number in letterpress printing

2017-10-18_02-32-14

ระยะห่างที่น้อยที่สุดของตัวพิมพ์นัมเบอร์คือประมาณ 3.7 cm ซึ่งเป็นระยะความกว้างของชิ้นนัมเบอร์ 1 ชิ้น หากเราจะพิมพ์ เล่มที่ เลขที่ให้ชิดกันที่สุด เราตจะต้องมีพื้นที่ของเล่มที่เลขที่ห่างกันเท่ากับ 3.7cm

BNI คืออะไร

BNI คือองค์กรที่เป็นที่รวมกลุ่มของนักธุรกิจเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน นักธุรกิจแต่ละคนจะเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มแล้วทุกคนจะช่วยกันหาลูกค้าให้เพื่อนสมาชิกด้วยกัน เราหาให้เพื่อน เพื่อนหาให้เรา เปรียบไปก็เหมือนเรามีเซลส์ช่วยขายเท่ากับจำนวนสมาชิกในกลุ่มของเรา และอาจจะมีเซลส์มากขึ้นหากเราติดต่อกับเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งสมาชิกในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 1933 คน สมาชิกทั่วโลกมีอยู่ 227,000 คน (ข้อมูลปี คศ.2019)

ลองไปอ่านข้อมูลของ BNI กลาง http://www.bni.com/
ส่วน BNI ประเทศไทยก็ที่นี่ http://bnithailand.com/en-TH/index

BNI มาจากอเมริกา เข้ามาในไทยเมื่อปี คศ 2006 โดยคุณ Mr. Kollakit Thalerngnawachart ในไทยมีกลุ่มของ BNI อยู่หลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีจำนวนสมาชิกไม่เท่ากัน บางกลุ่มขนาดใหญ่มีคนเยอะ บางกลุ่มขนาดเล็กเพราะคนยังไม่มาก กลุ่ม Heritage เป็นกลุ่มแรกที่เกิดขึ้นพร้อมกับ BNI ประเทศไทย

IMG_7312

กิจกรรมในกลุ่มมีมากมาย แต่วัตถุประสงค์หลักก็คือการรวมตัวกันทำธุรกิจ ต่างคนต่างช่วยเพื่อนทำธุรกิจ แนะนำลูกค้าให้เพื่อน สมาชิกในกลุ่มจะมีธุรกิจไม่ซ้ำกัน ลูกค้าของแต่ละคน อาจจะใช้สินค้าและบริการจากหลายแหล่ง การส่งต่อลูกค้าของเราให้ไปซื้อสินค้าและบริการอื่นๆที่เราไม่ได้ทำจากเพื่อนในกลุ่มเป็นการช่วยเพื่อนทำธุรกิจ เราส่งลูกค้าเราให้เพื่อน เพื่อนส่งลูกค้าให้เรา เรากับเพื่อนไม่ได้แย่งกันขายของเพราะธุรกิจคนละอย่างกัน ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน เรากับเพื่อนได้ธุรกิจ ลูกค้าของเราได้สินค้าและบริการที่หลากหลาย

2018-09-25 12.48.31 1

สมาชิกในกลุ่มจะประชุมร่วมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กลุ่ม heritage จะประชุมวันอังคาร 7.00 น. ในการประชุมจะมีการแจ้งข่าวสาร และให้สมาชิกพรีเซ้นธุรกิจของตัวเอง 1 นาที ผู้ที่เข้าประชุมจะประกอบไปด้วยสมาชิก และ Visitor ซึ่ง visitor จะเป็นคนที่สนใจอยากมาเข้าร่วมเพื่อเป็นสมาชิก หรือ มาเพื่อช็อปปิ้งสินค้าและบริการจากสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งผู้เป็น Visitor ก็จะได้รับสิทธิ์ที่จะพูดเพื่อขายของหรือพรีเซ้นธุรกิจของตนเองเช่นกัน ผมเองก็เป็นสมาชิกในกลุ่ม Heritage เข้ามาในกลุ่มด้วยธุรกิจโรงพิมพ์

