ภาพ happy new year กว่าจะได้มา

IMG_0156

 

เทศกาลจัดงานปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า ก็เป็นวันรวมญาติ  และเมื่อกินอิ่ม พูดคุยกันอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลาถ่ายรูปหมู่  รูปนี้มีเบื้องหลังที่อยากบันทึกไว้ ว่ากว่าจะเป็นภาพนี้ใช้เทคนิคหลายชนิดรวมกัน ลองดูว่ามันมาจากความรู้เรื่องอะไรบ้าง  คนที่ไม่สนใจเรื่องเทคนิคก็ข้ามไปได้เลย  ส่วนคนที่อยากฝึกฝนให้ถ่ายภาพได้คุณภาพตามที่ต้องการเสมอในทุกๆภาพก็อ่านเล่นๆ ค่อยๆทำความเข้าใจไปได้

1  ภาพนี้แสงไฟในบ้านเป็นไฟสีเหลือง  แต่กล้องปรับตั้งค่า white balance เป็นแบบ custom ก็คือมีการตั้งค่าให้สีถูกต้องสำหรับสภาพห้องนี้  หากเราตั้งค่าในกล้องเป็น auto whitebalance ภาพจะอมเหลืองมากกว่านี้  และหากตั้งค่าเป็น tungsten ภาพก็จะอมเหลืองหนักยิ่งกว่าเดิม  สิ่งที่ดีที่สุดคือ custom whitebalance  ดูตัวอย่างวิธีการตั้งค่า

 

2  ภาพนี้ใช้ขาตั้งกล้อง   สภาพแสงในบ้านเป็นสภาพแสงที่ถือว่าน้อย  หากกล้องปรับ iso ได้ไม่สูงพอ สปีดชัตเตอร์ก็จะต่ำ  และภาพนี้ต้องการความชัดที่มากกว่าปกติ  การใช้รู้รับแสงกว้างที่สุดของเลนส์จะทำให้คนส่วนใหญ๋ไม่ชัด เพราะยืนกันคนละระนาบ  ถ้าไม่ใช้ขาตั้งกล้องในภาพนี้ ต้องดัน iso ให้สูง เพื่อให้สารมารถใช้รูรับแสงแคบได้  แต่การใช้ขาตั้งกล้องจะมีข้อดีมากกว่า  เพราะจะช่วยให้องค์ประกอบภาพเป็นอย่างที่ต้องการ คือไม่เอียงและถ่ายภาพได้ไม่สั่น

 

3 ภาพนี้ใช้รูรับแสงแคบที่ f8 ทั้งๆที่เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์ f4 การถ่ายภาพหมู่ควรจะตั้งค่าให้รูรับแสงเล็กเพียงพอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ในภาพมีความชัดเจน โฟกัสที่กลางภาพแล้วเลือกรูรับแสงแคบไว้  แต่ภาพนี้เด็กอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าและมีโผล่หน้าเข้ามาหากล้องเลยไม่ชัดเท่าที่ควร

 

4 ใช้รีโมทชัตเตอร์  ซึ่งกล้องรุ่น eos 6d สามารถตั้งค่าให้สั่งกดชัตเตอร์ผ่าน app ได้  การหัดเรียนรู้การใช้ app ในการสั่งการกล้องต้องใช้เวลาทำความเข้าใจสัก 30 นาที  เพื่อให้รู้ว่าเราสั่งอะไรผ่าน app ได้บ้าง  หากยังไม่เคยใช้  และไปกดมั่วหน้างาน รับรองได้มั่วแล้วเสียงาน  หัดไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้ภาพเป็นไปตามที่ตั้งใจได้

5 ใช้การชดเชยแสง +1ev  การถ่ายภาพโทนสีอ่อนจะมีผลทำให้การวัดแสงของกล้องปรับตัวเองเพื่อรับแสงน้อยลง จะมีผลทำให้ภาพดูมืดกว่าความเป็นจริง อะไรที่เป็นสีขาวจะดูเป็นสีเทา  กำแพงบ้านเป็นสีขาวและสีเสื้อคนส่วนใหญ๋ในภาพเป็นโทนอ่อน  วัดแสงพอดีก็ได้ภาพหน้าดำกว่าปกติแน่นอน  ดังนั้นการชดเชยแสงให้กล้องรับแสงมากขึ้นอีก 1 สต๊อป หรือ +1ev ก็จะช่วยให้ภาพสว่างขึ้น สิ่งที่ควรขาวก็จะขาวอย่างที่ควรจะเป็น

 

วิธีคิดแบบนี้จะมาโดยอัตโนมัติเพื่อเหตุการณ์นี้อยู่ในมือช่างภาพที่มีประสบการณ์การถ่ายมามากพอ  คือมีประสบการณ์การถ่ายที่ผิดพลาดมาแล้ว เคยได้ภาพแย่  เคยได้ภาพเสีย เคยได้ภาพไม่น่าดูมาแล้ว  ดังนั้นคำว่าผิดเป็นครูเป็นหนทางที่จะพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพให้มีข้อผิดพลาดน้อยลง

 

ข้อมูลการถ่ายภาพหมู่ ปีใหม่ 31dec2018b

6 เดือน 4 cm

ความสูงของขอบฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 4 ซม. ในเวลา 6 เดือน  นับจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ถึง วันที่ 28 ธันวาคม 2561 ตามขีดที่ฝาผนัง  ในภาพนี้มีการวัดความสูง วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ด้วย ซึ่งเป็นความสูงที่ห่างจากการวัดตอน 31 พฤษภาคม 2561 ค่อยข้างเยอะ  นั่นอาจจะเป็นเพราะการวัดผิดพลาด

 

ความสูง ส่วนสูง ขอบฟ้า

 

freed โดนชนท้าย ประสบการณ์เคลมประกัน

IMG_4913

ขับรถมายี่สิบปีผมเพิ่งประสบเหตุโดนรถชนท้ายครั้งแรกเมื่อวานนี้  ซึ่งที่ผ่านมารถคันเก่าและคันปัจจุบันผมทำประกันชั้น 1 มาตลอดและไม่เคยเคลมเลยสักครั้ง  ไม่เคยทำสีรถ ไม่เคยชนใคร  แต่เมื่อวานก็เจอเรื่องโชคร้ายที่ต้องเป็นคนโดนชน

 

IMG_4919

บนถนนรถติดๆ ค่อยๆวิ่ง  ผมขับรถกลับบ้าน และรถค่อยคลานไปตามทาง อยู่ๆก็มีแรงกระแทกที่ด้านท้าย ผมก็รู้ได้ทันทีว่าโดนชนท้ายแล้ว ผมเหลือบมองดูนาฬิกา ตอนนี้ประมาณหนึ่งทุ่ม  ผมจะต้องไปยืนรอประกันสักกี่นาทีกันนะ  แล้ววันนี้ผมจะถึงบ้านกี่โมง

