nec29- การค้นหาจุดเด่นของตัวเอง

2018-09-25 12.48.31 1

การค้นหาจุดเด่นของตัวเอง
ในการแนะนำตัว หรือการพูดคุยเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการของเรานั้น  สิ่งที่เราควรจะนำเสนอต่อลูกค้าก็คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าที่เรากำลังคุยด้วย  มันก็คือการคุยที่เน้นเรื่องประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อใช้บริการเรา  แต่ถ้าเรานึกถึงข้อดีไม่ออก  ไม่สามารถบอกจุดเด่นของเราที่ลูกค้าต้องการได้  เรามีวิธีค้นหาข้อดีเหล่านั้นเพื่อใช้พูดกับว่าที่ลูกค้าคนต่อไปเรามีข้อดีอะไร  เรามีจุดเด่นอะไร  ถ้าเรียบเรียงคำพูดไม่ได้  ให้ลองวิธีนี้คือ  ให้นึกถึงลูกค้าคนที่แล้ว หรือลูกค้าที่เราจบงานมาแล้ว หรือลูกค้าคนที่เราชอบ แล้วลองเล่ารายละเอียดหรือเขียนออกมา สองข้อดังต่อไปนี้

1  ลูกค้าคนนี้ ก่อนมาเจอเรา ลูกค้าเจอปัญหาหรือสถานการณ์อะไร

2  เราแก้ปัญหาอย่างไรให้ลูกค้า  และทำให้ลูกค้าพอใจหรือทำงานต่อได้

การที่เราหาคำตอบสำหรับคำถามนี้เอาไว้  คำตอบเหล่านี้จะเป็นตัวแม่เหล็กที่จะทำให้ว่าที่ลูกค้าเห็นความสำคัญในสินค้าหรือบริการของเรา  มันเป็นวิธีง่ายๆที่ช่วยให้เราหาข้อดีของเราหรือ benefit ที่ลูกค้าจะได้รับ  เป็นเรื่องจริงที่เราลงมือทำและแก้ปัญหาให้ลูกค้าไปแล้ว

 

พาลูกเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต 5วัน 4คืน ตอนที่3

IMG_6233

เช้าวันที่3นี้เราตื่นเช้าและได้กินอาหารในพื้นที่ติดทะเลแสนสวย หลังจากกินเสร็จแล้วก็ได้เวลาไปเล่นเรือคายัค ซึ่งมีบริการไว้ให้ลูกค้าโรงแรมได้เล่นรอบละ 1 ชม. ผมกับลูกก็ลงเรือเล่นเลย พายเรือไม่ใช่เรื่องยากถ้าพายสองมือ ส่วนการพายมือเดียวแล้วทำให้เรือแล่นได้ตรงๆเป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยการฝึกฝนเล็กน้อย แม้ค้าที่ขายของตามคลองต่างๆในประเทศไทย ชาวไร่ ชาวสวนก็พายมือเดียวมาเป็นร้อยปีแล้ว มันพายมือเดียวข้างเดียวแล้วเรือแล่นตรงทำได้ไม่ยาก ผมก็เคยไปหัดพายที่สวนลุม

IMG_6241

พอพายเรือเหนื่อยได้ที่แล้ว แม่ลูกก็เล่นน้ำต่อ อากาศร้อนเดือนเมษายนของเมืองไทยน่าจะร้อนติดระดับโลก แม่ขอใส่หมวกเล่นน้ำกันเลย แดดแรงมาก อะไรที่โดนแดดจะร้อนจัด แม้แต่เรือพลาสติกที่เรานั่งเล่นยังร้อนเลย

IMG_6292

วันนี้จะเก็บของออกจากโรงแรมทับแขกซันเซ็ต แล้วขับรถไปภูเก็ต ก่อนออกจากโรงแรมก็สังเกตุว่าในโรงแรมมีน้ำตกเล็กๆไหลอยู่ ถามพนักงานว่าน้ำตกพวกนี้เป็นขอบธรรมชาติหรือทำขึ้นก็ได้คำตอบว่า โรงแรมมีตาน้ำอยู่ ตาน้ำอยู่ด้านหน้าโรงแรมเลย ก็เลยมีทางน้ำตกธรรมชาติให้โรงแรม เราก็เลยแวะไปดูตาน้ำ เลยถามต่อว่า แบบนี้โรงแรมใช้น้ำฟรีเลยใช่ไหม พนักงานตอบ ใช่ครับ ตาน้ำได้รับการสร้างเป็นกำแพงล้อมไว้ แล้วมีน้ำผุดออกมาตลอดเวลา น้ำจากป่ามาผุดตรงนี้ สุดยอดมากๆ

IMG_20190418_112710

ขับรถออกจากโรงแรมตอนเที่ยง หาร้านแวะกินกลางวันระหว่างทางไปภูเก็ต ภรรยาเลือกกินร้านหอมเคย เป็นร้านที่อยู่ในปั๊มน้ำมันซึ่งเราจะต้องขับผ่าน ขอบฟ้านั่งในรถได้ไม่นานก็หลับ เราเดินทางประมาณไม่ถึง 1 ชม. ก็ถึงร้านอาหาร ร้านหน้าตาทันสมัย มีรถจอดอยู่เต็มหน้าร้าน ดูแนวโน้มแล้วร้านนี้น่าจะอร่อย

IMG_6304

เมนูแนะนำของร้านนี้คือกุ้งราดซอสมะขาม และ ไข่ฟูปู รายการหลังนี้หน้าตาเหมือนไข่เจียว ผมคงเรียกว่าไข่เจียวถ้าไม่มีใครบอก รสชาดโอเค ราคาโอเคยอมรับได้ ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่ทำไข่เจียวปูได้อร่อยมาก ผมยกให้เป็นที่สุดของไข่เจียวเลย แค่เมนูนี้ชนิดเดียวก็ถือว่าให้ประสบการณ์การกินไข่เจียวอร่อยๆกับลูกค้าได้แล้ว ผมยังไม่เคยลองกินร้านเจ๊คนนึงที่ได้รางวัลมิชลินที่ขายไข่เจียวจานละเกือบพันบาท ผมมั่นใจว่าประสบการณ์ไข่เจียวของร้านหอมเคยก็ไม่ด้อยไปกว่ามิชลินสตาร์ เพราะมันเป็นเมนูหนึ่งเดียวที่ผมจะเอาไปบอกต่อว่า ร้านนี้กินไข่เจียวอันนี้ก็คุ้มแล้ว ส่วนคุณภาพด้านอื่นๆของร้านก็มาตรฐาน วันธรรมดาที่ไม่ใช่เทศกาลหยุดสงกรานต์ยาวๆแบบนี้น่าจะคนเยอะ เพราะปั๊มน้ำมันแห่งนี้ไม่ใช่ปั๊มใหญ่ ส่วนอื่นๆในปั๊มก็ดูโล่งๆ ไม่ค่อยมีคน มีเพียงแค่ร้านอาหารร้านนี้เท่านั้นที่คนเยอะ แถมภาพราคาใบเสร็จให้ดูด้วยจะได้รู้ว่าราคาไม่แพง เป็นเงินเจ็ดร้อยบาทที่ทำให้เราได้รู้ว่าไข่เจียวเทพแวะมาลองได้ที่นี่

