NEC pocket05

การทักทายในโหมดนักธุรกิจ
IMG_8375

สวัสดีครับ คนไม่รักสันโดษ

เวลาเราไปเจอใครก็ตามที่ถามทุกข์สุขกัน คำถามที่มักจะเจอก็คือ  เป็นไงบ้าง  งานเยอะไหม  มีอะไรน่าสนใจรึเปล่าและเราก็มักจะตอบกันแบบเคยชิน  ก็ดี  เรื่อยๆ  ยุ่งมาก  คำตอบแนวนี้จะทำให้คนตอบไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ คนฟังก็เหมือนกัน คือฟังแล้วไม่อยากทำงานต่อ  ฟังแล้วเนือยๆ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า  แทนที่คนถามจะส่งต่อลูกค้าให้เรา  พอเจอเราตอบว่า ยุ่งมาก  เขาก็ไม่กล้าส่งลูกค้าให้ซะแล้ว

สิ่งที่เราควรทำก็คือ ตอบคำถามให้สร้างสรร  ตอบคำถามให้นำไปสู่งานใหม่  คำตอบควรจะพาธุรกิจเข้ามา ไม่ใช่ปฏิเสธธุรกิจ

เรามีคำตอบดีๆให้ลองเอาไปปรับเล็กน้อยเพื่อใช้กับธุรกิจของทุกท่านครับ

ช่วงนี้เป็นไง

แทนที่จะตอบว่า ก็ดี  ยุ่งมาก  ลองเปลี่ยนเป็น

A1  ชีวิตตอนนี้เยี่ยม  ผมกำลังจะจบงานลูกค้ารายใหญ่

A2  ผมกำลังสนุกมาก  เพราะผมกำลังขยายแฟรนไชน์

มันอธิบายว่าคุณงานเยอะ  แต่คุณยังมองหาความก้าวหน้าและงานที่มากขึ้น

 

 

งานเยอะไหม

แทนที่จะตอบว่า เรื่อยๆ  งานเยอะทำไม่ทันเลย

A1 ปีนี้ผมมีลูกค้าใหม่ 8 รายแล้ว แต่ผมตั้งเป้าไว้ที่ 20

A2 ยอดขายเพิ่มขึ้น 50% และผมวางแผนจะเพิ่มคนงาน

A3 ช่วงที่ผ่านมายอดขายเป็นไปตามเป้า  เรากำลังวางแผนเพิ่มเป้า และเพิ่มลูกค้า

 

 

มีอะไรใหม่ มีอะไรน่าสนใจไหม

แทนที่จะตอบว่าตอนนี้ว่างๆ  ไม่มีอะไรใหม่

A1 ผมกำลังเทรนพนักงานขายคนใหม่ คนนี้ท่าทางขายเก่ง

A2 ผมให้สัมภาษณ์หนังสือไปเล่มหนึ่ง  คาดว่าจะได้วางแผงเร็วๆนี้

A3 ตอนนี้ผมกำลังลงเรียนคอร์สการลดขั้นตอนการบริหารงานขาย

 

นี่เป็นตัวอย่างการตอบคำถามที่เรามักจะต้องตอบในชีวิตประจำวัน  เราควรจะเตรียมคำตอบเหล่านี้เอาไว้ในใจตอบให้ขึ้นใจ  เพื่อจะให้มันดีกว่าการตอบว่า เรื่อยๆ  หรือ ยุ่งมาก เพราะถ้าคุณตอบว่ายุ่งมาก  เพื่อนคุณที่กำลังจะส่งลูกค้ามาให้อาจจะเปลี่ยนใจไม่กล้าส่ง

อย่าลืมว่า เราพบกันใน bni เพราะเราอยากได้ธุรกิจใหม่  อยากได้ลูกค้าใหม่

NEC pocket04

วันนี้เราจะมายกตัวอย่างการส่ง ref ที่เป็นธุรกิจต่อเนื่องให้สมาชิกในทีมนะครับ

IMG_0205

เริ่มต้นจาก  มีนักอสังหาฯ ไปรับงานขายบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง  ลูกค้าของเขาเป็นเศรษฐี  แต่ไม่มีเวลาประกาศขายเองจึงเลือกใช้บริการนักอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนขายบ้าน  นักอสังหาฯ เริ่มงานบริการของเขากับลูกค้า  สิ่งที่ตามมาก็คือ  นักอสังหาฯ มีประสบการณ์สูง  รู้ว่าบ้านสะอาดมีโอกาสขายได้สูงกว่าบ้านสกปรก  ก็เสนอบริการทำความสะอาดเพิ่มเข้าไป   นักอสังหาฯ รู้ว่า ภาพถ่ายบ้านสวยๆ จะทำให้ลูกค้าสนใจมากกว่าภาพถ่ายคุณภาพต่ำ  ก็เสนอบริการถ่ายภาพเพิ่มให้  ขั้นตอนการขายยังดำเนินไปถึงการสั่งพิมพ์ป้ายแบนเนอร์อีกด้วย จะเห็นได้ว่า  การติดต่อลูกค้าหนึ่งครั้งจะไม่จบแค่เพียงหนึ่งบริการ แต่เอเจ้นสามารถยิงคำถามไปยังลูกค้าเพื่อถามหาบริการอื่นๆที่เขามองหา  ทั้งบริการที่ลูกค้าอยากได้โดยตรง  และบริการต่อเนื่องที่เราสามารถคอนซัลให้กับลูกค้าได้ เพื่อนำธุรกิจส่งต่อให้กับทีม

การถามเพื่อชี้นำลูกค้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถส่งลูกค้าเข้าสู่สมาชิกท่านอื่นๆได้  หลังจากวันนี้  ให้ท่านลองดูนะครับ  เมื่อท่านบริการลูกค้าของท่านเสร็จแล้ว  ให้ลองถามถึงสิ่งที่เขาต้องการเพิ่มเติม  หรือ ให้ท่านลองวิเคราะห์ลูกค้าของท่าน แล้วเสนอสิ่งที่ลูกค้าควรจะใช้หรือสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของท่านเพื่อนำพาลูกค้ามาใช้บริการอื่นๆในทีมของท่าน  ถ้าคุณเป็นมืออาชีพเพียงพอ  ถ้าลูกค้าไว้ใจคุณอยู่แล้ว  การแนะนำ การคอนซัลใดๆของคุณ  หรือการนำเสนอเซอร์วิสอื่นๆของทีม  คุณจะทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ  และลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด  ตราบใดที่คุณหาของดี หรือ บริการดีๆให้ลูกค้า

เพลินพัฒนา โรงเรียนทางเลือก ตอนที่ 1

IMG_1245.JPG

เพลินพัฒนา เป็นโรงเรียนแนวทางเลือกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในระดับหัวแถว ทั้งเรื่องแนวทางการสอน หลักสูตร และ ค่าเทอม ลูกผมเกิดเดือนกรกฎาคม 2555 ไปสมัครเรียนโรงเรียนนี้ตั้งแต่กลางปีพศ 2557 คือสองขวบนิดๆก็ไปสมัครแล้ว แล้วก็ได้โอกาสเรียนชั้น pre-nurse ซึ่งเป็นชั้นเรียนที่มีนักเรียนไม่มาก