 

IMG_4915

ลงจากรถพร้อมโทรศัพท์มือถือ  เดินไปถ่ายรูปทะเบียนหน้ารถ และป้ายต่อภาษีของรถที่มาชนผม  แล้วก็โทรหาเพื่อนที่ขายประกันรถให้ผม เขาก็แนะนำขั้นตอนต่างๆ  ก็เลยโทรเข้า callcenter  แจ้งเหตุ แล้วรอเจ้าหน้าที่  รถอีกฝ่ายก็เรียกประกันของตัวเอง   ผมโทรบอกที่บ้านว่าจะกลับช้า ภรรยาผมถามว่าเคลมประกันเป็นไหม  เพราะเขารู้ว่าผมไม่เคยเคลมประกันเลย  ภรรยาให้กำลังใจ แล้วก็วางสายไป

 

IMG_4916

คนขับที่ชนรถผมเขาก็ลงมาขอโทษ ผมก็ไม่ว่าอะไร พยักหน้าแล้วเดินแยกไปคุยกับประกันในสาย  รอประมาณ 30 นาทีเจ้าหน้าที่ก็มาถึง กรอกเอกสาร แล้วก็ให้ใบเคลม แล้วก็แยกย้าย ผมก็งงๆ  แล้วก็ขับรถกลับบ้าน พร้อมรอยถลอกจากป้ายทะเบียนฝังเพชรของรถคันหลัง

 

IMG_4917

ตอนเช้าสว่างแล้วผมก็ค่อยมาถ่ายภาพรอยแผลซ้ำอีกรอบ  เดี๋ยวคงต้องไปตระเวณหาอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัยว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียเวลาสักแค่ไหน แผลเล็กๆ รถยังวิ่งได้ แต่ก็ต้องส่งทำเพราะมันต้องทำ

 

IMG_0136

“ขอโทษนะคะ  ก้มหน้าไปนิดนึงแล้วเงยขึ้นมาก็ชนเลย”  นี่คือคำพูดที่คนชนบอกกับผม  ผมก็เงียบๆ ยิ้มแล้วแยก ผมไม่อยากคุยเยอะ  ผมก็เดาว่าเขาก็คงกำลังมองโทรศัพท์มือถือตอนขับรถนี่แหละ  โชคร้ายมากที่ผมต้องอยู่บนถนนกับคนใช้มือถือตลอดเวลา  เหตุการณ์นี้ผมก็เตือนตัวเองว่า อย่าละสายตามาดูโทรศัพท์ตอนรถวิ่งเด็ดขาด จะได้ไม่สร้างปัญหาให้คนอื่น

 

ผมเริ่มคิดถึงกฏหมายลงโทษคนใช้มือถือระหว่างขับรถ   จริงๆผมไม่ได้อยากได้กฏหมาย แต่อยากได้ลูกเล่นโทรศัพท์ที่จะไม่ทำงานถ้ามันเคลื่อนที่  ผมว่าทำได้นะถ้าจะทำ

 

ธุรกิจอู่ซ่อมรถก็กำลังจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น 1 คน  ผมรู้สึกว่าธุรกิจอู่ซ่อมน่าจะเป็นอีก 1 ธุรกิจที่ยังคงอยู่ได้ดี ยังไม่โดน disruption จากการเติบโตของอินเทอเน็ต  ผมดูจากการซื้อการใช้งานของผมเอง  อย่างเช่น ผมซื้อ gadget ซื้อสินค้าไอทีจากเว็บขายของแล้ว แทนที่จะไปซื้อที่ห้างแบบหลายปีก่อน  ธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ผมทำอยู่ก็มีคนพิมพ์ใบปลิวน้อยลงจากแต่ก่อนที่คนเริ่มธุรกิจจะคิดเรื่องใบปลิวก่อน แต่ปัจจุบันเขาคิดถึงช่องทางโฆษณาในอินเทอเน็ตก่อน  ธุรกิจขายแผ่นหนัง แผ่นเพลง โดนอินเทอเน็ตตีตายมานานแล้วและหลายคนหันไปจ่ายเงินให้กับบริการ stream จากค่ายหนัง เหมาจ่ายเป็นรายเดือน   คนฟังเพลงไม่ต้องไปซื้อแผ่นแท้แพงๆ อินเทอเน็ตทำให้แผ่นผีระบาด  เพลง mp3 เกลื่อนเมือง  และในที่สุด อินเทอเน็ตก็ฆ่าแผ่นผีเองด้วย มีบริการเหมาจ่ายรายเดือนแค่ร้อยกว่าบาทฟังได้ทุกเพลง  ถูกยิ่งกว่าซื้อแผ่นเพลงห่วยๆ 1 แผ่นในอดีตเสียอีก

 

ธุรกิจอู่ซ่อม  ธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ ผมเชื่อว่ายังคงอยู่ได้  เพราะอินเทอเน็ตไม่สามารถเสนอบริการที่ดีกว่า ประหยัดกว่าเพื่อจะทำให้รถที่เสียกลับมาใช้งานได้  ยังคงต้องมีการซ่อมบำรุงโดยช่าง  การทำสีรถ  การซ่อมส่วนที่แตกหักเสียหาย ซ่อมเครื่องยนต์  ซ่อมช่วงล่าง เปลี่ยนยาง สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่อีกนาน  แม้ว่าต่อไปรถจะไม่ต้องเติมน้ำมัน แต่ชิ้นส่วนที่เสื่อมและเสียหายจากการชนก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

 

ผมลองติดต่อบริษัทแม่เพื่อถามรายชื่ออู่ที่ใกล้บ้านผม บริษัทบอกให้ผมไปดูในเว็บ  ซึ่งในเว็บบริษัทไม่มีข้อมูลนี้ หรือผมหาไม่เจอก็ไม่รู้ได้  ผมไปเจอรายชื่ออู่จากรีวิวในพันทิป ในเว็บอื่นๆที่พูดถึงการเคลมประกัน  ผมได้อ่านฟีดแบ็คเรื่องอู่ห่วยๆด้วย  ผมว่าบริษัทแม่ไม่ฉลาดเลยที่จะปล่อยให้ลูกค้าไปหาข้อมูลเอง  เพราะเขาจะไปเจอข้อมูลที่ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทแม่แน่นอน

