ลูกค้าของโรงพิมพ์ท่านหนึ่ง สั่งผลิตกระดาษ A4 พิมพ์ข้อมูลสีดำด้านล่าง 1 หน้า เพื่อเอาไปใช้พิมพ์ใบเสร็จรับเงินให้กับสมาชิก งานที่โรงพิมพ์จะต้องส่งให้ลูกค้าท่านนี้ก็คือ กระดาษขนาด A4 พิมพ์ข้อความด้วยระบบการพิมพ์อีอพเซ็ทสีดำ ดังภาพ
โดยเมื่อลูกค้าใช้งาน จะนำกระดาษใบนี้เข้าไปใส่ในเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ซึ่งเป็นของ HP LaserJet Pro 400 Printer M401เมื่อทำการพิมพ์ออกมา กระดาษมีอาการย่นที่ทางออก และ บางครั้งก็ทำให้เครื่องติดขัด และมีอาการหมึกพิมพ์ไม่เกาะกระดาษ
ทางโรงพิมพ์ขอข้อมูลจากลูกค้ากลับมา ขอตัวอย่างกระดาษที่พิมพ์แล้วหมึกไม่เกาะ และตัวอย่างที่หมึกไม่ติดกลับมา ขอรายละเอียดยี่ห้อ รุ่นของเครื่องพิมพ์ และขอรายละเอียดของตลับหมึกกลับมาด้วย ซึ่งลูกค้าก็ให้ข้อมูลครบทุกอย่าง ให้ตัวจริงของตลับหมึกมาเลยดังนี้
ทางโรงพิมพ์จึงเก็บข้อมูล และไปถ่ายรูปที่ห่อกระดาษที่นำมาพิมพ์งานให้ลูกค้า ซึ่งเป็นกระดาษล็อตเดียวกันกับที่สั่งมาผลิตงาน เป็นกระดาษจาก SCG
ผมติดต่อดีลเลอร์ผู้ที่ขายกระดาษให้ ทางดีลเลอร์แจ้งว่าจะมารับตัวอย่างไปตรวจสอบและจะส่งให้ scg ตรวจสอบ ซึ่งยังไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ว่านานแค่ไหน ส่วนทางลูกค้า ไม่มีของใช้ เพราะธุรกิจของลูกค้าต้องทำทุกวัน ไม่สามารถรอตรวจสอบได้ ต้องมีกระดาษไปใช้ และลูกค้าให้ข้อมูลว่า กระดาษดับเบิ้ลเอที่ขายตามห้างนั้นได้ทดลองใช้แล้วผลคือทำงานได้ ไม่ติดขัด และตอนนี้ลูกค้าซื้อกระดาษจากห้างมาใช้ชั่วคราว สรุปคือกระดาษดับเบิ้ลเอทำงานได้ กระดาษ scg ทำงานไม่ได้
ผมทำการสั่งกระดาษดับเบิ้ลเอจากดีลเลอร์ซึ่งเป็นสเป็คที่ทำไว้ขายโรงพิมพ์ สเป็คนี้จะแตกต่างจากสเป็คกระดาษที่ขายในห้าง และสีของเนื้อกระดาษก็ต่างกัน กระดาษที่สั่งมาโรงพิมพ์นำมาตัดเพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้งาน เราต้องการกระดาษมาทดลองแค่ไม่เกิน 10 แผ่น A4 แต่ดีลเลอร์ไม่มีให้ ผมต้องสั่งซื้อยกรีม ซึ่งสามารถตัดเป็น A4 ได้ 4000 ใบ มาให้ลูกค้าทดลองใช้ 10 ใบ การทดลองเพื่อแก้ปัญหานี้โรงพิมพ์จ่ายเอง และหากลูกค้าใช้งานได้ดี โรงพิมพ์ก็ต้องซ่อมงานครั้งให้ให้ลูกค้าโดยการสั่งกระดาษยี่ห้อดับเบิ้ลเอมาใช้แทน SCG
สิ่งที่โรงพิมพ์พยายามทำคือดูแลลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าราบรื่น สิ่งที่ดีลเลอร์กระดาษและ SCG ทำคืออะไร ผมรอคำตอบและวิธีการของ SCGอยู่ครับ
บันทึกไว้วันที่ 10 สิงหาคม 2560
มาต่อกัน…
