กาแฟโครงการหลวง

มีธุระต้องไปที่สนามบินดอนเมือง และได้เดินผ่านร้านขายของโครงการหลวง ก็เลยแวะดูว่ามีอะไรน่าสนใจ ก็สะดุดตากับกาแฟกล่องนี้ เป็นกาแฟโครงการหลวง ในรูปแบบของแค็ปซูลแบบ nespresso ก็เลยลองซื้อมากินดู 1 กล่องมี 10 แค็ปซูล ราคากล่องละ 240 บาท

20220320185345_IMG_0047

ไม่ได้คาดหวังว่ารสชาติจะดีหรือจะเป็นแบบไหน เพราะเจตนาอยากจะชิมเท่านั้น อารมณ์กาแฟจริงๆแล้วน่าจะอยู่ที่บรรยากาศที่เรากำลังสัมผัส แล้วกาแฟเป็นตัวที่ช่วยหยุดให้ใจเราอยู่กับเหตุการณ์นั้นนานขึ้น กาแฟอร่อยก็เป็นกำไร กาแฟไม่อร่อยก็เป็นเวรกรรม รสชาติของกาแฟตัวนี้อยู่ในระดับที่พอใช้ได้ กินได้ ไม่แย่ กลิ่นหอมแต่ไม่มาก ถือว่ากลิ่นไม่เด่นเท่าไหร่ มีรสอมเปรี้ยวนิดๆ ซึ่งเป็นลักษณะที่ดีชวนให้นึกถึงกาแฟของ Duchess ชื่อรุ่น lamoon แต่ความเปรี้ยวไม่เท่า

20220320185311_IMG_0045

ไสกาวหนังสือ 500 หน้า

วันนี้มีลูกค้าที่ได้รับการแนะนำจากลูกค้าเก่ามาท่านหนึ่ง โทรคุยกันเรื่องการไสกาวหนังสือความหนาประมาณ 500 หน้า ลูกค้าไปถ่ายเอกสารหรือพิมพ์เป็นงานกระดาษ A4 ความหนา 80g แต่ว่าร้านนั้นไม่สามารถเข้าเล่มงานที่มีความหนาประมาณ 3.5cm ได้ ซึ่งความหนาระดับนี้ควรจะต้องทำเป็นงานไสกาวเท่านั้น และการทำงานไสกาวก็จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง

ทางโรงพิมพ์มีเครื่องไสกาวที่สามารถทำงานได้ความหนาระดับ 5cm ซึ่งโรงพิมพ์ก็ยังไม่เคยได้ลองทำงานที่หนาระดับนี้ แต่กับงานลูกค้าท่านนี้ 3.5cm เราก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่ก่อนจะยืนยันว่ารับงานทางโรงพิมพ์ก็ทดลองทำด้วยการใช้เสษกระดาษมาลองเข้าเล่มดู โดยกะประมาณความหนาของเศษกระดาษให้ใกล้เคียงงานจริง จากนั้นก็ทดลองไสกาวดู และเมื่อพบว่าทำได้ ก็แจ้งกับลูกค้า ลูกค้าก็ยืนยันให้ทำได้เลย

เครื่องจักรที่เราใช้ก็ดูได้จากในคลิปวิดีโอได้เลย ผลการทำงานก็ประสบความสำเร็จ ลูกค้าให้ทางโรงพิมพ์ด้วยพิมพ์ปกให้ด้วย เรารับไฟล์งานปกหนังสือจากลูกค้า จากนั้นปรับแต่งให้ปกมีความหนาของสันหนังสือเท่ากับเนื้องานตัวจริงด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มทำงาน

หนังสือที่ไสกาวเสร็จแล้ว รอเวลาแห้งตัวสัก 3 ชม. แล้วก็ทดลองถือแบบในคลิปดู พบกว่า หนังสือมีความแข็งแรง และไม่หลุดร่อน ก็ถือว่าจบงานได้เรียบร้อย

