เปลี่ยนฟองน้ำหูฟัง KOSS Ksc35 เก่าเก็บ12 ปี

IMG_1853

หูฟังรุ่นหนึ่งที่มีขายในประเทศไทยมาเกือบยี่สิบปี นั่นก็คือ Koss รุ่น Ksc35 เป็นหูฟังออนเอียร์ แขวนใบหู คุณภาพเสียงดี เบสหนักแน่น เสียงกลางชัด เสียงสูงใส เป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้สนุก จัดว่าเป็นหูฟังที่เสียงดี และที่เหนือชั้นกว่าหูฟังตัวอื่นคือ ใส่ได้นานไม่เจ็บหู ไม่อับ ไม่ร้อน เพราะมันเป็นหูฟังเปิดที่ถ่ายเทอากาศได้ดี ฟังเพลงอยู่แต่ยังได้ยินเสียงคนรอบข้าง เรียกก็ได้ยิน หูฟังตัวนี้ได้รับความนิยมมากในยุคทองของเครื่องเล่น mp3 โดยเฉพาะคนที่ใช้ ipod หลายคนมักจะซื้อไปใช้ร่วมกัน

IMG_20250825_124915181
IMG_20250825_124920581

ผมเองก็หาซื้อมือสองมาใช้ และขณะเดียวกันก็ซื้อมือหนึ่งเก็บไว้ด้วย หูฟังตัวนี้ขายโดยร้านมั่นคงแก๊ดเจ็ทซึ่งเป็นตำนานร้านขายหูฟังระดับจริงจังร้านแรกและยังคงขายอยู่มาถึงปัจจุบัน Ksc35 ที่ซื้อเก็บยาวเมื่อปี 2013 พอจะหยิบออกมาลองฟังก็พบว่า ฟองน้ำเปื่อยยุ่ย ละลายแทบจะหายไปหมดแล้ว ในถุงสีดำที่มาพร้อมหูฟังก็มีแต่ผงสีดำร่วงหล่นอยู่ด้านในราวกับว่าสลายตัวไปพร้อมกับการดีดนิ้วของทานอสเลย

IMG_1856

ก็เลยจัดการซื้อฟองน้ำสำหรับเปลี่ยนใหม่ ร้านมั่นคงขายฟองน้ำ Koss ด้วย 1แพ็คมี 3 คู่ ก็เลยจัดการเปลี่ยนทั้งตัวที่ใช้ประจำซึ่งฟองน้ำยังไม่ละลาย แต่ย้วยยืดจนเกาะหูฟังไม่ได้แล้ว เหมือนกางเกงยางยืดที่หลุดกองกับพื้นเสมอ และเปลี่ยนให้กับตัวเก่าเก็บที่ตั้งใจจะเก็บยาวด้วย พอเปลี่ยนฟองน้ำแน่นๆเด้งๆเข้าไป ก็เหมือนได้หูฟังตัวใหม่ ทั้งตัวมือสองอายุมากก็กลับมาอยู่ในสภาพดีเหมือนใหม่ ทำให้เข้าใจเลยว่าหูฟังใหม่หรือเก่า ถ้าฟองน้ำใหม่ก็จะกลายเป็นความรู้สึกของใหม่ทันที คุณภาพเสียงตัวมือสอง และตัวเก่าเก็บเหมือนกันเป๊ะ ลองย้อนไปอ่านรีวิว Koss Ksc35 ได้ที่นี่

รีวิวหูฟัง Lenovo H500 Pro 7.1

มีเหตุให้ต้องเอาคอมพิวเตอร์ไปซ่อมที่ฟอร์จูน และเดินผ่านร้านขายสินค้าร้านหนึ่งที่ขาย lenovo ทั้งร้าน มองผ่านๆเจอมุมลดราคาก็เลยเข้าไปดูสินค้าทีละชิ้น ส่วนมากก็เป็นเม้าส์ คีย์บอร์ด และมีหูฟังวางโชว์อยู่ด้วย ดูชื่อรุ่น สเป็คคร่าวๆ สะดุดตากับคำว่า 7.1 ก็เลยสนใจ

IMG_20250831_171248652

หาข้อมูลเพิ่มเติมทันที หูฟัง lenovo H500 pro 7.1 ก็พบว่าเคยมีราคาขายอยู่ที่ 2990 บาทในบางร้านเมื่อหลายปีก่อน มาปีนี้คงเป็นสินค้าที่เก่าเก็บ ขายไม่ออก อาจจะเพราะหูฟังครอบหูไม่ได้รับความนิยม และราคาขายระดับเกือบสามพันบาทก็จะมีคู่แข่งเยอะมาก ไม่แปลกใจถ้าจะขายไม่ดี เพราะชื่อ lenovo ไม่ได้เด่นเรื่องหูฟัง ในแวดวงเครื่องเสียง ยี่ห้อหูฟังมีตัวเลือกอื่นๆอีกเพียบที่ได้รับความนิยมมากกว่า

IMG_20250831_192023210

เห็นคำว่า 7.1 ก็ทำให้สงสัย เลยไปหาข้อมูลเพิ่ม พบว่า H500 มีฮาร์ดแวร์ที่สร้างเสียง 7.1 ได้ในตัวทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ เป็นความสะดวกสบายลำดับแรกเลย และที่สำคัญ ใช้กับ mac ก็ได้ ใช้กับ android tv ก็ได้ ตรงนี้น่าสนใจมาก ถ้าเสียงมันดีและได้ระบบ 7.1 มาด้วยสร้างเสียงรอบทิศในการดูหนังก็จะน่าใช้มาก แต่หาอ่านรีวิวในเรื่องของคุณภาพเสียงไม่ได้เลย ก็เลยซื้อมาลองเอง วัดดวงกันว่าจะดีหรือไม่ดี

messageImage_1756647712135

หูฟัง lenovo H500pro 7.1 จะเรียกสั้นๆว่า H500 เป็นหูฟ้งไดรเวอร์ไดนามิคแบบเดี่ยวขนาด 5cm ซึ่งถือว่าใหญ่พอใช้ได้ ตัวหูฟังออกแบบให้เป็นสายเสียบ 3.5มม. แบบ TRRS หรือมีขีดดำ 3 ขีด ขั้วสัมผัสออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือได้ ใช้กับโน้ตบุ๊คที่มีช่องหูฟังแบบ combo ได้ คือหูฟังกับไมค์อยู่ในแจ็คเดียวกัน ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์อีกชิ้นที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กันคือมีซาวน์การ์ดหรือ usb sound พร้อมปุ่มคอนโทรล ด้านหนึ่งเป็นสาย usb เอาไว้เสียบกับคอมพิวเตอร์ อีกด้านเป็น 3.5mm เพื่อใช้เสียบหูฟัง และเราสามารถใช้หูฟังอื่นๆมาเสียบกับ usb sound ตัวนี้ได้ด้วย

messageImage_1756647308499

ที่ปุ่มควบคุมจะมีปุ่มกดดังนี้ ด้านซ้ายเป็นตัวปิดไมค์หรือ mic on/off ด้านหน้าปุ่มบนเป็นปุ่ม 7.1 กดเพื่อใช้งาน กดอีกครั้งเพื่อเลิกใช้ ตอนใช้งานฟังค์ชั่น 7.1 จะมีไฟสีฟ้าเรืองแสงขึ้นมา ปุ่มถัดมาที่ด้านหน้าจะเป็นปุ่ม EQ เอาไว้ปรับโทนเสียง มีให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie

ทดลองฟัง

อุปกรณ์ที่่ใช้ร่วมทดสอบคือคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์ msi claw ultra5 ปิดการทำงานของซอร์ฟแวร์ติดเครื่อง Nahimic ซึ่งเป็นตัวจัดการเสียงของเครื่อง ปล่อยให้เป็นการทำงานของวินโดส์และหูฟัง H500 เท่านั้น ในส่วนของ sound setting ของวินโดส์ก็ปิดการช่วยเหลืออื่นๆด้วย

จุดเด่นของ H500 คือ หูฟังมีน้ำเสียงที่สมดุลย์ดี เสียงย่านต่ำ กลาง แหลม มาพอดีกัน ไม่ได้เด่นไปทางใดทางหนึ่ง เป็นสไตล์เสียงของเครื่องเสียงบ้าน ให้เสียงกลางที่เปิดเผย และปลายเสียงสูงที่ลากยาวได้ดี สามารถให้เสียงประกายของเครื่องเคาะโลหะแบบค่อยๆจางหายไป แนวนี้คือเสียงจะใส ความไวของหูฟังค่อนข้างสูง เทียบกับหูฟังมอนิเตอร์ที่มีชื่อเสียงหลายๆตัวที่มักจะกินกำลังขับมาก หากฟังเพลงด้วย H500 ด้วยระดับเสียงที่พอดีแล้ว พอเปลี่ยนไปเป็นหูฟังอย่าง AKG k701 เสียงจะเบาลงมากจนต้องเร่งเสียงเพิ่มขึ้น

จุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบเสียงรอบทิศที่ฝังมากับ usb soundcard เลย ทำให้ไม่ต้องลงไดรเวอร์ และทำให้ใช้กับระบบปฏิบัติการอย่าง macos ได้ด้วย เพราะปกติ ระบบเสียงรอบทิศโดยเฉพาะ 7.1 มักจะต้องติดตั้งไดรเวอร์หรือซอฟแวร์พิเศษ และมักจะมีใช้ในระบบปฏิบัติการวินโดส์เท่านั้น ทำให้การฟังเสียงรอบทิศแบบ 7.1 บน macos เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลย แต่ H500 ให้ระบบเสียงรอบทิศในตัวฮาร์ดแวร์ ทำให้ไม่เลือกระบบปฏิบัติการ

H500 จะสร้างเสียง 7.1 ทำให้การดูหนังได้รับเสียงที่สนุกขึ้น เสียงดีขึ้น เสียงโอบล้อมมากขึ้น H500 สร้างเสียงพูดให้อยู่ด้านหน้าคนฟังได้ทันที พร้อมกับเสียงแวดล้อมอื่นๆที่ห่อหุ้มคนฟังอยู่ การกดปุ่ม 7.1 ระหว่างใช้ กับ ไม่ใช้ ให้เสียงที่ต่างกันมากในแง่ของการโอบล้อมและการเน้นเสียงพูด แต่ไม่เปลี่ยนโทนเสียง การดูหนังแล้วใช้เสียง 7.1 ทำให้หนังสนุกขึ้น แต่ข้อเสียเดียวของ 7.1 ใน H500 คือ เสียงพูดมีความก้องหรือมี echo+reverb มากไปเล็กน้อย เสียงพูดถูกจัดวางไว้ด้านหน้าหรือเสียงที่เลียนแบบลำโพงเซ็นเตอร์นั้นดีมากแม่นยำในตำแหน่งกลาง แต่จะมีความก้องมากไปเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่ ถ้าตัวหนังบันทึกเสียงพูดมาเยอะๆ ชัดๆ เราจะรู้สึกว่าเสียงก้องมากเกินไปในโหมด 7.1 แต่ถ้าเป็นหนังพูดน้อย หนังแอ็คชั่นไม่ค่อยพูด เราจะไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหา

ปุ่ม 7.1 จะใช้งานได้แค่เพียงลำพัง ไม่สามารถใช้ร่วมกับปุ่ม EQ ได้ ถ้าเราเลือกใช้ปุ่ม EQ เพื่อปรับเสียง เจ้า H500 จะยกเลิกการทำเสียง 7.1 ทันที การฟังด้วยปุ่ม EQ จะเลือกได้ 3 โหมดคือ 1 Game, 2 Music, 3 Movie แต่ละโหมดจะเหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกัน ไม่มีกฏตายตัว ทดลองกดเลือกดู ถูกใจเสียงไหนก็ใช้เสียงนั้น เท่าที่ลองทั้ง 3 โหมด โหมด1จะเพิ่มเสียงเบส โหมด2จะเพิ่มเสียงกลาง โหมด3จะเพิ่มเสียงแหลม แต่หากจะปิด EQ ไปเลย เพื่อฟังเพลงแบบไม่ปรับแต่งก็ทำได้เช่นกัน และผมชอบเสียงแบบไม่ปรับแต่งนี้ที่สุดเมื่อใช้กับหูฟัง H500 แต่ถ้าใช้หูฟังอย่าง K701 กับ usb soundcard ตัวนี้ ผมจะปรับไป EQ1 ซึ่งจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้น เพราะ k701 เป็นหูฟังที่มีแนวเสียงที่เน้นเสียงกลางและแหลม เบสจะบางกว่าหูฟังทั่วไป และกับ K701 เราจะต้องเร่งระดับเสียงเพิ่มขึ้นอีกพอสมควรเลยถึงจะทำงานร่วมกันได้

เมื่อลอง usb sound ตัวนี้กับหูฟัง Audio technica ตัวหนึ่งที่เสียงเด่นในด้านเบส พบกว่าการปรับโหมด Eq ไปที่โหมด 3 เพื่อเพิ่มเสียงแหลมก็ให้เสียงโดยรวมของหูฟังมีความไพเราะขึ้น ผมเชื่อว่า Eq เป็นการปรับเสียงที่มีประโยชน์ หากเราใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ เพราะมันช่วยแก้ปัญหาให้กับบางอุปกรณ์ได้ แต่ถ้าหูฟังคุณสมดุลย์อยู่แล้ว ไม่ใช้ Eq ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน

