Monthly Archives: January 2025
กาแฟอร่อยไม่แพง
กาแฟถุงนี้เจอในร้าน Donki สาขามาบุญครอง ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาเก็ตของญี่ปุ่น มีอาหารและของใช้ญี่ปุ่นหลากหลาย และหนึ่งในสิ่งประทับใจก็คือกาแฟตัวนี้ อ่านยี่ห้อไม่ออก ดูจากภาพก็พอรู้ว่าเป็นกาแฟสำหรับชงแบบดริป มีซองสำเร็จรูปมาพร้อมสำหรับการแกะแล้วเทน้ำร้อนเลย
ราคาขาย 239 บาท ได้ 18 ซองเล็ก สามารถชงได้ 18 แก้ว ตกราคาเฉลี่ยแก้วละ 13.27 บาท ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับกาแฟลักษณะนี้ เพราะปกติกาแฟดริปที่เป็นยี่ห้อไทยก็จะราคาแก้วละประมาณ30 บาท กาแฟไทยแต่ราคาแรงมากจนรู้สึกไม่อยากกินเลย แม้แต่กาแฟกระป๋องก็ยังราคา 15 บาท
กาแฟดริปจากร้าน Donki เป็นกาแฟดำที่มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยพอให้รู้สึก เมื่อกินผ่านคอแล้วยังคงมีรสหวานปะแล่มติดคออยู่นิดหน่อย หอมอยู่ในคอไปพักใหญ่ กลิ่นกาแฟตอนเทน้ำร้อนก็ส่งกลิ่นออกมาให้ดมได้ในระยะประมาณ1-2 เมตรนี่ รายละเอียดข้างซองบอกว่าให้ชงกับน้ำร้อนปริมาณ 150cc.
การชงกาแฟแบบดริปให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่ได้เข้มข้นหรือขมลึกๆเหมือนกาแฟดำจากเครื่องชงราคาแพง แล้วกาแฟตัวนี้ก็ไม่ได้คั่วเข้ม มันรสชาติเหมือนคั่วกลางมากกว่า ถือว่าเป็นกาแฟที่กินง่าย ดริปได้สะดวก แต่ถุงใหญ่ที่แกะแล้วจะไม่มีซิบล็อค ผมต้องไปซื้อถุงซิปล๊อคขนาดเล็กมาใส่ซองกาแฟทีละชิ้นเพื่อเก็บกลิ่นไม่ให้จาง เสียเวลาหยิบใส่ถุงเล็กนิดหน่อย แต่ก็ทำให้เก็บกินได้นานขึ้น
ออกแบบแฟ้มและโบรชัวร์สำนักงานบัญชี
มีพี่ท่านหนึ่งอาชีพทำบัญชีมาปรึกษากับผมว่าเขาอยากได้โบรชัวร์และแฟ้มบริษัทเพื่อใช้แจกและใช้แนะนำตัวในงานประชุมทางธุรกิจต่างๆ และใช้แจกให้กับว่าที่ลูกค้าเพื่อให้ทำความรู้จักกับบริษัทของเขาในเบื้องต้น ผมก็รับงานและตกลงเริ่มออกแบบให้
ข้อมูลที่วางไว้ในสื่อสิ่งพิมพ์จะเป็นสิ่งที่เจ้าของบริษัทจะต้องถ่ายทอดให้ผู้ออกแบบได้ทราบเรื่องราว ต้องการจะสื่อสารเรื่องอะไรบ้าง การพูดคุยเก็บข้อมูลประมาณ 2 ชม. ผมได้รู้จักบริษัทของพี่ท่านนี้ ได้ความรู้เกี่ยวกับบัญชี การวางแผนธุรกิจที่จะนำไปสู่เป้าหมายของบริษัท เป็นช่วงเวลาที่ผมได้ทำงาน และได้ความรู้ไปพร้อมกัน
ภาพที่จะใช้ในโบรชัวร์ผมนัดถ่ายภาพในตอนที่พี่เขาทำงาน ตอนใส่สูท ตอนไปร่วมงานประชุมทางธุรกิจ เลือกถ่ายภาพมาทั้งแบบเป็นทางการ ใส่สูทเต็มรูปแบบ และถ่ายภาพแบบดูเป็นกันเองในแบบไม่ใช้สูท มีเพียงเสื้อเชิ้ตและท่านั่ง ผมเลือกมุมนั่งยิ้มให้กับกล้องเป็นภาพหลักที่ใช้ทำสื่อในครั้งนี้
