ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่4 เตรียมของ

เรามาเริ่มต้นกันดีกว่า เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเริ่มลดน้ำหนักก็คือ เวลากินข้าวมื้อถัดไป เราสามารถเริ่มต้นการลดน้ำหนักได้ทันที ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย แต่เรามีสิ่งของบางอย่างที่ควรเตรียมเอาไว้เพื่อให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ผล เราควรจะมีสิ่งต่อไปนี้

2017-03-06_06-00-11

1 เครื่องชั่งน้ำหนัก จะเป็นเครื่องชั่งระบบเข็มหรือระบบดิจิทัลก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ระบบดิจิทัล โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องชั่งราคาแพง เราจะใช้เครื่องชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักประจำวันเท่านั้น ซึ่งเครื่องชั่งที่มีขายทั่วไปก็ทำงานได้อย่างดี ส่วนเครื่องชั่งราคาแพง เครื่องชั่งไฮเทค เครื่องชั่งที่เชื่อมต่อกับ application ในมือถือก็แล้วแต่ศรัทธา แต่สำหรับผม ผมไม่ใช้ครับ มันเกินความจำเป็น และราคามันก็ไม่ถูก ส่วนเครื่องชั่งระดับหลายพันที่วัดค่ามวลกระดูกได้ แสดงผลค่า BMI ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครับ เพราะเราจะลดน้ำหนักเท่านั้น ตัวเลขอื่นๆเป็นตัวเลขรบกวนจิตใจ แต่ถ้ามีเครื่องชั่งไฮเอนด์อยู่แล้วก็ใช้ได้ครับ ไม่ผิด

Watch Smart watch Calories นับก้าว

2 อุปกรณ์นับก้าว จะเป็นตัวนับในรูปแบบของสายรัดข้อมือ หรือ นาฬิกาไฮเทคอย่าง smartwatch ก็ได้ เลือกได้ตามกำลังเงิน ผมใช้ ipod nano รุ่นที่มีระบบนับก้าวแล้วซื้อสายข้อมือมาติดตัวมันเพื่อให้มันกลายเป็นนาฬิกา และตั้งให้นับก้าวตั้งแต่ตื่นนอนไปจนหมดวัน เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์สายรัดข้อมือราคาหลักร้อยให้ใช้ ก็น่าซื้อใช้เช่นกัน เราขอให้เป็นตัวที่สามารถนับก้าวและแสดงค่าแคลอรี่ที่เราเผาผลาญจากการเดินไปได้ก็พอ แล้วพวกโปรแกรมนับก้าวในโทรศัพท์มือถือล่ะ ใช้แทนได้ไหม ก็ขอบอกว่าไม่ได้ครับ เพราะมือถือไม่ได้ติดตัวเราไปตลอดเวลา ในระหว่างวันเราอาจวางมันไว้เฉยๆบนโต๊ะ ผู้ชายอาจจะมีมือถือติดตัวไปเกือบทั้งวัน แต่ผู้หญิงไม่มีใครหนีบมือถือไว้กับตัวตลอดเวลา

IMG_0879

3 กล้องถ่ายรูป เราใช้โทรศัพท์มือถือแทนได้ เดี๋ยวนี้มือถือถ่ายรูปได้หมดแล้ว เราจะใช้ถ่ายภาพตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน ใครไม่ถนัดถ่ายรูป จะใช้จดในสมุดก็ได้ ไม่ว่ากัน หากใครเลือกใช้การจด กล้องถ่ายรูปก็ไม่จำเป็น

IMG_0275

4 ขวดน้ำ ใส่น้ำเปล่า หรือกระติกน้ำ สิ่งนี้จำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ จะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่กินแล้วเอามาเติมใช้ซ้ำก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย ขอขวดขนาดประมาณ 600cc อย่าเล็กกว่านี้ อย่าใหญ่ระดับขวดลิตร เพราะเราจะพกขวดน้ำ ขวดนี้ควรอยู่ใกล้มือและมีน้ำเต็มตลอดเวลา

IMG_0284

5 กล่องข้าว กล่องพลาสติก เอาไว้ใส่ของที่กินเหลืออีกครึ่งหนึ่ง เพื่อเก็บไว้กินมือต่อไป ข้อนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีจะเจ๋งและช่วยเราประหยัดเงินได้

IMG_b0218packaging

6 แก้วใส่กาแฟร้อน สำหรับคนชอบกาแฟ กาแฟร้อนจะอยู่กับเราในโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว และบนรถ ข้อนี้ไม่บังคับ มีก็ดีกว่าไม่มี แต่คนชอบกาแฟยังไงก็น่าจะมี ไม่ใช่เรื่องยาก

IMG_0186

7 หนังสติ๊ก เอาไว้รัดถุง รัดขนมถุงที่ฉีกแล้ว ได้ใช้แน่นอน รับรอง

ในขั้นตอนต่างๆที่เราจะลดน้ำหนัก เราจะพบเจอกับหลายเหตุการณ์ อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทมากบ้างน้อยบ้าง แต่ได้ใช้ทุกชิ้น

garmin nuvi 1250 ยังอัพเดทได้ในปี คศ2018

IMG_5788

ผมซื้อ gps ของ garmin รุ่น nuvi 1250 มาใช้เมื่อปี คศ 2011 และใช้งานมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันคือในปี คศ 2018 นี้  ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วง 4 ปีหลัง ผมใช้งานมันน้อยลง เพราะว่า ถนนที่ตัดใหม่ๆในช่วงหลายปีนี้ไม่ได้มีในแผนที่ติดเครื่องมา  เพราะผมมีแผนที่ในเครื่อง gps ที่อัพเดทไว้ที่ปี คศ 2011 เท่ากับปีที่ซื้อนั่นเอง

