงานแถลงข่าวของเนสกาแฟ  ในบัตรเชิญเป็นงานพิมพ์อ๊อพเซ็ท มีการเคลือบด้าน และเครื่องสป็อต uv  มีการปั๊มไดคัท ทำรอยพับ  ติดกาวทำให้เป็นการ์ดพับพร้อมซองในตัว ทำรอยเจาะที่ไม่ขาดเพื่อให้คนถือบัตรได้ฉีกเล่น  เมื่อฉีกเล่นแล้วภายในมีลูกโป่งที่ติดเอาไว้ภายใน สามารถแกะออกมาเป่าเล่นได้  ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้ทำแค่ 150 ชิ้น  งานพิมพ์ลักษณะนี้ถ้าไปเจอโรงพิมพ์ใหญ่เขาไม่รับ เพราะงานยอดน้อยเกินไป  ถ้าไปเจอโรงพิมพ์เล็กเขาก็ไม่รับเพราะเขาทำได้ไม่ครบทุกขั้นตอน  โรงพิมพ์จอมทองทำได้  และเราชอบงานแบบนี้ เพราะเราทำจำนวนน้อยๆ แต่ราคาเหมือนงานพิมพ์ใบปลิวสิบงาน

IMG_1234.JPG

(ภาพงานพิมพ์ letterpress)

เรามีระบบการพิมพ์โบราณที่มีเสน่ห์เหมาะสำหรับการทำการ์ดแต่งงาน การ์ดเชิญอีเว้นสำคัญที่ต้องการความพิเศษ  เหมาะกับคนที่ต้องการความแตกต่าง คนที่ต้องการให้ผู้คนจดจำ  เทคนิคการพิมพ์โบราณเราเรียกว่าระบบ letterpress ซึ่งเป็นงานพิมพ์ที่เหมาะกับกระดาษหนาพิเศษและมีลวดลายสีสันอิ่มสด มีรอยกดทับที่ลึกพิเศษ  บุคลิกงานพิมพ์แบบนี้ไม่สามารถหาได้จากเครื่องพิมพ์สมัยใหม่  และโรงพิมพ์ยุคใหม่ๆก็ไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้  เราเป็นโรงพิมพ์ที่เติบโตมาจากระบบโบราณ เราปรับตัวรับยุคดิจิทัลแต่เราไม่ทิ้งของเก่าที่มีคุณค่า  การ์ดแต่งงานระบบ letterpress สามารถสั่งทำได้ที่โรงพิมพ์จอมทอง  หากคุณต้องการการระบบ letterpress ในเวลาไม่เกินสัปดาห์  ในไทยมีเราที่เดียวที่ทำได้

Untitled

(ภาพงานพิมพ์ฐานข้อมูล)

งานพิมพ์ฐานข้อมูลเป็นงานที่เรามีความชำนาญเช่นกัน  ด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในสิ่งพิมพ์ได้ทุกใบ  เราสามารถพิมพ์รายชื่อ หรือ ข้อมูลใดๆจากฐานข้อมูลได้  เพราะเรามีทักษะกับการเขียนโปรแกรมติดต่อฐานข้อมูล  ตัวผมเองเป็นโปรแกรมเมอร์ในระบบฐานข้อมูลมาก่อน  เราสามารถทำแฮปปี้เบิร์ดเดย์การ์ด เปลี่ยนรายชื่อและเปลี่ยนวันเดือนปีเกิดไปในทุกๆใบ  สามารถจับคู่คำอวยพรของชาย และหญิงด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันได้  ลูกเล่นเหล่านี้ทำให้งานพิมพ์ของลูกค้ามีความพิเศษ  เพราะมันเหมือนเป็นการผลิตสิ่งพิมพ์แค่ชิ้นเดียวให้ลูกค้าคนนั้น  ลูกค้าจะรูู้สึกดี  เจ้าของธุรกิจสามารถส่งของด้วยความรู้สึก vip ให้กับทุกคนได้

