โปสการ์ดมีต้นขั้ว

โปสการ์ดพิษณุโลก-เพชรบูรณ์ แบบมีต้นขั้ว ขนาดที่ฉีกออกมาจะได้โปสการ์ด 4×6 นิ้ว ในเล่มมี 6 ใบ เย็บเล่มด้วยห่วงเหล็ก

ไปหัดทำกระดาษที่เชียงใหม่

 

poo poo paper เป็นสถานที่ผลิตกระดาษจากขี้ช้าง มีสาธิตการทำกระดาษ มี work shop ให้แก้ผู้สนใจ

ขอบฟ้าเพลินๆ 27aug2018

เดือนสิงหาคมขอบฟ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง เป็นทริปไหว้พระที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของสงฆ์และดูโบราณสถานในย่านประวัติศาสตร์ของอยุธยา ขอบฟ้ากำลังชอบการ์ตูนเรื่องปาร์แมน ก็เลยช่วยกันทำหน้ากากปาร์แมนกับพ่อ และให้แม่ใช้ผ้าเช็ดตัวติดเป็นผ้าคลุม ขอบฟ้าแต่งปาร์แมนเดินเล่นที่วัดไชยวัฒนารามด้วย

IMG_20180813_064412

IMG_0240

ขอบฟ้ายังคงชอบเตะฟุตบอล และชอบเล่นเกมส์ซึบาสะในโทรศัพท์ แต่พ่อกับแม่ก็จำกัดให้ขอบฟ้าเล่นแค่วันละ 1 ครั้ง ขอบฟ้าก็เล่นตามที่ตกลงกัน แต่ก็จะขอให้พ่อเล่นให้ดูอีกครั้ง แล้วก็ขอให้น้องเล่นอีก 1 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งขอบฟ้าจะนั่งดูด้วย

IMG_0014

IMG_0024

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่4 เตรียมของ

เรามาเริ่มต้นกันดีกว่า เวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเริ่มลดน้ำหนักก็คือ เวลากินข้าวมื้อถัดไป เราสามารถเริ่มต้นการลดน้ำหนักได้ทันที ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย แต่เรามีสิ่งของบางอย่างที่ควรเตรียมเอาไว้เพื่อให้การลดน้ำหนักของเราเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ผล เราควรจะมีสิ่งต่อไปนี้

2017-03-06_06-00-11

1 เครื่องชั่งน้ำหนัก จะเป็นเครื่องชั่งระบบเข็มหรือระบบดิจิทัลก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้ระบบดิจิทัล โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องชั่งราคาแพง เราจะใช้เครื่องชั่งเพื่อชั่งน้ำหนักประจำวันเท่านั้น ซึ่งเครื่องชั่งที่มีขายทั่วไปก็ทำงานได้อย่างดี ส่วนเครื่องชั่งราคาแพง เครื่องชั่งไฮเทค เครื่องชั่งที่เชื่อมต่อกับ application ในมือถือก็แล้วแต่ศรัทธา แต่สำหรับผม ผมไม่ใช้ครับ มันเกินความจำเป็น และราคามันก็ไม่ถูก ส่วนเครื่องชั่งระดับหลายพันที่วัดค่ามวลกระดูกได้ แสดงผลค่า BMI ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครับ เพราะเราจะลดน้ำหนักเท่านั้น ตัวเลขอื่นๆเป็นตัวเลขรบกวนจิตใจ แต่ถ้ามีเครื่องชั่งไฮเอนด์อยู่แล้วก็ใช้ได้ครับ ไม่ผิด

Watch Smart watch Calories นับก้าว

2 อุปกรณ์นับก้าว จะเป็นตัวนับในรูปแบบของสายรัดข้อมือ หรือ นาฬิกาไฮเทคอย่าง smartwatch ก็ได้ เลือกได้ตามกำลังเงิน ผมใช้ ipod nano รุ่นที่มีระบบนับก้าวแล้วซื้อสายข้อมือมาติดตัวมันเพื่อให้มันกลายเป็นนาฬิกา และตั้งให้นับก้าวตั้งแต่ตื่นนอนไปจนหมดวัน เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์สายรัดข้อมือราคาหลักร้อยให้ใช้ ก็น่าซื้อใช้เช่นกัน เราขอให้เป็นตัวที่สามารถนับก้าวและแสดงค่าแคลอรี่ที่เราเผาผลาญจากการเดินไปได้ก็พอ แล้วพวกโปรแกรมนับก้าวในโทรศัพท์มือถือล่ะ ใช้แทนได้ไหม ก็ขอบอกว่าไม่ได้ครับ เพราะมือถือไม่ได้ติดตัวเราไปตลอดเวลา ในระหว่างวันเราอาจวางมันไว้เฉยๆบนโต๊ะ ผู้ชายอาจจะมีมือถือติดตัวไปเกือบทั้งวัน แต่ผู้หญิงไม่มีใครหนีบมือถือไว้กับตัวตลอดเวลา