จัดวางรูปแบบโบรชัวร์ แล้วก็ออกแบบปกแฟ้ม ผมเริ่มต้นการออกแบบด้วยภาพถ่าย และคิดสโลแกนให้ว่าน่าจะใช้ประโยคที่สั้นและบอกเป้าหมายของการทำงานได้ นั่นคือ สำนักงานบัญชีที่สร้างความเจริญเติบโตให้บริษัท และก็จัดวางอาร์ตเวิร์คออกมา
เมื่อปรับแต่งจนรู้สึกลงตัวแล้วก็ทำตัวอย่างจริง ผมพิมพ์ดิจิทัลปรู๊ฟขนาดเท่าจริง ใช้กระดาษเหมือนจริงมาทำตัวอย่าง แล้วถ่ายภาพวิดีโอให้ดู พี่เจ้าของบริษัทตรวจงานทางวิดีโอเพราะกำลังเดินทางอยู่ต่างประเทศ เมื่อดูจบก็ตกลงเริ่มผลิต
และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็จัดการพิมพ์ด้วยแท่นพิมพ์อ๊อพเซ็ท ซึ่งแท่นพิมพ์แบบนี้จะเหมาะกับงานจำนวนมาก ใบปลิวหลักพันใบจะมีราคาต่อหน่วยถูกกว่าการพิมพ์ดิจิทัล
5minutes presentation 14jan2025
สัปดาห์นี้เราขอเชิญไปพบกับพรีเซ้นธุรกิจท่องเที่ยว คุณแอน บริษัท Perfect Holiday โทร 0624961414
คุณฮัส สุภาวดี บริษัท Beyond edge กับธุรกิจตรวจ นับ แพ็ค เช็ค โหลดสินค้า ให้กับ บริษัท โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ฟรีโซนในสุวรรณภูมิ โทร 081-919-2005
น้องหมาออสการ์
ออกแบบลำโพงที่อยากได้
การลดคาร์บอนจากการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์
แอพลิเคชั่นของบริษัทน้ำมันบอกกับผมว่า ผมเติมน้ำมันครั้งล่าสุดประมาณ 30 ลิตร e20 ผมช่วยลดการปล่อย Co2 ลงไปได้ประมาณ 6 กิโลกรัม ทุกครั้งที่เห็นตัวเลขแบบนี้ ผมกลับรู้สึกว่า เราทุกคน ผู้ใช้งานรถยนต์เติมน้ำมันทุกคันถูกชักจูงให้เข้าใจผิดว่าเรากำลังทำความดี ซึ่งมันไม่ใช่
ไม่ว่ารถจะเติมน้ำมันแบบไหน ถ้าเราขับรถ นั่นคือเราเผาน้ำมัน สร้างคาร์บอนไดออกไซด์และสารพิษอื่นๆออกสู่อากาศ และเกิดผลเสียกับสิ่งแวดล้อมเสมอ การที่มาบอกลูกค้าว่าเราช่วยลดการปล่อย Co2 ได้ 6 กิโลกรัม จริงๆแล้ว มันหมายถึง คุณกำลังปล่อย Co2 ออกไป 24 กิโลกรัมต่างหากเมื่อคิดแบบหยาบๆ กล่าวคือ ถ้าคุณใช้น้ำมันที่ผสมแอลกอฮอล์ 20% แปลว่ามีอีก 80% ที่ยังปล่อย Co2 หนักๆอยู่ คุณลดความเสียหายต่อโลกได้ 6 กิโลจากที่คุณน่าจะทำลายไป 30 กิโลกรัมถ้าคุณใช้น้ำมัน 100% ต่างหาก นั่นก็คือคุณยังปล่อย Co2 ไปทำลายโลก 24 กิโลกรัม