NEC pocket02 นามบัตรหรือเศษกระดาษ

นามบัตรหรือเศษกระดาษ

IMG_0994thailetterpress-Full

ในการทำธุรกิจของทุกคนต้องมีการใช้นามบัตรเสมอ และการที่ท่านออกจากบ้านไปหาเพื่อนๆ ไปร่วมกลุ่มเน็ตเวิร์คกิ้งต่างๆนั้น บางท่านอาจจะพกนามบัตรไปแจกแบบเน้นปริมาณ บางท่านตั้งใจจะแจกทุกคนที่ได้คุยด้วย อาการแจกไม่เลือกแบบนี้จะไม่สร้างผลดีต่อท่านเลย เพราะภาพลักษณ์ของท่านจะกลายเป็นเซลส์ที่เน้นการขายของ มาออกบู๊ทมาแจกใบปลิว มาแจกนามบัตร หนังสือบางเล่มจะเรียกคนแจกนามบัตรแบบไม่คิดว่า “นักยัดเยียดนามบัตร”

นามบัตรหนึ่งใบราคาไม่ถูกไม่แพง แต่มันจะกลายเป็นเศษกระดาษราคาแพงไปเลยถ้าท่านใช้ไม่ถูกวิธีหรือแจกไปยังคนที่ไม่ต้องการ และในทางตรงข้าม นามบัตรใบละไม่กี่บาทจะเป็นคัมพานีโพรไฟล์ที่ถูกที่สุดในโลกหากท่านแจกถูกคนและถูกโอกาส

วิธีการที่ดีที่สุดในการแจกนามบัตรให้มีคุณค่าก็คือ แจกเฉพาะคนที่เขาเอ่ยปากขอครับ ใครไม่ขออย่าเพิ่งไปแจก เพราะเขาอาจไม่ต้องการ เขาอาจมาอยู่ในกลุ่มเน็ตเวิร์คกิ้งแบบโดนบังคับมา โดนหลอกมา เขาไม่ได้อยากทำธุรกิจ หรือแม้แต่ธุรกิจเขาอาจไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย การหยิบนามบัตรแจกไม่เลือกหน้ามีโอกาสที่มันจะถูกนำไปวางในลิ้นชักแบบมัดยางรวมเป็นกอง เพราะใครๆก็แจกไม่คิด คนรับก็รับแบบไม่อยากเสียมารยาท สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเศษกระดาษราคาแพง ผมเชื่อว่าทุกท่านจะมีกองนามบัตรที่ไม่อยากได้อยู่สักกองหนึ่งในที่ทำงาน ซุกไว้ในลิ้นชักหรือในซอกตู้เก็บเอกสารสักที่หนึ่ง

สิ่งที่เราควรจะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแจกนามบัตรอย่างมีคุณค่าก็คือ
1 มีนามบัตรติดตัวพร้อมแจกเสมอ
2 มีนามบัตรที่แสดงถึงตัวตนความเป็นมืออาชีพในธุรกิจของท่าน และไม่ลืมระบุ ชื่อท่าน ชื่อบริษัท เบอร์โทรที่ต้องการให้เขาโทรกลับ และรายละเอียดธุรกิจของท่านอย่างสรุปย่อ
3 แจกเฉพาะคนที่เขาอยากได้

คราวนี้ถ้าเกิดว่า คุณอยากจะให้นามบัตรกับใครเป็นพิเศษ คนที่คุณเชื่อว่าเขาสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณได้ คุณจะทำอย่างไรให้เขาเอ่ยปากขอนามบัตรจากคุณ
วิธีทำให้เขาเอ่ยปากขอนามบัตรจากคุณก็ทำได้โดยการเข้าไปทำความรู้จักและขอนามบัตรของเขาก่อน เมื่อได้คุย และได้นามบัตรมาแล้ว ถ้าเขาไม่ลืมเขามักจะขอนามบัตรจากคุณเช่นกัน มันเป็นจิตวิทยา การตอบแทนซึ่งกันและกัน คือถ้าคุณทำอะไรต่อเขา เขามักจะทำแบบนั้นต่อคุณ แค่นี้คุณก็สามารถให้นามบัตรแก่คนที่คุณสนใจได้แล้ว

อย่าลืมว่า นามบัตรเล็กๆหนึ่งใบ เป็นได้ทั้งคัมพานีโพรไฟล์ และเศษกระดาษ ใช้มันให้ถูกวิธี ถูกกาละเทศะ มันพาคุณไปสู่ลูกค้าที่คุณต้องการ

โรงพิมพ์ letterpress ดูดี

ไปเจอโรงพิมพ์ letterpress ของฝรั่งมา  ดูสะอาดเรียบร้อย แม้ว่าผลงานจะออกมาเหมือนกับโรงพิมพ์ในบ้านเรา แต่โรงพิมพ์ของเขารับแขกได้

เครื่องพิมพ์ 4 สี



Untitled, originally uploaded by pockethifi.

