พิมพ์การ์ดแต่งงานสวยๆอีกใบ

ก่อนจะเริ่มอ่าน เปิดเพลงแรกนี้ไว้เลย แล้วค่อยๆอ่าน เพื่ออรรถรสครับ


วันหนึ่ง

มีข้อความมาทางโปรแกรม line ติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามเรื่องการพิมพ์การ์ดแต่งงานด้วยระบบ letterpress ซึ่งผมก็รับข้อมูลแล้วคำนวณราคาแจ้งกลับไป การ์ดของเจ้าสาวท่านนี้จำนวนน้อย แต่เราก็รับทำ เพราะว่าเราชอบทำการ์ดแต่งงาน การได้เห็นการ์ดที่ออกแบบสวย และได้ทำมันออกมาอย่างตั้งใจเป็นสิ่งที่ช่วยให้โรงพิมพ์ของเราพัฒนา

IMG_20220224_173644

การ์ดคุณไหมเป็นการ์ดที่เลือกพิมพ์ด้วยส่วนที่เป็นหมึกพิมพ์ 1 สี และฟอยล์สีทองอีก 1 สี โดยหมึกพิมพ์ทางเจ้าภาพเลือกสีจากสมุดสีแพนโทน และเลือกฟอยล์สีทองเข้มจากตัวอย่างที่เรามีในโรงพิมพ์ ส่วนกระดาษก็จะเป็นกระดาษชานอ้อยสีขาว ซึ่งเราก็ใช้งานบ่อยกับหลายๆงาน เมื่อเลือกทุกอย่างลงตัว เราก็พิมพ์ตัวอย่างด้วยระบบดิจิทัลออกมาเป็นตัวอย่างที่เป็นขนาดเท่าจริงแล้วให้คุณไหมได้ลองจับถือดู ดูขนาดเมื่อถือขนาดจริง ดูขนาดตัวหนังสือที่พิมพ์ออกมาแล้วใหญ่หรือเล็กแค่ไหน เมื่อเห็นภาพจริงทั้งหมดแล้วก็ตกลงเริ่มพิมพ์

20220224164122_IMG_0009

เราใช้เวลาเตรียมแม่พิมพ์ทั้งสองชิ้นประมาณ 7 วัน เพราะขั้นตอนการทำแม่พิมพ์จะใช้เวลานานเกือบจะที่สุดของการพิมพ์ letterpress เมื่อได้แม่พิมพ์มาแล้วเราก็ทะยอยพิมพ์หมึกด้วยสีเทาอมเขียวตามค่าสีแพนโทนที่เลือกเสียก่อน ซึ่งการผสมสีตามสีแพนโทนค่อนข้างจะต้องใช้เวลาพอสมควร สีเขียวขี้ม้าเข้มๆแนวนี้ผสมยากกว่าที่คิด เราผสมครั้งแรกได้สีที่ไม่ใกล้เคียงเลย ช่างพิมพ์ต้องล้างสีทิ้งแล้วผสมใหม่อีกรอบ โดยรอบสองนี้ทำได้ใกล้เคียงมาก เพื่อตรวจด้วยสายตาแล้วแทบจะตรงเป๊ะกับในเล่มแพนโทน ขั้นตอนนี้พิมพ์การ์ดไม่กี่ใบ เราใช้เวลากับเครื่องพิมพ์และขั้นตอนการผสมสีรวมๆกันเกือบ 6 ชั่วโมง จะเรียกว่าเกือบเต็มวันก็ได้

20220224163830_IMG_0003

เมื่อทำสีแรกจบแล้วเราก็วางการ์ดตากไว้อย่างนั้น 1 วันเต็มๆเพื่อให้หมึกแห้งตัวสนิท เพราะขั้นตอนต่อไปคือการพิมพ์ด้วยฟอยล์สีทอง การพิมพ์ด้วยเทคนิคของฟอยล์จะเป็นเครื่องพิมพ์ที่ต้องใช้มือจับการ์ด ดังนั้นการ์ดต้องแห้งสนิทเพื่อไม่ให้เกิดการเปื้อนนั่นเอง เมื่อทำจบครบทุกชั้นตอนแล้วเราก็จะได้การ์ดตรงกับที่ออกแบบไว้ ซึ่งการ์ดตัวนี้ออกแบบมาแบบเรียบง่ายแต่ดูสวย ตัวหนังสือไม่มากเกินไป ทำให้การ์ดสวยงามมาก

เราถ่ายคลิปวิดีโอตอนพิมพ์การ์ดเอาไว้ด้วยซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ไม่ได้ซับซ้อน การที่มีเครื่องพิมพ์ทุกตัวอยู่ในโรงงานทำให้เราควบคุมคุณภาพและเวลาได้ตามที่ต้องการ ปัญหาอะไรที่อาจจะเจอเราก็จะได้เจอและแก้ปัญหาได้ทันที หลังจากที่ส่งมอบการ์ดให้กับเจ้าภาพเรียบร้อยแล้วทางโรงพิมพ์ก็ขออนุญาตถ่ายรูปชิ้นงานเพื่อนำมาเขียนลงในเว็บด้วย และทางเจ้าภาพก็ยินดี ขอบคุณคุณไหมที่มาใช้บริการของเราครับ

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่3

เช้าวันใหม่ วันที่สามของทริปเป็นวันเดินทางกลับ เราไปหามื้อเช้ากินในตัวเมือง เป็นร้านกาแฟโบราณที่มีชื่อเสียง มีคนแวะกินค่อนข้างเยอะ นักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่นมักแวะมากินมื้อเช้าที่นี่ ร้านโกกุ๊ก มีกาแฟใส่น้ำส้มด้วย จริงๆถ้าดูภาพแล้วน่าจะเรียกว่าเป็นน้ำส้มใส่กาแฟมากกว่า อาหารอื่นๆก็อร่อยได้มาตรฐาน เป็นมื้อเช้าราคาไม่แพงและอิ่มมาก

IMG_5251
IMG_5252

จากเมื่อวานที่เห็นมีคนพายเรือซับบอร์ดเล่นในแม่น้ำแคว มันดูไม่อันตราย น้ำไหลเอื่อยๆ ไม่มีเรือหางยาวซิ่ง ไม่มีเรือใหญ่ที่สร้างคลื่นน้ำรุนแรงแบบเจ้าพระยาในกรุงเทพ ก็เลยลองเล่นกันดูบ้าง ขอบฟ้าชอบกิจกรรมออกแรงทุกอย่าง ยิ่งได้พายซับบอร์ดในแม่น้ำใหญ่ขนาดนี้ยิ่งตื่นเต้น

