

ขอบฟ้ากับแม่ ร่ำลากันก่อนไปโรงเรียน
ขอบฟ้าบอกว่า ปิดเทอม อยากไปเล่นที่คิดเวนเจอร์
แม่บอกว่า เดี๋ยวซื้อตั๋วเล่นทั้งเดือนให้เลย
พอลับตาแม่ ขอบฟ้าก็ทำท่าคิด แล้วถามพ่อ
ขอบฟ้า : ตั๋วเล่นทั้งเดือนคืออะไร
พ่อ : มันคือตั๋วซื้อครั้งเดียวเล่นกี่ครั้งก็ได้ เข้าออกตามใจเลย ภายใน1เดือน
ขอบฟ้า : ซื้อครั้งเดียวใช่มั้ย
พ่อ : ใช่
ขอบฟ้า : เล่นได้ทุกวันจนหมดเดือนเลยเหรอ
พ่อ : ใช่
ขอบฟ้ายิ้มแก้มปริ……แล้วบอกว่าเดี๋ยวซื้อเดือนที่มี 31 วันนะ
ภาพเปรียบเทียบระหว่างการถ่ายด้วยฟิล์ม และดิจิทัล ในภาพคล้ายๆกัน แต่คนละอุปกรณ์ แม้จะไม่ใช่การทำ AB test ที่ดี แต่ก็บันทึกไว้เป็นแนวทาง
ภาพแรก เป็นภาพเด็กนอนบนเตียง ถ่ายด้วยกล้อง contax t3 ฟิล์ม lucky จำความไวแสงไม่ได้ ล้างฟิล์มด้วย d76 ของโกดัก สแกนด้วยวิธีไหนก็ลืมไปแล้วครับ ภาพขาวดำที่ได้ ก่อนจะเอามาเทียบในโพสท์นี้ก็เอาไปผ่าน app ชื่อ vsco โหมดขาวดำอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนภาพที่2 เป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง canon eos 5d mk1 พร้อมเลนส์ 85f1.8 ถ่ายเป็น jpg โหมดสี แล้วก็เอาไปผ่าน app vsco โหมดขาวดำอีกครั้งหนึ่ง
ผมไม่สรุปว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะมันก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือถ่ายดิจิทัลแทบไม่มีต้นทุนเพิ่มเติมเลย ได้ภาพเร็วกว่า เปลี่ยนสีได้สนุกกว่า แล้วเรายังจะใช้ฟิล์มด้วยเหตุผลอะไร เหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมยังเลือกใช้ฟิล์มในบางโอกาสอยู่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
ขอบฟ้าขอบดาวเสาร์มาหลายเดือนแล้ว และมีการวาดภาพดาวเสาร์เล่นอยู่บ่อยครั้ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ขอบฟ้าและพ่อกับแม่ได้ดูดาวเสาร์ด้วยกัน เป็นการดูดาวตอนเช้ามืด ขอบฟ้าได้เห็นวงแหวนของดาวเสาร์ด้วยตาตัวเอง ดาวเสาร์มีวงแหวนจริงๆ และขอบฟ้าก็ตื่นเต้นมาก พ่อก็ตื่นเต้นยิ่งกว่า
วันอาทิตย์ขอบฟ้าได้ไปวิ่งในงาน dinorun ซึ่งเป็นการจัดงานวิ่งที่สวนสาธารณะ ขอบฟ้าวิ่งผ่านระยะ 2.5 กิโลเมตร ได้เหรียญที่ระลึก ขอบฟ้าเอาเหรียญกลับมาบ้านและอวดคุณยายคนแรกเลย
ขอบฟ้าเริ่มสนใจดวงดาว น่าจะเป็นเพราะพ่อเริ่มอ่านประวัตินักวิทยาศาสตร์เก่งๆให้ฟังแทนนิทานก่อนนอน มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่ขอบฟ้าชอบ และมักจะถามพ่อว่า พ่อชอบคนไหนมากที่สุด ให้เรียงลำดับจากมากไปน้อย พร้อมให้บอกเหตุผลด้วยว่าชอบเพราะอะไร ซึ่งพ่อก็เล่าและชอบกาลิเลโอที่สุด ขอบฟ้าเลยชอบกาลิเลโอด้วย