เครื่องพิมพ์ 4 สี ในประเทศไทยมักจะเป็นเครื่องยี่ห้อไฮเดลเบิร์ก และส่วนมากโรงพิมพ์ในไทยจะซื้อเป็นมือสองหรือมือสิบมาใช้งาน หายากจะมีคนซื้อเครื่องใหม่แกะกล่อง เพราะเครื่องพิมพ์ 4 สี ของใหม่น่าจะอยู่ที่ราคา 20 ล้านขึ้นไป ส่วนของมือสองก็หาได้ตั้งแต่ 3 ล้านขึ้นไป เครื่องพิมพ์ตัวนี้อายุประมาณ 25 ปี วิ่งมาแล้วประมาณ 70 ล้านรอบพิมพ์

เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ท 1 สี



Untitled, originally uploaded by pockethifi.

เครื่องพิมพ์อ๊อพเซท 1 สี เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีอายุเกือบสามสิบปี ยังคงทำงานได้ดีในปัจจุบัน เหมาะสำหรับพิมพ์งานสีพิเศษ สามารถจับกระดาษขนาดเล็กได้ เป็นข้อดีที่เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ไม่สามารถทำได้ ข้อเสียคือมันเป็นเครื่อง 1 สี จะพิมพ์ใบปลิวที่เป็นภาพจริง หรืองาน 4 สี จะต้องพิมพ์ 4 รอบ จบสีแรกแล้วก็ล้างเครื่อง ใส่สีที่ 2 ทำอย่างนี้จนครบ 4 เที่ยว ถ้าพิมพ์แล้วบางสีเพี้ยนจะรู้ตอนที่งานจบแล้ว

พิมพ์การ์ดแต่งงานด้วยระบบ letterpress

IMG_1419thailetterpress

การ์ดแต่งงานเป็นตัวแทนของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะเชื้อเชิญแขกให้มาร่วมงาน บุคลิกของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นอย่างไรก็จะสะท้อนภาพแรกออกมายังการ์ดแต่งงานใบนี้ หลายคู่เลือกใช้การ์ดสำเร็จรูป แต่ก็มีบางคู่ที่อยากได้การ์ดแต่งงานที่แตกต่างออกไป

ในเมื่อการแต่งงานคือความทรงจำที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตของคนส่วนใหญ่ ไม่เคยมีใครวางแผนแต่งงานมากกว่าหนึ่งครั้งถ้าไม่จำเป็น ดังนั้นความทรงจำที่มีกับงานแต่งงานครั้งหนึ่งในชีวิตก็เป็นเรื่องราวที่ควรได้รับการออกแบบ ตั้งแต่รูปแบบการจัดงาน การเลือกชุด การเลือกสถานที่ การเลือกอาหาร การเลือกช่างภาพ การเลือกวงดนตรี การเลือกสิ่งต่างๆที่ประกอบอยู่ในงาน การ์ดแต่งงานก็เป็นสิ่งที่ควรได้รับการออกแบบอย่างปราณีตเพื่อเป็นความทรงจำอย่างแรกที่แขกจะมีต่อเจ้าภาพ และมันจะเป็นความทรงจำระยะยาวที่จะทำให้ผู้คนจดจำบ่าวสาวได้หากงานแต่งงานครั้งนี้มีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ หากงานแต่งงานครั้งนี้มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างไปจากงานอื่นๆ

มีวิธีมากมายในการสร้างการ์ดแต่งงานขึ้นมา ตามแต่จินตนาการของเจ้าภาพและที่ปรึกษาของเจ้าภาพ ตำแหน่งที่ปรึกษาก็หมายถึงเพื่อนที่เคยแต่งงานมาแล้ว หรือ เพื่อนผู้ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบและสั่งทำการ์ด และที่ปรึกษาอาจหมายถึงออแกไนเซอร์ที่ช่วยจัดงาน การ์ดแต่งงานที่ทำได้เร็ว และเป็นรูปแบบมาตรฐานที่พ่อแม่คุ้นเคยก็คือไปแถวๆพาหุรัด แล้วหาร้านขายของชำร่วยที่หน้าร้านมีบอกว่ารับพิมพ์การ์ดแต่งงาน แล้วก็บอกเขาว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เขียนรายชื่อพ่อแม่สองฝ่าย สถานที่จัดงาน ชื่อบ่าวสาว และวันเดือนปี แล้วเลือกการ์ดจากแค็ตตาล๊อค แล้วก็จ่ายเงิน อีกสามถึงห้าวันมารับของได้ วิธีนี้จบ ได้การ์ด ได้ของชำร่วย เสียเวลาเดินทางแค่สองวัน คือวันแรกไปสั่งการ์ด วันที่สองตอนไปรับการ์ด เหมาะกับคนที่ไม่อยากคิดอะไร ไม่อยากเสียเวลา ราคาก็จะถูกที่สุดด้วย แต่การ์ดแบบนี้ อย่าคาดหวังว่าแขกจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะไม่รู้ว่าอีกกี่สิบกี่ร้อยคู่ที่จัดงานปีเดียวกันก็ใช้การ์ดแบบนี้