IMG_0879

3 กล้องถ่ายรูป เราใช้โทรศัพท์มือถือแทนได้ เดี๋ยวนี้มือถือถ่ายรูปได้หมดแล้ว เราจะใช้ถ่ายภาพตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน ใครไม่ถนัดถ่ายรูป จะใช้จดในสมุดก็ได้ ไม่ว่ากัน หากใครเลือกใช้การจด กล้องถ่ายรูปก็ไม่จำเป็น

IMG_0275

4 ขวดน้ำ ใส่น้ำเปล่า หรือกระติกน้ำ สิ่งนี้จำเป็นมาก ไม่มีไม่ได้ จะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่กินแล้วเอามาเติมใช้ซ้ำก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย ขอขวดขนาดประมาณ 600cc อย่าเล็กกว่านี้ อย่าใหญ่ระดับขวดลิตร เพราะเราจะพกขวดน้ำ ขวดนี้ควรอยู่ใกล้มือและมีน้ำเต็มตลอดเวลา

IMG_0284

5 กล่องข้าว กล่องพลาสติก เอาไว้ใส่ของที่กินเหลืออีกครึ่งหนึ่ง เพื่อเก็บไว้กินมือต่อไป ข้อนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีจะเจ๋งและช่วยเราประหยัดเงินได้

IMG_b0218packaging

6 แก้วใส่กาแฟร้อน สำหรับคนชอบกาแฟ กาแฟร้อนจะอยู่กับเราในโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว และบนรถ ข้อนี้ไม่บังคับ มีก็ดีกว่าไม่มี แต่คนชอบกาแฟยังไงก็น่าจะมี ไม่ใช่เรื่องยาก

IMG_0186

7 หนังสติ๊ก เอาไว้รัดถุง รัดขนมถุงที่ฉีกแล้ว ได้ใช้แน่นอน รับรอง

ในขั้นตอนต่างๆที่เราจะลดน้ำหนัก เราจะพบเจอกับหลายเหตุการณ์ อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทมากบ้างน้อยบ้าง แต่ได้ใช้ทุกชิ้น

เปรียบเทียบเลนส์ canon 15-45 กับ 18-55 บน eos m

กล้อง eos m เป็นกล้อง mirrorless ของ canon  ตอนที่เปิดตัวระบบนี้ออกมาจะมีเลนส์ kit ติดกล้องออกมาตัวแรกเป็น EF-M18-55mm f/3.5-5.6 IS STM ภายหลังจากนั้นอีกประมาณ  2-3 ปี ก็มีเลนส์ kit รุ่นที่2 ออกมาเป็นเลนส์ EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM ซึ่งติดมากับกล้องรุ่น eos m10  คนที่ชอบถ่ายภาพวิว ภาพแนวท่องเที่ยว จะสนใจเลนส์ตัวนี้มาก เพราะว่ามุมรับภาพถือว่ากว้างมากเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม  ภาพต่อไปนี้ก็จะเปรียบเทียบมุมรับภาพของเลนส์ทั้ง2ให้ดูเป็นแนวทาง

IMG_3881

18-55

IMG_3880

15-45

ทั้ง2ภาพ ถ่ายด้วยกล้อง eos m โหมด  ถ่ายโดยการยืนอยู่จุดเดิม ถ่ายเลนส์ตัวแรกเสร็จ ก็ถอดเลนส์เปลี่ยนเป็นตัวที่2  จากภาพตัวอย่างจะเห็นว่า แค่ระยะยืนใกล้ๆ วัตถุที่ถ่ายอยู่ใกล้ๆก็เห็นแล้วว่า 15-45 รับภาพได้มุมกว้างกว่าอย่างมาก ความกว้างตรงนี้เหมาะกับการถ่ายภาพวิวและอาคารบ้านช่องที่ระยะยืนจำกัด  บางภาพเราไม่สามารถถอยหลังไปถ่ายให้ไกลได้ก็ต้องอาศัยเลนส์ที่รับภาพกว้างเป็นหลัก  ส่วนระยะซูมเทเล่นั้น ที่ 55 กับ 45 mm จะให้ผลไม่ต่างกันมาก  เพราะแม้เราจะมีระยะแค่ 45mm แต่เราสามารถเดินเข้าไปใกล้วัตถุได้  ก็จะได้ภาพวัตถุที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง

ลองดูมุมอื่นๆบ้าง

IMG_3895

18-55

IMG_3894

15-45

IMG_3896

18-55

IMG_3897

15-45

สรุปคือ เลนส์ 15-45mm ถ่ายมุมกว้างมาก  ถ้าต้องเลือกเลนส์ kit ติดกล้องสำหรับ eos m ผมจะเลือก 15-45mm แทนที่จะเป็น 18-55mm

==== เพิ่มเติมความเห็น====

เลนส์ ef-m 18-55is stm ตัวนี้มีคุณภาพที่ดีน่าสนใจมากขึ้นเมื่อผมไปถ่ายภาพที่ทริปเที่ยวทะเลกระบี่  นับว่าเป็นของราคาถูกที่ขายมือสองกันแค่ประมาณสองพันบาท  ถ้าจะให้คุณภาพดีกว่านี้ ต้องจ่ายถึงระดับเลนส์ L ด้วยซ้ำไป   ดูภาพตัวอย่างได้จากโพสท์นี้ครับ