GPS ของยี่ห้อ Garmin จะมีบางรุ่นโฆษณาไว้ว่าอัพเดทแผนที่ฟรีตลอดอายุการใช้งาน คำนี้เคยทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าอัพเดทได้ตลอดชีวิตคนซื้อ  จริงๆเครื่อง gps มีอายุการใช้งานแต่ผมไม่รู้ว่าอายุการใช้งานนี้ยาวนานกี่ปีตามที่บริษัทกำหนด  แต่ รุ่นที่ผมซื้อไม่ได้สิทธิ์นั้น  คงเป็นเพราะรุ่น 1250 เป็นรุ่นเล็กสุด และยังเป็นรุ่นที่ผมซื้อตอนลดราคาอีกต่างหาก  ราคาสมัยนั้นก็ 3990 บาท

อยู่ๆผมก็อยากจะอัพเดทแผนที่  เลยติดต่อไปที่บริษัทผู้แทนจำหน่าย ผมอีเมลไปแจ้งว่าต้องการอัพเดทแผนที่ในเครื่อง 1250 ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และผมก็พร้อมจะจ่าย แต่บริษัทก็ติดต่อกลับมาว่า รุ่น 1250 ไม่สามารถอัพเดทแผนที่ได้แล้ว เพราะบริษัท เลิกซัพพอร์ทเครื่องรุ่นนี้แล้ว  ก็เลยต้องเศร้ากันไป ผมเตรียมใจทิ้งเครื่องนี้ไปแล้ว เพราะว่า ถนนหลายเส้นมันไม่มีในแผนที่  มันยังคงใช้งานได้ดีถ้าเราไปเที่ยวในสถานที่ที่มันมีอยู่ก่อนปี คศ2011  แต่ถ้าที่เที่ยวเกิดใหม่ และร้านอาหารเกิดใหม่หลังปี คศ 2011 เราก็จะหาไม่เจอ

แล้ววันหนึ่ง ผมก็เห็นประกาศขายเครื่อง gps 1250 รุ่นเดียวกับผมเลยในราคาพันกว่าบาท ผู้ขายให้ข้อมูลว่าเขาอัพเดทแผนที่ล่าสุดไว้แล้ว เป็นแผนที่ปี 2018 เห็นแล้วตาลุกวาวเลย  เพราะมันคือคำตอบว่า รุ่น 1250 ยังคงอัพเดทได้  ก็เลยจัดการค้นหาไฟล์แผนที่ซึ่งน่าจะมีใครเก็บไว้รอการแจกจ่าย  และก็พบจริงๆ

การอัพเดทแผนที่เข้าเครื่อง 1250 ผมใช้วิธี ก็อปปี้ไฟล์แผนที่อันใหม่ไปไว้ใน micro sd โดยต้องวางไฟล์แผนที่ในโฟลเดอร์ชื่อ Garmin   แล้วนำเจ้าหน่วยความจำนี้ไปไปยัดไว้ในเครื่อง gps ซึ่งมีช่องใส่เมมโมรี่ชนิดนี้  ตอนเปิดเครื่อง ระบบจะสแกนหาไฟล์แผนที่ในโฟลเดอร์ Garmin  ถ้ามีไฟล์แผนที่อยู่ในนี้ ระบบจะใช้แผนที่ในโฟลเดอร์แทนแผนที่ที่ติดมากับเครื่อง  และผมก็มีแผนที่เวอร์ชั่นล่าสุดใช้งาน

gmapsupp

ทดลองหาร้านอาหารที่เปิดให้บริการในช่วงปี 2016 ผมก็ค้นชื่อเจอในแผนที่ใหม่ ซึ่งถ้าเราไม่อัพเดทผมก็จะหาไม่พบนั่นเอง  แสดงว่าแผนที่ใหม่ใช้งานได้ดี

สรุป gps รุ่น nuvi1250 สามารถอัพเดทแผนที่ได้  มีแผนที่เวอร์ชั่นใหม่ให้ใช้

ขอบคุณโลกอินเทอเน็ตที่มีข้อมูลข่าวสารที่ช่วยให้ผมยังคงใช้งาน gps รุ่นนี้ได้อีกหลายปี

 

อัพเดทเพิ่มเติมหลังจากใช้แผ่นที่ใหม่ในเครื่องเก่าไปได้ 2 เดือน

ในโหมดการแสดงแผนที่ทำงานได้ปกติ  แต่มีปัญหาบางอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้ เช่น การค้นหาสถานที่บางครั้งการค้นหาหลุดจากหน้าจอค้นหา  คือ  พอเราพิมพ์ชื่อร้านอาหารที่ต้องการหา พอกด ok เพื่อเริ่มค้นหา เครื่องก็หยุดทำงานเหมือนแฮงค์ แล้วบู๊ทเครื่องใหม่ และเป็นแบบนี้เสมอกับร้านเดิม  ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาที่ซอร์ฟแวร์ไม่เหมาะกับรุ่นของเครื่อง  หรือ แผ่นเมมโมรี่มีปัญหาไม่อ่านข้อมูลส่วนที่เสียหาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลอดไฟท้ายรถยนต์ LED ข้างถนนไม่ทนเลย

IMG_20180804_154132

ภาพหลอด LED ที่เสีย และถอดออกมาทิ้ง  ถ่ายวันที่ 4aug2018

นี่เป็นหลอดไฟท้ายทำหน้าที่ให้แสงสว่างตอนเปิดไฟรถยนต์เมื่อวิ่งกลางคืน และทำหน้าที่ไฟเบรกด้วยเมื่อเหยียบเบรค  หลอดดวงนี้ในรถฮอนด้าฟรีดของผมขาดบ่อย สักหกเดือนก็ขาดแล้ว  ช่างที่ศูนย์บริการบอกว่า โคมไฟท้ายรถผมมันมีน้ำเข้า ทำให้หลอดไฟเสียเร็ว  ต้องเปลี่ยนโคมไฟท้ายรถ

โคมไฟท้ายรถก็คือของฮอนด้านั่นแหละ  โคมรั่วเป็นทุกคัน  ช่างบอกมา  ผมได้แต่ด่าอยู่ในใจว่า ผมไม่ได้อยากได้โคมรั่ว ผมซื้อรถเอารถสภาพใหม่ ของดี  แต่ทำไมฮอนด้าทำโคมรั่วทุกคันให้กับลูกค้าล่ะ  เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแน่นอน