การช่วยกันลด Co2 จะทำให้เราลดภาวะโลกร้อนลงได้ อันนี้จริง แต่การที่เราเติมน้ำมันผสมแอลกอฮอล์ ไม่ได้ช่วยลด Co2 แม้ว่าบริษัทยังคงบอกว่าคุณช่วยลด Co2 ก็ตาม เพราะมันไม่จริง ตราบใดที่ยังเติมน้ำมันคุณยังคงอยู่ในโหมดทำลาย และ e20 มีผลให้คุณทำลายสิ่งแวดล้อมไปประมาณ 4 เท่าจากตัวเลขในหน้าจอต่างหาก ไม่มีวิธีไหนลดโลกร้อน และ ลด Co2 ได้ หากเรายังคงเติมน้ำมัน ยังคงขับรถน้ำมัน ยังคงใช้พลังงานหรือใช้ทรัพยากรของโลกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
การลดโลกร้อนต้องทำโดยการลดการใช้พลังงาน หรือ ลดการใช้ทรัพยากร ทางใดทางหนึ่งก็ได้ การหยุดผลิต การหยุดกิจกรรมต่างๆที่หยุดได้คือคำตอบ การลดโลกร้อนไม่สามารถทำโดยการผลิตถุงผ้ามาแทนพลาสติกแล้วหิ้วไปสวยๆหล่อๆแล้วคิดว่าคุณช่วยโลกอันนี้มันไม่จริง คุณไปผลิตถุงผ้า การผลิตก็คือการทำลายโลกอีกทางหนึ่ง โรงงานที่ผลิตผ้าก็ปล่อย Co2 จากผ้าที่คุณจะนำมาใช้ แทนที่จะผลิตถุงผ้า เราเปลี่ยนไปเก็บถุงใช้แล้วหรือหาของเก่ามาใช้ซ้ำยังดีเสียกว่า เพราะลดการผลิตใหม่ได้ ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ได้
การจัดคอนเสิร์ตรณรงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมก็ไม่ใช่วิธีทำให้ลด Co2 แต่ถ้าคุณปลูกต้นไม้จริงๆอยู่กับบ้านสักต้น มันทำให้ Co2 ลดลงได้มากกว่า คนดูคอนเสิร์ตสองหมื่นคน ลองเปลี่ยนเป็นช่วยกันปลูกต้นไม้คนละต้น มันให้ผลลัพธ์ในการลด Co2 ได้แน่นอน เพราะการลดโลกร้อนต้องลดการผลิต Co2 ต้องลดการใช้พลังงานและลดการใช้ทรัพยากร
อย่างมงายหรือหลอกตัวเองว่ากำลังทำดีต่อโลกหากเรายังคงเติมน้ำมันให้กับรถยนต์ ใครจำเป็นต้องขับรถใช้รถก็ใช้ไป แต่อย่าไปคิดว่าคุณมีวิธีช่วยโลกด้วยการเติมน้ำมันผสมแอลกอฮอล์ มันไม่จริง และในทางปฏิบัติ แทนที่จะเอาที่ดินไปปลูกอาหารให้คนกิน กลับต้องไปปลูกต้นไม้เพื่อผลิตแอลกอฮอล์ ปัญหาอาหารไม่พอกินจะค่อยๆรุนแรงมากขึ้น
ผมเสนอว่าอยากลด Co2 ให้ทำโดยการปลูกต้นไม้ และใช้เวลากับการนอนมากขึ้นจะดีกว่า นอนเยอะๆจะได้ไม่มีเวลาออกไปใช้พลังงาน
ปลั๊กไฟที่เป็นทรงตัว L เสียบคู่ไม่ได้เพราะอะไร
สนามกีฬา
หลังจากพาลูกไปดูฟุตบอลสนามใหญ่ ดูทีมชาติลงเตะ ได้สัมผัสสนามกีฬาราชมังฯ ที่ดูใหญ่โต ก็ขอวิจารณ์สนามไว้หน่อย เผื่อคนดีมาบริหารจัดการแล้วมันจะดีขึ้น
เดินทางลำบาก มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ริมถนน ดูดี แต่ไม่มีการใช้งาน ด่าใครดี ด่านายกเหรอ หรือด่าการรถไฟ หรือด่าใคร ใครทำให้มันไม่เปิดใช้งาน ใครรู้ช่วยตอบหน่อย