เทียบกล้องโปรกับกล้องถ่ายเล่น

ลองอ่านเรื่องการใช้เลนส์ Kit หรือเลนส์ติดกล้องให้ได้คุณภาพที่ดีได้ที่ลิงค์นี้ครับ

การตั้งค่า whitebalance ให้ตรงอาจไม่ใช่คำตอบ

การถ่ายภาพดิจิทัลให้ได้คุณภาพสีเที่ยงตรงเป็นสิ่งที่นักถ่ายภาพควรศึกษาให้เข้าใจ  ควรหัดใช้ระบบการตั้งค่า whitebalance ของกล้องดิจิทัลให้เหมาะสมกับสภาพแสงในขณะนั้น  ภายใต้แสงจากดวงอาทิตย์เราสามารถถ่ายภาพโดยการตั้งค่าเป็น daylight ก็จะให้ภาพที่มีสีสันเที่ยงตรง สวยงาม  ถ้าเอากล้องที่ตั้งค่า Daylight ไปถ่ายตอนเย็นๆค่ำๆ ตอนที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ค่าแสงที่บันทึกก็จะทำให้ภาพดูเป็นโทนฟ้า  หากต้องการให้ภาพมีสีที่ใกล้เคียงตาเห็นก็จะต้องตั้งค่ากล้องให้มีค่า whitebalance เป็น tungstain หรือ cloudy หรือค่าอื่นๆที่ทำให้ภาพในจอดูสีตรงกับที่เรามอง

 

กล้องดิจิทัลก็ฉลาดที่จะให้ระบบ Auto whitebalance มาด้วย กล้องจะปรับสีทุกภาพด้วยระบบ Auto ทำให้สีสันโดยส่วนใหญ่ที่บันทึกไว้จะใกล้เคียงกับที่ตามองเห็น  ซึ่งอาจจะมีบางสถานการณ์ที่ปรับ Auto whitebalance แล้วสียังไม่ตรงอยู่  ส่วนน้อยนี้ถ้าเรายังคงต้องการให้สีเที่ยงตรง เราต้องออกจากระบบ Auto เข้าสู่ระบบ Custom whitebalance เพื่อให้สีเที่ยงตรงจริงๆ

 

IMG_0001

ภาพที่1 ถ่ายภาพด้วยระบบ Auto whitebalance

 

ภาพที่ 1 เป็นการถ่ายภาพด้วยระบบ Auto whitebalance ภาพของบนโต๊ะอาหารจะเป็นฝาชีสีขาวที่ดูอมเหลือง  ส่วนด้านขวาบนโต๊ะอาหารเป็นกระดาษทิชชู่สีขาวที่โดนแสงไฟส่องทำให้ดูเป็นโทนสีอมเหลืองเช่นกัน  สถานการณ์แบบนี้ปรับกล้องด้วยค่า white balance อย่างไรก็ได้สีที่ยังไม่ตรง  ฝาชียังคงไม่ใช่สีขาว ทิชชู่ก็ไม่ใช่สีขาว  ถ้าเราไม่พอใจเหตุการณ์นี้ เราต้องใช้วิธี custom whitebalance

 

IMG_0002

ภาพที่ 2  ภาพถ่ายสิ่งที่เป็นสีขาว

 

วิธีการใช้ custom whitebalance ก็คือ ให้เราถ่ายภาพวัตถุสีขาวในสภาพแสง ณ ตรงนั้น  ก็คือแสงบนโต๊ะอาหารนั่นเอง  และถ่ายภาพวัตถุขาวให้ใหญ่เต็มภาพ หรือ ล้นกรอบภาพเลย  ผมใช้วิธี ปรับโฟกัสแบบแมน่วลให้ภาพเบลอ ไม่โฟกัสอะไรเลย แล้วเอาเลนส์ไปจ่อที่ทิชชู่สีขาว  ให้ในช่องมองภาพเป็นสีขาวทั้งภาพ แล้วกดชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพ  เรื่องสปีตชัตเตอร์ หรือ รูรับแสงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เราต้องการแค่สีขาวเต็มเฟรม  และภาพไม่ชัด ภาพสั่นก็ไม่เป็นไร

 

เมื่อได้ภาพแล้ว ให้เราเข้าไปที่เมนู  whitebalance แล้วเลือกค่าเป็น custom ซึ่งในกล้องระบบของ canon พอเราเลือกคำว่า custom แล้ว จะมีอีกเมนูหนึ่งขึ้นมาถามว่า จะให้ปรับโทนสีด้วยภาพตั้งต้นภาพใด ก็ให้เราเลือกภาพสีขาวทั้งภาพที่เราเพิ่งถ่ายไป ก็คือภาพที่ 2 นี้ แล้วระบบจะใช้ภาพนี้มาแก้สีให้เรา

 

IMG_0004

ภาพที่ 3  ถ่ายโดยการตั้งค่าเป็น  custom whitebalance

 