ขอบฟ้าชอบกาลิเลโอมากเป็นพิเศษ แต่งตัวแฟนซีไปโรงเรียนก็ขอเป็นกาลิเลโอ พ่อก็เลยหากล้องดูดาวมาให้เล่น และซื้อกล้องส่องทางไกลให้เป็นของขวัญคริสมาสต์ แล้วก็เริ่มดูดาว เริ่มส่องดูดวงจันทร์ด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงนี้ขอบฟ้าก็ชอบดูดาวมาเรื่อยๆ และเริ่มสนใจอวกาศ ดวงดาว แกแล็คซี่
youtube เป็นแหล่งความรู้และความบันเทิงของขอบฟ้า นอกจากหนังต่อสู้ ไดโนเสาร์ ปลาวาฬ ก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับดวงดาวเพิ่มเติมเข้ามา สารคดีอวกาศและดวงดาวเป็นสิ่งทีทำให้ขอบฟ้าเพลิดเพลินได้ ขอบฟ้าชอบดาวเสาร์เป็นพิเศษ และมีการวาดรูปดาวเสาร์และดาวพฤหัสบ่อยมาก
การเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในช่วงเวลานี้เป็นการเที่ยวที่สนุกมาก เพราะขอบฟ้ารู้เรื่องมากขึ้น ถามหาเหตุผลของสิ่งที่ไปดู และไปได้แผนที่ดวงดาวกลับมาด้วย ทำให้การดูดาวจริงจังมากยิ่งขึ้น ดวงดาวทุกดวงในสุริยะจักรวาลขอบฟ้าจำได้ทั้งหมด ดาวฤกษ์ที่สำคัญและมีตัวตนบนแผนที่ก็จะจำได้หลายดวง การดูดาวที่ท้องฟ้าจำลองก็กลายเป็นเรื่องสนุกเพราะเริ่มฟังเข้าใจ ขอบฟ้าจำตำแหน่งดวงดาวได้ มองแผนที่ดวงดาวและหาดาวที่ต้องการจนเจอ
สิ่งที่พ่อกลัวก็คือ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปขึ้นยานอวกาศ กลัวขอบฟ้าขอให้พาไปดูที่ปล่อยจรวด แล้วขอบฟ้าก็ขอจริงๆด้วย
ด้วยเหตุที่ไม่ค่อยได้รับจ้างถ่ายภาพเหมือนสมัยก่อน พอมีงานสักทีก็ขอปล่อยของปล่อยไอเดียนิดนึง ภาพ prewedding กึ่งภาพครอบครัว พร้อมด้วยภาพงานแต่งงาน ถ่ายเสร็จก็ก็อปปี้ไฟล์ส่งงานเป็นทัมไดร์ฟ เพราะด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่าถ้าส่งงานเป็นแผ่นดีวีดี แผ่นมันจะอายุสั้น และลูกค้าอาจไม่มีเครื่องอ่านแผ่นอีกแล้ว
เลยหากล่องมาใส่ทัมไดร์ฟ พร้อมกับเลือกภาพบางส่วนที่น่าจะเป็นตัวแทนของเหตุการณ์มาพิมพ์เป็นใบให้ได้หยิบจับกัน ยุคดิจิทัลครองเมือง เจ้าของภาพส่วนใหญ่มักจะไม่อัดภาพเป็นกระดาษอีก ถ้าไม่อัดให้เชื่อว่าไม่มีเก็บภาพไว้ติดบ้านแน่นอน ภาพถ่ายดีๆที่ควรจะอยู่ในเล่ม ภาพที่ควรวางไว้ให้หยิบดูได้ตลอดเวลามันจะสูญหายไปจากชีวิต ผมจำได้ว่า สมัยเด็กๆ ไปรื้อของที่หัวเตียงของพ่อแม่ จะเจออัลบั้มภาพงานแต่งงาน เป็นภาพขาวดำเพราะยุคนั้นเป็นยุคขาวดำ พ่อกับแม่ผมใส่ชุดแต่งงานขึ้นรถไฟเลยนะ ความรู้สึกแบบนี้ ความทรงจำแบบชัดๆไม่ต้องโหลดไม่ต้องออนไลน์ เด็กดูได้ คนในบ้านดูสะดวก มันควรมีเป็นใบๆให้เขาสัมผัส
หลังจากที่ปิดไฟนอนไปแล้วห้านาที อยู่ๆขอบฟ้าก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วถาม
ขอบฟ้า : โพลี่ อุกาบาตจะชนโลกมั้ย?