2018-12-28_08-33-22

ผมซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านเพจนี้ https://www.facebook.com/polarbearbkk/
นอกจากการติดต่อที่ง่าย โทรไปก็รับสายตลอดแล้ว  ยังได้รับการปรึกษาแนะนำเรื่องขั้นตอนการเคลม และแนะนำอู่ใกล้บ้านให้ผมได้อีกด้วย  ราคาที่ผมจ่ายก็ไม่ได้แพงไปกว่าเดิมที่ผมเคยซื้อกับบริษัทใหญ่ๆ  คนขายประกันบอกว่า เขาทำราคาต่ำที่สุดไม่ได้หรอก แต่เขาเพิ่มบริการอื่นๆที่มีประโยชน์ให้  อย่างเช่นการอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทำแทนลูกค้าได้เมื่อเกิดเหตุ   อย่างเช่นการหาอู่ หาร้านซ่อม  ซึ่งการซ่อมรถเราต้องการอู่มากมายหลายความถนัด ช่วงล่างทำที่ไหน  เบรกต้องร้านไหน เครื่องยนต์ต้องอู่ไหน ซ่อมสี กระจก แอร์ ความร้อน พวกนี้แต่ละอู่เก่งไม่เท่ากัน  ลูกค้าอย่างผมก็อาศัยนำแนะนำจากคนขายประกันนี่แหละครับ

 

ลูกถามพ่อ รู้ได้ยังไงว่าต้นไม้ผลิตอ๊อกซิเจน?

ระหว่างที่ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน
ขอบฟ้า : โพลี่  เรารู้ได้ยังไงว่าต้นไม้ผลิตอ๊อกซิเจน
พ่อ : ต้นไม้สังเคราะห์แสงไง เปลี่ยนคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เป็นอ๊อกซิเจน
ขอบฟ้า : แล้วต้นไม้ไม่ใช้อ๊อกซิเจนหายใจเลยเหรอ
พ่อ : ใช้ด้วยสิ  ตอนกลางวันต้นไม้จะหายใจและผลิตอ๊อกซิเจน ตอนกลางคืนต้นไม้จะหายใจอย่างเดียว ไม่ผลิตอ๊อกซิเจน
ขอบฟ้า : แล้วโพลี่เชื่อได้ยังไงว่าต้นไม้ผลิตอ๊อกซิเจนจริง
พ่อ : พ่อเคยเห็นต้นไม้ในน้ำคายอ๊อกซิเจน มีฟองอากาศออกจากใบเลย  แล้วก็ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ
ขอบฟ้า : แล้วต้นไม้ไม่ใช้อ๊อกซิเจนที่ผลิตมาหายใจเหรอ
พ่อ : ต้นไม้หายใจจะใช้อ๊อกซิเจนด้วย  และจะมีส่วนที่ผลิตอ๊อกซิเจนด้วย มันเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ตอนกลางวันต้นไม่จะผลิตอ๊อกซิเจนเยอะกว่าที่ใช้หายใจ
ขอบฟ้า : ……  (ทำหน้าคิด  แต่ไม่ถามต่อ)

 

ผมก็เลยไปหาคำตอบว่าเราจะพิสูจน์ยังไงว่าต้นไม้ผลิตอ๊อกซิเจนจริงๆ ก็พบกับคลิปวิดีโออันนี้ครับ

แม่ลูกคุยกันเรื่องมอเตอร์ไซด์วันจันทร์

ขอบฟ้ากับแม่กำลังนั่งรถไปห้างในวันอาทิตย์  แม่คุยกับขอบฟ้าเรื่องคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ  มอเตอร์ไซด์ภาษาไทย เอามาจาก มอเตอร์ไซเคิ่ล ภาษาอังกฤษ  แล้วก็สะกด มอ ออ มอ  ตอ เออ เตอ ร เรือการัน สระไอ ซอ โซ่ ดอ เด็ก การัน  อ่านว่า มอเตอร์ไซด์

แม่บอกว่าการันจะไม่ออกเสียง  เหมือนคำว่า วันจันทร์  ทอ รอ การัน ไม่ออกเสียง  ขอบฟ้านิ่งคิดอยู่ห้าวินาทีแล้วถามว่า  การันไม่ออกเสียง แล้วไม่เขียนได้ไหม  ทำไมต้องใช้การัน  แม่ให้ข้อมูลว่า การันไม่ออกเสียง แต่ให้คงไว้แบบการันเพื่อให้รู้ว่าคำนี้มีที่มาจากอะไร

มันเป็นเหตุผลเดียวที่นึกออกจริงๆ  ผมก็หาเหตุผลที่ดีกว่านี้ไม่ได้  ในวัยเด็กผมก็เคยคิดสงสัย แต่ไม่กล้าถามใคร  ผมโตมาในระบบการศึกษาที่ต้องเชื่อครูทุกอย่าง ต้องเชื่อผู้ใหญ่ทุกอย่าง ห้ามสงสัย ห้ามถามนอกเรื่อง  ส่วนขอบฟ้าโตมาในยุคอินเทอเน็ตและได้รับการปลูกฝังนิสัยช่างสงสัยและนิสัยการตั้งคำถามจากโรงเรียน  ผมชอบที่ขอบฟ้ามักจะสงสัยและกล้าถาม

สิ่งที่ผมจะพยายามทำก็คือ พยายามหาคำตอบมาให้  และจะไม่ไปสั่งให้หยุดถาม  จะไม่บอกว่าให้จำไปแบบนี้  หรือบอกว่าเขาทำมาแบบนี้เราเลยต้องทำไปแบบนี้

สุดท้ายขอบฟ้าออกความเห็นว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ยากกว่าภาษาอังกฤษ เพราะภาษาไทยซับซ้อนมาก นี่คือความเห็นของเด็ก 6 ขวบ ผมฟังแล้วก็เห็นด้วย และทึ่งในประสบการณ์วิเคราะห์ภาษาร่วมกันครั้งนี้

 

ไปค้นหาเรื่องการัน และได้พบกับคำอธิบายที่ดี  ก็ได้ความรู้ติดตัวกลับมาว่า การันคือตัวหนังสือที่อยู่ในลำดับสุดท้ายของคำ    ส่วน “  ์  ” เครื่องหมายนี้จะฆ่าเสียงของตัวอักษร  และตัวที่ถูกฆ่าเสียงเรียกว่าตัวการัน จะไม่ออกเสียงเวลาพูด นี่คือความซับซ้อนแต่มีความงามซ่อนอยู่

ตามไปอ่านกันต่อเองเลยที่

https://krupiyarerk.wordpress.com/tag/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/

 

 

 