เปลี่ยนไฟท้ายฟรีด

ภาพไฟท้ายที่มีรอยแตกอยู่ด้านใน คาดว่าเป็นจุดที่ทำให้น้ำเข้าโคม ภาพนี้ถ่ายวันที่เปลี่ยนเป็นหลอด LED คือวันที่ 9jul2018

ก็เลยลองซื้อหลอดไฟจากร้านอื่นๆดู  คิดว่าหลอด  LED น่าจะทนกว่าหลอดระบบเดิม หลอด LED ขั้ว T20 ตัวนี้ได้มากจากร้านขายของแต่งรถในห้าง  ผมซื้อมาคู่ละ 490 บาท ซึ่งแพงกว่าของศูนย์มาก  และมันก็ทำงานได้ดี  แต่ดีแค่ไม่กี่วันแล้วมันก็พัง  เป็นบทเรียนที่จำแม่นเลยว่า ของข้างถนนไม่ทน สู้ของศูนย์ที่เป็นหลอดระบบเก่าก็ไม่ได้

หลอด LED ขั้ว T20 ซื้อข้างถนน ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ซื้อเปลี่ยนวันที่ 9jul2018 และถอดทิ้งวันที่ 4aug2018 ซึ่งมันเสียเปิดไม่ติดก่อนจะถอดไปหลายวันด้วยนะ  สรุปคืออายุการใช้งานประมาณ 25 วัน  ไม่ถึงเดือนพังแล้ว กำลังจะกลับไปใช้ของศูนย์สเป็คโบราณที่มันทนทานกว่ากันมากและราคาถูกกว่ามากด้วยนะครับ honda freed รถดีที่ไฟท้ายห่วย  แต่เราก็ทนใช้ได้เพราะรถมันยังคงน่าใช้

IMG_20180813_173013

หลอดใสๆในภาพบนนี้ด้านขวา 2 หลอด คือหลอด T20 ที่เป็นหลอดไส้ เป็นหลอดโบราณที่ใช้ในรถฮอนด้าฟรีด  หลอดชนิดนี้ยังมีผลิตขายอยู่  และผมก็กลับมาใช้หลอดแบบเดิม เลิกใช้ LED ในฟรีดไปแล้ว  ด้วยเหตุผลเรื่องความทนทาน

การแกะโคมไฟฮอนด้าฟรีด สามารถใช้ไขควงสี่แฉกหมุนน็อตแล้วดึงโคมออกมาเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟได้  แต่น็อตที่อยู่กับรถของผมหัวแฉกมันเยินมาก  เข้าใจว่าโดนหมุนแรงๆ โดนหมุนแน่นๆมาก่อน  สี่แฉกมันใช้งานไม่ได้แล้ว  ก็เลยต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นแท่งสามเหลี่ยมหรือตัว  Y มันจะมีวงแหวนล้อมน็อตเอาไว้ทำให้หมุนได้

IMG_20180813_174713

เจ้าเหล็กตัว Y นี้จะมีวงแหวน 3 ระดับ  ระดับที่ใช้กับโคมไฟฮอนด้าฟรีดคือเบอร์ 8  ผมซื้อที่ตลาดนัดอันละ 20 บาท  ส่วนหลอดไฟโบราณ ขา T20 ผมซื้อหลอดละ 60 บาท ร้านอะไหล่ริมถนนทั่วไป  ไม่ได้ซื้อในศูนย์  แต่ราคาในศูนย์ก็ไม่เลวร้ายนะครับ  ใครหาร้านข้างทางไม่ได้ก็แวะศูนย์ไปเถอะ

ซื้อ T20 ได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/AUa1YMgPy6

ส่วนเรื่องน้ำเข้าโคมก็มีหลายท่านในกลุ่มผู้ใช้ฟรีดพบปัญหานี้  เรียกได้ว่าฟรีดแท้ต้องน้ำเข้าโคมทุกคัน มีทางออกที่มีคนแนะนำไว้คือ เจาะรูด้านล่างโคมให้น้ำไหลออก  ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้  น้ำเข้าก็ต้องมีทางให้ออก จะได้ไม่ขังไม่ชื้นข้างใน  เดี๋ยวถ้าได้รื้อเปลี่ยนหลอดไฟอีกครั้งจะเจาะบ้างแล้ว

ความสอดคล้องระหว่างตัวตนและธุรกิจของเรา

IMG_7357

 

ในการประชุมกลุ่มด้วยกัน หากมีใครสักคนยืนขึ้นเพื่อพูดอธิบายว่าเขาคือใคร ทำธุรกิจอะไร ลูกค้าที่ใช้บริการจะได้อะไร  แต่ถ้าหากสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ณ เวลาที่พูด กับสิ่งที่เขาขายนั้นไม่สอดคล้องกัน  มันจะไม่เกิดผลลัพธ์อะไรเลย เช่น

ถ้าเทรนเนอร์การออกกำลังกาย  มีรูปร่างน้ำหนักเกินไปเยอะ  บางคนเรียกว่าอวบระยะสุดท้าย  แล้วใครอยากจะใช้บริการของเขา  ถ้าเรามีเพื่อน เราจะกล้าแนะนำให้เขามาออกกำลังกายกับเทรนเนอร์คนนี้ไหม  คำตอบก็คือไม่กล้าแนะนำ  ดังนั้นเคสนี้ก็ไม่เกิดการแนะนำทางธุรกิจแน่นอน

ถ้าคนขายรถยนต์  ใช้รถเก่า ซ่อมบ่อย เราจะกล้าแนะนำเพื่อนไปซื้อรถจากโชว์รูมเขาหรือไม่  คำตอบก็คือ ไม่กล้าแนะนำ

เราขายอะไร เราก็ควรจะเป็นพรีเซนเตอร์สิ่งนั้นอย่างเต็มภาคภูมิ เป็นตัวอย่าง เป็นผู้ชี้นำที่ดูน่าเชื่อถือในสินค้าเหล่านั้น  ยกตัวอย่าง คนทำออโตเมชั่น ที่บ้านหรือในรถก็ควรมีของแบบนี้ใช้งานเอง  คนขายเครื่องเขียนก็ควรใช้สิ่งที่ตนขาย อย่าเผลอใช้ยี่ห้ออื่นให้เห็น  รายละเอียดเหล่านี้จะทำให้คนฟัง คนที่ร่วมประชุมด้วยเกิดความเชื่อถือ