ตอนไปสมัครก็เตรียมความพร้อมไปพอสมควร แม่ของขอบฟ้าหัดให้ขอบฟ้าหยิบของ หัดบอกสี หัดกระโดดมาแล้วหลายเดือน จริงๆก็ไม่ได้พยายามสอนเพื่อให้เข้าโรงเรียนแต่อย่างใด แต่เป็นการสอนไปตามพัฒนาการเด็กซึ่งมีตำราแนะนำไว้  ตำราจะบอกแต่ละช่วงวัยเด็กควรทำอะไรได้บ้าง และโรงเรียนเพลินพัฒนาก็ใช้วิธีวัดผลจากพัฒนาการของเด็ก  เด็กคนไหนผ่านเกณฑ์ถึงจะได้เข้าเรียน เรียกได้ว่า อ่านตำราเล่มเดียวกันนั่นเอง

ขอบฟ้าสอบผ่านการทดสอบในระดับสองขวบ มีพัฒนาการเลยวัยเดียวกันไปเกือบปี เป็นความภูมิใจของพ่อและแม่ที่เห่อลูก เอากลับมาโม้กันที่บ้าน โม้ให้ญาตฟัง จนแม่ขอบฟ้าต้องเตือนผมว่า “เด็กคนไหนก็พัฒนาการระดับนี้แหละ ต่างกันไม่มาก” ทำเอาผมเงิบไปเล็กน้อย พอได้สติก็เห่อต่อ

ตอนที่จะสมัครเรียน ทางโรงเรียนเพลินพัฒนามีการเปิดโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนมาพูดบรรยายด้วยตัวเอง สิ่งที่ผมจับประเด็นสำคัญได้สองอย่างสำหรับผมคือ

ประเด็นที่ 1 โรงเรียนมีหลักสูตรพิสดารที่ผมไม่เคยรู้ว่ามี และคิดว่าโรงเรียนอื่นอาจไม่มี หรือถ้ามีก็คงเป็นโรงเรียนแนวประหลาดแบบเดียวกับเพลินพัฒนา แต่ที่แน่ๆ สมัยเด็กๆของชีวิตผมไม่เคยเจอหลักสูตรเหล่านี้ ซึ่งมันประกอบไปด้วย หลักสูตรว่ายน้ำนาน survival swimming เจตนาเขาตั้งใจให้ว่ายน้ำลอยตัวในน้ำได้นานๆ เพราะโรงเรียนมีสมมุติฐานว่า เด็กว่ายน้ำ 25 เมตร หรือ 50 เมตร ยังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เด็กรอดชีวิตถ้าหากเกิดเรือล่มจริงๆ แต่คนที่ลอยตัวได้นานต่างหากที่จะรอดชีวิต เหตุผลแบบนี้ผมฟังแล้วก็ไม่เถียงอะไร เห็นด้วยทุกอย่าง แต่สงสัยว่าจะสอนให้ว่ายนานแค่ไหน นานระดับหลายๆชั่วโมง หรือทั้งวันเลยหรือเปล่า รอดูกัน

หลักสูตรพิสดารอื่นๆก็มีอีกเช่น วิชาแล่นเรือข้ามเกาะ โรงเรียนให้เหตุผลว่าการแล่นเรือข้ามเกาะจะเป็นเครื่องมือทดสอบที่ดี เด็กได้รู้สึกกลัวจริงเมื่ออยู่กลางทะเล ขับเรือคนเดียว ลากเรือลงทะเลคนเดียว ผมว่ามันก็เท่ห์ดี แต่ในหัวก็จินตนาการถึง เรือที่เราต้องซื้อ รถที่ต้องลากเรือไปทะเล ผมต้องใช้ชีวิตเป็นคนรวยลากเรือไปทะเลในวันหยุดเหรอเนี่ย จะเอารถและเรือจากไหนกัน รอเวลานั้นมาถึงก่อนค่อยมาเล่าต่อเรื่องนี้

หลักสูตรพิสดารอีกอันก็คือ วิชาการเงิน ผู้อำนวยการบอกว่าจะมีวิชาที่ให้เด็กได้เล่นกับเงิน จะให้เด็กมีเงินตั้งต้นจำนวนหนึ่ง แล้วให้เด็กได้ขายของ ให้เด็กได้ซื้อของ ให้เด็กได้มีความอยากได้ อยากซื้อ แล้วก็บริหารเงินกัน ผมฟังแล้วก็อยากให้ลูกได้ประสบการณ์เรื่องการเงินอยู่เหมือนกัน เพราะชีวิตผมไม่ค่อยมีวินัยทางการเงินเท่าไหร่ ความเชื่อส่วนตัวของผมมีแค่ กิเลสดับได้ด้วยการซื้อ ก็เลยอยากให้ลูกได้ประสบการณ์และบทสรุปเกี่ยวกับการเงินที่ดีตั้งแต่เด็กๆ

ประเด็นที่ 2 ที่ผมจับใจความได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายโรงเรียนแพงมาก ขอให้ผู้ปกครองวางแผนทางการเงินให้ดี ใครไม่ไหวให้ถอนตัวตั้งแต่วันนี้ อย่าแย่งที่ครอบครัวคนอื่นที่มีความพร้อม เตือนกันแบบนี้เลยนะเนี่ย และที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายจะขึ้นทุกปี ปีละ 5 เปอร์เซ็น โรงเรียนชี้แจงว่าที่มาของการขึ้นราคาก็เพราะ เราต้องอยู่กับเงินเฟ้อ เงินเดือนครูต้องขึ้น ค่าใช้จ่ายต้องขึ้น โอเคเลย จำแม่นละ ผมคิดเร็วๆในใจ สูตรดอกเบี้ยทบต้น 5 %สมัยเรียนมหาลัยมันกดเครื่องคิดเลขยังไง กลับบ้านรีบกด เงินตั้งต้นแสนสอง อยู่สิบสองปี ต้องจ่ายปีสุดท้ายเท่าไหร่ พอเห็นตัวเลขแล้ว ปิดคอมฯ ออกไปหาลูกค้า ออกไปหางานเพิ่มเลย  เพราะแค่หยอดกระปุกไปจ่ายไม่ทันแน่นอน

การ์ดแต่งงานระบบ letterpress เทคโนโลยีศตวรรษที่แล้ว

IMG_0120

IMG_0093

IMG_0094

การ์ดแต่งงานที่พิมพ์ด้วยระบบ letterpress กลายเป็นของหรูและหาที่พิมพ์ยากไปเสียแล้ว ด้วยเหตุผลคือ เครื่องพิมพ์ที่จะพิมพ์กระดาษหนาได้นั้นไม่มีผลิตขายออกมาอีกแล้วในปัจจุบัน ต้องอาศัยเครื่องรุ่นเก่าอายุหลายสิบปี ต้องอาศัยช่างพิมพ์ที่เคยหัดและทำงานกับเครื่องพิมพ์โบราณ เทคนิคการพิมพ์ของศตวรรษที่แล้วกำลังจะมีที่ยืนที่ใหม่ในตลาดยุคดิจิทัล เพราะเครื่องพิมพ์ดิจิทัลไม่มีเสน่ห์แบบนี้ ดิจิทัลมีความเร็ว ความแม่นยำ แต่ไม่มีความปราณีตใส่ใจ อารมณ์ของระบบการพิมพ์แต่ละอย่างมีไม่เหมือนกัน