IMG_5287
IMG_5276
IMG_5285

จบจากพายเรือ เราก็แวะเที่ยวตลาดย่านสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งมันก็อยู่ในระแวกเดียวกันหมด เราเดินเล่น ถ่ายภาพกันสักพักก็กลับกรุงเทพ โดยรวมแล้วเที่ยวกาญจนบุรีรอบนี้ได้ประสบการณ์การเที่ยวที่เกินคาดหมายจริงๆ ตั้งแต่ได้ใกล้ชิดสัตว์มากๆในสวนสัตว์ ได้ดูพิพิธภัณฑ์คุณภาพ ได้เล่นไต่เชือกในป่า ได้พายเรือในแม่น้ำ และได้รู้ว่ากาญจนบุรีมีศักยภาพในการท่องเที่ยวมากจริงๆ

IMG_0533
IMG_0522

ขอปิดจบด้วยภาพที่ชอบ คือภาพพ่อแม่ที่ขอบฟ้าช่วยถ่ายให้ และแม่ก็อุตส่าห์ช่วยถ่ายภาพช่างภาพตัวน้อยให้ด้วย เป็นจังหวะที่ชอบที่สุดในทริปนี้

IMG_20220119_205724

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่1

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่2

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่2

IMG_0371

ตอนที่สอง เช้าวันใหม่เรายังคงเก็บภาพบางส่วนจากที่พักอีกนิด แสงเช้าเป็นแสงที่มีลักษณะสีสวย แสงไม่แรงเกินไป ถ่ายภาพแสงเช้าค่อนข้างได้สีสันสดใส หลายอย่างในชีวิตประจำวันจะดูดีขึ้นเมื่อถ่ายภาพตอนเช้าแดดไม่แรง และที่ไปของวันนี้คือ ถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟเลียบแนวภูเขา ซึ่งเป็นจุดที่สร้างยากมาก ทำให้คนงานที่ส่วนใหญ่เป็นเชลยศึกในสงครามโลกครั้งที่2ต้องล้มหายตายจากไปจำนวนมาก และถ้ำกระแซก็ยังมีจุดชมวิวมองเห็นทางรถไฟสวยงาม มองเห็นแนวแม่น้ำไหลอยู่ข้างล่างดูสงบเย็น ส่วนในถ้ำก็มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่องค์หนึ่ง

GOPR1983

IMG_5245

IMG_0380
IMG_0388

GOPR1969

ออกจากเส้นทางรถไฟสายมรณะ เราก็เดินทางไปยังจุดที่มีรางรถไฟอีกจุดหนึ่งที่อยู่ในภูเขา เป็นการตัดช่องเขาเพื่อสร้างราง เจตนาคือการสร้างเพื่อหลบสายตาศัตรู เป็นเส้นทางที่ทหารญี่ปุ่นสร้าง ทหารฝรั่งที่บินทิ้งระเบิดก็หาไม่เจอ เพราะปกคลุมด้วยป่าหนาแน่น แรงงานที่ถูกเกณฑ์มาสร้างก็คือคนไทยและฝรั่งที่ถูกจับเป็นเชลย ทางรถไฟในช่องเขานี้สร้างและใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเชลยศึกชาวออสเตรเลียที่หลบหนีไปได้ก็มีความพยายามกลับมาสร้างอนุสาวรีย์เมื่อสงครามจบ มีการค้นหาตำแหน่งการก่อสร้างอยู่นาน และเมื่อพบแล้วก็มีการขอจัดตั้งอนุสาวรีย์ให้กับพื้นที่แห่งนี้ และทางจังหวัดกาญจนบุรีก็เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า เขาช่องขาด เพราะลักษณะของพื้นที่มีการตัดเจาะภูเขาเป็นช่องเพื่อทำให้รถไฟวิ่งผ่านได้นั่นเอง

IMG_0451
IMG_0469
IMG_0464
IMG_0427

ออกจากเขาช่องขาดเราก็ไปเล่นกิจกรรมกลางแจ้งที่ Treetop เป็นการเล่นไต่เชือกไปตามเส้นทางในป่า มีจุดต้องปล่อยไหลยาวๆข้ามบ่อน้ำใหญ่สนุกมาก พ่อแม่ลูกเล่นพร้อมกันได้ ได้อยู่ในป่าอากาศสดชื่น การไต่เชือกเป็นการฝึกใช้สมาธิที่ดีเลย

มื้อเย็นเรากลับมากินแถวสะพานข้ามแม่น้ำแคว มีร้านอาหารจำนวนมากที่อยู่ในบริเวณนี้ เราเลือกกินร้านที่อยู่ริมน้ำ มีโต๊ะให้นั่งบนแพ มีอาการโคลงเครงนิดหน่อยแต่ก็พอทนได้ ราคาอาหารแถวนี้ก็ราคาระดับกรุงเทพ วิวแม่น้ำก็มีกิจกรรมทางน้ำให้ดู มีคนนั่งเรือเล่น พายเรือเล่น เป็นแม่น้ำที่ไหลไม่แรงดูน่าจะทำกิจกรรมต่างๆได้ไม่อันตราย

GOPR2023
IMG_0483

กลับที่พักอย่างหมดแรง วันนี้ได้เล่นสนุกมากโดยเฉพาะกิจกรรมไต่เชือกในป่า จบกาญจนบุรีวันที่2

ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 1

เล่าเรื่องระบบสุริยะจักรวาล

เป็นคลิปที่ทำไว้นานแล้ว ก่อนจะมีโควิด เราพูดคุยกันเพื่อนบันทึกความรู้รอบตัวเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลเพื่อให้ลูกหลานของเราเองได้แวะมาฟัง

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่1

2022-01-21_11-38-20

ในความทรงจำเมื่อพูดถึงกาญจนบุรีก็จะนึกถึง แพลอยน้ำ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ทางรถไฟสายมรณะ เขื่อนศรีนครินทร์ น้ำตกไทรโยค สังขละบุรี ซึ่งเป็นทริปกาญจนบุรีเมื่อสักยี่สิบปีก่อนที่ผมไปกาญฯเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเป็นการไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มถ่ายภาพ และผมก็นึกไม่ออกว่ากาญจนบุรีจะมีอะไรมากกว่านี้อีก