รีวิว canon eos 6d + 70-200 f2.8

กล้อง canon eos 6d อยู่กับผมมาหลายปี ผมแทบไม่เคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับกล้องตัวนี้เลย หาสาเหตุไม่ได้เลยว่าทำไมถึงไม่มีการเขียนรีวิวกล้องตัวนี้ ทำไมถึงลืมที่จะพูดถึงกล้องตัวนี้ ทั้งๆที่มันเป็นกล้องที่ช่วยให้ผมสนุกกับการถ่ายภาพและใช้หาเงินได้ในบางโอกาสที่ว่างไปรับงาน

IMG_0074

ทุกครั้งที่หยิบ eos 6d ออกมาผมจะใช้มันอย่างมั่นใจ มันเป็นกล้อง fullframe ที่มีเซ็นเซอร์รับภาพเท่ากับฟิล์มถ่ายภาพ 135 ซึ่งเป็นความคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยที่หัดถ่ายและรับจ้างถ่ายภาพด้วยฟิล์ม การฝึกฝนเรื่องการวัดแสง การจัดองค์ประกอบภาพด้วยเลนส์ระบบเดิมตั้งแต่สมัยใช้ฟิล์ม ทำให้การใช้กล้อง DSLR ในมือเป็นไปอย่างราบลื่นไร้รอยต่อ ก่อนจะเป็น eos 6d ต้องย้อนไปถึงตอนที่ได้กล้อง eos 5d มาครั้งแรก ผมไม่ได้อ่านคู่มือ ไม่ได้รู้ข้อมูลทางเทคนิคเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้แม้แต่ว่ากล้องมีจุดโฟกัสกี่จุด และมีขนาดภาพเท่าไหร่ และมาถึง eos 6d ก็ทำเหมือนกันคือ ได้มาก็ใช้เลย ไม่ได้รู้สเป็ค ไม่ได้สนใจตัวเลขใดๆ รู้แค่ว่า กล้องตั้ง iso ยังไง และใส่เลนส์เดิมออกไปถ่ายเลย

IMG_0065

กล้องตัวนี้ถูกใช้งานมานานหลายปี และแบตเตอรี่ก้อนแรก ก้อนเดิมยังคงอยู่และใช้งานอยู่ก้อนเดียว ตอนที่ได้กล้องมาใหม่ๆ ผมถือ eos 6d ไปรับจ้างถ่ายภาพงานแต่งงานคู่กับกล้อง eos 5d ในใจก็คิดว่ามันเหมือนกัน ก็โฟกัสถ่ายภาพไปเรื่อยๆ แต่พอใช้คู่กันจริงๆก็พบความจริงที่ว่า eos 6d ให้ภาพสวยกว่า ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้สุดยอดมาก ในห้องโถงของโรงแรมแสงน้อยๆ eos 6d ถ่ายภาพได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ iso กล้องขึ้นสูงได้โดยภาพยังดูดีอยู่ รวมกับเลนส์ 24-105 f4 is ที่มีระบบกันสั่น ทำให้กล้องยังคงทำงานได้ต่อเนื่อง สปีดชัตเตอร์ต่ำไปบ้างก็ยังมี is ช่วยไว้ ในงานแต่งงานที่เป็นงานแรกของ eos 6d กล้องถ่ายภาพไปประมาณ เกือบ 1000 ภาพ และแบตยังไม่หมด ปลาบปลื้มมากๆ กล้องมีคุณภาพสูงและใช้พลังงานน้อยอย่างเหลือเชื่อ จบจากวันรับงาน ผมก็ขาย eos 5d ทิ้งทันทีเลย เพราะมั่นใจว่า eos 6d ตัวเดียวก็รับงานแต่งงานได้ 6 ชั่วโมงสบายๆ

IMG_0019

eos 6d อยู่กับผม ใช้งานร่วมกับ 24-105f4L และ 70-200f2.8 มาตลอด มีเลนส์ 85f1.8 และ macro100 เข้ามาเพิ่มอีก ทำให้มันทำงานได้ในทุกสถานการณ์ ทุกงาน และมันก็ถ่ายภาพในงานแต่งงานที่ต้องถ่ายภาพหลายร้อยภาพได้อย่างไม่บกพร่อง และในการถ่ายเล่นในชีวิตประจำวันมันก็ทำหน้าที่ของกล้องได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ ผมนึกไม่ออกว่าจะติดขัดเรื่องอะไรกับ eos 6d

IMG_7446

การถ่ายภาพชีวิตคนสักคนหนึ่งด้วยเลนส์ 70-200 f2.8 เป็นแนวทางที่ได้ภาพที่ดีสุดยอดในความคิดผม กล้องและเลนส์ชุดนี้ให้ภาพได้สวยชวนฝัน แม้ว่าจะถ่ายเป็น jpg ก็ยังเป็นภาพที่ดี ผมถ่ายด้วย raw น้อยมาก เพราะลำพังเพียง jpg ที่ออกจากกล้องก็เพียงพอต่อความรู้สึกแล้ว โฟกัสชัดที่คนแล้วปล่อยฉากหลังให้เบลอ ผมใช้รูรับแสง f2.8 เสมอเมื่อใช้เลนส์ตัวนี้ คุณภาพเลนส์ L เป็นของคุณภาพสูงลิบ และให้ภาพที่ดีจนผมไม่เคยสนใจจะใช้เลนส์ฟิกส์เลย ยกเว้นแต่บางเวลาที่อยากพกของเบาหน่อยเท่านั้น

IMG_0067

เวลาไปเจอสถานการณ์บางอย่างที่รู้สึกว่าต้องได้ภาพที่ประทับใจกลับไปสักภาพให้ได้ ก็จะหยิบเลนส์ 70-200 f2.8 ตัวนี้มาติดกับกล้อง eos 6d แล้วก็ปล่อยให้เหตุการณ์สวยๆผ่านหน้ากล้อง แล้วก็กดชัตเตอร์ ภาพสวยในจังหวะสุดยอดก็อยู่ในความทรงจำ และอยู่ในเมมโมรี่ และสุดท้ายก็อยู่ในเว็บ อยู่ในที่เก็บภาพ online ลูกชายผมเป็นนายแบบประจำกล้องมาตั้งแต่เกิด และทุกครั้งที่อยากได้ภาพดีสุดๆ ก็จะใช้กล้องและเลนส์คู่นี้ ซึ่งไม่เคยผิดหวังเลย