IMG_20190418_131437

ออกจากร้านก็ตรงเข้าภูเก็ต ใช้เวลาขับรถอีกประมาณ 1 ชม. เราเปิดแผนที่ใน googlemaps ขับมาตลอดทริป และเมื่อเข้าภูเก็ตก็ตั้งใจว่าจะแวะไปถ่ายรุปเครื่องบินที่ริมสนามบินเสียก่อน ทริปอันซีนที่แนะนำในหลายๆเว็บก็บอกให้เราไปลองแวะไปถ่ายภาพ เราก็ตั้งค่าใน googlemaps แล้วไปหาดไม้ขาว ไปถึงเราก็งงเป็นใบ้ไปเลย เราไปเห็นเพียงลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่สัก 20 คัน มีมอเตอร์ไซด์ติดซาเล้งพ่วงข้างเอาไว้ในนักท่องเที่ยวนั่ง ลานจอดรถหน้าตาเหมือนจะมีตึกขายของ แต่เป็นตึกร้าง ห้องน้ำก็ร้าง ทุกอย่างที่เห็นในบริเวณที่จอดรถดูร้างไปหมดเลย ถามจากมอเตอร์ไซด์รับจ้างเขาก็บอกว่า ต้องนั่งมอเตอร์ไซด์เข้าไปอีกนิดหนึ่งถึงจะไปถึงจดถ่ายรูป เราก็เลยเข้าใจ ค่ารถมอเตอร์ไซด์คนละ 20 บาท เด็กไม่คิดเงิน ก็จอดรถแล้วต่อซาเล้งกัน

IMG_9498
IMG_9500
IMG_9510
IMG_9514
IMG_9518



มอเตอร์ไซด์พาเราไปถึงหาดที่ติดกับสนามบิน เห็นมีคนรอถ่ายรุปอยู่บ้างสัก 10 คน คนในพื้นที่บอกว่าเครื่องบินน่าจะมีขึ้นลงสัก 15นาทีมาลำนึง แล้วเราก็รอดู แล้วก็ได้ถ่ายภาพกับเครื่องบินที่กำลังขึ้น ได้ภาพ จบภารกิจ แต่ทำไมภาพที่เราได้เครื่องบินถึงลำนิดเดียว ไม่เหมือนภาพที่เห็นตามเว็บเลย เก็บความสงสัยนี้ไว้ เดี๋ยวคืนนี้ค่อยหาคำตอบตอนว่างๆก่อนนอน แล้วเราก็นั่งมอเตอร์ไซด์ออกจากจุดถ่ายภาพมายังที่จอดรถ เสียค่ามอเตอร์ไซด์อีกครั้ง ผู้ใหญ่คนละ 20 เด็กไม่คิด จบทริปหาดไม้ขาวเราเสียค่ามอเตอร์ไซด์ไป 80 บาท

ออกจากหาดไม้ขาวก็ตรงเข้าโรงแรม pullman ซึ่งอยู่สุดขอบเกาะ อยู่ด้านท้ายเกาะ เกือบสุดถนน เหตุที่เลือกโรงแรมนี้ก็เพราะ เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานสูงน่าพัก อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อยู่ใกล้ร้านเค้กอร่อยๆ และคนน่าจะน้อยเนื่องจากอยู่ท้ายเกาะ ผู้คนจะไม่พลุกพล่าน

IMG_9529
IMG_9538
IMG_9547
IMG_9548

ที่ห้องพักของ pullman ภูเก็ตนี้ มีสัญญาณ wifi ที่แรงมาก ผมเห็นอุปกรณ์บางอย่างติดอยู่ที่กำแพงหน้าตาเหมือนเป็นตัวที่ทำงานเกี่ยวกับเน็ตเวิร์คหรืออินเทอเน็ต คิดว่าอาจจะเป็นตัวปล่อย wifi ก็ได้ ความเร็วของอินเทอเน็ตแรงมาก ความเสถียรของสัญญาณ wifi ก็สูงมาก เล่นเน็ตได้เพลิดเพลิน และผมใช้โอกาสนี้หาข้อมูลเกี่ยวกับการอัพเกรด os ในโน้ตบุ๊ค แล้วก็ตัดสินใจลองอัพเกรด os ใน macbookair ของผมเลย เพราะโน้ตบุ๊คตัวนี้ไม่ได้อัพเดทมานานแล้วเล่นเน็ตได้อืดมาก ด้วยสาเหตุมาจาก os เก่า และโปรแกรมเบราเซอร์ที่ใช้เล่นเน็ตก็โบราณ สองวันที่ผ่านมาผมถ่ายภาพไปเยอะ แล้วไม่สามารถอัพโหลดภาพเข้าไปเก็บใน flickr ได้ ด้วยเหตุผลว่า flickr.com ไม่รองรับเบราเซอร์โบราณแล้ว และเบราเซอร์ที่ทันสมัยต้องอยู่ใน os ที่ทันสมัย ก็คือเครื่องผมต้องอัพเกรดอย่างเร่งด่วนนั่นเอง และความแรงของเน็ตที่นี้ก็ยอดเยี่ยม ผมอัพเกรด os สำเร็จ มีเบราเซอร์ใหม่ใช้ และอัพโหลดภาพจำนวนมากเข้าไปยัง flickr ได้ เครื่องโน้ตบุ๊คปี 2010 ยังคงทำงานได้ไหลลื่นในปี 2019 ผมภูมิใจในคอมพิวเตอรเครื่องนี้จริงๆ

IMG_9552

ชายหาดของโรงแรมในตอนเย็นน้ำจะลดลงจนเห็นพื้นทรายลงไปเดินเล่นได้ มีสัตว์ตัวเล็กๆอยู่เต็มพื้นที่ ปูลม หอย ปูเสฉวน เดินไปดูไปก็เพลินๆ แต่เล่นน้ำทะเลไม่ได้ เนื่องจากน้ำลดลงไปไกลมาก เราเดินเล่นดูสัตว์เล็กๆน้อยๆ หยิบดู ไล่จับสักพักก็เริ่มมืดแล้ว

IMG_9550
IMG_9555
IMG_9562
IMG_9575
IMG_9596

เดินเล่นทะเลเสร็จก็มาเล่นน้ำในสระต่ออีกรอบ สระน้ำที่นี่ยาวมาก ผู้ใหญ่สามารถว่ายเล่นได้อย่างสะใจ ส่วนเด็กก็มีบริเวณตื้นๆให้เล่น อากาศร้อนทำให้น้ำในสระอุ่นมาก เรียกว่าร้อนก็ได้ ทำให้การเล่นน้ำในทริปนี้ไม่มีความหนาวเลย

มื้อเย็นเราเลือกร้านอาหารท้ายถนนชื่อร้านสวัสดี แต่โชคร้ายร้านเต็ม รถจอดเต็ม เลยต้องมากินร้านตรงข้ามโรงแรมซึ่งก็เป็นร้านสวัสดีอีกสาขาหนึ่งแต่เล็กกว่า และร้านนี้ก็มีอาหารให้สั่งไม่แพงมาก เราจบมื้อเย็นวันนี้ในราคาไม่ถึงห้าร้อยบาท แถมได้นั่งฟังเพลงเล่นสดด้วย

