หูฟังชนิดไร้สายที่ส่งสัญญาณผ่านระบบบลูทูธได้รับความนิยมอย่างมาก ใครที่ต้องการหูฟังสำหรับฟังเพลง หรือ สำหรับการพูดคุยโทรศัพท์และการประชุมจะพยายามหาหูฟังไร้สายเป็นลำดับแรก หูฟังไร้สายระบบบลูทูธที่มาพร้อมกล่องเก็บป้องกันหายและยังเป็นกล่องที่ชาร์จไฟได้ในตัวกลายเป็นแพ็คเกจมาตรฐานของหูฟังบลูทูธในยุคนี้ไปเสียแล้ว และผู้ที่นำเสนอหูฟังไร้สายพร้อมกล่องชาร์จไฟได้ในตัวเป็นเจ้าแรกก็คือ Apple นั่นเอง โดยหูฟังไร้สายรุ่นแรกของค่ายนี้ที่มาพร้อมกล่องชาร์จก็คือ Apple Airpod ซึ่งภายหลังเราจะเรียกเพิ่มเติมว่า Airpod Gen1 เพราะว่าในอีกหลายปีต่อมาก็มี Gen2 ออกมา และมี Airpod pro ตามออกมาด้วย
Apple Airpod Gen1 เป็นหูฟังที่นำหูฟัง Earpod ดั้งเดิมที่เป็นรุ่นมีสายมาตัดสายออก แล้วยัดแบตเตอรี่ไว้ในหูฟัง พร้อมทั้งออกแบบกล่องเก็บหูฟังให้มีแบตเตอรี่ในกล่อง ทำให้ตอนเก็บหูฟัง ตัวกล่องสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าเข้าไปชาร์จหูฟังได้ และตัวกล่องก็มีช่องเสียบสาย lightning แบบเดียวกับ iphone เอาไว้ชาร์จไฟเข้ากล่อง
คุณภาพเสียงของหูฟัง Earpod เป็นหูฟังเสียงดี ให้ความเป็นกลาง มีเบสชัดเจน มีปลายแหลมพอใช้ สามารถใช้ฟังดนตรี ฟังเสียงทั่วไปได้เป็นอย่างดี และคุณสมบัติทางเสียงเหล่านี้ก็ได้รับการถ่ายทอดไปสู่หูฟังไร้สายอย่าง Airpod ด้วยเช่นกัน เราคาดหวังว่า Earpod จะให้เสียงเป็นอย่างไร หูไร้สายก็เสียงเหมือนแบบมีสายแทบไม่ต่างกันเลย มันจึงเป็นหูฟังไร้สายที่จัดว่าเสียงดีมาก นักฟังเพลงที่ชอบดนตรีชัดๆ น่าจะชอบหูฟังอย่าง Airpod ได้ไม่ยาก เจ้าของ iphone ทุกคนก็จะคุ้นเคยกับเสียงเดิมนี้เช่นกัน
ด้วยความที่ได้รับความนิยมล้นหลาม และขายดีทั่วโลก ก็มีผลทำให้มีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสสำหรับใส่กล่องชาร์จออกมาขายจำนวนมาก และผมก็เลือกซื้อเคสหน้าตาเหมือนแอมป์กีต้าร์มาใช้ มันก็ดูน่ารักดี ผมซื้อ Airpod Gen1 มาก่อนหลายเดือนให้ภรรยาใช้ และซื้อ Airpod Gen2 มาเพิ่มเติม ทั้งสองรุ่นหน้าตาเหมือนกัน ถ้าวางปนกันจะแยกไม่ออกเลย และกล่องชาร์จของทั้งคู่ก็ยังมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันอีก ถ้าไม่ใส่เคสที่แตกต่างกันจะดูไม่ออกเลย สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Airpod Gen1 กับ Gen2 ก็คือ กล่องชาร์จของรุ่น Gen2 จะเป็นกล่องที่ชาร์จระบบไร้สายได้ นั่นคือเราสามารถวางกล่องชาร์จของ Gen2 บนที่ชาร์จไร้สายได้เพื่อชาร์จไฟเข้ากล่อง เป็นความสะดวกที่มาตามยุคสมัย
ผลการทดลองฟัง