IMG_20220318_100231

IMG_20220318_100420

ถูกล็อตเตอรี่ ขึ้นเงินที่ไหนดี

IMG_20220316_161338

ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งมีครั้งนี้แหละที่ถูกล็อตเตอรี่ ปกติเวลาซื้อก็มักจะไม่ได้สนใจว่าจะถูกหรือเปล่า เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก ซึ่งมันก็ยากจริงๆนั่นแหละ แต่ครั้งนี้ หลังจากที่เดินผ่าน แล้วเห็นล็อตเตอรี่บนแผงอยู่ 1 ใบ ที่อยู่แบบโดดเดี่ยว ไม่ได้อยู่ติดกับใบไหน ดูเหมือนเป็นเลขที่ไม่มีคนสนใจ ก็เลยขอซื้อใบนี้แหละ

ล็อตเตอรี่ราคา 100 บาท เป็นการขายเกินราคาที่ไม่มีการแก้ไขจากหน่วยงานไหนเลย ผมก็ได้แต่แปลกใจที่ข้าราชการไทยทุกคนไม่คิดจะแก้ไขเรื่องนี้ แถมยังเคยมีข่าวอีกด้วยว่า ท่าน ผอ. กองฯ ได้ลองตรวจตามแผงขายล็อตเตอรี่แล้วก็ไม่พบว่ามีการขายเกินราคา ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ไม่ได้เหลือเชื่อว่าไม่มีขายเกินราคา แต่เหลือเชื่อว่ามีคนหน้าด้านทำงานในตำแหน่งระดับนี้อยู่ด้วย

messageImage_1647439142471

พอตอนเย็นเมื่อพ้นเวลาออกรางวัลไปแล้ว ก็ลองหยิบมาตรวจดู ตรวจทางอินเทอเน็ต ระบบก็แจ้งว่า ถูกรางวัล ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการถูกล็อตเตอรี่ครั้งแรกในชีวิต เนื่องจากไม่ค่อยได้ซื้อนั่นเอง และสิ่งที่ตามมาก็คือ เราจะไปแลกเงินได้ที่ไหน

หาข้อมูลต่อเรื่องการขึ้นรางวัล ทำไมต้องใช้คำว่าขึ้นรางวัลก็ไม่รู้เหมือนกัน มันน่าจะเป็นคำว่า รับเงินรางวัล แลกเงินรางวัล แต่ก็ช่างมันเถอะ หลังจากดูข้อมูลในเว็บหลายแห่งที่มีแต่ข้อมูลขยะมากกว่าเนื้อหา อดทนอ่านจนได้คำตอบว่า การไปรับรางวัลที่กองสลากต้องไปที่แถวสนามบินน้ำซึ่งผมไม่รู้จัก เพราะความทรงจำวัยเด็กผมคิดว่ากองสลากอยู่บบนถนนราชดำเนิน แต่ก็คงย้ายไปหลายปีแล้ว เพราะตึกเดิมที่เคยมีคนขายล็อตเตอรี่ก็โดนปรับปรุงไปเป็นอย่างอื่นแล้ว

ถูกล็อตเตอรี่ไปขึ้นรางวัลที่ไหนได้บ้าง มีทางเลือกดังนี้ (ข้อมูลจากอินเทอเน็ต ไม่อัพเดท)

1 การไปรับเงินจะรับตรงจากกองสลากก็ได้ จะเสียค่าภาษี 0.5%

2 ไปขึ้นรางวัลที่ธนาคารกรุงไทย จะโดนหักรวม 1% โดยแบ่งเป็นค่าภาษี 0.5% ค่าธรรมเนียม 0.5%

3 ไปขึ้นรางวัลที่ธนาคารออมสิน จะโดนหัก 1.5% โดยแบ่งเป็นค่าภาษี 0.5% ค่าธรรมเนียม 1%

4 ไปรับเงินจากแผงล็อตเตอรี่ก็ได้ แต่แผงเหล่านั้นจะหักเงินประมาณ 2-3% ไม่แน่นอน

5 ไปแลกเงินที่ร้านทองก็ได้ โดนหักประมาณ 2-3% เช่นกัน

สรุปคือ การรับเงินรางวัลจะไม่ได้เงินเต็มจำนวน ต้องโดนหักภาษี และอาจจะต้องโดนค่าธรรมเนียมอีกด้วย แถมตอนซื้อก็ยังไม่มีสิทธิ์จะซื้อล็อตเตอรี่ราคา 80 บาทอย่างตรงไปตรงมาได้ เจอแต่ราคา 100 บาทขั้นต่ำ ยิ่งเลขสวย เลขที่มีคนกำลังลือว่าอาจจะถูก เลขเหล่านี้บางที่ขายแพงกว่าปกติอีก