ปกติหูฟังราคาประมาณ 3000-5000 บาท มักจะมีคุณภาพที่ดีพอใช้งานจริงจังได้อยู่แล้ว เราคาดหวังกับคุณภาพเสียงการฟังเพลงได้ และ H500 ก็มีคุณภาพเสียงที่ดีตามระดับราคาหลักพัน แต่เมื่อลดราคาเหลือหลักร้อยมันเรียกว่าเป็นความคุ้มค่าแบบต้องรีบไปซื้อเลย ลำพังเพียงแค่ usb soundcard ที่ให้มาในชุดนี้ก็คุ้มค่าเต็มที่แล้ว เพราะเราไม่เคยมีอุปกรณ์สร้างเสียงรอบทิศ 7.1 แบบแยกมาให้ใช้ง่ายๆแบบนี้ แถมยังเปลี่ยนไปใช้กับหูฟังอื่นๆใดๆได้ด้วย เท่าที่จำได้ ประมาณห้าปีที่แล้วเรามี usb soundcard ราคาเกือบหมื่นบาทที่สามารถทำเสียง 7.1 ได้ ซึ่งมีแค่เครื่องนะ ไม่มีหูฟัง เรายังต้องซื้อหูฟังอื่นๆมาใช้ร่วมกันอีก

คุณภาพเสียงของ usb soundcard ดีกว่าเสียงที่ได้จาก sound onboard ที่มากับเครื่องคอมฯอย่างชัดเจน ลองบนเครื่องเล่นเกมส์ msi claw ultra5 ที่เป็นเครื่องสมัยใหม่เพิ่งออกไม่เกิน 1 ปี เสียงจาก sound usb มีความชัด ใสและไดนามิคเรนจ์ดีกว่ากันมาก เสียงกลางจะเปิดเผยฟังสบาย เสียงสูงจะมีประกายสดใสที่มากกว่าอย่างชัดเจน เสียงดนตรีต่างๆมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า

ลองใช้ H500 กับ macbookair เสียบสาย usb ก็ใช้งานได้ ฟังเพลงเพราะ ดูหนังได้ปกติ และกดปุ่ม 7.1 เพื่อใช้เสียงรอบทิศตอนดูหนังใน macos ก็ทำได้ด้วย ใครชอบดูหนังในคอมพิวเตอร์ควรจะหามาลองใช้ เพราะทำให้เสียงคล้ายกับในโรงหนังได้จริง ระบบ 7.1 จะดันเสียงพูดให้ไปอยู่ด้านหน้าตรงกลาง เสียงลำโพงซ้ายขวาจะถูกผลักให้อยู่ด้านหน้าซ้ายและหน้าขวาไม่ใช่อยู่ข้างหู ส่วนเสียงแอมเบี้ยนส์หรือเสียงแวดล้อมต่างๆของหนังก็จะให้ความรู้สึกว่าเสียงกระจายตัวห่อหุ้มเราอยู่ ความสามารถของ 7.1 แบบหูฟังทำให้ดูหนังสนุกขึ้น ตอนลองใช้ 7.1 ในนาทีแรกๆคุณอาจจะรู้สึกแปลกประหลาด แต่ถ้าคุณใช้ไปสัก 5 นาทีก็จะคุ้นเคยและรู้สึกว่าแบบ 7.1 ใช้ดูหนังสนุกดีเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดใหญ่จริงๆ

H500 ออกแบบ usb soundcard และหูฟังมาให้ทำงานร่วมกันได้พอดี เสียงโดยรวมออกมาดีมาก เป็นการแม็ทกันจากโรงงานมาเลย เปรียบเทียบให้ฟังคร่าวๆดังนี้ ปกติผมจะชอบใช้หูฟัง AKG K701 สำหรับการฟังเพลง และการทำให้ K701 ให้เสียงดีถูกใจที่สุดก็จะต้องต่อกับ headphoneamp ซึ่งจะทำให้มีกำลังขับที่เยอะเพียงพอจะไปสั่งการ K701 ให้มีคุณภาพสูง ส่วนหูฟังอีกตัวอย่าง Hifiman He400se มีเสียงดีมากเมื่อต่อตรงกับ Macbookair M1 หรือต่อกับเครื่องเล่นเพลงกำลังขับสูงๆ การจะใช้งาน H500 ให้ดีที่สุดก็คือใช้กับชุดของมันเอง ซึ่งคุณภาพสูงสุดของ H500 ยังไม่เทียบเท่ากับชุดฟังเพลง แต่ก็ให้โทนเสียงในแนวเดียวกัน

ข้อดี
H500 เสียบแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงซอร์ฟแวร์เพิ่ม ให้โทนเสียงที่ฟังเพลงได้ดี มี EQ ปรับแต่งเสียงกดใช้งานได้ทันที โหมดการดูหนังสามารถเข้าสู่ 7.1 ด้วยปุ่มเดียว พกพาย้ายไปเสียบเครื่องอื่นได้สะดวก พกสาย usb sound ติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คได้สะดวกมาก สามารถใช้ร่วมกับหูฟังอื่นๆเพื่อเปลี่ยนแนวเสียงได้ คุณภาพของ usb soundcard ดีกว่าของ onboard ที่ติดมากับคอมพิวเตอร์

ข้อเสีย
ถ้าซื้อในราคาเต็มก็จะต้องเทียบกับอุปกรณ์ระดับราคาเดียวกัน ซึ่งมีคู่แข่งหลายราย คุณภาพเสียงหูฟังไม่ได้ดีที่สุดในย่านราคานี้ น้ำเสียงเมื่อฟังเพลงยังไม่ใกล้เคียงกับเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูง ภาพdacและภาคขยายเสียงในอุปกรณ์ยังไม่เด่นในด้านคุณภาพ

สรุป
ผมซื้อ H500 เพราะต้องการใช้งานระบบเสียง 7.1 ที่ใช้งานง่ายในตอนดูหนัง และสามารถใช้งานได้ใน window และ mac os รวมถึงใช้กับ android box ได้ด้วย คุณภาพเสียงของ usb soundcard กับตัวหูฟังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ใช้งานได้หลากหลาย ถ้ามีหูฟังชุดเดียว ชุดนี้ใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องกังขาเรื่องคุณภาพ ถ้ามันทนนะ

IMG_1866

สาย usb soundcard ตัวนี้กลายเป็นอุปกรณ์สุดโปรดที่พกพาไปใช้ทุกที่ ใช้กับหูฟังตัวเล็ก ตัวใหญ่ ได้อย่างหลากหลายตามสะดวก เรียกได้ว่าติดกระเป๋าโน้ตบุ๊คเอาไว้เลย เพราะมันเป็นการอัพเกรดคุณภาพเสียงของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกตัวได้ทันที

ข้อมูลทางเทคนิค
Headphone
Transducer Type Dynamic 50 mm with Neodymium Magnets
Frequency Range 20 Hz – 20 kHz
Impedance 32Ω ± 15% @ 1 kHz
Sensitivity (SPL) 99 ± 3 dB / 1 mW @ 1 kHz
Power Handling Capacity 50 mW
THD 200~3 kHz ≤ 3%

Microphone
Transducer Type Electret Condenser Microphone with Noise-Cancel
Operating Principle Pressure Operated
Polar Pattern Omnidirectional
Nominal Impedance ≤2.2KΩ
Frequency Range 100 Hz – 10 kHz
Sensitivity (SPL) -38 ± 3 dB
Advanced Audio Control Box
7.1 Mode Virtual 7.1 Surround Sound On/Off
EQ 3 Pre-set EQ (Game, Music, Movie)
Volume Control

CONNECTIVITY
Dimensions (W x D x H) (mm) : 182 x 210 x 92 (inches) : 7.2″ x 8.3″ x 3.6″
Weight Around 0.7 lbs (320 g)
Headband Structure Self-Adjust Suspension Headband with

Wired Connectivity
Wired via 3.5 mm Audio Jack or USB 2.0
Cable Length
Headset to 3.5 mm : 1 m
USB Advanced Control Box : 1 m

Supported OS*
Windows 10
Windows 8.1
Windows 8
Windows 7
Mac OS X 10.5.x or later
Xbox One™
PlayStation® 4
Nintendo Switch™

Compatibility Matrix
PC : 7.1 Surround via USB,
Stereo via 3.5 mm
PlayStation® 4 : Stereo via 3.5 mm
Xbox One™ : Stereo via 3.5 mm
Nintendo Switch™ : Stereo via 3.5 mm
Apple : Stereo via 3.5 mm
Mobile : Stereo via 3.5 mm

ลำโพงสวย เสียงดี Ikea Eneby20

IMG_2954

ลำโพงบลูทูธได้รับความนิยมมาก ทั้งแบบตั้งโต๊ะ ตั้งพื้นและในแบบหูฟังไร้สาย คุณภาพลำโพงในช่วงสิบปีหลังมานี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นจนน่าทึ่งที่ลำโพงดอกเล็กนิดเดียวแต่ให้พลังเสียงที่ยอดเยี่ยมเหมือนลำโพงตัวใหญ่ ในครั้งนี้ก็จะทดสอบใช้งานลำโพงพกพาอีกตัวหนึ่งที่มีขายใน ikea ห้างขายของแต่งบ้านที่มีสาขาในไทย

ลักษณะทั่วไป

eneby20 เป็นลำโพงพกพาที่วางขายใน ikea อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหมดและไม่มีขายอีก หน้าตาเป็นทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องแบนๆ หน้ากว้าง 20x20cm ลึกประมาณ 8 cm มีหูหิวเป็นเหล็กยึดติดตายตัว ไม่สามารถพับได้ มีหน้ากากลำโพงที่ถอดออกได้ เมื่อถอดหน้ากากแล้วจะพบว่าลำโพงจะมี 2 ตัวขับ คือวูฟเฟอร์ขนาดประมาณ 3.2 นิ้ว และทวีตเตอร์ขนาดประมาณ 1 นิ้ว แหล่งพลังงานของลำโพงตัวนี้จะใช้ได้ทั้งแบบเสียบปลั๊ก รองรับไฟ 100-220v และแบบใช้แบตเตอรี่ ซึ่งจะต้องซื้อเพิ่ม

IMG_2943

ลำโพงมีปุ่มเดียว เป็นปุ่มหมุนได้และกดลงไปได้ เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มลงไปหนึ่งครั้งเป็นการเปิดเครื่อง กดอีกครั้งสั้นๆจะเป็นการปิดเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ลำโพงจะเข้าสู่โหมดการจับคู่กับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เมื่อจับคู่ได้แล้วก็ลองเปิดเพลงกันเลย ปุ่มหมุนจะใช้ปรับระดับเสียงดังเบา และถ้ากดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจะเข้าสู่การปรับโทนเสียงทุ้ม กดอีกครั้งสั้นๆจะเข้าสู่การปรับเสียงแหลม และเมื่อปรับเสร็จก็ให้กดปุ่มอีกครั้งเพื่อกลับสู่การใช้งาน ตอนเปิดเครื่องแล้ว หากจะกดให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก่าให้กดปุ่มค้างไว้ 10 วินาที

คุณสมบัติทางไฟฟ้า
มาตรฐานบลูทูธ 4.2
ถ้าใช้ไฟ 100v จะกินไฟ 640ma
ถ้าใช้ไฟ 220v จะกินไฟ 300ma
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงวูฟเฟอร์มีกำลังขับ 15 วัตต์
เพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงทวิตเตอร์มีกำลังขับ 5 วัตต์
ลำโพงสามารถรับสัญญาณเสียงทางช่อง Aux ได้ ความไวขาเข้า 1.65V
ตอบสนองความถี่ 57-20,000Hz

คุณภาพเสียง

สิ่งที่ได้ยินจากลำโพงตัวนี้ก็คือเสียงกลางแหลมที่ชัด เสียงทุ้มย่านต่ำพอมีให้ได้ยิน ด้านหลังของลำโพงจะเป็นช่องอากาศ ลำโพงถูกออกแบบเป็นลำโพงตู้เปิด รูระบายเสียงเบสที่ด้านหลังจะสะท้อนกับผนังห้องแล้วกลับมาเสริมกับเสียงด้านหน้าเพื่อให้มีเสียงทุ้มที่มากขึ้น เราสามารถเลือกวางลำโพงให้ห่างผนังได้ตามใจ วางชิดเบสจะเยอะ วางห่างผนังเบสจะน้อย เป็นไปตามลักษณะของคลื่นเสียงที่สามารถเสริมกันให้ปริมาณเยอะขึ้นได้