IMG_20190418_201627_1

กลางคืนเราหาคำตอบเกี่ยวกับภาพเครื่องบินที่หาดไม้ขาว อ่านในรีวิวที่เที่ยวหลายๆเว็บที่เขาพูดถึงการถ่ายภาพเครื่องบินเราก็ได้คำตอบคร่าวๆว่า ภาพเครื่องบินที่ดูใหญ่เกิดจากการถ่ายภาพตอนที่เครื่องบินกำลังบินลง…. จบ หายสงสัย เราไปถ่ายตอนเครื่องบินขึ้น พอถ่ายเสร็จเราก็ออกจากพื้นที่ ไม่ได้อยู่ดูตอนเครื่องบินลง เราเลยไม่รู้ว่าขนาดเครื่องบินตอนลงมันใหญ่กว่ามากนั่นเอง

วันนี้เราจบวันแบบหมดแรง ได้ค้นพบว่าร้านอาหารตรงข้ามโรงแรมก็เป็นร้านราคาถูกพึ่งได้ มีอาหารถูกปาก และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผมก็อัพเดททำงานต่างๆได้คล่องตัว อัพโหลดภาพเข้าเว็บเพื่อเตรียมไว้ใช้งานเขียน blog กันได้สบายใจ ส่วนการถ่ายภาพก็ยังคงใช้กล้อง eos m กับเลนส์ 18-55is เป็นหลัก วันนี้ได้ลองภาพถ่ายแนวหัวกลับด้วย ถือว่าเป็นภาพที่ถ่ายที่ให้มุมมองน่าสนใจ

IMG_9555

อย่างภาพด้านบนนี้ พอถ่ายเสร็จก็เห็นว่าเงากำลังสวย ตำแหน่งยืนกำลังดี สามารถเอามากลับหัวแล้วใช้เป็นภาพใหม่ได้เลย ก็เลยถ่ายซ้ำเพื่อเอาไปกลับหัวโดยเฉพาะ

IMG_9556

ภาพถ่ายซ้ำเพื่อรอกลับหัว จะเน้นให้คนอยู่ด้านบน เงาทอดลงด้านล่าง ปล่อยพื้นที่ด้านล่างเยอะๆ แล้วเอาไปกลับภาพเป็นภาพใหม่

2019-04-29_08-24-53


พาลูกเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต 5วัน 4คืน ตอนที่2

เช้าวันนี้เราตื่นนอนเร็วมาก เพราะว่ามีนัดกับรถรับส่งที่จะมารับพวกเราที่โรงแรมตอน 7 โมงเช้าเพื่อไปขึ้นเรือสำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะรอกและเกาะห้า เราก็เลยได้กินอาหารเช้าแบบที่เช้ามากจนไม่มีแขกคนอื่นมาแย่งที่นั่งที่สวยที่สุดของโรงแรม

IMG_20190417_070029_1

เราซื้อทัวร์ของบริษัทนี้ซึ่งเป็นทัวร์ที่พาเราไปเกาะรอกด้วยเรือลำใหญ่ความเร็วสูง บรรยากาศในเรือเต็มไปด้วยคนจีน มีลูกทัวร์ประมาณ 80 คน เป็นคนไทยแค่ 5 คน ส่วนเจ้าหน้าที่เรือเป็นคนไทยทั้งหมดและทุกคนพูดภาษาจีนได้ และไกด์ประจำเรือก็อธิบายทุกอย่างเป็นภาษาจีน พวกเราคนไทยเหมือนเป็นชนชั้น2ที่มาอาศัยคนจีนเที่ยวเลย แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็น่ารักกับเรา อธิบายออกไมค์ให้คนจีนเสร็จ ก็มาพูดใกล้ๆด้วยปากเปล่าให้ฟังทุกอย่าง เราก็อยู่กับทัวร์ได้อย่างไม่มีปัญหา

IMG_6058
IMG_6061
IMG_6063
IMG_6060

เรือลำนี้เป็นสปีดโบ๊ท บรรทุกคนเต็มลำเรือ มีชูชีพสำหรับทุกคน มีน้ำแจกทุกคน เดินทางจากแผ่นดินประมาณ 2 ชั่วโมงถึงเกาะรอก ชื่อเต็มๆของเกาะรอกคือ อุทยานแห่งชาติเกาะรอก เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ไกลที่สุดจากกระบี่ ไกลยิ่งกว่าเกาะพีพี ด้วยความไกลนี้ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาก ทำให้สภาพของเกาะยังคงมีความสวยงาม ถ้าดูจากแผนที่แล้วเกาะรอกจะอยู่ใกล้แผ่นดินที่จังหวัดตรังมากที่สุด แต่ที่ตรังไม่มีนักท่องเที่ยวแนวดำน้ำ เราจึงต้องมาขึ้นที่กระบี่แทน เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าเกาะรอกแห่งนี้มีความสมบูรณ์กว่าเกาะพีพี ปะการังและปลาที่เกาะนี้เยอะและสวยมากจนไม่ต้องไปเกาะพีพีก็ได้

IMG_6066
IMG_6068

เมื่อใกล้ถึงเกาะ เราถ่ายภาพจากบนเรือได้ภาพสวยงามตามนี้เลย กล้อง eos m กับเลนส์ efm 18-55 พร้อมด้วยฟิลเตอร์โพลาไรซ์ cpl ติดหน้าเลนส์ การถ่ายภาพทะเลให้สวยหากเราใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์แล้วปรับหมุนให้ได้มุมที่พอเหมาะกับแนวแสงแดด เราก็จะได้ความเข้มสดของท้องฟ้าและน้ำทะเลที่ฉูดฉาดน่ามอง เป็นเทคนิคการถ่ายภาพรูปแบบหนึ่ง ภาพที่ถ่ายจบหลังกล้องก็สวยงามเพียงพอ ไม่ต้องไปโพรเซสภาพด้วยคอมพิวเตอร์หรือแอ็พในมือถือแล้ว ตลอดทริปนี้ผมใช้โหมด P ประมาณ 99% ซึ่งเป็นโหมดที่กล้องจะเลือกค่ารูรับแสงและสปีตชัตเตอร์ให้อัตโนมัติ

IMG_6080
IMG_6074
IMG_6085
IMG_6090
IMG_6095

เรากินอาหารกลางวันบนเกาะรอก เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เราเดินต่อแถวไปรอให้เจ้าหน้าที่ตักข้าวและกับข้าวให้ จานกระดาษ ช้อนพลาสติก ใช้แล้วทิ้ง น้ำเปล่ามีเพียงพอ น้ำหวานมีหลายชนิด แต่ไม่ถูกปากคนไทยเลย คิดว่าคงเป็นรสนิยมของคนจีนที่ชอบไม่เหมือนเรา ที่เกาะแห่งนี้มีนโยบายเก็บขยะกลับไปทิ้งที่แผ่นดิน ก็คือขยะทุกชิ้น ต้องขนกลับด้วย ทีมงานของทัวร์ก็เคร่งครัดกฏเหล่านี้ ทำให้เกาะนี้ดูสะอาดตามาก การเล่นน้ำบนหาดจะต้องใส่ชูชีพเสมอ ด้วยเหตุผลว่า ปะการังอยู่ตื้นมาก เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เท้าเหยียบโดนปะการังเลย การใส่ชูชีพจะช่วยลดการยืนด้วยเท้าในน้ำได้ ปะการังจะได้ไม่โดนทำลาย จะมีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องไม่ให้นักท่องเที่ยวลงน้ำด้วยตัวเปล่า ผมไม่ได้เล่นน้ำเอง แต่แม่และขอบฟ้าลงไปเล่นกันสนุกสนาน ขอบฟ้าเล่าให้ฟังว่าเห็นปลาหลายชนิดมากในชายหาด