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็จะพอเข้าใจภาพรวมของกลุ่มธุรกิจ BNI ว่ามีที่มาที่ไปและทำอะไรกัน หากท่านอยากใช้สินค้าและบริการในกลุ่ม Heritage ก็ลองติดต่อสมาชิกในกลุ่มดูสักคน หากท่านอยากช็อปปิ้งแบบมาครั้งเดียว เจอซัพพลายเออร์เต็มไปหมดเลย ซึ่งเป็นการประหยัดเวลา ก็ขอเชิญมาเป็น Visitor ในการประชุมประจำสัปดาห์ ครับ แต่ว่า เราจะประชุมกันตอนเช้า 7.00 น. วันอังคาร เช้ามาก ตื่นลำบาก แต่มันมีข้อดีคือ เราประชุมเสร็จ เราแยกย้ายกลับไปทำงาน ไปดูแลบริษัทตัวเองต่อได้ครับ ไม่เสียงาน

ติดต่อทีมงานของผม ฝากชื่อและอีเมลไว้ได้ครับ

Go back

Your message has been sent

Warning
Warning
Warning
Warning

Warning.

ข้อเสียของการไม่อัพเดทซอร์ฟแวร์ ทำให้ใช้งานไม่ได้

ตั้งแต่ผมซื้อโน้ตบุ๊คตัวล่าสุดเมื่อปี คศ 2010 นั่นคือ macbookair 2010 ผมก็ใช้งานมันมาตลอด ใช้ทำงาน ใช้เล่นเน็ต ใช้ดูหนัง ฟังเพลง ดู youtube ด้วย ซึ่งมันก็ใช้งานได้ดี ในงานประจำวันที่ต้องทำก็จะมีโปรแกรมคิดราคาที่ใช้ excel ผมก็เลือกใช้ openoffice เป็นหลัก เพราะไม่อยากละเมิดลิขสิทธิ์ ไฟล์ excel จำนวนหลายพันไฟล์ก็เก็บไว้ใน dropbox และ sync กับคอมตั้งโต๊ะไว้ โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ที่ทำงานจะมีไฟล์สำหรับทำงานเหมือนกันตลอดเวลา ผมจะคิดราคาให้ลูกค้าที่โต๊ะทำงานหรือโน้ตบุ๊คก็ได้ ส่วนการเช็คเมล ก็ใช้เบราเซอร์อย่าง safari เข้าไปอ่านเมล และเขียน blog ส่วนตัว

ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบลื่น ใช้ osx ตั้งแต่ 10.6 ซึ่งเป็น os ติดเครื่องโน้ตบุ๊คตั้งแต่แรก จนถึงปีปัจจุบัน os กลายเป็น 10.13 ไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่อัพเดทเลย os ติดเครื่องเลย ยังคงเป็น 10.6.6 อยู่ ตัวเลข .6 ตัวสุดท้ายเป็นอัพเดทย่อยๆที่กดอัพเดทไปตามเวลาที่มีการแจ้ง ซอร์ฟแวร์ที่ใช้งานยังใช้งานได้อยู่ แต่ก็ค่อยๆไม่รองรับมากขึ้น ตอนที่มีการแจ้งให้อัพเดทเป็น 10.7 ผมก็ไม่อัพ ตอนที่มีอัพเป็น 10.8 ผมก็ไม่อัพ ด้วยเหตุผลว่า มันยังใช้งานได้ และ osx ก็ค่อยๆอัพเป็นตัวที่สูงขึ้นอีกหลายครั้งจนปีนี้ คศ 2019 osx ไปถึง 10.13

ปัญหาเริ่มมีให้เห็นช่วงปี 2016 มีหลายโปรแกรมที่มีการอัพเดทแล้วไม่รองรับการทำงานบน 10.6 อีกต่อไป ทำให้ผมไม่สามารถใช้ dropbox ได้ เอกสารที่จะใช้คิดราคาจะอยู่ในระบบของ dropbox ทั้งหมด นั่นทำให้ผมไม่มีเอกสารคิดราคาที่สะสมประวัติการขายและไฟล์การคิดราคาสิบกว่าปีอยู่ในโน้ตบุ๊คเลย นอกจากนี้ยังมีปัญหากับโปรแกรม line ที่ทำงานช้ามากบน 10.6 จนไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย และ line รุ่นใหม่ๆก็ต้องการ osx ที่สูงกว่านี้ ส่วน safari ก็ไม่รองรับการทำงานกับเว็บยุคใหม่ๆหลายเว็บ โดยเฉพาะ facebook และ youtube ไม่ใช่แค่ safari หรอก แต่ firefox ก็ไม่รองรับ ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ง่ายๆด้วยการอัพเดท safari หรือ firefox ให้ทันสมัย แต่ประเด็นมันเกิดเป็นปัญหาตรงที่ safari และ firefox ตัวล่าสุดไม่ทำงานบน osx10.6.6 แล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นปัญหาอย่างแท้จริง

