กล้องฟิล์ม canon eos33

IMG_5395

กล้องฟิล์มของ canon eos33 เป็นกล้องระดับกลางของค่าย  ในยุคที่กล้องรุ่นสูงสุด ไฮเทคสุดของกล้องฟิล์มยุคสุดท้ายคือกล้อง eos3 ที่เป็นเกรดโปร  มีรุ่นกลางเป็น eos33 eos30 และมีรุ่นเล็กเป็น eos300 ซึ่งเป็นแนวทางของ canon ที่ตัวเลขประจำรุ่นสูงจะใช้เลขตัวเดียว  ส่วนรุ่นเล็กจะเป็นเลข 3 หลัก

กล้องยุคสุดท้ายของฟิล์มผมจะวัดจากกล้องที่รองรับระบบแฟลช e-ttl ที่เป็นระบบแฟลชไฮเทคมาก  เป็นระบบแฟลชของ canon ที่พัฒนาจนทำให้ช่างภาพกล้องฟิล์มสามารถควบคุมแสงแฟลชได้ดังใจยิ่งกว่าแฟลชแมน่วลเสียอีก  หากเราศึกษาทำความเข้าใจระบบแฟลชไฮเทคของ canon จนใช้งานได้เป็น  มันจะให้ความแม่นยำของแสงแฟลชระดับจับวาง  เกือบจะแม่นจำเท่ากับการวัดด้วยมิเตอร์วัดแสงแฟลชเลย

eos33 เป็นกล้องที่ผมซื้อมาใช้เพื่อรับงานถ่ายภาพรับจ้าง โปรคนอื่นใช้ eos1  eos3 ส่วนผมใช้ eos33 เนื่องจากไม่สามารถลงทุนกับบอดี้ได้หนักเท่ากับมืออาชีพ  เพราะผมแค่หาเงินเติมน้ำมัน หาเงินเที่ยวเท่านั้น  แต่มันก็อยู่กับผมมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเข้ามา มันทำเงินให้ผมตั้งแต่วันแรกเลย  และในตอนที่เริ่มใช้ดิจิทัล eos33 ก็ถูกวางเก็บไว้ เก็บลืมไปเลย  จนหลายปีผ่านมา หยิบออกมาเล่นดู ก็พบกว่ายางเหนียวทั้งตัว  และด้วยความหงุดหงิด  ก็เลยหาอะไรมาเช็ดให้ยางหายเหนียว  ทิชชูอยู่ใกล้ตัวก็เลยใช้ทิชชู่เช็ด  เช็ดไปเช็ดมาเศษขาวๆของทิชชู่ก็ติดอยู่กับบอดี้ตั้งแต่วันนั้น

วันนี้ความนิยมกล้องฟิล์มค่อยๆเพิ่มขึ้น  กล้องมือสองที่ราคาร่วงติดดิน กล้อง SLR ที่เคยขายทิ้งกันหลักร้อยบาทก็ค่อยๆราคาแข็งขึ้น จนขึ้นมาอยู่ระดับหลายพันบาท   วันนี้เลยหยิบออกมาตรวจอีกครั้ง และทดลองใส่เลนส์เพื่อลองใช้งานดู  ผลก็คือใช้งานได้ดี  ระบบไฟฟ้ายังทำงานครบถ้วนเหมือนเดิม หน้าจอดิจิทัลที่แสดงสถานะก็ทำงานทุกส่วน ทุกค่าสามารถแสดงผลได้

คาดว่าจะได้นำไปใช้ถ่ายภาพอีกครั้งในเร็วๆนี้

ตอนนี้ขอหาภาพเก่าๆที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มตัวนี้มาแปะไว้ดูเล่นก่อน

neg-place-img203

neg-place-img395

neg-sanamluang-img343

slide-img105

neg-fruit-img017-resize

neg-fruit-img018

slide-img673

nec23 – ความลับของการทำ networking ให้เกิดผลลัพธ์

จากประสบการณ์ 20 ปีของการทำการตลาดแบบบอกต่อของ bni  มีการค้นพบวิธีที่จะทำให้เราได้ธุรกิจจากการบอกต่ออย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งวิธีการนี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ความลับพิเศษแต่อย่างใด

วิธีการนี้คือ  เราจะต้องใช้เวลากับการ networking ให้มากเพียงพอ  และการ networking นี้ จะต้องทำให้ถูกคนด้วย จากสถิติของ bni ได้ข้อสรุปว่า ผลลัพธ์ทางธุรกิจแปรผันตรงกับเวลาที่เราใช้ทำ networking  นั่นคือยิ่ง networking มาก ยิ่งได้ผลลัพธ์มาก

NetworkingSecretGraph

 

และจากสถิติที่รวบรวมไว้เมื่อทำเป็นกราฟออกมาก็จะเป็นไปตามภาพ ยิ่ง networking มาก ก็ยิ่งเกิดผลลัพธ์มาก  ดูลงไปในรายละเอียดของสถิติ เราจะพบว่า หากเราต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้น 50% เราควรใช้เวลาประมาณ 5-9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการรวบรวมของ bni  และค่าเฉลี่ยของผลลัพธ์ 50% เกิดจากการใช้เวลาทำ networking 6.5 ชั่วโมง  ส่วนผลลัพธ์ 70% จะต้องใช้เวลา 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อ networking อย่างถูกต้อง