เมื่อวางในระยะที่พอดี เราจะได้เสียงเพลงผ่านลำโพงที่มีย่านเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดี น้ำเสียงมีเบสให้ได้ยินพอสมควร ไม่มีเสียงที่บวมเบลอ เสียงกลางฟังได้ชัดเจน ชัดเหมือนเป็นลำโพงบ้านเลย ส่วนเสียงแหลมก็มีลักษณะที่ใส ไม่กัดหู ฟังดนตรีอคูสติกให้เสียงกลางที่สดน่าฟัง เสียงสะบัดคอร์ดกีต้าร์ให้น้ำเสียงน่าฟัง เพลงกีต้าร์เพราะๆฟังผ่านลำโพงตัวนี้ได้สบายมาก

น้ำหนักเบสไม่มาก เสียงสายกีต้าร์ที่เป็นโน้ตต่ำๆจะไม่ใหญ่โตมาก หากเทียบกับลำโพงตัวโปรดอย่าง fender newport เจ้าตัว eneby จะให้เสียงต่ำที่บางกว่า แม้จะลองปรับทุ้มแหลมช่วยแล้วก็ยังบางกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าราคาของ eneby แค่สองพันบาท ไม่มีทางจะไปชนะลำโพงระดับหลักห้าพันหรือหมื่นได้อยู่แล้ว การจัดวางชิดผนังจะทำให้เสียงเบสเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว จุดที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการวางลำโพงชิดผนังไปเลย

น้ำเสียงออกไปในทางนุ่มฟังสบาย เสียงดีกว่าลำโพงแถมทุกตัวที่เคยได้แถมมา ใช้งานฟังในห้องเล็กๆทำงานได้เป็นอย่างดี ใช้ฟังคนเดียวกำลังดี ระยะที่ให้น้ำเสียงถูกใจคือการฟังห่างประมาณ 2 เมตร เสียงร้องชัดมากจนน่าขนลุก ยิ่งได้ฟังกับเพลงที่บันทึกมาโชว์เสียงร้องเน้นๆยิ่งทำได้ดี โดยรวมแล้วเสียงดีกว่าลำโพงคอมฯทั่วไปเยอะ

ถ้าเปิดอยู่แต่ไม่เสียงส่งไปให้ลำโพงประมาณ 20 นาที ลำโพงจะตัดการทำงานและปิดตัวเองลง ต้องเปิดใหม่เองด้วยการกดปุ่มที่ลำโพง

สรุป

ลำโพง eneby เป็นลำโพงบลูทูธที่พกพาได้ มีหูหิ้ว ใช้พลังงานจากไฟบ้านได้ แต่ถ้าจะใช้แบตเตอรี่ก็ต้องสั่งซื้อแบตเพิ่มมาใส่เอง คุณภาพเสียงเพลงที่ถ่ายทอดออกมาจัดว่าเป็นลำโพงเสียงดี น้ำเสียงเหมือนลำโพงบ้าน ฟังเอาคุณภาพเสียงได้เลย ข้อเสียที่พบคือ เสียงย่านต่ำลึกได้ยินน้อยไปหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นของราคาไม่แพง และดอกลำโพงก็ไม่ใหญ่ ฟังเพลงร้องได้ดีมาก ฟังเพลงป๊อปทั่วไปก็ดี ฟังเพลงออดิโอไฟล์กลับยิ่งดี ฟังเสียงพูด รายการทอล์คได้ดี การวางชิดผนังช่วยเพิ่มปริมาณเสียงในย่านต่ำได้เยอะมาก มันอาจเป็นลำโพงวางหิ้งที่ดีมากกว่าจะเป็นลำโพงพกพา

ภาพจากเว็บ ikea

รีวิวหูฟัง EPOS GSP301 หูฟังขาวดำ เสียงดีไมค์ดี

ในวงการหูฟังจะมีการแบ่งลักษณะหูฟังด้วยหลายปัจจัย หากแบ่งตามขนาดและลักษณะการสวม เราก็จะมีหูฟัง

IMG_0313

1 หูฟัง Earbud รูปทรงจะคล้ายหูฟังแบบสายที่แถมมากับ iphone ในยุคแรกหรือหูฟังที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod หรือเป็นหูฟังที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลงยุคอนาลอกอย่างเครื่องเล่นเทปกันเลย

IMG_0052

2 หูฟัง inear ที่ลักษณะจะเป็นก้อนๆเล็กๆที่จะต้องมีจุกยาง มักเป็นหูฟังที่แถมมาในยุคสมัยปัจจุบัน ซึ่งจะให้เสียงเบสที่ใหญ่โตกว่า ได้รับการปรับปรุงออกมาทีหลัง earbud หูฟังแบบนี้มักกันเสียงภายนอกไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปในหู บางครั้งคนที่ไม่ชินก็จะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ขนาดตัวหูฟังจะไม่ใหญ่ ถือว่ามีความกระทัดรัดหรือเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับหูฟังชนิดอื่น

IMG_1769

3 หูฟัง on ear ที่มีขนาดของตัวส่งเสียงใหญ่ใกล้เคียงใบหู เวลาใช้งานก็จะแปะไว้กับหู ซึ่งอาจจะมีสายคาดบนศรีษะ หรือ มีก้านคล้องสำหรับแขวนกับใบหูก็ได้ หูฟังแนวนี้จะไม่คลุมหูเราสนิท เราจะได้ยินเสียงภายนอกได้ค่อนข้างชัด เหมาะกับการใช้ฟังเพลงที่ยังคงต้องการได้ยินเสียงภายนอกอยู่ด้วย

20200323074804_IMG_0123

4 หูฟัง Fullsize ที่เป็นลักษณะครอบใบหูไว้ทั้งใบหูเลย ขนาดตัวส่งเสียงจะใหญ่มาก พวกนี้ต้องมีก้านครอบศรีษะ น้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นหูฟังที่ให้คูณภาพที่ดีที่สุดด้วย บริษัทที่ทำหูฟังขายก็มักจะมีรุ่นท๊อปสุดเป็น fullsize

หูฟังในยุคปัจจุบันเป็นของจำเป็นที่จะต้องมีติดไว้ใช้กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เพราะตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อโควิด การสื่อสารผ่านหน้าจอหรือการประชุมผ่านหน้าจอเป็นสิ่งจำเป็น การพูดคุย การต่อไมโครโฟน การต่อหูฟังเพื่อใช้สื่อสารก็เป็นเรื่องจำเป็น นั่นทำให้วงการหูฟังคึกคักมากขึ้น และที่นิยมมากจนตลาดแตกคือหูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธ หรือเรืยกให้เต็มยศก็ หูฟังแบบ True wireless ซึ่งทำออกมาขายกันเกือบทุกยี่ห้อแล้ว ซึ่งลักษณะรูปทรงของหูฟังก็มีหลากหลายไม่ต่างจากหูฟังแบบมีสายเลย

IMG_5401

หูฟังในส่วนของการเล่นเกมส์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น อุปกรณ์เล่นเกมส์หลายอย่างก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้อรรถรสการเล่น จากคุณภาพระดับทั่วไปที่ฟังเพลงไม่เพราะก็พัฒนาให้มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น มีการเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเสียงรอบทิศภายในหูฟังเพื่อให้เล่นเกมส์ได้สนุกขึ้น ใช้ดูหนังได้สมจริงคล้ายกับอยู่ในโรงหนัง ปรับปรุงไมโครโฟนให้รับเสียงดีขึ้น นอกจากนี้ก็ยังปรับปรุงหน้าตา สีสัน และดีไซร์การออกแบบที่ดูสวยงาม และโพสท์นี้ผมก็ได้ทดสอบหูฟังเล่นเกมส์ตัวหนึ่งที่หน้าตาสวย โดยผมเห็นหูฟังตัวนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจมากในทีแรก พอเห็นว่ามีลดราคาแรงๆก็ใจแตก กดซื้อมาจนได้

IMG_5483

Epos เป็นยี่ห้อที่ทำผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นเกมส์ โดยเป็นเครือเดียวกับ Sennheiser ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ไมโครโฟนและหูฟังมายาวนานมาก Epos GSP301 เป็นหูฟังทรง Full size ที่มีตัวส่งเสียงใหญ่ครอบใบหูได้ทั้งใบ รูปทรงสีขาวตัดกับสีดำดูทันสมัย มองผ่านๆก็ชวนให้นึกถึงตัวละครในหนังเรื่องสตาร์วอร์ ก้านไมค์ก็ดูใหญ่แข็งแรง มีวอลลุ่มที่ตัวหูฟังเพื่อปรับความดังเบาได้เลย สายเสียบก็เป็นชนิด 3.5มม. จำนวน 2 ตัว ตัวหนึ่งเป็นแจ็คหูฟัง อีกตัวเป็นแจ๊คของไมโครโฟน ก้านไมค์บิดขึ้นบิดลงได้ หากเราอยากปิดเสียงไมค์ ไม่ต้องการให้ไมค์ทำงานก็บิดก้านไมค์ขึ้น แต่หากจะใช้ไมค์ก็แค่บิดก้านไมค์ลงมาใกล้ปาก

สเป็คคร่าวๆของหูฟังเป็นดังนี้

Colorwhite
Wearing styleHeadband
Impedance19 Ω
Connector2 x 3.5 mm / 1 x 3.5 mm (PCV 05 Combo Audio Adaptor)
Frequency response (Microphone)10 – 15,000 Hz
Frequency response (Headphones)15 – 26,000 Hz
Sound pressure level (SPL)113 dB
Ear couplingCircum-aural
Cable length2 m
Weight290 g
Pick-up patternNoise-cancelling
Microphone sensitivity– 41 dBV/PA

สเป็คที่สำคัญก็คือ ความไวหรือ SPLของหูฟังอยู่ที่ 113dB ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง หมายความว่าหูฟังตัวนี้ให้เสียงที่ดังแม้จะใช้งานกับเครื่องเล่นเพลงหรือคอมพิวเตอร์ที่มีกำลังขับที่ไม่แรงมาก ความต้านทานที่ต่ำประมาณ 19โอห์มทำให้มันเหมาะกับเครื่องเล่นแทบทุกเครื่อง จะเรียกว่าไม่กินกำลังขับเลยก็ได้ แต่ข้อเสียของความไวระดับนี้ก็คือ มันจะไวต่อสัญญาณรบกวนด้วย ถ้าเราใช้กับซาวด์การ์ดคุณภาพต่ำ หรือ แอมป์ขยายเสียงที่ทำมาไม่ดี มีสัญญาณรบกวนอยู่ในวงจรขยายเยอะก็จะทำให้เราได้ยินเสียงซ่าบางๆอย่างชัดเจน


ทดลองฟัง

เมื่อฟังเพลงต่างๆ ก็พบว่า หูฟังตัวนี้ให้เสียงโดยรวมถือว่าดี เสียงสูงมีปลายแหลมที่ทอดยาว ไม่ทึบ เสียงกลางชัด เสียงเบสอิ่มหนา มีความหวานอยู่ในน้ำเสียง ให้เสียงฟังสนุก โฟกัสเสียงร้องอยู่ตรงกลางหัวเป๊ะ วอลลุ่มที่มากับหูฟังก็มีปุ่มหมุนที่ใหญ่โต ปรับหมุนเพื่อลดเสียงได้แม่นยำตามความรู้สึกเลย ผมชอบปุ่มปรับระดับเสียงแบบนี้ เพราะว่ามันปรับได้ระดับที่ตรงกับความต้องการจริงๆ หลายครั้งที่ใช้หูฟังที่ไม่มีตัวปรับเสียงแยก เวลาปรับความดังเบาที่ปุ่มโทรศัพท์ก็จะไม่ได้ความดังที่พอดีกับความต้องการ เลื่อนขึ้นนิดก็ดังเกินไป เลื่อนลงหน่อยก็เบาไป การมีปุ่มหมุนโดยตรงแบบนี้ทำให้ปรับละเอียดได้เป็นความปราณีตเล็กๆน้อยๆที่มีให้ใช้งาน

จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือเป็นหูฟังทรง Gaming ที่ฟังเพลงเพราะ เมื่อก่อนเป็นเรื่องที่หายากหรือถ้าจะมีหูฟังเล่นเกมส์ที่ฟังเพลงเพราะก็มักจะราคาแพง แต่สำหรับยุคนี้ หูฟัง Gaming ในปัจจุบันน่าจะพัฒนากันโดยส่วนใหญ่แล้วทำให้ราคาไม่แพง น้ำเสียงของไมค์โครโฟนก็มีคุณภาพเสียงที่ดี ไม่บีบเสียงหรือเน้นเสียงแหลมจนผิดธรรมชาติ สามารถบันทึกเสียงพูดเพื่อทำคอนเท้นต์ได้เลย ลองฟังคลิปรีวิวที่ใช้ไมค์ของหูฟังตัวนี้บันทึกที่ด้านล่างสุดครับ

644f9fcb-c4c7-4176-ac1e-70247e012983_21358_a1_pcv-05_fullsizepng

แจ๊คหูฟังและไมค์มาแบบแยกกันคนละตัว ทำให้มันต้องเสียบกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้รูเสียบแบบโบราณแยกกันระหว่างไมค์กับหูฟัง ถ้าจะเสียบกับโน้ตบุ๊คยุคใหม่ หรือเสียบกับสมาร์ทโฟนที่มีรูเดียว เราจะต้องใช้อแด๊ปเตอร์รวมสองแจ๊คให้ออกเป็นแจ็คเดียวที่เป็นแบบ TRRS ซึ่งก็มีแถมมาในกล่องด้วย