20150509

กระดาษชานอ้อยหนาพิเศษ 1.6 มิลลิเมตร กับบล๊อกเหล็ก พิมพ์สีด้วยเครื่องพิมพ์ตีธง งานลักษณะโบราณแบบนี้อาศัยช่างพิมพ์ที่หายากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเทคนิคการผสมสีเลียนแบบค่าสี pantone ซึ่งต้องใช้ช่างพิมพ์อ๊อพเซ็ทอีกคนหนึ่งที่มีประสบการณ์สูงมาช่วยผสมสี  เพราะช่างพิมพ์เครื่อง letterpress จะผสมสีไม่เก่ง  เนื่องจากเครื่องพิมพ์ letterpress ในอดีตมักจะถูกนำมาใช้พิมพ์งานแบบฟอร์ม ใบเสร็จรับเงิน ซึ่งมักจะเป็นสีดำ หรือ น้ำเงินมาตรฐาน มีสีสำเร็จรูปให้ใช้  แต่กับสีที่เหมือน pantone ต้องผสมเอง  กว่าจะออกมาเป็นใบสำเร็จต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญเฉพาะทางหลายคน โรงพิมพ์เล็กๆก็จะไม่ค่อยมีช่างครบครัน โรงพิมพ์ใหญ่ก็จะไม่รับงานเล็ก  และไม่รับงานที่ต้องใช้เครื่องพิมพ์โบราณ งานแนวนี้ใครทำได้ดี ลูกค้าจะตามกันมาหาเอง

IMG_0122

IMG_0123_1

ทดลองใช้ powerline ac lan แลนบนสายไฟ zyxel PLA4231+PLA4201

P_20150504_095853

เพิ่งไปได้ตัวต่อระบบแลนผ่านสายไฟบ้านมาใช้งาน เดิมที จุดปล่อยสัญญาณเล่นเน็ตในบ้านอยู่ที่ชั้นลอยของบ้าน ปล่อยสัญญาณให้กับอุปกรณ์ต่างๆไม่กี่ชิ้น เวลาใช้งานในห้องทำงานจะผ่านกำแพงหนาพอสมควร เครื่องคอมที่ใช้สัญญาณ wi-fi ได้มีหลายเครื่อง แต่ละเครื่องจะจับสัญญาณได้ไวไม่เท่ากัน และการใช้ usb wi-fi เสียบบนเครื่องคอมฯก็ทำให้พอร์ตใช้งานน้อยลง คุณภาพสัญญาณไม่ดีนัก เป็นการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แสนอึดอัด

ชีวิตคนไอทีแบบเราๆ มีคอมพิวเตอร์ในชีวิตหลายเครื่องหลายอุปกรณ์ ทั้งคอมฯส่วนตัว 3 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง มีมือถือ 1 มีแท็บเบล็ต1 มี การใช้ wi-fi มันจำกัดมาก คนอื่นในบ้านไม่ต้องใช้กันพอดี เพราะตัวเร้าเตอร์ที่แถมมากับผู้ให้บริการเป็นของแถมที่รองรับอุปกรณ์ได้สัก 8 ชิ้นละมั้ง มีบ่อยครั้งที่เห็น wi-fi แต่ใช้งานไม่ได้

เคยมีความอยากจะลากสายแลนเข้าห้องทำงานและห้องนอนก็ไม่มีปัญญาทำ เคยเอา airport express มาขยายสัญญาณ wi-fi ก็ต้องซื้อมันสองตัว เพราะสินค้า apple ไม่ยอมทำงานเป็น repeater ให้กับยี่ห้ออื่น ต้องเอาของมันเองมาเป็นตัวปล่อย wi-fi ตัวแรก โดนค่า airportสองตัวนี้ไปเจ็ดพันเมื่อหลายปีก่อน ดูทันสมัยแต่ทำให้จนเลย ซึ่งในยุคที่พยายามแก้ปัญหาเมื่อหลายปีก่อนนั้น ระบบแลนผ่านสายไฟยังไม่แพร่หลาย และมีคนบ่นว่าไม่ค่อยดีพอสมควรเลยไม่ได้สนใจ ระบบ wi-fi repeater ไม่ค่อยดี ความเร็วไม่สม่ำเสมอ บางครั้งก็ใช้ไม่ได้ ต้องถอดปลั๊กแล้วเสียบใหม่บ่อยๆ

พอมายุคนี้ ยุคที่เทคโนโลยีมันก้าวกระโดด มือถือแพงกว่าโน้ตบุ๊ค ยุคทองแห่งสินค้าไอทีกำลังเฟื่องสุดๆ ระบบแลนผ่านสายไฟก็พัฒนาไปเต็มที่ ก็เลยตัดสินใจหามาลองสักที เดินผ่านไปในงานสถาปนิกที่เมืองทองธานี นอกจากของแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วก็มี Zyxel มาออกงานด้วย บริษัทนี้ขายระบบแลนทุกรูปแบบ เดินไปคุยขอข้อมูล พนักงานในบู๊ทก็มีความรู้ตอบคำถามได้ โชคดีมากๆที่งานนี้เขาไม่เน้นขายของคนที่เฝ้าบู๊ทก็เลยเป็นคนจากในบริษัทที่มีความรู้เรื่องระบบแลนมาให้คำตอบ ถามไปหลายอย่าง ทุกอย่างมีคำตอบให้หมด แบบนี้ต้องโดนสักชิ้นซะแล้ว

PLA4201 v2_UG_v1_ed1-41

ก็เลยได้ชุด kit สำหรับต่อแลนผ่านไฟบ้านมา เป็นตัวมาสเตอร์รุ่น pla4201 ให้เอาตัวนี้ไปเสียบปลั๊กไฟแล้วเอาสายแลนเสียบตัวนี้กับโมเด็มของผู้ให้บริการอินเทอเน็ต ส่วนตัวปล่อยสัญญาณ wifi เป็นรุ่น pla4231 จะเป็นตัวปลายทาง ก็เอาไปไว้ที่ห้องทำงาน เสียบเข้ากับไฟบ้านที่กำแพง แค่นี้จบเลย และที่ตัวปลายทางนี้มีช่องต่อสายแลนให้อีก 2 ช่อง เอาไว้ใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่มี wifi ได้ด้วย

PLA4231_UG_v1_ed1-95

พนักงานอธิบายวิธีการใช้งานจบก็ตกลงซื้อ ซื้อในงาน 2390 บาท แต่ถ้าถ่ายภาพแล้วโพสท์เข้าโซเชียลเน็ตเวิร์คสักตัวนึงจะลดให้อีก 100 บาท ผมก็เลยได้ซื้อในราคา 2290 บาท โดยไม่รู้หรอกว่าราคาที่ซื้อ ณ เดือนนี้ พศ.นี้ มันถูกหรือแพงกว่าปกติ แต่กับเงิน 2290 บาท ถูกกว่า airport express แค่ตัวเดียวอีก แบบนี้ก็ต้องซื้อละ เพราะเคยจ่ายแพงกว่านี้หลายเท่า ขอให้มันดีจริงเถอะ

พอจ่ายเงินพนักงานก็บอกว่าเดี๋ยวเซ็ทอัพให้เลยครับเอากลับบ้านจะได้เสียบใช้ได้เลย เราก็เลยจดชื่อ wifi ที่อยากใช้ จดรหัส และ มาตรฐานที่ใช้ให้ไป จดให้ 3 บรรทัด พนักงานก็เอาคอมฯมาจัดการตั้งค่าให้ ใช้เวลา 1 นาที เสร็จแล้วเก็บใส่กล่องเหมือนเดิมเรียบร้อย เดินตัวปลิวออกจากบู๊ทได้เลย

2015-05-09_05-47-49(1)

