ลองเล่นกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์ contax t3

IMG_20170515_171804_472

IMG_1474contax-t3 กล้องคอมแพ็คเกรดสูงในตลาดเท่าที่นึกออกจะมี leica cm leica minilux ricoh gr1 nikon 35ti และ contax t3 จริงๆอาจมีมากกว่านี้ที่มีคุณภาพสูง แต่ตัวที่ยกขึ้นมาเป็นตัวที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีมือสองให้พอซื้อได้ บางตัวก็แพง บางตัวก็ถูก บางตัวก็มีประวัติว่าอายุสั้นว่าสายแพขาด ซึ่งกล้องคอมแพ็คออโตโฟกัสคงมีปัญหาสายแพรขาดกันทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครเจอก่อน ใครเจอทีหลัง PICT0076 การมีกล้องคอมแพ็คไฮเอนด์สักรุ่นหนึ่งมาติดกระเป๋า เอามาใช้งานในวันที่ไม่เร่งรีบ ในวันที่อยากจะเสียเงินซื้อฟิล์ม เสียเวลาล้างฟิล์ม ทั้งล้างเองหรือหาร้านล้างให้ก็ตาม แถมยังต้องเสียเวลาสแกนฟิล์มเอามาดูเป็นไฟล์ดิจิทัลอีกต่างหาก มันเป็นช่วงเวลาการถ่ายรูปที่ได้รับความสุนทรีย์อย่างที่ดิจิทัลให้ไม่ได้ เสน่ห์มันอยู่ตรงไหนก็ไม่สามารถอธิบายได้ครบถ้วน รู้แค่ว่า อยากมีกล้องฟิล์ม อยากมีกล้องคุณภาพดี อยากพกมันติดตัว และอยากใช้มันถ่ายภาพแค่บางภาพเท่านั้น contax t3 suan - -7 กล้อง contax t3 เป็นกล้องที่ติดเลนส์ 35มม. f2.8 สามารถตั้งรูรับแสงเองได้ สามารถชดเชยแสงได้ มีความเร็วโฟกัสค่อนข้างเร็ว วัดแสงแม่นยำมาก อาจจะเป็นเพราะเราถ่ายมันด้วยฟิล์มขาวดำล้วนๆก็ได้ ภาพจะออกเข้มไปหน่อย อ่อนไปนิด เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเสีย อีกอย่าง เวลาล้างฟิล์มออกมาแล้วก็ต้องเอามาสแกนเพื่อดูบนจอคอมพิวเตอร์ การสแกนก็สามารถปรับความเข้มอ่อนได้เล็กน้อยทำให้เราไม่รู้เลยว่ากล้องถ่ายพลาดหรือไม่ contax t3 suan - -9 ภาพขาวดำที่ออกจากเลนส์ของ contax t3 เป็นภาพที่มีรายละเอียดสูงมาก มีการไล่ระดับตั้งแต่ส่วนมืดไปถึงส่วนสว่างที่กว้างมากและต่อเนื่อง จะบอกว่ามีคอนทราสต์สูงก็พอบอกเช่นนั้นได้ เทียบกับกล้องดิจิทัลที่ปรับโหมดขาวดำแล้วถ่ายออกมาเทียบกัน ภาพจากกล้องดิจิทัลก็ยังให้ระดับสีดำแบบนี้ไม่ได้ นอกเสียจากกล้องดิจิทัลตัวนั้นจะมีโหมดขาวดำพิเศษที่เร่งคอนทราสต์ให้แรงขึ้นก็อาจจะพอเทียบเคียงได้ contax t3 v2--12 ด้วยวิธีการใช้กล้องคอมแพ็คฟิล์มมาถ่ายภาพต่างๆ  เราจะต้องเอาตาเล็ง กล้องจะสัมผัสกับหน้าผาก ทำให้กล้องมีความมั่นคงมากเมื่อเทียบกับการยกกล้องดิจิทัลมาถ่ายแบบปัจจุบัน  ทำให้เราสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้พอสมควร  สภาพแสงในโรงพิมพ์เป็นตึกมิดชิด มีเพียงแสงจากไฟฟลูออเรสเซ้นต์ที่ติดในโรงงานเท่านั้น  เราก็ยังสามารถถ่ายให้ภาพไม่สั่นได้  แม้ความไวชัตเตอร์จะต่ำไปสักหน่อย ความไวฟิล์มก็ต่ำเพราะเร่ง iso ไม่ได้  แต่การจับถือก็ให้ความมั่นคงเพียงพอ ทำให้เรายังคงเก็บภาพในที่แสงน้อยได้   contax t3 v2--7 การโฟกัสก็ทำได้แม่นยำมาก  แม้จะไม่มีช่องที่มองผ่านเลนส์  แต่เราก็สามารถประมาณด้วยสายตาและเล็งโฟกัสไปยังวัตถุที่เราต้องการได้ง่ายดาย  กล้องล๊อคโฟกัสได้แทบจะทันที และเมื่อกดถ่าย  ภาพก็ถูกบันทึกอย่างคมชัดไว้ในฟิล์มแล้ว   contx t3 scan10dec2013 --3 ในสภาพแสงภายนอก contax t3 ให้ภาพสวยชวนฝันจริงๆ คนที่หลงไหลกับภาพขาวดำน่าจะชอบบุคลิกของกล้องตัวนี้  เพราะสีดำก็ดำสนิท สีโทนกลางๆก็ไล่ระดับต่อเนื่องน่ามอง ส่วนขาวก็ไม่ได้ขาวโพลน  ถ้ามีกล้องดิจิทัลที่สามารถให้ภาพแบบนี้ได้จากการถ่ายด้วยโหมดสำเร็จรูปของกล้องเชื่อว่าน่าจะทำให้กล้องตัวนั้นขายดีมาก   contx t3 scan10dec2013 --2 เลนส์ 35มม. เข้าใกล้วัตถุได้มากพอสมควร  แม้จะไม่ได้ใกล้แบบการถ่ายภาพมาโคร แต่ก็ใกล้จนเห็นรายละเอียด และยังคงให้โทนสีดำที่เข้มลึก  มีน้ำหนัก  พอล้างฟิล์มออกมาแล้วเพิ่งจะได้มานั่งดู  พอดูภาพเสร็จก็อยากจะเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปถ่ายรูปเล่นทันทีเลย Untitled การพกพากล้อง contax t3 ทำได้ไม่ยุ่งยาก ตัวกล้องมีซองหนังให้ใส่ดูดี เพื่อเก็บกล้องแล้วสามารถยัดใส่กระเป๋าเป้ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าอะไรก็ได้ยกเว้นกระเป๋าสตางค์ กล้องคอมแพ็คฟิล์มจะไม่ต้องพกแท่นชาร์จ เพราะถ่านในตัวสามารถถ่ายรูปได้เกินสิบม้วนฟิล์มอย่างแน่นอน ไม่ต้องมีแบตก้อนที่สองอีกต่างหาก เรียกได้ว่า พกกล้องติดกระเป๋าพร้อมฟิล์มกลักนึงเราอาจจะพกจนลืมไปเลยก็ได้ เพราะกว่าที่ผมจะถ่ายหมดม้วนก็ใช้เวลาหลายเดือน