ในปี คศ 2022 ผมกับครอบครัวได้ไปเที่ยวที่กาญจนบุรีกัน รอบนี้เป็นการเลือกสถานที่เที่ยวโดยคุณภรรยา แต่ละที่ก็จะเน้นความสวยและเน้นให้ลูกได้เปิดหูเปิดตา เราออกจากกรุงเทพอย่างไม่รีบร้อน เพราะตั้งใจจะไปแบบค่อยๆเที่ยว จุดแรกเลือกไปสวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค  โดยจุดเด่นของที่นี่ก็คือมีการป้อนอาหารยีราฟจากในรถด้วย แค่นี้ก็เป็นประสบการณ์สุดยอดมากแล้วสำหรับทริปครอบครัว

GOPR1905

สวนสัตว์แห่งนี้เป็นแบบขับรถดู และมีส่วนเดินดูด้วย แต่การขับรถดูคือไฮไลท์ที่ต้องทำ เพราะเราจะได้ใกล้ชิดสัตว์และะได้ป้อนอาหารยีราฟ กวาง ม้าลาย และนกกระจอกเทศด้วย แต่เสือไม่ได้นะ มีให้ดูอย่างเดียวห้ามป้อนอาหาร โดยเราจะต้องซื้ออาหารที่ทางสวนสัตว์เตรียมไว้ให้เท่านั้น เข้าใจว่าเป็นการป้องกันอาหารปนเปื้อน หรือ สารเคมีตกค้างในแครอท เพราะทางสวนสัตว์ไม่รู้ว่าอาหารที่นักท่องเที่ยวซื้อเข้ามาเองจะมีที่มาจากไหน อันตรายหรือไม่ก็ไม่สามารถรู้ได้

GOPR1908

ใครจะไม่ขับรถตัวเองเข้าไป ก็จะมีรถบัสบริการ แต่รถบัสไม่มีแอร์ ต้องทนร้อนหน่อยนึง ข้อดี่ของรถบัสคือ หน้าต่างกว้าง ยีราฟจะมุดยื่นคอเข้าไปในรถได้เยอะ และกินอาหารจากมือเลย ประสบการณ์นี้หาไม่ได้ในกรุงเทพ พวกเราเลือกจะขับรถตัวเองเข้าไป รถฮอนด้าฟรีด กระจกก็ใหญ่กว่ารถเก๋งนิดหน่อย เราก็ไม่คิดว่าจะได้ดูยีราฟยื่นคอเข้ามาใกล้ๆระดับนี้ และในคลิปด้านล่างนี้คือที่สุดของการให้อาหาร

IMG_0074

นอกจากขับรถดูแล้ว เราก็ได้ดูโชว์ช้าง และ ได้เข้าไปให้อาหารในกรงนกด้วย สวนสัตว์ที่นี่ไม่ได้ใหญ่โต แต่กิจกรรมโดนใจเด็กมากๆ

IMG_0126
IMG_0010
IMG_0144

https://goo.gl/maps/SpbqEyzu2Yr3MbZW9

รอบบ่ายเราออกไปหาข้าวกิน เลือกร้านที่อยู่ใกล้ๆตัวเมือง เพราะเราจองที่พักไว้ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแควมากๆ ร้านอาหารคีรีมันตราสวยอลังการมากๆ เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งสถานที่ได้ดูหรูหราใหญ่โต มีวิวภูเขาเป็นของตัวเอง มุมแสงแดดและการเลือกจัดผังของสวนทำได้สวยมาก แม้แต่ช่างภาพก็ตื่นเต้นที่ได้เห็น เชื่อว่าทุกคนที่แวะกินข้าวที่นี่จะต้องเดินถ่ายรูปต่อจากกินข้าวแน่นอน

IMG_0250
IMG_0244
IMG_0230
IMG_0181

ตอนเย็นเราก็เข้าที่พัก ชื่อโรงแรมคือ อินจันทรี เป็นโรงแรมริมน้ำ วิวโค้งน้ำของแม่น้ำแควทำให้อยากนั่งกินอะไรก็ได้ในร้านอาหารของโรงแรม ตั้งแต่แสงแดดยามเย็นที่ส่องแสงสีทอง ชวนให้อยากนั่งดูนานๆ บางมุมก็ยิ่งสวยเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

IMG_0333
IMG_0337

เที่ยวกาญจนบุรี เกินคาดทุกเรื่อง ตอนที่2

รีวิว หูฟัง Hifiman Re400a

หูฟัง Hifiman Re400a เป็นหูฟังที่ออกมาภายหลังจากที่ Re400 ทำตลาดมาระยะหนึ่ง เนื่องจาก Re400 เป็นหูฟังที่เน้นการฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงโดยเฉพาะ ส่วน Re400a เป็นหูฟังที่มีส่วนของไมโครโฟนด้วย คงตั้งใจทำออกมาให้ใช้กับโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ android เป็นหลัก โดยใช้ขั้วต่อแจ๊คชนิด Trrs ซึ่งเป็นแจ๊ค 3.5 มม. ที่มีขีดดำ 3 ขีด หรือ มีขั้วเชื่อมต่อทางไฟฟ้า 4 ขั้วนั่นเอง ส่วนฝั่ง iphone ก็จะมีรุ่น Re400i ออกมาด้วยเช่นกัน

ระบบการฟังเพลงในยุคปี 2022 กระแสหลักคือการฟังผ่านสมาร์ทโฟน หูฟังไร้สาย และหูฟังที่ต้องเสียบกับโทรศัพท์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการฟังเพลงไปแล้ว และแหล่งโปรแกรมก็จะเป็นบริการ streaming จากหลายๆยี่ห้อ หูฟังที่ถูกทำขายในตลาดใหญ่ๆจะต้องรองรับการใช้งานกับโทรศัพท์เต็มรูปแบบ

20220111174222_IMG_0773

Hifiman Re400a เป็นหูฟังชนิด inear ในกล่องจะมีอุปกรณ์แถมมาจำนวนมาก นั่นคือมี จุกยางสำหรับเปลี่ยนขนาดให้พอดีกับหูของผู้ใช้ ในกล่องมีจุกยางจำนวน 7 คู่ รวมกับที่ติดมากับหูฟังด้วยอีก 1 รวมเป็น 8 คู่ ซึ่งจุกยางที่ติดมาจากโรงงานจะเป็นจุกยางสีดำ นอกจากนี้ยังแถมซองใส่หูฟังหรือกระเป๋าใส่หูฟัง ที่เป็นเหมือนกระเป๋าขนาดเล็กๆ รูปร่างกลม ขึ้นรูปเป็นทรงค่อนข้างแข็ง