IMG_0033

รูรับแสง f2.8 เป็นรูรับแสงที่ให้ภาพสวยมาก สวยจนไม่อยากให้แสงหมดเลย สภาพแสงที่แดดไม่แรงเกินไป หรือไม่น้อยเกินไป ทำให้กล้องสามารถใช้ความไวชัตเตอร์ที่สูงเพียงพอจะหยุดการเคลื่อนไหวของแบบได้ และภาพ action สวยๆ จากสระว่ายน้ำก็โผล่มาให้เราดู กล้องกับเลนส์ก็เก็บภาพได้สมบูรณ์แบบ ผมเข้าใจช่างภาพกีฬาเลยว่าเลนส์ติดกล้องของพวกเขาจะเป็น 70-200 แน่นอน

IMG_0214

ภาพ portrait ครึ่งตัวเป็นของง่ายของคู่หูกล้องและเลนส์ชุดนี้ แถมยังคงจัดองค์ประกอบด้วยการซูมได้อีกทำให้เลือกคร็อบตัวแบบได้ตามใจ ภาพหน้าชัด หลังเบลอที่สวยๆมักจะมาจากการถ่ายภาพครึ่งตัวที่ให้ตัวคนชัดเป๊ะและฉากหลังไกลๆออกไปเบลอจนละลายดูนุ่มนวล และหากแสงไม่ได้มีแดดแรงๆ ฉากหลังจะยิ่งสวยกว่าแดดจัด

fisherman2-IMG_8257

การถ่ายภาพด้วยเลนส์เทเลซูมจะให้ภาพสวยยิ่งขึ้นหากเราถือเลนส์ให้อยู่ในระดับเดียวกับสิ่งที่เราจะถ่าย หลายครั้งที่ผมต้องลงไปนั่งหรือนอนถ่ายภาพ อย่างภาพคู่แม่ลูกที่ชายหาด ผมก็นอนถ่ายอยู่เหมือนกับแบบ เพราะการถือเลนส์ให้ขนานแนวพื้น ประคองหน้าเลนส์ชี้ไปที่แบบจะทำให้ได้ภาพสวยที่สุด สวยมากกว่าการถือกล้องในท่ายืนแล้วก้มถ่าย และฉากหลังที่นุ่มเบลอในสภาพแสงที่ไม่มีแดดแรงๆก็ให้ภาพสวยน่ามอง

IMG_0149.JPG

จังหวะการถ่ายภาพที่จับรอยยิ้มของเด็กได้ทันตามใจนึก มาจากกล้องและเลนส์ที่ทำงานได้ทันกับความคิดมาจากกล้องและเลนส์ที่ประสิทธิภาพสูง จะเรียกว่ากล้องโปร เลนส์โปรก็ได้ สภาพแสงตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับไป แสงสุดท้ายที่ยังมีเล็กน้อยหากเป็นกล้องยุคปี 2005 อย่าง eos5d เราอาจได้ภาพที่ไม่สวยเท่านี้ เพราะความไวชัตเตอร์ไม่สูงมาก เนื่องจาก iso ของกล้องเก่ายังไม่สูงนั่นเอง กล้อง eos 6d เป็นกล้องยุคใหม่ที่พัฒนาตัวรับภาพให้มีคุณภาพสูง แม้จะดัน iso ขึ้นสูงมากระดับ 3200 หรือ 6400 ก็ยังให้ภาพที่ดีได้ รวมกับเลนส์ f2.8 ก็ทำให้สภาพแสงยากๆกลายเป็นเรื่องง่าย

IMG_0169.JPG
leona-prewedding-dpp1-IMG_6286

ผมเคยไปรับงานถ่ายภาพครอบครัว พ่อแม่ลูก เดินเล่นที่สวนลุม ถ่ายภาพกันประมาณ 2 ชม. ตั้งแต่สภาพแสงดีๆ จนถึงแสงเกือบสุดท้ายของวัน งานถ่ายภาพจบแล้ว ผมกับแบบกำลังจะเดินแยกกันไป เราเดินผ่านทางเดินที่มีช่องว่างพอให้แสงอาทิตย์สีทองเข้มๆส่องทะลุเข้าไป ผมเดินไปดักรอให้แบบเดินผ่าน แล้วให้สัญญาณว่าให้เขาเดินช้าๆกันตรงจุดที่แสงส่อง พ่อแม่และลูกทั้งสองรู้งาน เพราะคุ้นเคยกับช่างภาพแล้ว ก็เดินผ่านแบบช้าๆ ปล่อยให้ช่างภาพเก็บภาพ แสงสุดท้าย เลนส์ 2.8 กล้อง eos 6d จบงานนี้ด้วยภาพสุดท้ายที่ผมชอบที่สุด ชอบยิ่งกว่าภาพที่ตั้งใจโพสท์ท่า ผมชอบภาพนี้จนอยากจะเป็นคนในภาพเสียเองเลย

กล้อง eos 6d เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบในยุคของมัน และยังคงน่าใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อะไรที่ตามองเห็นกล้อง eos 6d ก็เก็บภาพได้ตามที่เห็นจริงๆ ยิ่งรวมกับเลนส์ telezoom คุณภาพสูงอย่าง 70-200 f2.8 L ยิ่งทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายและสนุก และคาดหวังผลลัพธ์เป็นภาพสวยๆ ข้อเสียเพียงข้อเดียวที่มีอยู่ในคู่หูชุดนี้ก็คือมันหนักมาก เป็นภาระในการพกพาจริงๆ คนที่จะสะพายชุดนี้รับจ้างทำงานต้องแข็งแรงมาก แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเหนื่อยแบกไปจนจบงาน เพราะเมื่อเห็นภาพที่ได้ เราก็จะหายเหนื่อยได้เอง

รวมภาพที่ประทับใจที่ถ่ายด้วยเลนส์ตัวนี้

IMG_20191208_072805
dpp-rugby-8sep2019-IMG_0056

IMG_0114.JPG

IMG_0133.JPG

IMG_0366

IMG_0513

ทำปฏิทินขอบฟ้า 2019

ปฏิทินที่ใส่ภาพลูกเป็นสิ่งที่ทำทุกปี  โดยจะเลือกภาพที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนมาใส่ให้ตรงเดือน เมื่อใช้ปฏิทินในแต่ละเดือน ก็จะเห็นภาพของลูกในเดือนเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ภาพเดือนมกราคมคือภาพที่พาขอบฟ้าไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลอง 5 รังสิต

ภาพเดือนกุมภาพันธ์เป็นภาพที่ถ่ายจากงานวิ่งของหนังสือไดโนรัน วิ่งที่สวนสิริกิติ์ จตุจักร