หลังจากได้มีโอกาสใส่ฟิล์มสีไปถ่ายภาพ  ก็ขอเอามาวางให้ดูไว้เป็นข้อมูล

000041

ภาพ selfie ยกกล้องขึ้นเล็งแล้วกดถ่ายเลย  ไม่ได้คิดเรื่องชดเชยแสงแต่อย่างใด  ผมยืนอยู่นอกห้องน้ำที่ได้รับแสงจากหน้าต่าง  ส่วนห้องน้ำได้แสงสว่างจากไฟเพดาน สองสภาพแสงที่ความสว่างไม่เท่ากัน แต่ก็อยู่ในภาพเดียวกันดูกลมกลืนดี

000040

ภาพสองพี่น้อง ยกกล้องขึ้นโฟกัสที่หน้า แล้วจัดองค์ประกอบให้ได้ส่วนที่ต้องการ โหมด P ของกล้องวัดแสงแม่นยำให้ภาพที่สวยพอดี ไม่มืด ไม่สว่างเกินไป

000042

ภาพย้อนแสงค่อนข้างมาก ก็ยังพอได้ภาพที่ไม่น่าเกลียด แม้ดูแล้วจะรู้สึกว่ากล้องวัดแสงผิดพลาด แต่คงเป็นเพราะกล้องพยายามจะทำให้ฉากหลังไม่สว่างเกินไปด้วย  แสงที่หน้าคนเลยไม่มากเท่าที่ควร  แต่มันก็ยังไม่เป็นภาพเสีย

000070

ภาพนักฟุตบอลถือตระกร้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก  กล้อง T3 อยู่ในมือ รีบเปิดกล้อง แล้วเล็งถ่าย ยอมให้แฟลชขึ้น เพราะต้องการใช้เป็นกล้อง snap โฟกัสเร็วทันแล้ว

000048

ตอนกลางวันแสงดีๆ ถ่ายภาพเด็กในร้านอาหาร แสงหน้าต่าง แสงภายนอกอาหาร ทำให้ภาพแนวนี้ดูสวยได้ง่ายๆเลย