น้ำเสียงของ Airpod ให้ความสมดุลย์ของเสียงทุกย่านพอกัน เป็นแนวทางของเสียงที่เราเรียกว่าเสียงมอนิเตอร์ เราสามารถใช้หูฟังตัวนี้ในการฟังเปรียบเทียบ หรือ ฟังตรวจสอบงานบันทึกเสียงได้ดี มันให้เสียงกลางที่ชัด ให้น้ำหนักแรงประทะของเสียงกลองได้กระชับ ให้เบสได้ลงลึกและไม่มากเกินไป เสียงย่านต่ำไม่บวม เป็นสัดส่วนทุ้มกลางแหลมที่ลงตัวมาก หูฟังไร้สายยี่ห้ออื่นมักจะมีเสียงไม่โปร่ง ไม่ใส ไม่ชัด ขาดบ้าง เกินบ้าง บางยี่ห้อก็เบสเยอะมาก บางยี่ห้อก็ใส่ไม่สบาย Airpod ของ Apple นี่แหละที่ใส่ได้สบายที่สุด ใส่หลายๆชั่วโมงก็ยังไม่รู้สึกรำคาญหรืออึดอัด
ผมทดลองใช้งานกับโทรศัพท์ android ของ Xiaomi ซึ่งก็เชื่อมต่อได้ดี แต่มีปัญหาหนึ่งที่พบก็คือ Airpod Gen1 ต่อกับ Android แล้วเสียงฟังเพลง รวมถึงดู Youtube ต่างก็ให้เสียงที่เบามาก แต่เสียงพูดคุยตอนโทรศัพท์ยังดังปกติ ส่วน Airpod Gen2 ให้เสียงที่ดังปกติทั้งการฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ ไม่พบอาการเสียงเบาแบบ Gen1 ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกอยู่ ดังนั้น ใครใช้ Android เมื่อจะหาหูฟัง Airpod มาใช้ ต้องระวังอย่าไปเลือกใช้ Gen1 เพื่อจะได้ไม่ต้องพบปัญหาเสียงเพลงเบา ความเบานี้เป็นระดับ่ที่เบาจนฟังแทบไม่รู้เรื่องถ้าไม่อยู่ในที่เงียบจริงๆ ถ้าเราเดินอยู่ในที่สาธารณะ หรือ ขับรถ นั่งรถอยู่ เราจะฟังเสียงเบาๆนี้ไม่รู้เรื่องเลย คือเบาจนใช้งานไม่ได้นั่นเอง
แต่กับการใช้ Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 กับโทรศัพท์ iphone กลับไม่มีปัญหาใดๆเลย ทั้งคู่ให้เสียงที่เหมือนกันมากจนแยกแยะไม่ออกว่าตัวไหนเป็น Gen1 หรือ Gen2 ผมพยายามหาข้อมูลในเน็ตแล้วว่าจะทำยังไวให้ตั้งค่า Gen1 กับมือถือ Android ให้มีระดับเสียงที่ดังปกติ แต่ก็ไม่พบวิธีทำที่ได้ผล
สรุป Apple Airpod ทั้ง Gen1 และ Gen2 ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ให้น้ำหนักเสียงทุ้มกลางแหลมที่พอดีทุกย่าน สามารถใส่เพื่อฟังเป็นเวลานานก็ได้ การชาร์จไฟเต็มกล่องชาร์จแล้วหมั่นใช้หมั่นวางหูฟังเก็บเข้ากล่องก็จะทำให้หูฟังสามารถใช้งานได้หลายชั่วโมง บางครั้งหากธุระการพูดคุยไม่มาก เราก็พกหูฟังพร้อมกล่องโดยไม่ต้องเสียบชาร์จตัวกล่องได้หลายวัน แต่ถ้าเล่นโทรศัพท์เยอะ ใช้งานทั้งวันก็ทำให้เราต้องชาร์จไฟเข้ากล่องประมาณวันเว้นเว้น และหากใครจะซื้อเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์ระบบ Android ควรได้ทดลองก่อนซื้อ เพื่อป้องกันกรณีเสียงเบาเร่งไม่ขึ้นด้วย
สั่งซื้อได้ที่นี่ https://shope.ee/AUY1dBdQqg




