เราต้องแยกให้ออกระหว่างคำว่า สมรรถนะ กับ ความรู้สึกนะครับ
ผมได้รถฟรีดมาใช้ตอนปี 2553 เดือนเมษายน นับเป็นผู้ใช้รุ่นโง่บุกเบิก (ขอเหน็บฮอนด้านิดนึง) ตอนนี้ก็ผ่อนมาได้ครึ่งทางแล้วครับ เหตุที่เลือกก็เพราะตั้งใจเอามาใช้กับคนในครอบครัว
ฟรีด เป็นรถมหาสนุกครับ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้วิ่งชนะวิออส หรือแคมรี่ มันออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับความบันเทิงของคนในครอบครัว ลองคิดดูนะครับว่า มีรถคันไหนนั่งได้เกินห้าคนแล้วไม่อึดอัดบ้าง
การมีรถที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับพ่อแม่และคนแก่หลายๆคนเป็นเรื่องที่อิ่มในความรู้สึก มันวัดด้วยเงินไม่ได้ เอารถสปอร์ตสองที่นั่งมารับแม่ไปกินข้าว แม่ผมบอกว่า นั่งไม่สบาย เข้าออกลำบากมาก ดังนั้นเรื่องตัวเงินตัดไป คนอายุเยอะเขาผ่านโลกมาเยอะ ของแพงเขาก็พอรับรู้ แต่ของน่าใช้มันวัดได้ที่รอยยิ้ม
ถ้ามีเรื่องต้องเข้าออกโรงพยาบาล ผมยืนยันเลยว่าฟรีดเหมาะสม ตำแหน่งที่นั่งที่สูงของฟรีด มันเหมาะกับคนป่วยที่ไม่ต้องออกแรงพยุงตัวเองมาก ถ้าใครเคยปวดหลังจะรู้ว่าการเข้าออกรถเก๋งมันใช้แรงที่หลังเยอะ พ่อผมป่วยเข้าออกโรงพยาบาลอยู่พักใหญ่ การมีรถแบบฟรีดทำให้ความรู้สึกในการเดินทางไปโรงพยาบาล มันเป็นกิจกรรมหนึ่งๆที่ไม่น่ากลัว ไม่น่าเบื่อ ลองจินตนาการว่าถ้าต้องไปโรงพยาบาลด้วยแท็กซี่ กับรถเก๋ง มันไม่ต่างกัน มันจะรู้สึกว่าไปโดนเชือด ไปให้หมอด่า แต่ถ้าไปด้วยฟรีด มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย มันคล้ายๆกับการไปหาข้าวนอกบ้านกิน บรรยากาศมันจะไม่เครียด พอความเครียดน้อย มันจะช่วยให้มีความสุขเพิ่มขึ้นจากภาวะการป่วยได้ ตอนพ่อผมเริ่มป่วยหนักและต้องใช้คนอุ้มเข้าออกจากรถ ประตูไฟฟ้าของฟรีดก็ช่วยให้การเข้าออกไม่ลำบากมาก ตอนนี้พ่อผมเสียไปแล้ว ผมมั่นใจอย่างมากว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ซื้อฟรีด เพราะตอนที่เลือกรถคราวนั้น ผมลังเลระหว่างฟอร์ดโฟกัส TDCI ที่แรงและประหยัด ส่วนฟรีดเลือกเพราะพ่อเลยและมันได้รับใช้พ่อผมเกือบสองปี
เทียบกับรถกระบะยกสูงยอดฮิตทั้งหลาย ช่วงน้ำท่วมผมได้มีโอกาสใช้วิโก้สี่ประตูยกสูง ความรู้สึกมันก็เหมือนฟอร์จูนเนอร์ไม่ผิดเลย มันใหญ่ นิ่ง เอิกเกริก จอดยากเหมือนกัน พละกำลังเหลือเฟือมาก ผมขับวิโก้ไปซื้อปูน 20 ถุงมาทำกำแพงกั้นน้ำ มันเป็นสิ่งที่ฟรีดทำไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานประจำวัน ผมว่ามันใหญ่ไป แม่ผมต้องปืนขึ้นรถ แค่นี้้ก็ไม่ค่อยดีแล้ว พี่สาวพาพ่อกับแม่หนีน้ำท่วมไปต่างจังหวัด พ่อผมทรมานมาก เพราะไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้พี่สาวสลับรถเอาฟรีดไปแทน แต่พี่สาวกับแม่ก็ไม่อยากเสี่ยง เพราะไม่รู้จะไปเจอน้ำที่ไหน ตอนขนของส่วนตัวและเสื้อผ้าด้วยวิโก้สี่ประตู ด้านหลังเป็นกระบะเปลือย มันขนได้น้อยกว่าฟรีด เพราะของที่ไม่ต้องการให้โดนฝนหรือโดนน้ำต้องยัดในห้องโดยสาร กระเป๋าเสื้อผ้าของพ่อแม่ และของใช้คนป่วยยัดแทบไม่พอ พ่อนั่งหน้า แม่ผมต้องนั่งตัวลีบๆแถวสองไปกับกองของใช้ทั้งหลาย นาทีนั้นผมรู้สึกอยากได้ไมโครบัสมาใช้แทนจริงๆเลย
