ถ่ายคลิปในที่ลมแรง ต้องมีตัวป้องกันเสียงลม windscreen

การถ่ายคลิปวิดีโอในปัจจุบันเป็นเรื่องง่าย เพราะทุกคนสามารถใช้สมาร์ทโฟนถ่ายคลิปวิดีโอได้อยู่แล้ว และกล้องดิจิทัลก็มีความสามารถในการถ่ายวิดีโอมาตั้งแต่ต้น ปัจจุบันความสามารถในการถ่ายวิดีโอก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ความละเอียดมากขึ้น มีระบบกันสั่นที่ดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่พัฒนาไม่ทันคือเทคโนโลยีการป้องกันเสียงลม

s-l1600

การบันทึกคลิปวิดีโอจะมีปัญหาทันทีถ้ามีลมแรงพัดผ่านไมโครโฟนบนกล้อง ทั้งลมจากปาก และลมจากสิ่งแวดล้อม ไมโครโฟนจำนวนมากที่ต้องใช้กับปากคนจะต้องมีตัวฟองน้ำหุ้มเอาไว้ เราจะเรียกตัวฟองน้ำนี้ว่า windscreen เพราะเสียงลมจากปากจะทำให้เกิดเสียงพรึ่บพรั่บ

819U9cS8Z+L._AC_SX522_

ไมโครโฟนอีกหลายตัวจะมีตัวป้องกันลมเป็นแบบมีขน คนไทยก็เรียกขนแมว ฝรั่งก็เรียก dead cat ซึ่งมันก็คือ windscreen ชนิดหนึ่งนั่นเอง

กล้อง Sony Zv-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่ออกแบบมาให้ใช้บันทึกวิดีโอเป็นหลัก เน้นการใช้งานวิดีโอ และไมโครโฟนที่ติดอยู่บนกล้องก็เป็นไมค์คุณภาพดี แต่อย่างไรก็ตาม การใช้งานในที่ลมแรงก็จะมีปัญหาเรื่องเสียงเสมอ การป้องกันเสียงลมที่ดีที่สุดยังคงต้องใช้ตัวป้องกันแบบดั้งเดิม คือ ต้องมี windscreen ซึ่งเราก็จะเห็นตัวขนแมวสีขาวติดอยู่บนกล้อง หากไม่ใช้ก็สามารถถอดเก็บได้ ดังนั้น เมื่อเราจะใช้ Zv-1F ถ่ายคลิปวิดีโอก็ควรติดตัวป้องกันเสียงลมไว้เสมอ

ภาพด้านล่าง คลิปแรกจะเป็นการสาธิตการไม่ใช้ตัวป้องกันเสียงลม ส่วนคลิปด้านล่างจะใส่ตัวป้องกันเข้าไปด้วย ลองฟังเสียงคลื่นริมทะเลเปรียบเทียบกัน แล้วจะรู้ได้ว่า เสียงลมกระแทกไมโครโฟน หรือ เสียงพรึ่บพรั่บเป็นอย่างไร

คลิปบันทึกริมทะเล ลมแรง ไม่ใช้ windscreen

คลิปบันทึกริมทะเล ลมแรง ใช้ windscreen

กล้องใหม่เทียบกล้องเก่า

ขึ้นชื่อว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ จะมีสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับของชนิดนี้คือของใหม่มักจะดีกว่าของเก่า ในแง่ของคุณภาพและประสิทธิภาพ เราจะเห็นได้จากโทรศัพท์ในปีนี้ ดีกว่าโทรศัพท์เมื่อห้าปีที่แล้วแทบจะทุกแง่มุม ยิ่งถ้าเทียบกันระดับ 10 ปี ยิ่งมีควาามแตกต่างกันอย่างมาก

กล้องถ่ายภาพก็อยู่ในวิธีคิดเดียวกัน กล้องที่ผลิตออกมาในปีนี้หรือรุ่นล่าสุด ย่อมดีกว่ากล้องเมื่อสิบปีที่แล้ว ทั้งในด้านของคุณภาพของภาพ และความไวแสงของกล้อง กล้อง DSLR รุ่นแรกๆยุคยี่สิบปีที่แล้ว ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยภายในบ้านก็ให้ภาพที่แตกยับแล้ว แต่กล้องสมัยใหม่ ถ่ายภาพในห้องนอนแสงน้อยๆ ก็ถ่ายได้หน้าตาเฉย ให้ภาพที่ดีกว่ากันมาก

แม้แต่รายละเอียดของกล้องก็มีให้มากขึ้น จากภาพทดลองถ่ายภาพลูกฟุตบอลในสนามหญ้า ตอนกลางวัน ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่มีแสงสว่างเพียงพอ คุณภาพของกล้องในด้าน iso จะไม่ต้องเร่ง iso ให้สูง ดังนั้นเราจะเห็นคุณภาพในด้านรายละเอียดได้ชัดเจน ถ่ายภาพแรกด้วยกล้อง DSLR canon Eos6d เป็นกล้องที่เปิดตัวในปี 2012 ติดเลนส์ 24-105F4L ตั้งค่า iso เป็น Auto ถ่ายด้วยโหมด A ให้กล้องเลือกค่าความไวชัตเตอร์ให้เอง

IMG_1745

ส่วนอีกภาพจะเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง Sony ZV-1F เป็นกล้องคอมแพ็คที่เปิดตัวในปี 2022 ตั้งค่า iso Auto ถ่ายด้วยโหมด A รูรับแสง F2 แล้วให้กล้องเลือกความไวชัตเตอร์ให้ โดยเลือกซูมภาพไปที่ 2X บนเลนส์ 20mm

DSC00672

จะเห็นได้ว่า ภาพมีความสว่างต่างกัน กล้องรุ่นใหม่จะให้รายละเอียดในเงามืดได้มากกว่า สภาพแสงในส่วนที่เป็นเงาจะไม่เข้มเท่ากล้องเก่า ตัวประมวลผลในกล้องรุ่นใหม่จะเน้นให้รายละเอียดได้รับการมองเห็นมากขึ้นกว่ากล้องรุ่นเก่า ภาพลักษณะนี้ถ้าถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะยิ่งเก็บรายละเอียดส่วนมืดได้ดีขณะที่ส่วนสว่างก็ยังเห็นรายละเอียด

กล้องยิ่งใหม่ ความสามารถในการเก็บความแตกต่างของแสงยิ่งได้หลายสต๊อปมากขึ้น เราจะเรียกว่ามีไดนามิคเร้นจ์ที่กว้างมาก กล้องรุ่นเก่าไดนามิคเร้นจ์จะต่ำกว่า ต่อให้เป็นกล้องระดับโปรในอดีต ก็ยังเก็บไดนามิคเร้นจ์ได้ไม่เท่ากล้องรุ่นใหม่แม้จะเป็นเพียงกล้องคอมแพ็คหรือสมาร์ทโฟน ดังนั้น ในเรื่องของกล้องดิจิทัลซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เราควรเลือกกล้องใหม่ เพิ่งออกใหม่ จะดีกว่ากล้องเก่าเสมอ