ภาพที่ 3 เป็นภาพที่ถ่ายโดยการตั้งค่า whitebalance เป็นแบบ custom ซึ่งจะให้ภาพที่ปรับสีจนทิชชู่ได้สีขาว และฝาชีก็เป็นสีขาว  เพราะบริเวณบนโต๊ะอาหารได้รับแสงสว่างจากสป็อตไลท์ สีบนโต๊ะจะถูกต้องเที่ยงตรง  แต่ฉากหลังที่ดูเป็นสีเพี้ยนก็เป็นเพราะฉากหลังได้รับแสงจากไฟชนิดอื่น

 

ภาพชุดนี้เป็นการสาธิตการใช้ระบบ custom whitebalance  ของกล้องดิจิทัล  เราจะเห็นว่า ภาพสีสันเที่ยงตรงบนโต๊ะอาหารทำได้จริง ตรงวัตถุประสงค์ แต่ภาพรวมของทั้งภาพดูเพี้ยนมากเกินไป  บางทีเราก็ชอบภาพโทนเหลืองของทุกสิ่งในภาพมากกว่าภาพที่สีเที่ยงตรงแค่บางจุด  สิ่งที่เราต้องพิจารณาก็คือ เทคนิคการวัดแสงและการตั้งค่า whitebalance ที่ถูกต้อง จะตอบสนองกับความต้องการหรือตอบสนองกับงานของเราได้ไหม  เรายังคงต้องตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือ หรือ ไม่ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ แต่ต้องตัดสินใจด้วยความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง

 

ความเข้าใจจะทำให้เรามีเครื่องมือช่วยสร้างผลงานที่หลากหลาย  สิ่งสำคัญก็คือ เราได้ภาพถ่ายที่ตรงกับจินตนาการของเราไหม   ถ้าเราจะแหกกฏเราก็ควรรู้ทุกกฏเสียก่อน  เพื่อให้เรารู้ว่าเรากำลังแหกกฏจริงๆ ไม่ใช่มั่วแบบไม่มีความรู้

 

 

garmin nuvi 1250 ยังอัพเดทได้ในปี คศ2018

IMG_5788

ผมซื้อ gps ของ garmin รุ่น nuvi 1250 มาใช้เมื่อปี คศ 2011 และใช้งานมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันคือในปี คศ 2018 นี้  ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วง 4 ปีหลัง ผมใช้งานมันน้อยลง เพราะว่า ถนนที่ตัดใหม่ๆในช่วงหลายปีนี้ไม่ได้มีในแผนที่ติดเครื่องมา  เพราะผมมีแผนที่ในเครื่อง gps ที่อัพเดทไว้ที่ปี คศ 2011 เท่ากับปีที่ซื้อนั่นเอง

GPS ของยี่ห้อ Garmin จะมีบางรุ่นโฆษณาไว้ว่าอัพเดทแผนที่ฟรีตลอดอายุการใช้งาน คำนี้เคยทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าอัพเดทได้ตลอดชีวิตคนซื้อ  จริงๆเครื่อง gps มีอายุการใช้งานแต่ผมไม่รู้ว่าอายุการใช้งานนี้ยาวนานกี่ปีตามที่บริษัทกำหนด  แต่ รุ่นที่ผมซื้อไม่ได้สิทธิ์นั้น  คงเป็นเพราะรุ่น 1250 เป็นรุ่นเล็กสุด และยังเป็นรุ่นที่ผมซื้อตอนลดราคาอีกต่างหาก  ราคาสมัยนั้นก็ 3990 บาท

อยู่ๆผมก็อยากจะอัพเดทแผนที่  เลยติดต่อไปที่บริษัทผู้แทนจำหน่าย ผมอีเมลไปแจ้งว่าต้องการอัพเดทแผนที่ในเครื่อง 1250 ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และผมก็พร้อมจะจ่าย แต่บริษัทก็ติดต่อกลับมาว่า รุ่น 1250 ไม่สามารถอัพเดทแผนที่ได้แล้ว เพราะบริษัท เลิกซัพพอร์ทเครื่องรุ่นนี้แล้ว  ก็เลยต้องเศร้ากันไป ผมเตรียมใจทิ้งเครื่องนี้ไปแล้ว เพราะว่า ถนนหลายเส้นมันไม่มีในแผนที่  มันยังคงใช้งานได้ดีถ้าเราไปเที่ยวในสถานที่ที่มันมีอยู่ก่อนปี คศ2011  แต่ถ้าที่เที่ยวเกิดใหม่ และร้านอาหารเกิดใหม่หลังปี คศ 2011 เราก็จะหาไม่เจอ

แล้ววันหนึ่ง ผมก็เห็นประกาศขายเครื่อง gps 1250 รุ่นเดียวกับผมเลยในราคาพันกว่าบาท ผู้ขายให้ข้อมูลว่าเขาอัพเดทแผนที่ล่าสุดไว้แล้ว เป็นแผนที่ปี 2018 เห็นแล้วตาลุกวาวเลย  เพราะมันคือคำตอบว่า รุ่น 1250 ยังคงอัพเดทได้  ก็เลยจัดการค้นหาไฟล์แผนที่ซึ่งน่าจะมีใครเก็บไว้รอการแจกจ่าย  และก็พบจริงๆ