น้ำ อาหาร ห้ามเอาเข้า อาหารยังพอเข้าใจ แต่ขวดน้ำให้ทิ้ง ให้ไปซื้อน้ำเป็นแก้วในสนาม ใครออกกฏ สนามกีฬาคนใช้เวลาอยู่ในนั้น 3-5 ชั่วโมง จะซื้อกินลำบากมาก ให้พกไปเองมันจะเสียหายอะไร เหมือนตั้งใจมารีดไถเลย น้ำที่เอามาขายก็น้ำเปล่าสามสิบบาท รวยภายในไม่กี่ชั่วโมง บังคับให้แฟนบอลทิ้งน้ำ แล้วไปจ่ายค่าน้ำข้างใน มีแต่คนฉวยโอกาสเท่านั้นแหละที่ออกกฏแบบนี้ แฟนบอลซื้อตั๋วอุดหนุนวงการฟุตบอลมาแล้ว แล้วต้องมาโดนเอาเปรียบที่สนามอีก
ห้องน้ำไม่เพียงพอ อดทนรอได้ แต่ห้องน้ำปิดก่อนบอลเลิก ห้องน้ำชั้นบนปิดก่อนบอลเลิกนะครับ คนบริหารจัดการไม่เข้าใจการดูฟุตบอลเหรอ บอลยังไม่หมดเวลา จะรีบปิดไปไหน
วัฒนธรรมสนามบอลเฮงซวยไม่ต้องส่งต่อก็ได้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ทำเรื่องที่ดี จัดการให้มันเหมาะให้มันสมกับการเป็นคนมีความคิด คิดได้มั้ย ทำได้มั้ย การกีฬาแห่งประเทศไทย แนะนำนะท่านผู้บริหารในองค์กร ลองมาทำตัวเป็นแฟนบอลสักวัน จะได้รู้ว่าแฟนบอลต้องการอะไร
ตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยแฟลช
การใช้แสงแฟลชในการถ่ายภาพมีมานานแล้ว ตั้งแต่ยุคสมัยของฟิล์มก็มีการใช้แฟลชกันอย่างแพร่หลาย กล้องถ่ายภาพเกือบทุกตัวมักจะมีแฟลชในตัวมาให้ด้วย ทั้งกล้องคอมแพ็คขนาดเล็ก และกล้อง SLR ระดับเริ่มต้นหรือเกือบจะโปรก็จะมีแฟลชในตัว โดยการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลชถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาแสงไม่พอ อย่างเช่นการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ถ้าเราอยากถ่ายภาพคนในอาคารที่แสงสว่างไม่มาก การถ่ายภาพด้วยการเปิดแฟลชไปด้วยจะทำให้ภาพสมบูรณ์ขึ้น
กล้องดิจิทัลที่ออกมาเพื่อทดแทนกล้องฟิล์มก็มีแฟลชในตัวมาให้ แต่ระยะหลังกล้องบางตัวก็เลิกใส่แฟลชมาให้แล้วด้วยเหตุผลว่า ความไวแสงหรือ iso ของกล้องดิจิทัลสูงขึ้นเรื่อยๆ ความไวแสงของกล้องดิจิทัลสูงกว่าฟิล์มถ่ายภาพไปไกลมาก เรียกได้ว่า กล้องถ่ายภาพในยุคปัจจุบันอาจจะไม่จำเป็นต้องมีแฟลชอีกแล้ว นั่นทำให้การถ่ายภาพด้วยแฟลชกลายเป็นสิ่งที่หายาก และคนเริ่มไม่คุ้นเคย และสุดท้ายคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันใช้กล้องฟิล์มก็อาจจะไม่รู้วิธีการถ่ายภาพด้วยแฟลชแล้วด้วย แต่ก็ยังดีที่กล้องบางรุ่นก็ยังให้แฟลชมาให้ในตัว และมีการปรับค่าความสว่างของแฟลชให้พอดีแบบอัตโนมัติ ทำให้การเรียนรู้เรื่องแฟลชเริ่มไม่จำเป็นสำหรับคนทั่วไป และแม้ไม่รู้เรื่องกล้องก็ยังใช้งานได้
