Stock M1 build with PCM1793 as DAC and NE5532 + OPA2134 as amplifier. It’s able to push 700 mW into 32Ω load
เครื่องเล่นเพลง Aune M1 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ใช้งานค่อนข้างยากแต่ก็มีคุณภาพที่สูงมาก มันเป็นเครื่องเล่นไฟล์ชนิด wav เท่านั้น ไม่สามารถเล่น Mp3 หรือ Flac ได้เลย แถม Wav ที่เล่นได้ต้องมีสเป็คแค่ 16bit 44.1kHz เท่านั้น จะเป็น Wav ระดับ Hi-res หรือ 24bit ก็ไม่ได้ นี่เป็นความเฉพาะเจาะจงที่ทำให้ใช้งานยาก
เวลาที่เราได้ไฟล์เพลงมาจากการซื้อ Mp3 เราก็เล่นไม่ได้ เวลาโหลดไฟล์เพลงใน Bittorrent ก็มักจะได้มาเป็น Flac ก็เล่นไม่ได้ นานๆทีถึงจะมีคนปล่อยไฟล์เป็นแบบ wav 16bit มาให้ ซึ่งมักจะเป็นเพลงเก่าหรืออัลบั้มที่ออกมานานแล้ว เพราะ Flac เพิ่งมาฮิตในยุคหลังๆ หากเราย้อนไปในยุคแรกของไฟล์ดิจิทัล และยุคของ ipod ช่วงแรกเรายังหาไฟล์ wav ได้ง่าย แต่พอโลกเรามีเครื่องเล่นเพลงยี่ห้ออื่นๆที่เล่นไฟล์ Flac ได้ เราก็จะพบไฟล์ Flac ได้บ่อยมากและตอนนี้ก็เป็นไฟล์ที่ฮิตมากที่สุดในโลกของ Bittorrent สุดท้ายในปัจจุบันหาเราอยากได้ไฟล์ wav เราแทบจะต้อง rip ไฟล์ออกจากแผ่นซีดีของเราเอง
การ rip ไฟล์เพลงเองก็หมายความว่าเราจะต้องมีแผ่นซีดีเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็ยืมเพื่อนมา rip ดังนั้น ความยุ่งยากของการใช้ M1 เป็นเครื่องเล่นก็คือ กว่าจะได้ฟังมันมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และมันก็อาจจะทำให้เบื่อหน่ายได้ ซึ่งเหตุผลเรื่องความยุ่งยากก็ทำให้ M2 ออกมาทดแทน M1 โดยเพิ่มความสามารถในเรื่องการเล่นไฟล์เพลงได้หลากหลายอย่างแท้จริง และทำให้ M1 เป็นของที่ถูกเมิน
สิ่งที่ทำให้ผมยังคงชอบที่จะใช้งาน Aune M1 ก็คือ ปุ่มวอลลุ่มที่เป็นแบบอนาลอกโบราณ เป็นแบบที่ใช้งานได้เข้าใจง่าย ความคุ้นเคยกับการบิดสุดด้านทวนเข็มนาฬิกาเพื่อปิดเสียงเงียบ หรือค่อยๆหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อเพิ่มเสียงทีละนิด ทำให้เราได้ระดับเสียงที่ถูกใจเราทุกครั้งที่หมุน มันดีกว่าปุ่มกดดิจิทัลที่บางครั้งเรากดเพิ่มนิดเดียว แต่มันเพิ่มความดังให้เราเยอะเกินไป เนื่องจากผมเคยเจอเครื่องเล่นที่ปุ่มปรับความดังมันมีระยะสเต็ปของดิจิทัลที่ค่อนข้างห่าง level ที่เราฟังรู้สึกเบาไป พอกดเพิ่มเสียงไปอีก 1 คลิก ระดับเสียงก็ดังเกินไป มันไม่มีระยะความดังที่พอดีกับหูของเรา การมีปุ่มวอลลุ่มโบราณที่บิดไปมากน้อยตามใจเราจะทำให้เราตั้งระดับเสียงที่ถูกใจที่สุดได้ง่ายดายมาก และอย่างที่สองก็คือ มันเสียงดี ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งที่เราได้ยินกับหู แล้วเรารู้สึกว่าเราพอใจเสียงแบบนี้แล้ว
จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ชอบก็คือการมี digital out ทำให้การอัพเกรดระบบเป็นเรื่องง่าย เราสามารถเลือกใช้ Dac ตัวอื่นมาต่อเพื่อถอดรหัสเสียงดิจิทัลได้ เราเลือกสไตล์เสียงของ Dac ที่มาต่อได้ แม้ว่าเราจะพอใจกับเสียงที่มันแปลงเป็นอนาลอกให้แล้ว แต่เราก็มี Dac ตัวอื่นๆในใจเราอีกหลายตัวที่เราอยากลอง ยังคงมี Dac ระดับไฮเอนด์ที่ราคาตกมากๆให้เราลองซื้อลองเล่นดู เครื่องเล่นเพลงที่มีสัญญาณ digital out ในท้องตลาดปัจจุบันเป็นสิ่งที่หายากมาก เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะตัดความสามารถตรงนี้ออกไป อาจจะเพราะไม่จำเป็น อาจจะเพราะ Dac รุ่นใหม่ๆเสียงดีกว่า Dac เก่าสเป็คต่ำ ก็เป็นได้ แต่เราเป็นนักเล่น อะไรที่ลองเล่นได้ก็อยากเล่น เครื่องเล่นเพลงที่ต่อ digital out จึงเป็นตัวเลือกที่ต้องการใช้งานนั่นเอง ถามว่า ipod มีสัญญาณ Digital out ให้เราใช้หรือไม่ ก็ตอบว่า ไม่มี เราจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมราคาหลายพันบาทเพื่อที่จะใช้ดึงสัญญาณ digital out ออกจาก ipod ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มและใช้งานไม่สะดวก เพราะอุปกรณ์ที่ดึงสัญญาณดิจิทัลให้เรานั้นมันคือแท่นวางที่มีช่องเชื่อมต่อสารพัดช่องนั่นเอง เราแทบจะพกพาไม่ได้เลย
คุณภาพการเล่นเพลงของ Aune M1 ไม่มีข้อกังขา ผมรู้สึกว่ามันดีเหมือนเครื่องเล่นซีดี รู้สึกว่ามันดีเหมือนการเล่นไฟล์เพลงคุณภาพสูงบนคอมพิวเตอร์ แต่มาในรูปแบบของอุปกรณ์พกพาขนาดกระทัดรัด ในอดีตผมเคยฟังเพลงอย่างจริงจังกับเครื่องเสียงรถยนต์ นักเล่นยุคเก่าก็จะชอบต่อเครื่องเล่นซีดีแบบหลายแผ่นในรถ เพื่อให้สามารถเปิดแผ่นที่ชอบได้สัก 6 แผ่นเป็นอย่างน้อย เครื่องเล่นแผ่นซีดีบางรุ่นก็ใส่ได้ 10 แผ่น เทียบกับเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลอย่างปัจจุบันที่ใส่เพลงได้เป็นร้อยเป็นพันเพลงแทบไม่ได้เลยในแง่ความสะดวก และการพกพาเพลงไปฟังบนรถ
ในวันที่เราเดินทางต่างจังหวัด เราต้องขับรถประมาณ 10 ชั่วโมง เราต้องใช้ซีดีกี่แผ่นเพื่อจะเปิดเพลงให้ได้ 600 นาทีเท่ากับเวลาที่รถวิ่ง ซีดี 1 แผ่นเรามีเพลงประมาณ 50 นาที จะฟังตลอดเส้นทางต้องมี 12 แผ่น และต้องเป็นแผ่นที่เราชอบทั้งหมด และชอบทุกเพลงด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมาก สุดท้ายผมก็เคยขนซีดี 50 แผ่นติดรถไปเที่ยวยาวๆไกลๆ