แล้วเราจะใช้เวลาของเราไปทำ networking กี่ชั่วโมงดีเพื่อธุรกิจของเราเอง

 

การใช้แฟลชเพื่อปรับปรุงภาพให้สมบูรณ์ขึ้น

การถ่ายภาพด้วยแสงแฟลชเป็นยาขมของช่างภาพฟิล์มมานาน  เพราะแสงแฟลชมักจะทำให้ภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ  และการปล่อยแสงแฟลชก็ควบคุมยาก  ถ้าหากเราไม่มีข้อมูลทางเทคนิคของอุปกรณ์ทุกชิ้น ไม่รู้กำลังไฟแฟลชที่แท้จริงของแฟลช และไม่รู้วิธีคำนวณค่ารูรับแสงที่จะใช้กับแฟลช เราก็แทบจะไม่ได้ภาพที่ดีจากแฟลชเลย  เทคโนโลยีของแฟลชจึงถูกพัฒนาไปไกลมาก ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้กล้องและแฟลชทำงานร่วมกันและให้ค่าแสงแฟลชที่เหมาะสมกับภาพได้ดีที่สุด

 

แต่ยุคสมัยของกล้องดิจิทัลทำให้การถ่ายภาพด้วยแฟลชเป็นเรื่องง่ายขึ้น  เพราะเราจะเห็นภาพหลังถ่าย  ภาพที่ใช้แฟลชแล้วมีความสมบูรณ์ขึ้นเราก็สามารถเห็นได้ทันที  ถ้ามีเวลาเราก็สามารถทดลองใช้แฟลชกับสิ่งที่เราถ่ายได้  หากสวยถูกใจก็เอาไปใช้งาน  หากไม่สวยก็แค่ลบภาพทิ้ง

ตัวอย่างตอนนี้จะให้ดูภาพอาหารในจาน  ภาพนี้ผมถ่ายที่โต๊ะอาหารที่บ้าน สภาพแสงในบ้านก็จะได้รับความสว่างจากแสงไฟเพดานเท่านั้น   กล้องและเลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพนี้คือ canon eos 6d และเลนส์ canon 50f1.4   เปิดโหมด P กล้องจะเลือกรูรับแสงและสปีดชัตเตอร์ให้อัตโนมัติ

IMG_5304

 

เมื่อเห็นภาพแล้วก็ลองติดแฟลชเข้าไป  ใช้แฟลช รุ่น 90ex ที่แถมมากับกล้อง eos m  แฟลชตัวนี้เป็นแฟลชตัวเล็ก ใช้ถ่าน AAA 2 ก้อน   ปล่อยให้กล้องและแฟลชสื่อสารกันเองเพื่อถ่ายภาพนี้  โฟกัสแล้วกดถ่ายในโหมด P เหมือนเดิม  ก็ได้ภาพด้านล่างนี้

 

IMG_5305

 

แสงแฟลชช่วยให้เงาในจานอาหารหายไป  เป็นเงาที่เกิดจากแสงไฟหลายดวงในบ้านแล้วทำให้เกิดเงาพาดไปพาดมาในจาน  ภาพก็จะดูสมบูรณ์ขึ้น  คนถ่ายภาพจะรู้ได้เองว่าชอบแบบไหน

 

การรู้จักเทคนิคการใช้แฟลชทำให้เราสามารถสร้างงานที่หลากหลายได้  มีทางเลือกในการแก้ปัญหาได้มากขึ้น  บางโจทย์ บางงาน อาจต้องการภาพแค่รายละเอียดชัดเจน ไม่ต้องการเงามืดที่พาดผ่านวัตถุ หรือแม้แต่การถ่ายคนแล้วหน้าผ่องสว่างขึ้น  รู้แล้วค่อยเลือกใช้ หรือ เลือกไม่ใช้ ย่อมดีกว่าไม่รู้

การแก้ปัญหาด้วยแฟลช

007

ภาพตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม  ภาพบนเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง yashica 635 ซึ่งเป็นกล้องฟิล์มขนาด 120  เป็นภาพที่ถ่ายในห้องพักของโรงพยาบาล  ใส่ฟิล์มความไว 160 เอาไว้ และก็เลือกถ่ายแบบไม่มีแฟลช  ภาพที่ได้ก็จะเป็นสภาพแสงจริงของห้อง  ด้านนอกห้องจะสว่าง ส่วนด้านในห้องแสงจะน้อยกว่า ทำให้ตัวคนดูเป็นโทนสีเข้ม ดูเป็นการถ่ายภาพที่รับแสงน้อยเกินไป

 