แต่การใช้แฟลชเทียบกับการไม่ใช้ให้ลักษณะภาพต่างกัน ถ้าเรารู้หลักการสักหน่อยเราก็จะใช้แฟลชในภาพเพื่อปรับปรุงคุณภาพ สร้างลักษณะแสงที่ต้องการได้ เราจะได้ภาพที่ดีขึ้น
ภาพที่หนึ่ง เป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง Eos M3 ติดเลนส์ Ef-m 22F2 ตั้งค่าให้กล้องปรับ iso อัตโนมัติ ยกกล้องเล็งแล้วถ่ายเลย ไม่เปิดแฟลช ได้ภาพที่เหมือนตาเห็น สภาพแสงในห้องเกิดจากไฟเพดานบางส่วนและไฟจากโคมไฟที่ส่องอยู่บนโต๊ะหนังสือ
ภาพที่สอง ลองเปิดแฟลชให้กับภาพ ถ่ายภาพในมุมเดิม แต่เพิ่มเติมการเปิดแฟลชด้วย โหมดการถ่ายภาพแบบ P กล้องจะเลือกค่ารูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ให้อัตโนมัติ และเมื่อเปิดแฟลชด้วยก็จะได้ภาพสว่างขึ้น อิทธิพลของแสงจากเพดานและโคมไฟบนโต๊ะดูจะไม่ค่อยมีผลแล้ว แสงสว่างในภาพเกือบทั้งหมดมาจากแสงแฟลชที่ยิ่งเข้าไปตอนถ่ายภาพนั่นเอง เราจะเห็นเสาด้านซ้ายที่ได้รับแสงแฟลชจนเห็นลายไม้
ภาพที่สาม เป็นภาพที่ยิงแฟลชเช่นกัน แต่เปลี่ยนจากที่แฟลชยิงแสงออกไปตรงๆ ก็เอามือปรับให้ตัวปล่อยแสงแฟลชเงยขึ้น เพื่อให้แสงแฟลชไปกระทบกับเพดานแล้วสะท้อนกลับมายังส่วนที่ต้องการ เราเรียกเทคนิคการยิงแฟลชใส่เพดานว่าการเบ๊าซ์ หรือ bounce สิ่งที่ต้องควบคุมในเทคนิคการ bounce คือ เพดานต้องเป็นสีขาว แสงแฟลชที่สะท้อนกลับมาจะเป็นแสงขาวและความสว่างไม่ถูกลดทอนมากเกินไป ถ้าเป็นเพดานสีเข้ม หรือ เป็นไม้ แสงสะท้อนจากเพดานไม้ก็จะกลายเป็นสีอมเหลืองแทน ผลของการ bouce คือ ภาพจะสว่างขึ้น ได้แสงสว่างจากเพดานที่ดูนุ่มนวลขึ้น ภาพตัวอย่างดูสวยขึ้นมากกว่าการยิงแฟลชออกไปตรงๆ และดีกว่าไม่มีแฟลชเลย แต่การ bounce จะต้องใช้กำลังแฟลชสูงขึ้นมาก ถ้าเป็นแฟลชติดกล้องตัวเล็กๆก็อาจจะกำลังไฟไม่พอ ยิ่งเพดานสูงกำลังไฟก็จะยิ่งไม่พอเช่นกัน
การถ่ายภาพด้วยแฟลชจะช่วยให้ภาพเปลี่ยนแปลง อาจจะทำให้ภาพสมบูรณ์ขึ้นดีขึ้น หรืออาจจะทำให้แย่ลงก็เป็นไปได้ ช่างภาพมือระดับอาชีพบางคนจะฝึกฝนการใช้แฟลชจนเข้าใจ สามารถควบคุมแสงแฟลชเพื่อสร้างสรรค์ภาพให้ได้ตามจินตนาการ
ระวังมิจ
มีสมาชิกในเฟสบุ๊คโพสท์ถามสมาชิกว่าภาพใบประกาศนียบัตรที่ได้รับหมายถึงอะไร ต้องทำอะไรบ้าง บางคนก็คิดว่าคุณแม่อยากอวดลูก แต่ก็มีหลายคนที่เข้ามาเตือนว่าเป็นเรื่องหลอกลวงชวนเสียเงิน
ต่อภาพเล็กเป็นภาพพาโนราม่า