IMG_7223

หูฟัง Epos แนะนำให้ใช้กับซาวด์การ์ดที่สามารถสร้างเสียงรอบทิศแบบ Virtual 7.1 ด้วย จะเป็นซาวด์การ์ดภายในหรือเป็นแบบแยกชิ้นติดตั้งภายนอกก็ได้ ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ Epos เองก็มีทำ External soundcard ออกมาขายด้วย และหน้าตาก็ดูสวยงามเข้ากันได้กับหูฟังตัวนี้ ที่แนะนำให้ใช้ร่วมกันก็คือ Epos Gsx300 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดหน้าตากระทัดรัดสวยงาม และมีสีขาวให้เลือกใช้

ระบบเสียงรอบทิศ Virtual 7.1 จะจำลองเสียงรอบทิศให้เราได้ยินคล้ายๆกับเมื่อเราอยู่ในห้องดูหนัง มันจะทำให้เรารู้สึกว่ามีลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซนเตอร์ ลำโพงด้านหลังของเรา ทดลองฟังกับหนังที่บันทึกหรือให้เสียงแบบ Dolby Digital 5.1 หรือ Dts 5.1 ก็ได้ เราจะได้ยินเสียงรอบทิศเหมือนเราอยู่ในห้องโฮมเธียเตอร์ เหมือนกับที่เราได้ยินในโรงหนัง แม้จะไม่ได้ชัดเจนเด็ดขาดเหมือนฟังจากลำโพงแยกชิ้นจริงๆ แต่มันก็ทำได้ดีพอใช้ได้ และมันน่าใช้กว่าการดูด้วยเสียงสเตอริโอปกติ

การใช้ Virtual 7.1 ในหูฟังนอกจากจะทำให้ดูหนังสนุกแล้วแล้ว ยังเหมาะกับการเล่นเกมส์ด้วย เพราะเสียงรอบทิศในเกมส์เป็นเสียงที่ออกแบบเสียงอย่างจงใจ ทุกเสียงสร้างขึ้นมาทั้งหมด มันให้ความกว้างของมิติต่างๆที่ชัดเจน ให้น้ำหนักเสียงที่ดุดัน ให้เสียงเอฟเฟ็คที่ชัดมาก ชัดสุดๆ การยิงและการระเบิดในระยะใกล้ของเหตุการณ์ในเกมส์ทำให้ตกใจได้ง่ายๆเลย ใครชอบเล่นเกมส์ควรจะต้องใช้ระบบ 7.1 เสมอ เพราะมันทำให้เกมส์สนุกขึ้นอีกมาก

สรุป

หูฟัง Epos GSP301 เป็นหูฟัง Fullsize ที่มีคุณภาพเสียงที่ดี สามารถใช้ฟังเพลงแบบจริงจังได้ สามารถใช้สื่อสารในการประชุมทางไกลผ่านหน้าจอได้ มีก้านไมค์ที่รับเสียงได้ดี สามารถปิดไมค์ได้ด้วยการโยกขึ้น มีปุ่มปรับระดับความดังที่ตัวหูฟังทำให้สะดวกในการใช้งาน สีขาวสลับดำดูสวยงามและเข้าพวกกับซาวด์การ์ดภายนอกในค่ายเดียวกัน ถ้าจะให้เลือกหูฟังเพื่อทำงานได้เกือบทุกอย่างโดยไม่เน้นเรื่องขนาด ไม่สนใจเรื่องพกพา ก็เลือกตัวนี้ได้เลย ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ สื่อสาร ทำได้ดีทั้งหมด ด้วยราคาที่ไม่สูงมากยิ่งทำให้หูฟังตัวนี้น่าใช้งาน



คลิปรีวิวบันทึกโดยใช้ Macbookair M1 ต่อหูฟัง Epos GSP301 เข้าที่ช่อง 3.5mm บนโน้ตบุ๊ค ใช้ App ชื่อ Photobooth ในการบันทึก

สั่งซื้อ Epos Gsp301 ได้ที่นี่

https://shope.ee/7pQxehbkCO

รีวิว วิทยุ RETEKESS v115

เครื่องรับวิทยุยังคงมีขายอยู่ในยุคอินเทอเน็ต 5g และดูเหมือนจะเป็นเครื่องรับวิทยุที่คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเทคโนโลยีการผลิตชิพที่ไปไกลมากเมื่อเทียบกับความทรงจำในวัยเด็กที่เครื่องรับวิทยุจะทำงานในระบบอนาลอก

IMG_1708

วิทยุ fm ใน พ.ศ. 2566 ยังคงกระจายเสียงในระบบอนาลอก ไม่ได้ถูกยกเลิกหรือถูกปรับปรุง แต่เครื่องรับพัฒนาไปสู่การเลือกความถี่ด้วยระบบดิจิทัล ทำให้มีความแม่นยำ ประกอบกับวงจรอิเล็คทรอนิกส์ที่ทันสมัย ทำให้เสียงที่ได้มีความชัดเจนและน่าฟัง เพียงเปิดเครื่อง ยืดเสารับสัญญาณ แล้วก็เลือกคลื่นที่จะฟัง เมื่อมันรับชัด เสียงต่างๆก็ได้ยินชัดเจนดี ฟังเพลงได้เพราะมาก แม้จะตัวเล็ก ดอกลำโพงก็เล็ก แต่ก็เป็นแนวเสียงที่ดีกว่าวิทยุกระเป๋าหิ้วตัวใหญ่รุ่นเก่าๆที่เคยมีหลายตัวในบ้าน

IMG_1714

นอกจากรับคลื่น fm แล้ว วิทยุเครื่องนี้ยังใส่แผ่น micro-sd ได้ด้วย มันสามารถเปิดฟังเพลงจากไฟล์ mp3 ได้ ฟังเพลงจากไฟล์ wav ได้ แต่ผมยังไมไ่ด้ลองกับไฟล์ flac นอกจากเล่นไฟล์เพลงแล้ว มันยังมีปุ่มให้กดบันทึกเสียงได้ด้วย และเมื่อลองบันทึกเสียงก็พบว่าทำได้ง่ายดาย ใช้เป็นเครื่องบันทึกเสียงติดตัวไปได้ทุกที่เลยหากใครยังจำเป็นต้องใช้งาน ในแง่ของการเปิดเพลงจากไฟล์ มันก็มีความสามารถไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือ แต่เสียงออกจากลำโพงดีกว่าเสียงจากมือถือมาก เสียงดีกว่าจนเราอยากใช้มัน

แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบตแบบบางซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือโนเกียหลายๆรุ่นในอดีต ชื่อรุ่นของแบตเตอรี่คือ BL-5c ความจุที่ข้างกล่องเขียนไว้ประมาณ 1000ma ไฟเลี้ยงเข้าตัวเครื่องเป็นพอร์ต micro-usb ทั้งสายชาร์จและแบตเตอรี่มีแถมมาในกล่อง แต่ไม่มีอแด๊ปเตอร์ usb power ไม่มีหูฟัง ไม่มีสายสัญญาณช่วยรับคลื่น fm

คุณภาพเสียงที่ฟังผ่านวิทยุเครื่องนี้เป็นเสียงที่น่าฟัง คลื่นวิทยุในยุคนี้หลงเหลือแต่สถานีที่ตั้งใจทำ พวกวิทยุชุมชนคงจะล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้ว เพราะว่าเท่าที่ลองฟังวิทยุในช่วงนี้ ไม่เจอคลื่นวิทยุชุมชนเลย วิทยุยังคงมีเสน่ห์สำหรับบางคน ยังคงมีประโยชน์ใช้ในการสื่อสารได้เมื่อจำเป็น มันสามารถฟังรายการต่างๆโดยไม่ต้องใช้อินเทอเน็ต ในช่วงเวลาที่มีภัยพิบัติเราก็อาจจำเป็นต้องใช้วิทยุเพื่อรับฟังข่าวสาร เป็นเครื่องเล่นเครื่องใช้ที่คุ้มค่ามากๆ

หากสนใจก็ลองซื้อที่นี่ครับ
วิทยุ RETEKESS v115

https://s.lazada.co.th/s.QVH07?cc

https://shope.ee/fxoH84zOE?share_channel_code=6

รีวิวหูฟังไร้สายเสียงดี ฟังค์ชั่นครบ Logitech g435

IMG_20220604_074425

การใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ในยุคสมัยนี้อยู่กับชีวิตเราแทบตลอดเวลา เป็นยุคที่เรามีโทรศัพท์มือถือกันแทบทุกคน มือถือจะฟังเพลงจากระบบสตรีมได้ ข้อมูลภาพและเสียงมาจากอินเทอเน็ต เราแทบจะไม่มีใครเก็บไฟล์เพลงไว้ในเครื่องอีกแล้ว และหูฟังนอกจากทำหน้าที่ฟังเพลง ก็ยังทำหน้าที่สำหรับการสื่อสารด้วย ใช้ฟัง ใช้พูดคุยผ่านระบบอินเทอเน็ต หูฟังจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากยิ่งขึ้น


หูฟังแบบครอบหูเป็นหูฟังที่ดูอลังการ ใหญ่โตและดูจริงจัง เมื่อก่อนเราจะพบเห็นการใช้งานหูฟังแนวนี้ในสตูดิโอระดับมืออาชีพ แต่การใช้งานในปัจจุบัน ยุคสมัยของการสื่อสารหลังโควิด เราใช้หูฟังพร้อมไมค์โครโฟนกันมากขึ้น การเล่นเกมส์ผ่านคอมพิวเตอร์ก็นิยมใช้หูฟังมานานแล้ว ทุกวันนี้เราพบหูฟังขนาดใหญ่หรือ Full Size เป็นเรื่องปกติ

ScreenClip

Logitech g435 เป็นหูฟังครอบหูขนาด full size ออกแบบมาให้เป็นหูฟังระบบไร้สาย 2 ระบบ คือเป็นไร้สายแบบรับสัญญาณไร้สายคลื่นความถี่ 2.4gHz ผ่านตัวส่งสัญญาณ usb ที่มีมากับชุดหูฟังเลย และแบบที่สองคือรับสัญญาณผ่านบลูทูธ นั่นหมายความว่า เราใช้งานหูฟังตัวนี้กับโทรศัพท์ผ่านบลูทูธได้ ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต usb ก็ได้ ซึ่งเป็นความยืนหยุ่นที่ดีมาก

การใช้งานกับคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต usb จะมีตัวเสียบ usb เอาไว้รับส่งสัญญาณไร้สายโดยเฉพาะ จะทำให้คุณภาพเสียงดีที่สุดตามสเป็คของหูฟัง เพราะการสื่อสารผ่าน 2.4 gHz จะเป็นการสื่อสารที่เน้น sound quality หากต้นฉบับเสียงของเราเป็นสัญญาณระดับ cd quality เราก็จะได้ยินเสียงคุณภาพสูงเกือบเท่าต้นฉบับ Logitech ยังไม่ได้เปิดเผยว่า protocal ในตัวส่ง usb นั้นเป็นการสื่อสารชนิดใด แต่เดาว่าจะเป็นระบบที่ออกแบบให้ดีเลย์ต่ำและมีบิทเรทที่สูงเพียงพอสำหรับการเน้นเรื่องคุณภาพเสียง ส่วนการใช้งานผ่านระบบ Bluetooth จะเป็นการส่งสัญญาณแบบบีบอัด เพราะแบนด์วิดธ์การสื่อสารข้อมูลหรือ bite rate ของ bluetooth จะน้อยในระดับ 300-990bps แล้วแต่มาตรฐาน แม้เราจะเล่นเพลงจากไฟล์คุณภาพสูง แต่การที่ต้องแปลงข้อมูลให้บิทเรตน้อยลงเพื่อให้วิ่งผ่าน bluetooth ก็จะทำให้ข้อมูลเพลงถูกลดทอนและมีการสูญเสียไปในการแปลงข้อมูลกลับไปกลับมา

ScreenClip

หูฟัง g435 มีพอร์ต usb-c บนตัวมันเพื่อเอาไว้ชาร์จไฟ แบตเตอรี่ในตัวสามารถถอดเปลี่ยนได้โดยดูจากคู่มือ นับว่าเป็นการออกแบบหูฟังไร้สายที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมาก เพราะหลายๆค่ายที่ทำหูฟังไร้สาย มักจะไม่ค่อยบอกว่าเปลี่ยนแบตได้ไหม จริงๆต้องบอกว่าหลายยี่ห้อไม่ได้คิดจะให้ลูกค้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในเลยด้วยซ้ำ

Driver Type40mm 
Impedance45 Ohms
Frequency Response20 – 20,000 Hz
Microphone TypeDual-beamforming on-cup; 100Hz – 8,000 Hz frequency response
Connectivity OptionsLightspeed wireless (2.4 GHz USB Type-A dongle), Bluetooth
CablesUSB Type-C to Type-A charging cable (6 feet/ 1.8 m)
Weight0.36 pounds /165 g 
สเป็ค

