สุดสัปดาห์เ้ป็นเวลาครอบครัวที่จะหากิจกรรมทำร่วมกัน การขับรถเดินทางไปเที่ยวสักที่หนึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้บ่อยๆ และเป็นการใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนานทั้งวัน ฟาร์มควายแห่งนี้อยู่ในความสนใจของแม่ลูกมาหลายสัปดาห์ สิ่งที่คาดหวังจากฟาร์มแห่งนี้คือประสบการณ์การปลูกต้นไม้ การทำพิซซ่า และการทำไอศครีม
มินิมูร่าห์ฟาร์ม เป็นฟาร์มควาย ข้อมูลของสถานที่เล่าประวัติไว้คร่าวๆ มีผลผลิตเป็นนมควาย มีการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ให้กับเด็กๆ เป็นความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตร อย่างการปลูกข้าว ปลูกต้นไม้ การทำอาหาร และมีสัตว์เลี้ยงให้เด็กดู
มินิมูร่า อยู่ที่ฉะเชิงเทรา เดินทางจากกรุงเทพประมาณ 1 ชม. ค้นหาใน gps หรือ google map ก็ไปได้ไม่ยาก เมื่อไปถึงแล้วก็พบว่า สถานที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีพื้นที่จอดรถกว้างขวาง และกิจกรรมที่รองรับนักท่องเที่ยวก็มีหลากหลาย
กรงเลี้ยงสัตว์เล็กๆน้อยๆ มีสัตว์อยู่ไม่มาก ให้ความเพลิดเพลินกับเด็กได้เป็นอย่างดี เหมือนเลี้ยงไว้รับแขก ให้พอดูเล่น ให้ป้อนอาหารได้บ้าง
แครอทสำหรับกระต่ายและกวาง
ให้นมด้วยเด็กๆตื่นเต้นมาก
มีส่วนที่เอาไว้เลี้ยงไส้เดือนด้วย เด็กๆกล้าจับ ผู้ใหญ่ไม่กล้า
ได้ปลูกต้นไม้ติดหน่อย กระถางระบายสี แล้วเอาต้นไม้กับดินมาลง มีเจ้าหน้าที่อธิบายเกี่ยวกับการเตรียมดิน ได้ความรู้เล็กๆน้อยๆ ได้ใช้เวลาระบายสีกระถางอยู่เกือบสามสิบนาที ถ้าคนไม่เยอะก็นั่งแช่ระบายไปเรื่อยๆก็ได้
เวิร์คช็อปอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือการทำพิซซ่า โดยมีแป้งให้ปั้นให้คลึงเล่น พร้อมกับเครื่องสำหรับแต่งหน้าพิซซ่า เมื่อปั้นและแต่งเสร็จแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาไปอบในเตาให้ เสร็จแล้วก็ใส่กล่องถือกลับบ้านได้เลย รสชาติออกมาก็อร่อยดี ทุกคนจะทำได้รสเดียวกันหมดเพราะวัตถุดิบถูกเตรียมมาเหมือนๆกัน
นี่เป็นกิจกรรมเดียวที่อยู่ในห้องแอร์ นั่นคือการหัดทำไอศครีม วัตถุดิบสี่อย่าง ผสมๆๆๆแล้วก็คนๆๆๆๆๆ ออกมากลายเป็นไอศครีม ดูแล้วก็ทำไม่ยาก
อีกกิจกรรมหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ก็คือการทำนา ที่นี่มีแปลงปลูกข้าวให้ลองทำด้วย มีเจ้าหน้าที่อธิบายขั้นตอนการปลูกข้าวทั้งหมด และมีอุปกรณ์ให้ลองปลูกจริงๆ เด็กทุกคนที่ลงมือปลูกจะต้องลงไปย่ำในนาจริงๆ ซึ่งเป็นนาที่มีน้ำอยู่เต็มแปลง
การปลูกต้นกล้าจะใช้วิธีปักต้นกล้าลงไปในแปลงนา เด็กทุกคนที่ร่วมกิจกรรมนี้จะเลอะเทอะกันแทบทั้งตัว
เลอะเทอะแต่ก็สนุก สิ่งที่เด็กเมืองไม่เคยทำ เด็กกรุงเทพเห่อกันไปหัดปลูกข้าว ได้ความรู้ ได้ความสนุก
ขอบฟ้าสนุกกับการเดินเล่นในแปลงนา ปักต้นกล้าจนเลอะไปทั้งตัว มีล้มลงไปคลุกกับน้ำจนตัวมอมแมม
และเมื่อได้ปลูกข้าวแล้ว สิ่งสุดท้ายที่เล่นในพื้นที่นี้ก็คือ การเล่นสไลเดอร์โคลน ใครเล่นก็มอม สไลด์ลงมาในน้ำ ทั้งตัวและหัวจะจมมิดไปเลย ดูอันตรายเหมือนกัน กลัวจะติดเชื้อในสมองเหมือนนักร้องคนนึงที่เคยเป็นข่าวขับรถตกคูน้ำ แล้วก็ไปนอนป่วยอยู่พักนึง แล้วก็ติดเชื้อในสมอง กลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่เป็นปีก่อนจะเสียชีวิต หวังว่าเด็กๆจะไม่เป็นไร
ขอจบด้วยประวัติของสถานที่แห่งนี้ครับ





