ความสอดคล้องของสินค้าและบริการ กับ ตัวตนของเจ้าของธุรกิจนั้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการพบปะผู้คน  หากเรายังไม่สามารถทำให้มันสอดคล้องกันได้  ก็ต้องอย่าทำให้มันขัดแย้งกัน เพื่อให้คนที่พบเราเชื่อว่าเราเป็นตัวจริงในธุรกิจนั้นๆ

 

 

คุยกับแท็กซี่

นั่งแท็กซี่ไปทำธุระกลางเมือง  เรียกรถด้วย grab  ผมเดินทางจากฝั่งธนฯ ถนนจอมทอง ไปสามย่าน ไปสัมมนา  ค่ารถในระบบแจ้งไว้ 169 บาท  คนขับเลือกใช้เส้นทาง ถ.จอมทอง เจริญนคร สะพานสาธร สาธรเหนือ สีลม สุรวงศ์ สามย่าน

 

ระหว่างทางเลยถามคนขับว่าขับอยู่แถวไหนประจำ  คนขับบอกว่าขับสีลมประจำ  ก็เลยถามต่อว่า  คอนโดย่านไหนที่เดินทางง่ายที่สุด เข้าออกง่าย ขึ้นทางด่วนง่าย  มีช่องทางหลบหรือทางลัดสะดวก  คนขับเลยแนะนำ ซอยสาทร12  ซอยนี้มีคอนโดประมาณ 3 แท่ง 1ใน3 ชื่อว่า the address ในตรอกนี้ทะลุไปสีลม  เป็นซอยที่มีถนนกว้างที่สุดในถนนสาทร  รถแท็กซี่และคนขับ grab มักจะมาจอดกินข้าวในซอยนี้  หลายคนใช้เป็นที่พักรถระหว่างรอลูกค้าเรียกรถ

 

การเดินทางด้วยแท็กซี่เป็นสิ่งที่ผมทำไม่บ่อย  แต่เมื่อมีโอกาสก็จะคุยหรือถามคนขับเพื่อขอความรู้เขาเป็นบางเรื่อง  อย่างรอบนี้ก็คุยเรื่องคอนโด  ครั้งที่แล้วได้คุยกับคนขับที่มีอาชีพเก่าเป็นคนขับรถส่งของ  ก็ได้ความรู้เรื่องการยักยอกน้ำมันของนายจ้าง   ความรู้แปลกๆจากตัวจริงเสียงจริงมีคุณค่าให้ประดับสมอง

Heritage จัดงาน BOD

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา ทาง Heritage ได้จัด Business Open Day เพื่อหาสมาชิกเข้าสู่ เพาเวอร์ทีม (powerteam)   บรรยากาศการต้อนรับและการประชุมเต็มไปด้วยความคักคัก อบอุ่น  มีการแลกเปลี่ยน connection จำนวนมากซึ่งกันและกัน ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า

เพาเวอร์ทีมคือะไร

เพาเวอร์ทีมคือ บริษัทอื่นๆที่ขายของให้ลูกค้าของเรา แต่ไม่ได้ขายของแบบเดียวกับเรา  นั่นทำให้เราและเพาเวอร์ทีมไม่ได้แย่งกันขาย แต่ต่างคนต่างบริการลูกค้าด้วยกัน  อย่างเช่น บริษัทออแกไนเซอร์ ให้บริการจัดงานอีเว้นให้กับลูกค้า A  และขณะเดียวกันลูกค้า A ก็ยังมีการสั่งผลิตเสื้อยูนิฟอร์มเพื่อใช้ในบริษัท  โรงงานการ์เม้นที่ให้บริการเสื้อยูนิฟอร์มก็จะนับได้ว่าเป็นเพาเวอร์ทีมกับบริษัทออแกไนเซอร์ได้  เพราะต่างมีลูกค้าคนเดียวกัน  และไม่ได้แย่งกันขาย

 

การมีเพาเวอร์ทีมที่ขายของหลากหลาย หรือทำงานบริการหลากหลาย  ทุกคนในเพาเวอร์ทีมจะสามารถส่งต่อลูกค้าคนเดียวกันไปสู่ทุกคนในทีมได้  ทำให้การบอกต่อเกิดขึ้นหลายครั้ง  หากต่างคนต่างพาลูกค้าตัวเองมาส่งต่อในทีมคนละ 2 ราย  ในเพาเวอร์ทีม 5 คน จะมีลูกค้ามาแบ่งกัน 10 ราย  ทุกคนมีโอกาสเพิ่มลูกค้าอีกจาก 2 กลายเป็น 10  นี่คือพลังของเพาเวอร์ทีม

 

การหาเพาเวอร์ทีมที่ใช่คือเป้าหมายของการทำการตลาดแบบบอกต่อ  การบอกต่ออย่างเป็นระบบ การคัดสรรหาเพาเวอร์ทีมอย่างเข้าใจ ทำให้เราไม่เหนื่อยในการหาลูกค้าเอง  แค่นำลูกค้าที่มีอยู่มาแชร์กัน มันง่ายดายกว่ามาก

 

2018-02-27 06.10.52 1

2018-02-27 06.12.02 1

2018-02-27 06.14.14 1

2018-02-27 07.37.13 2

2018-02-27 07.37.14 4

2018-02-27 07.37.16 1

2018-02-27 07.37.16 3

2018-02-27 07.37.16 4

2018-02-27 06.09.07 1

 

imac in my life

benjakittiP1100750

เจ้า imac ตัวเขียว เป็นแม็คความเร็วประมาณ 333 Mhz มันล้าสมัยไปแล้วในช่วงปีคศ 2003-2004  ผมเห็นในร้านมือสอง ก็เลยลองซื้อมาใช้ดู  พบว่า os ของ apple เป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับคนใช้วินโดส์มาตลอด  เครื่องมือหลักของผมในเวลานั้นคือ ibm r40 มีไวเลส  ใช้วินโดส์และ illustrator เป็นหลัก  ได้ mac มาก็งงๆนิดหน่อย

