เครื่องพิมพ์ letterpress แบบมือโยก
ผมเห็นภาพร้านกาแฟที่ชื่อ Khagee ครั้งแรกทางทวิตเตอร์ เป็นภาพที่ใครสักคนแชร์มา ภาพร้านที่มีกำแพงขาว มีแสงสว่างส่องจากนอกร้าน ตู้ขนมเค้ก โต๊ะไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งร้านที่มีแต่พองาม ชวนให้ร้านดูดี ดูน่าแวะได้ไม่ยากเลย
เข้าไปหาข้อมูลในเน็ตก็พบข้อมูลเพิ่มเติมอยู่บ้าง มีรีวิวในเว็บพันทิป มีคนอื่นๆเคยถ่ายรูปเอาไว้บ้าง บางภาพก็ถ่ายธรรมดาดูเป็นร้านทั่วไป ซึ่งภาพส่วนใหญ่ไม่ได้สวยเท่ากับที่เห็นในทวิตเตอร์ แต่ตอนนี้ผมจะย้อนกลับไปดูภาพในทวิตเตอร์ภาพนั้นก็หาไม่เจอแล้ว
พอมีโอกาสไปเชียงใหม่ก็เลยตั้งใจแวะไปดู ก็เพิ่งได้เห็นกับตามว่าเป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมถนน ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ ร้านเล็กมาก มีโต๊ะนั่งในร้านประมาณ 4-5 โต๊ะเท่านั้น ตู้ขนมก็ตู้เล็กๆ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาก็คือ หน้าตาขนมดูดีน่ากิน และพอได้ลองกินแล้วก็ต้องทึ่งว่า ขนมอร่อย…
อีกเรื่องก็คือ ในร้านมีพนักงานให้เห็น 6 คน ไม่รวมกับด้านหลังร้านที่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คาดว่าจะมี 7-8 คนในร้าน ร้านกาแฟมี 5 โต๊ะ แต่มีพนักงาน 6 คนอยู่ในร้านคอยบริการลูกค้า มันไม่ธรรมดาเลย เพราะร้านทั่วไปที่เคยเห็น โต๊ะจะเยอะกว่าพนักงานมาก บางร้านมี 6 โต๊ะกับพนักงาน 2 คนเท่านั้น แต่ Khagee ไม่ใช่
กินเสร็จในร้าน ซื้อกลับโรงแรมด้วย 2 ชิ้น ได้ถุงมา 2 ถุง ร้านใช้ตัวหนังสือเรียบง่ายทำป้ายร้าน และพิมพ์ชื่อร้านบนถุง รูปแบบการพิมพ์เดาว่าเป็นระบบตรายางหรือเป็น letterpress ถุงขนมอาจเป็นถุงสำเร็จ การพิมพ์ชื่อร้านบนถุงเป็นระบบทำมือ สังเกตุจากรอยเปื้อนที่ไม่เหมือนกันของสองถุง รอยเส้นตัวหนังสือไม่คมกริบ มีอาการบิดเบี้ยวเล็กๆ น้ำหนักกดกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ เป็นเสน่ห์ของงานทำมือ ร้านนี้ควรได้ลองแวะชิมเพราะเป็นตัวอย่างความเรียบง่าย น้อยนิด แต่สร้างผลมหาศาล
เสียงเพลงในร้านมาจากลำโพงสองตัวที่วางไว้ด้านหลังตู้ขนม ดูผ่านๆเป็นลำโพง bose 301 แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น series ไหน น้ำเสียงเด่นๆของมันคือ มีเสียงเบสที่มากและชัด ทำให้น้ำหนักเสียงเพลงสมบูรณ์ เสียงในร้านไม่ดังจนรบกวนการพูดคุย แต่ยังคงมีคุณภาพเสียงที่ดีสามารถนั่งฟังปล่อยอารมณ์ไปตามเพลงได้ในขณะที่โต๊ะอื่นยังคงพูดคุยกันได้
ลูกค้าในร้านส่วนใหญ่สะพายกล้องมากันคนละตัว คิดว่าช่างภาพหลายคนคงเคยแวะมาที่นี่ และร้านนี้ก็คงดังขึ้นเพราะช่างภาพนั่นเอง
ปล ร้าน Khagee มีอยู่ใน google maps

ขอบฟ้าลงเรียนฟุตบอลเอาไว้เย็นวันศุกร์มาได้หลายเดือนแล้ว และก็ได้ขอให้แม่พาไปเรียนเพิ่มอีกวัน กลายเป็น 2 วันต่อสัปดาห์ เลยให้มาเรียนในวันอาทิตย์ตอนเช้าเพิ่มอีก 1 วัน โดยสถานที่เรียนของวันอาทิตย์ก็คือสนามบอลแถวๆปิ่นเกล้า เป็นสาขาของสนามแรกที่เคยเรียน
