แอมป์หลอดเสียงดี antique sound lab se84

พูดถึงเครื่องเสียงมักจะต้องมีเรื่องของแอมป์หลอดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักเล่นเครื่องเสียงที่มีใจฝักใฝ่ในระดับที่เข้มข้น เครื่องขยายเสียงแบบหลอดเป็นเทคโนโลยีการขยายเสียงที่เก่าแก่ที่สุดของโลกเรา มันถูกคิดค้นมาเมื่อต้นศตวรรษที่ยี่สิบและถูกใช้งานข้ามศตวรรษมาสู่ศตวรรษที่ 21

เครื่องเสียงแบบหลอดสูญญากาศได้รับความนิยมอยู่เป็นพักๆ บางช่วงเวลาก็รุ่งโรจน์สุดกู่ บางช่วงเวลาก็ซบเซา ซึ่งเป็นจังหวะที่นักออกแบบหันไปสนใจเทคโนโลยีใหม่อย่างโซลิทสเตทหรือทรานซิสเตอร์ แต่ในที่สุดก็หมุนเวียนมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แม้ว่าเทคโนโลยีทางวิศวกรรมจะเจริญไปเพียงใดก็ตาม แต่หากว่าทฤษฎีการขยายเสียงยังคงใช้พื้นฐานแบบเดียวกับหลอดสูญญากาศ เครื่องเสียงหลอดก็ยังคงโดดเด่นและเป็นที่สุดของการฟังเพลงได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เครื่องเสียงหลอด หรือ แอมป์หลอด มีตั้งแต่ราคาถูกระดับไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงระดับเป็นล้านบาท และมันสร้างได้ง่ายมากจนได้รับความนิยมจากนักอิเล็กทรอนิกส์สมัครเล่นที่ต้องเคยทดลองสร้างกันอย่างน้อย 1 เครื่องหรือ 1 วงจร เสน่ห์ของมันก็คือ คุณภาพเสียงที่ได้ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปตามกำลังเงินที่จ่ายไป แอมป์หลอดหลักพันให้เสียงดีกว่าแอมป์หลอดหลักแสนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แอมป์หลอดหลักหมื่นจะดีกว่าหลักล้านก็เป็นไปได้ เพราะคุณภาพไม่ได้แปรผันตามระดับราคา มันจึงเป็นเสน่ห์ของนักเล่นเครื่องเสียง เพราะทุกคนต่างก็มีโอกาสสัมผัสคุณภาพเสียงที่ดีมากในระดับราคาที่จ่ายไหว มันไม่เหมือนรถยนต์ เครื่องดนตรี กล้องถ่ายรูปที่ยิ่งแพงก็ยิ่งดี

แอมป์หลอดที่ผมมีอยู่ตัวนี้คือแอมป์หลอดยี่ห้อ antique sound lab รุ่น se84 เป็นแอมป์หลอดทำงานในระบบซิงเกิ้ลเอนด์ กำลังขับ 3.5 วัตต์ต่อข้าง ระบบซิงเกิ้ลเอนด์คือระบบการขยายเสียงที่ใกล้เคียงอุดมคติมากที่สุด สัญญาณไฟฟ้าตลอดลูกคลื่นถูกขยายด้วยวงจรเพียงวงจรเดียว (แต่ไม่ใช่ซิงเกิ้ลเอนด์ซิงเกิ้ลสเตทนะครับ)

แอมป์หลอดตัวนี้ถูกขายครั้งแรกในประเทศไทยประมาณปี พ.ศ.2540 ซึ่งในครั้งนั้นขายกันเพียงเครื่องละ 3250 บาท ผมซื้อแอมป์ตัวนี้ในงานแสดงเครื่องเสียงที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ จำไม่ได้ว่าซื้อกับผู้แทนจำหน่ายชื่ออะไร รู้แต่ว่าแอมป์หลอดตัวนี้ขายดีมาก เพราะว่าราคาถูกมากนั่นเอง เงินสามพันกว่าบาทในยุคนั้นทำอะไรไม่ค่อยได้มากนัก เครื่องเสียงทั่วไปคุณภาพดีๆต้องจ่ายกันหมื่นกว่าบาท มินิคอมโปที่ขายตามห้างจายกันหมื่นกว่าบาท โทรทัศน์สีระดับหนึ่งหมื่นบาทจะได้เพียง 21 นิ้ว คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คยุคนั้นต้องจ่ายประมาณ 7 หมื่น คอมพิวเตอร์ประกอบเองต้องใช้เงินประมาณสามหมื่น