การอัพเดทแผนที่เข้าเครื่อง 1250 ผมใช้วิธี ก็อปปี้ไฟล์แผนที่อันใหม่ไปไว้ใน micro sd โดยต้องวางไฟล์แผนที่ในโฟลเดอร์ชื่อ Garmin   แล้วนำเจ้าหน่วยความจำนี้ไปไปยัดไว้ในเครื่อง gps ซึ่งมีช่องใส่เมมโมรี่ชนิดนี้  ตอนเปิดเครื่อง ระบบจะสแกนหาไฟล์แผนที่ในโฟลเดอร์ Garmin  ถ้ามีไฟล์แผนที่อยู่ในนี้ ระบบจะใช้แผนที่ในโฟลเดอร์แทนแผนที่ที่ติดมากับเครื่อง  และผมก็มีแผนที่เวอร์ชั่นล่าสุดใช้งาน

gmapsupp

ทดลองหาร้านอาหารที่เปิดให้บริการในช่วงปี 2016 ผมก็ค้นชื่อเจอในแผนที่ใหม่ ซึ่งถ้าเราไม่อัพเดทผมก็จะหาไม่พบนั่นเอง  แสดงว่าแผนที่ใหม่ใช้งานได้ดี

สรุป gps รุ่น nuvi1250 สามารถอัพเดทแผนที่ได้  มีแผนที่เวอร์ชั่นใหม่ให้ใช้

ขอบคุณโลกอินเทอเน็ตที่มีข้อมูลข่าวสารที่ช่วยให้ผมยังคงใช้งาน gps รุ่นนี้ได้อีกหลายปี

 

อัพเดทเพิ่มเติมหลังจากใช้แผ่นที่ใหม่ในเครื่องเก่าไปได้ 2 เดือน

ในโหมดการแสดงแผนที่ทำงานได้ปกติ  แต่มีปัญหาบางอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้ เช่น การค้นหาสถานที่บางครั้งการค้นหาหลุดจากหน้าจอค้นหา  คือ  พอเราพิมพ์ชื่อร้านอาหารที่ต้องการหา พอกด ok เพื่อเริ่มค้นหา เครื่องก็หยุดทำงานเหมือนแฮงค์ แล้วบู๊ทเครื่องใหม่ และเป็นแบบนี้เสมอกับร้านเดิม  ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาที่ซอร์ฟแวร์ไม่เหมาะกับรุ่นของเครื่อง  หรือ แผ่นเมมโมรี่มีปัญหาไม่อ่านข้อมูลส่วนที่เสียหาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ลดน้ำหนักง่ายๆแบบคนขี้เกียจ ตอนที่3 เลือกวิธี

การลดน้ำหนักมีหลายวิธี  แต่วิธีหนึ่งที่จะไม่ทำเด็ดขาดเลยคือการลดด้วยการกินยา  ด้วยคำขู่มากมายว่ากินยาแล้วลดได้แต่มันจะโยโย่  มันจะผอมแป๊ปเดียวแล้วน้ำหนักก็จะขึ้น แม้ผมจะไม่เคยทดลองกินยา  แต่ก็กลัว  กลัวว่าจะมีผลข้างเคียงอื่นๆที่เราคงไม่ปลื้ม  และอีกอย่าง ก็ไม่รู้จะกินยาอะไร  หายาจากที่ไหน ในชีวิตไม่เคยเข้าคลีนิคเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและคลีนิคเกี่ยวกับความงามใดๆเลย

benjakittiP1100770

วิธีออกกำลัง วิธีนี้เป็นวิธีที่เป็นความหวังของคนส่วนใหญ่  อยากผอมให้ออกกำลังกาย  อยากตัวใหญ่ให้ออกกำลังกาย  การออกกำลังกายเป็นยาวิเศษทำให้ตัวเล็กก็ได้  ทำให้ตัวใหญ่ก็ได้  ผมเคยพยายามเหมือนกัน  เมื่อสักสิบปีก่อน ผมอยากจะแข็งแรง อยากมีอายุยืน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับน้ำหนักตัว  ก็เลยทดลองวิ่ง ผลการวิ่งก็คือ ผมวิ่งไปร้อยเมตรผมก็หอบเหนื่อยจนรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน  วิ่งบนเครื่องออกกำลังกายก็วิ่งได้ไม่ถึงนาที หัวใจก็เต้นราวกับว่าจะหลุดออกมาจากร่าง  เพราะคนไม่เคยออกกำลังกายเลย  แม้ผมจะถือกล้องรับจ้างถ่ายภาพได้เป็นวันๆ  แต่ก็ไม่ได้เหนื่อยแบบการวิ่ง  ผมทนวิ่งน้อยๆอยู่หลายครั้ง  ก็ลองไปวิ่งในสวนสาธารณะเล็กๆ  วิ่งไปรอบเดียวก็รู้สึกเหนื่อยมาก อยากจะนั่งพัก  ร้องเท้าที่อุตส่าห์ไปหาซื้อมาก็ทำงานได้ไม่กี่นาที  พอวิ่งขึ้นรอบสองผมก็เดินแล้ว  จบทริปสวนสาธารณะผมวิ่งไป 2 รอบ คนอื่นๆวิ่งไปสิบรอบ  ในใจก็คิดว่า  เดี๋ยวอีกหลายๆครั้งร่างกายก็จะชิน  แล้วผมก็จบการวิ่งด้วยการไปหาอะไรกินต่อตอนค่ำๆ  รู้สึกตัวอีกทีก็กินไป 4 มื้อ  ยิ่งวิ่งก็ยิ่งกินดึก ประกอบกับผมไม่ว่างอย่างสม่ำเสมอ  ก็คือไม่ได้มีความพยายามจัดเวลาให้กับการวิ่งนั่นเอง  ก่อนจะวิ่งผมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดวิ่ง  รองเท้าถุงเท้าต้องพร้อม  ไปวิ่งให้จบ แล้วก็อาบน้ำ แล้วค่อยกลับเข้าสู่โหมดปกติของวัน  วันที่วิ่งนี้ผมใช้เสื้อผ้า 2 ชุด  มันก็ดูผิดปกติสำหรับชีวิตแบบผม  กลายเป็นความรู้สึกว่าต้องเตรียมตัวเยอะเหลือเกิน ซึ่งมันก็เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น  ถ้าผมเจ็บป่วยแล้ววิ่งคือคำตอบผมคงจะยอมทำไม่อ้างอะไร  แต่ผมไม่ได้ไร้ทางเลือก เชื่อว่าการลดน้ำหนักไม่ได้มีคำตอบเดียว  การวิ่งจึงยังไม่ใช่