IMG_6104
IMG_6110
IMG_6114
IMG_6119
IMG_6122

เรือลำใหญ่ที่บรรทุกนักท่องเที่ยวมายังเกาะแห่งนี้ไม่สามารถจอดได้ใกล้ๆชายหาด เพราะปะการังอยู่ตื้นมากและเรือก็ไม่สามารถเข้าใกล้หาดได้ ต้องจอดห่างแผ่นดินเป็นร้อยเมตรแล้วให้นักท่องเที่ยวเดินเหยียบทุ่นลอยน้ำที่วางเป็นทางเดินแทน ทางเดินก็จะแกว่งไปแกว่งมาเล็กน้อย

IMG_6129

ปูเสฉวนที่นี่เยอะมากถึงมากที่สุด ในทุกที่ที่เราเดินผ่านไปบนเกาะ ถ้าเรามองหา เราจะพบปูเสฉวน และปูเสฉวนเหล่านี้ไม่ค่อยกลัวคนเลย เราสามารถหยิบมาดูเล่นได้ แล้วก็ปล่อยให้เดินหายไป เดี๋ยวตัวใหม่ก็เดินมาเฉียดๆให้เราได้เห็นอีก

IMG_0062

หาดทรายสีขาวกับแสงแดดจัดมาก เราแทบจะไม่สามารถเดินเล่นบนหาดทรายแล้วมองด้วยตาเปล่าได้เลย มันแสบตาสุดๆ การมาเที่ยวทะเลที่สวยระดับนี้สิ่งที่ไม่ควรลืมติดตัวมาด้วยคือแว่นกันแดด ผมไปเดินเล่นถ่ายรูปห่างจากกลุ่มคนออกไป ตลอดทางเดินที่ผ่านไปนั้นต้องหยีตา หรือแทบจะหลับตาเดินเลย เพราะแดดแรงมาก ทรายสีขาวสะท้อนแดดจนเรามองพื้นก็ไม่ได้ มองฟ้าก็ไม่ได้ มันมีแต่ความแสบตา ส่วนที่ทรายโดนน้ำทะเลจะดีหน่อยที่ไม่แสบตาทำให้มองได้บ้าง การถ่ายภาพ ทะเล หาดทราย ท้องฟ้า แสงแดด วิวที่รวมสิ่งเหล่านี้ไว้ทำให้ภาพจากกล้องสวยมาก ภาพออกมาสวยจนคนชอบการถ่ายภาพเมื่อดูภาพต้องถามว่าที่นี่ที่ไหน หรือตั้งกล้องยังไง

IMG_6156
IMG_6136
IMG_6147
IMG_6161

ทริปมาเที่ยวเกาะครั้งนี้เป็นทริปที่ช่วยรื้อฟื้นความรู้สึกตื่นเต้นในการถ่ายภาพ ความสนุกในการถ่ายภาพสมัยที่หัดถ่ายใหม่ๆ ได้กลับไปใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ ได้ปรับหมุนหามุมโพลาไรซ์ แล้วเลือกวิธีวัดแสงว่าจะวัดค่าแสงพอดี หรือ จะอันเดอร์ หรือจะโอเว่อร์เพื่อชดเชยแสง การได้ใช้ความคิด ได้หยิบทักษะการถ่ายภาพอย่างจริงจังมาใช้ช่วยทำให้เราสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้น วันนี้เรามีกล้องดิจิทัลคุณภาพดี การเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย ทุกอย่างสงเสริมให้เรามีโอกาสได้รูปที่ดีอยู่แล้ว และการได้ใช้ความคิดก่อนจะเก็บภาพทำให้เราสนุกยิ่งขึ้น ก่อนจะมาถึงทริปนี้ ผมก็ถ่ายภาพไปแบบไม่ได้คิดเลย มันได้แต่ปริมาณ แต่ความสนุกและความอิ่มในการดูภาพมันไม่มี

IMG_6172
IMG_6174

ออกจากเกาะรอกเรือก็พาเราไปอยู่กลางทะเล ไปจอดที่เกาะห้า เป็นเกาะห้าเกาะที่อยู่กลางทะเล เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและปลาสวยงามจำนวนมาก ขอบฟ้ากับแม่ลงเล่นน้ำกันอีกรอบ ผมลงน้ำไม่ไหวแล้วอยากถ่ายรูปมากกว่า ก็เลยเก็บภาพไปเรื่อยๆ

IMG_6180
IMG_6184
IMG_6187
IMG_6197

เราจบวันนี้อย่างหมดแรง ขอบฟ้ากับแม่นั่งนับว่าวันนี้ที่มาดำน้ำได้เจอปลาอะไรบ้าง ปลาอะไรหายาก นับไปนับมาก็ได้เจอประมาณ 20 ชนิด ถือว่าเป็นวันที่โชคดีมาก เพราะไกด์บอกว่าจังหวะน้ำลงและไหลไม่แรงจะทำให้ปะการังดูตื้น เห็นง่าย ปลาก็จะเจอง่ายกว่า ถ้าเป็นจังหวะน้ำขึ้นและพัดแรง ปลาจะน้อย ระหว่างที่เดินทางกลับเราก็ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือหลายเรื่อง คนขับเรือเล่าให้ฟังว่า ปกติจะขับเรือไปกลับเกาะพีพีอยู่เป็นประจำ แต่หน้าท่องเที่ยวที่อุทยานเปิดให้ไปเกาะรอกได้ก็จะย้ายมาขับเรือไปเกาะรอก ไกด์อีกคนก็คุยเรื่องปลาให้ฟัง เลยถามถึงฉลามวาฬหรือ whale shark ว่าเคยเจอไหม ไกด์บอกว่าเขาเคยเจอฉลามวาฬด้วย แถมยังเปิดคลิปที่ถ่ายเอาไว้ให้ดูอีก เรือพานักท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ฝั่งประมาณ 17.30 น. หมดแรงกันถ้วนหน้า และรถตู้รับส่งจากท่าเรือก็รับเราสามคนมาส่งที่โรงแรม วันนี้เรากินมื้อเย็นที่โรงแรม และนอนอย่างหมดแรง

IMG_6198

กล้อง eos m รุ่นแรก กับ เลนส์ efm18-55is ยังคงเป็นทางเลือกที่ผมจะใช้กับทริปทะเล จริงๆในกระเป๋ากล้องผมมี eos 6d กับเลนส์ 24-105F4L มาด้วย แต่หยิบ eos m มาใช้เป็นหลัก ด้วยความรู้สึกว่า eos m ไม่แพง ราคามือสองไม่กี่พันบาท เลนส์ efm 18-55is ก็ขายมือสองกันสองพันบาท การเอากล้องมาถ่ายทะเล มีขี้นลงเรือ มีละอองน้ำ มีลม มีทราย ผมยังรู้สึกว่าใช้กล้องราคาไม่แพงดีกว่า จะได้ไม่ต้องเอากล้องโปรไปเสี่ยงกับทรายและน้ำ แถมฟิลเตอร์โพลาไรซ์หรือ cpl ที่เคยมีก็เป็นฟิลเตอร์ขนาดเล็ก 52มม. ซึ่งใช้กับเลนส์ efm 18-55is ได้พอดี เป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพราะว่า เดิมที ตอนที่ใช้กล้องฟิล์มบ่อยๆ สมัยหัดถ่ายด้วยฟิล์มสไลด์ เลนส์ที่ใช้กับกล้องฟิล์มก็จะมีหน้าเลนส์ 52มม ก็เลยมีฟิลเตอร์ CPL ขนาด 52มม.เอาไว้ใช้ถ่ายภาพแบบเน้นๆ ส่วนกล้องดิจิทัลรุ่นล่างอย่าง eos 350d ที่ผมซื้อใช้ถ่ายงานสารพัดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็มีเลนส์ติดกล้องเป็น efs 18-55is แต่ว่าหน้าเลนส์ใหญ่ 58มม. ผมก็มีซื้อ cpl 58mm ไว้ด้วยเช่นกัน ตอนที่คิดว่าจะเอา eos m ไปทะเล ก็ไปเอา cpl 58 มาติดกระเป๋าไว้เลย เพราะคิดว่าหน้าเลนส์จะใหญ่เท่ากัน วันก่อนเดินทางลองเอามาทดสอบ ปรากฏว่ามันไม่เท่า เพราะ efm18-55is ตัวนี้มันใช้หน้าเลนส์ 52มม โชคดีมากที่ได้ลองก่อน ไม่งั้นก็จะกลายเป็นแบกของไปเที่ยวแล้วใช้ไม่ได้