การออกแบบการ์ดเองแล้วสั่งพิมพ์เองเป็นรูปแบบที่น่าสนใจ เพราะจะได้การ์ดที่แสดงตัวตนของบ่าวสาวได้ดี สามารถออกแบบให้ถูกหรือแพงก็ได้ การออกแบบและสั่งทำเองนี้จะมีสองแนวทางคือแนวง่ายและเร็ว กับแนวยากแต่เท่ห์สะใจ ซึ่งทั้งสองแนวทางนี้จะมีราคาค่าใช้จ่ายสูงกว่าการ์ดพาหุรัดเสมอ แนวง่ายและเร็วก็คืออาจจะเป็นการออกแบบแล้วทำอาร์ตเวิร์คด้วยโปรแกรมจัดหน้าในคอมพิวเตอร์ แล้วก็เอาไฟล์ไปให้โรงพิมพ์จัดพิมพ์ อาจจะพิมพ์การ์ดและซองไปด้วยเลย ขั้นตอนการพิมพ์ก็จะเป็นการพิมพ์ระบบอ๊อพเซ็ท โรงพิมพ์บางแห่งอาจจะเป็นระบบดิจิทัล ถ้าเป็นระบบอ๊อพเซ็ทอาจจะต้องใช้เวลาในโรงพิมพ์ประมาณ 7 วัน แต่ถ้าเป็นงานพิมพ์ระบบดิจิทัลก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำเพลท

IMG_1428thailetterpress

ถ้าพ้นจากแนวง่ายและเร็วไปแล้วก็จะเป็นแนวยากแต่เท่ห์ นั่นก็คือเป็นการพิมพ์ในโรงพิมพ์เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มขั้นตอนพิเศษเข้าไปด้วย คืออาจจะเป็นงานพิมพ์ระบบดิจิทัลก็ได้ ระบบอ๊อพเซ็ทก็ได้ แล้วเพิ่มขั้นตอนอย่างการปั๊มนูนที่โลโก้ แบบนี้ก็จะได้ความแปลกและน่าสนใจเพิ่มขึ้น อาจจะเพิ่มเทคนิคการปั๊มเงิน ปั๊มทองเข้าไปด้วยเพื่อให้ดูหรูเลิศขึ้นไปอีก อาจจะมีการเพิ่มเทคนิคการเคลือบผิวเข้าไป หรืออาจจะใช้เทคนิคการประกบกระดาษเพื่อเพิ่มความหนาให้รู้สึกหนามากจนดูเด่น ไม่ว่าจะเพิ่มเทคนิคอะไรเข้าไปก็จะเป็นการเพิ่มความดูดี ความน่าสนใจ และแน่นอนว่าราคาสูงขึ้น แต่ก็ได้มาซึ่งความเท่ห์ที่มากกว่าปกติ เหมาะกับบ่าวสาวที่ต้องการความพิเศษ ต้องการให้การ์ดดูแตกต่าง

ในช่วงไม่กี่ปีนี้มีการ์ดแต่งงานอีกรูปแบบหนึ่งที่ค่อยๆได้รับความนิยมขึ้นมา เป็นการ์ดที่มีลักษณะพิเศษกว่าการพิมพ์อ๊อพเซ็ท และระบบดิจิทัล นั่นก็คือการ์ดที่พิมพ์ด้วยเทคนิค Letterpress ซึ่งเป็นเทคนิคการพิมพ์ที่โบราณที่สุด เป็นระบบการพิมพ์ที่เกิดขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว แต่ได้มีการนำมาใช้กับงานพิมพ์ในรูปแบบใหม่ให้น่าดูยิ่งขึ้น ทำให้การ์ดลักษณะนี้มีความพิเศษ มีลักษณะเฉพาะตัวที่เลียนแบบได้ยาก