พี่สาวผมอีกคนซื้อแคมรี่ 2.0 มาใช้เมื่อสามเดือนก่อน แล้วก็ขับมาแลกกับผมเลยตอนออกจากโชว์รูม ผมเลยได้ใช้แคมรี่ป้ายแดงตั้งแต่หลักกิโลที่ห้าสิบ ขับมาสามเดือน ใช้ไปแล้วแปดพันกิโล เหตุที่เขาเอามาแลกก็คือ เขาอยากลองขับฟรีดดูบ้าง จะยืมผมขับเปล่าๆเป็นเดือนก็เกรงใจ
สามเดือนที่ผมขับแคมรี่ก็ค้นพบหลายๆอย่าง ข้อดีของแคมรี่ก็คือ นุ่ม นิ่ม นิ่ง แรงดี ขับไปต่างจังหวัดสบายมาก ผมสามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้เร็วกว่าฟรีดอย่างชัดเจน มันยอดเยี่ยมครับถ้านั่งคนเดียวหรือสองคน แต่…….แต่พอนั่งห้าคน สามคนด้านหลังแคมรี่มีอาการเมื่อยอย่างมาก ฟังจากคำบอกเล่าของแม่ยาย แม่ยายนั่งรถผมไปเที่ยวพัทยา ไปพักหนึ่งคืน กลับมาบ้านนอนตัวงอเลย เพราะนั่งแถวหลังไปและนั่งเบียดไปสามคน ผมกับแฟนนั่งหน้า เนื่องจากผมขับและแฟนกำลังท้อง เลยไม่ได้ให้คนแก่นั่งหน้า เหตุการณ์คล้ายๆกัน ผมกับแม่ กับพี่สาว และน้อง และแฟน นั่งฟรีดไปพัทยา ไปกินข้าวไกลๆ ไปกลับแล้วคนนั่งทุกคนสบายดี คนที่เมื่อยคือผมเอง เพราะขับฟรีดด้วยความเร็วร้อยกว่า มันต้องใช้สมาธิมากกว่าแคมรี่ แต่จบทริปแล้วก็สบายๆ ทุกคนมีความสุขกับการเดินทาง แม่บอกว่า นั่งฟรีดเหมือนนั่งห้องรับแขก มันสบาย โปร่ง
อัตราสิ้นเปลืองของฟรีดผมเคยเข้าใจว่าประหยัด แต่พอได้ลองแคมรี่แล้วผมกลับพบว่าแคมรี่ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่า โดยเฉพาะการขับในเมือง ผมวัดด้วยระยะทางแปดพันกิโล จดค่าน้ำมันทุกถังที่เติม ฟรีดที่ผมขับทำได้อัตราเฉลี่ย 9-10กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนแคมรี่ทำได้ 10-11 ทางไกล ตอนผมไปเที่ยวพิษณุโลก สุโขทัย ทริปนั้นทั้งทริปผมจำตัวเลขไม่ได้แต่คุ้นๆว่าประมาณ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนแคมรี่ ผมขับลงใต้ไปเที่ยวชุมพร ไปกลับทั้งทริปทำได้ประมาณ 12-13 กิโลเมตรต่อลิตร
ประตูของแคมรี่มันไหลครับ ปกติประตูรถยนต์จะมีระยะการเปิดได้หลายระดับ เปิดนิดเดียวตอนเจอที่แคบ เปิดระยะกลางๆเพื่อให้ขึ้นลงได้สบาย เปิดสุดๆเลยเน้นกว้างเอาไว้เผื่อขนของเข้ารถ คราวนี้ ประตูฟรีดมันก็มีระยะแบบนี้เหมือนกัน แคมรี่ก็มี แต่ของฟรีดมันจะหยุดค้างที่สเต๊ปต่างๆได้เลย ไม่ไหลต่อ
แต่ของแคมรี่มันจะมีระยะให้เรารู้ว่ามันมีสเต๊ป แต่มันไม่หยุดค้างให้ พอเราเปิดแคบๆเพื่อระวังรถที่จอดข้างๆ ปล่อยมือจากประตูเมื่อไหร่ มันจะค่อยๆไหลออกไป แล้วก็ไปกระแทกค้นข้างๆ ผมเจอเหตุการณ์นี้บ่อยๆ ส่วนฟรีดเปิดนิดเดียวมันก็ค้างแบบนิดๆให้ แต่ถ้าเจอที่แคบมากๆ ก็ลงทางประตูสไลด์ไปเลย ผมก็ว่านี่แหละรถสำหรับเมืองหลวงอย่างแท้จริง
ตอนนี้แฟนผมท้องแก่แล้ว ก็เตรียมความพร้อมเรื่อง car seat เอาไว้ ไม่มีรถเก๋งคันไหนที่ติด car seat 1 จุดที่แถวสอง แล้วยังนั่งได้อีก 5 คน รวมคนขับ มีแค่ฟรีดนี่แหละ จริงๆต้องบอกว่ามีแต่ MPV ที่ทำได้ ซึ่งในตลาดก็มียี่ห้ออื่นๆใกล้เคียงให้เลือก แต่ ฟรีด เป็น MPV ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด และหน้าตาดีที่สุด และมีประตูสไลด์
ผมไม่แปลกใจที่แคมรี่ขายดี เพราะใครได้ลองขับย่อมถูกใจทุกคน ระหว่าง วิออส อัลติส แคมรี่ ให้เลือกหยิบฟรี ทุกคนย่อมหยิบแคมรี่แน่นอน แล้วถ้าเลือกระหว่าง แคมรี่กับฟรีดล่ะ ผมก็จะยกมือบอกว่า ผมเลือกฟรีด ตอนนี้ผมแลกกลับแล้ว เพราะว่าฟรีดเป็นรถที่เอาใจคนนั่ง ไม่ได้เอาใจคนขับ ผมมีความสุขเมื่อคนที่นั่งรถไปกับผมมีความสุข เหตุผลมันเรียบง่ายแค่นี้จริงๆ