IMG_6212

ภาพหลังกล้องออกมาแล้วปลาบปลื้มกับโทนสีที่สด จัดจ้าน และดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา eos m ผมใช้มาสักห้าปี เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ cpl กับการถ่ายภาพวิวทะเล เห็นภาพแล้วก็หายเหนื่อย ดูภาพวิวรอบนี้ เทียบกับ eos 6d + 24-105f4L แล้ว ผมคิดว่า ผมชอบ eos m มากกว่า แถมยังน้ำหนักเบา ตัวเล็ก พกง่าย ข้อเสียเรื่องแบตหมดเร็วเราก็ปรับตัวได้แล้ว มีแบตไป 2 ก้อน ถ่ายภาพแล้วไม่ต้องดูภาพบ่อยๆ ถ่ายเสร็จก็กดปิดกล้อง ปุ่มเปิดปิดกล้องของ eos m น่าจะทำงานหนักใกล้เคียงกับปุ่มชัตเตอร์เลย

รออ่านตอนที่ 3 กับทริปกระบี่และภูเก็ต


เพลงคนเก่งคนดี

เพลงนี้ผมได้ยินในงานพิธีปัจฉิมนิเทศ อนุบาล3 ของโรงเรียนเพลินพัฒนา ได้ยินเนื้อเพลงบางประโยคแล้วรู้สึกชอบและอยากหาฟังให้เต็มเพลง ภาษาสวยงามและทำนองที่ฟังง่าย เพลงที่ดีมีคุณค่าแต่ไม่ดัง ต้องขอบคุณผู้ประพันธ์ที่ทำเพลงนี้ขึ้นมา


พาลูกเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต 5วัน 4คืน ตอนที่1

ทริปสงกรานต์ปีนี้ ครอบครัวเราเลือกที่จะไปเที่ยวที่กระบี่และภูเก็ต แนวทางที่เลือกก็คือเดินทางไปกลับด้วยเครื่องบิน ระหว่างที่อยู่ในกระบี่และภูเก็ตก็เช่ารถขับ นอนพักที่กระบี่ 2 คืน นอนที่ภูเก็ต 2 คืน และภารกิจสำคัญคือต้องพาลูกไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะสวยๆ

IMG_5863

เราเริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ เลือกใช้สายการบินของการบินไทย เที่ยวบินออก 8.30 ถึงกระบี่ 9.30 โดยประมาณ แล้วก็รับรถเช่าที่จองไว้ตั้งแต่กรุงเทพ เราใช้บริการของ hertz รับรถที่กระบี่ และคืนที่ภูเก็ตตอนขึ้นเครื่องวันกลับ

เราได้รถโตโยต้า yaris ปี 2018 ซึ่งเป็นรถ eco car ที่เครื่องยนต์เล็ก 1200cc การขับรถคันนี้ให้ความรู้สึกที่ดี มันวงเลี้ยวแคบมาก ถนนสี่เลนที่แคบๆเราสามารถกลับรถได้ในการวิ่งครั้งเดียว และช่วงล่างก็แน่นผสมความรู้สึกนุ่มกำลังดี ขับแล้วรู้สึกเหมือนรถขนาดใหญ่

IMG_5898

ที่กระบี่ เราไปเที่ยวสุสานหอยเป็นจุดแรก ด้วยเหตุผลว่าเราอยากให้ขอบฟ้าได้แวะไปดูสิ่งที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ สุสานหอยหน้าตาเป็นแผ่นๆ ผมดูไกลๆก็เหมือนแผ่นปูนที่เอาไว้ปูพื้นสนาม ปูพื้นถนน แต่ดูใกล้ๆก็พบว่ามีตัวเปลือกหอยติดอยู่ในแผ่นหินจำนวนมาก มันเลยถูกเรียกว่าสุสานหอย อายุของแผ่นหินนี้ประมาณ 75 ล้านปี เปลือกหอยเหล่านี้มันคงเคยโดนไดโนเสาร์เหยียบมาบ้างในยุคที่ 65 ล้านปีก่อน ในช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์

IMG_5899
IMG_5904

ออกจากสุสานหอยเราก็ตั้งใจจะขับไปร้านอาหาร เลยเลือกที่จะไปกินอาหารแถวอ่าวนาง แต่ขอบฟ้าอยากเล่นฟุตบอลแล้ว ตอนขับผ่านชายหาดเลยแวะลงไปเล่นบอลด้วยกัน ขอบฟ้าพกลูกฟุตบอลมาเองด้วย เลยได้ไปเตะเล่นกันริมทะเล พื้นที่ชายหาดอ่าวนางเป็นหาดทรายกว้างๆ ที่พักแถวนี้จะมีถนนกั้นระหว่างตึกกับทะเล คล้ายๆกับพัทยา พอเตะบอลได้พักใหญ่ รู้สึกเหนื่อยได้ที่ก็พักและไปแวะหาร้านกินข้าวแถวนั้น

IMG_5938

เราหาร้านอาหารที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้ๆชายหาด หาข้อมูลจากอินเทอเน็ตได้ร้านครัวธาราที่มีคนแนะนำและรีวิวไว้น่าสนใจ เป็นร้านอาหารที่อยู่ริมหาด ไปถึงจริงๆก็พบกว่าที่จอดรถค่อยข้างน้อย พื้นที่จอดรถดูเหมือนเป็นที่สาธารณะที่มีแต่รถจอดเต็มไปหมด ในร้านไม่มีแอร์ และอาหารทำนาน และไม่อร่อย และ ราคาแพงอย่างน่าตกใจ ผมใช้เงินพันกว่าบาทกินสิ่งที่ไม่อิ่ม ไม่อร่อย และไม่คิดจะกลับมาอีกเลย ประสบการณ์การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าเราจะเจอความประทับใจหรือผิดหวัง แต่ที่เราได้ก็คือ เราได้รู้ว่ารีวิวนั้นเป็นแค่รสนิยมที่หลากหลาย และคนที่แนะนำร้านนี้คงรวยมากและรสนิยมการกินไม่เหมือนเรา