 

my dog and mac - 6apr2007 -IMG_0184

imac สีส้ม ไปซื้อมาเพิ่มอีก ลืมไปแล้วว่าจากร้านไหน  ตัวนี้ซื้อด้วยอารมณ์ล้วนๆ  อยากได้สีสวยๆเก็บไว้ในบ้าน  มันเปิดไม่ติดแล้ว  แต่ก็อยากได้  เอามาวางสวยๆ  แต่สุดท้ายมีคนขอซื้อก็เลยขายออกไป  เพราะในบางเวลาผมก็ไม่อยากเก็บของที่ใช้ไม่ได้  อีกอย่าง  ไม่ได้รวยมาก ไม่ได้มีที่มาก จะเก็บแต่ละอย่างก็เปลืองที่ แล้วก็เริ่มมีหลายเครื่อง เลยปล่อยตัวที่เปิดไม่ติดออกไป

 

IMG_3127

imac dv สี แกรไฟต์  เป็น imac ที่เกือบจะเป็นรุ่นสุดท้ายในอนุกรมจอตู้ หลังจากรุ่นนี้ imac เปลี่ยนหน้าตาเป็นจอแบน มีฐานกลมๆ มีนิกเนมในไทยว่าซาลาเปา  ส่วน imac จอตู้รุ่นนี้ มีจุดเด่นคือ ใช้ซีดีเป็นแบบ slot load เป็น cd-rw ใช้เบิร์นแผ่นได้  ผมซื้อเอาไว้ใช้ทำงานและฟังเพลง  มันเปิดติด จอสวย  แต่นานๆไปก็เริ่มเปิดไม่ติด ตอนนี้นอนนิ่งฝุ่นจับอยู่

 

IMG_1306-pic18aug2011r.JPG

imac drumatian เป็น imac ที่มีสีสวยที่สุดในอนุกรมจอตู้  ชุดนี้จะมีอีกสีนึงคือ flower ซึ่งผมไม่เคยเห็นตัวจริงเลย  มันสวยไม่แพ้กัน นักสะสมจะสะสมทุกลาย  ผมได้ตัวนี้มาจากประกาศขายมือสองแล้วต้องขับรถร้อยกิโลไปรับถึงที่  ผมตัดสินใจเร็วมาก เพราะรู้ว่ามันขายเร็ว  ผมไปถึงตามนัด  มีอีกคนมาช้ากว่าผม 15 นาที  เขาบอก มารับเผื่อผมเปลี่ยนใจไม่เอา  ผมก็ขนกลับ  มันเปิดติด มันใช้งานได้  แต่ก็สภาพไม่ดีมาก  มันอยู่กับผม หลายปี  และเมื่ออาการเริ่มเปิดยากขึ้นเรื่อยๆ  ผมก็ตัดสินใจขายออกไป  เพราะไม่อยากซ่อม

 

P_20150731_094241

imac dv สีแดง ตัวนี้อยู่กับผมนานที่สุด  เป็นตัวแรกๆที่ได้มา มีความสามารถค่อนข้างสูง แม้จะมีความเร็วแค่ 450Mhz ซึ่งเร็วน้อยกว่าดรัมเมเชี่ยนและแกรไฟต์  แต่ตัวนี้ค่อนข้างสมบูรณ์ โปรแกรมในเครื่องพร้อมทำงาน ผมเปลี่ยนฮาร์ดดิส์ให้มันด้วย  เพิ่มแรมให้มันด้วย  ตอนที่ได้มาวันแรก ผมใช้มันทำงาน แล้วจบงาน ได้เงินเกินค่าตัวตั้งแต่งานแรก  เป็นการเริ่มต้นซึ่งกันและกันที่สวยงาม  ความสามารถตัวนี้คือเป็ฯไดร์ฟ dvd แบบ slot load ผมใช้มันดูหนังแผ่น dvd หลายเรื่อง  ใช้มันทำงาน ใช้มันรับแฟกซ์  แม้ว่าจะกินไฟโหดร้ายระดับ หลายร้อยวัตต์  แต่มันก็ทำงานได้ราบรื่นดี  ในภาพจะเห็นว่าผมเปิดเฟสบุ๊คจากมันด้วย  อายุแม้จะเยอะ เปิดโปรแกรมช้า  จนในช่วงท้ายๆประมาณช่วงปี 2012 มันก็เปิด youtube ไม่ได้แล้ว  เปิดเว็บทั้วๆไปก็รอนานเหลือเกิน  สุดท้ายผมใช้มันฟังเพลง  แต่ก็รู้สึกว่าทรมานและเปลืองไฟ  ล่าสุดเริ่มเปิดไม่ติดแล้ว  แต่ก็ตัดสินใจเก็บตัวนี้ไว้ให้นานที่สุด  เพราะสีแดงมันดูสวยสะดุดตา

2018-03-02 08.26.12 2

อาชีพที่อาจไม่โดนอินเทอเน็ตทำลาย

การมีอินเทอเน็ตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโลกเราอย่างมหาศาล  ทุกมุมโลก ทุกซอกหลืบแทบจะเข้าถึง เชื่อมโยงและค้าขายกันได้โดยไม่มีความเหลื่อมล้ำ  ทำให้ธุรกิจหลายชนิดเกิดการเปลี่ยนแปลงเฉียบพลัน  อย่างธุรกิจโทรทัศน์ที่เมื่อก่อนประมูลราคากันบ้าเลือด ลงเงินกันเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท ก็โดนการสตรีมสัญญาณภาพและเสียงจากอินเทอเน็ตเบียดซะจนแทบไม่มีคนดูในระบบเก่า  แม้แต่ธุรกิจโรงแรม ก็โดนระบบของ airbnb แย่งลูกค้าห้องพักไป  ธุรกิจแท็กซี่ก็โดน uber และ grab แย่งลูกค้าไป  สิ่งเหล่านี้วงการนักวิเคราะห์และนักการตลาดเรียกว่า digital disruption หรือการสูญหายหรือเสื่อมสลายอย่างฉับพลันจากเทคโนโลยี โดยเฉพาะสิ่งที่มาทางอินเทอเน็ต  ผู้ประกอบการดั้งเดิมไม่สามารถรับมือกับผู้ประกอบหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สูงกว่า สะดวกกว่า และรองรับความต้องการของมวลชนได้ดีกว่า