กรณีภาพบน  หากเราลดสปีดชัตเตอร์ลงเพื่อให้กล้องรับแสงมากขึ้นภาพคนก็น่าจะสว่างพอดี แต่ฉากหลังคงจะเลือนหายไปเกือบหมด  ตัวแบบนั่งอยู่ริมหน้าต่างแบบนี้ หากเราถ่ายภาพไปตรงๆ  ก็จะเป็นการถ่ายย้อนแสง ตัวแบบจึงมืดเป็นเรื่องปกติ

 

การแก้ปัญหาให้ภาพนี้เลือกใช้วิธีเปิดแฟลชช่วย  แสงแฟลชถูกตั้งให้ยิงไปสะท้อนกับเพดาน แล้วแสงแฟลชจะชิ่งกับเพดานสีขาว  เราเรียกเทคนิคนี้ว่าการ bounce  แสงแฟลชจะกระทบเพดานแล้วกระจายตัวลงมาโดนแบบ  ภาพจึงมีความสว่างของตัวแบบเพิ่มขึ้น  ลักษณะแสงแฟลชแบบนี้จะมีความนุ่มนวล ค่าแสงแฟลชที่พอดีจะทำให้ภาพดูสมบูรณ์ขึ้นดังภาพล่าง  เป็นการใช้แฟลชแก้ปัญหาสภาพแสงภายในและภายนอกต่างกันมากเกินไป

IMG_0440

 

การใช้แฟลชแบบแมน่วล ต้องคำนวณกำลังไฟ ระยะทาง รูรับแสง และค่าการสะท้อนเพดาน 4 ตัวแปรนี้มีวิธีคิดคำนวณเพื่อให้ค่าที่ถูกต้อง  เราจะต้องรู้ข้อมูลอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อให้การใช้เทคนิคนี้เป็นไปอย่างแม่นยำ  เพราะการถ่ายภาพด้วยฟิล์มเราต้องมีพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ  เพราะเรายังไม่เห็นภาพทันทีนั่นเอง

สูตรการคิดหาค่ารูรับแสงสำหรับการใช้งานแฟลช คิดที่ความไวฟิล์ม 100
รูรับแสง = guide number / ระยะทาง
ค่า guide number คือกำลังไฟที่แฟลชจะระบุไว้ในสเป็ค แฟลชที่ใช้ครั้งนี้คือ Vivitar 2700 เป็นแฟลชที่มีค่า Guide number ประมาณ 8 ระยะยืนถ่ายภาพ กับแบบ แสงแฟลขจะวิ่งขึ้นเพดานแล้วสะท้อนไปที่ตัวแบบ ระยะทางประมาณด้วยสายตาก็วิ่งขึ้น 1.5 เมตร วิ่งลง 1.5 เมตร ก็ประมาณ 3 เมตร ค่ารูรับแสงที่คำนวนได้ก็จะประมาณ


รูรับแสง = guide number / ระยะทาง
รูรับแสง = 8 / 3 = 2.6 ซึ่งจะเป็นค่าสำหรับฟิล์มความไว 100
แต่การใช้เทคนิคการเบ้าซ์หรือสะท้อนเพดานขาวจะต้องเผื่อค่าแสงที่หายไปอีก 2stop ดังนั้น ค่าการถ่ายภาพที่ให้แสงพอดีสำหรับภาพนี้น่าจะต้องใช้ฟิล์มความไว 400 และเปิดรูรับแสง 2.6 นั่นเอง

010

แต่ว่า ทั้งหมดเป็นความสว่างจากการคำนวณ สถานการณ์นี้เราวัดแสงพอดีที่ค่าแสงปกติ แสงพอดีแล้วตั้งแต่ยังไม่ใช้แฟลช ดังนั้นการใช้แฟลชเพิ่มเติมเข้ามาก็จะทำให้ภาพสว่างขึ้น แม้กำลังไฟจากการคำนวณจะไม่พอ และภาพที่ตัวแบบสว่างขึ้นก็เป็นดังภาพนี้

 

 

รีวิวหูฟัง sony mdr-zx110ap ของดีราคาถูก

IMG_5807

หูฟังทรงคลาสิคยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักเล่นเฉพาะทาง  เพราะเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงได้เที่ยงตรงมากถึงมากที่สุด  พื้นที่ของตัวหูฟังเป็นชิ้นใหญ่  สามารถใส่ตัวกำเนิดเสียงที่ดีได้  จะทำให้ดีในราคาย่อมเยาก็ไม่ยาก

76256

วันหนึ่งที่เดินผ่านมุมเครื่องเสียงในห้าง  เหลือบไปเห็นหูฟังราคาถูกตัวหนึ่งที่แขวนโชว์ไว้ให้ลองฟัง  พอเดินผ่านก็ลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบกับหูฟัง แล้วลองฟังดูก็พบว่า น้ำเสียงทำได้ดีน่าสนใจ  เสียงร้องชัด  เสียงเครื่องเคาะจังหวะหลายๆชิ้นก็ได้ยินชัดตลอดเพลง   ดูราคาแล้วไม่แพงมาก  เลยซื้อมาใช้เป็นหูติดกับคอมพิวเตอร์ หรือเอาไว้พกไปฟังนอกสถานที่ และตัดสินใจเขียนเป็นรีวิวเอาไว้