เพราะว่า พอถึงวันที่ผมจะคลิกอัพเดท ให้เป็น osx10.13 ระบบอัพเดทก็ฟ้องว่า การอัพเดทเป็น 10.13 ต้องทำจาก osx 10.8 จะอัพเดทไกลๆมาจาก 10.6 ไม่ได้ นี่คือความโชคร้ายของผม และตัวอัพเดทของ 10.6 ไป 10.7 หรือ 10.8 หรือ 10.9 ก็ไม่มีให้คลิกแล้ว เพราะมันผ่านไปหลายปีแล้ว เครื่องคอมในปี 2010 จะอัพเดทในปี 2019 มันทำไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ผมพยายามหา firefox รุ่นที่ทำงานบน 10.6 ได้แล้วยังพอเปิด facebook และ youtube ได้อยู่มาใช้ มันพอใช้ได้แต่มันช้าและหน่วงมากๆ เครื่องโน้ตบุ๊คของผมเปิดเครื่องใช้เวลาแค่ 14 วินาที ก็พร้อมใช้งาน เปิดโปรแกรมที่ไม่ต้องต่อเน็ตได้เร็วทุกโปรแกรม แต่จะอ่าน feed ในเฟสบุ๊คช้ามาก ไม่รู้ว่าข้อมูลของเว็บรุ่นใหม่ๆมันต้องประมวลผลอะไรมากมาย เบราเซอร์ที่ผมมีอยู่มันทำงานช้ามาก

ยังมีปัญหาการเปิดเพลงจาก youtube อีกที่เคยทำได้ดีมาก ดีขั้นเทพ ตอนที่มันติดขัดมันเริ่มช้าลง ผมไม่สามารถหาเพลงที่ต้องการได้จาก youtube อีกแล้ว เพราะหน้าแรกของ youtube เปิดขึ้นมาก็มีข้อมูลขึ้นไม่ครบ ผมจะหาเพลงที่ต้องการสักเพลง ผมใช้เวลากดแล้วรอหน้าจอเปลี่ยนแปลงนานมาก เรียกได้ว่า หากเรานึกถึงเพลงที่อยากฟัง แล้วเราจะไปหาจาก youtube ผมใช้เวลาผ่านไปสัก 3 นาทีผมยังไม่ได้ฟังเพลงที่ต้องการเลย มันแย่ยิ่งกว่าการเปิดด้วยมือถือเสียอีก

แต่ผมเป็นคนใจเย็นเป็นน้ำ รอได้ ช้ามากนักก็ใช้วิธีบุ๊คมาร์คเอาไว้เราจะได้เข้าถึงไฟล์เพลงใน youtube ไปเลยตรงๆ ไม่ต้องไปหน้าแรกของ youtube แบบนี้ก็พอไหว แต่จุดแตกหักกับปัญหามันมาจาก การเขียน blog ของผมที่ใช้งานระบบภาพของ flickr ไม่ได้ วิธีทำงานของผมก็คือ ผมจะอัพข้อมูลลง blog บน wordpress และใช้ภาพที่ลิงค์มาจาก flickr ของผมเอง ผมใช้ flickr มาประมาณ 10 ปี มีภาพอยู่ในระบบเป็นแสนภาพ ภาพอะไรที่ถ่ายมาก็อัพโหลดเข้าไปไว้ใน flickr ทั้งหมด แล้วก็เลือกเอาภาพที่จะประกอบกับการเขียน blog มาโพสท์ใน wordpress แล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ flickr ก็หยุดการรับภาพจาก firefox ในโน้ตบุ๊คของผม ด้วยเหตุผลตามภาพ นั่นคือผม login เข้า flickr ของตัวเองไม่ได้

Screen Shot 2562-04-21 at 4.45.05 PM

การไม่อัพเดท os ทำให้ผมไม่สามารถอัพเดทเบราเซอร์ได้ และการไม่อัพเดทเบราเซอร์ทำให้ผมอัพเดทภาพเข้า flickr ของตัวเองไม่ได้ นี่คือปัญหาที่ใหญ่สำหรับผมมาก ไม่สามารถอดทนได้ ต้องหาโน้ตบุ๊คใหม่มาใช้ นี่คือสิ่งที่คิดออก