ผมใช้วิธีกินน้อยลงดีกว่า  คิดได้เท่านี้ก็เริ่มทำเลย  โดยมีเหตุผลว่า การลดน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมจะต้องเผาผลาญพลังงานไปให้ได้ 7000 กิโลแคลอรี่  แต่ถ้าไม่วิ่ง ผมก็ต้องกินอาหารน้อย หรือกินอาหารให้พลังงานติดลบ  ข้อมูลของนักโภชนาการบอกว่า อัตราเฉลี่ยของผู้ชายน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัมใน 24 ชั่วโมงจะใช้พลังงาน 2500 กิโลแคลอรี่ ตั้งแต่นอน ตื่นมาทำกิจกรรมต่างๆรวมถึงการทำงาน และต่อเนื่องจนถึงเวลากลับเข้านอน  แปลว่าต่อให้เรานั่งเฉยๆหายใจทิ้ง นั่งๆนอนๆก็จะใช้พลังานใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ คือ 2500กิโลแคลอรี่    การกินอิ่มพอดีก็มักจะคิดเป็นพลังงานที่กินเข้าไปประมาณ 2500 กิโลแคลอรี่เช่นกัน  ถ้าเราจัดระดับการกินให้พอดีกับระดับการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย  ตัวเราก็จะน้ำหนักคงที่อยู่ได้ไปเป็นปี  ซึ่งทุกคนก็น่าจะเคยมีช่วงเวลาที่น้ำหนักคงที่  คือน้ำหนักไม่ขึ้นไม่ลงแบบนั้นอยู่เป็นปี   เทคนิคน้ำหนักคงที่ก็คือกินแค่พออิ่ม อิ่มแล้วหยุดกิน

2017-03-06_06-00-11

แต่ถ้าจะลดน้ำหนัก ก็ต้องกินให้พลังงานที่เข้าปากมันน้อยลงกว่าปกตินั่นเอง  ถ้ากินน้อยลงไปวันละ 1000 กิโลแคลอรี่   เท่ากับว่า 7 วัน ร่างกายเราจะเผาพลังงานเกินการกิน  ทำให้แคลอรี่ติดลบไป 7000กิโลแคลอรี่  คิดเป็นการลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม  ดูเหมือนไม่เยอะ  แต่ถ้าทำครบเดือนก็จะลดไป 4 กิโลกรัม  ถ้าทำไปให้ครบ 4 เดือน เราก็จะลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 16 กิโลกรัม  ซึ่งไม่น้อยเลย  ถามอีกแบบหนึ่งก็ได้ว่า  ถ้าเลือกน้ำหนักได้ เราอยากน้ำหนักเท่าไหร่  คำตอบของผมคือ 75 กิโลกรัม เพราะผมสูง 175cm ตามสูตรง่ายๆของน้ำหนักที่เหมาะสม คือ ความสูง – 100cm = น้ำหนักตัวของผู้ชาย นั่นคือผมต้องลด 16 กิโลกรัมนั่นเอง

วิธีกินน้อยลงนี่คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าผมทำได้  เพราะมันไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย  หายใจทิ้งก็เผาผลาญพลังไปเรื่อยๆอยู่แล้ว เราแค่กินน้อยลง  แต่จะกินน้อยยังไงให้มันติดลบสัก 1000 กิโลแคลอรี่ คำตอบก็คือ กินครึ่งจานครับ  เราเคยกินอะไรเต็มจาน ก็เปลี่ยนเป็นกินครึ่งจาน  เคยตักข้าว 2 ทัพพี ก็ตักแค่ 1 ทัพพี  เคยซื้อข้าวกล่องกินก็กินครึ่งกล่องแล้วส่วนที่เหลืออีกครึ่งให้กินมื้อต่อไป  หากซื้อกินมื้อเช้า ก็แบ่งกินเช้าครึ่งนึงกลางวันครึ่งนึง  หากซื้อกินมื้อกลางวันก็แบ่งกินกลางวันครึ่งนึงเย็นครึ่งนึง  สิ่งที่กินทุกอย่างให้ลดลงครึ่งเสมอ