ทดลองฟัง

ต่อตัวส่งสัญญาณเข้าทางพอร์ต usb บนคอมพิวเตอร์ ใช้ระบบไร้สายแบบ 2.4gHz ฟังเพลงป๊อปทั่วไปทำได้ดีมาก เสียงกลางชัด เสียงแหลมใสมีประกาย เสียงเบสมีเพียงพอ ติดไปทางอิ่มๆหนาๆเล็กน้อย แต่เสียงเบสไม่ได้บังเสียงกลางแหลมให้รู้สึกทึบห้วน เป็นเบสใหญ่ๆที่ทำให้ฟังเสียงกลอง เสียงเครื่องเคาะต่างๆมีพละกำลังมาก หากฟังเพลงร็อคที่เน้นจังหวะกลองสนุกๆก็ทำได้สนุกจริงๆ เสียงแหลมที่เป็นเครื่องเคาะโลหะไม่มีอาการเสียดหูหรือทิ่มแทง เสียงแนวอบอุ่นฟังสบายเป็นเสียงที่ทำให้เราใช้งานหูฟังได้นานโดยที่เราไม่ปวดหู แต่หูฟังแนวครอบหูมักจะมีข้อจำกัดเรื่องความรู้สึกเมื่อใส่นานๆแล้วจะร้อนใบหู เพราะตัวครอบหูมันคลุมใบหูไว้ทั้งใบ

หากเทียบกับหูฟังอย่าง AKG K701 ที่เป็นหูฟังเกรดมอนิเตอร์ นิยมใช้ในห้องบันทึกเสียงและนักเล่นเครื่องเสียงที่เน้นเสียงสดเป็นธรรมชาติ เสียงของAKG จะใสกว่า กลางแหลมจะชัดกว่า เบสจะคมและไม่ได้มีบรรยากาศห่อหุ้มใหญ่เท่า G435 ถ้าเทียบเฉพาะเสียงกลาง G435 จะสู้ไม่ได้ แต่ G435 ก็ทำได้ดีน่าทึ่งมากๆ ยิ่งเป็นระบบไร้สายยิ่งมีความน่าสนใจ เพราะทำให้เราใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

1687522970057

ใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านระบบ Bluetooth ก็ทำได้ดีเช่นกัน รองรับ codec ชนิด AAC เสียงคู่สนทนาได้ยินชัดเจน เสียงไมโครโฟนที่เราพูดเข้าไปปลายทางได้ยินชัดเจน แม้ว่าหูฟังจะไม่ได้มีก้านไมค์ยื่นออกมารับเสียง แต่มันก็มีระบบการรับเสียงพูดที่ดีมากเรียกว่าระบบ beam forming ที่จะช่วยให้การรับคลื่นเสียงทำได้อย่างชัดเจนและมีคุณภาพสูง

เราสามารถใช้ไมโครโฟนของ g435 เพื่อทำ content ได้เลย เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย usb แล้วบันทึกเสียงด้วยไมค์ในตัวของหูฟังตัวนี้ ให้เสียงดีมาก มีความเป็นธรรมชาติมาก สามารถทำรายการแนวพูดคุย แนวเล่าเรื่องได้เลยไม่ต้องปรับแต่ง ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวประมาณ 2000 บาท ก็ทำให้มันเป็นหูฟังที่ดีเลิศในระดับราคานี้และแทบไม่ต้องไปค้นหาหูฟังที่คุ้มค่ายิ่งกว่านี้เลย เพราะตลอดเวลาที่ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับหูฟังมา ก็มีตัวนี้นี่แหละที่ให้คุณภาพสูง ราคาต่ำ และฟังค์ชั่นเยอะมาก

ให้ลูกลองบันทึกการเล่มเกมส์แบบนักสตรีมเกมส์ ก็เก็บเสียงพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงเป็นธรรมชาติ ส่วนใครชอบเสียงแนวใหญ่ หรือแนวแหลมเพื่อให้ฟังชัดเจนยิ่งขึ้นก็ไปปรับแต่งในซอร์ฟแวร์ได้ สิ่งสำคัญคือไมโครโฟนของหูฟังเก็บเสียงที่ดีให้เราได้จริงๆ ลองฟังเสียงพูดในคลิปนี้ดูครับ

อยู่บ้านก็ใช้ g435 กับคอมพิวเตอร์ ออกนอกบ้านเราก็เปลี่ยนไปใช้ g435 กับโทรศัพท์ ก็ทำงานได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นมาตรฐานของ usb หมายความว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมส์ หรือเครื่องฟังเพลงเครื่องไหนที่รองรับการเชื่อมต่อ usb เราเอา g435 ไปเสียบใช้งานได้เลย ผมลองกับกล่องดูทีวีของ ais play เมื่อเสียบเข้าไปที่พอร์ต usb ด้านหลังกล่อง เราก็ได้ยินเสียงในหูฟังเลย ใครใช้กล่อง android เพื่อดูหนังฟังเพลง ก็เชื่อว่าใช้งานกับ g435 ได้ทันทีไม่ต้องลงไดรเวอร์ใดๆ

g435 ไม่ได้มีซอร์ฟแวร์ใดๆแถมมาด้วย นั่นก็หมายความว่ามันไม่มีลูกเล่นการสร้างเสียงรอบทิศทางในหูฟัง หรือไม่มีระบบ virtual 7.1 สำหรับหูฟัง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะวัตถุประสงค์ของหูฟังตัวนี้คือเน้นความเป็นหูฟังที่ใช้งานง่ายในระบบไร้สาย และมันทำได้ดีมาก

ข้อดี

1 ระบบไร้สายทางพอร์ต usb เป็นการเชื่อมต่อคุณภาพสูง ให้เสียงเต็มสเป็ค ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี

2 การเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์ แท็ปเบล็ต คอมพิวเตอร์ ก็ทำได้ดี ใช้พูดคุยได้ เสียงดังฟังชัด ไมโครโฟนรับเสียงพูดได้ชัดเจน คู่สนทนารู้เรื่อง

3 ระบบการชาร์ตไฟด้วยพอร์ต usb-c มาตรฐาน สะดวกในการชาร์จมาก

4 แบตเตอรี่ในตัวเป็นแบบเปลี่ยนเองได้ คู่มือก็สอนวิธีเปลี่ยน

ข้อเสีย

1 ปุ่มเปิดปิดอยู่ในตำแหน่งที่มักจะโดนกดเมื่อใส่หรือถอดหูฟังจากหัว บางครั้งเราแค่อยากหยิบใส่ หยิบออกชั่วคราว แต่ก็เผลอไปกดปุ่มแล้วเปลี่ยนโหมด

2 ปุ่มกดเพื่อเข้าฟังค์ชั่นพิเศษทำได้ลำบาก ซับซ้อน ถ้าไม่มีคู่มือจะไม่สามารถใช้ลูกเล่นพิเศษได้เลย

3 ขนาดใหญ่ พกพาในกระเป๋าใหญ่ๆเท่านั้้น ไม่สามารถยัดหูฟังไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้


สรุป

หูฟังไร้สาย Logitech G435 เป็นหูฟังไร้สายทำงานได้ 2 ระบบ สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต usb ได้ สามารถใช้กับโทรศัพท์มือถือทาง bluetooth ได้ มีคุณภาพเสียงในการฟังเพลงที่ดี ใช้ฟังเพลงเพื่อทำงานหรือเพื่อความบันเทิงได้ มีความสามารถในการรับเสียงพูดคุยได้ดี ใช้สื่อสารพูดคุยกันได้ชัดเจน ใช้บันทึกเสียงเพื่อทำรายการพอดคาสท์ได้ เป็นหูฟังที่คุ้มค่ามากๆในราคาแค่สองพันบาท ถ้าต้องเดินทาง อยู่หอพัก และอยากได้อุปกรณ์การทำงานและการดูหนังฟังเพลงตัวเดียวครบทุกความต้องการ ก็ต้องตัวนี้เท่านั้น

พาดพิงหูฟัง Akg K701 ลองกลับไปอ่านรีวิวได้ครับ

สั่งซื้อ logitech g435 เชิญที่นี่ครับ https://s.shopee.co.th/qNW7b5OBn

รีวิว eyewear แว่นตาติดลำโพง

เมื่อสักหลายปีก่อนผมพบว่ามีแว่นตาติดลำโพงวางขายแล้ว นั่นคือยี่ห้อ Bose และมีเพื่อนได้ซื้อไว้ใช้ ผมได้มีโอกาสลองไม่กี่นาทีเพราะเกรงใจเพื่อน ซึ่งในวันนั้นรู้สึกว่าราคาสูงเกินไป และคุณภาพเสียงไม่ได้ดีแบบที่คาดหวัง เนื่องจาก Bose ทำลำโพงเสียงดีไว้เยอะมาก และหูฟัง Bose ก็เสียงดีเช่นกัน พอลำโพงถูกติดตั้งไว้ในแว่นตา ก็แอบคิดว่าเสียงจะดี แต่ลองแล้วก็ไม่อยากซื้อ

20211008111714_IMG_0003

ผ่านมาถึงปีนี้ แว่นตาติดลำโพงอยู่ในเว็บขายของ ราคาระดับ 800บาท ซึ่งถูกกว่า Bose ถึง 10 เท่า ผมลืมไปแล้วว่าเสียง Bose เป็นยังไง แต่พอเห็นว่าราคาไม่ถึงพันก็เลยตัดสินใจซื้อมาใช้ โดยคาดหวังว่าเสียงจะดีขึ้นกว่ารุ่นแรกๆเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเหมือนเสียงจากหูฟังแท้ๆ

20211008111752_IMG_0006

ลักษณะทั่วไป

แว่นตาสีดำ ติดกระจกพลาสติกเกรดต่ำ ตัวกรอบแว่นทำจากพลาสติก จุดที่ใช้ชาร์จไฟเป็นขั้วไฟฟ้าแบบมีแม่เหล็กดูด สายชาร์จจะถูกดูดติดกับแว่นเมื่อเสียบชาร์จไฟ สายชาร์จที่แถมมาด้านหนึ่งเป็นแม่เหล็ก ส่วนอีกด้านเป็น usb เพื่อเสียบกับอแด๊ปเตอร์ กำลังไฟสำหรับชาร์จระบุไว้ที่ 100ma เท่านั้น หลังจากได้ลองชาร์จก็พบว่า หากเราชาร์จแว่นด้วยเพาเวอร์แบงค์ เมื่อเริ่มชาร์จได้สักพักไม่กี่นาที เพาเวอร์แบงค์ก็จะตัดการทำงาน เพราะว่ากระแสไฟไหลน้อยเกินไป น้อยจนเพาเวอร์แบงค์ตัดสินใจหยุดจ่ายไฟ ดังนั้นหากเราจะชาร์จเราควรชาร์จผ่านอแด๊ปเตอร์จ่ายไฟจริงๆ

20211008111656_IMG_0002

น้ำเสียงของแว่นตาพร้อมลำโพงจะให้น้ำเสียงไม่ดีมาก อาการเสียงเหมือนเปิด speaker phone แล้วเอาโทรศัพท์มาวางไว้ใกล้ๆหู ฟังเสียงกลางรู้เรื่อง เสียงสูงมีให้ได้ยิน แต่เสียงต่ำแทบไม่มีเลย ซึ่งมันคงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของลำโพงเล็กๆบางๆที่ซ่อนอยู่ในขาแว่น

ไมโครโฟนรับเสียงก็อยู่บนขาแว่น จากการสอบถามคู่สนทนาก็ได้ความว่า เสียงพูดของเราปลายทางได้ยินปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงเบาหรือดังเกินไป เสียงที่ได้ยินเหมือนเกิดขึ้นอยู่กลางศรีษะ นั่นก็พอจะคาดเดาได้ว่า เสียงข้างซ้ายและขวาออกมาใกล้เคียงกันมาก ทำให้มิติเสียงอยู่ตรงกลางในหัวเราเป๊ะๆ หากเราใช้ฟังเสียงเพลงสเตอริโอทั่วไป เราก็จะได้ยินมิติเสียง รับรู้ตำแหน่งซ้าย กลาง ขวา ได้แม่นยำตามเจตนาของเพลง ระบบสเตอริโออิมเมจของหูฟังทำได้ดีมาก มันติดแค่เสียงเบสไม่มีเหมือนหูฟังทั่วไปเท่านั้น

การใช้งานหูฟังบนแว่นตาจะไม่มีอะไรไปอุดหูเลย ดังนั้น เสียงดังจากภายนอก เสียงบรรยากาศต่างๆจะยังคงวิ่งเข้าหูเรา เรายังได้ยินเสียงแวดล้อมเป็นปกติ ถ้าเราไปยืนอยู่ใกล้เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญ ก็จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากหูฟังเลย ดังนั้นการใช้งานหูฟังตัวนี้จะต้องเลือกสถานที่คุยด้วย การได้ยินเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้าไป และสามารถรบกวนการพูดคุยกับปลายทางด้วยนั้น ทำให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นจากการใส่หูฟัง ถ้ามีคนเรียกเราก็หันไปหาได้ มีรถวิ่งผ่านก็ได้ยิน เราใช้ชีวิตปกติได้แม้จะฟังเสียงข่าวอยู่ในหูฟัง