IMG_5951

ออกจากร้านอาหารเราก็ขับรถเข้าที่พักที่จองไว้ เป็นโรงแรมแนวบูทิคที่อยู่ติดหาดทราย ชื่อโรงแรม เดอะทับแขกซันเซ็ต ลักษณะบ้านพักเป็นหลังแยกอิสระ บ้านพักเรียกตัวกันอยู่เป็นตับ มีพื้นที่ชายหาดที่กว้างใหญ่ มีพื้นที่สำหรับเตะฟุตบอลด้วย ขอบฟ้าได้เล่นน้ำทะเล เล่นน้ำสระ และเตะบอลสนุกไปเลย

IMG_5964
IMG_5973
IMG_5994
IMG_6001

มื้อเย็นของวันนี้เราเลือกไปกินร้านอาหารที่แต่งร้านสวยงามน่ารักที่อยู่ใกล้โรงแรม ชื่อร้าน sabai ba bar เป็นร้านหน้าตาหรู ตกแต่งด้วยไม้ และไม่มีแอร์ แต่ชดเชยด้วยอาหารรสชาดดี ราคาสูงพอใช้ได้เลย แต่ก็เยอะกินอิ่ม ระหว่างที่รออาหารก็ได้ดูคู่แต่งงานที่มาจตัดงานอยู่ที่ริมหาดที่ติดกับร้านด้วย เป็นภาพงานแต่งงานที่น่ารักเหมือนกับหนังโรแมนติกคอมมีดี้ แผนที่ของร้านอาหาร sabai ba bar อยู่ด้านล่าง

Screen Shot 2562-04-25 at 14.11.22
IMG_0036
IMG_0033
IMG_0017

ผมสงสัยอยู่เพียงอย่างเดียวกับร้านอาหารร้านนี้คือ เรือลำที่จอดอยู่กลางทะเลลำนี้ทางร้านได้จ้างให้มาจอดไว้หรือเปล่า เพราะตำแหน่งเรือเป็นตำแหน่งที่มองเห็นจากร้านแล้วอยู่ตรงกับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆตกดินพอดี มันเป็นจังหวะและตำแหน่งที่ถ่ายรูปได้ลงตัวมากๆ ถ้าบอกว่าเรือเป็นของเจ้าของร้านผมก็เชื่อ

IMG_0038

วันนี้จบวันแบบอิ่มและร้อนมาก กลับห้องพักแล้วเตรียมตัวเข้านอนเร็วหน่อย เพราะพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวเกาะรอก และเกาะห้า กัน อ่านต่อได้ใน พาลูกเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต 5วัน 4คืน ตอนที่2

ด้านล่างเป็นแผนที่ของสุสานหอย โรงแรมทับแขกซันเซ็ต และร้านอาหารสบายบาบาร์ ตามลำดับ



nec01 – อย่าลืมเหตุผลที่เราพบกัน

อย่าลืมเหตุผลที่เราพบกัน

 การทำเน็ตเวิร์คกิ้งที่ดีเป็นอย่างไร  สิ่งที่จะต้องจำให้ขึ้นใจและไม่ลืมก็คือ เราต้องมาประชุมด้วยทัศนคติที่ดี  หรือเราต้องเป็นคนคิดบวก และ คิดถึงการให้ความช่วยเหลือเพื่อนเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเป็นประเด็นสำคัญ

การคิดบวกมีความหมายครอบคลุมหลายอย่าง  สิ่งหนึ่งที่เราควรจะทำตัว “คิดบวก” ก็คือ ไม่บ่นในสิ่งที่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของการประชุม หรือ  ลองสังเกตดูนะครับ สมมุตเราไปโรงแรมแห่งหนึ่งที่จัดสัมมนา เรากำลังไปเน็ตเวิร์คกิ้ง  เราเคยได้ยินไหมว่า โรงแรมนี้อาหารไม่อร่อย  ซึ่งจริงๆแล้ว เรามาทำอะไรครับ  เรามาทำธุรกิจนี่คือประเด็นหลัก เราไม่ได้มาเพื่อกินอาหาร  ประเด็นอาหารเป็นเรื่องรอง

หรือ เราเคยได้ยินหรือเป็นผู้บ่นเองไหมว่า ห้องประชุมไม่สวย ลำโพงเสียงไม่ดี ที่จอดรถแย่  สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงประเด็นรองครับ  ประเด็นหลักคือ เรามาประชุม เพื่อสร้างลูกค้าในอนาคต  เรากำลังเพาะบ่ม เรามาเพื่อออกแบบ referral และออกแบบว่าที่ลูกค้า  นั่นคือเรากำลังมาเน็ตเวิร์คกิ้ง

ข้อเสียเล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่ประเด็นที่เราควรจะใช้เวลากับมัน สิ่งที่ควรทำก็คือการโฟกัสกับการประชุม การทำให้การประชุมเป็นการประชุมที่มีคุณภาพ สามารถสร้างธุรกิจต่อเนื่องได้ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นหัวใจ

อย่าลืมเหตุผลที่เราพบกัน


เทียบกล้องโปร กับ กล้องถ่ายเล่น

canon eos 6d กับเลนส์ 24-105F4L is เป็นชุดถ่ายภาพระดับจริงจังของผมเอง ส่วนชุดพกพาถ่ายเล่นในวันเบาๆ ไม่ได้เอาไปรับงานก็จะใช้ eos m กับเลนส์ efm 18-55 is stm มีโอกาสได้ถ่ายภาพเปรียบเทียบกัน จะแตกต่างกันแค่เพียง eos m จะติด cpl ไว้ที่เลนส์ด้วย

IMG_0039
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6094
eos m + 18-55is + cpl


IMG_20190417_122339
huawei p9

ลองถ่ายในมุมคล้ายๆกันในทริปกระบี่ เป็นทะเลที่เกาะรอก น้ำทะเลสวยใส ชายหาดขาวสะอาด แสงแดดจัดแสบตามากหากมองทรายด้วยตาเปล่า

IMG_0041
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6119
eos m + 18-55is + cpl
IMG_0077
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6198
eos m + 18-55is + cpl

IMG_0071
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6188
eos m + 18-55is + cpl

IMG_0073
eos 6d + 24-105is F4L
IMG_6189
eos m + 18-55is + cpl

ข้อเสียของการไม่อัพเดทซอร์ฟแวร์ ทำให้ใช้งานไม่ได้

ตั้งแต่ผมซื้อโน้ตบุ๊คตัวล่าสุดเมื่อปี คศ 2010 นั่นคือ macbookair 2010 ผมก็ใช้งานมันมาตลอด ใช้ทำงาน ใช้เล่นเน็ต ใช้ดูหนัง ฟังเพลง ดู youtube ด้วย ซึ่งมันก็ใช้งานได้ดี ในงานประจำวันที่ต้องทำก็จะมีโปรแกรมคิดราคาที่ใช้ excel ผมก็เลือกใช้ openoffice เป็นหลัก เพราะไม่อยากละเมิดลิขสิทธิ์ ไฟล์ excel จำนวนหลายพันไฟล์ก็เก็บไว้ใน dropbox และ sync กับคอมตั้งโต๊ะไว้ โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ที่ทำงานจะมีไฟล์สำหรับทำงานเหมือนกันตลอดเวลา ผมจะคิดราคาให้ลูกค้าที่โต๊ะทำงานหรือโน้ตบุ๊คก็ได้ ส่วนการเช็คเมล ก็ใช้เบราเซอร์อย่าง safari เข้าไปอ่านเมล และเขียน blog ส่วนตัว

ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบลื่น ใช้ osx ตั้งแต่ 10.6 ซึ่งเป็น os ติดเครื่องโน้ตบุ๊คตั้งแต่แรก จนถึงปีปัจจุบัน os กลายเป็น 10.13 ไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่อัพเดทเลย os ติดเครื่องเลย ยังคงเป็น 10.6.6 อยู่ ตัวเลข .6 ตัวสุดท้ายเป็นอัพเดทย่อยๆที่กดอัพเดทไปตามเวลาที่มีการแจ้ง ซอร์ฟแวร์ที่ใช้งานยังใช้งานได้อยู่ แต่ก็ค่อยๆไม่รองรับมากขึ้น ตอนที่มีการแจ้งให้อัพเดทเป็น 10.7 ผมก็ไม่อัพ ตอนที่มีอัพเป็น 10.8 ผมก็ไม่อัพ ด้วยเหตุผลว่า มันยังใช้งานได้ และ osx ก็ค่อยๆอัพเป็นตัวที่สูงขึ้นอีกหลายครั้งจนปีนี้ คศ 2019 osx ไปถึง 10.13

ปัญหาเริ่มมีให้เห็นช่วงปี 2016 มีหลายโปรแกรมที่มีการอัพเดทแล้วไม่รองรับการทำงานบน 10.6 อีกต่อไป ทำให้ผมไม่สามารถใช้ dropbox ได้ เอกสารที่จะใช้คิดราคาจะอยู่ในระบบของ dropbox ทั้งหมด นั่นทำให้ผมไม่มีเอกสารคิดราคาที่สะสมประวัติการขายและไฟล์การคิดราคาสิบกว่าปีอยู่ในโน้ตบุ๊คเลย นอกจากนี้ยังมีปัญหากับโปรแกรม line ที่ทำงานช้ามากบน 10.6 จนไม่สามารถใช้งานได้อีกเลย และ line รุ่นใหม่ๆก็ต้องการ osx ที่สูงกว่านี้ ส่วน safari ก็ไม่รองรับการทำงานกับเว็บยุคใหม่ๆหลายเว็บ โดยเฉพาะ facebook และ youtube ไม่ใช่แค่ safari หรอก แต่ firefox ก็ไม่รองรับ ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ง่ายๆด้วยการอัพเดท safari หรือ firefox ให้ทันสมัย แต่ประเด็นมันเกิดเป็นปัญหาตรงที่ safari และ firefox ตัวล่าสุดไม่ทำงานบน osx10.6.6 แล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นปัญหาอย่างแท้จริง

เพราะว่า พอถึงวันที่ผมจะคลิกอัพเดท ให้เป็น osx10.13 ระบบอัพเดทก็ฟ้องว่า การอัพเดทเป็น 10.13 ต้องทำจาก osx 10.8 จะอัพเดทไกลๆมาจาก 10.6 ไม่ได้ นี่คือความโชคร้ายของผม และตัวอัพเดทของ 10.6 ไป 10.7 หรือ 10.8 หรือ 10.9 ก็ไม่มีให้คลิกแล้ว เพราะมันผ่านไปหลายปีแล้ว เครื่องคอมในปี 2010 จะอัพเดทในปี 2019 มันทำไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ผมพยายามหา firefox รุ่นที่ทำงานบน 10.6 ได้แล้วยังพอเปิด facebook และ youtube ได้อยู่มาใช้ มันพอใช้ได้แต่มันช้าและหน่วงมากๆ เครื่องโน้ตบุ๊คของผมเปิดเครื่องใช้เวลาแค่ 14 วินาที ก็พร้อมใช้งาน เปิดโปรแกรมที่ไม่ต้องต่อเน็ตได้เร็วทุกโปรแกรม แต่จะอ่าน feed ในเฟสบุ๊คช้ามาก ไม่รู้ว่าข้อมูลของเว็บรุ่นใหม่ๆมันต้องประมวลผลอะไรมากมาย เบราเซอร์ที่ผมมีอยู่มันทำงานช้ามาก

ยังมีปัญหาการเปิดเพลงจาก youtube อีกที่เคยทำได้ดีมาก ดีขั้นเทพ ตอนที่มันติดขัดมันเริ่มช้าลง ผมไม่สามารถหาเพลงที่ต้องการได้จาก youtube อีกแล้ว เพราะหน้าแรกของ youtube เปิดขึ้นมาก็มีข้อมูลขึ้นไม่ครบ ผมจะหาเพลงที่ต้องการสักเพลง ผมใช้เวลากดแล้วรอหน้าจอเปลี่ยนแปลงนานมาก เรียกได้ว่า หากเรานึกถึงเพลงที่อยากฟัง แล้วเราจะไปหาจาก youtube ผมใช้เวลาผ่านไปสัก 3 นาทีผมยังไม่ได้ฟังเพลงที่ต้องการเลย มันแย่ยิ่งกว่าการเปิดด้วยมือถือเสียอีก

แต่ผมเป็นคนใจเย็นเป็นน้ำ รอได้ ช้ามากนักก็ใช้วิธีบุ๊คมาร์คเอาไว้เราจะได้เข้าถึงไฟล์เพลงใน youtube ไปเลยตรงๆ ไม่ต้องไปหน้าแรกของ youtube แบบนี้ก็พอไหว แต่จุดแตกหักกับปัญหามันมาจาก การเขียน blog ของผมที่ใช้งานระบบภาพของ flickr ไม่ได้ วิธีทำงานของผมก็คือ ผมจะอัพข้อมูลลง blog บน wordpress และใช้ภาพที่ลิงค์มาจาก flickr ของผมเอง ผมใช้ flickr มาประมาณ 10 ปี มีภาพอยู่ในระบบเป็นแสนภาพ ภาพอะไรที่ถ่ายมาก็อัพโหลดเข้าไปไว้ใน flickr ทั้งหมด แล้วก็เลือกเอาภาพที่จะประกอบกับการเขียน blog มาโพสท์ใน wordpress แล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ flickr ก็หยุดการรับภาพจาก firefox ในโน้ตบุ๊คของผม ด้วยเหตุผลตามภาพ นั่นคือผม login เข้า flickr ของตัวเองไม่ได้

Screen Shot 2562-04-21 at 4.45.05 PM

การไม่อัพเดท os ทำให้ผมไม่สามารถอัพเดทเบราเซอร์ได้ และการไม่อัพเดทเบราเซอร์ทำให้ผมอัพเดทภาพเข้า flickr ของตัวเองไม่ได้ นี่คือปัญหาที่ใหญ่สำหรับผมมาก ไม่สามารถอดทนได้ ต้องหาโน้ตบุ๊คใหม่มาใช้ นี่คือสิ่งที่คิดออก

เว็บ flickr  บอกว่ากรุณาให้เบราเซอร์ที่อัพเดท หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด

ซูมให้อ่านใกล้ๆ


……เดี๋ยวโพสท์ต่อตอนที่ 2

รีวิว xiaomi compact bluetooth speaker 2

IMG_0015




ลำโพงบลูทูธตัวใหม่ของ Xiaomi ที่ทำออกมาขนาดเล็กมาก และราคาถูกมาก รุ่นนี้ตัวถังเป็นพลาสติกเนื้อแข็ง มีเพียงปุ่มเดียวคือกดเพื่อเปิด และกดเพื่อปิด เป็นปุ่มกดอยู่ด้านล่าง ต้องยกลำโพงหงายท้องถึงจะเห็นปุ่มกด ตัวมันเองไม่สามารถต่อสัญญาณ Aux ได้ ดังนั้นมันจะถูกใช้งานด้วยการเชื่อมบลูทูธเท่านั้น