เว็บ flickr  บอกว่ากรุณาให้เบราเซอร์ที่อัพเดท หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด

ซูมให้อ่านใกล้ๆ


……เดี๋ยวโพสท์ต่อตอนที่ 2

ตัวอย่างถ่ายภาพรองเท้าเด็ก

ผมรับงานถ่ายภาพร้องเท้าเด็กมางานหนึ่ง  ลักษณะงานจะต้องจัดถ่ายในภาพแสงที่เคลียร์ ฉากขาว เพื่อใช้ภาพทำแค็ตตาล็อค  และใช้ในเว็บเป็นหลัก  ก็เลยจัดการถ่ายในกล่องดัดแปลงที่ผมใช้ประจำ  กล่องนี้สร้างเงินมาหลายแสนบาทแล้ว  ก็ยังคงใช้งานกันต่อไป  แต่ในครั้งนี้จะมีเรื่องพิเศษกว่าครั้งอื่นๆก็ตรงที่ผมจะให้ลูกเป็นผู้ช่วย

 

PHOTO_COLLAGE1549169504935

 

ปกติการถ่ายภาพลักษณะนี้ผมจะทำงานคนเดียว  วางรองเท้า แล้วถ่ายภาพด้วยแฟลช  ค่าแสงแฟลชก็วัดและปรับตั้งให้แสงแฟลชมีค่าสว่างตามที่ต้องการ แล้วก็หยิบสินค้าไปวาง จัดให้ได้รูปแบบที่ต้องการ แล้วก็ถ่ายภาพ  แล้วก็เปลี่ยนสินค้า  งานส่วนที่เป็นการวัดแสงและการถ่ายก็ยังคงเป็นตัวเราเหมือนเดิม  แต่งานที่หยิบของเข้าไปวาง จัดวางในท่าทางที่ต้องการ และหยิบออกเมื่อถ่ายภาพเสร็จผมก็จัดแจงให้ลูกเป็นคนทำให้  โดยมีข้อตกลงกันว่า ผู้ช่วยทำงานจะมีค่าแรงให้ชั่วโมงละ 60 บาท  ลูกชายผมก็ตกลง  เราก็เลยได้เริ่มงานกัน  แต่รอบนี้ผมจะไม่ใช้แฟลช  เพราะจะยกกล่องมาถ่ายกับลูกที่บ้าน ไม่ได้ถ่ายจากที่ทำงาน  งานถ่ายที่บ้านผมไม่ขนแฟลชมาด้วย  ตัดสินใจใช้แสงธรรมชาติในการถ่ายครั้งนี้

 

IMG_0116
IMG_0094
IMG_20190203_093340

การถ่ายภาพด้วยแสงธรรมชาติเป็นเรื่องที่มีจุดที่ต้องพิถีพิถันหลายจุด สิ่งที่สำคัญมากและต้องทำให้แม่นยำก็คือการตั้งค่า whitebalance ให้ได้ค่าที่ต้องการ เพื่อให้ภาพมีโทนสีที่ถูกต้องที่สุด  การถ่ายภาพในกล่องขาวแบบนี้ผมจะใช้ค่า whitebalance แบบ custom whitebalance ซึ่งในบทความเก่าๆมีการพูดถึงการตั้งค่าแบบ custom ไว้หลายครั้งแล้ว

2019-02-15_05-06-42

ผมจบงานถ่ายภาพครั้งนี้ในเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากการมีผู้ช่วย 2 คน  เลยต้องจ่ายค่าแรงสำหรับ 2 คนเป็นเงิน 120 บาท  พ่อได้งาน ลูกได้ความรู้  ขอขอบคุณนายจ้างผู้แสนดีที่ให้โอกาสในการฝึกฝนลูกเกี่ยวกับการถ่ายภาพ

 

ภาพ happy new year กว่าจะได้มา

IMG_0156

 

เทศกาลจัดงานปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า ก็เป็นวันรวมญาติ  และเมื่อกินอิ่ม พูดคุยกันอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายรูปหมู่  รูปนี้มีเบื้องหลังที่อยากบันทึกไว้ ว่ากว่าจะเป็นภาพนี้ใช้เทคนิคหลายชนิดรวมกัน ลองดูว่ามันมาจากความรู้เรื่องอะไรบ้าง  คนที่ไม่สนใจเรื่องเทคนิคก็ข้ามไปได้เลย  ส่วนคนที่อยากฝึกฝนให้ถ่ายภาพได้คุณภาพตามที่ต้องการเสมอในทุกๆภาพก็อ่านเล่นๆ ค่อยๆทำความเข้าใจไปได้