000064

สภาพแสงที่คาดเดายาก เราก็ปล่อยให้กล้องคิดแทนเรา ถ่ายแล้วลุ้นว่าจะถูกใจไหม แล้วก็ได้ภาพที่น่าพอใจเกินคาด

000035

ภาพเด็กกำลังซน ถ่ายในร้านฟาสฟู้ด แสงหน้าต่างเข้าทางด้านซ้าย  ปิดแฟลชถ่าย ระบบวัดแสงทำงานได้แม่นยำน่าพอใจทุกครั้ง

000043

ขอปิดท้ายด้วยภาพ self portrait และ contactsheet ที่ทำด้วยการปริ๊นท์ระบบดิจิทัล

Contax T3

วิธีล้างฟิล์มขาวดำและสแกนไว้ดูในคอมพิวเตอร์ ดูได้ที่นี่  ทดลองล้างฟิล์มขาวดำ

เริ่มต้นขายภาพ online ได้ที่นี่ครับ


ตื่นสาย

วันนี้เป็นวันที่ขอบฟ้าตื่นสายครับ ปกติจะตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า หรือ ไวกว่านั้น แต่วันนี้ เจ็ดโมงแล้ว ยังไม่ตื่นเลย เลยแอบถ่ายรูปไว้หน่อย

เครื่องพิมพ์ Heidelberg ระบบ letterpress

IMG_8061.JPG

2014-03-19-white-v1-DSC_0031

เครื่องพิมพ์รุ่นหนึ่งของ Heidelberg เป็นเครื่องพิมพ์ระบบ letterpress คนไทยเรียกว่าเครื่องพิมพ์ตีธง เพราะลักษณะมือจับกระดาษจะหนีบกระดาษแล้ววิ่งเข้าไปพิมพ์ตรงกลางเครื่อง แขนจับกระดาษเมื่อทำงานจะดูเหมือนธง ทำให้ถูกเรียกว่าเครื่องพิมพ์ตีธง

IMG_8059.JPG

เครื่องพิมพ์เครื่องนี้มีบทบาทกับการพิมพ์ในประเทศไทยในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นปีที่ผมได้เห็นเครื่องนี้ครั้งแรกในชีวิต เป็นเครื่องพิมพ์ที่พ่อเริ่มธุรกิจสิ่งพิมพ์ หรือประมาณสามสิบปีก่อน ช่วงที่ระบบการพิมพ์ยังไม่พัฒนามาก ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ แม่พิมพ์ต้องเป็นบล๊อกเหล็ก หรือเป็นตัวหนังสือทำจากตะกั่วตัวเล็กๆที่เราเรียกว่าตัวเรียงเอามาเรียงกันเป็นประโยค เครื่องพิมพ์เครื่องนี้จะมีงานพิมพ์ผูกขาดคืองานพิมพ์บิลใบเสร็จรับเงินต่างๆ นอกจากบล๊อกเหล็กและตัวเรียงตะกั่วแล้ว เครื่องพิมพ์ตีธงยังสามารถติดตั้งตัวรันนิ่งนัมเอร์ไว้ในบล๊อกพิมพ์ด้วย เพื่อให้การพิมพ์ในแต่ละหน้ามีตัวเลขที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดของใบเสร็จรับเงิน หากใครจะพิมพ์บิลต่างๆที่ต้องมีตัวเลขเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ต้องอาศัยการพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ตัวนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็น

IMG_8062.JPG

เมื่อการพิมพ์อ๊อพเซ็ทเริ่มได้รับความนิยม และราคาการผลิตแม่พิมพ์สำหรับเครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทเริ่มถูกลง ระบบอ๊อพเซ็ทก็กลืนกินระบบการพิมพ์ letterpress ไปเสียเกือบทั้งหมด นามบัตรที่เคยพิมพ์ง่ายๆด้วยตัวเรียงและเครื่องพิมพ์ตีธงก็เปลี่ยนมาเป็นทำเพลทแล้วพิมพ์ด้วยระบบอ๊อพเซ็ทแทน การ์ดแต่งงาน การ์ดเชิญต่างๆ จากที่เคยพิมพ์เป็นตัวหนังสือเรียบๆ ก็พัฒนาการจัดหน้าเป็นอาร์ตเวิร์คที่ทันสมัย ต้องพิมพ์ระบบ 4 สี และก็หมายความว่าต้องพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทเช่นกัน

