รีวิวโน้ตบุ๊ค acer w511 iconia

รีวิวโน้ตบุ๊ค acer w511 iconia

Untitled

ยาขมของโน้ตบุ๊คที่ทุกคนคุ้นเคยก็คือ มันเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่แบตหมดเร็วมาก โน้ตบุ๊คตัวแรกที่ผมซื้อด้วยเงินตัวเองตัวละสี่หมื่น แบตเตอรี่มีระยะเวลาทำงานได้ประมาณสองชั่วโมง แต่ใช้งานจริงก็จะได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง ไม่สามารถจะหยิบขึ้นมาใช้โดยไม่เสียบปลั๊ได้เลย เพราะไม่มั่นใจว่าจะทำงานได้ต่อเนื่อง เรียกได้ว่าถ้าวันไหนลืมอแด๊ปเตอร์ไว้ที่บ้านก็จะแทบไม่ต้องใช้โน้ตบุ๊คทำงานนอกบ้านเลย นั่นมันเป็นเรื่องเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้วในยุคที่วินโดส์ XP เพิ่งเกิดไม่นาน นั่นคือช่วงปีประมาณ คศ 2001

Untitled

ผ่านมาอีกทศวรรษ ทุกอย่างพัฒนา เราเริ่มเห็นโน้ตบุ๊คที่ทำงานได้สี่ชั่วโมง บางรุ่นทำงานได้หกชั่วโมง โน้ตบุ๊คที่ผมซื้อในปีคศ 2011 คือ macbook air ที่พัฒนาออกมาเป็นตัวเล็กหน้าจอ 11 นิ้ว ฮาร์ดดิสก์ภายในเป็นโซลิทสเตท เป็นพัฒนาการขั้นสูงสุดของโน้ตบุ๊คที่มีรากฐานมาจากโบราณ ความเร็วของซีพียูรุ่นใหม่ หน้าจอเล็ก ทุกอย่างประหยัดพลังงานกว่าเดิม ทำให้การใช้งานโน้ตบุ๊คอย่าง macbook air สามารถใช้งานนอกบ้านได้อย่างสบายใจ ชั่วโมงทำงานสูงระดับประมาณ 5 ชั่วโมงสบายๆ หยิบมาคุยกับลูกค้า ไม่กลัวเลยว่าถ้าคุยกันนานๆแล้วโน้ตบุ๊คจะดับ ผมใช้งาน macbook air อยู่สองปีกว่า ด้วยเหตุผลเรื่องแบตอยู่ได้นาน จนกระทั่งแวะไปเดินเล่นที่ห้างแล้วเจอ iconia w511 ตัวนี้

IMG_3232.JPG

iconia w511 เป็นโน้ตบุ๊คกลายพันธุ์ เป็นลูกผสมระหว่างแท็บเบล็ตและโน้ตบุ๊ค มันคือ แท็บเบล็ตที่สามารถประกอบร่างกับคีย์บอร์ดแล้วกลายเป็นโน้ตบุ๊คได้ แล้วมันน่าสนใจตรงไหนกัน มันน่าสนใจตรงสเป็คต่างๆที่ประกอบกันทั้งหมด เริ่มจาก ระบบปฏิบัติการเป็นวินโดส์ 8 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ใช้งานได้สองรูปแบบ คือใช้งานแบบเครื่องตั้งโต๊ะโดยการใช้งานเม้าส์และคีย์บอร์ดเป็นหลัก และแบบที่สองคือใช้นิ้วลาก สัมผัสเพื่อสั่งงานซึ่งเป็นรูปแบบของแท็บเบล็ต ฮาร์ดดิสก์เป็นโซลิทสเตททำให้มีความเร็วสูงและประหยัดไฟ แบตเตอรี่ในตัวขนาดใหญ่ทำให้มันสามารถใช้งานได้ 9 ชั่วโมง แถมยังมีแบตเตอรี่ในคีย์บอร์ดที่ใช้งานได้อีก 9 ชั่วโมง ทำให้เมื่อประกอบร่างกันแล้วมันคือโน้ตบุ๊คที่ทำงานได้ 18 ชั่วโมง สายอแด๊ปเตอร์ไม่ต้องพกออกนอกบ้านอีกแล้ว ในบางช่วงเวลาผมใช้งานโน้ตบุ๊คตัวนี้ เปิดๆปิดๆ ใช้งานวันละเล็กละน้อย มันอยู่ได้สองสัปดาห์ไม่ต้องเสียบปลั๊กเลย เวลาเอาไปดูหนัง ผมเปิดดูได้สามเรื่อง เรื่องละประมาณสองชั่วโมง จบสามเรื่องยังไม่ต้องชาร์จเลย แถมแบตยังเหลือให้ทำงานอีกนาน