20220111174249_IMG_0774

พอสินค้าตัวนี้มาถึงผม ก็ทดลองฟังทันที โดยหยิบหูฟังแกะออกจากกล่อง แล้วลองฟังเลย คุณภาพเสียงที่ได้ยินก็ตรงกับที่คาดไว้เหมือนเมื่อครั้งที่ทดลองฟังกับ Re400 รุ่นที่ยังไม่มีไมโครโฟน นั่นคือ เสียงไม่ได้เรื่องเมื่อฟังผ่านจุกยางสีดำที่ติดมาจากโรงงาน ผมก็ไม่รอช้า ลองเปลี่ยนทันที โดยเลือกเอาจากจุกยางอีก 7 คู่ที่มีให้ ผมรู้สึกว่าถ้าใช้จุกยางเล็กเกินไปเสียงเบสจะบาง ถ้าใช้จุกยางใหญ่เกินไปเบสจะหนาและทำให้กลางแหลมทึบ ส่วนจุกยางที่มีความยาวจะทำให้ตัวส่งเสียงถูกวางตัวห่างจากรูหูมากกว่าปกติก็จะทำให้เบสบางและเสียงกลางแหลมหดหาย ดังนั้นการเลือกจุกยากที่เหมาะกับรูปร่างของหูเราเองเป็นสิ่งสำคัญมาก ลองทดลองเปลี่่ยนให้ครบทั้ง7 คู่เพื่อหาเสียงที่ชอบที่สุด

20220216110128_IMG_0649

ผมเลือกเปลื่ยนจากจุกยางสีดำที่ติดมาจากโรงงานเป็นจุกสีขาวที่ขนาดเล็กที่สุดในกลุ่ม ผลการทดลองฟังได้บาลานซ์เสียงที่พอใจแล้ว ก็เลยเลือกจุกขาวคู่นี้เป็นหลักและใช้งานตั้งแต่วันที่ได้มา ระยะเวลาใช้บ้างไม่ใช้บ้างประมาณสองสัปดาห์ ผมก็เริ่มฟังอย่างจริงจัง

20220216110401_IMG_0654

Specification

Frequency Response : 15Hz-22KHz
Sensitivity : 102dB
Impedance : 32 Ohms+/- 3.2
Weight : 13.5g ( 0.47Oz )
Plug : 3.5mm
Maximum Input : 30mW

คุณภาพเสียง

re400a เป็นหูฟังอินเอียร์ ที่ให้ความสมดุลย์ของเสียงที่ดี ใช้เป็นตัวมอนิเตอร์ในการบันทึกเสียงพูดคุยต่างๆได้ดีเยี่ยม การถ่ายทอดเสียงในการฟังเพลงทำได้น่าฟัง เสียงกลางชัดมาก แต่ไม่ขึ้นขอบแหลมๆเสียดหู เสียงสูง เสียงเครื่องเคาะต่างๆทำได้เป็นธรรมชาติน่าฟัง ประกายแหลมที่ดังขึ้นแล้วค่อยๆจางไปทำได้ดีไม่รำคาญหู เสียงเบสก็มีให้ได้ยินเพียงพอ เสียงโซโล่เบส ก็ชัดเจนและมีความคม แน่น ไม่ยาน ไม่ล้น การเลือกจุกยางจะมีผลกับเสียงเบสชัดเจน เมื่อเลือกได้จุกที่ชอบแล้ว ก็ทำให้เราฟังเพลงต่างๆได้เพลิดเพลินมาก เสียงกลางที่ชัดเหมือนลำโพงบ้านทำให้เราถูกใจ เพราะมันเป็นแนวทางของเครื่องเสียงบ้านคุณภาพดี ส่วนการนำไปใช้คุยโทรศัพท์ก็ทำได้ดีไม่มีปัญหา คู่สนทนาน่าจะได้ยินเสียงที่เราพูดลงไปได้ชัดเจน เพราะใช้คุยไปกับหลายคน ทุกคนก็ไม่มีใครบ่นว่าเสียงเบาหรือเสียงบี้แบน แสดงว่าไมค์รับเสียงทำงานได้ปกติ

20220111174608_IMG_0779

จุดด้อยที่พบคือ หูฟังมีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถส่งเสียงย่านต่ำพิเศษได้ เสียงกลองตัวใหญ่ๆความถี่ต่ำมากๆในบางเพลงเราจะไม่ได้ยินเลย ผมรู้สึกได้ชัดกับเพลงของ Rachael Yamagata อัลบั้ม Acoustic Happenstance – 2016 ในเพลง Paper doll ให้ลองฟังนาทีที่ 2.20 เป็นต้นไป ดนตรีจะมีเสียงกลองที่ต่ำลึกมากๆ หูฟังเล็ก หูฟังยัดหูทุกตัวที่ผมมีแทบจะไม่ได้ยินเลย แต่จังหวะกลองมันมีอยู่ เพราะผมฟังผ่านหูฟังครอบหูไดรเวอร์ใหญ่ๆจะได้ยินชัดเจน หูฟังที่ได้ยินชัดก็อย่างเช่น Akg K701 หรือหูฟังออนเอียร์อย่าง Audio Technica Ath-250M ที่ใช้ไดรเวอร์ขนาด 40มม. ก็ได้ยินแต่น้อยลงกว่า K701 เล็กน้อย หรืออย่างหูฟังอย่าง Koss Ksc35 ก็ได้ยินเสียงต่ำลึกแผ่วๆ ซึ่งการที่เราฟังผ่านหูฟังอินเอียตัวเล็กๆไดรเวอร์เท่าเม็ดถั่วแบบนี้ การไม่ได้ยินเสียงความถี่ต่ำลึกก็คงเป็นข้อจำกัดทางกายภาพของหูฟังที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