1  ภาพนี้แสงไฟในบ้านเป็นไฟสีเหลือง  แต่กล้องปรับตั้งค่า white balance เป็นแบบ custom ก็คือมีการตั้งค่าให้สีถูกต้องสำหรับสภาพห้องนี้  หากเราตั้งค่าในกล้องเป็น auto whitebalance ภาพจะอมเหลืองมากกว่านี้  และหากตั้งค่าเป็น tungsten ภาพก็จะอมเหลืองหนักยิ่งกว่าเดิม  สิ่งที่ดีที่สุดคือ custom whitebalance  ดูตัวอย่างวิธีการตั้งค่า

 

2  ภาพนี้ใช้ขาตั้งกล้อง   สภาพแสงในบ้านเป็นสภาพแสงที่ถือว่าน้อย  หากกล้องปรับ iso ได้ไม่สูงพอ สปีดชัตเตอร์ก็จะต่ำ  และภาพนี้ต้องการความชัดที่มากกว่าปกติ  การใช้รู้รับแสงกว้างที่สุดของเลนส์จะทำให้คนส่วนใหญ๋ไม่ชัด เพราะยืนกันคนละระนาบ  ถ้าไม่ใช้ขาตั้งกล้องในภาพนี้ ต้องดัน iso ให้สูง เพื่อให้สารมารถใช้รูรับแสงแคบได้  แต่การใช้ขาตั้งกล้องจะมีข้อดีมากกว่า  เพราะจะช่วยให้องค์ประกอบภาพเป็นอย่างที่ต้องการ คือไม่เอียงและถ่ายภาพได้ไม่สั่น

 

3 ภาพนี้ใช้รูรับแสงแคบที่ f8 ทั้งๆที่เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ f4 การถ่ายภาพหมู่ควรจะตั้งค่าให้รูรับแสงเล็กเพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ในภาพมีความชัดเจน โฟกัสที่กลางภาพแล้วเลือกรูรับแสงแคบไว้  แต่ภาพนี้เด็กอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าและมีโผล่หน้าเข้ามาหากล้องเลยไม่ชัดเท่าที่ควร

 

4 ใช้รีโมทชัตเตอร์  ซึ่งกล้องรุ่น eos 6d สามารถตั้งค่าให้สั่งกดชัตเตอร์ผ่าน app ได้  การหัดเรียนรู้การใช้ app ในการสั่งการกล้องต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสัก 30 นาที  เพื่อให้รู้ว่าเราสั่งอะไรผ่าน app ได้บ้าง  หากยังไม่เคยใช้  และไปกดมั่วหน้างาน รับรองได้มั่วแล้วเสียงาน  หัดไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้ภาพเป็นไปตามที่ตั้งใจได้

5 ใช้การชดเชยแสง +1ev  การถ่ายภาพโทนสีอ่อนจะมีผลทำให้การวัดแสงของกล้องปรับตัวเองเพื่อรับแสงน้อยลง จะมีผลทำให้ภาพดูมืดกว่าความเป็นจริง อะไรที่เป็นสีขาวจะดูเป็นสีเทา  กำแพงบ้านเป็นสีขาวและสีเสื้อคนส่วนใหญ๋ในภาพเป็นโทนอ่อน  วัดแสงพอดีก็ได้ภาพหน้าดำกว่าปกติแน่นอน  ดังนั้นการชดเชยแสงให้กล้องรับแสงมากขึ้นอีก 1 สต๊อป หรือ +1ev ก็จะช่วยให้ภาพสว่างขึ้น สิ่งที่ควรขาวก็จะขาวอย่างที่ควรจะเป็น

 

วิธีคิดแบบนี้จะมาโดยอัตโนมัติเพื่อเหตุการณ์นี้อยู่ในมือช่างภาพที่มีประสบการณ์การถ่ายมามากพอ  คือมีประสบการณ์การถ่ายที่ผิดพลาดมาแล้ว เคยได้ภาพแย่  เคยได้ภาพเสีย เคยได้ภาพไม่น่าดูมาแล้ว  ดังนั้นคำว่าผิดเป็นครูเป็นหนทางที่จะพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพให้มีข้อผิดพลาดน้อยลง

 

