ปี 2561 ผมได้ข่าวว่าเดวิดเบ็คแฮมจะมาพบแฟนบอลชาวไทยโดยเป็นกิจกรรมของ aia เนื่องจากเบ็คแฮมเป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัท aia เพื่อนที่รู้ว่าลูกของผมชอบฟุตบอลเป็นคนที่ได้สิทธิ์เข้างาน และได้ยกสิทธิ์นั้นให้กับผม จริงๆต้องบอกว่าให้ขอบฟ้ามากกว่า ผมมีหน้าที่แค่พาเขาไปร่วมงาน
เดวิดเบ็คแฮมเก่งแค่ไหนผมก็ไม่ได้รู้ละเอียด รู้แค่ว่าเป็นนักเตะอังกฤษที่มีชื่อเสียงที่สุด รวยที่สุด เตะฟรีคิกแม่นที่สุด และเป็นนักเตะที่หน้าตาดี เมียสวย แถมยังประสบความสำเร็จกับหลายสโมสร โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด วันที่เขาเก่งและครองแชมป์มากมายกับแมนยูฯ ผมเป็นแค่คนไม่ดูทีวี เลยไม่ได้รับรู้ความเก่งของนักเตะคนนี้ในช่วงที่เขาพีคมากๆ
พอมีลูก และลูกเริ่มสนุกกับฟุตบอล ผมก็ทำหน้าที่พ่อที่หาข้อมูลน่าสนใจให้ลูก เพื่อให้ลูกมีแรงบันดาลใจ อย่างน้อย ถ้าลูกอยากเป็นนักฟุตบอลผมก็ควรจะกรุยทางหรือวางแผนการเติบโตให้เขาว่าเขาควรจะเล่นบอลอย่างไร และไปเล่นให้กับทีมไหนในช่วงอายุต่างๆ และการหาแรงบันดาลใจที่ผมพอทำได้คือ เอาประวัตินักฟุตบอลเก่งๆมาเล่าให้ลูกฟัง
เดวิดเบ็คแฮมมีประวัติน่าสนใจ ในวัยเด็ก เขาจะเล่นฟุตบอลกับพ่อสม่ำเสมอ และการฝึกซ้อมกับทีม เบ็คแฮมจะฝึกมากกว่าเพื่อนร่วมทีมวันละ 2 ชั่วโมง แม้ว่าเพื่อนจะพักแล้ว เบ็คแฮมยังฝึกอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่เบ็คแฮมมีฝีเท้าที่โดดเด่นกว่าคนอื่น และการฝึกเพียงคนเดียวก็ทำให้เขาได้ฝึกเตะฟรีคิกซ้ำๆ เกิดเป็นความแม่นยำเกินคนอื่น และลูกยิงแจ้งเกิดของเบ็คแฮมคือลูกยิงครึ่งสนามที่แม่นยำยิ่งกว่าลูกยิ่งอื่นๆของวงการฟุตบอลในอดีตก่อนหน้านั้น มันเป็นลูกยิงที่มาจากความฉลาดที่มองเห็นโอกาสและคิดออกว่าจะทำประตูอย่างไร และเขาสามารถทำได้เพราะฝึกเตะอย่างหนักในช่วงที่ซ้อม

นี่เป็นประวัติคร่าวๆที่พอจะหาได้ และผมคิดว่า เด็กคนหนึ่งที่ชอบฟุตบอล อาจจะต้องมีเหตุการณ์บางอย่างในชีวิตให้เขาได้สัมผัสเองเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจระยะยาว การพาไปพบนักฟุตบอลเก่งๆก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าควรทำสักครั้ง
ในอดีต เมซซี่ในวัยเด็ก ก็เป็นเด็กที่เดินจูงมือมาราโดน่าเข้าสนาม มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักเตะระดับโลก
วันจริงกับ David Beckham