IMG_3233.JPG

ที่ตัวเครื่องยังมีพอร์ตเชื่อมต่ออีกหลายพอร์ต มี wifi มี nfc มี bluetooth มีช่องใส่หน่วยความจำแบบ micro sd มีช่อง micro usb สำหรับต่ออุุปกรณ์ usb ซึ่งเราต้องหาสาย usb otg มาต่อกับมันก่อนถึงจะเอาอุปกรณ์ usb มาเสียบได้ โดยสายนี้ก็ได้แถมมา มีช่องต่อสายจอภาพแบบ micro hdmi มีสายแปลง micro hdmi to vga แถมมาให้ มีกล้องด้านหน้าและด้านหลัง สามารถถ่ายรูปตอนบรรยายในขณะที่เราเปิดโน้ตบุ๊คทำงานด้วย ถ้าเป็นโน้ตบุ๊คทั่วไปที่มีแต่กล้องหน้าซึ่งเอาไว้ chat เราก็จะถ่ายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าลำบากมาก และที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ตัดสินใจซื้อเจ้า w511 ก็คือ มีช่องใส่ซิมการ์ด 3g ที่สามารถใส่ซิมได้ทุกค่าย ทุกเครือข่าย ทำให้มันกลายเป็นโน้ตบุ๊คที่เล่นเน็ตได้ในทุกที่ไม่ง้อ wifi

การใช้งานโปรแกรมต่างๆก็ทำได้ไม่ต่างไปจากเครื่องตั้งโต๊ะ โปรแกรมพื้นฐาน โปรแกรมกราฟิค สามารถงได้ทั้งหมด แต่พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ที่มีอยู่จำกัด 64g ทำให้ลงอะไรไม่ค่อยได้มากนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะเราไม่ได้คิดจะลงทุกโปรแกรมบนเครื่องพกพาอยู่แล้ว การใช้โน้ตบุ๊คของ acer ที่แถมระบบปฏิบัติการมาด้วยจะมีข้อดีอีกอย่างคือ มี hidden partition หรือ พื้นที่ฮาร์ดดิสก์บางส่วนที่ถูกซ่อนไว้เพื่อเป็นแบ็คอัพในการ restore ในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ซอร์ฟแวร์รวน หรือ os พัง หรือ ติดไวรัส เราสามารถสั่ง restore ให้เป็นเครื่องเหมือนออกจากร้านใหม่ๆได้เลย มันช่วยแก้ปัญหาการติดไวรัสได้อย่างเด็ดขาด เป็นข้อดีที่ผมได้ใช้งานแล้วด้วยเช่นกัน

ข้อดีมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มีข้อเสียอยู่สองอย่าง ถ้าไม่ใช้จริงจะไม่มีทางรู้เลย ข้อแรกคือ คีย์บอร์ดที่ประกอบร่างกันนั้นเป็นคีย์บอร์ดที่มีคุณภาพต่ำ น้ำหนักกดปุ่มมไม่ค่อยเด้ง บางปุ่มกดแล้วติดสองตัวบ่อยๆ บางปุ่มกดไม่ติด ต้องกดแรงกว่าปุ่มข้างเคียง อาการปุ่มไม่ค่อยคงที่แบบนี้ทำให้การพิมพ์ตัวหนังสือเร็วๆเป็นเรื่องที่ลำบาก หรือแทบจะทำไม่ได้เลย เพราะบางทีพิมพ์แล้วตัวไม่ขึ้น หรือบางทีพิมพ์แล้วขึ้นสองตัว ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญมาก ข้อเสียที่สองก็คือ ตัวซีพียูเป็นชนิดประหยัดไฟ มีความเร็วไม่สูงนักมันจะมีบางจังหวะที่เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่แล้วไม่สามารถสั่งการได้ คือมีอาการอึ้ง เงียบเป็นพักๆ บางครั้งเป็นตอนที่กำลังพิมพ์ข้อมูลอยู่ ทำให้เราไม่เห็นว่าตัวหนังสืออะไรถูกพิมพ์ลงไปบ้าง อาการอึ้งเงียบแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากหลังจากที่อัพเกรดวินโดส์เป็นรุ่น 8.1 ซึ่งตอนที่ได้เครื่องมาใหม่ๆ os ติดเครื่องเป็น windows 8 เท่านั้น ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอึ้งและนิ่งเลย เสียดายไม่น่าอัพเลย สงสัยต้องหาเวลาว่าง restore กลับไปอีกสักครั้ง

ข้อเสียที่เพิ่งนึกออกอีกข้อก็คือ โปรแกรมเล่นอินเทอเน็ตที่ติดมาเป็น IE ซึ่งพออัพเกรดเป็น 8.1แล้ว IE ในเครื่องไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้เลย ต้องไปหาตัวอื่นมาใช้ ผมเลือกใช้ Firefox แทน ก็ทำงานได้ดี ไม่เข้าใจว่า IE ทำไมถึงเพี้ยนไม่ยอมให้พิมพ์ภาษาไทย