หลังจากไปขึ้นรางวัล ก็สรุปได้ดังนี้ครับ

การไปรับรางวัล ผมเลือกใช้วิธีไปขึ้นรางวัลที่ธนาคารกรุงไทย ไปกดบัตรคิวแล้วก็รอเรียก โดยก่อนจะกดบัตรคิวจะมีเจ้าหน้าที่ที่บัตรคิวถามอีกครั้งว่ามาทำอะไร ตอบว่ามาเบิกเงินรางวัลล็อตเตอรี่ เจ้าหน้าที่จะถามอีกครั้งว่างวดไหน ก็ตอบว่างวดล่าสุด เพราะธนาคารน่าจะไม่รับแลกสำหรับย้อนหลัง

ที่เค้าเตอร์พนักงาน ยื่นล็อตเตอรี่ให้ เจ้าหน้าที่จะจัดทำเอกสารเหมือนเราไปเบิกเงิน และจะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงด้วย ใช้ใบขับขี่แทนได้ไหม เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ได้

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำเอกสาร เราจะต้องเซ็นชื่อในกระดาษ 3 ครั้ง กับเขียนชื่อที่หลังล็อตเตอรี่อีก 1 ครั้ง รวมเป็น 4 ครั้ง

ธนาคารจะหักค่าธรรมเนียม 1.5% เงินรางวัล 4000 บาท จะเบิกได้ 3940 บาทเท่านั้น ตัวเลข 1.5% นี้มากกว่าตัวเลขที่เจอในเว็บต่างๆ ดังนั้น ค่าธรรมเนียมที่ธนาคารคิดต้องเช็คใหม่ มันไม่เท่าเดิมที่เคยอ่าน

สรุปผลประกอบการ ซื้อล็อตเตอรี่ 100 บาท ได้รางวัล 3940 บาท ถ้าถูกเลขท้ายสามตัว
สรุป2 ล็อตเตอรี่ 80 บาท ไม่มีจริง ใครบอกว่ามี มันโกหก ถูกรางวัลต้องโดนหักภาษี แต่ตอนขายเกินราคาไม่ทำงาน ไม่กวาดล้าง ไม่ทำให้ถูกต้อง ปล่อยให้มีอยู่คู่สังคมไทย

IMG_20220323_085208_1

Nec204 – พลังของ testimonial

เมื่อตอนที่ BNI เริ่มต้น  ในช่วงเวลาแรกที่มีเพียง 1 แช็ปเตอร์  ดร.ไอแวน ดำเนินการประชุมด้วยตัวเอง  องค์ประกอบของการประชุมก็จะมีขั้นตอนไม่ต่างจากการประชุมในปัจจุบัน  มีการแนะนำแขก  มีการแนะนำธุรกิจตัวเอง  มีการพรีเซ้น 5 นาทีของสมาชิก  และสุดท้ายคือมีการมอบ Referral ให้แก่กัน

dpp - Bod 23may2023 -IMG_4127

ในขั้นตอนการมอบ Referral จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวาระการประชุมที่ทุกคนจะมีส่วนพูด  สมาชิกจะบอกว่าเรามี Referral ให้ใคร  เมื่อถึงคิวพูด คนพูดจะยืนขึ้น  แล้วบอกว่า ผมมี หรือ ฉันมี Referral ให้ คุณเอ  มี Referral คุณ บี   และถ้าบังเอิญว่าไม่มี Referral ให้เพื่อน  สมาชิกคนนั้นก็จะพูดว่า ผมไม่มี Referral หรือ พูดว่า “ผ่านครับ”  ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทุกคนเข้าใจและทำกันแบบนี้เมื่อยังไม่มี Referral ให้เพื่อน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง  สมาชิกเป็นคุณหมอด้านการจัดกระดูก  เขาได้บอกกับ ดร. ก่อนเริ่มประชุมว่า เขามาเป็นสมาชิกสักพักแล้ว  และเขาไม่มี Referral เลย  เขาควรทำอย่างไรดี  เพราะการประชุมก็กินเวลาของเขา  และไม่มีผลลัพธ์อะไรเลย  ไม่มีใครชวนเขาคุยหรือถามเรื่องเกี่ยวกับอาชีพเขาเลย แล้วเพื่อนสมาชิกจะให้ Referral กับเขาได้ยังไงถ้าไม่ได้คุยเรื่องอาชีพจัดกระดูก