เมื่อใช้ประชุมออนไลน์ก็ทำงานได้ปกติ ประสิทธิภาพการสื่อสารทำได้เต็มร้อย ใช้ทำงานได้เลย ใครคิดจะนำกรอบไปใส่เลนส์สายตาสำหรับตัวเองจริงๆก็ทำได้ มันเป็นอุปกรณ์ของใช้ที่ใช้งานได้ตามหน้าที่หลักของมัน

รีวิวหูฟังพร้อมไมค์สำหรับ work from home และเรียนออนไลน์ logitech h111

ยุคโควิดครองเมือง ประเทศไทยมีการระบาดรอบที่4แล้ว ตอนนี้ ณ เวลานี้ รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์ การทำงาน การเรียนหนังสือ ให้ทำจากที่บ้านทั้งหมด ลูกของผมเองก็เรียนออนไลน์มาตั้งแต่เปิดเทอม และดูแล้วไม่มีวี่แววว่าจะได้เรียนที่โรงเรียนแบบปกติเมื่อใดเลย

H592cae5c47fc4f9eab232c5b304ba220v

การเรียนออนไลน์ หรือการทำงานจากที่บ้าน เราจะใช้ระบบ Video Conference เป็นหลัก โดยซอร์ฟแวร์ที่ใช้ประชุมทางไกลก็จะมี Zoom meeting ที่ใช้กันค่อนข้างเยอะ ปกติการประชุมทางไกลก็ใช้มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ คุยตรงๆกับเครื่องได้เลย ใช้ลำโพงในเครื่อง ใช้ไมค์ติดเครื่อง ก็สื่อสารได้ แต่ถ้าเราอยู่ในที่เสียงรบกวนเยอะ ก็จะไม่สะดวก เพราะคุณภาพทั้งเสียงเข้าเสียงออกจะโดนรบกวนเยอะมาก ทำให้สื่อสารไม่รู้เรื่อง

การใช้สายหูฟังพร้อมไมค์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารทางไกลในที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะ เพราะจะทำให้เราได้ยินเสียงชัด และพูดลงไปปลายทางก็จะได้ยินเสียงเราชัดเช่นกัน นอกจากที่มีเสียงรบกวนเยอะแล้ว ในบ้านก็อาจจะมีปัญหาเสียงรบกวนได้ มันคือสถานการณ์ที่มีคนอยู่ในห้องหลายคน และทุกคนก็ต้องสื่อสารกับกลุ่มของตัวเอง ลูกเรียนออนไลน์ พ่อแม่ทำงานจากที่บ้าน นั่งอยู่ในห้องเดียวกัน เสียงพูดคุยก็จะตีกันเอง ทำให้สื่อสารไม่ได้ การใช้หูฟังจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับสถานการณ์แบบนี้

H30bb0e61ddd941b98b3f4a0116d70110Q

หรือแม้แต่ที่ทำงาน หรือใน co-working space การพูดคุยผ่านโทรศัพท์จะใช้เสียงลำโพงไม่ได้เลย เพราะเป็นการรบกวนคนอื่นในห้อง และเราเองก็คงไม่สะดวกใจที่จะให้คนอื่นได้ยินเสียงที่เราคุย ดังนั้นหูฟังพร้อมไมค์ก็จะเป็นตัวเลือกที่แก้ปัญหาได้ ทุกคนต้องใช้หูฟังของตัวเอง และหูฟังที่ต้องหามาใช้ก็ควรจะมีคุณภาพที่ดี สื่อสารได้ และมีราคาไม่แพงเกินไป

ลองนึกดูเล่นๆว่า ถ้าพ่อแม่จะต้องซื้อหูฟังให้ลูกสองคน พ่อกับแม่ใช้อีกสอง รวมแล้วต้องมีหูฟัง 4 เส้น เราจะซื้อ 4 เส้นที่ราคาประหยัดหรือราคาแพง ใครมีกำลังซื้อก็ไม่ต้องอ่านรีวิวนี้ แต่ใครอยากหาของถูกใช้ก็อ่านและดูคลิปให้จบนะครับ หูฟังที่แนะนำในรีวิวนี้คือ Logitech H111 เป็นหูฟังที่มีไมค์ยื่นออกมารับเสียง ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 300 บาท มันถือว่าไม่แพง เพราะถ้าต้องซื้อจำนวนมากๆมันจะมีประเด็นราคาที่ทำให้เราอยากหาของถูกใช้ ถ้าบ้านต้องซื้อ 4 เส้น เราก็จ่ายแค่ 1200 บาท ได้ใช้แล้ว ถ้าบริษัทต้องซื้อแจกพนักงาน 100 คน บริษัทอยากจ่าย 100×300 บาท หรือ 100×2000 บาท เท่านี้ก็น่าจะพอเห็นภาพว่าราคาคือประเด็นสำคัญ ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียน มีครู 100 คน ต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับหูฟัง?

H542211265e914d62bf7b2eaed7fd3750d

จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือ เล็ก เบา ไมค์ชัด และราคาไม่แพง หากเราไปใช้หูฟังขนาดใหญ่ นอกจากราคาที่แพง น้ำหนักที่เยอะแล้ว ยังทำให้เราใส่นานๆไม่ไหวด้วย เพราะหูฟังขนาดใหญ่จะกดทับค่อนข้างมาก ใส่แค่ 5 นาทีก็ไม่ลำบาก แต่ถ้าต้องใส่เป็นชั่วโมงก็จะเป็นปัญหาแล้วว่าหนักเกินไป แล้วยังมีเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นกับหูด้วย ดังนั้นหูฟังที่กดเบาๆ น้ำหนักเบา จะทำให้เราใส่ได้นานกว่า

จุดเด่นเรื่องไมค์ก็สำคัญ หูฟังแนว call center แบบนี้ มีก้านไมค์ยื่นออกมาเพื่อรับเสียงใกล้ปาก ทำให้การพูดคุยสามารถทำได้มีคุณภาพ เสียงพูดเข้าไมค์ได้เต็มๆ ทำให้เราไม่ต้องตะโกนพูด ใช้น้ำหนักเสียงปกติก็พูดคุยสื่อสารได้ชัดเจน ไม่เหนื่อยมาก ทำให้เราสามารถพูดคุยใช้งานได้เป็นระยะเวลาที่นานกว่านั่นเอง

จุดเด่นเรื่องคุณภาพเสียง หูฟังตัวนี้บังเอิญว่าให้เสียงที่ดี เพราะว่าเมื่อนำไปลองฟังเพลงแล้วพบกว่าให้น้ำเสียงที่น่าฟัง เสียงกลางชัด เสียงทุ้มพอมีให้ได้ยิน เสียงด้านแหลมก็มีเพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่หายากมากกับหูฟังราคาประหยัดที่จะให้เสียงที่ดีเหมาะกับการฟังเพลง แต่ h111 ตัวนี้ให้ได้ดีเลย มันเป็นหูฟังที่น่าใช้มากเมื่อเทียบกับคุณภาพเสียง คุณภาพการสื่อสารการประชุดและยิ่งเทียบราคายิ่งน่าใช้ ฟังรายละเอียดในคลิปนี้ได้เลยครับ

สนใจสั่งซื้อ logitech h111 คลิกลิงค์นี้ครับ https://shope.ee/9eyueQwLOf

ลองดูคลิปรีวิวอุปกรณ์ตัวนี้ครับ ผมใช้หูฟังพร้อมไมค์ Logitech H111 ตัวนี้ในการบันทึกเสียง อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายคลิปวิดีโอคือโทรศัพท์มือถือ redmi note7 ต่อสายหูฟังพร้อมไมค์เข้าที่ช่อง 3.5มม. บนโทรศัพท์โดยตรงเลย และใช้กล้องหน้าบันทึกคลิป ใช้ App ถ่ายคลิปชื่อ open camera ซึ่งมีข้อดีคือสามารถล็อคค่าแสงสว่างในภาพได้ ทำให้สภาพแสงไม่เปลี่ยนแปลงเวลาเราขยับตัวไปมา เพราะกล้องจะไม่วัดแสงตลอดเวลาเหมือน app ติดกล้อง


เรียนออนไลน์ ทำงานจากที่บ้าน

ไม่บังเอิญที่ก้อนหินละเมอ

เพลงไม่บังเอิญเป็นเพลงเด่นเพลงเดียวของนักร้องชื่อกุลวัฒน์ ประวัตินักร้องและเส้นทางดนตรีไม่มีใครอยากรู้ ผมชอบเพลงนี้มากแต่ก็ไม่รู้ว่านักร้องเป็นใครหน้าตาเป็นยังไง เดินสวนกันก็คงไม่รู้จัก แต่ปัจจุบันในปี พศ 2564 นักร้องคนนี้เสียชีวิตไปแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องของเขาด้วย ตอนเพลงนี้ออกผมไม่รํู้ว่าปีไหน ไม่ได้ข่าว ไม่ได้ฟัง ไม่ได้ซื้อเลย แต่ไปอาศัยซื้อแผ่นรวมฮิตแล้วมีเพลงนี้ ฟังแล้วก็กลายเป็นเพลงที่ชอบที่สุดในแผ่นรวมฮิตแผ่นนี้

เพลงก้อนหินละเมอเป็นเพลงที่โดดเด่นที่สุดของวงโซลอาฟเตอร์ซิก เป็นวงดนตรีที่อยู่ๆก็ออกอัลบั้ม เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเพลงโด่งดังเป็นดาวค้างฟ้าไปซะแล้ว แต่ก็ดังเพลงเดียว เพลงอื่นไม่มีใครพูดถึง วงนี้เป็นวงเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีใครเคยเห็นแสดงสด ไม่มีข่าวคอนเสิร์ต นักดนตรีตัวจริงหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ เห็นแต่ภาพบนปกเทป สุดท้ายเมื่อค่ายเพลงมีคอนเสิร์ตใหญ่รวมทุกคนในค่ายมาร้องเพลง แฟนเพลงของค่ายเฮโรกันไปซื้อบัตร วัตถุประสงค์แรกคือชอบเพลงของค่ายนี้เลยเลยไปดู วัตถุประสงค์แฝงและหลายคนอาจเป็นเช่นนี้คือ จะไปดูโซลอาฟเตอร์ซิกเล่นคอนเสิร์ต ผมว่ามีคนคิดแบบผมเยอะมาก

สองเพลงนี้เป็นเพลงแอบรักที่อยู่คนละอารมณ์ มันต่างกันสุดขั้วเลย เพลงนึงเป็นภาพลักษณ์แสนโรแมนติก ฉันมีค่าเพราะเธอมอง “เพราะเพียงความอบอุ่นจากเธอไม่นาน จะต่อเติมความสำคัญฉันได้” ใครเอาเพลงนี้ไปเล่นความหล่อจะคูณสิบ ส่วนอีกเพลง เป็นการแอบรักที่แสนรันทด เป็นความรักที่ไม่มีวันเป็นจริง เหมือนเป็นความรักที่ถูกปฏิเสธมาเรียบร้อยแล้ว “มีเพียงความเหงา มีเพียงความฝัน เพียงเธอเท่านั้นที่มันยังขาดหายไป” เป็นประโยคบอกเล่าที่ทรมานใจสุดๆ

ต้นฉบับของศิลปินผมไม่ได้เอามาวางในนี้ เพราะต้นฉบับฟังจนเลี่ยนแล้ว ขอเลือกเพลงคัฟเวอร์ โดยนักร้องเสียงดี คุณแพท นักร้องนำวง klear ทำให้เพลงทั้งสองเพลงละมุนละไม เพิ่มความสดใสให้มากขึ้นกับก้อนหินละเมอ และลดความรันทดให้จางลงกับเพลงไม่บังเอิญ เพลงเพราะ นักร้องเสียงดี บันทึกเสียงได้ดิบและมีคุณภาพที่ดีมาก ขอให้ฟังด้วยหูฟัง จะรู้ว่าคนร้องเก่งแค่ไหน ถ่ายทอดเพลงได้น่าฟังเหลือเกิน

เรื่องตกยุคของการฟังเพลง

2020-10-15_10-14-09

นี่คือภาพโบราณวัตถุที่หาซื้อยากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่อยู่ในภาพนี้คือแผ่นซีดีเปล่าที่มีความจุ 700Mb หากต้องการบันทึกข้อมูลใดๆที่ขนาดไม่เกินตัวมันก็ต้องใช้เครื่องบันทึกแผ่นซีดีในคอมพิวเตอร์ในการบันทึก

เขียนให้เด็กรุ่นใหม่ได้เข้าใจว่า ก่อนยุค 5g 4g ลงไปถึงแถวๆ 3g ต้นๆ และ 2g ปลายๆ ช่วงเวลาประมาณ คศ 2000-2005 เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยนิยมใช้แผ่น cdr อย่างมาก เพราะอินเทอเน็ตในยุคนั้นยังไม่เร็ว การส่งข้อมูลขนาดใหญ่ยังต้องอาศํย usb flash drive ซึ่งความจุก็เริ่มต้นที่ ไม่กี่ Mb และไล่ไปจนถึงหลายร้อย Mb และยิ่งเวลาผ่านไปใกล้ๆยุคปี คศ 2010 เราถึงจะมี flash drive ความจุ 1Gb และมากกว่าให้ใช้ในระดับราคาถูกๆ

