ตอนที่สอง เช้าวันใหม่เรายังคงเก็บภาพบางส่วนจากที่พักอีกนิด แสงเช้าเป็นแสงที่มีลักษณะสีสวย แสงไม่แรงเกินไป ถ่ายภาพแสงเช้าค่อนข้างได้สีสันสดใส หลายอย่างในชีวิตประจำวันจะดูดีขึ้นเมื่อถ่ายภาพตอนเช้าแดดไม่แรง และที่ไปของวันนี้คือ ถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟเลียบแนวภูเขา ซึ่งเป็นจุดที่สร้างยากมาก ทำให้คนงานที่ส่วนใหญ่เป็นเชลยศึกในสงครามโลกครั้งที่2ต้องล้มหายตายจากไปจำนวนมาก และถ้ำกระแซก็ยังมีจุดชมวิวมองเห็นทางรถไฟสวยงาม มองเห็นแนวแม่น้ำไหลอยู่ข้างล่างดูสงบเย็น ส่วนในถ้ำก็มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่องค์หนึ่ง
ออกจากเส้นทางรถไฟสายมรณะ เราก็เดินทางไปยังจุดที่มีรางรถไฟอีกจุดหนึ่งที่อยู่ในภูเขา เป็นการตัดช่องเขาเพื่อสร้างราง เจตนาคือการสร้างเพื่อหลบสายตาศัตรู เป็นเส้นทางที่ทหารญี่ปุ่นสร้าง ทหารฝรั่งที่บินทิ้งระเบิดก็หาไม่เจอ เพราะปกคลุมด้วยป่าหนาแน่น แรงงานที่ถูกเกณฑ์มาสร้างก็คือคนไทยและฝรั่งที่ถูกจับเป็นเชลย ทางรถไฟในช่องเขานี้สร้างและใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเชลยศึกชาวออสเตรเลียที่หลบหนีไปได้ก็มีความพยายามกลับมาสร้างอนุสาวรีย์เมื่อสงครามจบ มีการค้นหาตำแหน่งการก่อสร้างอยู่นาน และเมื่อพบแล้วก็มีการขอจัดตั้งอนุสาวรีย์ให้กับพื้นที่แห่งนี้ และทางจังหวัดกาญจนบุรีก็เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า เขาช่องขาด เพราะลักษณะของพื้นที่มีการตัดเจาะภูเขาเป็นช่องเพื่อทำให้รถไฟวิ่งผ่านได้นั่นเอง
ออกจากเขาช่องขาดเราก็ไปเล่นกิจกรรมกลางแจ้งที่ Treetop เป็นการเล่นไต่เชือกไปตามเส้นทางในป่า มีจุดต้องปล่อยไหลยาวๆข้ามบ่อน้ำใหญ่สนุกมาก พ่อแม่ลูกเล่นพร้อมกันได้ ได้อยู่ในป่าอากาศสดชื่น การไต่เชือกเป็นการฝึกใช้สมาธิที่ดีเลย
มื้อเย็นเรากลับมากินแถวสะพานข้ามแม่น้ำแคว มีร้านอาหารจำนวนมากที่อยู่ในบริเวณนี้ เราเลือกกินร้านที่อยู่ริมน้ำ มีโต๊ะให้นั่งบนแพ มีอาการโคลงเครงนิดหน่อยแต่ก็พอทนได้ ราคาอาหารแถวนี้ก็ราคาระดับกรุงเทพ วิวแม่น้ำก็มีกิจกรรมทางน้ำให้ดู มีคนนั่งเรือเล่น พายเรือเล่น เป็นแม่น้ำที่ไหลไม่แรงดูน่าจะทำกิจกรรมต่างๆได้ไม่อันตราย
กลับที่พักอย่างหมดแรง วันนี้ได้เล่นสนุกมากโดยเฉพาะกิจกรรมไต่เชือกในป่า จบกาญจนบุรีวันที่2











