creditability คืออะไร

เราผ่านการคุยกันเรื่อง visibility ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ทุกคนในกลุ่มสามารถรับรู้ได้ว่าเรามีตัวตน มีอาชีพนี้อยู่ในทีม ซึ่งเป็นปัจจัยแรกของการสร้างธุรกิจแบบ word of mouth หรือ referral marketing

และหลังจากที่เราทำให้ทุกคนรู้ว่าเรามีตัวตนแล้ว สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือ สร้างความน่าเชื่อถือ หรือ creditability นั่นเอง เพราะการมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มว่าเราทำอาชีพอะไร นั่นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เพื่อนๆ มั่นใจและแนะนำลูกค้าให้เรา

การที่ใครสักคนจะแนะนำธุรกิจให้กับเพื่อนของเขา คนแนะนำเขามักจะคิดอย่างรอบคอบ เพื่อให้การแนะนำของเขามีคุณค่าปัจจัยที่จะมีผลต่อการคัดเลือกว่าจะให้ใครจะมีดังนี้

1 คุณเก่งในสายงานคุณจริงไหม บางคนใช้คำว่า expert
2 คุณทำสิ่งที่คุณทำอยู่อย่างมีความหลงไหล หรือ มี passion หรือไม่ และความรู้สึกเหล่านี้หลุดออกมาสู่คนรอบข้างได้ชัดเจนไหม
3 คุณตอบสนองกับธุรกิจที่ได้รับอย่างมืออาชีพ และช่วยรักษาเครดิตของคนแนะนำนั้นอย่างดีไหม ถ้าให้ไปแล้วไม่ตามงาน ก็เสียชื่อ ดังนั้นการติดตามงานอย่างกระตือรือร้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างรวดเร็วและสำคัญที่สุด

4 เรามีความสัมพันธ์แบบสนิทรู้จักกันดีเพียงพอไหม?

เพราะหลายๆครั้งเราก็มักจะมีความรู้สึกในใจว่า เราไม่ค่อยรู้จักเขา เราเลยไม่กล้าแนะนำลูกค้าให้เขา

เราและเพื่อนในทีมต้องตอบคำถามสี่อย่างให้ได้ครบทุกข้อซึ่งกันและกันคือ เราเก่งไหม เรามี passion มากพอไหม เราเป็นมืออาชีพในธุรกิจไหม และ เราสนิทกับเพื่อนมากพอหรือยัง

สัปดาห์หน้าเราขอเริ่มทีคำถามสุดท้ายก่อน เราสนิทกับเพื่อนหรือยัง โดยเราจะมาหาวิธีวัดความสนิทต่อกัน ว่ามีมากหรือน้อย และเราจะเพิ่มความสนิทสนมที่ว่านี้ได้อย่างไร

ข้อมูลเรียบเรียงจาก http://businessnetworking.com/

รองเท้าแตะทั้ง 7

ผมรับงานสิ่งพิมพ์ตัวหนึ่ง เพื่อนเป็นโรงงานผลิตรองเท้าฟองน้ำ ส่งไปขายในพม่า เขาต้องการทำโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ว่ารองเท้าที่เขาขายอยู่มีการเพิ่มสีสันอีกหลายสี จากเดิมมี 3 สี กลายเป็น 7 สีแล้วในปัจจุบัน โปสเตอร์ตัวนี้จะบอกข้อมูลเป็นภาษาไทยและอังกฤษ และจะถูกติดอยู่ในประเทศพม่า

สิ่งที่ต้องทำก็คือออกแบบโปสเตอร์ขายรองเท้าแตะ และถ่ายรูปรองเท้าแตะให้ดูน่าสนใจ เริ่มจากการถ่ายภาพต้นแบบเสียก่อน แล้วเอารองเท้าหนึ่งข้างไปออกแบบ เพื่อนให้รองเท้ามาครบทุกสี ก็เลยหยิบมาวางถ่ายหลายๆอัน ดูไปดูมาก็เป็นแพทเทิลสวยดี
shoe-IMG_0087