IMG_0440

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและต้องงดทันที 100% ก็คือ ของหวาน น้ำหวาน  พวกกาแฟเย็นนี่ตัวดีเลย คนเรามักจะอ้วนจากน้ำอัดลม และอ้วนจากกาแฟเย็น  ถ้าเราลดได้ก็จะทำให้แผนการกินน้อยของเราได้ผลทันที  ผมเปลี่ยนจากกาแฟเย็นมาเป็นกาแฟดำ  หากชงเองก็ใส่แต่กาแฟ ไม่ใส่ครีม ไม่ใส่น้ำตาล  หากไปสั่งกินที่ร้านก็สั่งกาแฟดำ  ซึ่งแก้วแรกที่เริ่มกินกาแฟดำก็ต้องบอกว่า เปรี้ยวมาก ฝาดมาก  แต่ก็ทนกินไปให้ชิน  ส่วนขนมหวาน ขนมถุงกรอบๆ  ของกินมันๆที่แสนอร่อยทั้งหลาย ผมงดเลย ไม่แตะไม่กินเลย

DSCF3862

เพียงเท่านี้เราก็จะใช้ชีวิตแบบ เผาผลาญพลังงานได้อย่างสม่ำเสนอ และจะน้ำหนักตัวลดลงได้ตามเป้าคือ 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

ขอบฟ้า เพลินๆ 13aug2018

IMG_0963.JPG

ขอบฟ้าคุยกับพ่อเรื่องการซ่อมรถ  ขอบฟ้าอยากสร้างรถขาย พ่อถามว่าขอบฟ้าจะขายคันละเท่าไหร่  ขอบฟ้าบอก 200 บาท  คนจะได้ซื้อง่ายๆ  เพราะเมื่อก่อนขอบฟ้าจะขายคันละ 10 ล้านบาท  ตอนนั้นพ่อบอกว่าเราต้องขายของในราคาที่คนอื่นอยากซื้อ
ก็เลยถามต่อว่า ขอบฟ้าจะสร้างรถยังไงให้ขาย 200 บาท ขอบฟ้ายบอกว่าจะเอาขยะมารีไซเคิล  จะเอาพลาสติก กับเหล็กมาจากถังขยะ  แต่เครื่องยนต์น่าจะไม่มี คงต้องซื้อเครื่องยนต์มา  ส่วนแอร์ในรถ ก็ให้เอาแอร์ที่ไม่ดีแล้วในบ้านมาใส่รถ  แล้วบ้านก็ซื้อแอร์เครื่องใหม่
ขอบฟ้าเลยขอให้พ่อช่วยสร้างรถหน่อย  พ่อก็รับปาก  และ เสนอว่า เราน่าจะลองทำคันเล็กๆก่อนแล้วพอทำเก่งแล้วค่อยทำคันใหญ่ๆ  ขอบฟ้าก็เห็นด้วย  พ่อก็เลยแนะนำว่าเราจะเอารถของเล่นคันเก่ามาทำให้เป็นรถที่วิ่งได้ เพราะตอนนี้มันเสียอยู่
แล้วขอบฟ้าก็ทวงพ่อทุกวันว่า จะซ่อมรถคันนี้หรือยัง  วันนี้อย่าลืมรื้อจากห้องเก็บของออกมานะ  ถามทุกวันจนพ่อต้องรื้อให้ และเตรียมของรอซ่อม
ขอบฟ้าถามว่า ตอนพ่อเป็นเด็ก เคยอยากสร้างรถไหม  พ่อบอกว่า เคย
ขอบฟ้าถามต่อว่า แล้วได้สร้างไหม  พ่อบอกว่า ไม่ได้สร้าง
ขอบฟ้าถามว่าทำไมไม่สร้าง  พ่อตอบว่า นั่นสิพ่อก็นึกไม่ออกว่าทำไมถึงไม่สร้าง
ขอบฟ้าถามต่อว่า  ทำไมไม่สร้างตอนที่อยากสร้าง  พ่อ……..  (สลดในใจ  ไว้จะหาคำตอบดีๆมาให้ขอบฟ้าวันหลัง)

ดู “นักเรียน Home School เยาวชนผู้สนใจดาราศาสตร์ ! ด.ช.นพวิชัย เหม่งเวหา Suthichai Live สุทธิชัย Live” ใน YouTube

หลอดไฟท้ายรถยนต์ LED ข้างถนนไม่ทนเลย

IMG_20180804_154132

ภาพหลอด LED ที่เสีย และถอดออกมาทิ้ง  ถ่ายวันที่ 4aug2018

นี่เป็นหลอดไฟท้ายทำหน้าที่ให้แสงสว่างตอนเปิดไฟรถยนต์เมื่อวิ่งกลางคืน และทำหน้าที่ไฟเบรกด้วยเมื่อเหยียบเบรค  หลอดดวงนี้ในรถฮอนด้าฟรีดของผมขาดบ่อย สักหกเดือนก็ขาดแล้ว  ช่างที่ศูนย์บริการบอกว่า โคมไฟท้ายรถผมมันมีน้ำเข้า ทำให้หลอดไฟเสียเร็ว  ต้องเปลี่ยนโคมไฟท้ายรถ