กลับมาบ้าน เสียบสายตามที่พนักงานบอก ชื่อ wifi ที่เราตั้งไว้ก็ตรงกับ hot spot ที่เราใช้บ่อยๆ พอทุกอย่างเสียบปลั๊ก ก็เล่นเน็ตต่อได้เลย คอมฯ โน้ตบุ๊ค มือถือและอุปกรณ์ทุกอย่างเล่นเน็ตผ่าน powerline ตัวนี้ได้ไม่มีปัญหา ปลื้มสุดๆ แถมยังลากสายแลนมาเสียบได้ด้วย ก็เลยเอา switch เก่าๆมาเสียบเพิ่มช่องแลน แล้วเอา NAS มาเสียบ เอาเครื่องเล่น media center มาเสียบ เอา server มาเสียบ คอมฯอีกสองเครื่องก็เสียบสายแลน ทุกอย่างเป็นเน็ตเวิร์คเดียวกันหมด ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย ลองเอามือถือเปิดไฟล์ใน NAS ก็ดูหนังได้สะดวกดี ไฟล์หนัง 720p ดูได้ลื่นๆ ส่วน 1080p ยังไม่ได้ลองครับ

ก้าวต่อไปก็คงจะพยายามย้ายเครื่องคอมฯและ NAS ที่มีพัดลมไปไว้ห้องอื่น แล้วตัวที่เหลืออยู่ในห้องทำงานจะเป็นคอมฯที่ไม่มีพัดลมเท่านั้น ซึ่งในปี คศ 2015 นี้ก็คอมฯของ intel เปิดตัวมาแล้วเป็นแท่งเล็กๆเสียบกับจอได้โดยตรงเลย ส่วน android ตัวเล็กๆก็มีเต็มตลาดจนเลือกไม่ถูกเลย จากที่เคยหลงไหลในความเล็กของแม็คมินิ คอมฯเครื่องเล็กๆสีสวยอย่าง dell zino และ nettop ของ manli ก็กลายเป็นใหญ่เกินไปเสียแล้ว

เพิ่ม Visibility ด้วยการทำตัวเป็นเจ้าภาพ

Visibility ด้วยการทำตัวเป็นเจ้าภาพ

IMG_0614.JPG

การทำให้เกิด visibility หรือการมีตัวตนของท่านแบบตรงไปตรงมาก็คือการแนะนำตัว การแจกนามบัตร ซึ่งเป็นวิธีปกติทั่วไปที่จะต้องทำกันอยู่บ่อยๆ  นอกจากวิธีทางตรงเหล่านี้แล้ว ยังมีวิธีทางอ้อมอื่นๆที่ทำให้ท่านถูกมองเห็นและจดจำได้  และที่สำคัญ มันสร้างความประทับใจได้มากกว่าการแจกนามบัตรเสียด้วย

ลองนึกภาพถึงตอนที่ท่านมาร่วมงานประชุุมทางธุรกิจ หรืองานสังสรรค์ทางธุรกิจสักงานหนึ่ง  ท่านมาร่วมงาน  แขกคนอื่นมาร่วมงาน  เขาไม่รู้จักท่าน  ท่านไม่รู้จักแขก  ไม่มีอะไรเชื่อมโยงท่านกับแขกเลย  มากที่สุดอาจจะเป็นการยัดเยียดนามบัตร ซึ่งเราก็รู้อยู่แก่ใจว่า ยัดเยียดนามบัตรไม่เกิดประโยชน์

แขกที่มาร่วมงานจะยังงงๆ  ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าใครจะมางานบ้าง  ไม่รู้ว่ากำหนดการเป็นอย่างไร  ต้องทำอะไรก่อน หลัง  และส่วนมากไม่รู้ว่าจะเริ่่มต้นคุยกับคนอื่นๆอย่างไร  จะดีไหมถ้ามีใครสักคนมาอาสาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าภาพ  มาชวนแขกคุย  มาแนะนำว่างานจะดำเนินอย่างไร  ใครจะมาบ้าง  มีใครที่คุณอยากคุยด้วยไหม  ของกินอยู่ด้านไหน  ห้องน้ำอยู่ทางไหน แขกสามารถนั่งโซนไหนได้  คนที่จะทำเช่นนี้ หากเป็นท่านทำเอง  แขกจะประทับใจและจดจำท่านได้  นั่นคือ visibility จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

สิ่งที่เราน่าจะลองทำในบทเจ้าภาพก็คือ  มาถึงงานก่อนเวลา  จดจำกำหนดการสำคัญในงาน  ดูรายชื่อแขกว่าจะมีใครมาบ้าง  เพื่อดูว่าเราอยากพบกับใครเป็นพิเศษ  จำแผนผังที่นั่ง  ห้องน้ำอยู่ทางไหน ของกินอยู่ทางไหน  เราจะแนะนำแขกเพื่อให้แขกรู้สึกสบาย และอบอุ่น  และจะทำให้แขกจำท่านได้  จำอาชีพของท่านได้

การเล่นบทเจ้าภาพที่รู้งาน  เป็นคุณสมบัติเบื่องต้นของคนมีคอนเน็คชั่นเยอะ   visibility ของท่านจะชัดเจนมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้คนในงาน  โดยเฉพาะแขกที่ท่านมุ่งหวังอยากรู้จักเป็นพิเศษ

ข้อมูลเรียบเรียงจาก http://businessnetworking.com/

ทดสอบความสว่าง led 6 หลอด

DSC_2449

ไปซือหลอดไฟ led ของ Philips มา 6 หลอด มีค่าความสว่างตั้งแต่ 3 วัตต์ ไปถึง 14 วัตต์ เลยเอามาใส่กับโคมดาวน์ไลท์ในห้องน้ำเพื่อเปรียบเทียบความสว่าง โดยจะใช้กล้องถ่ายรูปเป็นตัวช่วยบันทึกภาพ ปรับกล้องให้มีค่าความไวประมาณ iso800 โหมดกล้องปรับเป็น M ใช้สปีดชัตเตอร์ 1/50 วินาที รูรับแสง f2.8 แล้วถ่ายภาพทุกภาพด้วยค่านี้ทั้งหมด

DSC_2442
ภาพแรกเป็นไฟจากหลอดประหยัดไฟหลอดเดิมในห้องน้ำ ตัวเลขกำลังวัตต์ที่หลอดเขียนไว้ว่า 18 วัตต์

ภาพต่อมาเรียงลำดับจากหลอดไฟของ Philips เรียงลำดับจากน้อยไปมาก เริ่มจากหลอด 3 วัตต์ ตามมาด้วย 4 7 9 12.5 14 วัตต์ตามลำดับ

DSC_2443
DSC_2444
DSC_2445
DSC_2446
DSC_2447
DSC_2448

ราคาหลอด ณ วันที่ซื้อ 20jul2014 จากร้านบุญถาวร คือ
3 วัตต์ ราคา 169 บาท
4 วัตต์ ราคา 179 บาท
7 วัตต์ ราคา 209 บาท
9 วัตต์ ราคา 259 บาท
12.5 วัตต์ ราคา 369 บาท
14 วัตต์ ราคา 399 บาท