shoe-IMG_0089

shoe-IMG_0095

shoe-IMG_0107

shoe-IMG_0110

สังเกตภาพว่าจะดูอมสีแดงนิดๆ พื้นขาวที่เป็นฉากหลังควรจะดูเป็นสีขาวไม่ปนสีอื่น แต่ดูแล้วยังไงก็ติดสีอื่นอยู่นิดๆ นั่นเป็นเพราะกระดาษหุ้มกล่องไฟที่ผมใช้อยู่มันเริ่มเก่า เริ่มเหลือง แสงที่ตกไปในกล่องก็เลยมีสีเจืออยู่ทำให้ส่วนที่ควรขาวกลับไม่ขาว ประกอบกับตั้งกล้องในส่วนของ white balance ให้เป็น Auto เอาไว้ ทำให้กล้องแก้สีให้มั่วไปหมดเลย

shoe-IMG_0115

shoe-IMG_0139

ตัดสินใจใช้วิธีตั้งค่า white balance เป็นแบบ Custom ซึ่งเป็นเทคนิคการแก้สีในภาพถ่ายให้ถูกต้องเที่ยงตรงที่สุด วิธีการก็คือให้ถ่ายฉากหลังในกล่องไฟให้เต็มภาพ ไม่มีสินค้าอยู่ในภาพ ให้เห็นแต่แบ็คกราวน์สีขาว แล้วหลังจากนั้นก็ไปตั้งที่กล้องว่าจะใช้ Custom Whitebalance กล้องจะให้เราเลือกว่าจะเอาภาพไหนเป็นภาพตั้งต้นเพื่อปรับแต่ง white balance ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ก็ให้เลือกภาพที่เป็นแบ็คกราวน์ล้วนๆไปเสีย กล้องจะประมวลผลแล้วแก้สีให้ภาพที่เราเลือกมีค่าสีขาวที่ไม่มีสีอื่นปน กล่าวคือให้สีขาวที่แม่นยำที่สุดแล้ว

shoe-IMG_0204

shoe-IMG_0203

shoe-IMG_0202

shoe-IMG_0201

shoe-IMG_0200

shoe-IMG_0199

shoe-IMG_0198

สุดท้ายออกมาเป็นแบบนี้

p-AW Maize Sandal Revised Ceated 14Nov14

ในตอนพิมพ์จริงก็เลยเอารองเท้าจริงมาวางเพื่อให้ช่างพิมพ์ปรับสีให้ใกล้เคียงของจริงไปซะเลย

P_20141115_133243

แผ่นยางรองพื้นรถช่วยได้เยอะ

ตอนได้รถมาใหม่จะต้องหาแผ่นยางรองพื้นรถมาวาง  ส่วนใหญ่เขาใช้แบบแผ่นลายกระดุม เพราะดูดีและเป็นแผ่นเรียบ  ทำให้รถดูเรียบร้อยและสะอาดตา  ผมเองตอนหาซื้อทีแรกก็อยากได้  แต่ในห้างไม่มีขาย ส่วนใหญ่เขาจะสั่งกันทางเว็บแล้วให้จัดส่งหรือขับรถไปติดที่ร้าน

แบบที่เจอตามห้างจะไม่เป็นแผ่นรอง  แต่มักจะมาเป็นถาด  มีขอบสูงขึ้นดูหน้าตาเป็นถาดมากกว่าแผ่น  มันไม่สวยเลย  แต่ผมก็ซื้อใช้เพราะว่าไม่สามารถหาของหน้าตาดีกว่านี้ได้แบบสะดวก  รถคันที่แล้วก็ใช้  รถคันนี้ฮอนด้าฟรีดก็ใช้แบบถาดเช่นกัน  แล้ววันดีคืนดีก็ได้ค้นพบว่า แผ่นยางแบบถาดมันก็มีข้อดีเหมือนกัน  และดีมากแบบที่แผ่นลายกระดุมไม่สามารถทดแทนได้เสียด้วย