การพิมพ์ระบบ Letterpress คือการพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ที่มีความแข็ง แกะลายเป็นตัวหนังสือหรือรูปทรงต่างๆ แล้วนำไปป้ายด้วยหมึกพิมพ์ จากนั้นก็นำไปกดทับลงบนกระดาษ ลักษณะจะคล้ายกับการพิมพ์ตรายางที่เราคุ้นเคย แต่จะแตกต่างจากตรายางตรงที่ แม่พิมพ์ตรายางจะทำด้วยแผ่นยางติดไว้บนไม้ แต่แม่พิมพ์ Letterpress ที่พูดถึงนี้จะทำด้วยแผ่นเหล็กแทนยาง

IMG_1437thailetterpress

ลักษณะเครื่องพิมพ์ที่จะพิมพ์ระบบ Letterpress จะมีหลักการคือ แม่พิมพ์จะยึดติดไว้กับแท่น แล้วมีลูกกลิ้งหมึกคอยพาหมึกมาทาบนแม่พิมพ์ แล้วก็มีหน่วยป้อนกระดาษที่จะพากระดาษไปสัมผัสกับแม่พิมพ์จนเกิดเป็นภาพ การ์ดแต่งงานที่พิมพ์ด้วยระบบนี้จะมีความละเอียดไม่มาก แต่จะมีลายเส้นที่มีน้ำหนักกดทับที่ชัดเจน เพราะเป็นการเคลื่อนกระดาษไปกดลงบนแม่พิมพ์ และการกดทับที่มากเป็นพิเศษจะทำให้งานพิมพ์ดูมีเสน่ห์ ซึ่งแตกต่างจากระบบการพิมพ์อ๊อพเซ็ทที่แทบจะไม่มีการกดทับให้กระดาษเป็นรอยเลย

IMG_1444thailetterpress

การกดทับจนเกิดเป็นรอยลึก หรือรอยจมลงบนเนื้อกระดาษจะยิ่งมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นหากเราใช้กระดาษที่หนาขึ้น กระดาษทั่วไปที่ใช้พิมพ์การ์ดเชิญรูปแบบต่างๆจะมีความหนาประมาณ 300 แกรม แต่การ์ดแต่งงานที่เราพยายามทำให้แตกต่างนั้นจะใช้กระดาษที่หนาเป็นพิเศษ นั่นคือเราเลือกใช้กระดาษชานอ้อยที่มีความหนาประมาณ 500-600 แกรม ความหนาของกระดาษชานอ้อยนี้เมื่อมองด้วยตาเปล่าแล้วน่าจะมีความหนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่ากระดาษชานอ้อยเป็นกระดาษที่หนามาก หนาจนไม่สามารถจะดัดโค้ง หรือพับงอได้

ลักษณะงานพิมพ์ Letterpress จะมีเนื้องานที่มีความดิบ รอยหมึกที่กดทับเป็นภาพหรือตัวหนังสือจะมีลักษณะไม่สม่ำเสมอ บางส่วนอาจจะดูแล้วเป็นเส้นบาง บางส่วนอาจจะดูแล้วเป็นเส้นหนา บางครั้งดูเหมือนเป็นตัวหนังสือขาดวิ่น ที่กล่าวมาล้วนเป็นเสน่ห์ของระบบการพิมพ์ Letterpress ความไม่เพอเฟ็คเหล่านี้เป็นบุคคลิกเฉพาะตัว ความหนาของกระดาษ และความลึกของรอยกดมันทำให้ผู้จับการ์ดรู้สึกว่ามันออกมาด้วยความตั้งใจ แน่นอนว่ามันมีโอกาสถูกเก็บเป็นที่ระลึกมากกว่าการ์ดลักษณะอื่นๆ

IMG_1445thailetterpress

Untitled

Untitled

การพิมพ์ Letterpress 1 สี จะใช้แม่พิมพ์ 1 ชิ้น หากจะพิมพ์ 2 สี ก็จะใช้แม่พิมพ์ 2 ชิ้น ยิ่งมีจำนวนสีเยอะ ก็ยิ่งใช้แม่พิมพ์เยอะขึ้น ในตัวอย่างนี้เป็นการ์ดแต่งงานที่ใช้แม่พิมพ์ 4 ชิ้น โดยสองชิ้นแรกจะพิมพ์ด้านหน้า โดยหนึ่งชิ้นเป็นหมึกสีน้ำตาล อีกหนึ่งชิ้นสำหรับด้านหน้าจะพิมพ์แบบไม่ใส่หมึกเพื่อกดให้เป็นรอยจมแต่เพียงอย่างเดียว ส่วนด้านหลังก็จะมีสองสี ใช้แม่พิมพ์อีก 2 ชิ้นสำหรับแต่ละสี รวมเป็น 4 ชิ้น

