การใช้แฟลชในบ้านเพดานสูง

บางครั้งการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยเราก็อาจจะต้องใช้แฟลชช่วย  แม้ว่ากล้องรุ่นใหม่จะสามารถตั้งค่า iso ได้สูงลิบอยู่แล้ว  เพราะแสงแฟลชจะให้สีสันของภาพออกมาสดใสกว่าการถ่ายภาพด้วย iso สูงแต่เพียงอย่างเดียว

 

IMG_0292

ภาพที่1  สภาพแสงจริงภายในบ้าน

 

ภาพที่ 1 เป็นสภาพแสงที่มองเห็นจริงๆในบ้าน  แม้ว่าจะเปิดไฟในบ้านหมดทุกดวงแล้ว ความสว่างที่กล้องจะรับภาพก็ไม่ได้มากเลย  สถานการณ์แบบนี้ หากเป็นยุคของฟิล์มที่เรามีฟิล์มแค่ความไว 800 ภาพก็จะเกรนแตก และสปีดของภาพจะต่ำมากจนไม่สามารถจับภาพคนได้คมชัด  แต่กล้องดิจิทัลสมัยใหม่ ตั้งค่า iso ภาพนี้ไว้ที่ 3200  เราได้สปีดชัตเตอร์ที่ 1/60  รูรับแสง f4 ให้ภาพที่พอดูได้  แต่ไม่สวย

 

การถ่ายภาพสถานการณ์นี้ให้สมบูรณ์ขึ้นก็ต้องใช้แฟลช  จะทำให้เราสามารถเรียกสีสันจากสิ่งต่างๆในภาพออกมาได้ดียิ่งขึ้น  แต่การยิงแฟลชเข้าไปตรงๆเราก็มีโอกาสที่จะได้ภาพไม่สวย  การยิงแฟลชให้ดูแสงสวยนุ่มนวลมักจะต้องใช้เทคนิคการเบ๊าซ์แฟลช (Bounce)  มันคือเทคนิคการยิงแสงแฟลชไปชนเพดานสีขาว หรือกำแพงสีขาว แล้วให้แสงสะท้อนจากเพดานกลับมาโดนตัวแบบนั่นเอง

 

บ้านนี้เพดานไม่ใช่สีขาวด้วย  แถมยังอยู่สูงลิบ แฟลชที่ติดอยู่กับกล้องไม่มีทางวิ่งไปถึงแล้วสะท้อนกลับมาได้ในปริมาณที่เพียงพอจะถ่ายภาพ  ดูจากสิ่งแวดล้อมในบ้านแล้ว เห็นเพดานขาวอยู่เล็กน้อยในบริเวณชั้นลอย  เล็งด้วยสายตาแล้ว แสงสะท้อนเพดานส่วนนี้สามารถวิ่งลงมาถึงตัวคนได้  ก็เลยจัดการใช้แฟลชกับเพดานชิ้นนี้

 

IMG_0293

ภาพที่2  เพดานบางส่วนที่เป็นสีขาว

 

จัดการแยกแฟลชออกจากกล้อง  ใช้ตัวส่งสัญญาณแฟลชไร้สายหรือ trigger ติดแฟลช nikon sb26 แล้วนำไปวางบนพื้นชั้นลอย  เล็งให้แสงแฟลชยิงแล้วกระทบเพดาน  แสงสะท้อนจากเพดานจะวิ่งลงมาถึงชั้น 1 ได้  ตั้งค่ากำลังไฟในการยิงแฟลชไว้ที่ 1/2 ของไฟเต็มกำลัง  เพราะเจตนาจะให้สามารถยิงแฟลชได้ 2 ครั้งโดยไม่ต้องรอชาร์จไฟหลายวินาที  เมื่อวางตำแหน่งได้ที่แล้วก็ลองถ่ายทดสอบ  ค่าแสงลงตัวพอดี ใช้สปีดชัตเตอร์และรูรับแสงและ iso เท่าเดิม  คุณภาพแสงออกมาตามภาพที่2

 

ดูจากภาพพรีวิวที่หน้าจอของกล้อง  ดู histogram ของภาพนี้แล้วพบว่าส่วนกราฟกระจายตัวเต็มย่าน  ถือว่ามีคุณภาพใช้ได้แล้วก็เลยใช้ค่าแสงระดับนี้ถ่ายเหตุการณ์ที่ต้องการ  ก็ได้ภาพที่มีสีสันดีกว่าเดิม

IMG_0283

ภาพที่3  ถ่ายด้วยค่าแสงที่ต้องการ

 

บริเวณโซฟาเป็นบริเวณที่ถ่ายภาพด้วยค่าแสงที่เรากำหนดไว้ได้พอดี  แต่พอจะถ่ายภาพมุมอื่นที่อยู่หน้าบ้าน  ระยะทางของเปียโนที่วางอยู่หน้าบ้านห่างจากจุดสะท้อนแสงแฟลชมากกว่าโซฟา ทำให้ค่าแสงที่ตกลงบนเปียโนน้อยลง เราเปลี่ยนรูรับแสงให้กว้างขึ้นไม่ได้แล้วเพราะเลนส์มีรูรับแสงแค่ f4 ส่วนกำลังไฟแฟลชเราก็ไม่อยากเพิ่มเป็น 1:1 หรือเต็มกำลัง  เพราะไม่อยากเดินขึ้นไปเปลี่ยน  และไม่อยากรอให้แฟลชชาร์จไฟจนเต็มแล้วค่อยยิง  เลยเปลี่ยน iso ในกล้องให้มากขึ้น จาก iso6400 ไปเป็น iso12800 ก็จะทำให้ตำแหน่งเปียโนดูสว่างขึ้นจนพอดี  เพราะหากไม่เพิ่ม  iso ภาพจะมืดลงมาก เห็นได้ชัดเลยว่าแสงไม่พอ

 

IMG_0311

ภาพที่ 4 เปียโนที่เพิ่มค่า isoในกล้องเป็น iso12800

 

 

 

เทคนิคการถ่ายภาพด้วยแฟลชมีวิธีการมากมายให้เรียนรู้ แฟลชเก่าๆสักตัว กับตัวส่งสัญญาณไร้สายก็ทำให้เรามีเรื่องให้เล่นอีกมาก  ยุคของกล้องดิจิทัลจะสนุกกับแฟลชได้เต็มที่เพราะทดลองแล้วเห็นภาพทันที ไม่ต้องไปลุ้น ไม่ต้องถ่ายเผื่อแบบการใช้ฟิล์ม