สรุป

หูฟัง Hifiman Re400a เป็นหูฟังที่ออกมาเพื่อทำงานเหมือน Re400 แต่เพิ่มความสามารถเรื่องไมโครโฟนเข้ามาเพื่อให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้สื่อสารพูดคุยได้ คุณภาพเสียงเหมือน Re400 มาก ใครเคยใช้งาน Re400 แล้วอยากให้มันมีไมค์เพื่อใช้คุยโทรศัพท์ไปด้วยเลยก็จะสมหวังกับ Re400a ตัวนี้แล้ว น้ำเสียงแนวเดียวกับลำโพงบ้านชั้นดี เป็นหูฟังให้เสียงดีที่สามารถใช้ฟังเพลงใช้ติดตัวไปกับโทรศัพท์ได้ทุกวัน ราคาพันต้นๆนับว่าเป็นราคาที่ชักชวนให้เสียเงินจริงๆ

หากสนใจซื้อ คลิกลิงค์นี้ครับ https://shope.ee/A9qoN3hNwg

ภาพที่ขายได้

Screen Shot 2565-02-11 at 08.57.18

ภาพนี้เป็นภาพลูกของผมตอนที่ไปเที่ยวเมือง nikko ประเทศญี่ปุ่น ตอนนั้นผมพกกล้องไปตัวเดียวคือ eos m รุ่น1 ติดเลนส์ตัวเดียวตลอดทริปคือเลนส์ 22f2 การเดินทางที่ญี่ปุ่นกับลูกเล็กวัย 3 ขวบ เป็นการเดินทางที่ต้องเตรียมรถเข็น เตรียมอุปกรณ์ของเด็กพอสมควร พ่อกับแม่ต้องช่วยกันยก ช่วยกันอุ้มในหลายสถานการณ์เพราะการเดินทางหลักๆของทริปคือรถไฟ

เลนส์ 22f2 ผมใช้ค่ารูรับแสงที่ f2 ตลอดทริปเลย เพราะต้องการความชัดตื้นที่ละลายหลังให้เบลอดูสวยงาม และต้องการให้มันรองรับสถานการณ์แสงได้ดีหลากหลายสถานที่ และส่วนมากเราก็จะถ่ายภาพในอาคาร ในที่ร่ม การใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมาก

กล้อง eos m เป็นกล้องที่มีหน้าจอด้านหลังระบบสัมผัส สามารถใช้มือแตะเพื่อให้กล้องทำการโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ได้ด้วย มันทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานบางโอกาส เช่นโอกาสเด็กกำลังสนใจกับภาพในจอ มีแสงตอนเช้าเข้ามาทางหน้าต่าง แสงหน้าต่างมักจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกับภาพถ่ายเสมอ ผมเห็นองค์ประกอบนี้ก็รีบหยิบกล้องมากดเปิดกล้องแล้วแตะโฟกัสเพื่อถ่ายเลย แล้วเราก็เก็บวินาทีสวยๆได้ตามที่ตาเห็น ทั้งทริปผมแทบจะไม่ได้ปิดฝาหน้าเลนส์เลย เพราะอยากให้กล้องพร้อมใช้ตลอดเวลา แม้ว่าเลนส์อาจจะเสี่ยงต่อการเสียหายหรือเป็นรอยขีดข่วนบ้าง แต่ผมก็ใช้วิธีติด Hood เหล็กไว้ที่เลนส์ ทำหน้าที่เป็นที่บังแสง และเป็นกันชนให้กับเลนสได้ระดับนึง ภาพลูกผมฝากขายในเว็บ Eyeem.com ครับ

IMG_0338

nec203 – เชิญ visitor มาฟังเราบรรยาย

IMG_0536

มีข้อสังเกตุหนึ่งที่ทุกคนในแช็ปเตอร์รู้สึกร่วมกันก็คือ  วันที่มี visitor เยอะๆ วันนั้นดูจะเป็นวันที่ทุกคนมีพลัง  แอ็คทีฟ และตื่นเต้นกัน  ดังนั้น  การจะหาโอกาสเชิญแขกมาบ่อยๆนอกเหนือจาก BOD แล้วก็ยังมีอีเว้นเล็กๆของแต่ละคนด้วย  นั่นก็คือ อีเว้นของตัวเอง อีเว้นที่ตัวเราจะขึ้นพูดพรีเซ้น 5 นาที โอกาสนี้เป็นอีเว้นพิเศษสำหรับเรา

IMG_0229

การได้พูดพรีเซ้น 5 นาที ทั้งต่อหน้าสมาชิก และต่อหน้า visitor จำนวนมาก ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อย่างดีเยี่ยม  เราสามารถแสดงความชำนาญหรือแสดงความเป็นมืออาชีพในอาชีพของเราเองว่าเราเป็นตัวจริงทำงานมีคุณภาพ   เป็นการเพิ่ม Visibility และ Creditability ได้พร้อมๆกันในเหตุการณ์เดียว  แถมยังได้เพิ่ม visitor ให้กับแช็ปเตอร์อีกด้วย

IMG_0183

ตัวอย่างเคสเป็นของคุณ Tiffanie ครับ  เขาวางแผนล่วงหน้าเมื่อรู้ว่าจะต้องพูดพรีเซ้นในห้องประชุมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า  โดยทำสิ่งต่างๆดังนี้

5 สัปดาห์ก่อนการบรรยาย ตั้งหัวข้อการบรรยาย  ใช้การพรีเซ้น 5 นาทีของเราเองเป็นชื่องานบรรยาย

4สัปดาห์ก่อนบรรยาย สรุปรายชื่อ ทำจดหมายเชิญ ทั้งแบบ electronic และกระดาษ ส่งให้คนรู้จัก 40 คน (ว่าที่ลูกค้า ลูกค้า ซัพพลายเออร์)

สร้างอีเว้นในเฟสบุ๊คของตัวเอง กำหนดชื่อ และวันเวลาให้ละเอียด เพื่อนในเฟสต้องรู้ว่ามีอีเว้นนี้

ส่งเนื้อหาอย่างย่อหรือชื่องานบรรายไปยัง สื่อท้องถิ่น รายการวิทยุ  (กลุ่มเฟส กรุ๊ปไลน์ ) เพื่อให้สื่อเหล่านั้นหรือคนในกลุ่มท้องถิ่นช่วยส่งข่าว  เพราะกลุ่มเหล่านี้มักจะแชร์ข่าวกันเป็นประจำ

3 สัปดาห์ก่อนบรรยาย ให้เขียนชื่องาน และรายละเอียดที่จะพูดลงในขดหมายข่าวของบริษัทเราเอง ส่งอีเมลเนื้อหาย่างย่อให้ลูกค้าของบริษัทเรา  ระหว่างนี้ให้ซ้อมพูด ซ้อมบรรยายสัก 6 รอบ เพื่อให้ไม่ผิดพลาด