การเลือกหลอดไฟไม่สามารถเอามาคิดในแง่ความประหยัดต่อวัตต์ได้ เราอยากจะจ่ายน้อยที่สุดเท่าที่เราจำเป็นต้องจ่าย เทียบกับรถยนต์ก็เหมือนเลือกรถที่มีถังน้ำมันเล็กหรือใหญ่ เราอยากได้แค่ขับไปเชียงใหม่ถังเดียว ไม่ต้องแวะเติมกลางทาง ถ้าถังเล็กเกินไปก็ไปไม่ถึง ถังใหญ่เกินไปก็แพงโดยเปล่าประโยชน์ เราอยากได้ถังแค่กลางๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อถังใหญ่ที่สุด เพราะถังใหญ่สุดมันแพงที่สุด หลอดไฟก็เหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องหากำลังวัตต์ต่อบาท หรือ บาทต่อกำลังวัตต์ แต่เราอยากจะรู้แค่ว่า หลอดไหนที่ให้ความสว่างพอใช้และราคาต่ำสุด ซึ่งคำตอบมันจะไม่ใช่หลอดถูกสุด และหลอดแพงที่สุดอยู่แล้ว แต่หลอดตรงกลางๆนั่นแหละที่จะเป็นคำตอบ ซึ่งในการทดลอง หลอด 9 วัตต์ดูจะเป็นหลอดที่ให้แสงสว่างที่มีคุณภาพตรงความต้องการ โดยวัดจากการมองเห็นสีขาว สีดำ สีน้ำเงินที่แยกสีได้ชัดเจนและให้ความถูกต้องของสีเพียงพอ หลอดสว่างกว่านี้ก็จะให้แสงเยอะกว่านี้ แต่การแยกแยะสีสันก็ไม่ได้ดีขึ้นแล้ว ก็เลยจะสรุปได้ว่าหลอด 9 วัตต์ให้แสงที่มากพอจะแยกแยะสีต่างๆได้ถูกต้อง ในระยะการใช้งานห้องปกติ เพดานสูง 2.5 เมตร และแสงสว่างที่ใช้มองระดับอ่างล้างมือ

Necpocket03 กินข้าวอย่างไรให้เกิดธุรกิจ

IMG_0226

การมาพบกัน มาพูดคุยกัน และลงท้ายด้วยการกินอาหารร่วมกันเป็นรูปแบบที่ได้รับการปฏิบัติกันเป็นส่วนใหญ่ของภาคธุรกิจ  การมากินอาหารหรือมางานเลี้ยงทางธุรกิจเป็นภาพที่พวกเราทุกคนก็กำลังทำกันอยู่  แต่บางคนทำไมไม่ได้ยอดธุรกิจ เคยสงสัยบ้างไหม  เรากินอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมบางคนออกไปกินข้าวแล้วมีลูกค้าเยอะขึ้น ทำไมบางคนออกมากินข้าวแล้วธุรกิจซบเซา

ปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจก็คือ การกินข้าวกับคนหน้าเดิมจะทำให้ธุรกิจค่อยๆหดหาย  มันจะค่อยๆเล็กลง เล็กลง  เพราะอะไรรู้ไหม  เพราะเราจะเห็นหน้ากันจนเบื่อ เราเจอกันทุกสัปดาห์อยู่แล้ว เราสนิทกันยิ่งกว่าญาต  เราเริ่มอุดหนุนธุรกิจกัน  แต่ว่าเราน่าจะฉุกคิดได้ว่า ไม่มีใครซื้อของเราทุกปี ไม่มีใครซื้อตลอดปี ไม่มีใครสร้างบ้านทุกปี ไม่มีใครแต่งงานทุกปี เพื่อนสนิทของเราไม่มีใครซื้อคอนโดซื้ออสังหาฯทุกปี  เราต้องการลูกค้าใหม่ และการกินข้าวกับคนหน้าเดิมจะไม่เกิดลูกค้าใหม่
20200218070918_IMG_0056
เราต้องกินข้าวกับคนใหม่ๆ คนหน้าใหม่ เพื่อนใหม่ เมื่อไหร่ที่เราเริ่มชินกับเพื่อนหน้าเดิม นั่งวงเดิม กินวงเดิมๆ เราก็จะหมดโอกาสสร้างลูกค้าใหม่  นี่เป็นเหตุผลที่ในระบบ bni มีการบอกว่าเราต้องเชิญ visitor เพื่อให้มีคนใหม่เข้ามาคุยกับเรา  การคุยกันในห้องประชุมหรือคุยบนโต๊ะอาหารล้วนเป็นการพูดคุยเพื่อก่อให้เกิดคอนเน็คชั่นใหม่ เกิดการขยายวง  ถ้าคุณอยากมีลูกค้าใหม่ คุณต้องท่องไว้ในใจว่า ลูกค้าใหม่จะมาจากการที่เรากินข้าวกับคนหน้าใหม่ๆเสมอ  เพราะคนเก่า เราได้กันแล้ว   เราซื้อขายกันแล้ว เรามาพบกันเพราะเราอยากได้ลูกค้าใหม่ หรือเราอยากรู้จักคนใหม่นั่นเอง
การกินข้าวหมายรวมไปถึงการไปพบปะสังสรรค์กันในรูปแบบอื่นๆด้วย  นอกจากพากันไปกิน เราก็สามารถพากันไปตีกอล์ฟ ไปขี่จักรยาน ไปสังสรรค์  ไปคาราโอเกะ เราควรจัดทริปเหล่านี้โดยมีเพื่อนสนิทกลุ่มของเราและให้มีคนใหม่ปนเข้าไปด้วย  เพื่อให้เกิดการแนะนำคนใหม่สู่คนเก่า  มันอาจจะเรียกว่าเป็นการแม็ทชิ่งเล็กๆดูเหมือนไม่เป็นทางการ  แต่มันเป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจที่น่าจดจำ หวังผลได้  การรู้จักลูกค้าที่ชอบอะไรบางอย่างเหมือนกันมันดีกว่าการยัดเยียดนามบัตรให้ผู้อื่นอย่างเทียบกันไม่ได้
อย่าลืมว่า ในการพบกันเพื่อธุรกิจ ย้ำว่าในการพบกันเพื่อสร้างธุรกิจนะครับ ถ้าเราต้องการคอนเน็คชั่นใหม่ๆ  ในทุกกิจกรรมการกินหรือปาร์ตี้หรือทริปสังสรรค์ เราต้องมีคนใหม่ร่วมอยู่ด้วย  จะมีคนใหม่หลายคน หรือมีแค่คนเดียว ก็ดีกว่าไม่มีเลย.

ร้านฟ้าสฟู้ด A&W

A&W มีดีกว่าที่่คิด

ในช่วงเวลาหนึ่งที่ลูกมีอายุประมาณหนึ่งปีกว่า เป็นวัยที่สามารถกินอาหารที่เป็นชิ้้นเล็กๆนิ่มๆได้แล้ว เวลาช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ไม่เร่งรีบ ไม่ได้เตรียมกับข้าวไว้ที่บ้านก็มักจะหาโอกาสไปกินมื้อเช้าข้างนอกอยู่บ่อยๆ แม็คโดนัลก็เป็นทางเลือกที่ใช้บริการบ่อยมาก ด้วยเหตุที่มีอาหารประเภทแฮมเบอร์เกอร์ให้พอฉีกขนมปังให้ลูกกินได้ และมีโจ๊กให้สั่ง แถมยังเปิดบริการ 24 ชม. เสียด้วย มาเช้ามืดแค่ไหนก็มีอาหารได้สั่ง

Untitled
ภาพในร้านแม็คฯ

 

ครอบครัวผมใช้บริการแม็คโดนัลอยู่หลายเดือน มีตุ๊กตาตามโปรโมชั่นของร้านอยู่หลายตัว บางตัวลูกอยากได้ บางตัวแม่อยากได้ เราใช้บริการที่แม็คโดนัลค่อนข้างถี่ ทั้งกลางวัน เช้า หรือเวลาไหนก็ตามที่เริ่มสิ้นคิดไม่รู้จะไปไหน

kobfa-dec2013-DSCF9095
แม็คฯ ให้ความสะดวกจริง แวะได้บ่อย

 