P_20141106_090320

นั่นก็คือตอนที่ทำน้ำหก หรือ กาแฟหกใส่พื้นรถ  ถ้าเป็นแผ่นยางลายกระดุม น้ำกาแฟก็คงไหลกระจายไปทั่วแผ่นและคงซึมลงไปที่พรมพื้นรถไปแล้ว  แต่แบบถาดมันอุ้มน้ำกาแฟเอาไว้ เหมือนเป็นจานขนาดใหญ่ที่เก็บน้ำกาแฟไม่ให้ไหลไปไหน  เห็นภาพแบบนี้แล้วโล่งอกเลย  ถ้าไม่มีถาดแบบนี้ผมคงได้ล้างรถพร้อมซักพรมครั้งใหญ่ไปแล้ว

P_20141106_095542

สิ่งที่ต้องทำก็แค่ยกถาดออกไปเทน้ำกาแฟทิ้ง ฉีดน้ำล้างแผ่นยางแบบถาดผืนนี้เท่านั้นเอง รู้สึกโชคดีมากเลย

เปลี่ยนกรองแอร์ Honda freed

ตอนเข้าศูนย์บริการ ก็มีการแจ้งว่ากรองแอร์ของรถถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะว่าดำมาก ราคาค่าเปลี่ยนชิ้นละเกือบพันบาท ผมเองก็รู้สึกคุ้นๆว่าราคาน่าจะถูกกว่านี้ เพราะเคยเห็นมีคนประกาศขายกันอันละ 200 บาทเอง ก็เลยบอกเขาว่ายังไม่เปลี่ยน กะว่าไปหาเองข้างนอกก็ถูกกว่า

เลยมาถามใน Facebook ห้อง Thaifreed ว่ามีใครขายอยู่ไหมจะขอซื้อ มีพี่ใจดีที่เป็นสมาชิกแวะไปถามร้านแถวบ้านให้ ปรากฏว่าราคา 2 อัน 260 บาท ค่าส่งจากโคราชอีก 28 บาท รวมเป็น 288 บาท โอนเงินให้พี่เขา อีกสองวันก็ได้ของมา

ก็เลยถอดเปลี่ยนเองเลย ถามจากในเว็บก็พอรู้วิธีเปลี่ยน ถอดไม่ยาก ลิ้นชักหน้ารถ แกะออกมา แล้วก็จะเจอ หยิบอันเก่าออกมาตกใจมาก ดำชนิดที่ว่าเห็นแล้วต้องเรียบเปลี่ยนออกเลย

DSC_1625.JPG

DSC_1623.JPG

ของเก่าคือทางซ้าย ของใหม่คือทางขวา แม้ว่าลอนกระดาษกรองจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ใส่แทนกันได้ พอเปลี่ยนแล้วก็ตั้งนัดหมายไว้ในมือถือว่าอีก 6 เดือนให้เปลี่ยนอีกครั้ง เพราะสั่งซื้อไว้สองอัน……… นี่คือเรื่องราวเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว

ผ่านมา 6 เดือน ถึงเวลาที่ระบบเตือนในมือถือเตือนให้เปลี่ยนกรองแอร์อีกครั้ง ครั้งนี้ก็เลยไปหยิบตัวที่สองที่เคยซื้อไว้มาเปลี่ยน ก่อนเปลี่ยนก็ถ่ายรูปเทียบกับตัวที่ดึงออกมาจากรถเอาไว้

P_20141108_140010

P_20141108_140021

P_20141108_140028

P_20141108_140051

ภาพซ้ายคือตัวที่เปลี่ยนเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ภาพขวา คือตัวใหม่ ถ่ายให้เห็นหลายๆมุม กรองแอร์จะดักฝุ่นต่างๆที่วิ่งมากับระบบปรับอากาศ ถ้าไม่มีกรองแอร์ฝุ่นพวกนี้ก็อยู่ในรถ อย่าลืมเปลี่ยนทุกหกเดือนนะครับ