IMG_8057.JPG

จากหลายๆเหตุผลทำให้ระบบการพิมพ์ letterpress ถูกมองข้ามละเลยไปจากตลาดส่วนใหญ่ ผู้คนแทบจะลืมคำว่า letterpress ไปเสียแล้ว โรงพิมพ์ต่างๆทะยอยนำตัวเรียงมาชั่งกิโลขาย เครื่องพิมพ์ตีธงถูกปล่อยให้ฝุ่นจับ บางแห่งโละช่างพิมพ์ตีธง  บางแห่งโละช่างเรียงตัวเรียง เครื่องพิมพ์ตีธงและตัวเรียงหายไปจากโรงพิมพ์ในยุคสิบปีที่ผ่านมา คนที่ยังมีเครื่องพิมพ์ตีธงอยู่ก็จะมีเก็บไว้ทำงานพิมพ์ตัวเลขบนใบเสร็จรับเงิน ซึ่งอาศัยเครื่องตีธงเพียงการพิมพ์ตัวเลขเท่านั้น เส้นสายแบบฟอร์มทั้งหน้ากระดาษยังพิมพ์ด้วยอ๊อพเซ็ทด้วยซ้ำ

letterpress-printing-IMG_0023Full

เมืองไทยเป็นเมืองที่เห่อเทคโนโลยี พอมีของใหม่มาก็หยุดใช้ของเก่าไปเสียดื้อๆ ระบบการพิมพ์ทันสมัยทำให้หนังสือและใบปลิวต่างๆทำได้ง่ายขึ้น ระบบการพิมพ์อ๊อพเซ็ทที่สวยขึ้นทุกวัน ระบบการพิมพ์ดิจิทัลที่ทำจำนวนน้อยได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ระบบ letterpress ค่อยๆห่างหายไปจากสายตา แต่ในทางกลับกัน เมืองฝรั่ง เมืองที่เป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี่การพิมพ์ต่างๆ ยังคงใช้งาน letterpress อยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเสียด้วย

19oct2013-DSCF8507-bw

ในภาคธุรกิจ กระดาษหัวจดหมาย และนามบัตรของฝรั่งมักจะถูกจัดพิมพ์ด้วยระบบ letterpress อาจจะเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในเมืองฝรั่งค่อนข้างสูงมาก การใช้เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่และไฮเทคคงมีต้นทุนที่สูง และบริษัททั้งหลายก็คงไม่ได้อยากได้สิ่งพิมพ์ปริมาณมาก เครื่องพิมพ์ letterpress เลยมีช่องทาง เพราะเครื่องพิมพ์ letterpress โบราณเหล่านี้แทบไม่มีราคาแล้ว ค่าใช้จ่ายในการสั่งพิมพ์ก็ไม่สูงมาก และที่สำคัญทำจำนวนน้อยชิ้นได้

thailetterpress-sample-IMG_0109

นอกจากสิ่งพิมพ์ในภาคธุรกิจแล้ว การพิมพ์การ์ดเชิญงานแต่งงานก็ได้รับความนิยมทำในระบบ letterpress ด้วย ด้วยลักษณะเฉพาะตัวของ letterpress ที่มีสีสันสดอิ่ม มีรอยกดจมไปพร้อมกับหมึกทำให้ดูมีเสน่ห์ ดูหรูหรา กลายเป็นทางเลือกที่คู่แต่งงานชอบ และเครื่องพิมพ์ letterpress ยังสามารถพิมพ์กกระดาษหนาพิเศษได้อีกด้วย โดยมันสามารถพิมพ์กระดาษหนาได้ถึง 1.6 มิลลิเมตร หรือกระดาษประมาณ 620g ขณะที่เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทรับกระดาษได้เพียง400g เท่านั้น และเครื่องพิมมพ์ดิจิทัลก็รับกระดาษได้หนาเพียง 300g และที่สำคัญ เครื่องพิมพ์อ๊อพเซ็ทและดิจิทัลทั้งหลายสร้างรอยกดทับแบบ letterpress ไม่ได้

IMG_0119

ในปัจจุบัน งานพิมพ์ letterpress กำลังจะกลายเป็นงานอาร์ตขั้นเทพ เป็นงานฝีมือที่แสดงตัวตนของคนเสพงานแนวนี้  โรงพิมพ์ที่พอจะทำงานแนวนี้ได้มีอยู่ไม่มาก  เพราะรายได้จากงาน letterpress ไม่ได้มากมายเหมือนงานพิมพ์อ๊อพเซ็ท  โรงพิมพ์ส่วนใหญ่ย่อมไม่อยากเสียเวลาและเสียทรัพยากรบุคคลไปกับงานอาร์ตหาลูกค้ายาก  คนที่พอทำได้ก็อาจจะทะยอยเลิกทำไป  สุดท้ายระบบการพิมพ์ letterpress อาจจะเป็นงานทำกันเองในบ้านใครสักคน มากกว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม

เพลินพัฒนา โรงเรียนทางเลือก ตอนที่ 1

IMG_1245.JPG

เพลินพัฒนา เป็นโรงเรียนแนวทางเลือกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในระดับหัวแถว ทั้งเรื่องแนวทางการสอน หลักสูตร และ ค่าเทอม ลูกผมเกิดเดือนกรกฎาคม 2555 ไปสมัครเรียนโรงเรียนนี้ตั้งแต่กลางปีพศ 2557 คือสองขวบนิดๆก็ไปสมัครแล้ว แล้วก็ได้โอกาสเรียนชั้น pre-nurse ซึ่งเป็นชั้นเรียนที่มีนักเรียนไม่มาก

ตอนไปสมัครก็เตรียมความพร้อมไปพอสมควร แม่ของขอบฟ้าหัดให้ขอบฟ้าหยิบของ หัดบอกสี หัดกระโดดมาแล้วหลายเดือน จริงๆก็ไม่ได้พยายามสอนเพื่อให้เข้าโรงเรียนแต่อย่างใด แต่เป็นการสอนไปตามพัฒนาการเด็กซึ่งมีตำราแนะนำไว้  ตำราจะบอกแต่ละช่วงวัยเด็กควรทำอะไรได้บ้าง และโรงเรียนเพลินพัฒนาก็ใช้วิธีวัดผลจากพัฒนาการของเด็ก  เด็กคนไหนผ่านเกณฑ์ถึงจะได้เข้าเรียน เรียกได้ว่า อ่านตำราเล่มเดียวกันนั่นเอง

ขอบฟ้าสอบผ่านการทดสอบในระดับสองขวบ มีพัฒนาการเลยวัยเดียวกันไปเกือบปี เป็นความภูมิใจของพ่อและแม่ที่เห่อลูก เอากลับมาโม้กันที่บ้าน โม้ให้ญาตฟัง จนแม่ขอบฟ้าต้องเตือนผมว่า “เด็กคนไหนก็พัฒนาการระดับนี้แหละ ต่างกันไม่มาก” ทำเอาผมเงิบไปเล็กน้อย พอได้สติก็เห่อต่อ

ตอนที่จะสมัครเรียน ทางโรงเรียนเพลินพัฒนามีการเปิดโรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนมาพูดบรรยายด้วยตัวเอง สิ่งที่ผมจับประเด็นสำคัญได้สองอย่างสำหรับผมคือ

ประเด็นที่ 1 โรงเรียนมีหลักสูตรพิสดารที่ผมไม่เคยรู้ว่ามี และคิดว่าโรงเรียนอื่นอาจไม่มี หรือถ้ามีก็คงเป็นโรงเรียนแนวประหลาดแบบเดียวกับเพลินพัฒนา แต่ที่แน่ๆ สมัยเด็กๆของชีวิตผมไม่เคยเจอหลักสูตรเหล่านี้ ซึ่งมันประกอบไปด้วย หลักสูตรว่ายน้ำนาน survival swimming เจตนาเขาตั้งใจให้ว่ายน้ำลอยตัวในน้ำได้นานๆ เพราะโรงเรียนมีสมมุติฐานว่า เด็กว่ายน้ำ 25 เมตร หรือ 50 เมตร ยังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เด็กรอดชีวิตถ้าหากเกิดเรือล่มจริงๆ แต่คนที่ลอยตัวได้นานต่างหากที่จะรอดชีวิต เหตุผลแบบนี้ผมฟังแล้วก็ไม่เถียงอะไร เห็นด้วยทุกอย่าง แต่สงสัยว่าจะสอนให้ว่ายนานแค่ไหน นานระดับหลายๆชั่วโมง หรือทั้งวันเลยหรือเปล่า รอดูกัน

หลักสูตรพิสดารอื่นๆก็มีอีกเช่น วิชาแล่นเรือข้ามเกาะ โรงเรียนให้เหตุผลว่าการแล่นเรือข้ามเกาะจะเป็นเครื่องมือทดสอบที่ดี เด็กได้รู้สึกกลัวจริงเมื่ออยู่กลางทะเล ขับเรือคนเดียว ลากเรือลงทะเลคนเดียว ผมว่ามันก็เท่ห์ดี แต่ในหัวก็จินตนาการถึง เรือที่เราต้องซื้อ รถที่ต้องลากเรือไปทะเล ผมต้องใช้ชีวิตเป็นคนรวยลากเรือไปทะเลในวันหยุดเหรอเนี่ย จะเอารถและเรือจากไหนกัน รอเวลานั้นมาถึงก่อนค่อยมาเล่าต่อเรื่องนี้