แอมป์หลอดตัวนี้ต่อแหล่งโปรแกรมได้แค่ 1 ชุด ขั้วต่อเป็นอาร์ซีเอชุบทอง ขั้วต่อสายลำโพงเป็นบานาน่าปลั๊กชุบทอง สวิตช์เปิดปิดเป็นแบบโยก ด้านหน้าเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงแค่ปุ่มเดียว ขั้วต่อสายไฟเอซีเป็นแบบถอดได้ แอมป์หลอดตัวนี้ถูกออกแบบให้เป็นเพาเวอร์แอมป์ แต่ว่ามีการใส่วอลลุ่มเข้าไปเพื่อให้สามารถปรับระดับเสียงได้ มันจึงสามารถใช้งานกับเครื่องเล่นซีดีหรือแหล่งโปรแกรมต่างๆได้โดยตรงโดยไม่ต้องต่อผ่านปรีแอมป์

หลอดขยายเสียงมี 3 หลอด หลอดเล็กตรงกลางเป็นภาครับใช้หลอด 12AX7 ทำหน้าที่รับสัญญาณจากวอลลุ่มขยายสัญญาณเบื้องต้นในแบบคลาสเอแล้วส่งสัญญาณไฟฟ้าไปเข้าหลอดใหญ่ หลอดใหญ่ทำหน้าที่ขยายเสียงให้มีกำลังสูงขึ้น หลอดใหญ่นี้คือหลอด el84 ถูกออกแบบการใช้งานในโหมดซิงเกิ้ลเอนด์คลาสเอ ก้อนสีดำสามก้อนคือหม้อแปลง ก้อนทางซ้ายคือหม้อแปลงจ่ายไฟให้กับวงจรทั้งหมด หม้อแปลงส่วนกลางและขวาเป็นหม้อแปลงปรับอิมพีแดนซ์

เครื่องเสียงกำลัง 3.5 วัตต์จะฟังเพลงเพราะได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่คนที่รู้เรื่องทางไฟฟ้าก็คงจะไม่เข้าใจนัก สรุปได้สั้นๆเพียงว่าการฟังเพลงปกติในบ้าน กำลังเสียงเพียง 1 วัตต์ก็ค่อนข้างจะเสียงดังฟังชัดแล้ว การใช้เครื่องเสียงวัตต์ต่ำต้องใช้คู่กับลำโพงความไวสูง การเลือกลำโพงให้เหมาะสมกับแอมป์หลอดตัวนี้ก็เช่นเดียวกัน จะต้องเลือกลำโพงที่มีความไวสูงกว่าปกติ ลำโพงที่เหมาะกับมันควรจะมีความไวระดับ 90dB ขึ้นไป

ผมใช้งานแอมป์หลอดตัวนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 บางช่วงเวลาก็ใช้ต่อกับเครื่องเล่นซีดี บางช่วงเวลาก็ต่อกับคอมพิวเตอร์ บางช่วงเวลาก็ต่อกับ ipod คุณภาพเสียงของแอมป์หลอดคลาสเอเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ต้องได้ลองสัมผัสเองถึงจะเข้าใจ ทุกวันนี้ในเงินหลักพันบาทผมยังไม่พบว่ามีเครื่องเสียงตัวไหนเสียงดีกว่านี้ คุณงามความดีอาจไม่ได้เกิดจากแอมป์หลอดเพียงตัวเดียว แต่มันเกิดจากการเลือกใช้งานลำโพงด้วย ซึ่งลำโพงที่ผมเลือกใช้มันเหมาะเจาะและลงตัวกับแอมป์ตัวนี้พอดี เคยลองเปลี่ยนลำโพงอื่นๆเข้าไปบ้างเช่นกัน ลำโพงบางตัวทำให้แอมป์กลายเป็นของกระจอกไปเลยก็มี ดังนั้น ใครที่เล่นแอมป์หลอด ขอให้เลือกลำโพงให้เหมาะสม ถ้าเสียงยังไม่ดี ไม่ถูกใจ ควรได้ลองเปลี่ยนลำโพงดูก่อน นอกจากนี้ แอมป์หลอดยังเปิดโอกาสให้นักเล่นได้ทดลองเปลี่ยนหลอดด้วยเพื่อเปลี่ยนบุคลิกเสียง ซึ่งมันเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งที่ละลายเงินในกระเป๋าตลอดเวลาถ้าไม่หยุดค้นหา จบห้วนๆดีกว่า

งานไอเดียจากญี่ปุ่น

งานไอเดียจากญี่ปุ่น

จากร้าน อิโนบุน