พ่อ : ไม่ชนหรอก
ขอบฟ้า : รู้ได้ยังไงว่าไม่ชน
พ่อ: ขอบฟ้ากลัวอุกาบาตมาชนเหรอ
ขอบฟ้า : ใช่
พ่อ : เราไม่มีอุกาบาตมาชนโลกนานแล้ว ครั้งสุดท้ายน่าจะหลายร้อยปีก่อน
ขอบฟ้า : ถ้ามันมาล่ะ
เห็นขอบฟ้ากังวลขนาดไม่ยอมนอน พ่อเลยคิดหาวิธีพูดให้เชื่อ เลยใช้ดวงจันทร์เป็นตัวช่วยซะ
พ่อ : โลกเรามีดวงจันทร์ ดวงจันทร์จะโคจรรอบเรา และอุกาบาตจะชนดวงจันทร์ก่อน ขอบฟ้าดูภาพดวงจันทร์สิ ที่เห็นเป็นรู เป็นตุ่มๆ น่ะ มันโดนอุกาบาตชน ก้อนหินหรืออุกาบาตอะไรที่ลอยมาใกล้โลก ดวงจันทร์เก็บหมดเลย
ขอบฟ้า : เก็บหมดเลยเหรอ
พ่อ : ใช่ ดวงจันทร์ช่วยโลกไว้ตลอดเลย
ขอบฟ้าเงียบๆทำท่าคิด ทำท่าเหมือนจะล้มตัวลงนอน
ขอบฟ้า : แล้วครั้งที่แล้วทำไมถึงผ่านดวงจันทร์มาได้ล่ะ
พ่อ : (นั่นไง ว่าแล้วต้องถามย้อน) ครั้งนั้นมันอาจจะใหญ่ยกเว้น แต่เดี๋ยวนี้เรามีคนส่องกล้องดูตลอดเวลา เขาดูไปในอวกาศ ดูว่าจะมีอะไรลอยมาชนโลกไหม ดูไปไกลถึง 100 ปี ก็ไม่มีอะไรมาชนแน่ๆ
ขอบฟ้า : จะไม่มีอุกาบาตมาเลยถึง 100 ปีเหรอ
พ่อ : ใช่ นอนซะ
ขอบฟ้า เพลินๆ 24 ธันวาคม 2560


สัปดาห์นี้ขอบฟ้าได้ไปดูนิทรรศการหุ่นยนต์ที่ไบเทค เป็นงานแสดงหุ่นยนต์หลายชนิด มีการแข่งขันหุ่นยนต์เตะฟุตบอล มีท้งหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนคนและหุ่นยนต์รูปร่างประหลาด

ระหว่างสัปดาห์ขอบฟ้าได้ฟังนิทานก่อนนอนเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์เก่งๆ หนึ่งในนั้นคือกาลิเลโอ พ่อเล่าประวัติทุกคนให้ฟัง ขอบฟ้าจะจำเรื่องราวของกาลิเลโอได้ค่อนข้างเยอะ ขอบฟ้ารู้ว่ากาลิเลโอเป็นคนสร้างกล้องดูดาว เป็นคนทดลองโยนลูกบอลที่หอคอยเมืองปิซ่าร์ และในวันจันทร์ที่จะต้องแต่งตัวเป็นตัวละครขอบฟ้าขอแต่งตัวเป็นกาลิเลโอไปโรงเรียน
ที่งาน จัดบริเวณวัด และต้องเดินตามทางเดินริมคลองไปอีกเป็นกิโลเพื่อไปร่วมงานตามจุดต่างๆ ขอบฟ้าได้เล่นทรายสี ได้ทำตุ๊กตาไล่ฝน ได้ทำดอกไม้จากหลอด และได้ปีหน้าผาจำลองด้วย ที่ทางเดินจุดหนึ่งมีสะพานสูงมาก พ่อเดินจูงมือกับขอบฟ้าข้ามไป ตอนที่อยู่กลางสะพาน ขอบฟ้าบอกว่า สะพานที่นี่สูงมาก ถ้ารอยตกลงไปต้องตายแน่ๆเลย พ่อก็คุยกับขอบฟ้าว่า ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องระวัง จับให้ดี และเดินช้าๆ ไม่ต้องรีบ ขอบฟ้าก็เชื่อฟัง