วันดีคืนดีลูกเริ่มไม่อยากทานโจ๊ก ประกอบกับโจ๊กในร้านแม็คโดนัลไม่ค่อยจะน่ากินสักเท่าไหร่ หมูในโจ๊กก็ไม่ใช่หมูสับแต่เป็นหมูชิ้้น ส่วนโจ๊กไก่ก็เป็นไก่ที่มาจากไก่ทอด ลำพังพ่อแม่กินเองก็ไม่เท่าไหร่ แต่ให้ลูกกินลูกจะเคี้ยวหมูและไก่แบบนี้ไม่ได้ ที่ผ่านมาอาศัยสั่งโจ๊กมาแล้วตักหมูออก เอาไข่ดาวในแฮมเบอร์เกอร์ตัดแบ่งใส่ลงไปแทน กินโจ๊กกับไข่มาตลอดนั่นเอง และนั่นก็เป็นเหตุผลให้บางวันไม่อยากไปแม็คฯแล้ว

แล้วเช้าวันอาทิตย์หกโมงครึ่งก็เวียนมาถึงอีกรอบ ขับรถออกจากบ้านพร้อมหน้าพร้อมตา ขับเลยแม็คไปเลยเพราะอยากหาร้านอื่น ไปแวะร้านเชสเตอร์ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะว่าร้านยังไม่เปิด ดูป้ายประกาศก็เห็นว่าเปิด 8.00 น. ก็เลยขับไปร้านอื่น ไปที่อื่น และก็นึกได้ว่าปั๊มใกล้ๆอีกแห่งมีร้าน A&W อยู่ เลยแวะไป

มาถึงร้าน ก็ดีใจมาก เพราะร้านเปิดทำการแล้ว ป้ายร้านบอกว่าเปิดตั้งแต่ 6.30 น. เราไปกันถึงยังไม่เจ๊ดโมง ก็เข้าไปสั่ง ดูเมนูแล้วก็เลือกชุดอาหารเช้า ซึ่งมีสองแบบให้เลือก ก็สั่งมาทั้งสองแบบเลย รายการอาหารที่อยู่ในเมนูอาหารเช้านี้ค่อนข้างดี และเหมาะกับเด็กขวบกว่าๆที่ฟันยังขึ้นไม่ครบ มีไข่ดาวที่สั่งได้ว่าเอาแบบสุกหรือไม่สุก มีขนมปังเนื้อนุุ่ม มีไข่คนหรือไข่เจียวที่ทำเป็นก้อนๆตักแบ่งให้เด็กกินได้สบายใจ มีไส้กรอก มีเนื้อปลาชุบแป้งทอดที่เด็็กพอจะกัดฉีกได้ด้วยฟันหน้า มีผัก มีมะเขือเทศ ลูกชายผมชอบมะเขือเทศมาก เห็นเมื่อไหร่จะหยิบใส่ปากทันที กินไปหนึ่งชิ้นในจานอาหารเช้าก็ร้องจะเอาอีก เลยไปถามพนักงานขายว่าขอสั่งสลัดเปล่าๆอีกจานได้ไหม แต่ขอเปลี่ยนผักในจานให้เป็นมะเขือเทศล้วนๆเลย พนักงานบอกว่าได้ อีกห้านาทีมะเขือเทศฝานเต็มจานก็มาถึงโต๊ะของลูกชายผม และลูกก็หยิบกินสบายใจ

Untitled

Untitled
 ชุดอาหารเช้าทั้งสองแบบ  เหมาะกับเด็กและผู้ใหญ่

 

ผมประทับใจอาหารเช้าของ A&W มาก มันมีรายการที่เหมาะกับผู้ใหญ่และเด็กเล็กฟันยังขึ้นไม่ครบ สามารถฝากท้องไว้ได้ไม่มีปัญหา และที่สำคัญก็คือเปิดทำการเช้ามาก เป็นทางเลือกของบ้านที่มีเด็กตื่นเช้าเลย และที่ประทับใจอีกต่อหนึ่งก็คือสามารถสั่งรายการอาหารบางรายการที่ไม่มีอยู่ในเมนูได้ด้วย มันเป็นความรู้สึกดีที่สามารถสั่งพิเศษได้ แตกต่างไปจากร้านอื่นที่มักไม่ยอมให้สั่งอะไรนอกเหนือเมนู ถือว่าเป็นนโยบายร้านที่ออกแบบมาเอาใจลูกค้าได้ดี

Untitled
หยิบกินสบายใจ

 

ผมโทรไปคุยกับเพื่อนที่เคยทำงานในบริษัท A&W และเล่าให้ฟังว่าผมไปเจออะไรมาและประทับใจเรื่องอะไร เพื่อนซึ่งเคยทำงานเป็นมาเก็ตติ้งที่นี่ก็อธิบายไว้หลายๆอย่างที่เขาได้เคยทำไว้ และเล่าให้ฟังว่าทำไมถึงสามารถสั่งคัสต้อมเมนูได้ แม้จะเป็นสิ่งที่ทางร้านไม่ชอบแต่ก็มีช่องในเครื่องคิดเงินเอาไว้ทำรายการได้ เนื่องจากบางสาขามักจะมีลูกค้าที่มาสั่งอะไรที่พิเศษนอกเหนือเมนู มันเป็นข้อดีที่ลูกค้าได้รับ และเป็นข้อเสียที่พนักงานมีงานเพิ่มขึ้น แต่ก็จัดให้ได้ และนั่นทำให้ผมประทับใจจริงๆ

Untitled
บรรยากาศการแต่งร้าน A&W สาขา กาญจนาภิเษก

 

ร้านA&W เป็นร้านอาหารฟาสฟู้ดที่ขายไม่ค่อยดีนัก บางสาขาก็ทะยอยปิด เพื่อนบอกว่าสามสิบกว่าสาขาในช่วงที่บูม กำลังลดลงไปเรื่อยๆเหลือยี่สิบกว่าสาขาในปัจจุบัน แม้เพื่อนจะไม่ได้ทำงานที่นี่แล้วก็ตาม แต่ผมก็อยากให้ A&W มีอนาคตที่ดีกว่านี้

ผมอยากฝากไปถึงฝ่ายมาเก็ตติ้งของ A&W ว่า ร้านของคุณมีศักยภาพ มีเมนูอาหารที่ดี มีทั้งฟาสฟู้ด มีทั้งของกินเล่น มีตลาดเฉพาะกลุ่มอย่างผมที่มีเด็กเล็กและอยากหาร้านนั่งกินมื้อเช้าพิเศษแบบนี้ คุณมีหลายอย่างไม่น้อยไปกว่ายี่ห้อใหญ่ๆอย่างแม็คโดนัล คุณควรจะได้ลองพิจารณาและหาทางพัฒนาให้ดีขึ้น มันเป็นสิ่งที่คุณน่าจะทำได้ เพราะคุณเคยทำได้ พยายามหน่อย ลืมบอกไปว่าคุณก็มีมัสค็อตเช่นกัน เด็กๆก็ชื่นชมพี่หมีของคุณได้ ดูที่รอยยิ้มของเด็กคนนี้ เด็กไม่โกหก

 

IMG_0003.JPG
 มัสค็อตพี่หมีก็ให้รอยยิ้มได้

 

Untitled
 มัสค็อตลุงแม็คหัวแดง ภาพคุ้นตา มีที่นั่งให้ถ่ายรูปด้วย

 

 

 