IMG_5798

ลักษณะทั่วไป

สายแจ็คเสียบกับเครื่องเล่นเป็นแบบ mini 3.5  มีขีดดำ 3 ขีด หรือจะเรียกว่าเป็นแจ๊ค 4 ชั้น(ตัวนำไฟฟ้า 4 ช่อง)  ตัวสายออกแบบเช่นนี้หมายถึงมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับโทรศัพท์เป็นหลัก ตัวสายมีไมค์โครโฟนให้มาด้วย  มีปุ่มกดรับสาย  เราสามารถใช้หูฟังเส้นนี้คุยโทรศัพท์ได้

IMG_5829

ทดลองใช้หูฟัง mdr-zx110ap กับเครื่องเล่นเพลงอย่าง ipod shuffle gen1 ก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ipod รุ่นต่างๆสามารถใช้งานกับหูฟัง sony รุ่นนี้ได้ปกติ  ซึ่งหูฟังบางรุ่นที่เป็นขาเสียบแบบ 4 ชั้นจะทำงานไม่ได้กับ ipod รุ่นเก่า เนื่องจากขั้วสัมผัสของ ipod ออกแบบมาให้ใช้กับแจ๊คหูฟัง 3 ชั้น  แม้แต่หูฟัง earpod ที่แถมมากับ iphone ก็ทำงานกับ ipod เก่าๆไม่ได้  แต่ sony ตัวนี้ทำงานได้ นับเป็นเรื่องโชคดีมากๆ

IMG_5834

ลองเสียบกับเครื่องเล่นเพลงตัวอื่นที่เป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบมาให้ใช้กับหูฟังสเตอริโอขั้วสัมผัส 3 ขั้นบางเครื่องก็ทำงานได้ปกติ  บางเครื่องก็มีปัญหา  ตัวที่มีปัญหาก็อย่างเช่นการใช้กับ aune m1 ถ้าเสียบแจ๊คลงไปสุดจะได้ยินเสียงก้องๆ ต้องเสียบให้สุดแล้วดึงออกเล็กน้อย  เสียงก็จะดังเป็นสเตอริโอปกติ

IMG_5810

หูฟังชนิดนี้เป็นหูฟังประเภท on-ear คือจะแปะกับใบหูไว้  ไม่ได้ครอบหูสนิทแบบหูฟังขนาดใหญ่  ฟองน้ำนุ่มๆสีขาวสะอาดให้สัมผัสที่นุ่มจริงๆ  และอาการบีบหัวมีน้ำหนักบีบที่มากนิดหน่อยเมื่อใช้งานครั้งแรก แต่ฟองน้ำนิ่มๆก็ช่วยให้ความรู้สึกบีบไม่ค่อยแรงมาก  เมื่อฟังไปหลายวันน้ำหนักบีบหัวจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเบา คาดว่าพลาสติกคงจะอยู่ตัวตามสภาพหัวของผู้ฟังแล้ว

IMG_5802

Specification

น้ำหนัก 4.3 oz

ขนาดไดรเวอร์ 30 มม.

ตอบสนองความถี่ 12Hz – 22,000Hz

อิมพีแดนซ์  24 โอห์ม

ความไว 98dB/mW

รองรับกำลังขับ 1000 mW

ความยาวสาย 3.94 ฟุต

คุณภาพเสียง

น้ำเสียงของหูฟังรุ่นนี้ออกไปทางเสียงที่น่าฟัง  มีแนวเสียงคล้ายลำโพงชั้นดี  แต่การแยกแยะมิติแต่ละเสียงยังไม่เด็ดขาด  หากฟังกับดนตรีน้อยชิ้นหูฟังตัวนี้ก็แยกตำแหน่งเสียงร้องกับเสียงดนตรีได้ชัดเจน  แต่หากฟังกับเพลงที่เล่นเต็มวง มีเสียงเครื่องดนตรีหลายชนิดขึ้นมาพร้อมกันก็จะฟังเหมือนเนื้อเสียงแต่ละส่วนติดกันไปหมด  ฟังผ่านๆก็ไม่ได้เสียหายอะไร  แต่หากฟังจับผิดหรือฟังเพื่อแกะเพลง ฟังโน้ตของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดก็จะแยกแยะได้ยากหน่อย ซึ่งนี้เป็นผลจากการฟังเพลง mp3 หรือเพลงไทยทั่วไปที่มีอยู่ตามเน็ต รวมถึงเพลงเก่าๆที่เคยสะสมไว้

