รีวิวแฟลชตัวเล็ก Ulanzi SL02

การถ่ายภาพด้วยแฟลชเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยได้ทำแล้ว เพราะกล้องถ่ายภาพยุคใหม่มีคุณภาพสูงขึ้น สามารถตั้งค่าความไวแสงได้สูงมาก ทำให้การถ่ายภาพสามารถวัดแสงพอดีแล้วถ่ายภาพได้เกือบทุกสถานการณ์ รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายรูปได้สวยมากโดยไม่ต้องใช้แฟลช ผลคือกล้องขายแทบไม่ได้

แต่การใช้แฟลชในการถ่ายภาพก็ยังมีเอกลักษณ์บางอย่างที่ทำให้ยังมีคนอยากลองใช้แฟลชอยู่ และยังคงอยู่ในระดับมืออาชีพเป็นส่วนใหญ่ นั่นก็คือแสงแฟลชจะช่วยเน้นตัวคนในภาพหรือสิ่งสำคัญในภาพให้ดูเด่นขึ้น ไม่มืดเกินไป สามารถเพิ่มรายละเอียดให้กับภาพได้ สำหรับคนที่ต้องการใช้แฟลชมีสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้คือ การคำนวณหาค่ารูรับแสงที่พอดีกับแฟลช หรือปรับแฟลชให้พอดีกับรูรับแสง ซึ่งส่วนมากผู้ผลิตแฟลชก็มักจะบอกสเป็คของแฟลชให้เรานำไปคิดคำนวณต่อได้

IMG_4617

Ulanzi SL02 เป็นแฟลชขนาดเล็กสำหรับติดบนกล้อง มีกำลังไฟหรือ ไกด์นัมเบอร์ Gn = 8 สเป็คแบบนี้หมายความว่า ถ้าเราจะถ่ายวัตถุที่ห่างแฟลช 1 เมตร เราต้องตั้งค่ากล้องเป็นค่า iso100 รูรับแสงบนเลนส์ต้องปรับไปที่ F8 ถึงจะได้ภาพที่แสงแฟลชพอดี หรือถ้าเราถ่ายสิ่งที่อยู่ห่างไป 2 เมตร ที่ความไวแสง iso100 เราก็ต้องใช้รูรับแสง F4 ตามกฏที่ว่า GN = F คูณกับ ระยะทางระหว่างแฟลชถึงวัตถุ

IMG_20250611_180909057

SL02 สามารถเลือกกำลังไฟแฟลชได้ 4 ระดับ ทำให้เรามีทางเลือกในการใช้รูรับแสงได้หลายแบบ นอกจากนี้ยังมีไฟส่องสว่างหรือบางคนอาจจะเรียกว่าไฟนิ่ง ( Stable Light) ที่เราจะใช้ถ่ายวิดีโอก็ได้ หรือ จะเปิดไฟนิ่งแล้วถ่ายภาพนิ่งก็ไม่ผิดกติกา เป็นความอเนกประสงค์ที่เราเลือกใช้ได้

IMG_4611
IMG_4613

ตัวอย่างภาพภายในรถสภาพแสงน้อยถ่ายแบบไม่เปิดแฟลชเราจะเห็นรายละเอียดไม่มาก แสงนอกรถ แสงที่กระจกรถจะพอดีเห็นภาพหน้ารถ แต่สิ่งที่อยู่ภายในรถจะดูเป็นสีดำหรืออยู่ในเงามืด แต่เมื่อเปิดแฟลชเราก็จะได้รายละเอียดในรถมากขึ้น เบาะรถได้รับแสง สิ่งของต่างๆที่เคยอยู่ในเงาดำก็โดนแสงแฟลชเห็นรายละเอียด

IMG_4585
IMG_4586

ภาพเครื่องจักรในโรงงานบริเวณที่ไม่ได้เปิดไฟ สภาพแสงน้อย ถ่ายภาพไม่เปิดแฟลชจะค่อนข้างมืด การเปิดแฟลชจะทำให้เราเห็นรายละเอียดเครื่องจักร