ถึงขั้นนี้แล้ว เพื่อนในกรุ๊ปไลน์  ในเฟส และลูกค้าที่ติดต่อกับเราทางเมล ก็พอจะรู้คร่าวๆแล้วว่าเราจะบรรยายอะไร เมื่อไหร่ 

1สัปดาห์ก่อนบรรยาย ให้โทรหาแขกทั้ง 40 คน ที่เราจดรายชื่อเอาไว้เพื่อแจ้งว่าอย่าลืมนัดหมายของเรา

1 วันก่อนบรรยาย โทรหา 40 รายชื่ออีกครั้งเพื่อคอนเฟิร์ม

IMG_9742

เจ้าของเรื่องเชิญแขกไปประมาณ 40 คน และมีคนมาปรากฏตัวในงานเพื่อฟังบรรยาย 12 คน ครับ ขอให้เพื่อนๆลองพิจารณาวิธีการนี้ในการเชิญแขกนะครับ การมี Visitor เข้ามาร่วมประชุมกับกลุ่มของเรา มีประโยชน์กับทุกคนครับ เป็นการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกัน

รีวิว soundcard Epos gsx300

เมื่อประมาณเกือบสองปีก่อนผมได้มีโอกาสได้รีวิวหูฟังตัวนึง เป็นหูฟังสำหรับเล่นเกมส์ เป็นหูฟังครอบหูและมีไมค์โครโฟนสำหรับสื่อสาร ในตอนนั้นได้ลองเล่นแล้วก็ได้ค้นพบความสามารถบางอย่างของระบบที่ใช้ในหูฟัง นั่นคือระบบเสียง 7.1 ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศชนิดหนึ่งที่มีใช้ในวงการหูฟัง และดูเหมือนจะได้รับความสนใจในวงการเกมส์อย่างมาก

IMG_20220208_203654

หูฟังตัวนั้นคือ Sennheiser Gsp350 ซึ่งเป็นหูฟังแบบครอบหู เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทางพอร์ต usb โดยตัวมันเองมี usb soundcard ในตัว และไม่สามารถใช้ฟูฟังตัวนี้กับพอร์ต 3.5มม. ได้ เพราะตัวมันไม่มีแจ็คชนิดนี้ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจกับหูฟังตัวนี้คือระบบเสียงรอบทิศที่มีตราสัญลักษณ์ของดอลบี้ปรากฏอยู่บนสาย มีคำว่า Dolby Audio อยู่ด้วย และวงจรเสียงรอบทิศที่จำลองในหูฟังตัวนี้ก็น่าจะจัดการโดยเทคโนโลยีของบริษัท Dolby และผลการใช้งานก็ยอดเยี่ยม หูฟังสามารถให้เสียงใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงหนังมาก เสียงพูดอยู่ตรงกลางด้านหน้าเหมือนมีลำโพงเซ็นเตอร์ เสียงซ้ายและขวาถูกดันไปอยู่ด้านหน้าคล้ายลำโพงคู่หลักของระบบเสียงโฮมเธียเตอร์จริงๆ มันเป็นประสบการณ์การฟังเสียงรอบทิศในหูฟังที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะมันสมจริงทั้งตำแหน่งและอรรถรสการดูหนัง

ในช่วงเวลานั้นผมสนใจที่จะหาคำตอบต่อว่า ถ้าผมไม่ใช้หูฟังตัวนี้ แล้วผมอยากจะใช้ระบบเสียงรอบทิศกับหูฟังตัวอื่นที่ชอบได้หรือไม่ หลังจากที่ได้ลอง gsp350 จบไปแล้ว หลายเดือนต่อมาผมก็ได้ทดลองซื้อหูฟังราคาไม่แพงที่มีคำว่า 7.1 อยู่บนกล่อง และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb มาลองใช้ ก็พบว่า มันไม่เหมือนกับ gsp350 เลย ไม่มีความใกล้เคียงเลย เหมือนไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แสดงว่า 7.1 มีแบบไม่ได้เรื่องด้วย

IMG_0581

ในใจก็ยังคงหาวิธีการต่อไป จนได้มาพบกับ Gsx300 ซึ่งเป็นซาวการ์ดตัวหนึ่งที่เป็นรุ่นเล็กของอนุกรม gsx โดยแปะยี่ห้อ EPOS ทำให้เข้าใจได้ว่า EPOS คือบริษัทในเครือเดียวกับ Sennheiser ที่เน้นทำตลาดวงการเกมส์ เพราะปกติ Sennheiser จะมีชื่อเสียงในวงการออดิโอวิดีโอ ระบบไมค์ ระบบหูฟัง ระดับมืออาชีพ Gsx300 เป็นน้องเล็ก มีรุ่นกลางเป็น Gsx1000 และ มีรุ่นใหญ่เป็น Gsx1200

ในเว็บ EPOS ให้ข้อมูลไว้ว่า GSX1200 และ Gsx1000 จะมีกำลังขับที่มากกว่า และเป็นอุปกรณ์ที่มีอินเทอเฟสบนตัวเครื่องที่มากกว่า สามารถสั่งการเปลี่ยนโหมดได้โดยตรง และสามารถชื่อต่อกับหูฟังและไมโครโฟนได้หลากหลายกว่า แต่สิ่งที่เหมือนกันกับ Gsx300 ก็คือ ทุกตัวมีระบบเสียง 7.1 คุณภาพเดียวกัน นั่นทำให้ผมสนใจ Gsx300 และเป็นที่มาของรีวิวนี้

gsx300back

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

General
USB standard USB 2.0
Total harmonic distortion < 0.01%
Cable length 1200 mm
Connector plugs
3.5 mm headset socket
3.5 mm microphone socket
Micro USB
Compatibility PC
Warranty 2 years, international
Supported sample rates Main Audio 24 bit 96 kHz 7.1 @ 16 bit 48 kHz with EPOS Gaming Suite
Audio outputs Headphones
Recommended headphone impedance 25 – 75 Ω
Packaging Dimension of product packaging (L x W x H) 168 x 144 x 57 mm
Package weight (incl. complete product and packaging) 309 g
Dimension of master carton (L x W x H) 350 x 310 x 310 mm
Units in distributor master carton 20
Languages English, German, French, Spanish, Russian, Chinese Content of delivery
What’s in the box USB cable, Quick Start Guide, Safety Guide