ข้อมูลการถ่ายภาพหมู่ ปีใหม่ 31dec2018b

ปฏิทินขอบฟ้า ปี 2019 หรือ พศ 2562

 

เป็นสิ่งที่ทำมาทุกปีกับปฏิทินที่ทำเองใช้เอง  เอาภาพถ่ายของขอบฟ้าในปีที่ผ่านมาไปทำภาพปฏิทินของปีถัดไป  อย่างเช่น เดือนมกราคมปี 2018 ขอบฟ้าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ได้ถ่ายภาพที่ชอบกลับมา (พ่อชอบ)  ก็เลยเอาภาพมาใช้ประกอบในปฏิทินปี 2019 นั่นเอง  ดังนั้นเมื่อดูภาพในปฏิทินก็จะได้เห็นภาพว่า เมื่อปีที่แล้วไปทำอะไรมา

 

งานพิมพ์ letterpress อย่างง่าย

งานพิมพ์ letterpress ไม่ได้จำกัดอยู่กับการพิมพ์การ์ด หรือ พิมพ์ตัวหนังสือ  ยังรวมถึงการพิมพ์รูปภาพต่างๆด้วยแม่พิมพ์ที่สร้างขึ้นมาด้วยหลักการของ letterpress  คือ แม่พิมพ์มีส่วนสัมผัสหมึก และไม่สัมผัส ทำให้การพิมพ์ภาพเกิดเป็นภาพตามที่ออกแบบไว้บนแม่พิมพ์

ปกติแม่พิมพ์ที่ใช้บ่อยในวงการพิมพ์แบบ letterpress ก็จะเป็นแม่พิมพ์เหล็ก และ แม่พิมพ์ยาง วันนี้เพิ่งพบว่ามีการใช้โฟมแทนแม่พิมพ์ด้วย  เทคนิคของการสร้างแม่พิมพ์จากโฟมก็อาศัยความนิ่มของเนื้อโฟม  เริ่มจากออกแบบลายเส้นที่ต้องการให้เกิดเป็นภาพ  แล้วทำการเอาดินสอจิกกดส่วนที่เป็นเส้นดำให้ลึกจมลงไป  จากนั้นก็เอาแม่พิมพ์ไปทาสีโปสเตอร์ หรือ สีพลาสติกก็ได้ แล้วเอามาประกบกับกระดาษที่ต้องการพิมพ์  หมึกที่ติดอยู่บนแผ่นโฟมก็จะมาติดบนกระดาษ  ส่วนของร่องลึกจะไม่โดนหมึก ก็จะไม่มีภาพในส่วนร่องลึกนั่นเอง

 

 

ขอขอบคุณพิพิธภัณฑ์เด็ก สวนจตุจักร ที่จัดกิจกรรมดีๆน่าสนใจ   สถานที่แห่งนี้เป็นที่แห่งความฝันของเด็กและพ่อแม่ทุกคน  เป็นที่เล่นสนุกสนานเหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก  การจัดการของทีมบริหารพิพิธภัณฑ์มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมาก

 

ลูกผมมาใช้บริการที่นี่ตั้งแต่สี่ขวบ  ยังคงสนุกอยู่แม้ว่าจะมาเป็นรอบที่สิบแล้ว

Compare

ร้านขนมปังและกาแฟ Khagee

ผมเห็นภาพร้านกาแฟที่ชื่อ Khagee ครั้งแรกทางทวิตเตอร์  เป็นภาพที่ใครสักคนแชร์มา  ภาพร้านที่มีกำแพงขาว มีแสงสว่างส่องจากนอกร้าน ตู้ขนมเค้ก โต๊ะไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งร้านที่มีแต่พองาม ชวนให้ร้านดูดี  ดูน่าแวะได้ไม่ยากเลย

เข้าไปหาข้อมูลในเน็ตก็พบข้อมูลเพิ่มเติมอยู่บ้าง  มีรีวิวในเว็บพันทิป  มีคนอื่นๆเคยถ่ายรูปเอาไว้บ้าง  บางภาพก็ถ่ายธรรมดาดูเป็นร้านทั่วไป  ซึ่งภาพส่วนใหญ่ไม่ได้สวยเท่ากับที่เห็นในทวิตเตอร์  แต่ตอนนี้ผมจะย้อนกลับไปดูภาพในทวิตเตอร์ภาพนั้นก็หาไม่เจอแล้ว

