MG ZS EV นับว่าเป็นรถไฟฟ้าที่ราคาเอื้อมถึงอีกคันหนึ่งในประเทศไทยในยุคปีพศ 2562 ที่มีราคาขายอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท สเป็คที่สำคัญคือวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ 337 กิโลเมตร แต่จากที่อ่านรีวิวหลายแหล่ง พบว่า เมื่อเริ่มวิ่ง ระยะทางจะเหลือ 300 กิโลเมตรเท่านั้น ระยะทางที่ลดลงคงเป็นผลมาจากการเปิดแอร์นั่นเอง
ขอคิดที่ตัวเลขเต็มที่ตามสเป็ค 337 กิโลเมตรจะพาเราไปเที่ยวได้ไกลแค่ไหน เที่ยวในกรุงเทพคงไม่มีปัญหา มันไปและกลับได้ ไม่ยากเย็น ใช้ทำงานประจำวันไปกลับวันละไม่เกิน 100 กิโลเมตรได้สบายๆ ชีวิตนี้ไม่ต้องแวะปั๊มน้ำมันอีกเลย แต่เที่ยวต่างจังหวัดนี่แหละที่เป็นปัญหา เมื่อต้นเดือนผมขับรถยนต์ฮอนด้าฟรีดไปเที่ยวเขาใหญ่ ไปนอนในอุทยานแห่งชาติ ระหว่างทางที่ผมขับรถผ่าน ทางด่วนยมราช โทลเวย์ รังสิต สระบุรี ปากช่อง ผมไม่เห็นโชว์รูมรถ MG เลย ดังนั้นการที่เราจะไปชาร์จระหว่างทางที่โชว์รูม MG ก็เป็นไปไม่ได้ และที่จอดรถสำหรับชาร์จรถ EV อยู่ตรงไหนบ้างก็ไม่อาจทราบได้
ระยะทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ โปรแกรม map บอกระยะทางไว้ 133 กิโลเมตร ไปกลับ 266 กิโลเมตร แต่ในการวิ่งจริง มีแวะนอกเส้นทางไปเที่ยวเล่นในปากช่องด้วย รถผมวิ่งไปประมาณ 500 กิโลเมตร ดังนั้น รถไฟฟ้า MG คันนี้ ไม่สามารถพาเราไปเที่ยวเขาใหญ่ได้
อีกทริปหนึ่ง ผมไปเที่ยวชะอำ โดยใช้เส้นทาง ตลิ่งชัน พุทธมณฑล มหาชัย คลองโคน เพชรบุรี ชะอำ แวะพักที่โรงแรมโนโวเทลชะอำ ระยะทางไปและกลับรวม 383.9 กิโลเมตร และระหว่างทางไม่เห็นโชว์รูม MG เลย ดังนั้น MG ZS EV พาเราไปเที่ยวชะอำไม่ได้
ในความเห็นส่วนตัว ถ้าเราชีวิตคนกรุงเทพขับรถไปทะเลไม่ได้ เราจะมีรถส่วนตัวไปทำไมกัน มีรถก็ต้องพาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆได้ เราไม่ได้ขอเยอะ ขอแค่ทะเลใกล้กรุงเทพเท่านั้น เดิมที ผมคิดว่า ถ้าเราขับรถไปแล้วไปชาร์จด้วยปลั๊กชาร์จฉุกเฉิน เสียบกับไฟบ้านก็อาจจะได้ แต่ในทางปฏิบัติ เราไม่มีปลั๊กไฟในบริเวณที่จอดรถเลย อย่างโรงแรมโนโวเทลชะอำ ที่จอดรถก็ไม่ได้มีปลั๊กไฟให้เสียบ รีสอร์ทอื่นๆก็คงไม่ต่างกันคือไม่ได้ออกแบบให้สามารถชาร์จไฟกับรถไฟฟ้าได้ เราแค่พูดถึงปลั๊กไฟที่กำแพงบ้านเท่านั้นนะ ไม่ได้หมายถึงสถานีชาร์จเต็มรูปแบบ ดังนั้นการใช้รถ EV ไปเที่ยวไกลๆยังเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกอย่างยิ่ง
ยังไม่รวมถึงนิสัยการจอดรถของคนไทย ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่จอดรถในบ้าน จุดชาร์จไฟก็จะไม่มีอยู่หน้าบ้านอยู่แล้ว ดังนั้นเราชาร์จไม่ได้ ยิ่งคนอยู่คอนโด ไม่มีที่จอดรถแบบฟิกซ์ หรือ ที่จอดส่วนตัว รูปแบบการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพส่วนใหญ่ก็จะไม่เหมาะกับรถ EV คนที่เหมาะกับ EV อาจเป็นกลุ่มคนที่มีบ้านเดี่ยว มีที่จอดรถเป็นของตัวเอง ผมว่าคนใช้รถ EV น่าจะเป็นคนที่มีวินัย และไม่มีนิสัยเอาเปรียบสังคม ถ้ารัฐบาลจะส่งเสริมวินัยจราจร น่าจะส่งเสริมให้คนใช้ EV เยอะๆ ถ้าเป็นไปได้ หาส่วนลดให้คนใช้ EV หรือ ลดภาษีของรถ EV ลงไปให้เยอะๆ แค่เพียงเขาไม่เผาน้ำมัน ไม่เพิ่มมลพิษ แล้วประชาชนได้พื้นที่ถนนคืนมา ได้พื้นที่ทางเดินเท้าคืนมา แค่คิดก็น่าส่งเสริมแล้ว
โพสท์นี้ไม่ใช่รีวิว เพราะยังไม่ได้ซื้อ เป็นเพียงแค่มุมมองของคนที่สนใจรถ EV ซึ่งได้แต่หวังว่ารถ EV จะราคาย่อมเยาลงยิ่งกว่านี้อีก

