สรุปข้อดีอีกครั้ง

ผมยังคงใช้งาน w511 อยู่ก็เพราะแบตเตอรี่อยู่นาน แม้จะรำคาญคีย์บอร์ด แต่ก็ถือว่าหลีกเลี่ยงการพิมพ์งานยาวๆบนเครื่องนี้ก็ได้ บทความนี้ที่จริงก็พิมพ์บนเครื่องนี้เช่นกัน คือทำงานได้ แค่รำคาญในบางครั้งเท่านั้นเอง

ผมยังคงใช้งาน w511 อยู่ก็เพราะมันถอดแยกจอได้ ประกอบร่างได้ มันทำให้การพกพาเป็นเรื่องง่ายขึ้น สามารถเลือกจะพกเบาๆได้ สามารถประกอบร่างเพื่อใช้คีย์บอร์ดได้ มันอเนกประสงค์ดี

ผมยังคงใช้งาน w511 อยู่ก็เพราะมันเป็น windows 8 ที่หน้าตาต่างๆดูสวยดี แม้จะมีคนติว่ามันไม่ดี ไม่เสถียร แต่ผมรับได้

ข้อเสียทีน่ากังวลก็คือ อแด๊ปเตอร์ชาร์จไฟใช้พอร์ตประหลาด ไม่เคยเห็นของเทียบหรือยี่ห้อแบกะดินวางขายเลย ถ้าสายขาด หรือ อแด๊ปเตอร์หายต้องติดต่อศูนย์ acer เท่านั้น ผมเคยทำสายหายไปครั้งนึง ไปลืมไว้ที่งานสัมมนา อีกสัปดาห์ต่อมาถึงจะได้คืน โชคดีที่พนักงานเก็บไว้ให้

nikon v1 ตก พัง เศร้า

บ้ายบาย nikon v1

DSC_2602

nikon v1 เป็นกล้องดิจิท้ลที่มีพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่สุดที่ nikon ผลิตออกมาหลังจากที่ทำกล้องฟิล์ม nikon f5 เป็นตำนานในยุคก่อนปีคศ 2000 ซึ่งเป็นกล้องตัวแรกที่วัดแสงเป็นภาพสี มีความถูกต้องมากยิ่งกว่ากล้องฟิล์มตัวอื่นๆ ในส่วนของ V1 มีเหตุผลหลายอย่างที่ยอดเยี่ยมจนต้องยกตำแหน่งให้ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโฟกัสที่เร็วมาก มันมากับการโฟกัสใบหน้าที่ให้ภาพชัดตั้งแต่นิ้วยังไม่กดปุ่มเพื่อเริ่มโฟกัส ความเร็วระดับนี้เป็นสิ่งที่กล้องระบบ liveview ของ nikon ไม่เคยทำได้มาก่อน พอออกมาก็ทำได้เร็วเหลือเชื่อ อาจมียี่ห้ออื่นบางรุ่นที่โฟกัสได้เร็วกว่าแต่ถ้าเทียบในระดับราคาเดียวกันมันไม่มีคู่แข่งเลย และการติดตามใบหน้าของ nikon1 แทบจะไร้ข้อผิดพลาด

nikon1 v1 มีช่องมองภาพระบบอิเล็คทรอนิสก์ที่ให้ความละเอียดมามากเป็นพิเศษ การมองช่องมองภาพให้ความรู้สึกราบลื่น ไม่สะดุด ไม่รู้สึกถึงการกระพริบ ในวันที่มันเปิดตัวออกมา มันก็ให้ภาพในช่องมองภาพที่สวยที่สุดแล้ว และที่สำคัญกว่านั้น ภาพที่ช่องมอง กับภาพในจอคอมฯ ก็มีสีใกล้เคียงกันมาก

nikon1 ทำอแด๊ปเตอร์แปลงเลนส์เก่าๆของ nikon มาใส่กับ nikon1 ได้อย่างครอบจักรวาล เลนส์เก่าๆของค่าย nikon ที่วางนิ่งรอให้ฝ้าขึ้น รอให้รากิน ถูกขุดขึ้นมาลองใช้และให้ภาพได้อย่างน่าปลาบปลื้ม การเปิดตัว nikon1 ทำให้นักถ่ายภาพรุ่นโบราณหลายคนมีของให้เล่นเพิ่มขึ้นอีกชิ้น แม้จะมีฟังค์ชั่นไฮเทคมากมาย แต่ขนาดตัวกล้องก็ไม่ได้ใหญ่โตเกินไป