แต่หากฟังจากไฟล์ที่เป็น lossless อย่างเช่นฟังผ่าน aune m1 ที่เป็น wave player  ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดี ชัดเจน แยกแยะเสียงร้อง เสียงดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกันได้เด็ดขาด  เพลงบันทึกมาอย่างไรก็ฟังออกและติดตามทุกเสียงได้หมด  โทนเสียงกลางแหลมอยู่ในระดับที่ดีน่าฟังเหมือนหูฟังราคาหลายพัน  โทนเสียงเบสให้ความอิ่ม อ้วน เบสเยอะเหมือนเราเปิด loundness ให้กับเครื่องเสียง  เสียงเบสจากการฟังไฟล์ lossless ผมเรียกว่าน่าฟัง เรียกว่าเป็นเบสอร่อยเหาะเลย เหมาะกับเพลงร็อค เพลงโชว์เสียงกลอง

หากฟังกับไฟล์เพลง mp3 บิทเรทต่ำ หรือดนตรีที่บันทึกมาไม่ดีเสียงย่านต่ำที่ดังขึ้นและจบลงไม่เร็วเท่าที่ควร  แต่เสียงกลางยังทำได้ชัดเจนดี  สามารถดึงดูดคนฟังให้อยู่กับเสียงร้องและเสียงพูดได้  การฟังเพลงร้อง หรือการฟังรายการวิทยุ จะได้เสียงร้องที่น่าฟัง  เสียงดีเจพูดบรรยายฟังเพลินมาก

เสียงย่านสูงก็ให้ความใสที่พอดี  ไม่ได้เป็นเสียงสูงแสบหู หรือ เสียงห้วนทึบ  เสียงโซโล่กลองทำได้ชัดเจนและน่าฟังมาก  เสียงกีต้าร์ก็ให้ความใส มีเนื้อเสียงที่อิ่มแน่น  หูฟังตัวนี้ฟังเพลงอคูสติกได้เพราะดี  เราสามารถพกหูฟังตัวนี้ตัวเดียวเพื่อใช้กับโทรศัพท์ของเราทั้งการคุยและการฟังเพลง  จะบอกว่ามันเป็นหูฟังที่ใช้สำหรับฟังเพลงจริงๆ  ไม่ใช่แค่ทำเพื่อคุยโทรศัพท์

แนวเสียงของหูฟังตัวนี้จะเหมือนเป็นน้องเล็กของ sennheiser hd650 ตัวละหมื่นปลาย  แต่เบสเยอะกว่า  น้องกลางของน้ำเสียงแนวนี้คือ creative aurvana live ตัวละสองพันกว่า  ส่วน sony mdr-zx110ap ตัวนี้ไม่ถึงพันบาท

สรุป

ถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าตัว  เหมาะกับการฟังเพลงกับเครื่องเล่นเพลงและคอมพิวเตอร์   ใช้พกพาออกนอกบ้านไปนั่งฟังเพลงเพลินๆ  คุณภาพเสียงที่ดีทำให้เราฟังเพลงได้นาน เสียงเบสที่เด่นจากไฟล์เพลงคุณภาพดีจะทำให้เราฟังเพลงเพราะขึ้น  ไม่ล้าหูง่ายๆ  น้ำหนักบีบหัวชั่วโมงแรกจะรู้สึกบีบแรงหากไม่คุ้นเคยกับหูฟังแนวนี้ แต่เมื่อผ่านไปหลายวัน น้ำหนักบีบจะน้อยลงจนเรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ไม่บีบหัวให้รำคาญ  ซื้อไว้ใช้อเนกประสงค์ก็ดี  ใช้ฟังเพลงจริงจังก็ได้  เป็นหูฟังน้ำเสียงดีที่ใช้เป็นตัวพกพาออกนอกบ้านแทนหูฟังไฮเอนด์ตัวโปรดได้  แถมยังไม่เรื่องมากไม่ต้องการแอมป์ขับเฉพาะทางก็ทำงานได้แล้ว

สั่งซื้อ Sony MDR-ZX110AP

อัพเดทปี 2025 หลังจากใช้มา 6 ปี คุณภาพเสียงยังดีเหมือนเดิม แต่ผ้าที่หุ้มสลายตัวไปตอนไหนก็จำไม่ได้ ฟองน้ำไม่ฟูเหมือนเดิมแล้ว

IMG_20250908_134213513

12nov2025 เราสามารถสั่งซื้อฟองน้ำมาเปลี่ยนได้ โดยสั่งจากร้านในเน็ต ซึ่งจะเป็นฟ้องน้ำหน้าตาเหมือนเดิมตอนที่ยังใหม่อยู่ และสามารถใช้กับหูฟังได้หลายรุ่น ผมสั่งซื้อจากลิงค์นี้ https://s.shopee.co.th/5VNRrM6KBy?share_channel_code=6

IMG_20251112_110649234

Pat cafe ร้านอาหาร แพทคาเฟ่ รีวิว

เช้าวันอาทิตย์ที่อยากไปหาอะไรกินนอกบ้าน  ก็ขับรถเข้าไปย่านราชดำเนิน ไปถึงถนนดินสอ เจอกับร้านแพทคาเฟ่ ลองกินดูสักครั้ง

IMG_5683

อาหารเช้ามีหลายอย่างให้เลือก  อาหารตามสั่งก็มีเยอะ  เมนูหนามาก  เลือกกันตาลาย  สั่งเป็นชุดอาหารเช้าไปเลยก็ง่ายดี