DSC07873
DSC07872

สองภาพนี้วัดแสงพอดีทั้งคู่ ภาพบนถ่ายด้วยกล้องตรงๆไม่ใช้แฟลช ภาพล่างใช้ SL02 เปิดไฟส่องสว่างแทนแฟลช เหมือนเรามีไฟฉาย มุมกระจายแสงกว้างครอบคลุมพื้นที่รับภาพ แสงไฟนิ่งช่วยเปิดรายละเอียดของเครื่องจักร และแสงไฟจาก SL02 มีโทนสีคล้ายแสงแดด เป็นสีที่ดูสบายตา

การใช้แฟลชช่วยสร้างสรรค์ภาพเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจและทดลองฝึกใช้งาน นอกจาก Manual Flash แบบที่ใช้งานแบบนี้แล้ว ยังมีแฟลชอีกหลายเทคโนโลยี มีอีกหลายเทคนิคเกี่ยวกับแฟลช ถ้าเริ่มศึกษาเราจะไปเจอคำว่า Flash auto , TTL Flash, E-TTL Flash, MultiFlash, Strobe Flash, Rear Shutter curtain Flash, Slow Sync, High speed sync, Wireless Flash, Trigger, Bounce Flash

Screenshot_20250611-180432

SL02 ต้องชาร์จไฟด้วยสาย usb-c ชาร์จเต็มที่จะสามารถยิงแฟลชแรงสุดได้ 375 ครั้ง ใช้เวลาในการชาร์จไฟประมาณ 1 ชม.

ข้อดี
– มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จไฟได้ ไม่ต้องเปลืองค่าแบต
– มีระบบแฟลช และ ระบบไฟนิ่งในตัว สะดวกกับงานวิดีโอ
– ขนาดเล็กพกพาง่าย
– แสงไฟนิ่งสีสวยเหมือนแสงแดด

ข้อเสีย
– ไฟไม่แรง ใช้ได้แค่ระยะใกล้วัตถุ
– ถ้าแบตหมดต้องรอชาร์จก่อน ไม่สามารถเปลี่ยนแบตได้เอง
– เปลี่ยนอุณหภูมิสีของแสงไม่ได้

IMG_0767

ติดกับกล้องฟิล์มก็ดูกระทัดรัด แม้จะดูเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับบอดี้กล้องแต่ก็ใช้งานได้ กว่าที่จะถ่ายจนฟิล์มหมดม้วนคงอีกนานเลย

IMG_0844

ติดแฟลชตัวนี้กับกล้อง gopro ดูเป็นคู่หูที่น่ารักน่าถือมาก มันขนาดเล็กเข้ากันพอดี แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้คู่นี้กับเหตุการณ์แบบไหน เพราะกล้อง action ก็ไม่ค่อยได้หยิบใช้สักเท่าไหร่

เรื่องของสนามหญ้า

เช้ามืดวันหนึ่งขอบฟ้าตื่นมาออกกำลังกาย ซ้อมฟุตบอลประมาณครึ่งชั่วโมง เหตุผลก็เพราะอยากจะพัฒนาการเล่นให้ดีขึ้น พอเห็นก็เลยรีบไปหยิบกล้องมาถ่ายคลิป กล้อง sony zv-1f กล้องตัวเล็กที่ใช้งานสะดวกให้คุณภาพวิดีโอที่ดีมาก

S__24977413

หลายวันต่อมาลูกบอกกับแม่ว่าขอให้ปูหญ้าให้หน่อย แม่ลูกเลยตกลงกันว่าเดี๋ยวมาปูด้วยกัน พ่อก็เลยเป็นนักช็อป ไปซื้อดิน หญ้า ขนกันสามรอบรถเก๋ง ลงมือกันพ่อแม่ลูก การปลูกหญ้าต้องปรับระดับพื้นให้เรียบก่อน ทำเท่าที่ทำได้ และควรจะโรยผิวหน้าด้วยดินคุณภาพดี เป็นการเติมอาหารให้ดิน ต้นหญ้าจะได้เติบโตได้ดี เนื่องจากบ้านในกรุงเทพส่วนมากสนามหน้าบ้านอาจจะเป็นดินถม ดินเหนียว หรือทราย ซึ่งไม่ค่อยมีสารอาหาร การปรับภาพดินให้มีสารอาหารเป็นสิ่งจำเป็นลำดับแรกก่อนลงหญ้า