dpp - Bod 23may2023 -IMG_4142

ดร. ตอบว่า  ถูกต้อง ใช่เลย คุณควรจะทำให้เพื่อนได้ทดลองใช้บริการคุณ  แล้วเขาจะได้รู้ว่าอาชีพของคุณทำอะไร  มีประโยชน์อย่างไร  ซึ่งจะทำให้เพื่อนเข้าใจและสามารถให้ Referral ได้  ทำไมคุณไม่ลองแจกโปรแกรมตรวจ หรือ โปรแกรมฟรีบางอย่างให้สมาชิกล่ะ  การได้ทดลองจะทำให้เขาเข้าใจ และได้ไปเยี่ยมชมที่ทำงานคุณด้วย  
ในสัปดาห์ต่อมา คุณหมอจัดกระดูกก็ได้ทดลองทำตามคำแนะนำ  เขาแจกโปรแกรมทดลองให้กับสมาชิกบางคน  และเขาก็ได้เล่าให้ ดร.ไอแวนฟังแล้วว่า เขาได้ทำแล้ว  และจะรอดูว่าจะเป็นอย่างไร

หลังจากนั้นในอีกสัปดาห์ถัดมา  การประชุมก็ดำเนินมาถึงตอนที่จะให้ Referral เหมือนเคย  และคิวพูดก็วนมาถึงสมาชิกท่านหนึ่งซึ่งสัปดาห์นี้เขาไม่มี Referral ให้เพื่อน  ปกติ เขาก็จะยืนขึ้นแล้วบอกว่าผ่าน  แต่คราวนี้เขายืนและพูดว่า  ดร. ผมไม่มี Referral แต่ผมไม่อยากผ่าน  ….  ดร. ก็งง แล้วถามว่า ถ้างั้นคุณอยากจะทำอะไร  เขาบอกว่า ผมขอพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม  ดร.ตอบว่าได้  เชิญเลยสมาชิกท่านนี้ก็เล่าให้ฟังว่า  เขาได้แวะไปใช้บริการของคุณหมอนักจัดกระดูกแล้ว  ได้ตรวจเอ๊กซเรย์กระดูก ได้รับการจัดกระดูกโดยคุณหมอมาแล้ว  ปกติเขาจะมีอาการปวดหลังมานานประมาณ 7 ปี  เวลายืนนานๆก็จะปวดมาก  แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาไม่ปวด  และพอจะยืนนานๆได้แล้ว  เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้ทดลองจัดกระดูกกับคุณหมอ  และขอบคุณคุณหมอมากๆที่ได้แจกโปรแกรมทดลองใช้บริการให้กับเขา

dpp - Bod 23may2023 -IMG_4166

หลังจากพูดจบ  ดร. ก็เห็นว่า เพื่อนสมาชิกในห้องหลายคนก็เขียน Referral ให้คุณหมอ  ดร.ค้นพบว่า การประชุมครั้งนี้มีสิ่งที่แตกต่างไปจากปกติ  นั่นคือการพูดถึงบริการของเพื่อนๆเมื่อได้ทดลองใช้ไปแล้ว  การพูดว่า ผ่าน หรือ สัปดาห์นี้ไม่มี Referral เป็นสิ่งที่เสียโอกาส  ถ้าไม่มี Referral จริงๆก็ควรจะได้พูดแง่มุมอื่นของธุรกิจเพื่อนที่เราได้สัมผัสมา  นั่นจะทำให้คนฟังที่เหลือรู้สึกมั่นใจ หรือกล้าที่จะให้ Referral มากขึ้น  และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก การพูดถึงธุรกิจเพื่อนที่เราได้ใช้บริการ  หรือ การพูด Testimonial ก็เป็นสิ่งที่ถูกบรรจุไว้ในวาระการประชุม  เพราะประสบการณ์การใช้งานของเพื่อนคนหนึ่งจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนคนอื่นๆในที่ประชุม และคนในห้องประชุมจะจำได้  ทำให้มีโอกาสให้ Referral ได้มากขึ้นด้วย