IMG_5687

ร้านอยู่ริมถนน อยู่หัวมุมสี่แยก ด้านหนึ่งติดถนนดินสอ อีกด้านติดถนนพระสุเมรุ   ถ้ามาทางถนนดินสอจะจอดรถหน้าร้านไม่ได้  ต้องมาจากแยกผ่านฟ้าเข้าถนนพระสุเมรุก็จะผ่านหน้าร้าน จอดรถหน้าร้านเลย

IMG_5688

รายการอาหารเยอะมาก  มากเกินกว่าจะเป็นร้านกาแฟ  ควรจะเรียกว่าภัตตาคารมากกว่า

IMG_5690

ลูกค้าย่านนี้ก็คือนักท่องเที่ยว  ราคาอาหารไม่แพงสำหรับฝรั่ง สำหรับคนไทยก็พอไหว ราคาเท่ากับกินในห้างทั่วไป

IMG_5695

ไข่ครอบ หน้าตาประหลาดอยู่ในเมนู  เป็นสิ่งที่เพิ่งรู้จัก ถามกันเองว่ามันคืออะไร เดากันไป  จนคุณป้าข้างๆต้องเล่าให้ฟังว่า ไข่ครอบเป็นเมนูของคนสงขลา  ไม่ค่อยมีที่อื่นทำกัน  หากินได้ยากมาก  อาจมีเฉพาะร้านนี้เท่านั้นในกรุงเทพ  ผิวสัมผัสของไข่ครอบเมื่ออยู่ในปากจะเหมือนส่วนไข่แดงของไข่เค็ม แต่ไม่เค็ม  แค่ความร่วนของเนื้อไข่แดงมันคล้ายกัน

IMG_5693

ไข่กระทะ เป็นเมนูของคนสิ้นคิด  อร่อยเสมอ  ใส่พริกไทย ใส่ซอสแม็กกี้ ยังไงก็อร่อย

IMG_5698

ไข่ดาวไส้กรอกรูปหัวใจ  ดูแปลกดี  มีผักสลัดให้ด้วย  เป็นมื้อเช้าที่ครบห้าหมู่

IMG_5700

พาลูกและภรรยามาลองกิน   ก่อนจะนั่งกินก็เดินขึ้นไปดูชั้น2ที่เป็นแกลลอรี่  มีของสะสมให้ดูบ้าง ส่วนใหญ่เป็นภาพในหลวงรัชกาลที่9

แปะแผนที่ไว้ให้ครับ

 

เพลงคนเก่งคนดี

แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร
จงใช้ชีวิตบนความดีงาม

ด้วยความรักและห่วง ห่วงใยดังลูกแท้ๆ 
เฝ้าอบรมดูแล ด้วยใจ ไม่ได้หวังเงินทอง 
ไม่ต้องการสิ่งไหน ครูหวังเพียงให้เจ้าได้มีความรู้ 
*จะเป็นเหมือนสะพาน ให้เจ้าข้ามสู้จุดหมาย นี่คือความตั้งใจของครู 
โลกใบนี้กว้างใหญ่ มากมายที่เจ้าต้องรู้ เจ้าจงเรียนรู้เพื่อวันต่อไป 

** จงตั้งใจให้เป็นคนเก่งคนดี 
เจ้าไป ได้ดี โชคดีครูก็สุขใจ 
แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร 
จงใช้ชีวิตบนความดีงาม 

คอยจ้ำจี้จำไช ให้เจ้านั้นอ่านนั้นเขียน 
ผิดก็คอยเฝ้าเตือนเรื่อยมา เจ้าคงคิดคงบ่น ว่าอะไรนักหนา 
เด็กน้อยวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจ 
** 
*
**
**

งานวันชื่นใจ อนุบาล3 ของขอบฟ้า

 

งานวันชื่นใจจะเป็นงานแสดงผลงานของนักเรียนในชั้น  ขอบฟ้าเรียนที่เพลินพัฒนามาตั้งแต่รุ่นเตรียมอนุบาล และมีงานชื่นใจในช่วงปลายเทอมก่อนปิดปีการศึกษาทุกปี   ในปีนี้เป็นปีที่เรียนอยู่อนุบาล3  เนื้อหาในงานของปีนี้แตกต่างไปจากปีที่แล้วมาก

IMG_5272

เข้าใจว่าเด็กอนุบาล3จะมีทักษะการจดจำและการแสดงที่มากกว่าปีที่แล้วอย่างก้าวกระโดด นั่นทำให้งานชื่นใจปีนี้เป็นการแสดงละครในรูปแบบหนึ่งที่มีระยะเวลาการแสดงที่ยาวนานเกิน 1 ชั่วโมงไปพอสมควร  แตกต่างจากปีที่แล้วที่เป็นการแสดงที่ไม่ต่อเนื่อง และเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกัน

IMG_5275

 