การส่งข้อมูลให้เพื่อน ส่งข้อมูลของที่ทำงาน หากจะส่งด้วย flash drive ก็จะต้องสละ flash drive ไปด้วยเลย เพราะหลายๆที่เมื่อได้ก็อปปี้ข้อมูลไปแล้วก็ไม่คืนตัว flash drive การส่งข้อมูลด้วยแผ่น cd-r สำหรับความจุ 700Mb และ แผ่น dvd-r สำหรับความจุ 4.3Gb เลยเป็นทางออกที่ไม่แพง ราคาแผ่นเปล่าจะอยู่ในระดับราคา 8-20 บาท

IMG_4024

คนชอบฟังเพลงจะนิยมนำแผ่นซีดีเพลงมาก็อปปี้ข้อมูลเพลงลงในคอมพิวเตอร์ หรือบางคนก็หาเพลง mp3 จากอินเทอเน็ตมาเปิดฟัง การฟังในคอมพิวเตอร์จะสะดวกสำหรับการเลือกเพลง แต่หากจะฟังนอกบ้าน บางคนก็ใช้เครื่องเล่น mp3 มาเล่นเพลง บางคนก็ใช้เครื่องเล่นซีดี walkman ในการเล่นเพลง และบางคนก็เลือกจะรวมเพลงที่ชอบแล้วทำเป็นแผ่นซีดีเพลง 1 แผ่น ซึ่งจะจุเพลงได้ประมาณ 60 นาที การรวมเพลงเองก็เลยจะต้องบันทึกลงแผ่น cd-r นั่นเอง

เครื่องเล่นเพลงในรถยนต์เริ่มแถมเครื่องเล่นซีดีติดรถมาให้ตั้งแต่ตอนเป็นป้ายแดง เครื่องเล่นซีดีเพลงเหล่านี้มักจะมีความสามารถในการอ่านไฟล์ข้อมูลบน cd-r ด้วย หลายคนก็ก็อปปี้ไฟล์ mp3 มาไว้ในแผ่น cd-r แล้วก็พกไปฟังในรถ ความจุแผ่น 700 Mb สามารถใส่เพลง mp3 บิตเรตประมาณ 128k ได้ประมาณ 100-150 เพลง นั่นทำให้การฟังเพลงตลอดทริปการเดินทางในรถยนต์เป็นเรื่องบันเทิงที่เป็นที่พึ่งของคนชอบฟังเพลง เหตุเพราะรายการวิทยุเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับคนชอบฟังเพลง และยุคสิบกว่าปีที่แล้วโลกเรายังไม่มีบริการ streaming ใดๆให้ใช้ ฟังจากไฟล์ที่บันทึกไว้ในแผ่น cd-r จึงเป็นทางเลือกที่ต้องเลือก

IMG_20170131_145346

ยุคที่ cd-r เบ่งบานเราสามารถหาซื้อแผ่นเหล่านี้ได้ในห้างไอทีต่างๆ ทุกห้าง ทุกร้านจะมีแผ่น cd-r ขาย บางร้านเป็นร้านขายแผ่นเปล่าโดยเฉพาะ คนซื้อจากร้านเฉพาะทางเหล่านี้ไม่ได้นับเป็นแผ่น แต่จะนับเป็นหลอด เพราะแผ่น cd-r จะเสียบอยู่บนเสา(เหมือนหลอด) หลอดนึงมี 50 แผ่น หลอดเตี้ยๆก็มี 25 แผ่น หน่วยวัดจะวัดกันเป็นหลอดเลย

ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นก็เริ่มมีแผ่น cd-r ให้ซื้อปลีก ผมเคยซื้อแผ่นในแพ็คพลาสติกราคา 20-30 บาท ในนั้นมี 2 แผ่น เพื่อใช้งานฉุกเฉินตอนที่หลอดทั้งยวงถูกใช้งานไปหมดแล้ว นอกจากแผ่นเปล่าที่วางขายแล้ว ปากกาเขียนแผ่นซีดีก็มีขายด้วยเช่นกัน เพราะกลายเป็นสินค้าที่ต้องมี สินค้าที่ต้องขายไปคู่กัน คนที่บันทึกแผ่นซีดีเยอะๆจะต้องมีปากกาเขียนแผ่นซีดีติดตัวเสมอ

ในปี คศ 2020 นี้ ปรากฏว่า ไม่มีแผ่นซีดีเปล่าขายอีกแล้วในร้านสะดวกซื้อ ในห้างก็เริ่มไม่มีขายแล้ว และเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ก็เลยต้องไปหาซื้อใน online และผมก็ได้สั่งซื้อมาใช้ เหตุที่จำเป็นต้องใช้ก็เพราะลูกอยากฟังเพลงที่เขาชอบ โดยจะฟังบนรถแม่ การเปิดเพลงในรถยนต์ ให้เสียงออกในรถจะต้องใช้แผ่น mp3 ใส่เครื่องเล่นในรถ ก็เลยเป็นเหตุผลที่ต้องซื้อแผ่นในครั้งนี้

ลืมเล่าไป เราสามารถใช้แผ่น dvd-r บันทึกแทน cd-r ก็ได้ เพราะความจุก็สูงกว่ามาก เป็นการใช้แผ่นได้คุ้มค่ากว่าด้วย เพียงแต่ ในรถแม่ เครื่องเล่นเพลงอ่านได้แต่แผ่น cd-r เท่านั้น

หาลำโพงใช้ Learn From Home

เราอยู่ในยุคโควิด19 ที่เป็นโรคระบาด มีความอันตรายถึงชีวิต การระบาดทั่วโลกและในไทยทำให้มีคำสั่งห้ามออกจากบ้าน มีการปิดห้าง โรงแรม สถานที่สาธารณะ รวมถึงโรงเรียนทุกประเภทด้วย คนทำงานให้ทำงานจากที่บ้านถ้าทำได้ นักเรียนให้เรียนจากที่บ้านไปก่อน ดังนั้นการเตรียมตัวอุปกรณ์สำหรับการประชุมทางไกล หรือ เรียนทางไกล ก็ต้องพิจารณาหลายอย่าง ซึ่งในตอนนี้เราจะพูดถึงลำโพงก่อน เพราะค้นพบว่า ลำโพงมีความจำเป็นกับการสื่อสารหรือการเรียนบางวิชา

การเรียนจากที่บ้านสำหรับเด็กนักเรียน ในบางวิชาเราจำเป็นต้องได้ลำโพงคุณภาพสูงเพียงพอ หากจะเอาไว้เรียนรู้เรื่องเล่า ฟังข้อมูลวิชาการ ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ ลำโพงอะไรก็สื่อสารได้ แต่หากเด็กต้องเรียนภาษาอังกฤษ ต้องฟังเสียงคำอ่านที่คล้ายๆกันแต่สะกดไม่เหมือนกัน คนพูดที่ชัดเจนจะออกเสียงต่างกันเล็กน้อย ความเล็กน้อยนี้จำเป็นต้องใช้ลำโพงคุณภาพดีเพียงพอถึงจะฟังออกว่ามีความแตกต่างกันในการออกเสียง อย่างเช่น คำว่า plain กับ pain หรือ คำว่า wide กับ wine มันจะมีปลายเสียงต่างกันซึ่งแม้แต่การฟังต่อหน้ายังแยกแยะลำบากเลย คนฟังต้องได้ยินเสียงที่ชัดจริงๆถึงจะฟังออก ความสามารถในการแยกแยะหางเสียงตรงนี้ก็ต้องใช้ลำโพงที่ดี

ลำโพงบลูทูธในตลาดมีหลายตัวที่มีคุณภาพดี แต่การเชื่อมต่อบลูทูธมักทำกับโทรศัพท์มือถือหรือ tablet หรืออาจจะใช้กับโน้ตบุ๊ค แต่ก็มีคนอีกจำนวนมากที่ใช้คอมฯตั้งโต๊ะและไม่สามารถใช้งานบลูทูธได้ การเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณเสียงทางช่อง Aux ก็เป็นสิ่งจำเป็น ลำโพงบลูทูธที่มีขายส่วนใหญ่ก็มักจะไม่มีช่อง Aux จะมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ยังมีช่องแบบนี้ให้ใช้งาน และลำโพงบลูทูธส่วนใหญ่ก็มีการเปิดปิดและการเชื่อมต่อที่ซับซ้อน บางครั้งการเชื่อมสัญญาณก็หลุด มีหลายครั้งที่สัญญาณเสียงหาย ต้องการการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งหากเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นคนที่เลือกซื้อลำโพงมาใช้ตั้งแต่แรกก็จะแก้ปัญหาได้ แต่เด็กในบ้านจะแก้ปัญหาแบบนี้เองไม่ได้ เพราะไม่มีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เหล่านี้

ลำโพงที่เหมาะกับการใช้งานเรียนออนไลน์ และเหมาะกับเด็กก็ควรจะเป็นลำโพงที่เปิดปิดง่าย หรือเปิดตลอดเวลาที่เสียบไว้กับเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียงที่ปรับง่าย ยิ่งเป็นปุ่มหมุนยิ่งดี เพราะการปรับความดังเป็นสิ่งจำเป็นในบางกรณี เช่นศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำออกเสียงฟังยาก หากเด็กสามารถเร่งเสียงด้วยตัวเองได้ก็จะปรับได้เลย เมื่อผ่านศัพท์หรือผ่านตอนที่ต้องการเสียงดังฟังชัดไปแล้ว ก็ค่อยปรับกลับมาเป็นระดับความดังปกติก็ได้ เพราะเราคงไม่อยากให้ลูกเราอยู่กับเสียงดังตลอดเวลา

การเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ก็มีความสำคัญ บางครั้งแม้แต่การต่อสาย Aux ก็อาจจะยุ่งยากเกินไปสำหรับบางครอบครัว ถ้าลำโพงมีสาย usb ที่ต่อเข้าเครื่องคอมฯ ทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายพลังงานและเป็น usb sound ไปด้วยในตัวก็จะทำให้เสียบสายเส้นเดียวได้ทั้งเสียงและพลังงานไฟฟ้ามาครบ ลำโพงแบบนี้ถือว่าออกแบบมาลดความยุ่งยากอย่างแท้จริง แต่เราก็ต้องไปค้นหาว่าลำโพง usb แบบนี้จะมีคุณภาพเสียงที่ดีเพียงพอไหม

พอเรารู้ว่าเราจะใช้ลำโพงคุณภาพระดับใด ใช้ทำหน้าที่อะไร เชื่อมต่อด้วยวิธีใด เราก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าของถูกมากๆก็ไม่สามารถใช้งานกับงานที่เราต้องการได้ ของแพงบางตัวแม้จะใช้งานได้แน่นอนแต่ก็มีความซับซ้อนต้องใช้ความรู้ความเข้าใจพอสมควร การเลือกสิ่งที่ง่ายและตรงกับความต้องการกลายเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาค้นหา ใช้เวลากับการอ่าน การรีวิว เราก็จะได้สิ่งที่เราต้องการ

รีวิวหูฟัง AKG k701 หูฟังขนาดใหญ่ เสียงดี ใส่สบาย

IMG_0088

AKG เป็นบริษัที่ทำผลิตภัณฑ์จำพวกไมโครโฟนและหูฟังเอาไว้เยอะมาก โดยหูฟังขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาใหญ่โต ตัวหูฟังมีรูปร่างเป็นวงกลม ตัวนี้ชื่อรุ่น k701 ซึ่งเป็นรุ่นหูฟังรุ่น referrence ระดับ ultra หรือ เป็นหูฟังระดับอ้างอิงที่เน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลัก ฟองน้ำหรือตัวนวมที่จะรองรับการกดลงบนหัวผู้ฟังเป็นฟองน้ำหนา นุ่ม และ กดทับบนหัวแล้วไม่รู้สึกหนักเลย กลับรู้สึกว่าสบายขึ้น และยิ่งใช้งานไปยาวนาน ตัวนวมยิ่งนุ่มยิ่งย้วยยิ่งทำให้รู้สึกสบายกว่าของใหม่

IMG_0105

การทำงานบันทึกเสียงในห้องอัด สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งก็คือการมอนิเตอร์เสียง เราควรจะมีลำโพงหรือหูฟังมอนิเตอร์สักตัวหนึ่งที่ให้คุณภาพเสียงที่ไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งเป็นพิเศษ หรือ เรียกกันในวงการนักเล่นเครื่องเสียงว่าเป็นหูฟังที่ flat หรือ ตอบสนองราบเรียบนั่นเอง

แต่คำว่าราบเรียบหรือ flat ไม่ได้หมายความว่าเสียงจืดชืด มีหลายครั้งที่ลำโพงและหูฟังถูกวิพากษ์วิจารณ์เอาไว้ว่าให้เสียงจืดชืด ไม่น่าฟัง บางทีไม่ได้เป็นเพราะมันออกแบบมาผิดพลาด แต่มันต้องไปพิจารณาเรื่องแอมป์ที่ขับลำโพง หรือ ตัววงจรขยายที่ส่งสัญญาณที่ขยายเสียงแล้วให้กับลำโพงหรือหูฟังคู่นั้นว่าออกแบบแอมป์มาดีไหม