NEC pocket02 นามบัตรหรือเศษกระดาษ

นามบัตรหรือเศษกระดาษ

IMG_0994thailetterpress-Full

ในการทำธุรกิจของทุกคนต้องมีการใช้นามบัตรเสมอ และการที่ท่านออกจากบ้านไปหาเพื่อนๆ ไปร่วมกลุ่มเน็ตเวิร์คกิ้งต่างๆนั้น บางท่านอาจจะพกนามบัตรไปแจกแบบเน้นปริมาณ บางท่านตั้งใจจะแจกทุกคนที่ได้คุยด้วย อาการแจกไม่เลือกแบบนี้จะไม่สร้างผลดีต่อท่านเลย เพราะภาพลักษณ์ของท่านจะกลายเป็นเซลส์ที่เน้นการขายของ มาออกบู๊ทมาแจกใบปลิว มาแจกนามบัตร หนังสือบางเล่มจะเรียกคนแจกนามบัตรแบบไม่คิดว่า “นักยัดเยียดนามบัตร”

นามบัตรหนึ่งใบราคาไม่ถูกไม่แพง แต่มันจะกลายเป็นเศษกระดาษราคาแพงไปเลยถ้าท่านใช้ไม่ถูกวิธีหรือแจกไปยังคนที่ไม่ต้องการ และในทางตรงข้าม นามบัตรใบละไม่กี่บาทจะเป็นคัมพานีโพรไฟล์ที่ถูกที่สุดในโลกหากท่านแจกถูกคนและถูกโอกาส

วิธีการที่ดีที่สุดในการแจกนามบัตรให้มีคุณค่าก็คือ แจกเฉพาะคนที่เขาเอ่ยปากขอครับ ใครไม่ขออย่าเพิ่งไปแจก เพราะเขาอาจไม่ต้องการ เขาอาจมาอยู่ในกลุ่มเน็ตเวิร์คกิ้งแบบโดนบังคับมา โดนหลอกมา เขาไม่ได้อยากทำธุรกิจ หรือแม้แต่ธุรกิจเขาอาจไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย การหยิบนามบัตรแจกไม่เลือกหน้ามีโอกาสที่มันจะถูกนำไปวางในลิ้นชักแบบมัดยางรวมเป็นกอง เพราะใครๆก็แจกไม่คิด คนรับก็รับแบบไม่อยากเสียมารยาท สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเศษกระดาษราคาแพง ผมเชื่อว่าทุกท่านจะมีกองนามบัตรที่ไม่อยากได้อยู่สักกองหนึ่งในที่ทำงาน ซุกไว้ในลิ้นชักหรือในซอกตู้เก็บเอกสารสักที่หนึ่ง

สิ่งที่เราควรจะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแจกนามบัตรอย่างมีคุณค่าก็คือ
1 มีนามบัตรติดตัวพร้อมแจกเสมอ
2 มีนามบัตรที่แสดงถึงตัวตนความเป็นมืออาชีพในธุรกิจของท่าน และไม่ลืมระบุ ชื่อท่าน ชื่อบริษัท เบอร์โทรที่ต้องการให้เขาโทรกลับ และรายละเอียดธุรกิจของท่านอย่างสรุปย่อ
3 แจกเฉพาะคนที่เขาอยากได้

คราวนี้ถ้าเกิดว่า คุณอยากจะให้นามบัตรกับใครเป็นพิเศษ คนที่คุณเชื่อว่าเขาสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณได้ คุณจะทำอย่างไรให้เขาเอ่ยปากขอนามบัตรจากคุณ
วิธีทำให้เขาเอ่ยปากขอนามบัตรจากคุณก็ทำได้โดยการเข้าไปทำความรู้จักและขอนามบัตรของเขาก่อน เมื่อได้คุย และได้นามบัตรมาแล้ว ถ้าเขาไม่ลืมเขามักจะขอนามบัตรจากคุณเช่นกัน มันเป็นจิตวิทยา การตอบแทนซึ่งกันและกัน คือถ้าคุณทำอะไรต่อเขา เขามักจะทำแบบนั้นต่อคุณ แค่นี้คุณก็สามารถให้นามบัตรแก่คนที่คุณสนใจได้แล้ว

อย่าลืมว่า นามบัตรเล็กๆหนึ่งใบ เป็นได้ทั้งคัมพานีโพรไฟล์ และเศษกระดาษ ใช้มันให้ถูกวิธี ถูกกาละเทศะ มันพาคุณไปสู่ลูกค้าที่คุณต้องการ

NEC pocket01

ออกจากถ้ำกันเถอะ
===============

IMG_8837

นึกถึงวันที่เราลุยทำธุรกิจแบบที่เราไม่มีทีม  ไม่มีเน็ตเวิร์คเจ๋งๆ  เรามีสภาพอย่างไร

วันที่เราโชคดี เราก็มีงานดีๆที่ทำให้เรามีชื่อเสียง  เราก็รับงานนั้นแล้วก็สร้างชื่อ  เราทำดี ก็มีลูกค้าเก่าบอกต่อ  สิ่งที่ตามมาก็คือ เราทำงานกันจนหน้ามืด ทำงานจนเราไม่มีเวลาไปพัฒนาหรือศึกษาตัวเอง  ทำงานจนลืมที่จะพัฒนาองค์กร  และในเวลาต่อมา ลูกค้าบอกต่อก็ค่อยๆหายไป  เพราะไม่มีใครใช้งานเราตลอดไป  ไม่มีใครสร้างบ้านทุกปี  ไม่มีใครแต่งงานทุกปี  ไม่มีใครเดินระบบไฟ กล้องวงจรปิด สายแลนด์ ลงเครื่องคอมฯยกอ๊อฟฟิศทุกปี  เราอยู่ในธุรกิจของตัวเราเองมานานพอจนเรารู้แล้วว่าลูกค้าเก่าจะค่อยๆหายไป  สิ่งที่เราต้องการคือลูกค้าใหม่

เราออกไปหาลูกค้าใหม่ เราทำอย่างไรกันบ้าง  เราก็อาศัยว่า ลูกค้าเก่าแนะนำใครเราก็ไปหาเขา  มีคนถามหาเราเราก็ไปหาไปแนะนำตัวกับเขา  เราต่างคนต่างทำแบบนี้  ในขณะที่เราก็ไม่ได้มีนัดไปแนะนำตัวได้ทุกวัน  เพราะเราทำงานหน้ามืดอยู่  เรากำลังทำงานให้ลูกค้าอยู่   แถมคนที่จะช่วยบอกต่อให้เราก็มีไม่เยอะ

แม้แต่วันที่เราไปงานเลี้ยงรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นมัธยม มหาวิทยาลัย แรกๆเราก็ไปพร้อมนามบัตรเป็นปึก  แล้วเราก็ไม่ได้แจกนามบัตรซะเท่าไหร่  เราไม่ได้มีนิสัยช่างคุย  เพื่อนๆที่เราคบก็มีเพื่อนสนิทเดิมๆที่เรารู้จักกันมาสิบปี และมันก็ไม่เคยซื้อของๆเรา  เราก็ไม่เคยซื้อของๆมัน  เราอาจจะมีธุรกิจต่อกันบ้าง  แต่มันก็เข้าสู่คำพูดเดิมๆ  ไม่มีใครสร้างบ้านทุกปี  เพื่อนเราใช้สินค้าหรือบริการเราแค่ครั้งเดียว  หรือจำนวนน้อยครั้งจนเรียกว่าธุรกิจไม่ได้

สิ่งที่เราเป็นเราเรียกว่า มนุษย์ถ้ำ  เราใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ถ้ำ  เราออกไปหาอาหารแบบพอเพียงแล้วเราก็กลับเข้าถ้ำ  สิ่งที่แย่ก็คือ อาหารรอบถ้ำเริ่มน้อยลง  แถมยังมีมนุษย์ถ้ำมาหากินใกล้เรา  มาตัดราคาเราอีก