เด็กมีการแบ่งบทบาทการแสดงหลายอย่าง เด็กทุกคนจะแสดงเป็นตัวละครสักตัวหนึ่งในแต่ละเรื่องย่อย  บางคนรับหน้าที่พูดบรรยายด้วย บทพูดหลายๆประโยคได้รับการถ่ายทอดออกมาแสดงให้เห็นว่าเด็กมีความจำดีแทบทุกคน

IMG_5289

 

การแสดงเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา  เด็กทุกคนรู้หน้าที่และคอยเตือนเพื่อนเมื่อมีเหตุที่ไม่เป็นไปตามแผน  พ่อแม่อย่างผมแอบคิดว่านี่เขาต้องซ้อมร่วมกันมากี่วันถึงบริหารจัดการได้ระดับนี้  ลำพังเด็ก 1 คนอยู่กับพ่อแม่ก็ซนและวุ่นวายจนหมดแรง  แต่ครูสามารถกำกับเด็กได้ทั้งห้อง  ทุกคนตั้งใจแสดงและทุกคนทำได้ดี  ชื่อว่าครูก็คงเหนื่อยมากในการฝึกซ้อมกิจกรรมครั้งนี้

IMG_5291

 

IMG_5309

 

IMG_5314

 

IMG_5332

ผมรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกที่นี่ให้ลูก  เป็นพัฒนาการที่น่าพอใจ  พ่อแม่ก็เห็นแนวทางของโรงเรียนมาตลอด  และได้เห็นสิ่งที่ค่อยๆใส่ให้ลูก ค่อยๆเรียนรู้  การเป็นเด็กที่รู้จักตั้งคำถาม  และมีความพยายามที่จะหาวิธีการ มีความพยายามหาคำตอบ เป็นทักษะที่พ่อแม่อยากให้ลูกมีติดตัว   จบชั้นอนุบาล จบการเรียนรู้เพื่อการเล่น  ต่อไปชีวิตประถม1ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงชีวิตแห่งความจริง  เป็นการเรียนรู้เพื่อใช้ชีวิตจริง  พ่อแม่เชื่อว่าลูกพร้อมรับกับชีวิตที่ต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น

nec18-vcp-visibility

IMG_7357

การทำธุรกิจด้วยแนวคิดของ referral marketing ต้องอาศัยการบอกต่อ การแนะนำลูกค้าต่อเนื่อง
ความสำเร็จของคนที่ได้รับการแนะนำอย่างสม่ำเสมอ จะถูกอธิบายด้วยศัพท์ง่ายๆ 3 คำ คือ

Visibility คือการแสดงตัวตน การมีตัวตน ทำให้คนอื่นรู้ว่ามีเรา มีธุรกิจของเรา

Creditability คือ ความน่าเชื่อถือ  การรับรู้ว่าคุณมีคุณภาพ สินค้าของเราดี

Profitability คือการทำให้เกิดธุรกิจ

พวกเราส่วนใหญ่เคยฟังเรื่องราวของแต่ละคำมาบ้างแล้ว  เราขอทบทวนในบางข้อนั่นคือ Visibility

Visibility จะถูกสร้างขึ้นได้ด้วยการ ปรากฏตัวอย่างสม่ำเสมอ  ก็คือ การมาประชุมตรงเวลา  ไม่ขาดประชุม  ลองนึกดูว่า ถ้าเราจะเดินไปซื้อโทรศัพท์สักเครื่องหนึ่งที่ร้าน  เราจะเข้าร้านไหน   ร้านที่เปิดทุกวัน ไปเมื่อไหร่ก็เห็นว่าเปิดขายอยู่  กับ อีกร้านหนึ่งที่ไปเจอปิดร้านบ่อยมาก ปิดกันง่ายๆโดยไม่ต้องมีเทศกาล  เราอยากจะซื้อโทรศัพท์กับใคร?

dpp - Bod 23may2023 -IMG_4183

การมาประชุมก็เหมือนการเปิดร้าน  เราต้องแสดงความน่าเชื่อถือของตัวเราเองด้วยการ มาประชุมอย่างต่อเนื่อง  คนที่ตั้งท่าจะส่งงานให้ คนที่ตั้งท่าจะส่งลูกค้าให้เขาจะได้กล้าส่ง เพราะรู้ว่าเรามีคุณภาพ  เราตรงต่อเวลา เรารักษาสัญญา สัญญาว่าจะมาประชุมอย่างต่อเนื่อง

การมี Visibility อย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้าง Creditability  ความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้คนในกลุ่มกล้าจะแนะนำงานให้ Visibility และ Creditability มีเรื่องราวและเทคนิคน่ารู้อยู่จำนวนมาก เราควรใช้เวลากับการทำความเข้าใจจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เราคาดหวัง

nec17 – referal source ep5

referral source มีอยู่ 8 ช่องทาง ที่ผ่านมาเราคุยกันไป 5 ช่องทางครับคือ

1 คนใน contact sphere

2 ลูกค้าเก่า

3  คนที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจเรา  เช่น ซัพพลายเออร์

4 คนที่เราไปอุดหนุน เช่น ช่างตัดผม ร้านอาหาร ฟิตเนส ร้านกาแฟ

5 คือ ลูกน้องในอ๊อฟฟิศ

IMG_0172

ช่องทางที่ 6 คนที่จะให้ referral แก่เราก็คือ  คนที่เราให้ referral กับเขานั่นเอง  เป็นเรื่องปกติมากๆในโลกธุรกิจ เราช่วยใคร เขาก็อยากจะช่วยเรากลับคืน  เพราะทุกคนมีพื้นฐานของการเป็นคนดี  เราสามารถเริ่มต้นที่จะรับ referral ได้โดยการเริ่มต้นให้ครับ  เราอยากได้จากใคร กาหัวไว้เลย แล้วจัดการ 1-2-1  ปกติ ใน powerteam เราจะมีลูกค้าคล้ายๆกัน ลูกค้าของทีมจะอุดหนุนบริษัทในทีมหลายๆอย่างอยู่แล้ว ดังนั้น ลูกค้าของเพื่อน มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของเรา  สิ่งที่เราควรทำก็คือ เอาลูกค้าชั้นดีของเรามาส่งให้เพื่อน  แล้วเดี๋ยวเพื่อนก็จะส่งลูกค้าชั้นดีให้เรา   สรุปว่า ช่องทางที่6 เราจะได้รับ  referral จากคนที่เราเคยให้ referral ครับ

7 ช่องทางที่ 7  เราน่าจะได้ referral จากคนที่เคยให้ referral  ใครเคยให้เรา เขาจะให้เราซ้ำ  ตราบใดที่เรายังเป็นคนที่มีคุณภาพดีดังเดิม  ดีดังเดิมนั้นหมายถึงอะไรบ้าง  พบหน้าบ่อยเหมือนเดิม (attendant)  มี referral ให้เพื่อนเหมือนเดิม(ref)  1-2-1 บ่อยๆเหมือนเดิม thankyou และให้ testimonial สม่ำเสมอเหมือนเดิม นั่นก็คือเป็น good member นั่นเอง

ขอบฟ้าหัดขี่จักรยาน 2 ล้อ

IMG_0160

ขอบฟ้าในวัยหกขวบกับหกเดือนเพิ่งจะเริ่มหัดขี่จักรยาน2ล้อ โดยได้รับการอนุเคราะห์จากป้าที่ส่งมอบรถจักรยานเล็กมาให้ ตอนได้มาใหม่ๆก็เป็นแบบ 4 ล้อ มีการนำไปขี่นอกบ้านที่พุทธมณฑลสนุกสนาน พ่อกับแม่ก็ยุให้ขอบฟ้าอยากหัดขี่2ล้อ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าขอบฟ้าอยากลองหัดขี่จักรยานอย่างจริงจัง

สัปดาห์แรกที่เริ่มหัดสองล้อ เช้าวันอาทิตย์ พ่อก็ถอดล้อข้างออกแล้วเราก็ไปหัดกันที่พุทธมณฑล การหัดครั้งนี้แม่ก็สอน พ่อก็สอน ต่างคนต่างสอน ขอบฟ้าก็จะสับสนเล็กน้อย แม่มีการสอนแบบจะจับท้ายรถไปตลอดทางแล้วค่อยเริ่มปล่อย ส่วนพ่อก็อยากให้หัดแบบไม่ต้องจับท้ายรถ ให้ขอบฟ้าค่อยๆขี่ไปเอาขาประคองไปถ้าจะล้ม สองวิธีนี้เป็นวิธีที่ขัดแย้งกัน ขอบฟ้าก็คงเครียดอยู่

บางเวลาขอบฟ้าขอให้ติดล้อกลับไปเป็น 4 ล้อจะได้ขี่ง่ายๆ แต่ก็เปลี่ยนใจอดทนขับแบบ 2 ล้อต่อไปตามที่พ่อกับแม่ให้กำลังใจเอาไว้ หนึ่งชั่วโมงที่พุทธมณฑลผ่านไป พ่อกับแม่ก็ปวดหลังกันไปคนละนิด เพราะวิ่งจับ วิ่งประคองรถให้ขอบฟ้า จบวันแรกที่หัด ขอบฟ้ายังขี่จักรยานไม่เป็น

วันจันทร์เลิกเรียนแล้ว ขอบฟ้าให้แม่พาไปขี่จักรยานที่สวนสาธารณะแถวบ้าน และวันนี้ก็คงใช้เวลากับจักรยานไปสัก 1 ชั่วโมง ซึ่งจบวันนี้ขอบฟ้าก็ขี่จักรยานได้แล้ว แม่ถ่ายวิดีโอที่ขอบฟ้าขี่ส่งมาให้ดู ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มอย่างมากที่ขอบฟ้ามีความพยายามที่จะฝึกจนขี่ได้ เพราะพ่อจะพูดเสมอว่า คนที่ขี่จักรยานเป็นคือคนที่ไม่หยุดความพยายาม อะไรก็ตามที่มีคนทำได้ ขอบฟ้าก็จะต้องทำได้ถ้าพยายามทำ