ร้านอาหารก็จะมีระบบการสั่งสินค้าที่สะดวก รวดเร็ว มีภาพประกอบสวยงาม  มีการจัดส่งสินค้าที่เข้าถึงหน้าบ้านมาแย่งลูกค้าไป  ห้างสรรพสินค้าก็โดนแม่ค้าออนไลน์แย่งยอดขายไปทั้งๆที่คนทำร้านในห้างต้องจ่ายค่าเช่า ต้องสต๊อคสินค้า แต่แม่ค้าออนไลน์ให้ดูสินค้าในห้างแล้วสั่งซื้อกับแม่ค้าโดยตรง  แม้แต่วงการหนังสือพิมพ์ก็ปรับตัวไม่ทัน หนังสือพิมพ์ไม่มียอดโฆษณาจนต้องปิดตัวลง  เพราะผู้คนไปใช้บริการการอ่านข่าวทางโซเชียลเน็ตเวิร์คสารพัดแพลตฟอร์ม  เรียกได้ว่า ผู้คนเข้าไปเสพสื่อและซื้อสินค้าในอินเทอเน็ตกันแทบทุกคน

ผมเองก็ได้รับผลกระทบจากการทำธุรกิจสิ่งพิมพ์  งานใบปลิวน้อยลง  ซึ่งก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะผู้ประกอบธุรกิจหันไปโฆษณาทางเฟสบุ๊คและกูเกิ้ลกันเป็นหลัก  เมื่อก่อนเวลาจะโฆษณา เราก็จะมีวิธีคิดว่า จะใช้เงินทำใบปลิวเท่าไหร่ดี  จะใช้เงินโฆษณาในวิทยุเท่าไหร่  ออกทีวีใช้เงินเท่าไหร่  เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า จะทำยังไงให้ใช้เงินน้อยลง  และจะใช้เงินในช่องทางไหนดีระหว่างเฟสบุ๊ค ไอจี หรือ กูเกิ้ล หรือทั้งสามตัวเลย  นี่คือความคิดตั้งต้นของคนทำการค้ายุคใหม่  ไม่มีใครถามถึงวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ อีกเลย

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสไปใช้บริการตัวหนึ่งโดยบังเอิญ และมาลองพิจารณาดูแล้วก็พบว่า มันยังเป็นวิถีทางเดิมๆ  ยังไม่คู่แข่งจากอินเทอเน็ตมาแย่งลูกค้า  ไม่มีการตัดราคาจากคู่แข่งที่ห่างไกล  นั่นก็คือร้านตัดผม  พอได้นั่งดู นั่งในร้านนานๆ ตั้งแต่ตอนที่เข้าไป จนถึงคิวที่ได้ตัดเอง และตอนตัดเสร็จได้เห็นว่ามีคนอื่นรอคิวอยู่  ก็แอบคิดวิเคราะห์ไปว่า  คนผมยาวทุกวัน ยังไงก็ต้องแวะร้านตัดผม  คนเราเลิกซื้อหนังสือพิมพ์ได้ แต่ทนผมยาวไม่ได้  คนเราเลิกใช้ใบปลิวไปสู่การโฆษณาในเฟสและกูเกิ้ลได้ แต่ก็ปล่อยให้ผมเผ้ารุงรังไม่ได้   สมัยเด็กๆโรงเรียนยังคงตรวจผมสั้นทุกสองเดือน  ใครผมยาวจะโดนสั่งตัด  ดีมานเหล่านี้ยังคงอยู่  และไม่เคยลดลง

ในขณะที่จำนวนประชากรเยอะมากขึ้น  ปริมาณคนต้องการตัดผมก็เยอะขึ้น ร้านตัดผมก็ควรเจริญรุ่งเรือง  หรือ มีสาขามากขึ้นให้ทันจำนวนประชากร  ซึ่งภาพที่ผ่านตาผมในช่วงยี่สิบปีนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ  มีร้านตัดผมเกิดใหม่มากขึ้น  มีการแข่งขันกันในถนนเส้นเดียวกันมากขึ้น  แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่มีร้านจากที่ห่างไกลมาแย่งลูกค้าหน้าบ้านเรา  นี่เป็นข้อดีที่ค้นพบ ว่า digital disruption ยังไม่ทำลายร้านตัดผม

แม้เราจะเห็นร้านตัดผมราคาแพงในห้าง  ร้านตัดผมที่รับจองทางออนไลน์ถ้าอยากตัดกับช่างในร้าน  แต่ร้านพวกนี้ก็ราคาแพงจนไม่ใช่คู่แข่งของร้านตัดผมชุมชน  ผมก็เคยตัดผมในห้าง  แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากเดินไปตัดที่ร้านแถวบ้าน จ่ายเงินเพียง 60 บาท สำหรับร้านหน้าตาโบราณ หรือ 120 บาทกับร้านติดแอร์อุปกรณ์ดูทันสมัย  หรือบางร้านอย่างมากก็ 150 บาท   แต่ในห้าง ผมเคยโดนไปถึง 600 บาท  ซึ่งเป็นราคาที่ไม่คิดจะไปรอบสองแน่นอน

 

 

2017-09-29 06.12.16 1

 

ร้านตัดผมร้านนี้อยู่ย่านบางขุนนนท์  ผมพาลูกชายมาใช้บริการ  ตอนเดินเข้าไปในร้านก็ดูคนน้อยๆ  คล้ายๆกับภาพที่ผมจินตนาการไว้ว่าธุรกิจโบราณก็ดูซบเซาหน่อย  แต่พอตัดเสร็จและเวลาเย็นสักหน่อย  ก็มีคนเข้าร้านมากขึ้น จนกระทั้งทุกที่นั่งในร้านเต็ม  คนที่มาตัดผมต้องรอคิว  และช่างตัดผมจำนวน 3 คนในร้านก็ทำงานตลอดเวลา