ผมให้ลูกแต่งตัวนักฟุตบอลมาร่วมงาน ในกำหนดการบอกว่าเป็นกิจกรรม football clinic จะมีผู้ฝึกสอนจากสโมสรท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ในอังกฤษมาให้คำแนะนำนักเตะ แต่ aia กำหนดเงื่อนไขนักเตะว่าจะต้องเป็นลูกหลานพนักงาน และในสนามก็มีนักเตะที่อยู่ในเงื่อนไขเหล่านั้นประมาณ 200-400 คน ซึ่งทั้งหมดจะต้องเตะให้ผู้ฝึกสอนดูแล้วผู้ฝึกสอนจะให้คำแนะนำ ….. ไม่ต้องขนาดให้คำแนะนำหรอกแค่โค้ชยิ้มให้นักฟุตบอลเยาวชนคนละ 1 ครั้งก็หมดเวลาแล้ว
กิจกรรมจัดที่สนามฟุตบอลในร่มของเมืองทองยูไนเต็ด ผมก็ให้ขอบฟ้าแวะถ่ายรูปกับป้าย และย่องไปเดินเล่นในสนามใหญ่ พาลูกไปดูสนามบอลจริงๆเป็นอย่างไร แม้ว่าสนามแห่งนี้จะไม่ได้ใหญ่โตแบบสนามกีฬาแห่งชาติ แต่ก็ใหญ่พอจะเปิดหูเปิดตาเด็ก 6 ขวบอย่างลูกผม ซึ่งลูกผมไม่ผ่านเกณฑ์อายุนักเตะที่จะร่วมกิจกรรม และไม่ใช่นักเตะวรรณะลูกหลาน aia เลยได้แต่ยืนเกาะขอบสนาม เพราะทีมงานกำหนดไว้แค่นี้ คนที่ได้เข้าสนามคือลูกหลานเยาวชน คน aia เท่านั้น
ตอนยืนก็แทบไม่เห็นกลางสนาม แฟนคลับที่เล่นเกมส์ ชิงโชค มีชื่อว่าได้รางวัลอยู่ในเฟสบุ๊คเป็นกลุ่มที่จะได้สิทธิ์ยืนเกาะขอบสนามดู ตำแหน่งการยืนก็ตากแดดตั้งแต่ 10 โมงจนถึงเที่ยงกว่า เดวิดเบ็คแฮมมาถึงสนาม 11.50 น. ผมอุ้มขอบฟ้าดูให้เห็นตัวเป็น สัก 15 นาทีก็ขอลาก่อน คนที่ได้อยู่ใกล้เบคแฮมในระยะ 1 เมตรคือ เยาวชน aia เรียกว่าเป็นวรรณสัมผัส น่าจะมีเด็กไม่เกิน 5 คน วรรณะนี้ได้ขึ้นเวทีถ่ายรูปร่วมกับเบ็คแฮม วรรณะถัดมาคือวรรณะดมกลิ่น ได้นั่งดูกิจกรรมห่างหน้าเวทีประมาณ 3-5เมตร วรรณะนี้ประมาณ 200-400 คน ที่เพิ่งเตะเทรนนิ่งพร้อมกันทั้งหมดในสนามฟุตบอลในร่มไปเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา
เบคแฮม มาในชุดสีดำ เสื้อดำ กางเกงดำ รองเท้าดำ แต่ใจไม่ดำ พยายามยิ้มและมองคนทั่วสนาม แต่ทีมงานเจ้าภาพก็บริหารให้ได้แค่ได้ถ่ายรูปกับวรรณะสัมผัสแค่ไม่กี่คน ที่เหลือก็มองอยู่ไกลๆ วรรณะที่ผมกับลูกสิงสถิตย์ขอเรียกว่าวรรณะขอบสนาม เกาะรั้ว เกาะขอบสนามดู พร้อมแดดหน้าหนาวที่อากาศไม่หนาวเลย
อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณ aia ที่พาเบ็คแฮมมาเยี่ยมเยาวชนนักเตะไทย ถ้าไม่มีคุณลูกผมก็จะไม่รู้ว่าเบคแฮมตัวจริงหน้าตาเป็นยังไง ส่วนกิจกรรม football clinic 1 ชั่วโมง เด็ก 200-400 คน ผมคิดว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย aia น่าจะสงเสริมฟุตบอลเยาวชนด้วยวิธีอื่น ลูกผม 6 ขวบ ดูคนอื่นเตะบอลแล้วบอกผมว่า เตะบอลแล้ววิ่งตามแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าเลี้ยงลูกหรอก ผมก็ตอบ อื้ม … พ่อก็คิดอย่างนั้น