DSC_2886.JPG

ประสบการณ์การใช้งานกล้อง nikon1 v1 เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ เพราะกล้องถูกออกแบบให้มีความรู้สึกเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่าการถ่ายภาพคือมีช่องมองภาพให้ใช้งานในขณะที่มันเป็นเครื่องมือที่ยัดความไฮเทคเอาไว้มากมาย คนที่จะใช้กล้อง nikon1 v1 ได้อย่างมีความสุขจะเป็นคนที่อยู่คนละซีกสุดขั้ว ขั้วแรกคือกลุ่มไดโนเสาร์ที่เคยใช้กล้องถ่ายรูประบบฟิล์มมาก่อน กับ กลุ่มมือใหม่ไร้การเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพใดๆ กับมือเก่าแค่เอากล้องแนบตา แล้วปล่อยให้ระบบวัดแสงทำงาน องค์ประกอบภาพที่คุ้นเคยก็ถูดจัดวางราวกับว่ามันเป็นกล้องฟิล์ม จบด้วยการกดปุ่มลั่นชัตเตอร์ที่มีความเร็วสูงถึง 1/16000 วินาที ซึ่งเป็นความเร็วระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่กล้องระดับโฮมยูสจะเคยมีมา ซึ่งในวงการกล้องต้องรอเวลาถึงสามปี กว่าจะมีตัวที่ทำความเร็วชัตเตอร์ได้สูงกว่า nikon1 v1 ส่วนสำหรับมือใหม่ก็แค่ยกมาถ่าย ยังไงก็ได้หน้าคนชัด

ผมเป็นคนที่วางของระวังมาก การวางกระเป๋ากล้อง กระเป๋าโน้ตบุ๊ค ก็เลือกวางพื้น ไม่วางบนโต๊ะ เพราะไม่ต้องการให้ของตก ป้องกันความเสียหาย วางฮาร์ดดิสก์ก็วางพื้น เพราะไม่อยากให้ฮาร์ดดิสก์ตก อะไรที่ไม่ต้องการให้ตกจะวางพื้นเสมอ การใช้กล้องก็คล้องสายสะพายกล้องตลอดเวลา ทั้งเวลาถ่าย และดูภาพ กล้องทุกตัวไม่เคยตกเลย แต่ nikon v1 ตัวนี้ ดันโดนทำตก ตอนผมหยิบของจะวางบนรถ ในที่จอดรถมืดๆ ผมหยิบกล้องจะวางบนเบาะ มือดันไปชนบางส่วนของตัวรถแล้วกล้องหลุดมือ แค่นี้เอง ถึงพังเลย ครั้งแรกก็พังเลย น่าเศร้ามากๆ

DSC_2991

กล้องตัวนี้ผมได้มาในช่วงที่มันตกรุ่น ตามไปซื้อมือสองมาจากเจ้าของเก่า พอมันตกพัง จะไปหาซื้อก็ไม่มีคนประกาศขายแล้ว พอเจอประกาศขายก็เจอกับราคาที่แพงกว่าตัวที่ผมได้มา ตอนที่เพิ่งตกไปสองสามวันแรกรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก พอผ่านมาเกือบเดือนก็เริ่มทำใจได้ รอหาของมือสองต่อไป ราคาคงจะค่อยๆขยับลงมาแทน สิ่งที่เสียดายที่สุดก็คือ พอผมเริ่มจะจับทางได้ว่า v1 ใช้คู่กับเลนส์ตัวไหนแล้วให้ภาพสวยถูกใจ พอค้นพบก็ทำพังไปเสียแล้ว

Untitled

ภาพจากกล้อง v1 คู่กับเลนส์ nikon 50f1.8 mf เป็นคู่ที่ให้ภาพได้สวยจนผมตกใจ ระยะเลนส์เมื่ออยู่บนกล้อง v1 จะกลายเป็น 135mm f1.8 มันไวแสง มันเป็นภาพเทเลที่ระยะยืนสำหรับถ่ายครึ่งตัวไม่ห่างเกินไป ภาพจากคู่หููคู่นี้ดีกว่ากล้อง eos 6d กับเลนส์ 70-200 f2.8L ที่ผมใช้ประจำเสียอีก แม้ว่าระบบโฟกัสจะต้องปรับเอง เล็งเองว่าชัดเพราะไม่มีตัวช่วยคอนเฟิร์มโฟกัส แต่มันก็ไม่ได้ยาก และเมื่อโฟกัสให้ชัดแล้ว ภาพมีมิติลอยเด่นถูกใจยิ่งกว่ากล้องชุดใหญ่ มันเป็นชุดเล็กขนาดย่อมเยาที่ให้ภาพดีมาก ดีจนต้องเสียดายไม่เลิกราที่ทำกล้องตกจนพัง

DSC_2901.JPG