วันที่ 11 สิงหาคม 2560 ทางดีลเลอร์โทรมาพูดคุยและแจ้งว่า ทาง scg ขอนัดเข้ามาพบโรงพิมพ์เพื่อชี้แจงปัญหาต่างๆในวันอังคารที่ 15สิงหาคม2560
วันที่ 15สิงหาคม2560 ทางดีลเลอร์และตัวแทนของ scg ได้เข้ามาที่โรงพิมพ์ เพื่อพูดคุยชี้แจง เนื้อหาในการคุยเราคุยกันเรื่อง กระดาษสำหรับงานโรงพิมพ์ และ กระดาษสำหรับงานถ่ายเอกสารหรือกระดาษสำหรับเลเซอร์ปริ๊นเตอร์เป็นกระดาษคนละชนิดกัน และไม่แนะนำให้ใช้ผิดวัตถุประสงค์
สิ่งที่ได้รู้เพิ่มเติมก็คือ กระดาษสำหรับพิมพ์อ๊อพเซ็ท จะขายโรงพิมพ์เป็นกระดาษแผ่นใหญ่ มีความชื้นในกระดาษอยู่ในระดับสูงกว่ากระดาษถ่ายเอกสาร เพื่อให้กระดาษโรงพิมพ์สามารถรับหมึกรับน้ำในเครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทได้ดี เพื่อให้ผลการพิมพ์ออกมาสวยงาม ส่วนกระดาษสำหรับงานถ่ายเอกสารจะเป็นกระดาษที่มีความชื้นต่ำกว่ากระดาษโรงพิมพ์ ขายเป็นแผ่นตัดสำเร็จ A4 หรือ A3 ไม่ขายเป็นแผ่นใหญ่ให้โรงพิมพ์ ค่าความชื้นในกระดาษที่ต่ำทำมาเพื่อให้สามารถรับความร้อนในเครื่องถ่ายเอกสารหรือเลเซอร์ปริ๊นเตอร์ได้ ดังนั้นการเลือกใช้กระดาษต้องเลือกจากวิธีใช้งานเป็นหลักถึงจะได้ผลที่ดี ไม่เกิดความเสียหาย
หากลูกค้าต้องการกระดาษหัวจดหมายที่จะต้องพิมพ์จากโรงพิมพ์ในระบบอ๊อพเซ็ทเสียก่อน แล้วลูกค้าค่อยนำไปพิมพ์ต่อด้วยเครื่องเลเซอร์ปริ๊นเตอร์ จะยังไม่มีกระดาษที่รองรับสองหน้าที่นี้พร้อมกัน ที่ผ่านมาเป็นการใช้ผิดประเภทมาตลอด บังเอิญว่าไม่เกิดปัญหา ก็ถือว่ารอดไป และหากเกิดปัญหาก็เป็นเพราะใช้งานผิดวัตถุประสงค์ นี่คือสิ่งที่ scg พยายามสื่อสารกับผม
ความเห็นส่วนตัว
ผมรู้อยู่แล้วว่ากระดาษถ่ายเอกสาร และกระดาษใช้ในโรงพิมพ์เป็นคนละประเภทกัน และผู้ผลิตก็ตั้งใจให้แยกใช้งาน แต่ในภาคธุรกิจที่ต้องใช้กระดาษหัวจดหมาย เราต้องฝืนใช้ผิดวัตถุประสงค์ของโรงงานกระดาษมาตลอด แต่มันไม่ผิดวัตถุประสงค์ของภาคธุรกิจ และมันเป็นมาหลายสิบปี มันเป็นแบบนี้ก่อนที่จะมีกระดาษถ่ายเอกสารขายตามห้างเสียอีก สิ่งที่โรงงานกระดาษคิด ไม่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจสิ่งพิมพ์ หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีกระดาษที่ทำงานได้สองระบบในกระดาษใบเดียวกัน จริงๆแล้วแค่โรงงานกระดาษ นำกระดาษถ่ายเอกสารมาขายเป็นแผ่นใหญ่ให้โรงพิมพ์ ก็จบแล้ว เพราะตอนผลิตกระดาษ กระดาษมันเกิดขึ้นมาเป็นแผ่นใหญ่ก่อนจะถูกตัดให้เป็น A4 อยู่แล้ว
สรุป
ปัญหากระดาษพิมพ์ไม่ติด และติดขัดในเครื่องพิมพ์ ยังไม่ถูกแก้ไข และสาเหตุคือ ลูกค้าและโรงพิมพ์ใช้ของผิดประเภท