ที่นี่กลุ่มเรียนเป็นเด็กอายุประมาณ 6-12 ปี (เดา) ดูจากรูปร่างของเด็กในกลุ่มแล้ว ขอบฟ้าจะเป็นเด็กเล็กที่สุดและตัวเล็กที่สุด เพราะนับถึงวันที่เริ่มเรียนที่ใหม่นี้ขอบฟ้าก็อายุ 5 ขวบ 11 เดือน 2สัปดาห์ เกือบ 6 ขวบนั่นเอง
การเรียนฟุตบอลจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดย 20 นาทีสุดท้ายจะเป็นการแบ่งทีมเตะกันสนุกๆ ส่วนเวลาก่อนหน้านี้ก็จะเป็นการฝึกพื้นฐานต่างๆ ถามเพื่อนที่เป็นโค้ชฟุตบอล เป็นอดีนนักบอลโรงเรียนก็ให้ความเห็นว่า การฝึกพื้นฐานที่ดี จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ พื้นฐานที่ดีจะเป็นตัวแบ่ง นักเตะต่างชาติเน้นพื้นฐานแน่นเป็นหลัก แนวทางนี้ฝรั่งเน้นมาตลอด ส่วนนักเตะไทย โค้ชไทย ผู้ปกครองไทย จะชอบให้แข่งทีม แข่งบ่อย แข่งให้มีผลแพ้ชนะ ซึ่งเป็นเรื่องสนุก แต่พื้นฐานจะละเลย นั่นทำให้บอลไทยไปไม่ไกลเหมือนประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องฟุตบอล
Barn Burner Johnson แอมป์กีต้าร์ชนิดพกพา แอมป์ตัวนี้ผมซือไว้เกินสิบปีแล้ว ที่แรกตั้งใจจะใช้กับคอมพิวเตอร์ เพื่อเปิดเพลง แต่คุณภาพการใช้กับเพลงมันแย่มาก เสียงเพลงออกมาแย่ยิ่งกว่าเสียงจากทีวีเสียอีก ก็เลยเก็บยาว แต่เมื่อหลายวันก่อนก็รื้อออกมาเช็คสภาพ และทดลองใช้กับกีต้าร์ไฟฟ้าแล้วพบว่ามันเจ๋งดี
johnson burner เป็นแอมป์กีต้าร์ที่ใช้ไฟเลี้ยง 12-15Vdc เราต้องหาหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เอง เพราะตอนซื้อไม่ได้แถมมา ตัวมันยังมีช่องสำหรับใส่ถ่าน 9 V อยู่ด้านล่างด้วย ทำให้มีความสะดวกต่อการใช้งานมาก การเล่นกับกีต้าร์ไฟฟ้า จะสามารถเลือกใช้เสียงเอ็ฟเฟ็คได้หลายอย่าง ทั้ง clean tube overdrive gain ปรับโทนเสียงได้ มีช่องเสียบหูฟังด้วย และที่เจ๋งก็คือ มีวงจรตั้งสายกีต้าร์หรือ tuner แถมมาด้วย เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่สามารถตั้งสายด้วยการฟัง แผงหน้ากากลำโพงเป็นลายโบราณดูคลาสิคมาก แค่มองด้วยตาก็สวยแล้ว
เสียงกีต้าร์มีความใส เอฟเฟ็คเสียงแตกก็ทำได้ดี เล่นเพาเวอร์คอร์ทได้มันส์พอใช้ได้ เหมาะกับการใช้ฝึกซ้อมในห้อง ในบ้าน พกไปซ้อมระหว่างเดินทางไปพักตามที่ต่างๆ แต่ไม่เหมาะกับการเปิดเพลงแทนเครื่องเสียง ซึ่งผมซื้อเข้ามาด้วยเหตุผลนี้ ก็ทำให้ผิดหวังกันไป เก็บนิ่งๆลืมไปเลยเป็นสิบปี สัญญาณจากช่อง headphone ก็ให้เสียงได้ดังฟังชัด สามารถต่อไปเข้าเครื่องขยายเสียงอื่นๆได้ ผมลองกับลำโพงอื่นๆที่รับเสียงทาง Aux ได้ เสียงจากช่อง headphone ส่งไปขยายเสียงที่ลำโพงอื่นๆ ก็ให้น้ำเสียงได้เหมือนกับลำโพงไฮไฟทั่วไป
ตัวถังเป็นไม้ของแอมป์กีต้าร์ตัวนี้เป็นของหายากในทุกวันนี้ ความคลาสิคตรงนี้ทำให้ผมที่เล่นกีต้าร์ไม่เป็นยังหลงใหลซื้อเก็บไว้ดู นานๆจะเอากีต้าร์ไฟฟ้ามาลองเล่นสักที กีต้าร์แบบเล่นคอร์ทง่ายๆในแบบที่ผมหัดเล่นก็เพลิดเพลินได้ ราคาค่าตัวเกือบสามพันบาท แม้จะซื้อแอมป์กีต้าร์ทั่วไปได้ตัวใหญ่กว่านี้ เสียงดังกว่านี้ แต่คงไม่สวยเท่าตัวนี้