โคมไฟท้ายรถก็คือของฮอนด้านั่นแหละ  โคมรั่วเป็นทุกคัน  ช่างบอกมา  ผมได้แต่ด่าอยู่ในใจว่า ผมไม่ได้อยากได้โคมรั่ว ผมซื้อรถเอารถสภาพใหม่ ของดี  แต่ทำไมฮอนด้าทำโคมรั่วทุกคันให้กับลูกค้าล่ะ  เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแน่นอน

เปลี่ยนไฟท้ายฟรีด

ภาพไฟท้ายที่มีรอยแตกอยู่ด้านใน คาดว่าเป็นจุดที่ทำให้น้ำเข้าโคม ภาพนี้ถ่ายวันที่เปลี่ยนเป็นหลอด LED คือวันที่ 9jul2018

ก็เลยลองซื้อหลอดไฟจากร้านอื่นๆดู  คิดว่าหลอด  LED น่าจะทนกว่าหลอดระบบเดิม หลอด LED ขั้ว T20 ตัวนี้ได้มากจากร้านขายของแต่งรถในห้าง  ผมซื้อมาคู่ละ 490 บาท ซึ่งแพงกว่าของศูนย์มาก  และมันก็ทำงานได้ดี  แต่ดีแค่ไม่กี่วันแล้วมันก็พัง  เป็นบทเรียนที่จำแม่นเลยว่า ของข้างถนนไม่ทน สู้ของศูนย์ที่เป็นหลอดระบบเก่าก็ไม่ได้

หลอด LED ขั้ว T20 ซื้อข้างถนน ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ซื้อเปลี่ยนวันที่ 9jul2018 และถอดทิ้งวันที่ 4aug2018 ซึ่งมันเสียเปิดไม่ติดก่อนจะถอดไปหลายวันด้วยนะ  สรุปคืออายุการใช้งานประมาณ 25 วัน  ไม่ถึงเดือนพังแล้ว กำลังจะกลับไปใช้ของศูนย์สเป็คโบราณที่มันทนทานกว่ากันมากและราคาถูกกว่ามากด้วยนะครับ honda freed รถดีที่ไฟท้ายห่วย  แต่เราก็ทนใช้ได้เพราะรถมันยังคงน่าใช้

IMG_20180813_173013

หลอดใสๆในภาพบนนี้ด้านขวา 2 หลอด คือหลอด T20 ที่เป็นหลอดไส้ เป็นหลอดโบราณที่ใช้ในรถฮอนด้าฟรีด  หลอดชนิดนี้ยังมีผลิตขายอยู่  และผมก็กลับมาใช้หลอดแบบเดิม เลิกใช้ LED ในฟรีดไปแล้ว  ด้วยเหตุผลเรื่องความทนทาน

การแกะโคมไฟฮอนด้าฟรีด สามารถใช้ไขควงสี่แฉกหมุนน็อตแล้วดึงโคมออกมาเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟได้  แต่น็อตที่อยู่กับรถของผมหัวแฉกมันเยินมาก  เข้าใจว่าโดนหมุนแรงๆ โดนหมุนแน่นๆมาก่อน  สี่แฉกมันใช้งานไม่ได้แล้ว  ก็เลยต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นแท่งสามเหลี่ยมหรือตัว  Y มันจะมีวงแหวนล้อมน็อตเอาไว้ทำให้หมุนได้

IMG_20180813_174713

เจ้าเหล็กตัว Y นี้จะมีวงแหวน 3 ระดับ  ระดับที่ใช้กับโคมไฟฮอนด้าฟรีดคือเบอร์ 8  ผมซื้อที่ตลาดนัดอันละ 20 บาท  ส่วนหลอดไฟโบราณ ขา T20 ผมซื้อหลอดละ 60 บาท ร้านอะไหล่ริมถนนทั่วไป  ไม่ได้ซื้อในศูนย์  แต่ราคาในศูนย์ก็ไม่เลวร้ายนะครับ  ใครหาร้านข้างทางไม่ได้ก็แวะศูนย์ไปเถอะ

ซื้อ T20 ได้ที่นี่ https://s.shopee.co.th/AUa1YMgPy6

ส่วนเรื่องน้ำเข้าโคมก็มีหลายท่านในกลุ่มผู้ใช้ฟรีดพบปัญหานี้  เรียกได้ว่าฟรีดแท้ต้องน้ำเข้าโคมทุกคัน มีทางออกที่มีคนแนะนำไว้คือ เจาะรูด้านล่างโคมให้น้ำไหลออก  ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้  น้ำเข้าก็ต้องมีทางให้ออก จะได้ไม่ขังไม่ชื้นข้างใน  เดี๋ยวถ้าได้รื้อเปลี่ยนหลอดไฟอีกครั้งจะเจาะบ้างแล้ว