หลักสูตรพิสดารอีกอันก็คือ วิชาการเงิน ผู้อำนวยการบอกว่าจะมีวิชาที่ให้เด็กได้เล่นกับเงิน จะให้เด็กมีเงินตั้งต้นจำนวนหนึ่ง แล้วให้เด็กได้ขายของ ให้เด็กได้ซื้อของ ให้เด็กได้มีความอยากได้ อยากซื้อ แล้วก็บริหารเงินกัน ผมฟังแล้วก็อยากให้ลูกได้ประสบการณ์เรื่องการเงินอยู่เหมือนกัน เพราะชีวิตผมไม่ค่อยมีวินัยทางการเงินเท่าไหร่ ความเชื่อส่วนตัวของผมมีแค่ กิเลสดับได้ด้วยการซื้อ ก็เลยอยากให้ลูกได้ประสบการณ์และบทสรุปเกี่ยวกับการเงินที่ดีตั้งแต่เด็กๆ

ประเด็นที่ 2 ที่ผมจับใจความได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายโรงเรียนแพงมาก ขอให้ผู้ปกครองวางแผนทางการเงินให้ดี ใครไม่ไหวให้ถอนตัวตั้งแต่วันนี้ อย่าแย่งที่ครอบครัวคนอื่นที่มีความพร้อม เตือนกันแบบนี้เลยนะเนี่ย และที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายจะขึ้นทุกปี ปีละ 5 เปอร์เซ็น โรงเรียนชี้แจงว่าที่มาของการขึ้นราคาก็เพราะ เราต้องอยู่กับเงินเฟ้อ เงินเดือนครูต้องขึ้น ค่าใช้จ่ายต้องขึ้น โอเคเลย จำแม่นละ ผมคิดเร็วๆในใจ สูตรดอกเบี้ยทบต้น 5 %สมัยเรียนมหาลัยมันกดเครื่องคิดเลขยังไง กลับบ้านรีบกด เงินตั้งต้นแสนสอง อยู่สิบสองปี ต้องจ่ายปีสุดท้ายเท่าไหร่ พอเห็นตัวเลขแล้ว ปิดคอมฯ ออกไปหาลูกค้า ออกไปหางานเพิ่มเลย  เพราะแค่หยอดกระปุกไปจ่ายไม่ทันแน่นอน

รีวิว fisherman ที่พักเดินทางง่าย หาดเจ้าสำราญ

IMG_7697

สองปีหลังผมไปหัวหินบ่อยมาก การเดินทางไปหัวหินจะเป็นเรื่องยากกว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว เพราะเราไม่สามารถไปถึงที่พักในหัวหินได้เลยโดยไม่ผ่านการฝ่ารถติดหลายๆจุด หัวหินรถติดขนาดไหน ขนาดที่ว่า เส้นทางจากเขาตะเกียบกลับกรุงเทพ กว่าจะผ่านเพลินวานใช้เวลาครึ่งชั่วโมง นี่มันขับรถหรือเดินกันแน่ เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายครั้งหนึ่งที่ไปเที่ยวปราณบุรีแล้วขับรถผิดไปผ่านหัวหิน

IMG_7694

พอรู้ว่าจะได้ไปพักหาดเจ้าสำราญซึ่งอยู่แค่เพชรบุรี เลยเขาวังไปแค่เล็กน้อย ทำให้ความรู้สึกไม่ติดลบเท่าหัวหิน เพราะว่าเดินทางไม่ยากมาก แต่เราก็ยังคงต้องฝ่ารถติดในกรุงเทพเพื่อที่จะออกนอกเมืองอยู่ดี กรุงเทพรถติดมากขึ้นทุกวัน และวันเสาร์ที่เป็นวันไม่ทำงานของคนส่วนใหญ่ก็ดันเป็นวันรถติดพิเศษ โดยเฉพาะเส้นรอบเมือง เส้นทางที่คนอื่นจะใช้เดินทางออกนอกกรุงเทพ ทุกเส้นทางติดหมด

ผมเริ่มเดินทางจากถนนกาญจนาภิเษกใกล้ถนนนครอินทร์ รถติดตั้งแต่ปากซอย เพื่อนคนอื่นส่งข่าวมาว่า ใช้กาญจนาภิเษกไปถึงพระรามสองหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ และกว่าจะพ้นมหาชัยก็รวมเวลาไปสองชั่วโมงแล้ว ฟังแบบนี้แล้วต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางเลย เพื่อนอีกคันส่งข่าวมาว่าใช้เส้น เพชรเกษมไปพุทธสาคร แล้วไปออกพระรามสองทำเวลาได้ดี ก็เลยตัดสินใจตามเส้นทางที่สอง