dpp - Bod 23may2023 -IMG_4227


สรุปโดยย่ออีกครั้งถ้าคุณไม่มี Referral

นั่นก็เพราะเพื่อนไม่คุยกับคุณเกี่ยวกับอาชีพของคุณ

นั่นเป็นเพราะเพื่อนไม่เคยใช้บริการคุณ

เพื่อนไม่รู้ว่าคุณทำอะไรได้และน่าใช้หรือเปล่า

นั่นเป็นเพราะคุณไม่เคยให้เขาทดลองใช้คุณ ทั้งแบบฟรี หรือแบบราคาถูกพิเศษเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการมี testimonial

ลองหาวิธีทำให้เพื่อนรู้จักคุณนะครับ

ซูซูกิสวิฟท์ 2012 ซ่อมพัดลมแอร์

ซูซูกิสวิฟท์คือรถของคุณภรรยา เป็นรถที่ใช้งานมาประมาณเกือบสิบปีแล้ว นับว่าเป็นรถที่มีคุณภาพที่ดีและน่าใช้งาน เป็นรถที่สมรรถนะดีและประหยัดน้ำมันมาก ตอนนี้อายุรถเยอะเริ่มมีชิ้นส่วนเสียหายต้องเปลี่ยนแล้ว อยู่ๆก็เปิดแอร์ไม่ติด ตอนเช้าเปิดติด ตอนบ่ายบางทีก็ไม่ติด อาการติดบ้างไม่ติดบ้างเกิดขึ้นแบบนี้มาหลายวัน จนกระทั่งระยะหลังๆมักจะเปิดไม่ติดแล้ว

ตรวจสอบเบื้องต้น ลองสตาร์ทรถ แล้วเปิดแอร์ดู พัดลมหม้อน้ำทำงาน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เพราะว่าตอนเปิดแอร์ก็รู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์หน่วงลงตามปกติของการเปิดแอร์ รอบเครื่องตกลงเล็กน้อยซึ่งเป็นสัญญาณปกติของการเปิดแอร์ แต่ที่ผิดปกติคือไม่มีลมออกมา ก็เลยสันนิษฐานว่าพัดลมแอร์ภายในรถน่าจะมีปัญหา

เข้าไปหาข้อมูลต่อใน youtube ก็ได้ความรู้มาว่า ตัวควบคุมการหมุนของแอร์ในรถจะถูกสั่งการผ่านวงจรไฟฟ้าในแอร์ และสัญญาณไฟฟ้าจะวิ่งมาผ่านตัวรีซีสแตนท์ก่อนแล้วค่อยต่อไปยังพัดลม ไฟควบคุมพัดลมจะถูกสั่งให้หมุนแรงหรือหมุนเบา ไฟจะวิ่งผ่านตัวต้านทานรีซีสแตนท์ตัวนี้ก่อน ดังนั้น ถ้าพัดลมไม่หมุน ก็เป็นไปได้ว่า พัดลมพัง หรือ รีซีสแตนท์พัง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนทั้งสองตัวเลยเพราะมันก็เก่าไปตามอายุรถ ราคาพัดลมแอร์ในศูนย์ 1388 บาท ราคารีซีสแตนท์ในศูนย์ก็ 1220 บาท ราคานี้ได้มาจากการเอารถเข้าศูนย์ให้ช่วยตรวจเช็คว่าแอร์ไม่ติดเพราะอะไร ซึ่งศูนย์ก็ทำงานได้ดี ตรวจเช็คระบบแอร์ และแจ้งอาการ ทำใบเสนอราคามาให้ด้วย เลยได้รู้ราคาของแต่ละชิ้น

IMG_20220301_180747

เพียงแต่ศูนย์สั่งเปลี่ยนหลายชิ้นเหลือเกิน รวมอะไหล่ รวมค่าแรง จะจบที่ราคาประมาณ 9พันกว่าบาท ซึ่งผมรู้สึกว่าราคาแรงเกินไป แต่ก็เข้าใจว่าศูนย์ต้องเปลี่ยนตัวที่เกี่ยวข้องกับอาการแอร์ไม่เย็นหลายตัว และค่าแรงการทำงานก็เป็นหลักสองพันบาท ดังนั้น ผมก็เลยไม่ทำในศูนย์ จ่ายค่าแรงตรวจเช็ค 250 บาทเอารถออกแล้วหาอะไหล่เปลี่ยนเองดีกว่า เพราะว่า ระหว่างที่ช่างเช็ค ผมก็อ่านในเว็บ ดู youtube ไปหลายคลิปเลย เลยพอจะรู้คร่าวๆแล้วว่าพอเปลี่ยนเองได้ ต้องขอบคุณศูนย์และขอโทษที่ไม่ได้อุดหนุนศูนย์ด้วย