ภาพเดือนมีนาคมคือภาพที่ถ่ายที่สนามเรียนฟุตบอล  ขอบฟ้าลงแข่งนัดกระชับมิตร

ภาพเดือนเมษายนถ่ายในสระว่ายน้ำตอนไปเที่ยวหัวหิน ใช้กล้องฟิล์มใส่พลาสติกกันน้ำ

ภาพเดือนพฤษภาคมเป็นตอนที่ให้ขอบฟ้าดูดาวพฤหัสที่บ้านบางขุนนนท์

ภาพเดือนมิถุนายนถ่ายที่ร้านอาหารน้ำเคียงดิน เป็นการเลี้ยงครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่

ภาพเดือนกรกฎาคมขอบฟ้าไปเที่ยวเชียงใหม่และแวะไปดูโรงงานทำกระดาษสาจากขี้ช้าง

ภาพเดือนสิงหาคม ขอบฟ้าชอบการ์ตูนเรื่องปาร์แมนมาก และแต่งตัวเป็นปาร์แมนไปเที่ยวอยุธยา

ภาพเดือนกันยายนถ่ายที่โรงแรมมาริอ็อท บุคคโล ในงานแต่งงานของญาต

ภาพเดือนตุลาคมถ่ายที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน

ภาพเดือนพฤศจิกายนพ่อพาขอบฟ้าไปพบเดวิดเบ็คแฮมที่สนามฟุตบอลเมืองทอง

ภาพเดือนธันวาคมถ่ายที่หอดูดาวฉะเชิงเทราในกิจกรรมครอบครัวดาราศาสตร์

kobfa-calendar-2019e_Artboard-00-coverkobfa-calendar-2019e_Artboard-01kobfa-calendar-2019e_Artboard-02kobfa-calendar-2019e_Artboard-03kobfa-calendar-2019e_Artboard-04kobfa-calendar-2019e_Artboard-05kobfa-calendar-2019e_Artboard-06kobfa-calendar-2019e_Artboard-07kobfa-calendar-2019e_Artboard-08kobfa-calendar-2019e_Artboard-09kobfa-calendar-2019e_Artboard-10kobfa-calendar-2019e_Artboard-11kobfa-calendar-2019e_Artboard-12kobfa-calendar-2019e_Artboard-13 back

gmail เต็ม google drive เต็ม ทำยังไงดี

Screen Shot 2561-12-17 at 10.43.54

gmail เป็นบริการฟรีที่ให้พื้นที่อีเมลมหาศาล ไม่น่าจะมีใครที่ใช้อีเมลแล้วหมดได้ง่ายๆ  แต่ผมก็ใช้จนหมด  บริการฟรีของ gmail จะให้พื้นที่เท่าไหร่ผมลืมไปแล้ว อาจจะ 10g หรือ 25g แต่ผมก็ใช้เกินไปนานแล้วหลายปี ตอนที่เต็มรอบแรก ผมก็จะมีปัญหารับอีเมลใหม่ไม่ได้ทำให้เสียลูกค้า เสียงานไปพอสมควร

 

การแก้ไข gmail เต็มในครั้งแรก ผมใช้วิธีจ่ายเงินเดือนละ 2 เหรียญ เพื่อเพิ่มพื้นที่เป็น  100g และก็ใช้ได้ราบลื่นมาประมาณ 3 ปี  แต่ล่าสุด gmail ผมเต็มอีกครั้ง  ระบบรายงานว่า gmail หรือ drive ของผมมีอีเมลประมาณ 68gb และมีภาพอยู่ 38gb  ก็คือล้นโควต้าไปแล้ว  การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของผมก็คือ ตามลบสิ่งที่เป็นไฟล์ใหญ่จากการฝากไฟล์ ส่งไฟล์ รับไฟล์อาร์ตเวิร์คสิ่งพิมพ์ต่างๆ ลูกค้าบางคนทำไฟล์ส่งโรงพิมพ์ 1gb 2gb การตามลบก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง  แต่ไม่นานก็เต็มอีก

 

เหตุที่เต็มจริงๆมาจากภาพจากมือถือที่มีระบบ auto upload ของ android ที่ค่อยอัพภาพเข้าไปใน google drive ของเราอยู่เรื่อยๆ  พื้นที่ gmail ของเราจะมี google drive  google photo gmail ที่ใช้พื้นที่มหาศาล  และ google photo ก็มีภาพเพิ่มเข้าไปทุกวัน  ยิ่งเราใช้มือถือถ่ายภาพบ่อยแค่ไหน google photo ก็จะเต็มเร็วมากยิ่งขึ้น และเมื่อเต็มก็ทำให้ gmail  ใช้ไม่ได้

 

Screen Shot 2561-12-17 at 10.55.19

 

วิธีแก้ปัญหาพื้นที่เต็มแบบตรงไปตรงมาคือจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งทางเลือกนี้ผมยังไม่อยากทำ เพราะรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายสเต็ปต่อไปจากเดือนละ 2 เหรียญ หรือ 70 บาท จะกลายเป็นเดือนละ 350 บาท เท่ากับปีละ 4200 บาทเลย  ตรงนี้ผมรู้สึกว่าแพงเกินไป  เพราะมันไม่ได้จ่ายครั้งเดียว แต่ปีละ 4200 บาท มันแพงพอๆกับการซื้อฮาร์ดดิสก์ external ปีละ 1 ตัวเลย  ซึ่งผมคิดว่าถ้าผมจ่ายเงินระดับหลายพันบาท ผมควรมีฮาร์ดแวร์บางอย่างเก็บภาพไว้ในบ้านด้วย  แม้ว่าการเก็บบน cloud จะสะดวกและปลอดภัยมากกว่าก็ตาม

 

 

Screen Shot 2561-12-17 at 09.08.31

ถ้าเราไม่จ่ายเงินเพิ่ม google  ก็เสนอวิธีการเพิ่มพื้นที่ด้วยการกระทำบางอย่าง เช่นการลบไฟล์ หรืออีกอ็อพชั่นหนึ่งที่เจ๋งมากที่ผมเพิ่งรู้ก็คือ การบีบอัดภาพลงเล็กน้อย  ก็จะทำให้เหลือพื้นที่เพิ่มขึ้น  ให้กดเข้าไปที่ google photo ในลิงค์ที่ทาง google ให้ไว้ แล้วเข้าไป setting

Screen Shot 2561-12-17 at 11.51.23

ในส่วนการตั้งค่า ให้เลือก คุณภาพสูง  โดยภาพจะมีคุณภาพที่สูงอยู่แต่ขนาดไฟล์เล็กลง ผมก็เลยลองเลือกอ๊อพชั่นนี้ ซึ่งภาพที่อยู่ใน google photo ที่มันเพิ่มขึ้นตามภาพในมือถือผมไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว จะบีบไฟล์ให้เล็กลงบ้างก็ไม่เป็นไร ก็เลยตัดสินใจทำ และเมื่อผ่านไป 1 ชม.  พื้นที่ว่างก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 37.9gb เท่านั้น ผลก็คือเหลือพื้นที่ว่างอีกเพียบเลย