พอมีโอกาสไปเชียงใหม่ก็เลยตั้งใจแวะไปดู  ก็เพิ่งได้เห็นกับตามว่าเป็นร้านเล็กๆ  ตั้งอยู่ริมถนน ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเชียงใหม่  ร้านเล็กมาก มีโต๊ะนั่งในร้านประมาณ 4-5 โต๊ะเท่านั้น ตู้ขนมก็ตู้เล็กๆ  แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาก็คือ หน้าตาขนมดูดีน่ากิน  และพอได้ลองกินแล้วก็ต้องทึ่งว่า ขนมอร่อย…

อีกเรื่องก็คือ ในร้านมีพนักงานให้เห็น 6 คน ไม่รวมกับด้านหลังร้านที่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คาดว่าจะมี 7-8 คนในร้าน  ร้านกาแฟมี 5 โต๊ะ แต่มีพนักงาน 6 คนอยู่ในร้านคอยบริการลูกค้า มันไม่ธรรมดาเลย  เพราะร้านทั่วไปที่เคยเห็น โต๊ะจะเยอะกว่าพนักงานมาก  บางร้านมี 6 โต๊ะกับพนักงาน 2 คนเท่านั้น  แต่ Khagee ไม่ใช่

กินเสร็จในร้าน ซื้อกลับโรงแรมด้วย 2 ชิ้น  ได้ถุงมา 2 ถุง  ร้านใช้ตัวหนังสือเรียบง่ายทำป้ายร้าน  และพิมพ์ชื่อร้านบนถุง รูปแบบการพิมพ์เดาว่าเป็นระบบตรายางหรือเป็น letterpress ถุงขนมอาจเป็นถุงสำเร็จ การพิมพ์ชื่อร้านบนถุงเป็นระบบทำมือ  สังเกตุจากรอยเปื้อนที่ไม่เหมือนกันของสองถุง  รอยเส้นตัวหนังสือไม่คมกริบ มีอาการบิดเบี้ยวเล็กๆ น้ำหนักกดกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ  เป็นเสน่ห์ของงานทำมือ  ร้านนี้ควรได้ลองแวะชิมเพราะเป็นตัวอย่างความเรียบง่าย น้อยนิด แต่สร้างผลมหาศาล

เสียงเพลงในร้านมาจากลำโพงสองตัวที่วางไว้ด้านหลังตู้ขนม ดูผ่านๆเป็นลำโพง bose 301  แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น series  ไหน  น้ำเสียงเด่นๆของมันคือ มีเสียงเบสที่มากและชัด ทำให้น้ำหนักเสียงเพลงสมบูรณ์  เสียงในร้านไม่ดังจนรบกวนการพูดคุย แต่ยังคงมีคุณภาพเสียงที่ดีสามารถนั่งฟังปล่อยอารมณ์ไปตามเพลงได้ในขณะที่โต๊ะอื่นยังคงพูดคุยกันได้

ลูกค้าในร้านส่วนใหญ่สะพายกล้องมากันคนละตัว คิดว่าช่างภาพหลายคนคงเคยแวะมาที่นี่ และร้านนี้ก็คงดังขึ้นเพราะช่างภาพนั่นเอง

chiangmai-set1- (53)
chiangmai-set1- (26)
chiangmai-set1- (42)
chiangmai-set1- (43)
chiangmai-set1- (29)
chiangmai-set1- (54)
chiangmai-set1- (36)
chiangmai-set1- (44)
chiangmai-set1- (37)

ปล  ร้าน  Khagee มีอยู่ใน google maps

กระดาษรองจานทำด้วย letterpress

ด้วยความหลงไหลในเนื้อกระดาษ ชอบผิวสัมผัสของกระดาษ และชื่นชอบการพิมพ์งานด้วยเทคนิค  letterpress ทำให้ผมคิดถึงการใช้กระดาษเนื้อสวยๆมาทำงานกระดาษรองแก้ว กระดาษรองจาน รวมไปถึงการทำกระดาษจดหมายบริษัทอีกด้วย

IMG_0134

ผมได้มีโอกาสไปคุยกับเพื่อนที่เปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง เพื่อนเล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ที่ร้านค้ามีคู่แข่งมาเปิดขายของคล้ายๆกัน  มีร้านอาหารเพิ่มขึ้นในพื้นที่โครงการ  มีร้านเครื่องดื่มขายน้ำผลไม้ปั่นมาเปิดอยู่ข้างๆ  ซึ่งเพื่อนขายน้ำผึ้งและกาแฟอยู่แล้ว  ทำให้ต้องคิดหาวิธีกระตุ้นยอดขาย วิธีฉีกออกจากคู่แข่ง รวมไปถึงวิธีเรียกร้องความสนใจให้ลูกค้าเดินเข้าร้านของตนมากขึ้น ผมก็เลยเสนอไอเดียกระดาษรองจานพิมพ์ด้วยระบบ letterpress