นี่อาจเป็นธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอินเทอเน็ต  เพราะคนในพื้นที่ก็ต้องเดินมาตัดผมที่ร้านอยู่ดี  คงหายากมากๆที่จะมีคนสั่งช่างตัดผมให้เดินทาง delivery ไปตัดถึงบ้าน  แม้จะมีบางคนที่ทำอย่างนั้น แต่ผมก็เชื่อว่ามีน้อยจนตัดทิ้งได้  ผู้คนส่วนมากยังคงต้องตัดผมจากร้านค้าใกล้บ้าน  และเชื่อว่าไม่มีร้านตัดผมคู่แข่งจากฝั่งธนไปแย่งลูกค้าที่รังสิต

 

เครื่องเสียงยุคดิจิทัลพอเพียง เหลือแค่นี้

หูฟัง harman/kardon ใครใส่ก็หล่อ ยิ่งถูกพบในร้านกาแฟแพง ความหล่อจะคูณสิบ หน้าตาหลายหมื่น แต่ราคาหลักพัน

Ipod nano gen6 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่ดีที่สุดของ apple ในวันที่มันเปิดตัว และทุกวันนี้ apple ยังไม่มีเครื่องที่น่าใช้กว่านี้ เพราะนอกจากจะเล่นเพลงแล้ว ยังติดสายเพื่อใช้เป็นนาฬิกา  ใช้นับก้าวบอกแคลอรี่ได้  ฟังวิทยุได้  บันทึกเสียงได้  โชว์รูปที่อยากดูได้

IMG_20180127_091842
IMG_20170508_154805
IMG_20170508_154642

กล้องติดรถยนต์

กล้องติดรถยนต์เป็นของจำเป็นในยุคอินเทอเน็ต  รถส่งของที่โรงงานก็ตัดสินใจติดเพื่อให้มีพยานหลักฐานตอนที่เกิดอุบัติเหตุ และป้องกันการถูกคุกคามจากคนพาลที่อาจจะหาเรื่องเราได้ตลอดเวลาบนท้องถนน  กล้องที่ผมใช้ก็เลือกจากคนขายที่เขาดูน่าเชื่อถือโดยเลือกซื้อจากโชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ สาขาถนนจอมทอง ซึ่งอยู่แถวบ้าน  เขารับบริการติดรถซูซูกิและรถยี่ห้ออื่นๆด้วย  ราคา 2990 บาท

IMG_20170529_102359

IMG_20170526_140134

 

ตัวอุปกรณ์จะเป็นแผ่นกระจกมองหลังที่มีจออยู่ภายใน กล้องถ่ายหน้ารถจะอยู่หลังกระจก นำทั้งชิ้นไปติดทับกระจกมองหลังของรถยนต์ได้เลย  ส่วนกล้องหลังจะเป็นโมดุลให้นำไปติดที่ด้านหลัง บริเวณใกล้ๆป้ายทะเบียน แล้วเดินสายเข้ามายังจอภายในรถ  การติดตั้งทั้งหมดทำที่โชว์รูมเลย  คุณภาพงานติดตั้งก็เรียบร้อยดี เก็บสายภายในได้เรียบร้อยแทบไม่เห็นเลย นอกจากไฟเลี้ยงของกล้องที่ใช้ต่อกับที่จุดบุหรี่ภายในรถยนต์เท่านั้น

IMG_20170529_112036

 

 

คุณภาพของภาพที่บันทึกก็ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มองรู้เรื่อง  กล้องหน้าบันทึกภาพ Fullhd กล้องหลังบันทึกระดับ Dvd   การบันทึกจะเก็บภาพวิดีโอลงบนแผ่น  Micro-sd ขนาดที่แถมมากับกล่องก็คือ 16gb ไฟล์ภาพจะได้สองไฟล์พร้อมกัน คือ ไฟล์ของกล้องหน้า กับไฟล์ของกล้องหลัง เลขไฟล์เดียวกันแต่กล้องหน้าจะมีคำว่า A  กล้องหลังจะมีคำว่า B อยู่ในชื่อ  นอกจากจะได้บันทึกเพื่อป้องกันภัยแล้ว ยังได้ใช้งานเป็นกล้องถอยหลัง เวลาถอยจะได้มองเห็นว่าอะไรอยู่ท้ายรถบ้าง การถอยจอดแบบมีกล้องจะช่วยลดอุบัติเหตุการเฉี่ยวชนลงได้  เป็นความสะดวกของคนขับรถทุกคน  นอกจากรถส่งของแล้ว ก็ยังติดรถส่วนตัวคันอื่นได้ด้วย ในบ้านผมติดไปสามคันแล้ว

 

ภาพจากกล้องหน้า

ภาพจากกล้องหลัง

 

พัฒนาเน็ทเวิร์คของเราให้แข็งแรง

2016-01-23 แดงชาด เพลินพัฒนา -IMG_0261

มีผู้คนมากมายที่มีความต้องการขยายธุรกิจของตนเอง แต่เมื่อถามว่าจะขยายอย่างไรเ และ ขยายมากแค่ไหนเขากลับตอบไม่ได้ เชื่อว่าหลายคนก็คงเป็นรูปแบบคล้ายๆกัน

การขยายหรือการเติบโตทางธุรกิจจะไม่มีวันเกิดขึ้นหากเราไม่ได้ลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง เราลองดูงานอดิเรกของเราเป็นตัวอย่างก็ได้ ยกตัวอย่าง การถ่ายภาพ หากเราอยากถ่ายภาพให้สวย เราต้องทำอะไรบ้าง เราต้องซื้อกล้อง เราต้องศึกษาเรื่องการวัดแสง เราต้องศึกษาเรื่ององค์ประกอบศิลป์ เราต้องออกไปถ่ายภาพ วางแผนท่องเที่ยว เราต้องหาข้อมูลเทศกาล ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะ น้ำตกจะเยอะจะน้อยเดือนไหน เราตอบได้ เมื่อเราอยากทำงานอดิเรกให้ดี