การถ่ายภาพมุมกว้างมาก หรือ ภาพพาโนราม่า ปกติเราจะต้องใช้กล้องพิเศษหรือเลนส์พิเศษที่รับภาพกว้างมาก อาจจะเป็นกล้องหมุนเพื่อหันกวาดภาพจากซ้ายไปขวา หรือ ใช้เลนส์มุมกว้างมากถ่ายมาแล้วคร็อบด้านบนด้านล่างออกให้เหลือสัดส่วนภาพยาวๆ หรืออาจจะใช้กล้องพิเศษอย่าง xpan ที่ให้ภาพจอกว้างสัดส่วน 24:65 ซึ่งทั้งหมดเราสามารถเรียกว่าเป็นภาพพาโนราม่าได้
แต่ถ้าเรามีอุปกรณ์แบบกล้องถ่ายภาพทั่วไป ไม่ได้มีเลนส์มุมกว้างพิเศษ เราก็ยังพอจะมีเทคนิคการถ่ายภาพแล้วทำเป็นพาโนราม่าได้โดยการต่อภาพนั่นเอง
เวลาถ่ายภาพก็ให้ถ่ายมาหลายภาพ ค่อยๆถ่ายเริ่มจากซ้ายไปขวา แล้วปรับมุมกล้องให้เก็บภาพทีละนิด อย่างภาพเหตุการณ์ในสนามฟุตบอลผมก็ถ่ายมา 3 ภาพ คือมีซ้าย กลาง และขวา กะประมาณด้วยสายตาว่ามีส่วนที่ทับซ้อนกันเพื่อให้ต่อภาพได้ง่าย
เมื่อได้ภาพมาสามภาพ ขั้นตอนต่อไปคือการต่อภาพ ในอดีตจะต่อภาพด้วยการวางภาพใน photoshop เล็งด้วยตาตัวเองว่าจะให้ส่วนไหนต่อกัน จะให้ภาพไหนทับอีกภาพหนึ่ง เป็นการเล็งด้วยสายตา แต่ในปัจจุบันมีซอร์ฟแวร์ช่วยต่อภาพจำนวนมาก เราสามารถต่อภาพพาโนราม่าแบบเนียนสวยไม่เห็นรอยต่อได้เลย แถมซอร์ฟแวร์ช่วยต่อภาพยังเซพไฟล์ภาพใหม่โดยมีข้อมูลวันที่ถ่ายภาพติดอยู่ในไฟล์ได้ตรงกับวันที่เดิมในภาพต้นฉบ้บด้วย แบบนี้ยอดเยี่ยมมาก
เห็นภาพที่ซอร์ฟแวร์ช่วยต่อแล้วก็ชอบใจมาก ซอร์ฟแวร์ฉลาด ต่อภาพได้เนียนไม่เห็นรอยต่อเลย ค่าแสงสว่างแต่ละภาพที่ต่อกันก็กลมกลืน แตกต่างไปจากซอร์ฟแวร์ในยุคแรกมากๆที่ต่อภาพไม่เนียนเท่านี้ และต่อให้คนทำเองก็อาจจะไม่เนียนเช่นกันแถมยังเสียเวลาอย่างมาก ซอร์ฟแวร์ต่อภาพช่วยต่อให้ได้ในเวลาไม่กี่วินาที สุดยอดมาก
แนะนำซอร์ฟแวร์ที่ใช้คือ Bimostich Lite ซึ่งทำงานบนโทรศัพท์ ไปโหลดได้ใน playstore ได้เลย ผมใช้โทรศัพท์ android ในการโหลดซอร์ฟแวร์ตัวนี้มาใช้ เวอร์ชั่นที่ใช้เป็นแบบฟรี มีแบบเวอร์ชั่นเสียเงินด้วยแต่ไม่ได้ลอง
ลองเอาภาพที่ถ่ายมุมอื่นๆมาทำพาโนราม่าอีก ก็ได้ภาพพ่อลูกในเฟรมเดียวกัน แต่ถ้าดูรายละเอียดของภาพจะเห็นว่า ด้านลูกฉากหลังจะเบลอ เพราะเป็นการถ่ายภาพคนให้หน้าชัด ฉากหลังก็จะเบลอ ส่วนด้านพ่อก็ฉากหลังเบลอเช่นเดียวกัน แต่ตรงกลางภาพใช้ภาพที่ถ่ายโฟกัสที่สนาม มันก็เลยชัด พอเอามาต่อกัน ฉากหลังของลูกและพ่อ จะไม่กลมกลืนไปกับตรงกลางภาพที่โฟกัสชัดที่ระยะไกล การถ่ายภาพเล็กๆเพื่อนำมาต่อเป็นพาโนราม่าควรจะคิดถึงความคมชัดของภาพที่จะต่อด้วย ควรจะมีความคมชัดในระดับเดียวกัน หรือมีความสมจริงกว่านี้ วิธีแก้ไขก็คือ ภาพคนควรจะถ่ายโดยใช้รูรับแสงแคบมากสักหน่อยเพื่อให้มีความชัดครอลคลุมไปถึงฉากหลัง

