กลับมาที่งานเลี้ยงรุ่น  เราออกไปพบเพื่อน เราบอกเพื่อนว่าเราทำอะไร  เพื่่อนบอกเราว่าเพื่อนทำอะไร แลกนามบัตร กินข้าว แล้วเราก็กลับบ้าน  อีกไม่กี่วันเราก็ลืมไปแล้วว่าเราเอานามบัตรใครกลับบ้านบ้าง  และเพื่อนก็เป็นแบบเรา  มันก็ลืมเรา  เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า เราก็ไปเจอเพื่อนอีกที  เพื่อนก็นึกออกว่าเราทำอะไร เราก็นึกออกว่าเพื่อนทำอะไร แต่ระหว่างปีเราดันนึกไม่ออก  คือเราไม่คิดถึงกันเลย  ธุรกิจก็ไม่เกิด  เซ็งไหม  มันเป็นเพราะคุณเป็นมนุษย์ถ้ำเดียวดาย  ทำธุรกิจหัวเดียวกระเทียมลีบ และคุณมองหาแค่ใครจะซื้อของของคุณ  และคุณก็รู้ว่าเพื่อนกลุ่มเดิมๆของคุณไม่ได้ต้องการธุรกิจของคุณบ่อยๆ  คือมันไม่เกิดรายได้ที่จะหล่อเลี้ยงคุณและบริษัทเลย

แต่ตอนนี้  พวกเรา มารวมตัวกัน  เรามาพบกัน เพราะเราต่างก็เห็นบางอย่างคล้ายๆกัน คือเราอยากได้วิธีการใหม่ๆที่จะรักษาและขยายธุรกิจ  พวกเราไม่อยากเป็นมนุษย์ถ้ำเดียวดาย  เราอยากมีชีวิตชีวาและสนุกกับการทำงาน…และเราอยากมีลูกค้าใหม่

บีเอ็นไอ พัฒนาพวกเราให้เป็นเน็ตเวิร์คที่มีคุณภาพ  ถ้าคุณไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นอีกครั้งด้วยทัศนคติแบบบีเอ็นไอแท้ๆ  คุณจะสนุกกับงานเลี้ยงรุ่น  เพราะคุณไม่เดียวดายอีกต่อไป  คุณสามารถเป็นคนใหม่ที่มีคอนซัลห้าสิบอาชีพที่รู้ลึกรู้จริงติดตัวไปด้วย  คุณจะเป็นคนที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม  เพราะคุณพกคนเก่งติดตัวคุณไปด้วยอีกทั้งแชปเตอร์  ในเวลาที่คุณคุยกับเพื่อนร่วมรุ่น หรือเพื่อนกลุ่มสนิท คุณก็จะได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบกัน  เพื่อนบ่นอะไรมาเกี่ยวกับธุรกิจ คุณจะนึกออกได้ในเวลาไม่นานว่าคุณรู้จักคนที่สามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้

เช่นถ้ามีคนบ่นอยากขายบ้าน ขายคอนโด ด้วยความร้อนเงิน คุณรูู้แล้วว่าคุณจะแนะนำเพื่อนให้คุยกับใคร คุณก็แค่บอกว่าคุณรู้จักนักอสังหาริมทรัพย์ที่รู้ว่าควรจะขายบ้านให้เร็วนั้นทำอย่างไร   ถ้าเพื่อนคุณบ่นว่าขโมยขึ้นบ้าน  คุณก็เชื่อมเขาเข้ากับคนขายกล้องวงจรปิดได้  ถ้าคุณได้ยินว่าเพื่อนกำลังเดือดร้อนสรรพกรเรียกคุยเพราะบัญชีไม่เรียบร้อย  คุณก็รู้ได้ในทันทีว่า คุณควรจะแนะนำให้เขาได้คุยกับคนทำบัญชีเก่งๆที่สามารถเจรจาต่อรองกับสรรพกรแทนเจ้าของบริษัทได้  ซึ่งคุณสามารถนำพาเพื่อนผู้ประสบปัญหามาพบกับคนเก่งๆโดยไม่ต้องคิดเรื่องเงินและราคาในเบื้องต้น  เพราะอะไรคุณถึงทำได้รู้ไหม  เพราะคุณมีทีม และทีมนี้ใหญ่พอ เก่งพอ และมีทัศนคติบวกเหมือนคุณ

คุณคนใหม่นี้จะมีทัศนคติที่เป็นนักแก้ปัญหาให้กับเพื่อนฝูง  การมองไปยังปัญหาของเพื่อนๆและลูกค้าจะทำให้คุณได้มองหาธุรกิจให้กับทีมของตัวเอง  แค่คุณเปลี่ยนวิธีคิดเล็กน้อย เปลี่ยนจากการมองหาธุรกิจให้ตัวเองเป็นการฟังปัญหาของผู้อื่นและมองหาโอกาสและธุรกิจให้ทีม  คุณก็จะได้รับการขอบคุณจากลูกค้าเพราะคุณใส่ใจกับปัญหาของเขา  และอาจจะเป็นโอกาสที่คุณจะได้ส่งธุรกิจเข้าแช็ปเตอร์

P1260194

ขอให้ทุกคนออกจากถ้ำแล้วปรับทัศนคติใหม่เป็นนักฟัง นักแก้ปัญหา  แทนที่เราจะออกไปหาธุรกิจให้ตัวเอง หนึ่งวันคุณมีโอกาสหาธุรกิจหนึ่งครั้ง  แต่ถ้าคุณมองหาธุรกิจให้เพื่อนๆในแช็ปเตอร์ และเพื่อนสมาชิกทุกคนก็ทำแบบคุณ หนึ่งวันของคุณจะมีห้าสิบโอกาสทางธุรกิจ  แบบนี้พอใช้ได้ไหมครับ  การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นนักฟัง นักแก้ปัญหา จะต้องอาศัยการฝึกฝน อาศัยเวลา แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไป

บีเอ็นไอมีความรู้ที่กลั่นกรองมาอย่างดีคุณสามารถใช้ความรู้เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้   NEC จะค่อยๆเอาความรู้เหล่านี้มาเล่าให้ฟังครับ

ครั้งหน้า เราจะมาคุยกันเรื่อง นามบัตร  วิธีทำให้นามบัตรเป็นกุญแจทางธุรกิจ แทนที่จะเป็นเศษกระดาษ

japan14-19jul2011Full -DSCF2504



japan14-19jul2011Full -DSCF2504, originally uploaded by pockethifi.

บทคัดย่อของญี่ปุ่นเรื่องอนุภาคนิวทริโน่ที่ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์

นี่คือ ภาพบทคัดย่อของคนญี่ปุ่นที่เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคนิวทริโน่ งานชิ้นนี้ได้รับรางวัลโนเบล ภาพนี้ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่โอซาก้า เมื่อหลายปีก่อน เป็นหลักฐานว่า ironman ก็มีหัวใจ…. ไม่ใช่ เป็นหลักฐานว่าญี่ปุ่นเจริญมาก และวงการศึกษาของไทยคงห่างจากญี่ปุ่นสักร้อยปี++ โนเบลชิ้นแรกของไทยจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะศตวรรษนี้ หรือ ศตวรรษหน้า

และอีกแรงจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจเก็บไว้ก็คือ บทคัดย่อนี้ ไม่ได้เขียนด้วยฟ้อนต์ อังสนา ขนาด16 ไม่ได้เว้นหน้า 1 นิ้ว เว้นหลัง 1 นิ้ว ไม่ได้พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ลายมืออ่านยาก มีรอยขีดแก้ไข แต่ก็ไม่ได้ลดคุณค่าของกระดาษที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเรา