referral source มีอยู่ 8 ช่องทาง ที่ผ่านมาเราคุยกันไป 4 ช่องทางครับคือ
1 คนใน contact sphere
2 ลูกค้าเก่า
3 คนที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจเรา เช่น ซัพพลายเออร์
4 คนที่เราไปอุดหนุน เช่น ช่างตัดผม ร้านอาหาร ฟิตเนส ร้านกาแฟ
วันนี้เราจะพูดส่วนที่เหลืออีก ในช่องทางที่ 5-8 ครับ
ช่องทางที่ 5 คือ ลูกน้องในอ๊อฟฟิศ ใครจะรู้ดีว่าเราทำอะไรได้ หรือเราเก่งเรื่องอะไรมากไปกว่าลูกน้องในอ๊อฟฟิศ ไม่ใช่แค่พนักงานเซลส์ หรือมาเก็ตติ้ง ตำแหน่งอื่นๆในบริษัทก็มักจะรู้ดีและสามารถบอกต่อได้เช่นกัน จริงๆคือทุกตำแหน่งในอ๊อฟฟิศเลยที่จะช่วยบอกต่อได้ ลูกน้องเหล่านั้นเขาก็ย่อมมีเพื่อน มีญาต มีคนรู้จักอีกมากมายอยู่ในเครือข่ายส่วนตัวของเขา สิ่งที่เราควรทำกับลูกน้องก็คือ เราต้องทำให้เขามีความสุขกับการทำงาน ดูแลทุกสุขของลูกน้องจะช่วยให้เขามีใจและพร้อมบอกต่อ ก็คือ พร้อมจะช่วยเราหางานนั่นเอง
ยกตัวอย่าง ช่างพิมพ์ในโรงพิมพ์ บางวันก็เดินมาบอกผมว่า ญาติเขาจะพิมพ์บิลใบเสร็จรับเงิน ผมก็บอกดีเลย ให้เขาโทรมาหรือแวะเอาตัวอย่างงานมาให้ดูเลยก็ได้ เดี๋ยวคิดราคาให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครับ เพราะลูกน้องทุกคนจะมีเครือข่ายของเขาเอง และเขาก็รู้ว่าเราทำงานอะไร referral ที่เขาพบมาเราทำได้หรือไม่ ลูกน้องเรารู้ดีไม่ต่างจากเราแน่นอน ดังนั้น อย่าลืมทำให้ลูกน้องมีความสุขกับที่ทำงาน