2017-10-13_10-00-24

ทีแรกก็เพื่อนไม่ค่อยมั่นใจว่าจะสวย แต่ผมก็เชื่อว่ามันสวยจริงๆ  แม้จะพูดคุยกันเกี่ยวกับ letterpress มาหลายครั้ง แต่ก็อยู่ในมิติอื่น  อยู่ในรูปแบบอื่น  การนำ letterpress มาใช้กับกระดาษรองจานดูเป็นเรื่องใหม่  เพราะหลายคนรวมทั้งเพื่อนผมมักจะคิดว่าแพง  แต่ในทางปฏิบัติ เราสามารถเลือกผลิตให้ราคาย่อมเยาลงได้

 

2017-10-10_09-18-33

 

ผมเอาโลโก้บริษัทของผมมาพิมพ์กระดาษเนื้อสีครีมให้ดูเป็นตัวอย่าง  หมึกสีดำกดทับบนกระดาษบางๆเป็นสิ่งที่ดูสวยดี และผมเชื่อว่าถ้ามันถูกวางใต้จาน หรือ ถ้วย มันจะสวย ก็เลยไปที่ร้านเพื่อนแล้ววางให้ดูจริงๆ

 

2017-10-10_09-19-03

 

แล้วมันก็ออกมาเป็นดังภาพที่สองนี้  ถ้วยกาแฟ ที่ใช้ทั้งใส่กาแฟ หรือใส่น้ำผึ้ง วางบนกระดาษรอง มีลวดลาย  letterpress ให้ดูสะดุดตา  วางบนโต๊ะไม้ แสงสว่างจากด้านนอกตึกช่วยส่องให้บรรยากาศบนโต๊ะดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังไอเดีย  ทันทีที่เพื่อนผมเห็นภาพนี้ ก็คิดต่อว่า จะเสิร์พเครื่องดื่มบนกระดาษใบนี้ และจะมีดินสอให้เขียนเล่นด้วย

 

lettepress เป็นเทคนิคการพิมพ์มีเสน่ห์ ใครเห็นใครก็รักจริงๆนะครับ

แถมภาพนี้ให้ดูเล่นครับ

2017-10-09 01.54.57 1

 

สิ่งพิมพ์ที่กำลังจะหายไป

 

กองกระดาษในโรงพิมพ์ ภาพนี้เป็นภาพแรกๆที่ขายออก แล้วก็มีขายซ้ำบ้าง กองกระดาษสีประหลาดนี้เป็นกระดาษสีหลายสีที่เรียงตัวกันอยู่ในงานใบเสร็จรับเงิน กระดาษแต่ละชั้นจะทำหน้าที่เป็นต้นฉบับ เป็นสำเนาหลายชุด และมีใบติดเล่มด้วย การซื้อขายในอดีตใช้แบบฟอร์มใบเสร็จรับเงินรูปแบบนี้ ใช้ปากกาเขียน ใช้มือฉีกเป็นชุดออกมา แต่ยุคใหม่ๆหลายคนหันไปใช้แบบฟอร์มต่อเนื่อง สั่งพิมพ์ผ่านคอมพิวเตอร์ กระดาษต่อเนื่องมาเป็นกล่อง ต้องใช้เครื่องพิมพ์หัวเข็มในการพิมพ์เพื่อให้เกิดสำเนาในชั้นที่ 2 3 4 5 จะมีกี่ชั้นก็ตามที่บริษัทต้องการ แต่ที่แน่ๆ ระบบกระดาษแบบมือฉีก เขียนด้วยปากกาจะค่อยๆหายไป และแบบฟอร์มต่อเนื่องก็จะหายไปตามกันในที่สุด ด้วยการมาของอินเทอเน็ตที่ระบบจัดส่งใช้มือถือจดบันทึก จ่ายเงินโดยการโอนเข้าบัญชี ใบเสร็จรับเงินอาจไม่ต้องใช้อีก เพราะมีแบ็คอัพอยู่ในรูปแบบอิเล็คทรอนิกส์แล้ว