จากจุดเริ่มต้น นับไปอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็ได้เข้าถนนพระรามสองใกล้ๆโรงพยาบาลมหาชัยซึ่งเป็นจุดที่พุทธสาครไปบรรจบกับพระรามสอง ซึ่งชั่วโมงกว่านี้เราไม่สามารถทำความเร็วได้เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลย แถมบางจุดยังต้องต่อแถวค่อยๆขยับเหมือนจะไปขอข้าวใครกิน เดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเทพเป็นนรกบนดินจริงๆ

IMG_7696

IMG_7704

ที่พัก fisherman เป็นรีสอร์ตหน้าตาดีของหาดเจ้าสำราญ ที่อื่นมีดีกว่านี้ไหมก็ไม่ได้สำรวจ แต่ที่สัมผัสกับfisherman มาหนึ่งคืนก็ให้คะแนนสี่ดาวแบบมึนๆ มันไม่ถึงห้าดาวตรงที่อาหารเช้าไม่ค่อยประทับใจ ในห้องนอนเหมือนมีตุ๊กแกซ่อนอยู่ เพราะเราได้ยินเสียงร้องดังมาก ทั้งๆที่เป็นห้องกระจก ถ้ามีใครตะโกนข้างนอกเราจะรู้ได้ทันทีว่าอยู่ด้านนอก เพราะพลังเสียงจะเบาๆไร้อิมแพ็ค แต่เสียงตุ๊กแกใน fisherman ห้อง 34 เป็นเสียงที่มีอิมแพ็ค มีแรงประทะ ราวกับว่าแหล่งกำเนิดเสียงอยู่ไม่ไกล เสียงวิ่งผ่านอากาศแล้ววิ่งเข้าหูเราโดยตรง ไม่ได้ถูกกรองด้วยกระจกหรือประตูบานใดเลย เป็นคืนที่ทรมานใจมากๆ

IMG_7693

ห้องพักสวยเรียบร้อย ห้องน้ำสะอาด บรรยากาศดี สิ่งที่เพิ่งสังเกตก็คือ รีสอร์ตแถมสบู่ ยาสระผม และ “ยาทากันยุง กย15” ไว้ด้วย สามารถหยิบได้ที่อ่างล้างหน้า ทีแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอไปกินอาหารเย็นข้างนอก ตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้วเราก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงแถม กย15 ให้นักท่องเที่ยว ยุงที่หาดเจ้าสำราญตัวเล็ก แต่กัดเจ็บและคันยาวนาน มันเป็นยุงจากดาวดวงไหนกันถึงได้ฝังพิษได้ข้ามวันข้ามคืน อาบน้ำ ทาครีมก็ไม่หายคัน โดนกัดวันเสาร์ วันจันทร์ยังเกาอยู่เลย

IMG_7713

สระว่ายน้ำที่นี่ออกแบบได้ดี มีสระลึกของผู้ใหญ่อยู่ติดกับสระเด็ก เด็กความสูง80cm สามารถยืนในสระเด็กได้น้ำสูงแค่ออก ดูแล้วไม่อันตราย เหมาะกับการให้เด็กสองขวบเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน หาดทรายของหาดเจ้าสำราญมีพื้นที่เหลือเฟือ แม้ทรายจะไม่ละเอียดเหมือนหัวหิน แต่ก็ดีกว่าที่เอวาซอนหลายเท่า แต่มีข้อเสียคือ แดดส่องแล้วร้อนมาก ไม่มีร่มเงาไม้ให้กับคนเล่นทรายเลย ต้องเล่นตอนเย็นเท่านั้นถึงจะพอทนเล่นได้ ถ้าอยากเล่นตอนสายๆก่อนเที่ยง ต้องหาร่มไปกันแดดด้วย ทางรีสอร์ตไม่มีเตียงชายหาด ไม่มีร่มกันแดด ไม่มีอะไรที่เอาไปใช้งานช่วยกันแดดได้เลย ช่างภาพอย่างเราก็เลยต้องเอาผ้าคลุมของภรรยามาผูกขาตั้งกล้องแล้วกันแดดให้ลูก ลูกอยากเล่นทรายเลยต้องทำแบบนี้ จะไม่ให้เล่นก็ไม่ได้ เพราะพาลูกมาทะเลคือตั้งใจพามาเล่นทรายนั่นเอง

IMG_7835

IMG_7742

ขอบฟ้าอายุสองขวบสิบเดือน ชอบเล่นทราย ชอบเล่นน้ำ ชอบเครื่องเล่นสนามเด็กเล่น ชอบสไลเดอร์ รีสอร์ตที่นี่ fisherman มีทุกอย่าง เป็นความสุขสุดยอดของเด็กจริงๆ แม้แต่เสียงตุ๊กแกที่แถมให้ตอนนอนก็ยังเป็นความสนุกสนานของเด็กเช่นกัน

IMG_7776

ปลั๊กไฟที่นี่มีให้ใช้ได้สองรูสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ รูอื่นๆที่อยู่ตามโต๊ะและตู้จะเสียบค้างไว้ครบแล้ว มีกาน้ำร้อน กาแฟฟรี อินเทอเน็ตมีให้ใช้ แต่ทีวีขัดใจนิดหน่อยตรงที่มันยังเป็นทีวีจอตู้ ไม่มีเครื่องเล่นดีวีดีหรือเครื่องเล่นอื่นๆใดๆให้ใช้เราก็เลยไม่ได้เปิดทีวีเลยแม้แต่วินาทีเดียว ถ้าอัพเกรดทีวีให้เป็นจอแบน มีช่อง usb ให้สามารถเล่นไฟล์หนังได้บ้างก็จะดีมาก เพราะพ่อแม่ก็เตรียมแผ่นการ์ตูนไว้เผื่อต้องใช้ เตรียมไฟล์ใส่ usb ไว้เผื่อต้องใช้ แต่ก็ไม่ได้ใช้เพราะไม่มีอุปกรณ์ในห้องที่สามารถใช้งานได้ อาจเป็นข้อดีที่ทำให้เราต้องใช้เวลาพูดคุยและเล่านิทานกับลูกก่อนนอน คงเป็นความฉลาดของเจ้าของรีสอร์ตแน่ๆเลย

IMG_7849

IMG_7790

โซฟากึ่งที่นอนตัวเล็กที่อยู่ข้างเตียงถูกนำมาใช้วางโน้ตบุ๊คและอุปกรณ์ยังชีพของพ่อบ้านอย่างผม ก๊อปปี้ไฟล์รูปที่ถ่ายมาทั้งวัน เปิดภาพดูเล่น เปิดเพลงฟัง ทุกอย่างทำกลางดึกตอนที่ลิงน้อยหมดฤทธิ์แล้ว และเราก็ค้นพบว่า เม้าส์ไร้สายของเราใช้งานบนโซฟานี้ไม่ได้ เพราะผิวโซฟามันไม่ถูกกับเม้าส์ของเรา มันคงมีรอยหยาบหรือเท๊กซ์เจอร์น้อยเกินไป เราเองก็นึกว่าถ่านหมดเลยเล่นเน็ตแบบไม่ใช้เม้าส์ แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ใช้เม้าส์กับโน้ตบุ๊คได้ตามปกติ เลยคิดว่าโซฟาคงมีลายผ้าละเอียดเกินไปเลยสะท้อนแสงเลเซอร์ของเม้าส์ไม่ค่อยดี

IMG_7800

เครื่องเล่นของเด็กมีอยู่หนึ่งมุมเล็กๆ พอสร้างความเพลิดเพลินให้เด็กได้หนึ่งชั่วโมง บางส่วนของเครื่องเล่นมีสนิมเกาะจนใช้งานไม่ได้แล้ว แต่ส่วนที่สัมผัสกับมือและเท้าโดยตรงยังไม่สร้างปัญหาอะไรมาก วิ่งเล่น ปีนป่าย ต้องมีผู้ปกครองคอยเฝ้าดูด้วย เพราะเด็กสองขวบปลายๆยังไม่เข้าใจว่าตกแล้วเจ็บเป็นยังไง ยังไม่เข้าใจคำว่ากลัวตกนั่นเอง

IMG_7831

ในวันที่ท้องฟ้าสดใส ไร้เมฆบัง แดดจัด ฟ้าเป็นสีฟ้า ถ่ายรูปออกมาได้สะใจช่างภาพอยู่เต็มๆ แต่ก็แลกมากับอากาศที่ร้อนอบอ้าว อาบน้ำเสร็จ เดินออกจากห้องพักเหงื่อก็เริ่มไหลแล้ว หน้าร้อนกับทะเลมันเป็นของคู่กันได้ยังไง มันต้องเป็นทะเลกับห้องแอร์สิถึงจะคู่กันได้

IMG_7762

IMG_7716

แก๊งค์พ่อแม่รวมตัวกันเที่ยว พาลูกมานอนโรงแรม เล่นน้ำ เล่นทราย กินของทะเล พ่อแม่และผองเพื่อนนั่งเม้าท์ ความสุขของครอบครัวยี่สิบสี่ชั่วโมงจบลงกับภาพหมู่ในช่วงท้ายโปรแกรม และภาพถ่ายของลูกเทวดาทั้งหลาย ลูกผมก็นั่งยิ้มอย่างมีความสุข

IMG_7909

IMG_7919 (2)

ถ้าจะต้องไปพักที่หาดเจ้าสำราญอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตแห่งไหนก็ตาม สิ่งที่ควรเตรียมไปคือ กย15 และ ไม้ตียุง
IMG_7994.JPG