IMG_0120

AKG k701 เป็นหูฟังระดับมอนิเตอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในห้องบันทึกเสียงมายาวนาน ด้วยเหตุผลว่ามีความสามารถในการแจกแจงรายละเอียดได้ดี และสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดของหูฟังตัวนี้คือ ความราบเรียบในการตอบสนองต่อสัญญาณดนตรีที่ตรงไปตรงมา ไม่เน้นย่านใดย่านหนึ่งเป็นพิเศษ บุคลิกนี้เป็นสิ่งที่ผู้ควบคุมการบันทึกเสียงหรือ ซาวด์เอนจิเนียร์ต้องการเป็นลำดับแรกๆของการทำงาน

K701 ให้แท่นวางหูฟังมาด้วย มีประโยชน์ในการใช้งานประจำวันอย่างมาก เพราะเราไม่ต้องซื้อแท่นวางแยกต่างหาก และยังให้ความสวยงามของการจัดวางได้อีกด้วย นักเล่นที่พิถีพิถันและชอบจัดวางให้ดูสวยงามสบายตาน่าจะชอบกับที่วางแบบนี้

IMG_0110

สเป็คของหูฟัง AKG K701

IMG_0101

ความต้านทานหูฟัง 62 โอห์ม

การตอบสนองความถี่ 10-39,800 Hz

ความไว 105 spl/V

น้ำหนัก 293 กรัม

ทนกำลังขับ 200 mW

สายหูฟังยาว 10 ฟุต แจ๊คหูฟังขนาด 6.3mm แถมอแด๊ปเตอร์ 3.5 to 6.3mm สีทอง

2020-01-09_09-53-38-01

อุปกรณ์ทดลองฟัง

เครื่องคอมพิวเตอร์ intel i3 ระบบปฏิบัติการ windows7

โปรแกรมเล่นเพลง itune พร้อมไฟล์เพลงที่ rip จาก CD เป็นไฟล์ชนิด wav

โปรแกรมเล่นเพลง spotify เล่นไฟล์จากอินเทอเน็ต

แอมป์หูฟัง Aune B1 และ แอมป์หูฟังที่ทำเอง

Dac ใช้ชิพ  SA9023 + ES9018K2M Audio DAC

NAD Dac1

เครื่องเล่นเพลง Aune M1

ก่อนการลองฟังจริงก็เบิร์นอินหูฟังอย่างยาวนานด้วยการเปิดเพลงให้ทั้งวันทั้งคืน สลับกับการเปิดกับรายการวิทยุด้วยเครื่องรับวิทยุ tivoli model1 ใช้เวลารวมกันจนมั่นใจว่าเกิน 200 ชั่วโมงไปแล้ว

IMG_0252

ผลการทดลองฟัง

เมื่อซื้อมาใช้ใหม่ๆ ลองเปิดตั้งแต่ชั่วโมงแรกก็พบว่า เสียงต่างๆที่ได้ยินมีความชัดเจน เสียงแหลมใสก็คมชัดและไม่บาดหู เสียงกลางชัดมาก เสียงเบสก็มีให้ได้ยินชัดเจน เสียงทุ้มกลางแหลมมีความพอดีซึ่งกันและกัน แนวโน้มแบบนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าหูฟังตัวนี้ให้เสียงที่ดีสมคำล่ำลือแน่ๆ เพราะแค่ชั่วโมงแรกก็น่าฟังแล้ว

เมื่อผ่านเวลาการเบิร์นไปเกิน 200 ชั่วโมงก็ทดลองฟังจริงจัง เลือกต่อระบบเสียงจากคอมพิวเตอร์ผ่าน dac 9018 แล้วนำสัญญาณอนาลอก LR มาเข้า headphone amp รุ่น DIY แล้วต่อ K701 เข้าเสียบที่ช่องหูฟัง 6.3mm

บางครั้งก็ใช้ NAD Dac1 บางครั้งก็ใช้แอมป์หูฟัง Aune B1 ส่วนแหล่งโปรแกรมที่เป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงดิจิทัลก็จะเป็น Aune M1 ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่เล่นไฟล์ wav ระดับ 16bit 44.1kHz และไฟล์ที่ใช้กับเครื่องเล่นนี้ก็มาจากการ rip จากแผ่นซีดี

ทดลองฟังเพลงแนวออดิโอไฟล์ก่อนเลย  Jennifer Warnes ชุด The Hunter เป็นอัลบั้มยอดนิยมของวงการเครื่องเสียง เพลงชุดนี้เป็นแนวอคูสติกป๊อป หวานๆ และโชว์ความสามารถทั้งการร้องและการเล่นดนตรีรวมถึงแนวทางการออกแบบดนตรีที่น่าฟัง แม้เวลาจะผ่านมากว่าสามสิบปีเพลงเหล่านี้ก็ยังคงน่าฟังอยู่ เสียงร้องที่ได้มีความใส ชัดเป็นตัวเป็นตน โฟกัสน้ำเสียงนิ่งมาก ติดตามลูกคอและเสียงริมฝีปากกระทบกันได้ชัดเจนสุดๆ ส่วนเสียงย่านเบสที่เป็นจุดเด่นของอัลบั้มนี้ก็มีออกมาเยอะมาก แต่ไม่ล้น ไม่เกิน ไม่บวม เสียงเบสปกคลุม แสดงตัวเป็นสัดเป็นส่วนกับดนตรีทั้งหมด เบสชัดแต่ไม่กระเทือนเสียงร้องเลย ยิ่งเป็นเพลงที่มีการเหยียบกระเดื่องกลองให้หนักแน่นพร้อมกับเล่นโน้ตเบสพร้อมด้วยเสียงไม้กลองเคาะขอบสแนร์ที่คมกริบ ให้น้ำหนักเสียงที่ลงลึกพร้อมกับความฉับไวของแรงกระแทก ฟังแล้วฟินมากสำหรับหูฟังตัวนี้ หูฟังให้เสียงการกระทบกันของวัสดุแข็งได้อย่างคมชัดและมีน้ำหนัก เสียงทุ้มและแหลมออกเสียงมาพร้อมกันและได้ยินทุกอย่างในระดับความดังที่พอดี

IMG_0253

ทดลองฟังกับวง Dream Theater ชุด image and words เป็นวงดนตรีแนวโปรเกรสซีพเมทัล กีต้าร์ไฟฟ้าแตกซ่านแต่เล่นได้กระชับแม่นยำ พร้อมกับเสียงกลองระดับยอดมนุษย์ เบสที่เล่นคมเป๊ะ ถือเป็นวงดนตรีระดับหัวแถวของดนตรีเฮฟวี่เมทัลของโลก เสียงกลองคมชัด กระเดื่องเป็นก้อนๆเลย สแนร์ฟาดเปรี๊ยะ ทุกอย่างชัดและบาลานซ์กันพอดี เสียงร้องก็ลอยอยู่ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดุดัน ผมมั่นใจเลยว่าถ้าใช้ k701 แกะเพลงจะทำได้เร็วมาก เพราะหากเราอยากจะโฟกัสกับเสียงอะไรเราก็ฟังด้วยหู k701 ตัวนี้ได้อย่างครบถ้วนทุกเสียง

จริงๆแล้วผมลองฟังกับเพลงแทบทุกชนิดเลยแต่จะยกตัวอย่างด้วยอัลบั้มที่นักเล่นเครื่องเสียงนิยมเป็นหลักให้เยอะหน่อย เพราะจะได้รู้ว่าแนวเสียงเป็นอย่างไรเมื่อเน้นเพลงแบบออดิโอไฟล์

มาที่ อัลบั้ม snow rose ที่เป็นนักร้องจีน เล่นเพลง cover จนดังอีกคน เสียงร้องหวานซึ้ง มีความชัดและใส ความใสของเสียงร้องแบบนี้เป็นความใสที่เราไม่ได้ยินจากหูฟังไอโฟน ความมีน้ำมีนวลของเนื้อเสียงเป็นบุคคลิกของเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่เรามักจะได้พบตามงานแสดงเครื่องเสียง K701 ก็ให้เสียงแนวนี้ได้อย่างง่ายดาย

IMG_0287

ถ้าพิจารณาระดับเสียงเบสย่านลึกที่ฟังชัดเจน และ เสียงสูงที่ใสและมีระดับความดังที่พอดี เราจะเรียกว่าหูฟังตัวนี้ให้คอนทราสต์เสียงได้สูงมาก เหมือนภาพถ่ายที่มีระดับของสีดำและสีขาวในภาพ ทำให้ทั้งภาพมีความสว่าง ความใสที่ยอดเยี่ยม ดนตรีที่คอนทราสต์สูง ก็ให้น้ำเสียงที่ไพเราะและกลมกล่อมในเวลาเดียวกัน

ฟังกับเพลงที่ 4 Guess you had to be there ในชุด Breaking Silent ของ Janis Ian แล้วเคลิ้มและมันส์ไปพร้อมๆกัน เสียงเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าเบาๆตอนต้นเพลงก็ชัดและมีความรู้สึกถึงเสียงปิ๊กกีต้าร์สะกิดสาย รวมถึงเสียงกลองกระเดื่องในตอนกลางเพลงที่เหยียบดังราวกับจะทุบหัว เป็นเพลงที่ฟังได้มันส์กว่าฟังผ่านลำโพงวางหิ้งพอควรเลย

ฟังเพลง The unforgiven ของ วง Metalica เสียงร้องชัด เสียงกีต้าร์อคูสติกเป็นเม็ดๆเลย ส่วนเสียงกลองก็หนักและเป็นก้อนใหญ่ๆ เสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่แตกพล่าก็เป็นเนื้อเสียงที่มีตัวตนมีหางเสียงจางหายไปแบบค่อยๆจาง ทุกเสียงไม่ตีกัน ได้ยินครบทุกเครื่องดนตรี เป็นอัลบั้มเฮฟวี่เมทัลที่บันทึกเสียงได้ไฮเอนด์มากๆ

ทั้งหมดเป็นเรื่องของน้ำเสียงที่ฟังผ่านหูฟัง K701 ที่ใช้ร่วมกับแอมป์หูฟังครับ ผมลองสลับแอมป์หูฟังอย่าง Aune B1 และ แอมป์ทำเอง ก็ให้น้ำเสียงไม่ต่างกัน โดย Aune B1 เป็นแอมป์หูฟังสำหรับการพกพาที่ออกแบบดีพอใช้ได้เลย คงได้รีวิวตามกันออกมาในบทความต่อไป

สรุป

หูฟัง AKG K701 เป็นหูฟังขนาด Full Size ที่สวมใส่สบาย สามารถใส่ฟังเพลงได้นานโดยเหงื่อไม่ออก ไม่รู้สึกว่าหูร้อน K701 ให้น้ำเสียงที่ราบเรียบต่อเนื่อง ให้บาลานซ์เสียงทุ้ม กลาง แหลม ที่พอดีทุกย่านความถี่ ทำให้เราฟังเพลงแล้วได้ยินทุกเสียงในระดับที่น่าฟัง ความรวดเร็วในการตอบสนองต่อเสียงเบสและเสียงแหลมทำได้รวดเร็ว ส่งผลให้เพลงมีความชัดเจนและนุ่มนวลไปพร้อมๆกัน เมื่อเล่นเพลงที่บันทึกมาดีจะได้ยินเสียงเพลงที่กลมกล่อมสุดๆ ฟังแล้วไม่อยากปิดเลย ส่วนเพลง mp3 ไทยๆทั้งหลายบางเพลงก็บันทึกดี บางเพลงก็บันทึกแย่ เราจะได้ยินของดีของแย่ตามไฟล์ที่ได้มา แต่เพลงไทยยุคหลังที่บันทึกทำกันในยุคสิบปีล่าสุดก็ได้คุณภาพเสียงที่ดีเป็นส่วนมาก

หากใครจะหาหูฟังระดับอ้างอิง ที่ฟังเพลงเพราะ ใส่สบาย K701 คือคำตอบที่ดีที่สุดในระดับงบไม่สูงเกินไป การนำ K701 ไปใช้กับเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาก็ให้คุณภาพพอใช้ได้ แต่หากได้ต่อกับแอมป์หูฟังที่ออกแบบมาโดยตรงก็จะให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น น้ำเสียงของ K701 ที่ผ่านแอมป์หูฟังจะให้ความมันส์ความไพเราะมากยิ่งขึ้น อะไรที่ดีพอใช้จะดีขึ้นไปอีกระดับหนึ่งจากการต่อแอมป์หูฟัง

หากสนใจสั่งซื้อได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/30S0hqGnj1

ซื้อฟองน้ำเปลี่ยน https://shope.ee/3L4r6Y8z2o

.

ฝากเพลงนี้เอาไว้ฟังเพลินๆ คลิปใน youtube ที่ฟังสบายๆและเหมาะกับ AKG k701 ตัวนี้