อาการหนึ่งที่ทำให้แน่ใจว่าพัดลมมีปัญหาแค่อย่างเดียวโดยที่ตัวควบคุมความเร็วอย่างรีซีสแตนท์ไม่น่าจะเสียเพราะว่า พัดลมติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ถ้าติดก็จะทำงานได้ปกติและสามารถปรับแรงลมได้ด้วย ดังนั้น พัดลมน่าจะเสียแค่ตัวเดียว และรวมกับในคลิป youtube ก็มีแนะนำว่า ถ้าพัดลมมีฝุ่นจับทำให้มอเตอร์หมุนไม่สะดวก ถ้าเจออาการไม่หมุนให้ลองเอามือตบไปใกล้ๆพัดลมดู ซึ่งพัดลมจะอยู่ตรงกับช่องใส่ของหน้ารถด้านข้างคนขับ ให้ลองเคาะหรือตบที่ช่องใส่ของแรงๆดู แรงสั่นสะเทือนจะไปช่วยให้ใบพัดหมุนได้ ซึ่งลองทำแล้วก็เป็นจริงตามนั้น เลยมั่นใจว่าพัดลมหมุนไม่คล่องจริงๆ และน่าจะเสียแค่ตัวนี้ตัวเดียว

IMG_20220301_183218

เริ่มหาอะไหล่ พัดลมแอร์ หรือ โบรเวอร์ หน้าตาเป็นพัดลมทรงกระบอก ดูในเว็บช็อปปิ้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 750-1200 บาท แน่นอนว่าผมก็เลือก 750 แล้วเลือกร้านที่ได้คะแนนรีวิวสูงๆ ส่วนรีซีสแตนท์ผมไม่ได้สั่งซื้อ เพราะว่าคาดว่ายังไม่พัง จะเปลี่ยนพัดลมก่อน ซึ่งจริงๆแล้วพัดลมก็ยังไม่พังจริงๆ แค่หมุนไม่สะดวกเพราะมีฝุ่นไปจับทำให้แกนหมุนมีความฝืด ถ้าอยากประหยัดจริงๆก็สามารถถอดพัดลมออกมาทำความสะอาดได้ แต่ผมเลือกจะถอดเปลี่ยนเลย เพราะไหนๆก็รื้อออกมาแล้ว และราคาพัดลมก็ไม่ได้แพงมาก แล้วยังทำเองไม่เสียค่าแรงอีก ก็เปลี่ยนเลยดีกว่า

GX012078_1646134031628

พัดลมแอร์อยู่ด้านในใกล้ๆกับที่ใส่กรองแอร์ พัดลมจะติดกับช่องลมด้วยน็อต 3 ตัว ต้องใช้ไขควง 4 แฉกในการไข และควรเป็นไขควงที่สั้นที่สุดเท่าที่หาได้ เพราะตำแหน่งการหมุนน็อตออกนั้น อยู่ในส่วนที่แคบ อยู่ใกล้กับพื้นรถ ดังนั้นไขควงยาวๆจะแหย่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งในที่สุดผมก็ไปหาซื้อไขควงก้านสั้นมาใช้จนได้ เลยถอดออกมาได้อย่างง่ายดาย หลายคันใน youtube ที่ถอดพัดลมออกมาแล้วจะพบกับเศษฝุ่น เศษกระดาษ เศษใบไม้อยู่ด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จะทำให้หมุนลำบาก

พัดลมตัวใหม่ถูกแทนที่เข้าไป แล้วทดลองเปิดแอร์ดู แอร์ทำงานได้ปกติตั้งแต่การสั่งเปิดครั้งแรก นั่นแสดงว่าพัดลมตัวเก่ามีปัญหาจริงๆที่อยู่ดีๆก็ไม่หมุน ผลการเปลี่ยนพัดลมแอร์ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จ ประหยัดเงินไปได้เกือบหมื่นบาท

