หนังสือการตลาดแบบบอกต่อ

IMG_3651

หลังจากที่ได้รู้จักการขยายธุรกิจด้วยเครื่องมือการตลาดชนิดหนึ่งที่ใช้คำว่า การตลาดแบบบอกต่อ หรือ Referral Marketing  ผมก็เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองไปทีละน้อย  จากเดิมที่เคยออกจากบ้านไปหางาน ไปสู่การแย่งชิง หาลูกค้า ขายของ พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะได้งาน  และพบว่า เราได้งานบ้าง ไม่ได้งานบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่กับความรู้สึกตลอดเวลาคือ เราโดดเดี่ยว เหมือนต่อสู้อยู่กับทุกคน

เราเคยออกจากบ้านไปงานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่าด้วยการพกนามบัตรไปเต็มกล่อง คิดว่าจะไปหาลูกค้าจากกลุ่มเพื่อนเก่า  แต่พอไปถึงงานเรากลับรู้สึกอยากพูดคุย ถามไถ่ เราอยากรู้เรื่องราวชีวิตของเพื่อน เราอยากเล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังบ้าง เราไม่ได้อยากมาขายของ  และตัดสินใจเก็บนามบัตรไว้ ไม่หยิบแจกถ้าไม่มีใครขอ อยู่ในงานเลี้ยงรุ่นด้วยความรู้สึกอยากอยู่กับเพื่อนเก่า อยากนั่งคุยให้นานๆ  ผ่านไปสักสองชั่วโมงก็ค้นพบว่า เราไม่ได้ต้องการเป็นเซลส์ตลอดเวลา เราอยากมีเวลาสนุกสนานกับคนอื่นๆ  เวลาที่ไม่ใช่การของาน  ไม่ใช่การแย่งงาน ไม่ใช่การขอร้องให้เขาซื้อเรา

ความรู้ทางการตลาดแบบบอกต่อ เปลี่ยนให้เรารู้จักกับคำว่าให้  เปลี่ยนประโยคคำถามจากซื้อของเราไหม เป็น ธุรกิจคุณเป็นอย่างไร  เรารู้จักคนอาชีพนี้ เขาจะมีประโยชน์กับคุณไหม  คุณอยากให้เราช่วยอะไรบ้าง  ทุกคำถามไม่ได้ออกมาแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่มันค่อยๆหลุดออกจากปากเราในการพูดคุยอย่างมีมารยาทและเชื่อว่าถูกกาลเทศะ  มันดูเหมือนเราเป็นคนผู้กว้างขวาง แต่จริงๆเราก็ยังเป็นคนธรรมดาที่บังเอิญรู้จักคนอีกหลายอาชีพ  และบางอาชีพในแวดวงของเราก็มีประโยชน์กับเพื่อนเก่า  บางคนที่กำลังมีปัญหาบางอย่าง เราก็อาจจะได้แนะนำให้คนที่เรารู้จักอีกกลุ่มหนึ่งมาช่วยเพื่อนเราได้

ยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ได้เรียนรู้ไปกับการทำงานโดยใช้การตลาดแบบบอกต่อ  ได้เรียนรู้การตั้งเป้าหมาย การแบ่งงาน  การทำงานร่วมกันเป็นทีม และที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ไม่เคยได้จากการทำงานตัวคนเดียวก็คือการได้หัดไว้วางใจในตัวเพื่อนร่วมทีม  เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจยาก แต่พอได้สัมผัส ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เราจะต้องไว้ใจกัน มันเกิดผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม และทำให้เราเรียนรู้ที่จะไว้ใจลูกน้อง  และสุดท้ายมันส่งผลดีต่อบริษัท ส่งผลดีต่อธุรกิจของเราเอง

หนังสือเล่มนี้ค่อยๆเขียนจากประสบการณ์การเป็นคนทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องน่ารู้ประจำสัปดาห์ให้กับเพื่อนร่วมงาน ทุกเรื่องที่ผมเคยเล่าก็จะถูกเรียบเรียงเป็นตัวหนังสือไว้ก่อน  ทำความเข้าใจแล้วค่อยๆเล่าให้เพื่อนฟัง  ตัวหนังสือเหล่านี้เลยถูกรวบรวมอีกครั้งให้เป็นเล่ม  เพื่อใช้ส่งต่อประสบการณ์ของการใช้การตลาดแบบบอกต่อในการทำธุรกิจ 

นอกจากความรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนในการแก้ปัญหาแล้ว  เรายังได้เรียนรู้ขั้นตอนพิเศษที่หาเรียนได้ยาก นั่นคือการคิดแบบ Growth mindset หรือการมุ่งแสวงหาการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ  หาปัจจัยที่พาธุรกิจของเราให้ก้าวผ่านวิกฤต  การวิเคราะห์หาแนวทางเพื่อเติบโตเป็นสิ่งที่ถูกฝึกฝนให้คิดและทำตลอดเวลา  ผลลัพธ์คือการพัฒนาตัวเอง  ผลลัพธ์ต่อเนื่องคือสร้างการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจของเราเองและช่วยให้ธุรกิจของเพื่อนเติบโตไปด้วย 

อีกหนึ่งผลลัพธ์ที่ได้รับจากแหล่งความรู้ในเล่มนี้ก็คือ รู้แล้วอยากออกไปทำงาน  รู้แล้วอยากออกไปแก้ไขสิ่งที่เคยทำไว้ไม่ดีนัก  เป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากความรู้ประเภทชี้ช่องรวย อ่านวันนี้พรุ่งนี้สำเร็จ  หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แนวนั้น  เมื่ออ่านจบแล้วเราทุกคนยังคงต้องทำงานหนัก เพื่อพัฒนาคุณภาพงาน พัฒนาธุรกิจของเราเองต่อไป

สำหรับนักอ่าน  ท่านสามารถเลือกอ่านเนื้อหาในเล่มได้ตามสะดวก ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ จะข้ามไปยังบทที่สนใจเลยก็ได้  เพราะทุกบทเป็นบทที่จบในตัว เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เข้าใจการตลาดแบบบอกต่อและใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจของท่านได้

หากสนใจต้องการอ่านเป็นเล่ม ฝากชื่อ อีเมล ที่อยู่จัดส่งและเบอร์โทร ไว้ในแบบฟอร์มนี้ครับ

Go back

Your message has been sent

Warning
Warning
Warning
Warning.