Screen Shot 2561-12-17 at 11.07.19

 

ภาพใน google photo เป็นภาพที่ผมไม่หวง จะคุณภาพลดลงหรือหายไปบางภาพ ผมก็ยอมรับได้ เพราะภาพที่ผมหวงจะเก็บไว้ในบ้าน เก็บไว้ใน external hardrive ที่ผมเตรียมไว้อยู่แล้ว และผมวางแผนการซื้อ external drive ปีเว้นปีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันทุกภาพที่ผมหวงผมก็จะมีแบ็คอัพไว้ที่ online ใน flickr.com ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บภาพที่ผมจ่ายเงินแล้วแล้วปีละ 1400 บาท  เพื่อจะเก็บภาพได้ 1T หรือ 1000gb  นั่นหมายความว่า ผมมีค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูล onlineอยู่แล้ว คือ flickr 1400บาท + google 840 บาท แค่นี้ก็เยอะพอสมควรแล้ว

 

การแบ็คอัพข้อมูลเป็นเรื่องจำเป็น เพราะข้อมูลธุรกิจเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ส่วนภาพถ่ายก็มีทั้งภาพส่วนตัว ภาพที่ใช้ทำธุรกิจก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแล  แต่การแบ็คอัพทุกอย่าง ทุกบิท ทุกลมหายใจ เป็นเรื่องที่ใช้เงินจำนวนมาก  การตัดสินใจเก็บแค่บางอย่าง การละเลยข้อมูลบางอย่าง หรือ ยอมให้มีข้อมูลที่สูญหายได้บางอย่าง จะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมหาศาล

พาลูกดูดาว ที่ฉะเชิงเทรา

IMG_4844

หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรม ครอบครัวดาราศาสตร์ ในช่วง 15-16 ธันวาคม 2561 โดยการลงทะเบียนจอง มีโควต้า 120 คน กำหนดการเริ่มจองจะประกาศล่วงหน้า บ้านที่ส่งอีเมลจองทันเวลาจะได้รับสิทธิ์ได้เข้าร่วมกิจกรรม และจะต้องเตรียมเต๊นท์ไปเอง เพราะกิจกรรมจะนอนค้างที่หอดูดาว 1 คืน ปีนี้จัดเป็นปีที่ 2

ค่ายครอบครัวดาราศาสตร์2561
IMG_20181215_095818_1

หอดูดาวที่จัดงานอยู่ฉะเชิงเทรา ผมออกจากบ้าน 7.00 น. ขับรถแวะเติมน้ำมัน ขับไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้เส้นทาง เปิด googlemaps ขับตามไปเรื่อยจนถึง มีเส้นทางแยกที่ทำให้สับสนนิดหน่อยแต่ก็ไปจนถึงทันเวลานัดหมาย กิจกรรมเริ่ม 9.00 น. วันเสาร์

IMG_20181215_090932
IMG_4907

กิจกรรมก็จะเน้นความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่อง สิ่งที่ขอบฟ้าชอบมากที่สุดในแคมป์ครั้งนี้คือการได้ทำจรวดขวดน้ำ ได้ออกแบบ ได้คิด โจทย์ของจรวดขวดน้ำจะเพิ่มการบรรทุกไข่นกกระทาสองฟองไปกับจรวดด้วย ซึ่งจรวดที่วิ่งออกไปตกลงพื้นจะต้องไข่ไม่แตก เป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก ขอบฟ้าเลือกที่จะให้สร้างจรวจแบบที่มีชิ้นส่วนร่อนลงจอดแบบมีร่มชูชีพ ทำให้การลงจอดของไข่ช้าลง ส่วนพ่อก็สร้างตามที่ลูกคิด

IMG_4783
IMG_4799
IMG_4800

อีกกิจกรรมที่ได้ความรู้ชั้นดีคือการสร้างดาวหาง ซึ่งมีส่วนประกอบทางกายภาพที่เหมือนดาวหางจริงๆ ในทางวิทยาศาสตร์ ดาวหางคือก้อนน้ำแข็งโสโครก การสร้างก้อนแบบนี้จะต้องใช้ สารอินทรีย์จากดิน กาแฟ น้ำ แอมโมเนีย น้ำแข็งแห้ง และสุดท้ายดาวหางก็อยู่ในมือพวกเรา ได้เห็น ได้จับ การเรียนรู้แบบนี้น่าจะได้รับการจดจำไปอีกนาน

IMG_4776

ได้ใช้กล้องดูดาวระดับกึ่งอาชีพ เป็นกล้องดูดาวขนาดใหญ่ โอบไม่รอบ ได้จับ ได้ปรับ ได้ทดลองใช้ตัวจริง กล้องดูดาวชนิดดร็อบโซเนียนรุ่นนี้ได้รับการแจกจ่ายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ นอกจากนี้การได้เห็นกล้องดูดาวยักษ์บนหอดูดาวซึ่งตัวกล้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางของกระจกรับภาพ 0.7 เมตร เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ซึ่งตัวที่ใหญ่กว่านี้จะอยู่ที่เชียงใหม่โดยมีขนาด 2.4เมตร แต่แค่ 0.7 เมตรที่ฉะเชิงเทราก็สร้างความตื่นเต้นสำหรับคนดูได้มากอยู่แล้ว

IMG_4838
IMG_20181216_054455

การกางเต๊นท์ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเด็ก เพราะได้เรียนรู้ว่าเราสามารถนอนพักที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องพักโรงแรม ทริปนี้ยังขาดประสบการณ์การทำอาหารกินอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำ เพราะทีมจัดกิจกรรมดูแลเรื่องของกินครบถ้วนทุกมื้อ อาหารว่างก็ครบ กาแฟมีตลอดเวลา นับว่าเป็นค่ายที่มีความพร้อมในการจัดงานดีมาก ขอชื่นชมทีมงานของหอดูดาวทุกคน

IMG_4752

สถานที่แห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ มีท้องฟ้าจำลอง มีการฉายวิดีโอและสไลด์เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้อีกแหล่งหนึ่งใกล้กรุงเทพ เหมาะกับการพาเด็กมาเที่ยวอย่างมาก

IMG_4822
IMG_4847
IMG_4876
IMG_4889
IMG_20181216_130817

สุดท้าย ไข่ในจรวดของขอบฟ้า ไม่แตก

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องฮอนด้าฟรีด honda freed 217054km