GPS แท้กับ smartphone ใช้แบบไหนดี

เปรียบเทียบ GPS แท้ๆ กับ สมาร์ทโฟนที่ลงโปรแกรม GPS

IMG_0365

ในแง่ของการใช้งาน มันสามารถนำทางได้ไม่ต่างกัน อาจมีหลุดเส้นทางบ้าง อ้อมบ้าง แต่ก็ทำงานได้จนจบคือพาไปถึงที่ แรกๆตอนที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนดีๆให้ใช้ ก็รู้สึกว่า GPS แท้ๆมันน่าจะดีกว่า เพราะสมาร์ทโฟนยังช้า และ ต้องคอยหยิบเข้าออกเสียเวลา ตอนนำทางถ้าสายเข้าก็จะตัดไปทำงานโทรศัพท์จนไม่สามารถนำทางได้ หลายครั้งที่ต้องตัดสินใจเลี้ยวในเมืองที่มีแยกจำนวนมากแต่ดันตัดการทำงานจนเสียอารมณ์อย่างยิ่ง

20120425_070046

ในวันที่สมาร์ทโฟนทำงานได้เร็วขึ้น การทำงานของสมาร์ทโฟนและแผนที่ GPS ก็ทำงานได้ราบลื่น ช่วงที่ใช้งานทั้งสองอย่างเปรียบเทียบกันก็เผลอเทใจให้สมาร์ทโฟนตรงที่ว่าสามารถเลือกซอร์ฟแวร์มาใส่ได้ตามใจ ถูกใจค่ายไหนก็ไปหามาลงได้ แถมยังมี google maps ให้ใช้อีก แผนที่อัพเดทอัตโนมัติ ช่วงนี้จะรู้สึกว่า GPS แท้ๆจะแพ้ทางอย่างราบคาบ เพราะแผนที่ไม่อัพเดท และการทำงานแบบ online น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

20120508_070206

ผ่านมาเป็นปี สมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปที่ตอนซื้อราคาแพงกว่า iphone เริ่มทำงานช้าลง เวลา os ในมือถือมันอัพเดท โปรแกรมต่างๆในเครื่องก็ต้องอัพเดทตามกัน ขนาดโปรแกรมก็ใหญ่ขึ้น กินพลังของเครื่องมากขึ้น และมันก็มาถึงวันที่สมาร์ทโฟนตัวท๊อปทำงานได้ช้าลง ช้าในระดับที่ว่า สายเข้าแล้ว เสียงเรียกดังไปสองทีแล้วเบอร์โทรยังไม่ขึ้นชื่อเลย อาการหนักมาก เหมือนกับว่าเครื่องมันประมวลผลอะไรอยู่และเราไม่สามารถสั่งการเพิ่มเติมได้ เรื่องหงุดหงิดเริ่มมีให้เห็นบ่อย ยังไม่รวมอาการแบตเสื่อมที่จะต้องซื้อเปลี่ยนอีกปีละก้อน ก้อนนึงก็เกือบพัน ไปๆมาๆ สมาร์ทโฟนก็ทำงานช้าจนไม่อยากใช้ จะเอามันมานำทางก็ไม่ได้แล้ว เปิดโปรแกรมไม่ขึ้น google map ที่เคยถูกใจก็เปิดไม่ขึ้นเสียแล้ว สุดท้ายมันก็ทำงานเป็น GPS ไม่ได้ และในที่สุดมันก็หมดอายุเปิดไม่ติด

20120514_184558

พอวันที่สมาร์ทโฟนตายสนิท ผมก็ได้รู้คำตอบแล้วว่า GPS ที่น่าใช้งานที่สุดในรถยนต์ก็คือ GPS แท้ๆ ติดในรถ เพราะมันไม่เคยช้าลง ไม่เคยตก และยังมีสภาพที่ดี และมันก็ไม่รวน ไม่แฮ้งค์ แม้จะต้องเอาไปอัพเดทแผนที่บ้างเป็นบางปี แต่ระยะเวลาประมาณสี่ปีที่ใช้งานก็ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ คงเหลือให้ลุ้นแค่เพียงว่ามันจะดับสนิทหมดอายุเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าน่าจะอีกนาน เพราะตอนนี้มันก็ยังทำงานได้เหมือนของใหม่แกะกล่องเลย ส่วนสมาร์ทโฟนตัวท๊อปของผมก็ตกรุ่นไปสามครั้งแล้ว และตอนนี้ก็ตายสนิทกลายเป็นที่ทับกระดาษเรียบร้อย

IMG_2645.JPG