ผมเดินผ่านร้านขาย Mi ในห้าง เลยถือโอกาสมองหาว่ามีขายหรือยัง เพราะตั้งแต่ได้ข่าวว่าเปิดตัวก็ขายดีมาก ถามไปยังเพื่อนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้รับคำตอบว่าของเข้ามาก็หมดแทบตลอด วันนี้เดินผ่านเห็นว่าวางขายให้ซื้อได้ง่ายแล้วก็เลยจัดมา 1 ตัว

สอบถามคนขายว่าตัวใหม่รุ่น2 เทียบกับตัวเก่ารุ่น1 คุณภาพต่างกันไหม คนขายบอกเสียงเหมือนกัน ก็เลยซื้อรุ่นใหม่มา เพราะราคาถูกกว่ารุ่นแรก กลับมาถึงบ้านก็จัดการทดลองฟัง สิ่งที่ฟังทดสอบก็คือเพลงต่างๆในโทรศัพท์ และรายการที่ฟังทาง youtube เป็นหลัก

IMG_5985

หลังจากที่ทดลองใช้ได้ 2 วันก็ได้ข้อสรุปสำหรับตัวผมเองบันทึกไว้ให้อ่านกันดังนี้

1 Xiaomi เสียงดัง ฟังชัด แต่เบสน้อย เหมาะเอาไว้ฟังข่าว ฟังเสียงพูด ฟังเอาเนื้อหา ไม่ได้ฟังเอาอรรถรส

2 คุณภาพเสียงของ Mi ตัวนี้ยังไม่ดีกว่าลำโพงบลูทูธอย่าง JBL go ที่ให้เสียงได้ใหญ่กว่า เบสชัดกว่า ลงลึกกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะค่าตัวของ JBL go แพงกว่ากันหลายเท่าตัว

3 ลำโพง Mi ตัวนี้หน้าตาน่ารัก ดูแล้วอยากพก อยากเอามาร้อยเชือกแล้วติดเป็นพวงกุญแจ ซึ่งในกล่องที่มากับลำโพงมีสายคล้องมาให้ด้วย เจตนาน่าจะเอาไว้คล้องเพื่อติดตัวเจ้าของ

4 ใช้เป็นของขวัญ ของแจกได้ เพราะมันเป็นสินค้าที่น่ารักน่าใช้ แม้ว่าจะคุณภาพสู้ตัวราคาสูงไม่ได้ แต่มันก็ใช้งานในการฟังข่าวหรือฟังเพลงได้สมกับค่าตัว เมื่อหลายปีก่อนหากจะใช้ลำโพงบลูทูธสักตัว เราคงต้องมองหาของใหญ่ๆที่เกินกว่าจะพกพาได้ การที่ mi ทำออกมาเป็นตัวเล็กก็ต้องชื่นชมว่าพัฒนาของลำโพงเล็กทำได้น่าทึ่งมาก

IMG_20190415_194227


ลำโพงราคาเพียง 299 บาท เราคงไม่ต้องคาดหวังคุณภาพเสียงจากตัวมัน ส่วนฟังค์ชั่นที่มันทำได้ ก็คือมันเป็นลำโพงพกพาที่เล็กที่สุดในโลก

IMG_20170615_175140-01
ลำโพง jbl go เป็นลำโพงพกพาขนาดเล็กที่ผมยังเชื่อว่าดีที่สุดในตลาด



IMG_20170604_151458-01

nec94 – การเรียก referral จากคนเพิ่งพบกัน

 
การเรียก referral จากคนเพิ่งพบกันเป็นเรื่องที่มีคนอยากรู้ เราจะมาวิเคราะห์ถึงขั้นตอนการให้ referral ว่าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

สมมุติว่า เรากำลังบรรยายเกี่ยวกับอาชีพของเรา ความสามารถของเรา ผลิตภัณฑ์ของเรา อะไรก็ตามที่อยู่ในการพรีเซ้นท์ของเรา ซึ่งในกลุ่มของเราก็คือการพรีเซ้น 5 นาที และมีคนฟังอยู่ในห้องนี้เต็มห้อง สมมุติว่าเราบรรยายได้ดี ฟังรู้เรื่อง มีคนสนใจ นั่นแปลว่า เรากำลังทำให้ตัวเองมีโอกาสรับ referral จากคนในห้อง เพราะว่า การพรีเซ้นที่ดีหรือการพูดที่ดีเป็นเครื่องมือช่วยทำให้เรามี visibility สูงขึ้น และ ช่วยเพิ่ม creditability ให้สูงขึ้นไปพร้อมกัน  สองอย่างนี้ทำให้เราดูน่าเชื่อถือ  และคนฟังในห้องก็จะมีความรู้สึกว่าเราน่าสนใจ น่าจะให้ referral กับคนเราได้
 
 
เหตุการ์ณคล้ายๆกัน หากเราเพิ่งจะพูดสนทนากับใครสักคน และสิ่งที่พูดคุยกันเป็นประโยชน์ทางธุรกิจในทางใดทางหนึ่งสำหรับทุกคนในวงสนทนา  นั่นหมายความว่า เราเพิ่ม visibility ให้ตัวเอง และ เพิ่ม creditability ไปพร้อมกัน  เท่ากับว่าเราทำให้ตัวเองมีความพร้อมที่จะรับ referral แล้ว เพราะเรามี visibilityและ creditability ที่สูงขึ้น และคู่สนทนาของเราก็กำลังไว้ใจเรา เนื่องจากเขาฟังจนจบและฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นว่าที่ลูกค้าโดยตรง หรือ เป็นพาร์ทเนอร์ก็ตาม หากเขาเป็นลูกค้าโดยตรงได้ เราก็มีโอกาสได้ referral   หากเขาเป็นพาร์ทเนอร์ เราก็มีโอกาสได้รับการแนะนำเพื่อนของเขาให้กับเรา การอยู่ในเหตุการณ์สนทนาร่วมกัน หรือบรรยายร่วมห้องกันนี้ คือการมีจุดร่วมบางอย่างร่วมกัน พอเขาและเรามีบางอย่างเชื่อมกันแล้ว โอกาสที่จะแบ่งกันลูกค้าจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงเวลาจากนี้ไป
แต่การให้ referralจะไม่เกิดขึ้นทันทีในวินาทีนี้   มันจะเกิดขึ้นในการพูดคุยกันอีกรอบหนึ่งที่ลึกขึ้นหลังจากนี้สัก 2-3 วัน  นั่นหมายความว่าให้เราติดตามผลด้วยการนัดไปทำ 1-2-1 กับเขา การพบปะกันรอบที่ 2 ที่พูดคุยสนทนากันลึกขึ้น เป็นโอกาสที่จะได้แบ่งปันซึ่งกันและกัน และการพบกันรอบสองนี่เองที่จะมีโอกาสเกิด referral ได้สูงที่สุด
 
 
 
 
 
 

ต่อ lego ตามแบบ

ในที่สุดขอบฟ้าก็ต่อ lego ตามแบบได้ แม้ว่าพ่อจะนั่งอยู่ข้างๆคอยตรวจให้ว่าทำถึงขั้นไหนแล้ว แต่ก็ถือว่ามีความพยายามต่อเนื่องที่ต่อจนจบ อยู่ๆลูกก็เล่นแบบมีสมาธินานๆได้ นึกว่าจะเป็นลิง ลุกวิ่งตลอดเวลาซะอีก

IMG_0213