2018-12-14_04-02-50

หลักกิโลเมตรบนหน้าจอแสดงไว้ที่ 217054 ผมเอารถฮอนด้าฟรีดไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง  ใช้น้ำมันเครื่อง ปตท รุ่น super synthetic 0w-30 ที่ซื้อแล้วแถมลำโพง jbl clip2 ซึ่งเป็นลำโพงบลูทูธหน้าตาดีและคุณภาพใช้ได้  ผมเคยใช้น้ำมันเครื่องรุ่นแถมลำโพง jbl go มาแล้ว 2 ครั้ง ได้ลำโพงมาใช้ 2 ตัว  มารอบนี้ก็ซื้อตุนไว้ ได้ลำโพงมาเล่นเพิ่มอีกตัว

2018-12-14_02-33-54

ใช้บริการอู่รถยนต์แถวบ้าน ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม 350 บาท  ในนี้จะเป็นค่าแรง 200 บาท  เป็นค่าไส้กรองน้ำมันเครื่อง 150 บาท  เปลี่ยนแล้วก็สบายใจ  เพราะปกติขับรถเพลินๆไม่เคยสนใจเรื่องระยะทาง บางทีรู้ตัวอีกทีเลยระยะทางที่ต้องเปลี่ยนไปหลายพันกิโลเมตรเลย

IMG_4233

 

เปลี่ยนโช้ค honda freed 217000 กิโลเมตร

2018-12-14_02-01-28

ฮอนด้า ฟรีด ใช้งานมายาวนาน ระยะทางที่หน้าจอระบุ 217000 กิโลเมตร เพิ่งจะเปลี่ยนโช้ค จริงๆมันก็คงเสื่อมมานานแล้ว แต่ก็ทนใช้มาได้เรื่อยๆ อาจจะเพราะชิน อาจจะเพราะมัวแต่ขับไปโน่นนี่นั่นไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพรถสักเท่าไหร่ จนวันหนึ่งภรรยาบ่นว่าทำไมรถมันเด้งขนาดนี้ ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า อ้อ มันน่าจะโช้คพังแล้ว

รถคันเก่าผมใช้ประมาณ 5 ปีก็เปลี่ยนโช้คทีนึง ส่วนคันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 9 มันควรจะพังมาสักหลายปีแล้วแต่ไม่ได้รู้ตัว เท่าที่สืบจากอินเทอเน็ต คนใช้ฟรีดนิยมจะอัพเกรดโช้คเป็นยี่ห้อ kayaba new sr ซึ่งราคาตลาดอยู่ที่ประมาณเกือบ 2หมื่นบาท แต่ผมเสียดายเงินไม่อยากจ่ายเยอะ และเป็นคนขับรถไม่เร็วด้วยเลยไม่คิดจะจ่ายระดับนั้น ไปถามราคาที่ศูนย์ ศูนย์ก็แจ้งราคามารวมค่าแรงกันแล้วเกือบสองหมื่นเหมือนกัน หน้ามืดแน่ๆเลย ก็เลยถอยก่อน เดี๋ยวหาของย่อมเยาใช้ดีกว่า

แล้วมีเพื่อนแนะนำร้านยางร้านช่วงล่างใกล้ๆที่ทำงานผม ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า รอบที่แล้วที่เปลี่ยนยางก็เปลี่ยนร้านนี้แหละ ราคาถูกดี และคุณภาพของก็ไม่ได้แย่ ก็เลยโทรคุยและแจ้งว่าอยากเปลี่ยนโช้ค รถฮอนด้าฟรีด อยากได้ของถูก เจ้าของร้านใจดีก็เลยแนะนำตัวนี้ให้ Valeo ค่าของรวมค่าแรงประมาณ 7พัน ก็เลยสั่งไปทางโทรศัพท์ว่า ตกลง เดี๋ยวเข้าไปเปลี่ยน

2018-12-14_02-44-50

อีกครึ่งชั่วโมงผมก็อยู่ที่ร้าน ส่งรถเสร็จก็ซื้อกาแฟสดแก้วนึงแล้วนั่งแท็กซี่กลับบ้าน ค่าใช้บริการ grabcar เรียกรถจากร้านกลับมาโรงพิมพ์ ค่ารถ 80 ได้ส่วนลดโปรโมชั่น 50 บาท จ่ายเอง 30 บาท และอีก 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ใช้ grabcar อีกรอบ จ่ายเอง 30 บาท ถูกกว่าแท็กซี่ทั่วไปอีกนะสำหรับการนั่งใกล้ๆ และได้รถใหม่ ได้คนขับสุภาพ

รถเก่า 9 ปี กับโช้คใหม่ทั้ง 4 ต้น ความรู้สึกคือ นิ่มดี นุ่มนวล รถวิ่งผ่านลูกระนาดก็ไม่สะเทือนมาก เนินหลังเต่าในซอยก็ไม่สะท้านเหมือนเดิมแล้ว ขึ้น ลง ยุบแล้วหยุด ใช้ได้เลย มีความรู้สึกว่ารถลอยอยู่เหนือพื้น ไม่ได้กลิ้งลากไปกับพื้นถนนแบบเดิม ความนุ่มราบเรียบคล้ายกับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องที่มีระบบกันสั่น มันสมู๊ทไม่กระโตกกระตากแบบกล้องเก่าๆ ผมยังไม่รู้ว่า Valeo รุ่นที่ร้านเลือกให้เป็นโช้คตรงรุ่นสำหรับฟรีดไหม เพราะพยายามหาข้อมูลก็ไม่พบเลยว่ามันเคยขายให้ฟรีดคันไหน แต่ก็คิดว่ามันคงพอใช้ได้แหละ เลยลองเสี่ยงเปลี่ยนดู เพราะนิสัยการขับรถของผมถือว่าเป็นคนขับรถช้า ขับรถไปหัวหินจากย่านฝั่งธนผมใช้เวลา 2.5-3 ชั่วโมง รถติดบ้าง รถวิ่งช้าบ้าง ไม่แซงบ้าเลือด เหมือนสมัยอายุ 25 ที่ตอนนั้นใช้เวลาในเส้นทางเดิมแค่ 90 นาทีก็ถึง

ไปรับรถที่ทำเสร็จ จ่ายเงินด้วยมือถือส่อง qr code ของร้าน สังคมไร้เงินสดพร้อมแล้วสำหรับคนไทย ธนาคารเดินเท้าเข้าไปวาง qr code ให้ร้านค้า ร้านขายยาสามแห่งที่ผมเคยซื้อมี qr code สำหรับจ่ายเงินทั้งหมด