DSC07874

หญ้าที่มีขายก็จะมีหญ้าญี่ปุ่น หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลย์ เลือกตามที่ชอบ ผมเลือกหญ้าญี่ปุ่น สภาพที่หญ้าที่ได้มาก็โทรมนิดหน่อย เพราะเป็นของแถมจากร้านขายดิน คนขายบอกว่าหญ้าเหลืองเพราะโดนทับขายไม่ออก แต่เอาไปเลี้ยงสัก 3 วันก็จะกลับมาสภาพปกติ สามารถโตได้ ผมเชื่อคนง่ายเพราะเหตุผลฟังขึ้น เลยเอามาลอง ก็รอดูกัน

S__24911886_0

สนามหญ้าเมื่อปลูกแล้วต้องดูแลอย่างไร จะมีปัญหาอะไรตามมาบ้าง

1 การรดน้ำต้นไม้ต้องรดให้เพียงพอ หญ้าที่ปลูกสมบูรณ์แล้วรดน้ำตอนเช้าก็เพียงพอ เพราะหญ้าจะใช้น้ำไปสังเคราะห์แสงได้เลยตอนกลางวัน การรดน้ำตอนเย็นหรือตอนกลางคืน อาจจะทำให้มีน้ำท่วมขังถ้าระบบระบายน้ำไม่ดี สุดท้ายอาจเกิดเชื้อราได้

2 หญ้าที่ปลูกไปแล้วไม่เขียว ถ้าเกิดจากการขาดน้ำก็ให้เพิ่มการรดน้ำ แต่ถ้าให้น้ำเต็มที่ก็ยังไม่เขียว มักเกิดจากดินไม่มีแร่ธาตุเพียงพอ สาเหตุนี้ต้องแก้ตั้งแต่ก่อนปลูก เราต้องปรับสภาพดิน ใส่ดินสมบูรณ์ลงไปก่อนจะปลูกหญ้า แต่ถ้าปลูกไปแล้วก็ให้แก้ปัญหาด้วยการใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยให้ใส่หลังตัดหญ้า และการแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ใช้เวลานาน ต้องอดทน

3 หญ้าไม่เขียวแม้จะให้น้ำ ให้ปุ๋ย เตรียมดินที่ดีแล้ว อาจจะเป็นเพราะเว้นเวลาก่อนตัดหญ้านานเกินไป พอหญ้าโตมากแล้วเราไปตัดให้สั้น เท่ากับเป็นการตัดใบเกือบหมดเหลือแต่ตอ ทำให้ตัดแล้วเห็นเป็นสีเหลือง ไม่เขียวสดใส ดังนั้นการตัดหญ้าต้องรอเวลาอย่านานเกินไป ประมาณ 20-30 วันต้องตัดแล้ว

4 ปุ๋ยที่ใส่ เพราะเราต้องการต้นหญ้าสีเขียว จึงต้องใส่ปุ๋ยที่เร่งใบ หรือ เร่งโตอย่างเดียว ไม่ต้องเร่งดอก ไม่ต้องเร่งผล ให้ใส่ปุ๋ยที่เน้นไนโตรเจน ถ้าเป็นปุ๋ยเคมีก็ 46-0-0 ได้เลย บางคนเรียกว่าใส่ยูเรีย การใส่ปุ๋ยควรใส่หลังตัดหญ้า เพื่อให้ปุ๋ยร่วงลงดิน แทรกตัวลงไปถึงดินได้ง่าย

5 ปุ๋ยคอก ไม่ควรใช้ หรือถ้าใช้ก็ใช้น้อยๆ ใช้แต่พอดี อย่าใช้เยอะ การใช้ปุ๋ยคอกยิ่งเยอะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดวัชพืชที่ติดมากับปุ๋ย บางทีอาจมีเชื้อราแถมมาด้วย แต่ถ้าเป็นปุ๋ยคอกทำเองคุมคุณภาพการผลิตปุ๋ยได้ คุมสิ่งปนเปื้อนได้ ก็ใส่ได้

สุดท้าย ข้อคิดที่อาจจะเป็นจริงคือ สนามหญ้าที่อยู่ได้นานคือสนามหญ้าที่ปลูกเอง

InCollage_20250702_123442583

อัพเดท 14jul2025 สนามหญ้ามีประโยชน์กับทุกคนในบ้านเลย

DSC08043