กลับมาที่ธุรกิจ เราได้ทำอะไรบ้าง เพื่อที่จะเติบโต เราได้ทำอะไรบ้างกับการตลาดแบบบอกต่อ หัวใจของการตลาดแบบบอกต่อก็คือ พัฒนาเน็ทเวิร์คของเราให้แข็งแรงได้อย่างไร จะพัฒนาความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อน powerteam ให้สนิทกันได้อย่างไร จะสร้าง referral partner อย่างไร

ลองดูสิ่งต่อไปนี้
ส่ง thankyou card หรือ ขอบคุณให้เป็นนิสัย จะดีมากถ้าเขียนด้วยลายมือ
โทรหากันบ่อย
นัด 1-2-1
ให้ referral โดยไม่ต้องรอให้ขอ
หาโอกาสใส่ข้อมูลธุรกิจของเพื่อนๆในสื่อที่เรามีหรือทำงานด้วย
ส่งบทความที่มีประโยชน์ให้เพื่อนอ่าน
ชวนเพื่อนสักคนไปเข้ากลุ่ม หรือ ร่วมประชุมกับเราในงาน meeting กลุ่มผู้ประกอบการ
ติดโบรชัวร์ของเพื่อนหรือ powerteam ไว้กับตัวหรือวางไว้ในบริษัทของเราเอง
สิ่งเหล่านี้ขอให้เราเลือกนำมาใช้สัก 2 ข้อ ทำทุกสัปดาห์ ก็พอจะทำให้เกิดผลได้แล้ว

กล้องในมือถือ เชื่อถือไม่ได้

ในงานพิมพ์ตัวหนึ่งที่ลูกค้าได้พูดคุยกับดีไซร์เนอร์  และดีไซร์เนอร์ก็ได้ถ่ายภาพสมุดสีแพนโทนให้ลูกค้าดูสี แล้วทำการเลือกค่าสีที่ถูกใจ  เมื่อเลือกได้แล้ว ดีไซร์เนอร์ก็ส่งภาพถ่ายมาให้โรงพิมพ์  พร้อมทั้งแจ้งว่าลูกค้าเลือกสีเบอร์ใด  ซึ่งสรุปกันว่าเลือกสี 435U ด้วยเหตุผลว่าเป็นค่าสีเทาที่ไม่ค่อยอมเหลืองมากนัก

2016-01-01_12-23-55

ดูจากภาพที่ดีไซร์เนอร์ส่งมา  โรงพิมพ์ก็จัดการเตรียมพิมพ์งาน  แล้วในขั้นตอนการเลือกค่าสีไปบอกช่างให้ผสมสีตามตัวอย่าง ก็เห็นว่า สีที่ลูกค้าเลือกยังคงอมเหลืองอยู่  เพราะโรงพิมพ์ตรวจค่าสีจากสมุดแพนโทน  ซึ่งลูกค้าปลายทางไม่ได้เห็นสมุดสีตัวจริง  แต่เห็นจากภาพถ่ายที่ดีไซร์เนอร์ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือให้  ก็เลยเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแน่นอน

 

หลังจากโทรคุยกับดีไซร์เนอร์เรียบร้อยแล้วว่าสีที่ลูกค้าเลือกนั้นยังคงเป็นสีที่ผิด เพราะมันอมสีเหลืองชัดเจนมาก  ทางดีไซร์เนอร์ก็ยืนยันว่าเลือกมาอย่างดีแล้ว  ทำให้ฉุกคิดไปว่า มือถือถ่ายภาพแล้วให้สีเทาไม่ตรงกับความเป็นจริง  ก็เลยสั่งหยุดทุกอย่างเสียก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแล้วเริ่มหาเหตุผลที่สีไม่ตรงกับที่ต้องการ

 

สิ่งน่าสงสัยก็คือ โทรศัพท์ถ่ายภาพแล้วสีเพี้ยน ทำให้ทุกอย่างผิดพลาด  ลูกค้าเห็นสีที่เพี้ยน แล้วเข้าใจว่าสีถูกต้อง  แบบนี้ทำให้งานไม่จบแน่นอน  เพราะงานพิมพ์จริงจะสีไม่เหมือนหน้าจอแน่นอน  เลยตัดสินใจถ่ายภาพสมุดสีให้ดีไซร์เนอร์ดูอีกครั้ง  พอลองถ่ายเองด้วยแท็ปเบล็ตก็ปรากฏว่า สีของตัวอย่างออกมาเหมือนของดีไซร์เนอร์เลย  เลยทำให้เข้าใจได้ว่า มือถือและแท็ปเบล็ตต่างก็ถ่ายแล้วสีเพี้ยนทั้งคู๋  เลยเปลี่ยนไปใช้กล้องตัวใหญ่ cano eos m พร้อมเลนส์ 22f2 ที่เป็นกล้องคุณภาพระดับ DSLR ซึ่งน่าจะเก็บรายละเอียดสีต่างๆได้ดีโดยความเพี้ยนต่ำกว่ามือถือ

IMG_9935.JPG

และมันก็เป็นจริง  ภาพจากกล้อง eos m สามารถถ่ายทอดความแตกต่างของสีได้ ระหว่างสีที่ผิดกับสีที่ควรจะเป็นถูกถ่ายออกมาแล้วได้คนละสี สามารถแยกแยะได้เป็นอย่างดี ค่าสีที่เลือกครั้งแรกกลายเป็นสีอมม่วง อมเหลืองมากกว่าปกติ แต่สีที่ลูกค้าอยากได้คือสีเทา งานนี้ทำให้เราค้นพบว่า กล้องมือถือเชื่อไม่ได้ ส่งภาพที่สีต่างกันให้ดีไซร์เนอร์ดู สักพักดีไซร์เนอร์ก็คอนเฟิร์มตามสีที่โรงพิมพ์เลือกให้