IMG_1432thailetterpress

IMG_1434thailetterpress

การ์ดแต่งงาน letterpress

การ์ดแต่งงานที่พบในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แบบที่ทำยากและไม่ค่อยพบว่ามีใครเขาทำกันคือแบบ letterpress ปกติเวลาได้รับการ์ดแต่งงานเราก็จะได้รับการ์ดสีครึมหรือสีชมพู ในนั้นก็จะพิมพ์ด้วยตัวสีทอง หรือสีเงิน เป็นงานปั๊มทองเค ในโรงพิมพ์จะเรียกว่า เคทอง หรือ เคเงิน คำว่า “เค” มาจากไหนผมก็ไม่แน่ใจ แต่มันก็คือการเอาบล็อกเหล็กมาติดกับแผ่นความร้อนแล้วเอาไปกดแผ่นทองชนิดพิเศษ แผ่นทองเมื่อโดนความร้อนจะละลายติดกับกระดาษ แรงกดและความร้อนจะทำให้ทองติดบนกระดาษ การพิมพ์แบบนี้ก็เป็น letterpress ประเภทหนึ่ง แต่มันไม่มีสี

เมื่อต้นเดือนนี้ผมทำการ์ดแต่งงานให้ลูกค้ารายหนึ่ง เจ้าภาพต้องการอารมณ์ letterpress คือตัวหนังสือมีรอยจมลงไปอย่างเด่นชัด ผมดูอาร์ตเวิร์คแล้วก็เลือกที่จะพิมพ์ด้วยระบบอ็อพเซ็ทแทนที่จะพิมพ์ด้วยบล็อกเหล็กตรงๆ เพราะว่ากระดาษที่ใช้เป็นสีขาวงาช้าง มีการย้อมสีพื้น ตัวหนังสือเป็นสีประมาณสามสี การพิมพ์ letterpress ลงบนพื้นที่กว้างๆเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำ มันเหมือนตรายางที่ไม่สามารถจะกดหมึกได้เรียบตลอดกระดาษ ยิ่งกระดาษมีรอยเป็นลอนๆเสียด้วยยิ่งพิมพ์แล้วไม่สวย

ผมใช้วิธีพิมพ์อ็อพเซ็ทด้วยสีพิเศษจำนวน 4 สี ค่าสีระบุตามรหัสสีของ pantone ทำเพลทสีพิเศษ 4 ใบ ผสมสีตามตัวอย่างของ pantone พิมพ์จริง 1 รอบเพื่อให้ลูกค้าตรวจ เมื่อสีผ่านแล้วก็ค่อยพิมพ์จริงทั้งหมด กระดาษเท็กเจอร์ เลือกกระดาษชื่อ ACQ สีขาวงาช้างความหนา 300g พอพิมพ์เสร็จก็เอาบล็อกเหล็กสำหรับทำงานปั๊มจมมาทำการปั๊มต่อ ก็คือมีบล็อกเหล็กสองแผ่น แผ่นบนจะเป็นตัวผู้มีตัวหนังสือตรงกับอาร์ตเวิร์คตัวหนังสือทุกคำ แผ่นล่างจะเป็นบล็อกตัวเมีย ปั๊มจมเพื่อสร้างรอยกดให้เหมือนเป็นงาน letterpress โดยตั้งน้ำหนักกดให้ไม่มากเกินไป เอามือลูบผ่านตัวหนังสือจะรู้สึกจมก็พอ

ตอนที่อยู่ในขั้นตอนการพิมพ์และปั๊มก็ลุ้นว่าจะออกมาสวยไหม พองานจบก็โล่งใจ สวยตามที่คิดไว้ หยิบตัวอย่างมาถ่ายภาพเก็บไว้ การถ่ายภาพรอยจมของกระดาษเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน ต้องใช้เลนส์มาโครโฟกัสใกล้ๆ เลือกแนวแสงสว่างให้ช่วยเน้นรอยจมให้ดูชัดขึ้น ก็ได้ภาพตามที่เห็น