Gsx300 เป็น external soundcard ที่เชื่อมต่อเข้าคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต usb บนตัวมันมีช่อง micro usb 1 ช่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ชนิด TRS และช่องเสียบไมค์ 3.5 มม. อีก 1 ช่อง มีปุ่มหมุนวอลลุ่มอยู่ด้านหน้า มีปุ่มโหมดอีก 1 ปุ่มเอาไว้เปลี่ยนโหมดการทำงาน ทั้งหมดมีเท่านี้ วงจรภายในทำงานยังไง ใช้ชิปเสียงอะไรก็ไม่ได้บอกไว้ แม้แต่กำลังขับก็หาไม่เจอว่ามีกี่วัตต์ รู้แค่มันถอดรหัสเสียงได้ระดับ 24bit 96K ในแบบสเตอริโอ และทำงานได้ที่ 16bit 48k ในแบบเสียงรอบทิศ

13337_0

Gsx300 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น และซอร์ฟแวร์ที่ประมวลผลละเอียดที่ต้องลงเพิ่มก็จะทำงานบนวินโดน 10 และ 11 เท่านั้น ไม่มีซอร์ฟแวร์สำหรับ osx และวินโดส์เก่าๆเลย หมายความว่าถ้าจะใช้ระบบเสียง 7.1 จาก Gsx300 ต้องใช้บนระบบปฏิบัติการวินโดส์ 10 หรือ 11 เท่านั้น ส่วนถ้าจะต่อคอมฯแล้วไม่ลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทาง คือจะใช้แค่ไดรเวอร์กลางๆ เราก็สามารถใช้มันเป็น soundcard usb ได้ และสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้เลย มันทำงานได้บนวินโดส์ 7 ทำงานได้กับโทรศัพท์มือถือ android และคาดว่าจะใช้กับ osx ได้ หากใช้แค่ไดรเวอร์พื้นฐาน

ทดลองฟัง

ผมต่อ Gsx300 เข้ากับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows11 และทดลองฟังเพลง ทดลองดูหนัง ทดลองระบบเสียง 7.1 รวมถึงไปลองต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ windows7 ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องทำงานหลักตัวหนึ่งที่ใช้ดูข้อมูลในเว็บ ดูภาพ และฟังเพลง ซึ่งการต่อกับ windows7 จะไม่สามารถลงซอร์ฟแวร์เฉพาะทางได้ และผมก็ตั้งใจจะใช้ฟังเพลงเป็นหลักอยู่แล้ว

กับการฟังเพลง Gsx300 ให้เสียงที่กระฉับกระเฉง เสียงคมชัด เบสใหญ่ กลางชัด แหลมเพราะ ทุกอย่างดีกว่าการฟังผ่านช่องแบบออนบอร์ด เสียงเพลงสวิงขึ้นลง ดังและเบาในช่วงที่กว้างยิ่งกว่าเดิม คอนทราสต์ของเสียงมีน้ำหนักที่จะแจ้งอย่างมาก เสียงฟาดกลอง เสียงดีด เสียงเคาะ ทุกเสียงเหล่านี้มีความฉับไว มีความเร็วที่สมกับธรรมชาติของเครื่องดนตรี ซึ่งหาไมไ่ด้กับเสียงชนิด on board ที่ติดกับกับเครื่อง การอัพเกรดระบบเสียงในคอมพิวเตอร์ด้วย Gsx300 เป็นช่องทางที่ให้เสียงดีในทันที ความแตกต่างรับรู้ได้ชัดเจนมาก

epos-soft-3

Gsx300 สามารถขับหูฟังได้หลากหลาย หูฟังเกือบทุกตัวที่ผมมีก็ได้ทะยอยนำมาลองไปทีละตัว Hifiman re400a , Audio Technica Ath-250m, Koss Ksc35, Akg K701 หูฟังเหล่านี้ทำงานได้ดีกับ Gsx300 เหมือนกับว่า Gsx300 เป็น Dac-amp ที่มาอัพเกรดระบบเสียงให้กับคอมพิวเตอร์เลย ซึ่งจริงๆมันก็คือ Dac-amp นั่นเอง เสียงย่านความถี่ต่ำบนหูฟังตัวใหญ่ๆอย่าง Akg K701 ทำให้ประทับใจมาก การส่งเสียงกลองกระเดื่องอย่างทรงพลังยังคงมีให้อยู่อย่างชัดเจน ไม่จม ไม่หลบ ไม่ผ่อนกับเสียงเลย คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับการต่อผ่าน Headphone amp ที่ใช้อยู่อย่างมาก แต่จะเปิดดังมากเหมือนแอมป์หูฟังก็จะไม่ได้ เพราะแอมป์หูฟังที่ผมใช้อยู่เป็นแอมป์ทำเอง ใช้ไฟเลี้ยงสูงกว่า usb นั่นทำให้แอมป์หูฟังแบบ Diy ให้เสียงสวิงขึ้นลงได้มันส์กว่า

20220205181547_IMG_0607

สัญญาณรบกวนในวงจรของ Gsx300 อยู่ในระดับต่ำ สามารถใช้กับหูฟังความไวสูงได้โดยไม่ได้ยินเสียงซ่า หูฟังเล็กๆทั้งหลายก็จะสามารถใช้งานร่วมกันได้ไม่ต้องทนฟังเสียงซ่า บางเพลงที่มีเสียงเครื่องดนตรีความถี่ต่ำ Gsx300 ก็ผลักดันหูฟังตัวใหญ่อย่าง Akg K701 ให้ส่งเสียงย่านต่ำได้ไม่คลุมเครือ เราติดตามโน้ตต่ำๆ หรือเครื่องดนตรีย่านต่ำได้อย่างสนุกสนานน่าฟัง นับว่ามันสามารถใช้งานเป็นอุปกรณ์ฟังเพลงตัวหลักของระบบเครื่องเสียงได้เลย สเป็คแบบนี้ หากเป็นสักสิบปีก่อน เราอาจจะต้องจ่ายเงินกัน 5000-10000 บาท สำหรับ Dac-amp ที่ขับหูฟังใหญ่ๆได้ แต่ในวันนี้มันอยู่ในอุปกรณ์ตัวเล็กๆน่ารักแต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลย

ลองฟังเสียง 7.1

การฟังเสียงรอบทิศผมฟังจากการดูหนังผ่าน netflix และ ดูจากไฟล์ Mkv ที่เคยโหลดเก็บไว้โดยเปิดผ่านโปรแกรมเล่นไฟล์ VLC พบกว่า เสียงรอบทิศแบบ 7.1 ให้คุณภาพเสียงที่ดี ไม่มีอาการเฟสเสียงแปลกๆหลอนหูในแบบที่เคยได้ยินกับโปรแกรมเสียง 3d แบบเกือบยี่สิบปีก่อน ในเว็บและในคู่มือ ไม่ได้บอกว่าการถอดรหัสเสียงของ Gsx300 ใช้ซอร์ฟแวร์หรือตัวถอดรหัสเสียงรอบทิศของใคร เพราะไม่ได้มีคำว่า Dolby Digital หรือ Dts ในซอร์ฟแวร์และในกล่อง ในคู่มือในเว็บ ไม่มีบอกเลย เข้าใจว่าการถอดรหัสเสียงรอบทิศ 7.1 ของ Gsx300 จะเป็นถอดรหัสตามใจ EPOS เอง ก็คือออกแบบระบบการจำลองเสียงเองไม่ได้อ้างอิงมาตรฐาน dolby

กับการดูหนัง เสียงพูด เสียงที่ควรจะอยู่กับลำโพงเซ็นเตอร์ในโรงหนัง ก็ให้เสียงที่อยู่ตรงกลางหัว ดันออกไปด้านหน้าเล็กน้อย ไม่ได้ผลักออกไปอยู่ไกลแบบที่เคยได้ยินใน Gsp350 ซึ่งถ้าให้สิ่งที่เคยได้ยินนั้นเทียบเป็น 100% เสียงรอบทิศของ Gsx300 จะดันเสียงออกไปได้ระดับประมาณ 70-80% เท่านั้น ตรงนี้น่าเสียดายมากที่ไม่สามารถทำได้เท่าระบบของ Dolby Audio ความแตกต่างของ 7.1 ใน Gsx300 จะต่างกันที่ความรู้สึกของตำแหน่งลำโพงหน้า คือหน้าซ้าย หน้าขวา และลำโพงเซ็นเตอร์เป็นหลัก ส่วนเสียงแวดล้อม หรือ แอมเบี้ยนส์ ที่โอบล้อมคนฟังนั้นมีครบถ้วน ถือว่าทำได้ดีเลย เสียงแวดล้อมมันทำให้บางครั้งเราต้องหันหลังกลับไปมองว่ามันเป็นเสียงคนเดินในห้องหรือเป็นเสียงในหูฟัง

ท่ามกลางเสียงโอบล้อม แล้วมีเสียงพูด เสียงหลักที่เหมือนจะออกมาจากลำโพงหน้า มันผสมเสียงกันอย่างลงตัว เสียงพูดลอยเด่นท่ามกลางเสียงโอบล้อม มันปล่อยเสียงออกมาอย่างกลมกลืน ถือว่าการจำลองเสียงรอบทิศแบบ 7.1 จาก Gsx300 ทำได้ดีสมราคาคุย และดีเกินราคาไปมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่หยิบยื่นให้ ดูเหมือนพลังการประมวลผลเสียงรอบทิศที่อยู่ใน Gsx300 จะมีความสามารถสูงลิบ คงเป็นเพราะฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่มันทำงานได้รวดเร็วและไร้รอยต่อ ประสบการณ์การฟังเสียงสามมิติในอดีตที่เคยลองใช้ วันนี้มันเปลี่ยนไปหมดเลย

ผมไม่ได้เป็นคนเล่มเกมส์ แต่อาศัยลองเปิด youtube ในคลิปที่เป็นเกมส์แนว fps และ openworld ซึ่งจะเป็นคลิปทดสอบเสียงรอบทิศในเกมส์ เข้าใจว่าเสียงในเกมส์จะไม่ได้รองรับระบบเสียง 5.1 แบบหนังทั่วไป คือเสียงรอบทิศที่ไม่ใช่ dolby digital ไม่ใช่ dts มันน่าจะเป็นเสียงรอบทิศแบบตัวใครตัวมัน อย่างมากก็คล้ายๆ dolby surround หรือ binaural recording ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดในเกมส์มากนัก แต่ฟังเสียงคลิปทดสอบแล้ว การแยกแยะทิศทางทำได้พอใช้ เสียงโอบล้อมและความกระหึ่มของเสียงนั้นจัดเต็มและฟังสนุกมาก พอฟังคลิปเกมส์แล้วรู้สึกได้เลยว่าเสียงในเกมส์มันโอบล้อมยิ่งกว่าเสียงจากหนังฮอลีวู้ดเสียอีก เหมือนกับว่ามันเสกเสียงดีๆแน่นๆให้เราฟังกันเลย เสียงฝีเท้าชัดขึ้นเมื่อเทียบกับเสียงออนบอร์ด ความแม่นยำในการเดาทิศทางนั้นทำได้ง่ายขึ้น เสียงปืนยิงแล้วมีเบส มีน้ำหนักของการระเบิดที่คมชัด ถ้าเปิดดังมากๆอาจจะตกใจได้

20220205181227_IMG_0592

สรุป

Gsx300 เป็น external soundcard ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีมาก สามารถส่งสัญญาณความละเอียดสูงระดับ 24bit 96kHz ออกมาได้ ใช้เป็น Dac-amp สำหรับหูฟังได้ดีมาก หากทำงานในแบบ 7.1 หรือระบบเสียงรอบทิศก็ให้ความกลมกลืนของเสียงรอบทิศและเสียงหลักของหนังได้ดี หากย้อนไปสักสิบปีที่แล้ว การจะหา Dac+Amp ที่ใช้งานกับหูฟัง เน้นคุณภาพระดับ 24bit 96K จะต้องใช้เงินหลายพันหรือเป็นหมื่นบาทเลยก็มี ซึ่ง Dac เหล่านั้นจะเน้นแค่การแปลงเสียงสำหรับฟังเพลงเท่านั้น ไม่ได้มีการรับสัญญาณไมค์ และ ไม่ได้มีเสียงรอบทิศให้ใช้ Gsx300 เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่หน้าตาน่ารักและใช้งานได้คุณภาพ เป็นของที่น่าใช้อีกชิ้นหนึ่งจริงๆ

หากต้องการซื้อ เชิญที่นี่ครับ
https://shope.ee/99wMP5U8Pw?share_channel_code=6