IMG_20220305_124142

ภาพนี้คือพัดลมตัวเก่าที่เรื้อใบพัดออกมาดู ภายในมีแต่ฝุ่นจับ ซึ่งจริงๆแล้วใบพัดควรจะเป็นสีขาว ฝุ่นดำพวกนี้คือผงถ่านที่หลุดออกมาจากมอเตอร์ แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ยาวนาน นานๆไปชิ้นส่วนแปรงถ่านในมอเตอร์ก็จะสึกและหลุดกระจายออกมาจนในที่สุดมอเตอร์ก็จะไม่หมุน ดังนั้น รถอายุเยอะระดับเกือบสิบปี ถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนเลย ไม่ต้องรอให้เสียกระทันหัน

ผมหาลิงค์เดิมที่สั่งซื้อไม่เจอแล้ว
หาให้ใหม่ที่นี่ https://shope.ee/504aQ4mdOL

เปลี่ยนกรองแอร์ฮอนด้าฟรีด เปลี่ยนเองง่ายๆ

ใช้รถยนต์มานานหลายปีแล้ว และระยะหลังก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่อู่นอก เลิกเข้าศูนย์ไปหลายปี สิ่งที่มักจะลืมเปลี่ยนก็คือกรองแอร์ที่ไม่มีใครบอกก็อาจจะลืม เพราะตราบใดที่แอร์เย็น เราก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนอะไร ซึ่งในความเป็นจริง แอร์ในรถจะมีไส้กรองอากาศที่กรองสิ่งสกปรกในอากาศตลอดเวลาที่เปิดแอร์ และไส้กรองตัวนี้จะดำเร็วมาก

ผมเปลี่ยนกรองแอร์มาหลายครั้งแล้ว และมีความตั้งใจจะเปลี่ยนทุกหกเดือน แต่บางครั้งก็ลืม รอบนี้ก็เช่นกัน จากความตั้งใจจะเปลี่ยนตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ก็เพิ่งจะมานึกได้ในเดือนมีนาคมนี้ เกินไปสองเดือน ตอนถอดไส้กรองออกมาก็วางเทียบกับของใหม่ถ่ายรูปไว้ เพื่อดูเปรียบเทียบว่าระหว่างของใช้งานมาแล้วเกือบปี กับของใหม่ สีต่างกันมาก

IMG_20220305_122421

สีดำที่เกาะอยู่กับไส้กรองก็คือฝุ่นนั่นเอง ไส้กรองแอร์ของรถยนต์มีคุณสมบัติสามารถกรองฝุ่นระดับ PM2.5 ได้ ดังนั้น ในรถยนต์ ระบบแอร์ที่ไม่เสีย จะสามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้อยู่แล้ว ทำให้เราไม่มีความจำเป็นต้องติดเครื่องกรองอากาศอื่นๆเพิ่มเติม ใครกำลังคิดจะซื้อเครื่องกรองฝุ่นติดรถ ลองอ่านสเป็คของไส้กรองแอร์ดูสักหน่อย หลายยี่ห้อจะบอกไว้ว่าสามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้ เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องกรองให้ซ้ำซ้อน เพราะระบบในรถคือระบบกรองอากาศชั้นดีอยู่แล้ว

พอเปลี่ยนเสร็จก็เข้าเว็บช็อปปิ้ง หากรองแอร์สำหรับฮอนด้าฟรีด หรือแจ๊ส หรือ ซิตี้ ก็ได้ ใช้ตัวเดียวกัน สั่งซื้อเก็บไว้ สำหรับรอบหน้า เพิ่งเห็นราคาในเว็บว่าปัจจุบันหรือชิ้นละ 80-100 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อสักปี 2014 ผมซื้อชิ้นละ 140 บาท ราคาแข่งกันแรงมากสำหรับการขายของออนไลน์ ประโยชน์เลยตกเป็นของลูกค้า คิดๆดูแล้ว เริ่มอยากขายของออนไลน์บ้างเหมือนกันนะเนี่ย พอซื้อของเสร็จ ก็ตั้งปฏิทิน อีก 6 เดือนให้เตือนเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่ด้วย