พอใช้เป็นเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod ผมก็มี 1000 เพลงอยู่ในฝ่ามือ นั่นเป็นความสะดวกของการฟังเพลงผ่านไฟล์เพลง และเมื่อ ipod ครองโลก การจะมีเครื่องเล่นเพลงอะไรที่เจ๋งกว่าออกมาและมีจุดขายที่เด่นชัดย่อมเป็นเรื่องยาก ในตลาดเครื่องเล่นเพลงก็หาตัวที่จะทำมาดีกว่า ipod ก็แทบไม่มีเลย และนี่ก็คือโชคและจังหวะที่ดีที่ Aune มีเครื่องเล่นตัวนี้ออกมา แต่มันไมไ่ด้ออกมาแทน ipod ที่จุเพลงได้เป็นพันเป็นหมื่น แต่มันออกมาแทนเครื่องเล่นซีดี ทั้งแบบแผ่นเดียวและแบบหลายๆแผ่น เพราะเราจะก็อปปี้ไฟล์เพลงจากแผ่นซีดีลงบนหน่วยความจำแล้วนำไปเปิดเล่นเปิดฟังในสถานที่ที่เราต้องการ
คนรักแผ่นซีดีน่าจะรักชอบเครื่องเล่นไฟล์เพลงแบบนี้ เพราะมันให้คุณภาพเสียงที่ดีมากทัดเทียมกับเครื่องเล่นแผ่นซีดี แต่มันเก็บไฟล์เพลงได้มากกว่า มันสามารถเก็บเพลงได้หลายสิบแผ่นเสียด้วย การเปิด การเลือกเพลง ก็ทำได้ง่ายดาย คนที่ซื้อ Aune M1 น่าจะเป็นคนที่มีแผ่นซีดีอยู่ในบ้านค่อนข้างเยอะ และยังคงหลงใหลกับแผ่นซีดีเหล่านั้น ความสุขของการมีไฟล์เพลงจากแผ่นออดิโอไฟล์เป็นร้อยเพลงติดตัวออกจากบ้านไปเที่ยวเล่น อยากฟังเมื่อไหร่ก็ได้ฟังเพลงคุณภาพสูง เหตุผลเหล่านี้ทำให้เรายอมซื้อเครื่องเล่นเครื่องนี้ได้ไม่ยากเลย
แต่ ipod ก็เล่นเพลง wav ได้และจุได้เยอะเหมือนกัน แล้วเราอยากได้อะไรที่ ipod ให้ไม่ได้ล่ะ นั่นคือคำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเครื่องเล่น Aune M1 ก็คือ มีภาค headphone amp ที่ดีมาก มันสามารถส่งกำลังขับไปใช้งานกับหูฟังขนาดใหญ่ได้ สามารถใช้งานกับหูฟังความต้านทานสูงได้ เพราะหูฟัง Fullsize มักจะต้องการพลังงานในการผลักดันตัวไดรเวอร์ส่งเสียงที่มากเพียงพอ ipod จะกำลังไม่พอเมื่อใช้กับหูฟังขนาดใหญ่ ซึ่ง Aune M1 ทำได้ค่อนข้างดี
จุดเด่นที่ชัดเจน ทำให้เรายอมใช้งานและอดทนกับความยุ่งยากในการเล่น เมื่อเราเตรียมเพลงให้พร้อม แล้วเปิดไฟล์เพลงนั้นๆด้วย Aune M1 พร้อมหูฟัง Fullsize สักตัว เราจะพบว่า สิ่งที่เรายอมแลก ที่เรายอมยุ่งยาก มันให้คุณภาพเสียงที่ดีมากนั่นเอง และทำให้เราไม่อยากกลับไปฟัง ipod ในแบบเดิมๆอีกเลย
อัพเดทสิ่งที่เพิ่งค้นพบ
Aune M1 มีโหมดการเล่นลับที่ซ่อนไว้ นั่นคือ pro mode ที่จะเล่นไฟล์เสียงให้น้ำเสียงที่แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย วิธีการเข้าระบบ pro ก็คือ ตอนเปิดเครื่องให้กดปุ่ม play ค้างไว้ แล้วค่อยเลื่อนสวิตซ์เปิดเครื่อง เมื่อเปิดแล้วเครื่องจะเข้าระบบ Pro และจะมีตัวหนังสือสีแดงขึ้นในจอภาพ หากเลือกใช้แล้ว การปิดแล้วเปิดใหม่ครั้งต่อไป ก็จะติดเป็นโหมด Pro ไปตลอด แต่หากจะเลิกใช้โหมด Pro นี้ ก็ให้ใช้วิธีเหมือนตอนเข้า ก็คือขณะปิดเครื่องอยู่ ให้กดปุ่ม play ค้างไว้ แล้วค่อยเลื่อนสวิตซ์เปิด ตัวเครื่องเล่นก็จะออกจากโหมด Pro แล้วกลับสู่ระบบปกติ











