งานนี้มีจักรยานมาให้บริการ เป็นจักรยานยี่ห้อนึง มีมาจอดเป็นร้อยคัน คนจะใช้ต้องถ่ายถ่าย qr code บนจักรยานเมื่อลงทะเบียนแล้วค่อยเอาไปขี่ ผมลืมเอามือถือไปก็เลยไม่ได้ใช้ เสียเงินซื้อตั๋วขี่จักรยานไปแล้วด้วย อีกอย่าง จักรยานเป็นแบบที่นั่งเดียว แต่ผมพาลูกไปด้วยดังนั้นอด หมดความพยายามใช้จักรยานโดยพลัน ครั้งหน้าขอให้มีแบบนั่งสองคนนะ จะได้ตอบโจทย์คนพาลูกเที่ยว
ทางเดินไปดูกิจกรรมแต่ละจุดเป็นทางเดินริมคลองค่อนข้างแคบ และจะต้องใช้เดิน ใช้ขี่มอเตอร์ไซด์ ใช้ขี่จักรยาน ในวันปกติที่ไม่มีงานมันเป็นทางเดินแสนวิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อชุมชน มันทำให้ผูัคนริมคลองเชื่อมต่อกัน แต่ในวันจัดงานที่มีคนมาเที่ยวหลายพันคน มันเดินยากมาก แค่คนอย่างเดียวก็เดินกันได้ แต่ต้องมีจักรยานมาขี่สวนไปมา มีมอเตอร์ไซด์ด้วย เดินยากมาก บางจุดต้องออกัน บางจุดต้องหลบรถแทบจะตกคลอง เป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็กเล็ก จริงๆก็อันตรายกัทุกคน
ของกินตลอดทางที่มีขายทั้งในงาน ทั้งทางผ่านบ้านคนก็มีให้เลือกซื้อ ราคาไม่แพง ชาวบ้านกับชีวิตริมน้ำดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่ให้มาอยู่แบบนี้ ขอคิดดูก่อน ในส่วนของการจัดงานก็น่าชมเชยในความคิดสร้างสรรค์ แต่จุดจัดกิจกรรมแต่ละจุดที่วางไว้ไกลและเดินเหนื่อย มันเป็นเรื่องยากของเด็กเล็ก คำว่าเล็กคือระดับอนุบาล เพราะเด็กเล็กเดินไม่ทนเท่าผู้ใหญ่ จักรยานที่หามาให้เช่าขับก็ไม่มีที่นั่งสำหรับซ้อนเด็ก เรือโดยสารที่บริการก็น้อยเกินไป และการจอดท่าแต่ละท่ากลางทางก็ไม่แน่นอน สรุปว่า การเที่ยวเล่นในกิจกรรมนี้ไม่เหมาะกับเด็กเล็กเลย เพราะมันเดินทางย้ายไปในแต่ละกิจกรรมได้ลำบากมาก เกินแรงของเด็กจะเดิน แม้กิจกรรมจะทำมาสำหรับเด็กก็ตาม